คิดให้ต่าง...เศรษฐกิจเดินหน้า

คิดให้ต่าง...เศรษฐกิจเดินหน้า

จากการนั่งรถไปหลายที่

สิ่งที่สังเกตได้คือ มักจะมีร้านขายสินค้าชนิดเดียวกัน ตั้งอยู่ละแวกใกล้เคียงกัน เช่นถนนเส้นหนึ่งมีร้านขายไก่ย่างเปิดอยู่ เมื่อเราขับตรงไปอีกไม่กี่เมตร ก็จะพบร้านขายไก่ย่างอีกร้านหนึ่ง หรือหลายร้านเปิดอยู่ไม่ห่างกัน

...แล้วแบบนี้มันจะไปขายดีได้ยังไง? อันนี้ผมสงสัยมาก เพราะสินค้าอย่างเดียวกัน มาอยู่ในจุดเดียวกัน คนที่เขาจะมากินก็ต้องแบ่งเฉลี่ยกันออกไปในแต่ละร้าน

นี่คือในกรณีที่รสชาติของอาหารพอๆ กันนะ

แล้วถ้าเกิดมีร้านใดร้านหนึ่งอร่อยกว่าเพื่อน คุณคิดว่าลูกค้าส่วนใหญ่คนจะไปรวมกันอยู่ที่ตรงไหน...แน่นอนสิ มันก็ต้องเป็นร้านที่อร่อยอยู่แล้วจริงไหม?

...แล้วร้านที่เหลือเป็นไง นอกจากลูกค้าประจำ ขาจร หรือคนที่รู้จักกันไม่กี่คนแล้ว หากร้านที่อร่อยเขายังขายไม่หมด สิ่งที่ผมไล่มาเมื่อครู่นี้แหละ ที่จะเป็นลูกค้าของคุณ

แถมจำนวนลูกค้าที่ไล่มา ยังจะมีโอกาสลดลงได้อีกนะ เช่นพอขาจรรู้จักร้านที่อร่อยกว่า เขาก็มีสิทธิ์ที่จะเปลี่ยนร้านได้ หรือบางครั้ง คนที่เรารู้จัก ก็อาจจะเปลี่ยนไปกินร้านที่อร่อยกว่านั้นด้วยก็เป็นได้

คำถามคือ ถ้าเป็นแบบนั้นแล้วคุณจะทำยังไง...ถ้าถามผม นอกจากพัฒนาร้าน พัฒนาฝีมือให้ตัวเอง อีกสิ่งหนึ่งซึ่งผมจะพอทำได้ก็คือ เปลี่ยนสินค้าที่จะขายซะ

แถวนั้นมีร้านไก่ย่างเยอะแล้ว ผมก็เปลี่ยนมาเปิดร้านก๋วยเตี๋ยวแทนซะเลย นอกจากไม่มีใครมาแย่งลูกค้า เรายังได้เปิดเป็นร้านแรก มีโอกาสสร้างฐานลูกค้าก่อนคนที่เขาคิดจะเปิดตามอีกด้วย

ถ้าแถวนั้นมีร้านก๋วยเตี๋ยวเยอะ เราก็ต้องดูว่า...อะไร ที่ตรงนั้นยังขาดอยู่ หรือมี...แต่น้อยมาก

เช่นหากร้านอาหารมีเยอะแล้ว ทั้งอาหารอีสาน ทั้งตามสั่ง ทั้งก๋วยเตี๋ยว

ก็คิดแหวกแนวจากคนอื่นๆ ออกมาหน่อย เปิดร้านตัดผมมันซะเลย หรือไม่ก็อาจจะเปิดสินค้า / บริการตัวใหม่ที่แถวนั้นไม่มี

แค่นี้ระบบเศรษฐกิจในแถบนั้นก็จะเป็นระบบหมุนเวียนไปได้ด้วยตัวเอง ถ้าคิดง่ายๆ เลยก็เช่น เจ้าของร้านไก่ย่างอยากกินก๋วยเตี๋ยวก็ไปซื้อ เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวอยากกินไก่ย่างก็ไปซื้อ ขายกันคนละอย่าง แล้วมาอุดหนุนกันเอง ดีกว่ามาขายอย่างเดียวกัน แล้วมาแย่งลูกค้ากันเอง

ถ้าแบบนั้นสินค้ามันจำเจเกินไป สุดท้ายแล้วเศรษฐกิจตรงพื้นที่นั้นก็จะเดินยาก

คิดให้ต่าง เศรษฐกิจเดินหน้าครับ