บทที่ 4
3… ภาษามหัศจรรย์
ตอนที่ Perto เริ่มเรียนภาษา Dawaz นั้น เป็นตอนที่อายุได้ 100 ปี จัดว่าเป็นวัยรุ่นของดาวที่เขาอาศัยอยู่ มีเวทย์มนตร์และพลังปราณอยู่ในระดับปานกลาง เริ่มจากการไปพบจารึกอักษรนี้ในโบราณสถานที่อยู่บนยอดเขาสูงลิบ อากาศเบาบาง หนาวเหน็บเต็มไปด้วยแรงลม เขาตามสัตว์ร้ายที่คร่าชีวิตชาวบ้านหลายคนไปเพื่อกำจัดมัน แต่หาไม่พบกลับพบสิ่งที่แปลกและน่าสนใจเข้า ต้องจับเจ่าอยู่ท่ามกลางความหนาวเย็นอยู่นานนับเดือนกว่าจะค้นหาอักษรได้ครบ 101 ตัว เพราะมันถูกจารึกไว้ในที่ต่างๆหลายแห่งบนยอดเขา
ภาษานี้เหมือนมีชีวิต เป็นส่วนหนึ่งของเวทย์มนตร์ขั้นสูงสุด มันจะชักนำผู้ที่สนใจให้อยากเรียนรู้และตัวมันจะเลือกผู้เรียน ด้วยการชักนำให้พบปะอักษรจนครบ ดลจิตใจให้รู้ถึงแนวทางในการเรียนต่อทีละขั้นจนจบ Perto ต้องหยุดเรื่องอื่น หาที่สงบเรียนอย่างตั้งอกตั้งใจ หมดเวลาไป 3 ปี โดยปีแรกเป็นปีแห่งความลำบากยากเข็ญ ต้องหมดพลังนับครั้งไม่ถ้วน บางครั้งถึงกับต้องนอนแบบอยู่กับที่หลายวันเพราะไม่มีเรี่ยวแรงขยับตัว เนื่องจากอ่านออกเสียงผิด กาลเวลาและความผิดพลาดช่วยให้ความถูกต้องมาเยือน ปีที่ 3 จึงเริ่มสบายขึ้น จนใกล้จะจบจึงมีความแคล่วคล่องในการอ่านประโยค เมื่อถึงการร่ายก็ทำได้ถูกต้อง จนสามารถจบการเรียนรู้ พลังในกายเข้มแข็งกว่าตอนเริ่มเรียนถึง 5 เท่า นับว่าสุดแสนจะคุ้มค่า
นับจากนั้นมา เขาก็เพียรพยายามไต่เต้าเพื่อเลื่อนระดับจากธรรมดาสู่ระดับสูง กินเวลาไปอีก 30 ปี จากระดับสูงสู่ระดับเลิศใช้เวลาอีก 50 ปี หลังจากนั้นต้องใช้ความพยายามอย่างหนักในการขยับระดับให้สูงกว่านี้ ใช้การฝึกฝนสะสมพลังอีก 200 ปี จึงจะผ่านขั้นศักดิ์สิทธิ์ ผ่านไปอีก 500 ปีจึงถึงระดับเหนือธรรมชาติ นั่นเป็นเพราะเขาเป็นเพียงร่างธรรมดา การเรียนรู้ให้สำเร็จได้นับว่าสุดยอดอย่างยิ่งแล้ว
เมื่อได้เห็นตัวอักษรนี้ในรูปหนังสือ ทำให้เกิดแรงสั่นสะเทือนเข้าไปในจิตใจ ย้อนระลึกถึงวันเวลาเก่าๆอันแสนนาน เขาจึงขอยืมหนังสือจากเด็กน้อยเพื่อนำมาอ่านทบทวนและเปรียบเทียบกับความรู้เดิม แต่ไม่สามารถเปิดอ่านได้ สร้างความฉงนใจ คิดไปว่าหนังสืออาจเลือกคนและควรจะเป็นผู้ที่ได้ครอบครองมันอย่างไม่ตั้งใจ นั่นคือเด็กน้อยที่เขาขอติดตามมาด้วย ตอนนี้เป็นเวลาที่เขาต้องสอนวิชาที่ยากที่สุดให้กับเด็กคนนี้
ภาษาเป็นสื่อให้ผู้คนได้รับรู้และเข้าใจกันได้ นั่นเป็นภาษาขั้นพื้นฐานทั่วไป ภาษามีมากมายทั้งที่ตายไปแล้วก็มี ยังใช้กันอยู่ก็มาก รวมไปถึงภาษาที่สามารถทำให้เกิดพลังอำนาจที่เรียกกันว่าเวทย์มนตร์ สำหรับ Dawaz เป็นสิ่งที่ยิ่งกว่าภาษา มันสร้างพลังอำนาจ ทำให้คนที่มันเลือกและเรียนรู้ตัวมันกลายเป็นผู้ที่เหนือกว่าสิ่งมีชีวิตอื่นๆหลายแสนหลายล้านชีวิต
ยันต์นั่งหายใจหนักๆกับพื้นยานอย่างหมดสภาพ การที่มีพลังมากมายช่วยได้เพียงไม่ให้หมดแรงจนขยับไม่ได้เท่านั้น แต่ไม่ได้หมายถึงจะไม่เหนื่อย นานแล้วที่ไม่ได้เหนื่อยหนักขนาดนี้ เขาคิดถึงตอนที่ฝึกต่อสู้กับหุ่นยนต์ในโรงฝึก
“โอ้โฮ! ใช้พลังมากถึงระดับ 9 เลยเหรอนี่” เป็นเสียงครางอย่างไม่เชื่อ พลังที่มีล้นเหลือหมดไปกับการระดมออกเสียงซึ่งมีทั้งผิดและถูก ตอนแรกที่อ่านผิดและเสียแรงไปมากนั้น เขาไม่คิดว่าจะเป็นอะไรเพราะมีปราณเยอะแยะ จึงฝึกอย่างไม่ระมัดระวัง ตั้งใจว่าผิดแล้วค่อยว่ากันใหม่ คนสอนก็ไม่พูดอะไร ผ่านไปแค่ชั่วโมงเดียวก็ต้องมานั่งหอบกับพื้นแบบนี้
‘เจ้ารู้แล้วใช่ไหมว่า สิ่งที่คิดนั้นผิด ’ เสียงผู้เฒ่าที่เงียบไป หลังจากสอนอักษรให้เขาจนครบ รวมทั้งวิธีสร้างคำ เรียงคำ ออกเสียง ดังขึ้นในหัว
‘ครับ ! ผมจะพยายามใหม่ ’ ยันต์ตอบ เขาเปลี่ยนท่ามาเป็นนั่งโคจรลมปราณเพื่อฟื้นฟูพลังกลับคืน ผ่านไปหนึ่งชั่วโมงก็เป็นปกติ
การฝึกรอบใหม่เป็นการหัดออกเสียงที่ระมัดระวังกว่าเดิม ผิดพลาดน้อยลง ติดขัดบ้างในตอนแรก จากนั้นก็เริ่มผิดน้อยจนไม่ผิด ความคล่องมีมากขึ้นเรื่อยๆ แต่การอ่านแบบต่อเนื่องต้องใช้พลังมหาศาลแม้จะอ่านถูกและผิดน้อยก็ตาม ทำให้ยันต์นั่งหอบอีกครั้งหลังจากผ่านไป 3 ชั่วโมง โดยพลังที่หมดไปลดลงเป็น 8 ส่วน
Perto นั่งมองเงียบๆ นึกประหลาดใจและดีใจที่เด็กน้อยซึ่งเขาให้ความรู้มีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว คิดอยู่ว่าน่าจะเป็นเพราะเป็นร่างจากธรรมชาติจึงมีพลังแห่งชีวิตมากมายจนทำได้อย่างนี้ ที่รู้ว่าเด็กน้อยนี้ไม่ใช่ร่างธรรมดาเพราะไฟชีวิตที่ถ่ายทอดให้กับเขานั้นเป็นไฟบริสุทธิ์ จะไม่มีในร่างของคนธรรมดาได้เลย
การฟื้นพลังเร็วกว่าเดิม แม้จะแปลกใจแต่ชายหนุ่มไม่หยุดการฝึก เนื่องจากเวลามีน้อยจึงมุ่งมั่นให้ได้ความชำนาญจนถึงการอ่านประโยค ตอนนี้เขาอ่านคำต่างๆที่คิดขึ้นมาจากภาษาโลกไปเรื่อยๆให้หมดที่รู้จักจึงพัก รอบหน้าจะเริ่มแต่งประโยคและอ่านตั้งแต่ประโยคง่ายๆไปจนถึงประโยคยาวๆและต่อเนื่อง ซึ่งคาดว่าคงต้องหมดแรงเร็วกว่านี้
15 ชั่วโมงผ่านไป
ยันต์ฝึกและหยุดพักต่อจากพักสองครั้งแรกอีก 3 ครั้ง เวลาในการพักลดลงเรื่อยๆ จนในที่สุดเขาก็ฝึกได้ต่อเนื่องโดยพลังไม่ลดลงเลย เป็นการฝึกออกเสียงประโยคที่ยาวและยากโดยไม่ผิดพลาด ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นคือ พลังในตัวเพิ่มอีก 3 เท่า ไม่เอ่อล้นออกมาเหมือนเมื่อก่อนที่ต้องเก็บไว้ในแท่งเก็บพลังงาน เป็นการควบคุมพลังที่ได้มาโดยอัตโนมัติ ทำให้เจ้าตัวต้องยิ้มด้วยความดีใจ
‘เก่งมากเด็กน้อย เจ้าฝึกเพียงวันเดียวเท่ากับข้าฝึกถึง 2 ปี ’
‘ผมได้คนสอนดีน่ะครับ ’ คำตอบนี้สร้างรอยยิ้มจางๆบนใบหน้าเรียบเฉยของผู้สูงวัย
‘ข้าว่าน่าจะพอก่อนนะ อย่าหักโหมมากนัก เจ้าไปไกลมากแล้วเหลืออีกไม่นานก็จะสำเร็จ ’
‘ครับ !’ เขารับคำ ขณะนี้เป็นเวลาสาย การฝึกแบบไม่นึกถึงเวลาทำให้เหลืออีกราว 4 ชั่วโมงจะเข้าสู่ดาวเป้าหมาย
ยันต์พักเพียง 2 ชั่วโมงแล้วกลับมาฝึกการร่าย ซึ่งเป็นขั้นตอนสุดท้าย Perto สร้างสัตว์เวทย์ออกมาให้เขาฝึกร่ายเพื่อทำลาย ตั้งแต่ระดับอ่อนและเข้มแข็งขึ้นเรื่อยๆ สุดท้ายเป็น Avig ที่ทำให้เขาที่ต่อสู้ด้วยพลังเวทย์จนหมดแรงและถูกจับไปขาย เจ้าตัวนี้ทำให้ยันต์ต้องร่ายยาวและส่งพลังออกไปพร้อมคำร่ายถึง 7 ส่วน จึงจะทำให้สูญสลายไปได้ และระดับที่เขาจบการเรียนภาษา Dewaz อยู่ในระดับธรรมดา มีพลังเพิ่มขึ้น 2 เท่า แต่ก็ทำความภูมิใจให้กับยันต์มาก
‘อ้อ ! ถ้าตอนนั้นข้าใช้การร่ายก็คงไม่ถูกจับไปขายแล้วสินะ ’ เสียงจากร่างเล็กพูดกับเขาในความคิด ’
‘ใช่ครับ ! แต่เป็นแบบนี้ก็ดีแล้ว ไม่งั้นผมก็ไม่ได้เจอท่านผู้เฒ่า ’ ผู้อ่อนวัยกว่าตอบ
ดาว Auka
ระยะทางเหลืออีกไม่มากนักก็จะถึงดาว Auka ยันต์ตรวจสอบเส้นทางระบบระวังภัยของดาวจากยานซึ่งยึดได้ เพื่อหาทางเข้าไปโดยไม่ให้ศัตรูรู้ตัว แต่ก็ยังคิดเผื่อการเปลี่ยนระบบของฝ่ายตรงข้ามเอาไว้ด้วย แม้จะเป็นความเป็นไปได้อันน้อยนิดก็ตาม
เขานำยาน ALFA เข้าสู่เส้นทางที่ลำบาก เพื่อจะได้ไม่เจอระบบระวังภัย และยังใช้คุณสมบัติของธาตุ Quandium ที่ไม่มีปฏิกิริยากับเทคโนโลยีใดๆมาสร้างเป็นบาเรียรอบๆยาน เพียงเท่านี้ก็ทำให้เล็ดลอดเข้าไปจนใกล้ที่จอดยานฝ่านศัตรู
ยันต์มองดูยานที่จอดอยู่เต็มลานด้วยความยินดี เขานำยานลงจอดห่างไป 500 เมตรด้วยความไม่ประมาท ฝากผู้เฒ่าให้ช่วยดูแลยานแล้วปลีกตัวจากไป ใช้ความเร็วด้วยการโคจรลมปราณทำให้พุ่งไปคล้ายเงาสายหนึ่งตรงไปยังยานที่อยู่ใกล้ที่สุด
ตอนนี้เป็นการเลี้ยงปลอบขวัญและสร้างกำลังใจให้กับทหารที่กลับมา บนอาคารหลังใหญ่เต็มไปด้วยเรือนร่างมหึมาเดินกันขวักไขว่ ขณะนี้ Bem หัวหน้าใหญ่กำลังขึ้นยืนพูดเพื่อเรียกกำลังใจและความฮึกเหิมอยู่บนเวที
“พี่น้องชาวดาว Auka ที่ข้าเรียกพวกเจ้ามารวมกันก็เพราะมีพวกเราถูกส่งตัวกลับมาโดยยานช่วยชีวิต และถูกยึดยานไปสองลำ เรื่องเกิดที่กาแลคซี่สีขาวห่างออกไป 10, 000 ปีแสง หลังจากนั้นก็มีพวกเราถูกส่งกลับมาเรื่อยๆ เป็นคนเดียวกับที่ส่ง Nemo กับ Boros กลับมา ล่าสุดมันได้ส่ง Som กับ Kad เป็นชุดสุดท้าย” เสียงหยุดไปชั่วขณะ
“ข้าถือเป็นการท้าทายพวกเรา มันยึดยานของเราไปหลายร้อยลำ แต่เรายังมีอีกมาก ข้าจะบุกดาวของมันในวันพรุ่งนี้ ทำลายให้สิ้นซาก แล้วบุกทำลายดาวที่เคยสร้างรอยแค้นให้กับพวกเรา เราจะยึดครองดวงดาวและกาแลคซี่ทั้งหลายให้หมด ให้สมกับที่พวกมันเคยเหยียดหยามพวกเรา จะเอาพวกมันไปขายเป็นทาส ให้พวกมันได้รู้ถึงความยากลำบากที่พี่น้อง บรรพบุรุษของเราเคยได้รับ พวกเจ้าจะร่วมมือกับข้าหรือไม่”
“ร่วมมือๆๆๆๆ”
“พวกเราเอาด้วยๆๆๆๆ”
“ทำลายดาวมันให้หมดๆๆๆ”
“ขายพวกมันเป็นทาสๆๆๆ”
“ล้างแค้นๆๆๆ”
เสียงตะโกนคำรามดังสนั่นอาคาร สะท้อนออกมาภายนอก ยันต์ได้ยินชัดเจน แต่เขาไม่สนใจ ตอนนี้เขาเข้าไปวาง ‘Spy’ ได้ 50 ลำแล้ว โดยเจาะเข้าจุดที่ใกล้ชุมทางของโปรแกรมที่สุด ไม่จำกัดว่าเป็นส่วนไหนของยาน เพราะจำเส้นทางเดินของโปรแกรมได้ชัดเจน
รูปแบบการวางโปรแกรมควบคุมยานของดาว Auka จะวางเป็นข่ายโยงใยกันทั่วยานโดยฝังลงไปในเนื้อโลหะลำตัวยาน มีชุมทางอยู่ทั่วไปเพื่อความสะดวกในการสั่งการ ต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญพิเศษระดับเขาเท่านั้นที่จะมองเห็นเส้นทางเหล่านี้และ Hack ข้อมูลเพื่อยึดได้ ผู้สร้างยานเองแม้แต่มองยังมองไม่ออก
เวลาผ่านไปอีกหลายชั่วโมงกว่าจะเช้า พวกทหารมีที่นอนอยู่ในอาคารเพื่อให้ตื่นทำการบุกโลกพร้อมกัน
“ท่านผู้นำๆ แย่แล้ว” เสียงทหารนายหนึ่งยืนเรียกอยู่หน้าห้องของ Bem ซึ่งตื่นนอนได้ครู่ใหญ่
“มีอะไร Vas” หัวหน้าถามนายทหารคนสนิท
“ยานหายไปหมดแล้ว” เป็นคำตอบจากสีหน้าที่ตื่นตระหนก
“เฮ้ย! มันจะหายไปได้ยังไง ยานเป็นพันลำ” ผู้นำส่งเสียงดังและเดินออกจากห้องไปยังหน้าต่างที่มองออกไปนอกอาคารได้
ภายนอกเป็นลานกว้าง เมื่อวานนี้ยังมียานจอดเรียงรายกันเต็มไปหมด ตอนนี้มีทหารออกไปวิ่งวนและเดินหาร่องรอยกันทั่วไป เป็นเพราะไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี ยานของพวกตนที่ลำใหญ่โตนับพันลำกลับสูญหายไปเกลี้ยง
“มันเป็นไปได้ยังไง” เสียงครางต่ำๆดังจากลำคอผู้นำดวงดาว ตอนนี้เขาคิดอะไรไม่ออก อำนาจของดาวดวงนี้อยู่ที่ยานที่ทุ่มเทแรงใจสร้าง ใช้เวลายาวนานนับร้อยปี ถ้าต้องให้เริ่มสร้างใหม่พวกเขาจะเอากำลังทรัพย์และวัตถุดิบจากที่ใด เพราะได้ทุ่มเทไปหมดแล้ว กะว่าจะนำยานเหล่านี้ไปสร้างชื่อเสียงและความร่ำรวยจากดาวน้อยใหญ่ภายนอก
“โธ่เว้ย! ใครวะที่มาขโมยยานพวกเรา” เสียงคำรามด้วยความแค้นดังจาก Bem หลังจากเศร้าเสียใจ ข้างล่างก็มีเสียงคำรามอย่างคลุ้มคลั่งของลูกน้องจำนวนหลายพัน แต่เสียงเหล่านี้ไม่ได้ยินถึงหูของผู้ก่อเรื่องที่กำลังฝึกภาษาอยู่ในยานที่กำลังเดินทางกลับโลก
ชั่วโมงแรกยันต์เข้ายึดยานได้เพียง 30 กว่าลำ มันน้อยมากจนต้องยืนคอตกเมื่อฉุกคิดขึ้นได้ว่ายานอีกหลายพันลำที่จอดอยู่ทั่วไปหมดจะยึดเสร็จเมื่อไหร่ อีก 3 วันก็น่าจะไม่หมด ย่อมไม่ทันเหตุการณ์ ชายหนุ่มครุ่นคิดวิธีในการยึดให้เร็วที่สุด แล้วก็คิดออก
“ต้องใช้เวทย์ลมช่วยแปะชิปด้านนอก อืม! ต้องอยู่บนที่สูงจะได้โปรยได้กว้างหน่อย”
ร่างของเขาลอยขึ้นด้วยลมจากเวทย์รองรับที่เท้าและประคองตัวให้สูงขึ้นๆจนอยู่เหนือยานทั้งหมด เนื่องจากยานขนาดใหญ่มากและมีจำนวนหลายพันลำ ความสูงที่ลอยตัวจึงต้องมากขึ้นเรื่อยๆ กว่าจะเห็นครอบคลุมพื้นที่ เขาก็ขึ้นมาอยู่ที่ 30 กม.
“เฮ้ย ! แล้วจะไหวเรอะ สูงขนาดนี้”
ร่างของยันต์ลอยนิ่งอย่างใช้ความคิด เวทย์ลมในระยะสูงขนาดนี้อย่างเดียวไม่น่าทำอะไรได้ คงต้องลองของแปลกๆดูบ้าง ถ้าไม่ได้ก็ลงไปใช้วิธีเดิมยึดยาน ได้เท่าไหร่ช่างมัน จากนั้นค่อยหาวิธีจัดการเฉพาะหน้าตามสถานการณ์
เขานึกถึงภาษา Dawaz ในรูปแบบสุดท้ายคือการร่าย ซึ่งต้องใช้ความมุ่งมั่น สมาธิและพลังอย่างเต็มที่ สร้างประโยคต่อเนื่องเป็นคำร่ายไว้ในใจ โคจรพลังให้รวดเร็วจนร่างกายเปี่ยมไปด้วยพลังอัดแน่น ก่อนจะเปล่งเสียงร่ายด้วยพลังทั้งหมดออกมา
“จงล่องลอยไป พลังอำนาจแห่งข้า นำพาสิ่งเชื่อมโยงข้าและเหล่าอาวุธด้านล่าง จงเป็นกำลังโน้มน้าวให้ความต้องการของข้าบังเกิดผล ทุกสิ่งที่ข้าต้องการจงอยู่ในอำนาจภายในบัดดล สายลมเอ๋ยพาพลังของข้าไป ด้วยอำนาจของเจ้า จงสร้างพลังอำนาจแก่ข้า”
ยันต์กางมือทั้งสองข้างออก พร้อมกับโปรยชิป ‘Spy’ หลายพันอันออกไป รอบตัวเขาพลันเกิดพายุร้ายก่อตัวขึ้นอย่างรุนแรง พัดพาเอาแผ่นชิปลอยพุ่งเข้าหายานเบื้องล่าง ด้วยเวลาไม่ถึง 10 นาที ทุกสิ่งก็เรียบร้อย
ร่างของเจ้าเมืองใต้น้ำลอยลงสู่พื้น เซถลาไปหลายก้าวและคุกเข่าขวาลงกับพื้นด้วยความเหนื่อยอ่อน ต้องนิ่งโคจรพลังอยู่นานครึ่งชั่วโมงกว่าพลังจะกลับคืนมา เขาสำเร็จการเรียนภาษา Damaz ในระดับธรรมดาบนยาน แต่ผลจากการทุ่มเทพลังมหาศาลครั้งนี้ เหมือนกับการฝึกทางลัด ทำให้เปลี่ยนระดับการเรียนรู้ของเขาไปสู่ระดับสูงสุดโดยไม่รู้ตัว พลังในกายเพิ่มพูนขึ้นอีก 2 เท่าตัว หากประเมินแล้วยันต์จะมีพลังเพิ่มมากกว่าตอนเริ่มเดินทางถึง 19 เท่า
GAC ได้ปรับเปลี่ยนข้อมูลยานไปเรื่อยๆ หลังจากที่ชิปแต่ละแผ่นแปะเข้ากับยานศัตรู จากนั้นรอเวลาให้เสร็จพร้อมกันจะได้ไม่สร้างความสงสัยและส่งไปเก็บในครั้งเดียว
“ส่งไปเลย GAC” ยันต์สั่งการหลังจากได้รับรายงานจาก AI คู่ใจ
“ครับ! Boss”
สิ้นเสียงยานทั้งหมดที่เข้าสู่โหมดความเร็วแสง 5 เท่า ซึ่งเป็นความเร็วสูงสุด ก็ค่อยๆทยอยหายลับไปในเวลาที่ต่างกันเพียงเล็กน้อย ลานจอดยานโล่งว่างเปล่า แต่เป็นเวลาที่พวกทหารพักผ่อนกันหมด แม้เวรยามก็ไม่มีด้วยความมั่นใจในกำลังของตน ทำให้กว่าจะรู้ตัวก็เป็นเวลาเช้า
‘เก่งมาก ที่เจ้านำเวทย์มาใช้ผสานกับการร่ายได้ ’เสียงชมของผู้เฒ่าดังขึ้นในหัว หลังจากยันต์เล่าเรื่องให้ฟัง แม้แต่ Perto ก็ไม่ได้ล่วงรู้ถึงระดับความสำเร็จของยันต์ ด้วยไม่ได้อยู่เห็นเหตุการณ์ คิดว่าคงจบได้ในระดับสองเท่านั้น เนื่องจากการเรียนรู้ใช้เวลาน้อยมาก อีกอย่างผลสำเร็จเป็นการรู้เพียงลำพังตัวผู้เรียน แต่ยันต์กลับไม่รู้ว่าการที่เขาร่ายเสร็จและได้ผลขนาดนั้นเป็นระดับสูงสุดของการเรียน
‘ขอบคุณครับ ! ผมเพียงแต่นึกหาทางจัดการยานให้ได้เร็วที่สุดเท่านั้นเอง ’
‘ถ้ามีแต่เวทย์มนตร์แต่ไม่มีสมองก็ทำอย่างเจ้าไม่ได้หรอก ’
ยันต์ยิ้มรับคำชมนี้ ขณะที่ผู้อาวุโสยืนมองเด็กน้อยเบื้องหน้าอย่างครุ่นคิด
‘ข้าขอทดสอบระดับการเรียนรู้ Dawaz ของเจ้าหน่อย จงใช้พลังให้เต็มที่ ’
เบื้องหน้าของยันต์มีสัตว์ประหลาดสองขา สูง 3 เมตร มีมือและเท้าที่อวบใหญ่แข็งแรง เล็บเท้าและมือแข็งแกร่ง หัวแหลม ฟันคมกริบ มีเกร็ดหนาทั้งตัว ส่งเสียงคำรามอย่างดุร้าย เป็นความตั้งใจของผู้เฒ่าที่ใช้พลังระดับสูงมาทดสอบ เพราะรู้แล้วว่ายันต์จบระดับธรรมดาไปแล้ว
“อ๊าก !” ตัวประหลาดร้องเสียงประหลาดดังลั่น
ยันต์ส่งเสียงร่ายออกมาเพื่อสร้างอาวุธต่อต้าน
“สายน้ำแห่งพลัง จงสร้างอาวุธแห่งความเข้มแข็ง ทำลายศัตรูของข้าให้สิ้นไป วารีพิฆาต”
เกิดเป็นห้วงน้ำขนาดใหญ่หมุนวนเบื้องหน้า ระหว่างสัตว์เวทย์กับยันต์ แล้วแปรเปลี่ยนเป็นหอกน้ำแข็งหลายสิบเล่ม พุ่งเข้าหาศัตรู
สัตว์ประหลาดใช้ความแข็งแกร่งของเกร็ดเข้าต้านทาน รวมทั้งการปัดป้องได้หลายสิบเล่ม แต่ในที่สุดหอกที่เหลือทั้งหมดก็ปักร่างของมันจนสลายหายไป
‘ลองดูระดับเลิศต่อนะ ’ Perto บอกพร้อมกับมีร่างของมนุษย์หุ้มเกราะ 2 คนเกิดขึ้น ร่างสูงเท่ากับยันต์
การต่อสู้ด้วยการร่ายในระดับสูงของสองบุรุษต่างวัย เป็นไปอย่างดุเดือด ยันต์ร่ายสร้างสัตว์ประหลาดที่เป็นโกเลมหิน ถือค้อนออกมาสองตัวเข้าโรมรันกันเสียงดังสนั่น ผ่านเวลาไปชั่วน้ำเดือด สิ่งที่สร้างขึ้นจากการร่ายทั้ง 4 ก็ถูกอาวุธฝ่ายตรงข้ามสลายไปพร้อมกัน
มีการหยุดพักครึ่งชั่วโมงเพื่อฟื้นพลัง Perto กล่าวชักชวนผู้อ่อนวัยทดสอบต่อ เพราะเริ่มจะแน่ใจแล้วว่าน่าจะจบในระดับที่สูงมากกว่านี้ แอบหวังลึกๆว่าอาจจะจบถึงระดับสุดท้าย
‘ข้าคิดว่าเจ้าน่าจะจบการเรียนรู้ที่สูงกว่านี้ แต่ต้องทดสอบดู เตรียมตัวได้ ’
การทดสอบในระดับสี่หรือระดับศักดิ์สิทธิ์ ผู้อาวุโสไม่ได้สร้างสิ่งอื่นออกมา แต่ปรับสภาพรอบข้างให้ผิดปกติ กดดันฝ่ายตรงข้ามด้วยพลังที่เหนือกว่า
ชายหนุ่มรู้สึกถึงสภาพอากาศที่เข้มข้นขึ้นมาก เขาเห็นปากของฝ่ายตรงข้ามที่ไม่เคยพูด ขยับร่ายอยู่ นึกรู้ว่าคราวนี้ผู้เฒ่าเอาจริงแล้ว จึงคิดคำร่ายอย่างรวดเร็ว จากนั้นรอดูท่าทีว่าการโจมตีจะเป็นแบบใด
บรรยากาศเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆล้อมบีบตัวเขาเข้ามา คล้ายจะบีบให้แบนตรงกลาง พลังในร่างของเขาลดฮวบเพราะใช้ในการต่อต้านไปถึง 4 ส่วน เป็นการคุกคามที่หนักที่สุดเท่าที่เคยสู้กับผู้อาวุโสท่านนี้ และยังมีสภาพกดดันต่อไปอีกอย่างไม่หยุด
ยันต์เริ่มร่ายเมื่อพลังของเขาลดไปได้ 5 ส่วน เพื่อป้องกันและกดดันกลับไป
“สายลมและปฐพีเจ้าเอ๋ย จงปกป้องคุ้มครองข้า ปฐพีเป็นโล่คุ้มกัน สายลมกดดันศัตรู ทำลายปราการอันเข้มแข็งให้หมดสิ้น ด้วยพลังอันนิรันดร์”
สถานการณ์เริ่มกลับกลาย การต่อสู้จากการตั้งรับเริ่มยันจนคู่คี่ก้ำกึ่งกัน จากนั้นพลังด้านผู้อ่อนวัยก็เริ่มดันกลับและบีบคั้นฝ่ายผู้อาวุโส
Perto ใช้พลังไปกับการร่ายสร้างบรรยากาศกดดันฝ่ายตรงข้าม เขาใช้พลังระดับศักดิ์สิทธิ์เข้าทดสอบ ตอนนี้พลังเริ่มถูกตีกลับมาจนกระทั่งเป็นตัวเองถูกบีบ ความสามารถในการต้านรับของระดับสี่กำลังจะหมดสิ้น พลังหายไป 5 ส่วน จึงคิดจะใช้พลังที่เหลือทดสอบต่อไปด้วยระดับเหนือโลกอันเป็นระดับสุดท้าย ผู้อ่อนวัยกว่านั้นไม่ทราบว่าท่านผู้เฒ่าอยู่ในภาวะใดเพราะดูไม่ออก ด้วยไม่เคยสู้แบบนี้มาก่อน ได้แต่เพิ่มพลังเพื่อคลายความกดดันจากผู้สูงวัย กะว่าถ้าฝ่ายตรงข้ามหมดแรงเมื่อไหร่ก็หยุด
Perto ใช้สติสมาธิที่เข้มแข็งเพราะผ่านการฝึกมายาวนาน สร้างคำร่ายที่เข้มแข็งขึ้นอย่างรวดเร็ว ปากขมุบขมิบตามที่ใจคิด เป็นภาวะที่เขาไม่เคยทำอย่างนี้มาก่อนนับจากเรียนสำเร็จเมื่อนานมาแล้ว การใช้พลังในระดับเหนือโลกมีผลทำให้กระแสพลังเพิ่มจากเดิมอีก 2 เท่า ยันต์รับรู้ถึงพลังที่เพิ่มกระทันหันทำให้ตกใจ เขาเร่งพลังออกมาด้วยการร่ายอย่างรวดเร็วเพื่อสร้างพลังต้านทานการบีบอัดของฝ่ายตรงข้าม รู้สึกว่าพลังหายไปถึง 6 ส่วน
พลังของร่างธรรมดาแม้จะได้รับการถ่ายทอดไฟชีวิต แต่ก็ไม่สามารถจะสู้กับต้นกำเนิดพลังได้ Perto จึงถูกกดดันจนมีสภาพที่ย่ำแย่ พลังในร่างหมดลง ร่างเล็กทรุดลงกับพื้นทำให้ยันต์ตกใจมาก รีบหยุดพลังอย่างฉับพลันแล้วพุ่งเข้าไปประคองด้วยความเป็นห่วง
‘เป็นอย่างไรบ้างท่านผู้เฒ่า ’
ไม่มีเสียงตอบ ดวงตาที่หลับลงเพื่อผนึกพลังทำให้ยันต์กังวล นึกได้ว่าเคยถ่ายทอดพลังให้เมื่อตอนท่านหมดพลังเช่นตอนนี้ จึงจับมือขวาของ Perto หงายออกเอานี้ชี้จิ้มลงไปพร้อมกับค่อยๆถ่ายทอดพลังให้อย่างช้าๆ
ผ่านไป 40 นาที ดวงตาของร่างเล็กก็ลืมขึ้น มีเสียงดังในหัวยันต์ว่า
‘พอแล้วเด็กน้อย ข้าดีขึ้นมาก รู้สึกจะแข็งแรงกว่าเก่าหลายเท่าทีเดียว ’
ยันต์หยุดถ่ายทอดพลัง มองดูผู้เฒ่าและกล่าวคำขอโทษที่ใช้พลังรุนแรง ซึ่งได้รับการตอบกลับมา
‘เจ้าไม่ผิดหรอก เป็นข้าเองที่อยากรู้ระดับความสำเร็จของเจ้า ยินดีด้วยที่เจ้าอยู่ในระดับสูงสุด นับเป็นวาสนาจริงๆ โอ ! เวลาที่ผ่านมาไม่เสียเปล่า ข้าได้สร้างผู้แข็งแกร่งที่สุดขึ้นมาแล้ว ’
คำพูดนี้ทำให้ยันต์ดีใจที่เขาไม่ได้ทำร้ายท่านผู้เฒ่า กลับทำให้ท่านมีพลังมากขึ้นไปอีกแม้จะไม่ได้ตั้งใจก็ตาม รวมทั้งยินดีที่ตนเองสำเร็จการเรียนภาษา Dawaz ในระดับเหนือธรรมชาติ
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
PS. ขอขอบคุณไรท์เตอร์ทุกท่าน ที่แต่งนิยายสนุกๆมาให้อ่าน
ไม่ค่อยเข้าใจเรื่องเกี่ยวกับภาษา dawaz อะไรนี่แฮะ มีระดับด้วย =0=;??
PS. ที่นี่!! ไม่มีอะไรมาก เป็นเพียงสถานที่ๆเก็บคลังนิยาย ที่ชอบ=,.=;; หลงเข้ามาแล้ว!! ไงๆก็ช่วยดูๆหน่อยนะ
เก่งเกิ๊น อิจฉาๆๆๆๆๆๆๆๆ
PS. สถานะ : อารมณ์ดีมากกกก
จะรออ่านต่อนะครับ
PS. ตำนานเหนือจินตนาการ ฝ่ามิติ อลวนป่วนก๊วนปีศาจ เสน่ห์รักเล่ห์แวมไพร์(yaoi) ลูคัสvsลอเรนช์ มหากาฬสงครามจอมราชัน โฆษณาครับ ฮิฮิ
ขอบพระคุณมากนะครับ
PS.
PS. คนมี สุข ทุกข์ ร่วม พลัดพราก จันทร์มี มืด สว่าง กลม แหว่ง เว้า