Supreme

                               

บทที่ 2 …

3... Quandium

Star Palace  ห้อง 1001

            ที่ห้องพัก  ภายในห้องฝึกฝีมือ  ร่างใหญ่นั่งนิ่งสงบ  ภายในร่างกระแสพลังไหลวนเวียนไปมารวดเร็วขึ้นเรื่อยๆ  แรกๆคล้ายกระแสน้ำไหล  นานเข้าคล้ายเป็นกระแสไฟฟ้า  แล้วมาเปลี่ยนเป็นประจุเล็กละเอียด  ความเร็วถ้ามองเห็นด้วยตาจะเป็นเส้นสายเรียงรายคล้ายเส้นแสง  ยิ่งผ่านการควบคุมให้เป็นระเบียบในเส้นทางเท่าไหร่  ความรุนแรงก็ยิ่งมีมากขึ้นเรื่อยๆอย่างไม่มีขีดจำกัด

            ที่จริง ไฟธาตุสีน้ำเงินจะทำให้ยันต์มีเพียงโครงสร้างร่างกายที่เปลี่ยนแปลงเหนือกว่ามนุษย์อื่นเท่านั้น  เรื่องพลังก็ไม่มากเกินไปกว่าพวกที่กลายพันธุ์เท่าใด  เช่นอาจจะมากกว่าสัก 3 หรือ 4 เท่า  แต่ธาตุ Quandium ที่ขนติดตัวมาถึง 50 กิโลกรัม เป็นตัวแปรที่เข้ามาผสมโรง  เขาจึงได้พลังที่ถูกย่อยสลายมาอย่างไม่ตั้งใจ 

แค่ 1 กรัมที่ขายไปสามารถนำไปแตกตัวเป็นพลังงานใช้ได้ในยานบินมากกว่า 1,000 ลำนานถึง 1 ปี แล้วในตัวมีพลังที่สลายออกมาถึง 50 กิโลกรัม  จึงเป็นเรื่องที่เขาต้องฝึกบ่อยครั้งขึ้นเพื่อควบคุมและสร้างความคุ้นเคยกับกระแสพลังในรูปของลมปราณ   เนื่องจากพลังที่มีแฝงอยู่ในร่างตามอวัยวะต่างๆจะถูกดึงออกมาปรับแนวทางให้อยู่ร่วมกันมากขึ้นเรื่อยๆ

            พลังมหาศาลขนาดนี้  ถ้าร่างมนุษย์ธรรมดาจะไม่มีทางรับได้  คงสลายไปเมื่อถูกพลังงานแทรกในไม่กี่วินาที  แต่ร่างที่ถูกปรับและถูกธาตุหลายๆอย่างเข้าผสมผสาน  มีความยืดหยุ่นปรับตัวรับเอาไว้ได้  สร้างมนุษย์มหัศจรรย์ขึ้นมา   ยังมีคุณสมบัติอีกมากที่ยันต์ยังไม่รู้และไม่ได้ดึงออกมาใช้  นอกจากมันจะแสดงตัวเองให้จับทางได้จึงจะนำมาใช้ประโยชน์อย่างที่ไม่คิดไม่ฝัน

            ใช้เวลาในการควบคุมพลังไปนาน 2 ชม.  เจ้าของห้องลืมตาขึ้น  นึกเรื่องที่ไปรับยานมาเมื่อวานและมีเดทครั้งแรก เสียงถอนหายใจดังขึ้นเมื่อคิดว่าได้แต่น้องสาวไม่ยักได้แฟน  เนื่องจาก Na มีคุณสมบัติความกระตือรือร้นในเรื่องที่ยิ่งใหญ่ไม่ถึงขั้นที่เขากำหนด  เพื่อจะเป็นผู้ร่วมในการจะสร้างเผ่าพันธุ์ใหม่ เธอมีความคิดธรรมดา  ไม่กล้าเสี่ยงที่จะเปิดเส้นทางใหม่ ผู้ที่ยันต์ต้องการคือหญิงสาวที่มีความฉลาดและมีจินตนาการ   กล้าทำกล้าคิดในสิ่งที่เชื่อว่าทำได้ 

            เขาลุกขึ้นและเดินออกมา  สั่งการไปยัง GAC ผ่านคอมที่ข้อมือ

            “หาข้อมูล Quandium หน่อยซิ GAC”

            “ได้ครับ Boss”

            ไม่ถึงนาที  ข้อมูลต่างๆของ Quandium ก็ถูก AI สาธยายให้เจ้านายฟังอย่างละเอียด  ตั้งแต่ลักษณะ  ที่อยู่  คุณสมบัติ  ประโยชน์  การประยุกต์ใช้  ข้อมูลทั้งหมดมาจากการหาในแหล่งต่างๆ  เช่นพวกนักธรณีวิทยา  นักวิทยาศาสตร์  บริษัท  หน่วยงาน  องค์กรต่างๆ   พวกเหล่านี้จะมีข้อมูลเก็บไว้ทั้งลับและเปิดเผย  ที่ลับก็เป็นผลการทดลองที่ได้   ทุ่นเวลาของยันต์อย่างมาก

            ที่อยากรู้เพราะมีพลังธาตุนี้อยู่ในร่าง   เลยกลัวว่ามันจะเป็นอันตราย  ต้องการหาวิธีป้องกันและแก้ไข  เนื่องจากอายุยังน้อยเลยค่อนข้างจะกลัวตายก่อนวัยอันสมควร   ฟังๆแล้วนอกจากเป็นธาตุที่ค่อนข้าง Active ต้องแสดงพลังออกมาก็ไม่มีข้อเสียใดๆ  จากข้อมูล Prof.Sheffon Honsu  นักวิทยาศาสตร์ด้านพลังงานชั้นนำได้บันทึกเอาไว้ในไฟล์ส่วนตัวว่า

            “ Quandium ธาตุเฉพาะ สีน้ำเงินเข้ม มีโครงสร้างที่ยังศึกษาได้ไม่ละเอียด คล้ายโครงสร้างของแร่หลายชนิดมารวมกัน  น่าสนใจมาก ใช้เป็นแหล่งพลังงานได้ดีกว่าทุกธาตุ  สลายตัวได้ 100% ไม่มีกากเหลือเป็นมลภาวะต่อสิ่งแวดล้อม  คุณภาพพลังงานอยู่ในระดับยอดเยี่ยม  ให้ประสิทธิภาพสูงสุด  ยังไม่มีธาตุใดที่มีคุณสมบัติใกล้เคียง

          เป็นธาตุหายาก  พบประปรายบนทวีปต่างๆทั่วโลก  ข้อสงสัยในปัจจุบันคือน่าจะอยู่ในแหล่งที่มีธาตุกัมมันตรังสี เพราะที่พบเจอส่วนใหญ่จะเป็นแหล่งที่พบแร่ยูเรเนียมหรือ พอโลเนียม   แนวโน้มที่น่าค้นหาคือทวีปอันตรายต่างๆที่มีสัตว์กลายพันธุ์อาศัยอยู่

          หากมีปริมาณมาก  สามารถนำมาใช้เป็นพลังงานส่งยานไปยังดวงดาวต่างๆได้อย่างไร้ข้อจำกัด  ลดค่าใช้จ่ายลงได้มาก  เนื่องจากมีคุณภาพของพลังงานสูงสุด

          ผลการทดลองที่นำธาตุนี้จำนวน 0.15 กรัมมาทำให้สลาย  จะได้พลังงานไฟฟ้าที่ใช้ในอาคารที่พักอาศัยสูง 300 ชั้นได้นานถึง 10 ปี  การกักเก็บพลังงานทำได้ง่ายด้วยการสร้างแกนเหนี่ยวนำ(Core) เพื่อให้พลังงานได้เข้าไปหมุนเวียนอยู่ภายใน  ใช้แร่ Haronon ซึ่งมีสีน้ำตาลในการสร้าง Core นี้

          การทำให้ธาตุ Quandium สลาย  มีกระบวนที่ยุ่งยากซับซ้อนรายจ่ายสูง  แต่ผลที่ได้จะคุ้มค่า  ปัจจุบันมีโรงงานสลายธาตุนี้ของบริษัท PAGODA ที่มีคุณภาพสูงเป็นอันดับหนึ่ง  รองลงมาคือบริษัท HOPE

ข้อที่น่ากริ่งเกรง  หากมีประเทศใดได้ธาตุนี้ไว้มากๆและนำมาเป็นฐานอำนาจเพื่อรุกรานประเทศอื่น  เมื่อนั้นสมดุลของโลกจะเปลี่ยนแปลง”

            “สงสัยต้องหาที่ระบายออกซะบ้างท่าจะดี  รู้สึกเริ่มอึดอัดแล้ว” เสียงพึมพำดังขึ้นหลัง Ai อธิบายจบไปพักใหญ่  เจ้านายฟังผ่านๆเพราะรู้สึกว่าในร่างมีพลังงานที่คล้ายจะกระจายออกภายนอกเลยมีความคิดจะไประบายออก    เหมือนการเสียเหงื่อให้กับการออกกำลัง

            คิดได้ก็ลองทำทันที  เขาออกจากห้อง  ลงลิฟท์ไปชั้น 20 ที่ซึ่ง Nania จอดอยู่  ชื่อนี้ยันต์ไม่เปลี่ยนเพื่อเก็บไว้เป็นที่ระลึกกับความรู้สึกดีๆต่อเพศตรงข้ามครั้งแรก

            ยานยังไม่ได้รับการปรับปรุงใดๆ เพราะเพิ่งผ่านมาแค่ไม่กี่วัน  เขาใช้รหัสเปิดเข้านั่งและขับออกไปจากตึก  บินออกนอกเมืองด้วยความเร็วปานกลาง  ตั้งใจจะไปยังภูเขาที่รกทึบเพื่อลองใช้พลังให้เต็มที่โดยไม่มีใครเห็น

Fallen Mount

            ไกลออกไปจากเขตเมือง ‘นครา’ ร้อยกิโลเมตร  เป็นภูเขาที่เรียกกันว่า Fallen Mount มีต้นไม้มากมาย  แต่เป็นประเภทที่ผลัดใบเร็ว  จึงมีใบไม้สะสมอยู่จำนวนมาก  และปลิดปลิวลงจากต้นตลอดเวลา  จึงได้ชื่อนี้มา

            Nania จอดบนชะง่อนหินกลางเขาลูกเล็กลูกหนึ่งท่ามกลางขุนเขาอื่นรายล้อม  ยันต์ออกจากยานมายืนมองทิวทัศน์ที่กว้างขวางสุดสายตา  เบื้องหน้าเป็นขุนเขาขนาดยักษ์สูงตระหง่าน

            “ไม่รู้พลังปราณนี่เป็นแบบไหน  ลองคล้ายหนังจีนที่ดูใน NET ก็แล้วกัน  ย๊ากกกก!” เสียงพูดดังขึ้นตามด้วยการเปล่งเสียงเรียกพลังเพราะไม่เคยทำเลยต้องใช้เสียงสร้างกำลังใจ

            ยังดีที่มีข้อกริ่งเกรงว่าจะควบคุมพลังไม่ได้  ทำให้การปล่อยพลังที่เขาบังคับการหมุนเวียนในตัวจนมีความรุนแรงคล้ายจะดันให้ทะลุร่างกายออกมา  พลังนั้นมารวมกันที่กลางฝ่ามือทั้งสอง   จากนั้นปล่อยออกมาด้วยการผลัก  ลองใช้ดูแค่ครึ่งส่วนของทั้งหมด

            ไม่มีเสียงใดๆ หลังจากผลักฝ่ามือออกไป  ยันต์เกาหัวด้วยอาการมึนงง  ชั่วขณะที่มีสายลมพัดผ่าน  ป่าเบื้องหน้าที่ห่างออกไป 50 เมตรพลันสลายกลายเป็นผุยผง  ต้นไม้ขนาดหลายคนโอบไล่ลงมาจนถึงขนาดเล็ก ไม่มีเหลือแม้แต่ต้นเดียว    เกิดทางโล่งเป็นแนวยาวไปถึงภูเขาใหญ่ที่ห่างออกไป 500 เมตร

            อาการปากอ้าตาค้างบังเกิดขึ้นอย่างฉับพลัน  เขายกมือทั้งสองขึ้นมา  มองดูฝ่ามือด้วยความงุนงง

            “มันอันตรายไปมั้ยเนี่ย” เป็นเสียงครวญครางที่แผ่วเบา  ไม่นึกเลยว่าแค่นิดเดียวจะเป็นอย่างนี้  ถ้าเมื่อกี้ไม่เฉลียวใจปล่อยไปสัก 5 ส่วน  นึกภาพไม่ออกเลยว่าจะเป็นอย่างไร

            เบื้องหน้ากลายเป็นถนนใหญ่กว้าง 20 วา  ตัดตรงไปยังภูเขาคล้ายใครมาไถทางไว้เพื่อเตรียมปรับให้เรียบ  ไม่มีวี่แววของต้นไม้ที่เคยมี  ตอสักต้นก็ไม่เหลือ  กิ่งไม้ใบไม้  ต้นหญ้าล้วนหาไม่เจอ  สภาพคล้ายกับเป็นแบบนี้มาตั้งแต่เริ่มแรก

            ยันต์กระโดดลงจากชะง่อนผาสูงจากพื้น 10 เมตร  เรื่องการลอยตัวเขารู้และทำได้มานานหลายเดือนแล้ว  จากนั้นเดินสำรวจพื้นที่พบว่า  ไม่มีสภาพการแข็งของดิน  พื้นดินเป็นปกติ  สีสันไม่เปลี่ยนสามารถปลูกต้นไม้ได้  เพียงแต่ต้นไม้เก่าไม่มีแล้ว

            เขาเดินบ้างวิ่งบ้างไปตลอดเส้นทาง 500 เมตร  เพื่อดูว่ามีสิ่งใดผิดปกติบ้างจากพลังที่พุ่งผ่าน   สภาพทุกอย่างเป็นปกติ  ทำให้อดคิดในใจไม่ได้ว่า ‘กลับไปนี่  รับเหมาทำลายสิ่งก่อสร้างที่ไม่ต้องการแล้วดีกว่า  ตั้งบริษัทมันเลย’

            จากแนวคิดเล่นๆ  ภายหลังพอลองตั้งบริษัท Destroyer ขึ้นมากลับรับงานแทบไม่ทัน  เพราะบริษัทนี้กำจัดสิ่งปลูกสร้างที่ต้องการรื้อถอนเพื่อสร้างอาคารใหม่ได้รวดเร็ว  แต่ยันต์ต้องหาวิธีในการทำงานเพื่อไม่ให้ใครรู้ถึงพลังที่ผิดแปลก  โดยทำเครื่องกำเนิดพลังหลอกๆขึ้นมาและค่อยๆทำลายทีสะส่วนไม่ให้เป็นที่สงสัย  แต่เพียงแค่นี้ก็เป็นที่เล่าลือถึงพลังทำลายที่ยอดเยี่ยมไปทั่ววงการก่อสร้าง

            ชายหนุ่มวนเวียนหาที่ลองพลังที่เทือกเขาแห่งนี้อีกนาน  จนรู้ว่าต้องใช้พลังระดับใดทำลายภูเขา  และสามารถปรับระดับพลังให้พอเหมาะกับสิ่งที่จะทำลายได้  ความคิดในการตั้งบริษัทยิ่งเข้มข้นกว่าเดิม 

สำนักงาน Destroyer

            ผ่านการคิดหาวิธีปกปิดร่องรอยอยู่ 3 วัน  วันที่ 4 ยันต์จึงไปจดทะเบียนก่อตั้งบริษัท  แต่เนื่องจากมีคนเพียงคนเดียวและไม่น่าเชื่อถือว่าจะดำเนินงานในรูปบริษัทได้  จึงได้แต่เพียงตั้งสำนักงานก่อน  เมื่อมีผลงานการทำลายสิ่งก่อสร้างขนาดไม่ต่ำกว่า 50  ชั้นครบ 5 แห่งเมื่อไร  จึงจะสามารถขอตั้งบริษัทใหม่

            “เออ! ไม่ได้บริษัทก็ตั้งสำนักงานแล้วกัน  ขอให้มีงานก็ไม่แตกต่าง  ค่าตั้งสำนักงานถูกกว่าตั้ง 5 เท่า  เสียไปเพียง 50,000 บาทเอง” เจ้าของสำนักงาน Destroyer  บ่นงึมงำระหว่างเดินออกจากหน่วยงานหลังตั้งได้แค่สำนักงาน

            “โฆษณาหน่อย GAC เอาให้เจ๋งเลยนะ  ราคาให้ถูกกว่าที่อื่นไว้ก่อน 20%  แจ้งไปว่าเป็นช่วงโปรโมทในการตั้งสำนักงาน 1 เดือน  หลังจากนั้นจะคิดราคาปกติ”

            ฝีมือการโฆษณาของ Ai ชั้นยอดเป็นไปเหนือคาดหมาย  เพราะวิเคราะห์จิตใจมนุษย์ได้อย่างลึกซึ้ง  GAC สร้างเงื่อนไขว่าหากทำไม่ได้ตามกำหนดจะให้ปรับเป็นเงิน 2 เท่าของค่าจ้าง  ซึ่งผู้จ้างงานสามารถกำหนดเวลาเสร็จได้ตั้งแต่ 1 เดือนขึ้นไป   บริษัทรับเหมาที่จะก่อสร้างสามารถตรวจสอบข้อมูลทางการเงินของ Destroyer ได้  เนื่องจากต้องแจ้งบัญชีทรัพย์สินให้กับหน่วยงานจดทะเบียนสำนักงาน

            เพียง 4 วันหลังการเปิดตัวสำนักงาน  มีงานเข้ามา 2 งาน  งานหนึ่งเป็นการทำลายตึกสูง 120 ชั้น  อีกงานหนึ่งเป็นตึกสูง 150 ชั้น  ทั้ง 2 งานกำหนดเวลาให้เสร็จภายใน 1 เดือน  งานแรกยันต์เรียกค่าจ้างที่ลดเปอร์เซ็นต์ให้แล้ว  2 ล้านบาท  งานที่สองราคา 3 ล้านบาท  เจ้าของงานก็พอใจเพราะถูกกว่าจ้างบริษัทอื่นๆมาก  ที่ต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 3 เดือน  หากจ้าง Destroyer  มีโอกาสได้เงินฟรีค่อนข้างมาก  เนื่องจากดูศักยภาพของสำนักงานแล้วมีคนเพียงคนเดียว

            ผ่านไป 5 วัน  ยันต์ทำทีไปสำรวจตึกที่ต้องทำลาย ณ เมือง Flora  เขาขึ้นไปดูทีละชั้นอย่างช้าๆ  วันหนึ่งสำรวจได้แค่ 5 ชั้น  เวลาหมดไปเรื่อยๆถึง 20 วันก็ยังไม่มีการทำลายใดๆเกิดขึ้น  เจ้าของงานเริ่มยิ้มที่จะได้เงินฟรี  เขายอมเสียเวลาไปเดือนหนึ่งเพื่อเพิ่มรายได้  เนื่องจากทำสัญญาสร้างตึกใหม่เผื่อเวลาเกินเอาไว้ถึง 45 วัน  ยังไงๆก็ได้กำไร  ตึกที่สูง 150 ชั้นก็มีการทำเช่นเดียวกัน 

            ล่วงเข้าวันที่ 20 เจ้าของสำนักงาน Destroyer มาถึงตึกแรกในตอนเช้า  เขาเหมายานบินขนส่งลำใหญ่ของบริษัท All Supply  ลำเลียงลังมาด้วย 50 ลัง มีโลหะแผ่นอยู่ภายในจำนวนมาก เมื่อมาถึงที่หมายก็ให้คนงาน 150 คน เปิดฝาลังนำเอาโลหะแผ่นที่ออกแบบไว้  กระจายกำลังกันขึ้นไปบนตึก   ติดแผ่นโลหะตามแปลนที่เขียน   ใช้เวลาหมดไปค่อนวัน

ช่วงบ่าย  ยันต์นำเอาลังอีกสองลังที่ใส่ปืนซึ่งถอดแบ่งเป็นชิ้นส่วนออกมาประกอบกันเป็นปืนขนาดใหญ่ที่ดูสวยงามและน่าเกรงขาม   มีขาตั้งและกล้องเล็ง   รวมไปถึงกล่องสี่เหลี่ยมสำหรับแบกไว้ด้านหลัง  ภายในมีแท่งพลังงาน  ต้องใช้มือสองมือถือปืนเอาไว้แล้วนำไปวางบนกล้องเล็ง   พวกคนงานของบริษัทที่นำแผ่นโลหะไปติดเสร็จแล้ว พากันมายืนมองอยู่ห่างๆด้วยความสงสัย

            เมื่อปรับกล้องเล็งให้ตรงกับเสาต้นที่อยู่กลางของชั้นที่ 61   มีแสงสีน้ำเงินพุ่งไปยังจุดหมาย   ครั้นลำแสงกระทบเสาเป้าหมาย   เกิดแสงสว่างขึ้นที่เสาต้นนั้น  และแผ่ขยายลุกลามออกไปทั้งด้านบนและด้านล่างโดยสะท้อนไปตามแผ่นโลหะที่คนงานนำไปติด  ภายในเวลา 5 นาทีก็ทั่วทุกชั้น   ตอนนี้ตึกสูง 120 ชั้นสว่างด้วยแสงสีน้ำเงิน  เปลี่ยนไปจากสีตึกเดิมที่เป็นสีน้ำตาลกลายเป็นสีน้ำเงินทั้งหลัง  เวลาผ่านไปอีก  5 นาที   ทุกๆชั้นก็ค่อยๆจางลงเรื่อยๆ  ในที่สุดก็สลายหายไปจากสายตา

            “ฮู!”

            “เฮ้ย!”

            เสียงฮือฮาด้วยความประหลาดใจของคนงานและคนที่ผ่านไปมาดังขึ้นอื้ออึง ตึกนี้แม้จะอยู่ห่างถนนพอสมควร  แต่ก็มีคนผ่านไปมาอยู่บ้าง  ผู้คนที่ตอนแรกไม่รู้ว่าพวกเขาทำอะไรกัน     เริ่มสนใจมองตั้งแต่มีแสงสีน้ำเงินเกิดขึ้นบนตัวตึกแล้ว  แต่ก็ยังไม่เข้าใจ  ครั้นเห็นตึกที่พวกตนเห็นและเดินผ่านอยู่ทุกวันหายไปก็ตกใจ

            การสลายตึกหลังนี้  เป็นครั้งแรกของยันต์  เขาจึงใช้วิธีนำเอาเศษพลังผนึกไว้กับโลหะ  นำไปติดไว้กับเสาหลักของชั้นต่างๆ  คำนวณให้ส่งพลังถึงกันเพื่อให้แสดงผลต่อเนื่อง  เมื่อเริ่มส่งพลังให้กับเสาต้นที่อยู่ในช่วงกลางของตึก  พลังที่ติดเอาไว้ก็กระจายออกมาส่งผลกระตุ้นให้สิ่งที่อยู่ในเสาหลักทุกต้นทุกชั้นทำปฏิกิริยาต่อเนื่อง  จนตึกสลายไปในที่สุด  นับว่าการคำนวณยอดเยี่ยมส่งผลให้งานเสร็จอย่างงดงาม

            ยันต์ถอดเครื่องสลายสสารเข้าใส่ลัง  เรียกพวกคนงานขนของกลับยาน  ภายใน 3 นาทีทุกคนก็อยู่ในยานที่กำลังเดินทางกลับ

            ค่ำวันนี้  มีข่าวใหญ่สะท้านเมือง  เมื่อมีคนส่ง Clip การทำลายตึกไปให้กับสำนักข่าว  มีการนำเสนอภาพตึกที่ถูกทำลายจนกลายเป็นอากาศธาตุ   ความสนใจของผู้คนมีมากมายต่างสอบถามไปยังสถานีที่เผยแพร่ภาพก็ไม่ได้รับคำตอบใดๆ  จนมีผู้ที่จำได้ว่ายานนั้นมีตราของบริษัท All Supply   จึงมีการติดต่อประธานบริษัทเพื่อขอทราบข้อมูลออกอากาศ

            ขณะที่เรื่องนี้กำลังฮ๊อตฮิตติดอันดับหนึ่งอยู่หน้าจอทีวี   ยันต์นั่งดูข่าวอยู่ในห้อง Paradise   เขาทำใจไว้แล้ว  ตั้งใจจะไม่ให้สัมภาษณ์ใดๆ  เครื่องมือที่ทำขึ้นนั้นเป็นความคิดที่จะให้สมเหตุสมผล  กล่องด้านหลังเป็นกล่องที่บรรจุแกนพลังงาน  โดยเขาจ้างบริษัทผลิตแกนพลังงานให้ทำเพื่อนำเอาพลังงานจากธาตุ Quandium ที่ล้นจากภายในร่างบรรจุไว้  และสร้างระบบปล่อยพลังงานที่ปรับเปลี่ยนความรุนแรงได้  หากใช้เป็นอาวุธก็ไม่ต้องพูดถึงผลของมัน  เพราะจะไม่มีอะไรเหลือให้เห็นอีกต่อไป

            เจ้าของเครื่องมือมหัศจรรย์ไม่รู้และคาดไม่ถึงว่า  สิ่งที่สร้างขึ้นนั้นเขย่าโลกได้สะเทือนแค่ไหน  ทันทีที่ข่าวนี้กระจายไปทั่วทุกทวีป  กองทัพแต่ละประเทศถึงกับเรียกประชุมฉุกเฉินด้วยวาระเดียวกัน  นั่นคือสืบหาที่มาของอาวุธมหาประลัยนั้นและหาตัวคนสร้างให้เจอ  เพราะถ้ามีประเทศไหนได้ไปและตั้งตัวเป็นใหญ่    นั่นคือความพินาศของทวีปต่างๆ

            ยันต์ติดตามดูข่าวสารและการประชุมของทุกประเทศในแต่ละทวีป   พร้อมกับคิดในใจว่า ‘ไม่น่าเลยเรา  เผลอไปนิดเดียวกลายเป็นเรื่องใหญ่  แก้ยังไงดีหว่า’

            “มีสัญญาณติดต่อมา 20 สายครับ Boss”

            “ปิดสัญญาณและปกปิดเส้นทางของเรา   อย่าให้ใครจับได้ว่าเราอยู่ที่ไหน”

            “ครับ”

            สัญญาณที่ติดต่อมาเป็นนักข่าวที่หาเบอร์จนเจอจากบริษัทยานขนส่งที่เขาว่าจ้างขนของ  แต่เบอร์นี้ถูกวางให้เป็นเบอร์หลอกสถานที่ ซึ่ง GAC จะเข้าไปเชื่อมต่อสัญญาณและนำมาที่นี่   ถึงจะตามไปหาแหล่งของมันก็จะไม่เจอเพราะวางจุดรับสัญญาณไว้ที่อื่น  ตอนนี้ถูกตัดสัญญาณทำให้ไม่สามารถใช้งานได้อีกต่อไป

            “ท่านผู้ชมครับ  เราไม่สามารถติดต่อกับคุณ Dark ตามที่บริษัท All Supply บอกได้  อย่างไรก็ตามเราจะพยายามติดต่อเพื่อสัมภาษณ์ต่อไป” ผู้อ่านข่าวของ Hot News ให้ความหวัง

Gold City

เมืองหลวงของประเทศ  Senia ทวีปยูโรปา

          “ไม่พบครับท่าน  ข้อมูลของบุคคลดังกล่าวไม่มีในฐานข้อมูล” พันเอกDavid Carter กล่าวรายงานผู้บังคับบัญชา

            พลเอกArmer Rolour พยักหน้าช้าๆ  นิ้วชี้เคาะโต๊ะเบาๆอย่างใช้ความคิด  บุคคลปริศนาผู้นี้ตามที่รู้มา  ไม่มีประเทศใดตามหาตัวเจอนับจากวันเป็นข่าวจนถึงวันนี้ 5 วันแล้ว  รู้ว่าบริษัท Sintex Construction จ่ายค่าจ้างให้ทางบัญชีของธนาคาร Loverb แต่หลังโอนเงินการติดตามตัวเจ้าของก็คว้าน้ำเหลว   ไม่มีข้อมูลใดๆให้สัมผัส

            “เรากำลังเจอผู้ที่ไม่ธรรมดา  ไม่รู้ว่าเป็นคนๆเดียวหรือเป็นองค์กร” เสียงห้าวๆของ Armer ดังขึ้นทำลายความเงียบ

            “ทำไมเขาถึงต้องการเป็นข่าวล่ะครับ” บุรุษอีกคนหนึ่งในห้องถามขึ้น

            “น่าจะไม่ใช่  คงบังเอิญที่คนถ่ายคลิปมาได้  ตามข่าวว่ามีอีกบริษัทหนึ่งก็จ้างให้ช่วยทำลายอาคาร  แต่ตอนนี้ถูกขอยกเลิกเนื่องจากเป็นข่าว  ทำงานได้ยาก”

            “หือ! ยังมีอีกเหรอครับ  นึกว่าออกมาสร้างกระแส  ถ้าอย่างนั้นอาวุธนั่นคงจะทำขึ้นเป็นเครื่องมือทำงานเพียงอย่างเดียว”   พลโท Roone   Field สรุป

            “น่าจะอย่างนั้น  แต่ก็ไม่แน่เพราะเราไม่เจอตัว  บอกหน่วย TEN ให้ระดมกำลังหาตัวให้ได้เร็วๆนี้”

            “ครับ”

Star Palace

            เจ้าของห้อง 1001 นั่งเซ็งอยู่ในห้องเพราะออกไปไหนไม่ได้  เขาไม่ได้กลัวผู้ใด  แต่ขี้เกียจรำคาญในการที่จะถูกติดตาม  สอบถามและที่สำคัญคือการแย่งชิงตัวของประเทศต่างๆ

            “เอาไงดีหว่า!  ออกไปไหนก็ไม่ได้  เบื่อจังเว้ย!” เสียงตะโกนดังลั่นห้อง  ดีที่ทุกห้องเก็บเสียงอย่างดี  ทำให้เสียงที่แฝงพลังด้วยความลืมตัวไม่ได้กระจายออกไป  เพียงแต่ทำให้กระจกที่หนาสั่นสะเทือนอยู่ครู่ใหญ่

ยันต์นั่งคิดอยู่เงียบๆ  คนที่เห็นตัวเขาที่เมือง Flora มีเพียงคนงาน 150 คน  รวมทั้งคนที่ผ่านไปมาตอนที่ทำงาน  รวมทั้งหมดไม่เกิน 180 คน  แต่ตอนนี้เขาอยู่เมืองหลวง  ภาพของเขาก็ไม่มี  แม้จะมีการเสก็ตภาพเผยแพร่ทางสื่อ  ก็โดนเขาให้ GAC เข้าบิดเบือนภาพเสก็ตอย่างแนบเนียนจนผิดจากตัวจริงไปมาก  คนที่เสก็ตด้วยโปรแกรมก็หงุดหงิด  พยายามแก้ไขก็ไม่ได้  กลัวเสียเวลาและถูกตำหนิ  คาดว่าโปรแกรมไม่สมบูรณ์เลยปล่อยเลยตามเลย  เมื่อยันต์คิดได้ข้อสรุปก็สบายใจ    เตรียมตัวออกไปหาอัลที่ร้าน Dream Craft