Supreme

บทที่ 4                              

18… ทวงแค้น

          “มีการลอบวางระเบิดบนชั้นสอง   ที่ร้านอาหาร Onsand เมื่อบ่ายสามโมงนี้ครับ! Boss” เสียง GAC รายงานหลังจากที่ยันต์กลับจากพบปะ 5 นักท่องเที่ยวและอยู่ในห้องฝึกวิชาตามลำพัง

          ผู้เป็นเจ้านายมีสีหน้าแปลกใจและสงสัยที่มีคนสามารถเข้ามาวางระเบิดได้  ทั้งๆที่มีระบบตรวจสอบอย่างเข้มงวด   และเป็นเวลาเดียวกับที่เขากำลังคุยกับพวก 5 อัจฉริยะที่เชิญไปพบ  ทำให้ GAC ไม่รบกวน  เนื่องจากเห็นว่าได้จัดการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว   จึงถามขึ้นว่า

          “เป็นระเบิดอะไร  นำเข้ามาได้ด้วยวิธีไหน”                          

          “เป็น Sitron ย่อส่วน  อานุภาพทำลายได้ครึ่งเมืองครับ  ตรวจสอบพบและหยุดชนวนระเบิดได้ก่อนการจุด  10 วินาที  ตอนนี้ส่งไปทำลายแล้ว  จากการย้อนอดีตพบว่าผู้นำมาเป็นผู้หญิงชื่อ Irene bocof จากเมือง Manara  ทวีปเอเชียนา   มาเที่ยวเป็นครั้งแรก  เมื่อย้อนอดีตต่อไปอีกพบว่าเธอถูกข่มขู่โดยจับพ่อแม่ไปเป็นตัวประกัน  บังคับให้นำระเบิดมาวาง  เป็นพวกมาเฟียเก่าที่ Boss ทำลายฐานการเงิน   ตอนนี้พวกนั้นฟื้นกลับคืนมาเป็นเหมือนเก่าแล้วครับ”

          ยันต์นิ่งไป  ถ้าระเบิดทำงานได้ผล  เมืองแห่งนี้ครึ่งเมืองและคนอีกมากมายต้องเสียชีวิต  พวกนี้มันจะเหิมเกริมเกินไปแล้ว  ครั้งก่อนแค่เอาเงินเพื่อหยุดพวกมันเท่านั้นยังไม่สำนึก  เห็นทีต้องเล่นแรงๆกันบ้างเสียแล้ว

          “ตรวจสอบดูรายละเอียดพวกนี้ให้ครบทุกคน  เอาทุกเครือข่ายเลยนะ  คราวนี้ต้องทำลายให้หมดสภาพที่จะกลับคืนมาอีก  อ้อ! บอกให้เสือกับพรรคพวกไปช่วยเหลือตัวประกันออกมาด้วย ”

          “ครับ! Boss”

          หลังจากนั่งรอฟังผลอยู่ 5 นาที  เรื่องต่างๆก็แจ่มแจ้ง  หัวหน้าทีมใหญ่คือ Trek Conan ที่เคยเป็นหนึ่งในทีมผู้บริหารธนาคาร Iceberge  มี Bucker  Crose อดีตประธานบริษัท Avatar และ Deck  Boran ที่เคยร่วมวางแผนจัดการกับเขาจนยาน Nania พังพินาศ  หลังการขาย Quandium หนัก 2 กิโลกรัมให้กับธนาคาร  ซึ่งเขาได้ตอบแทนด้วยการยึดทรัพย์จำนวนล้านล้านบาท  จนองค์กรล่มสลายไป  แต่พวกนี้กลับมีความสามารถที่เกินคาดหมาย  ฟื้นตัวเองได้ภายในเวลาเพียง 2 ปี ก็กลับคืนมามีอำนาจดังเดิม  แถมยังกล้าล้วงคองูเห่าด้วยการลอบวางระเบิดกะถล่มให้วอดวายไปครึ่งเมือง

องค์กร Pheonix

ก่อนการวางระเบิด 4 วัน

          ตึก Araka สูง 109 ชั้น กลางเมือง Nefros ทวีปอาเชียนา  บนชั้นที่ 13 มีห้องที่เป็นห้องสอบสวนเชลยขององค์กร Pheonix  ซึ่งเป็นพวกที่รวบรวมจากบรรดาองค์กรต่างๆที่ถูกยันต์ยึดทรัพย์จนเกลี้ยง  แต่พวกนี้สามารถยืมทรัพย์สินจากผู้ที่เคยช่วยเหลือเอาไว้ในอดีตมาลงทุนใหม่ได้  ทำให้กิจการนอกกฎหมายของพวกนี้เริ่มใหม่จากเล็กๆ ขยายขึ้นไปจนเท่าเทียมกับอดีตได้ภายในระยะเวลาเพียง 2 ปี   และแน่นอนว่าการเติบโตที่รวดเร็วครั้งนี้นำมาซึ่งความเดือดร้อนของสุจริตชนจำนวนมาก

          ตอนนี้ในห้องมีสตรีสาวอายุ 30 ปีอยู่หนึ่งคน  กำลังนั่งอยู่ต่อหน้าของชายหน้าเสี้ยมที่ชื่อว่า Spirit  Capter  หัวหน้าสาขาปฏิบัติการขององค์กร  มีชายฉกรรจ์ยืนคุมเชิงอยู่อีก 3 คนด้านข้าง

          “คุณ Irene  พวกเราจะขอรวบรัดหน้าที่ที่คุณต้องทำหลังจากเข้าไปในเมือง Aqaulancia  นั่นคือในวันสุดท้ายก่อนยานจะกลับ  ให้คุณนำของที่เรามอบให้ไปวางไว้ในร้านอาหารที่ชื่อว่า Onsand ให้ได้  ถ้าคุณทำสำเร็จเราจะปล่อยตัวพ่อกับแม่ของคุณ  แต่หากไม่สำเร็จก็คาดการณ์เอาเองแล้วกัน”  เสียงเหี้ยมๆเหมือนหน้าตาบอกกับเหยื่อสาว  ที่หน้าตาซีดเผือด  มีน้ำตาไหลออกมาจากดวงตาทั้งสองข้าง 

          “ทำไมพวกคุณทำอย่างนี้  พ่อแม่ฉันไม่ได้ทำให้พวกคุณเดือดร้อนมาก่อน  ทำไมต้องจับท่านไปด้วย” เสียงสั่นเครือของ Nora  Tomas  ถามเคล้าเสียงสะอื้น

          “คุณไม่ต้องถามหาคำตอบหรอก  หน้าที่ของคุณคือทำตามที่ผมสั่ง  หากคุณต้องการเห็นหน้าของคนทั้งสองอีก” เป็นเสียงตอบกลับที่ไร้ซึ่งอารมณ์ใดๆ

          หญิงสาวได้แต่กลั้นสะอื้น  เธอไม่มีทางเลือกอีกแล้ว  ระหว่างคนที่ไม่เกี่ยวข้องกับพ่อแม่ที่เลี้ยงดูเธอมา  คุณธรรมในใจรบกวนความคิดจนปั่นป่วนไปหมด  ฝ่ายตรงข้ามตัดความคิดของเธอด้วยคำสั่งที่ว่า

          “เอาของนี้ไป  แล้วทำตามที่บอก  อย่าแสดงพิรุธใดๆออกมา  ขอให้สำเร็จเพื่อคุณจะได้อยู่พร้อมหน้ากับพ่อแม่อีกครั้ง  จำไว้  อย่าบอกใครเป็นอันขาด  คุณคงรู้ผลที่จะเกิดขึ้นหากคุณทำเช่นนั้น”

          คล้อยหลังหญิงสาวที่ถูกชายฉกรรจ์คุมตัวออกไปจากห้อง  Spirit  ได้ติดต่อไปยังนายใหญ่เพื่อรายงานผลให้ทราบ  ภาพของ Trek Conan  ปรากฏออกมาพร้อมคำถาม

          “เป็นไง  เรียบร้อยดีรึเปล่า”

          “เรียบร้อยครับ Boss  อีก 3 วันเมืองใต้น้ำจะพินาศแน่นอน”

          “ดีมาก  แค้นนี้ต้องชำระ  เจ้า Dark ถ้าแกไม่ตายจากระเบิดต้องเจอกับพวกข้าอีก  ฮะ! ฮะ!” เป็นเสียงหัวเราะสะใจจากเจ้าของภาพ  ตามมาด้วยการสั่งการ

          “เตรียมตัวให้ดี  มันต้องโต้กลับแน่นอน  ทุกหน่วยเป็นไงบ้าง”

          “พร้อมครับ  กำลังรบของเรามีหลายพันคน  อยู่ในทุกจุด  ถ้าพวกมันขึ้นมาจากใต้น้ำจะเจอกับปืนแสงที่เราพัฒนาขึ้นใหม่แรงกว่าที่พวก Mubator  Zula  ใช้ตอนทำสงครามคราวก่อน”

          “อืม! ขอให้สำเร็จเถอะ  พวกมันจะได้รู้ว่าทำกับใคร  เฮอะ! นึกรึว่าพวกเราจะจนแต้มกับการยึดเงินแค่นั้น  คราวนี้ไม่มีหวังถ้าจะใช้วิธีการเดิมอีก”

          สองนายบ่าวเจรจาความสำคัญกันอีกหลายเรื่อง  นานกว่าครึ่งชั่วโมงจึงเลิกการติดต่อ

หน่วย SS (Super Security)

          ตึก Rocky หนึ่งในหลายๆตึกภายในที่ทำการของบรรษัท Grand Coperation  บริเวณชั้น 10 ทั้งหมดเป็นอาณาเขตของหน่วยรักษาความปลอดภัยของบรรษัทนามว่า “หน่วย SS (Super Security)”  ผู้นำหน่วยคือ สรภพ  ทิศสะท้าน  มี เสือ  ราชาอุดร  และTomas Hern  อยู่ประจำการที่นี่สลับเปลี่ยนกับเมือง Aquadome

          องค์กร Pheonix เคยข่มขู่เรียกค่าคุ้มครองจาก Grand Coperation  แต่ไม่ได้รับการตอบสนอง  มีการส่งกำลังเข้าจู่โจมแต่โดนโต้กลับแตกพ่ายไปหลายครั้ง  ล่าสุดเมื่อเดือนก่อนหน่วย SS ใช้ความเด็ดขาดในการกำจัดผู้บุกรุกจนหมด  ทำให้ผู้นำองค์กรต้องทบทวนเรื่องราวใหม่และสั่งยุติการดำเนินการเกี่ยวข้องกับบรรษัทนี้  เนื่องจากไม่คุ้มค่า  แต่ก็ยังจดบัญชีดำเอาไว้    ยันต์ไม่ได้รับรายงานเรื่องดังกล่าว  เพราะสรภพเห็นว่าไม่ใช่เรื่องหนักหนาสาหัสใดๆ  สามารถควบคุมและยุติเรื่องนี้ได้

          หลังเหตุการณ์ถูกวางระเบิด 5 นาที ทั้งสามพร้อมกับชายฉกรรจ์อีก 30 คนกำลังนั่งประชุมกันเรื่องคำสั่งด่วนจากเมืองใต้น้ำ  เป็นการวางแผนการทำงานเพื่อจัดการกับองค์กร Pheonix ขั้นเด็ดขาด  พวกเขาได้รับทราบข่าวการวางระเบิดเมือง Aqualancia ด้วยความตกใจ  ไม่คิดว่าจะมีใครเล็ดลอดเข้าไปทำการได้  และยังนึกชมการวางแผนของฝ่ายตรงข้ามที่ใช้จุดอ่อนในการดำเนินงานได้เป็นอย่างดี  ถ้าไม่มี GAC เมืองใต้น้ำคงพังพินาศไปแล้ว

          “มีคำสั่งจากเจ้าเมือง  ให้ช่วยตัวประกันจากพวก Pheonix ที่ขังไว้ในเมือง Latar อย่างเร่งด่วน แล้วให้รอจังหวะบุกยึดเงินที่พวกมันเก็บไว้ในตึกสำนักงานใหญ่ของพวกมัน  รวมถึงตึก Roman เมือง Dawon ทวีปอมาลอน กับตึก Swan เมือง Sunrise ทวีปยูโรปาด้วย  คงต้องขอแรงจาก เหลียงเว่ย  กับยูมินโฮ กับกองกำลังใต้น้ำมาช่วยกัน  คราวนี้ต้องให้จบแบบไม่ให้ผุดให้เกิดได้อีก”  หัวหน้าใหญ่หยุดถอนหายใจและกล่าวต่อ

          “เรื่องช่วยตัวประกันต้องทำภายใน 20 นาทีนี้  ส่วนเรื่องอื่นจะมีการแจ้งข่าวให้กับพวกเจ้าหน้าที่  โดยเจาะละเอียดถึงความชั่วร้ายของแต่ละคนไปยังทุกทวีปที่มีเครือข่ายของพวกนี้อยู่  เพื่อให้มีการจับตัวให้หมด  พวกเราจะอาศัยจังหวะเข้าผสมโรงตอนที่พวกมันปั่นป่วนเพราะถูกเจ้าหน้าที่ของประเทศต่างๆจู่โจม  ต้องทำงานกันให้เร็ว  งานนี้ให้ใช้คนของเรากับหุ่นยนต์ที่ทำขึ้นพิเศษ  เดี๋ยวแบ่งงานกันไป  แล้วไปวางแผนกันเอง  เสร็จแล้วแจ้งให้ GAC รู้เพื่อคำนวณความเป็นไปได้และปรับแก้แผน” หยุดเล็กน้อยก่อนสั่งการต่อ  

“เสือรับเรื่องช่วยตัวประกันและส่งคนคุ้มครองคนวางระเบิดที่กลับมาด้วย  Tom รับเรื่องปล้นเงินที่เมืองสองเมืองในสองทวีปร่วมกับเหลียงและยูมินที่กำลังเดินทางมา ลุงจะคอยประสานงานและจัดการกับเจ้าตัวหัวหน้าใหญ่ถ้าเจ้าหน้าที่ทำงานพลาด  ตัดสินใจดำเนินการให้เด็ดขาดได้เลยไม่ต้องเลี้ยง   งานนี้ไม่มีการปราณี    เพราะพวกนี้ร้ายมาก”

          “ครับ” เสือรับคำ

          “ครับ”เป็นเสียงตอบรับจาก Tom

          มีการตกลงเรื่องปลีกย่อยต่ออีกเล็กน้อย  หลังจากแบ่งกำลังคนเสร็จก็แยกย้ายกันไปทำงานแข่งกับเวลา  เพราะเมื่อเรื่องก่อวินาศกรรมไม่สำเร็จ  พวกเหล่าร้ายก็จะต้องเพิ่มการระมัดระวังการโต้กลับอย่างเข้มแข็ง  การปฏิบัติการที่รวดเร็วจะทำให้มีการเตรียมตัวล่าช้าลงไปบ้าง

เมือง Aqualancia

ห้อง Nest

          เวลา 18.00 น. หลังจากเกิดเหตุ 3 ชั่วโมง  ทุกคนในครอบครัวมารับประทานอาหารเย็นร่วมกัน  มีเสียงสรวลเสเฮฮากันตามปกติ  แต่พอยันต์เล่าเรื่องนี้ให้ฟังทุกคนพลันมีสีหน้าเคร่งเครียด

          “เส้นยาแดงผ่าแปดเลยนะนั่น” อัลเปรยออกมาด้วยเสียงที่ไม่มีความร่าเริงเหมือนก่อน

          “โหดจริงแฮะพวกนี้” Jackพูดเสริม

          “แล้วยันต์จะทำยังไงต่อ” กัลป์ผู้เป็นปู่ถามขึ้น  คนอื่นๆพากันเงียบเพื่อรอคำตอบ

          “ตอนนี้ผมปิดข่าวทั้งหมด  พวกนั้นจะยังไม่รู้เรื่องว่าระเบิดทำงานได้ผลหรือเปล่า  คนวางระเบิดก็ให้กลับไปเป็นปกติ  เพราะพวกนั้นตั้งเวลาระเบิดหลังยานออกไปจากเมือง  และให้ลุงสรภพกับน้องๆแยกย้ายจัดการโดยด่วนแล้วครับ  เราจะชิงตัวประกันและเตรียมบุกยึดเงินที่พวกมันเก็บไว้ในตึกสำคัญๆ 3 ตึก  เพราะพวกนี้รู้ว่าผมเจาะระบบธนาคารได้จากคราวที่แล้ว  เลยเก็บเงินส่วนใหญ่ไว้ในที่ปลอดภัย  เราจะดำเนินการโดยแทรกเข้าช่องว่างตอนเจ้าหน้าที่ของทวีปต่างๆเข้าจัดการจับกุมพวกมัน  ผมให้ GAC แจ้งข้อมูลความเลวร้ายของแต่ละคนไปยังทุกประเทศแล้ว  ถ้าเป็นคนของรัฐระดับสูงที่เกี่ยวข้องกับพวกมาเฟียก็จะแจ้งให้ประธานาธิบดีจัดการ  คิดว่าคราวนี้คงจะขุดรากถอนโคนไม่ให้กลับมาทำความเดือดร้อนได้อีก”

          “อืม! โบราณว่าตีงูให้หลังหักไม่ควรทำ  เพราะมันจะกลับมาแก้แค้น  เป็นเรื่องจริง  เห็นได้จากคราวนี้  นี่ถ้า GAC หยุดเรื่องไม่ทัน  เมืองคงพังไปเป็นแถบๆแน่เลย” ผู้เป็นแม่เอ่ยขึ้นบ้าง

          แต่ละคนนิ่งคิด คราวก่อนยันต์เพียงแค่ยึดเงินกะให้พวกนี้ล่มสลายและเลิกกิจการเบียดเบียนคนอื่น  แต่กลับไม่เป็นตามที่คิดเพราะคนร้ายก็คงเป็นคนร้ายตามนิสัยและความเคยชินจากการได้เงินมาง่ายๆด้วยการเบียดเบียนผู้อื่น  ที่สำคัญคือยังกลับมาล้างแค้นอีกด้วย

          “ครั้งนี้ยากกว่าก่อนนะลูก  ต้องให้คนบุกเข้าชิงตัวประกันและเงิน  จะมีความผิดพลาดและอันตรายเกิดขึ้นกับคนของเราบ้างหรือเปล่า” กริชถามลูกชายด้วยความเป็นห่วงทีมงาน

          “ไม่หรอกครับ  พวกลุงสรภพส่งแผนมาให้ GAC ช่วยปรับแล้ว  พวกนั้นวางแผนกันดีมาก มีที่แก้ไขเพียงเล็กน้อย  อีกอย่างอันตรายที่จะเกิดกับพวกเราเป็นไปได้ยากเพราะมีหุ่นยนต์ชนิดพิเศษที่ผมสร้างขึ้นใหม่เข้าร่วมปฏิบัติการด้วย 50 ตัว  รวมทั้งสวมใส่เสื้อเกราะพิเศษแบบที่พวกเรามีกันทุกคน  อีกอย่าง รายละเอียดสถานที่  จำนวนคนของฝ่ายตรงข้าม  พวกเรารู้หมดแล้วรวมทั้งระบบป้องกันก็ถูก GAC ล็อคไว้เรียบร้อย”

          “เฮ้อ! ค่อยโล่งอกหน่อย  เป็นห่วงพวกเราที่ไปทำงานเท่านั้นแหละ  พวกนั้นร้ายมากเลยนะ  พอฟังอย่างนี้ค่อยสบายใจขึ้น  แล้วจะเริ่มงานกันเมื่อไหร่ล่ะ” Richard พ่อของ Jan เอ่ยออกมา

          “เรื่องตัวประกัน ตอนนี้คงจะเริ่มแล้ว  ส่วนเรื่องอื่นต้องให้ฝ่ายรัฐเริ่มก่อนแต่ผมให้ GAC เร่งรัดไป   เพราะเกรงว่าตัวใหญ่จะไหวทันและหลบหนีไปก่อนทำให้ยุ่งยาก  ” ยันต์ตอบ

          “มีรายงานด่วนจากเสือครับ Boss” เสียง GAC ดังขึ้น

          “ต่อสัญญาณได้เลย” เจ้านายสั่งการ

          ภาพของเสือเกิดขึ้นกลางห้อง  มีชายและหญิงวัย 50 กว่าปีสองคนอยู่ด้วย  พร้อมกับหญิงสาวที่ยันต์จำได้จากภาพที่ GAC บันทึกไว้ว่าเป็นมือวางระเบิดนั่นกอดผู้เป็นแม่พร้อมกับร้องไห้อยู่ทั้งคู่

          “ได้ตัวประกันมาแล้วครับพี่  ฝ่ายตรงข้ามกำลังจะเก็บอยู่พอดีตอนที่เราบุกเข้าไป  พวกเราปลอดภัยดีครับ” เป็นรายงานจากน้องชายที่ไปชิงตัวประกันจากเมือง Latar มาสดๆร้อนๆ

          “ดีมาก เสือ  พวกหุ่นยนต์เป็นยังไงบ้าง” ยันต์ชมเชยและถามกลับไป

          “สุดยอดเลยครับพี่  ถ้าผมสู้ด้วยคงไม่ไหว  สร้างได้ยังไงนี่  พวกผมแต่ละคนยกนิ้วโป้งให้สองมือเลย   สงสัยอีกหน่อยพวกผมคงได้แต่ดูอย่างเดียว”

          “หึ! หึ! ถ้าอยากออกกำลังก็เอาไปน้อยหน่อยสิ  เอาไปมากก็ว่างงานอย่างที่ว่านั่นแหละ” พี่ชายตอบด้วยสีหน้ายิ้มๆ

          Tomที่ดูการเจรจาอยู่  อดไม่ได้ที่จะถามขึ้นบ้าง

          “เฮ้! ไม่เห็นบอกเลยว่าเก็บพวกนั้นบ้างหรือเปล่า  หรือว่าจับตัวส่งเจ้าหน้าที่”

          “เอ้อ! พวกนั้นไม่ยอมให้จับครับ” เป็นเสียงตอบเบาๆ สีหน้าเจื่อนๆ

          คำตอบทำให้คนถามอึ้งไปเหมือนกัน  แสดงว่ามีการดำเนินการขั้นเด็ดขาดขึ้นแล้วหลังจากเมตตากันมานาน  ถ้าการปฏิบัติงานชิงเงินมีการขัดขวางก็คงจะเป็นรูปแบบเดียวกัน

          “ตอนนี้พวกประเทศต่างๆทำอะไรกันบ้าง” ยันต์เปลี่ยนเรื่องให้ทุกคนหายเครียด

          “กำลังวางแผนกันอยู่ครับ  เร็วที่สุดคงเป็น 2 ทุ่มคืนนี้ในทุกจุด  พวกเราจะเข้าแทรกทันทีที่พวกนั้นปั่นป่วน”

          “อืม! แล้ว Tom กับคนอื่นเป็นไงกันบ้าง” เจ้าเมืองถามถึงน้องคนอื่นๆ

          “สบายดีครับ  พร้อมทำงานเต็มที่  พวกนั้นฝากบอกมาว่าพี่ไม่ต้องห่วง” เสือตอบ

          “ขอบใจมาก  ขอพี่คุยกับ  Irene   หน่อย” ยันต์กล่าวขอบคุณและขอคุยกับหญิงสาวต้นเรื่อง

          ภาพของหญิงสาววัย 30 ปี  ผมสีทอง  ที่มีหน้าตาเศร้าหมองกำลังมองมายังทุกคน  เธอกลั้นสะอื้นและพูดขึ้นว่า

          “ขอโทษค่ะทุกๆท่าน  ดิฉันไม่น่าทำอย่างนั้นเลย  ยกโทษให้ด้วยนะคะ ฮือ! ฮือ!” เป็นเสียงขอโทษและอดไม่ได้ที่จะร้องไห้ด้วยความเสียใจ

          ผู้เป็นแม่กอดลูกสาวไว้และร้องไห้  เธอหันมาพร้อมกับพูดขอโทษแทนลูกสาว

          “ขอโทษแทน Irene ด้วยนะคะ  พวกดิฉันเป็นต้นเหตุที่ทำให้เธอต้องทำอย่างนั้น  ถ้าห้ามได้ดิฉันจะไม่ให้เธอทำ  เพราะพวกเราแค่สองคนแลกกับคนมากมายมันไม่คุ้มกัน   ขอบคุณที่ช่วยพวกเราทั้งหมดเอาไว้    ที่จริงไม่ต้องก็ได้เพราะเราเป็นคนผิด  พวกคุณเป็นคนดีจริงๆ”    

          “ไม่เป็นไรหรอกครับคุณป้า  ทุกคนย่อมมีเหตุผลในการทำเรื่องต่างๆ   เรื่องนี้ผมแก้ไขได้ทัน  ไม่มีอะไรเสียหาย  อย่าโทษตัวเองเลยครับ  ขอให้ทำใจให้สงบกลับไปมีความสุขอย่างเดิม  ตอนนี้พวกที่ก่อเรื่องกำลังจะได้รับผลตอบแทนที่สาสมกับการกระทำที่ได้ทำลงไป” ยันต์ปลอบโยนให้คลายความทุกข์ใจ  แล้วบอกกับเสือว่า

          “ดูแลพวกเธอให้ดีนะ  เสร็จเรื่องแล้วค่อยส่งกลับบ้าน  ตอนนี้กำลังหน้าสิ่วหน้าขวาน  ให้อยู่ที่ตึกของเราไปก่อน”

          “ครับ”

          สิ้นสุดการติดต่อ  มีความเงียบอยู่อีกพักหนึ่ง  Aliceเป็นผู้ทำลายความเงียบขึ้นว่า

          “หมดเรื่องหวาดเสียวไปแล้ว  พี่จะทำยังไงกับเงินที่จะยึดมาคะ”

          “คราวนี้  คิดว่าจะคืนให้กับคนที่โดนรีดไถจ้ะ  สงสัยจะโดนกันคนละมากๆ  เพราะพวกนี้เร่งจะกลับคืนสู่สภาพเดิมโดยเร็ว”

          “พ่อว่าดีนะความคิดนี้    นึกถึงตอนก่อนที่โดนไถ    ย่ำแย่อยู่เหมือนกัน   แล้วจะแบ่งคืนยังไงล่ะ” Steward พ่อของAliceพูดขึ้นถึงอดีตที่เคยถูกมาเฟียเหล่านี้รีดไถทรัพย์สิน

          “ผมจะให้ GAC ตรวจสอบแล้วคืนเข้าบัญชีแต่ละบริษัทครับ  แม้จะไม่ครบก็คงใกล้เคียง  คาดว่าจะเป็นที่พอใจของคนรับ” ลูกเขยตอบ  ทำให้ทุกคนมองเขาด้วยความชื่นชม

          เรื่องที่เกิดขึ้นคราวนี้  พวกดาว Waboo  ไม่ได้รู้เรื่องเนื่องจากแยกย้ายไปพักผ่อน  และเรื่องก็เกิดขึ้นรวดเร็ว  จบลงด้วยความรวดเร็วเช่นกัน   หากเจ้าของเรื่องไม่เล่าให้รู้ก็คงจะเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น