ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [GOT7fiction] adorable baby { Markbam } / -ลงชื่อรับเงินคืน-

    ลำดับตอนที่ #10 : markbam baby - 8 -100%-

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 11K
      85
      5 พ.ค. 57

    GOT 7 Fiction

    Adorable baby  Mark x Bambam

    By bpuppyy_

    Markbam

    Baby  8

     

                    มาร์ค ต้วนขับรถมาจนถึงบ้านของโอเซฮุนในช่วงหกโมงเย็นของวันเสาร์ ทั้ง ๆ ที่เขากับแบมควรจะได้ไปทานข้าว หรือไปซื้อของอะไรก็ตามที่ไม่ต้องดั้นด้นมาถึงชานเมืองโซลแบบนี้

    “ขอบคุณสวรรค์ที่ส่งพี่มาร์คมาช่วยน้องเซฮุน” โอเซฮุนผู้เป็นเจ้าของบ้านรีบเดินออกมาต้อนรับ แบมแบมถึงกับหลุดขำทันทีที่ได้เห็นรุ่นพี่ตัวขาว เพราะตอนนี้เซฮุนอยู่ในชุดเสื้อยืดกางเกงบอลทีมรัก ทรงผมที่เจอกันกี่ครั้งที่มักจะถูกเซตเอาไว้อย่างดี วันนี้กลับมีเพียงแค่ที่คาดผมใส่อยู่ลวก ๆ เท่านั้น

     

                    จัดได้ว่าหมดสภาพคนเจ้าสำอาง ถึงแม้จะดูมีเรี่ยวแรงในการกวนพี่มาร์คอยู่เหมือนเดิม

     

    “น้องแบมก็มาด้วย พี่เซฮุนดีใจเป็นที่สุด ตอนแรกคิดว่าไอ้... เอ้ย พี่มาร์คจะไม่ให้น้องแบมมาด้วยซะแล้ว” เซฮุนยังคงไม่หยุดพูดพร่ำ เห็นได้ชัดว่าเครียดกับสภาพการงานที่คั่งค้างอยู่มากแค่ไหน

                    ปกติก็ไม่ค่อยจะเป็นคนปกติอยู่แล้วนะ พอเจอภาวะงานทับถมแบบไม่ปกติเข้าไป ภาวะความปกติของพี่เซฮุนเลยถูกหารสองให้ลดลงไปอีกครึ่งหนึ่งจนทำให้น้องแบมอยากถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึกจริง ๆ

    “หยุดพูดมากได้ละ มึงนั่งทำงานกันอยู่ไหน” มาร์คถาม เดินตามเซฮุนที่ยังคงไม่หยุดพูดถึงแบมแบมเข้ามาในตัวบ้าน อันที่จริงเขาเคยมาที่นี่หลายครั้ง แล้วก็ต้องสารภาพว่าคิดเหมือนแจบอมที่ว่าบ้านหลังนี้มันโคตรไกล

     

                    ไม่ได้บ้านนอกหรืออะไรแบบนั้น... แต่มันห่างจากตัวเมืองมากจนเสียเวลาขับรถเกินจำเป็น แถมยังไม่มีเครื่องอำนวยความสะดวกอย่างที่ว่า...

     

    “ทำไมมาทำงานบ้านมึงวะ บ้านไอ้แจบอมล่ะ”

    “ไอ้เหี้ย พูดละของขึ้น ขอโทษนะครับน้องแบมที่พี่หยาบคาย ช่วงนี้อารมณ์ไม่ปกติ อย่าใส่ใจนะ ห้ามเอาเป็นตัวอย่างด้วยนะครับน้องแบม”

    “ตกลงมึงจะตอบกูหรือจะคุยกับแบม” มาร์คขัด เซฮุนรีบวกกลับเข้ามาที่คำถามอีกครั้งโดยมีเสียงหัวเราะของเด็กแก้มกลมดังคลอตลอดเวลา

    “ไอ้แจบอมแม่งเสือกลืมกุญแจบ้าน เท่านั้นไม่พอนะ เสือกใจป๋าให้สาวไปนอนค้างที่คอนโดมัน ขอกูด่าไอ้เหี้ยอีกที เด็กแม่งเสือกพาเพื่อนไปด้วยอีกคนไง ความเกรงใจมีไหมกูอยากถาม แล้วยังไงต่อ พวกกูไปทำงานไม่ได้ไงครับ ฟายเย่อ สุดท้ายต้องถ่อสังขารมาบ้านกู แม่ง ไกลก็ไกล” โอเซฮุนยังคงบ่นต่อไป

     

                    แบมแบมไม่ได้อยากแทรกหรอกนะครับ... แต่ว่ามันมีเรื่องนึงที่สงสัย

     

    “พี่เซฮุน... ทำไมไม่หาหอพักหรือซื้อคอนโดไว้ใกล้ ๆ กับมหาลัยล่ะครับ...” กันต์พิมุกต์ยิงคำถาม นัยน์ตากลมใสจ้องมองไปทางรุ่นพี่ตัวขาวที่ยืนลูบเหม่งอยู่ด้วยความตึงเครียด

                    ส่วนมาร์คไม่ได้รอฟังคำตอบใด ๆ ผู้ปกครองจำเป็นของแบมแบมเดินเข้าไปภายในห้องทำงานที่มีแจบอมรออยู่ก่อนหน้าแล้ว...

     

                    เพราะรู้เหตุผลดีว่าทำไมโอเซฮุนถึงไม่มีคอนโดส่วนตัว...

     

    “อย่าหาว่างั้นงี้เลยนะน้องแบมครับ... พี่เซฮุนกลัวจะต้องเจอกับสิ่งกึ่งมีชีวิตที่ต้องใช้วิจารณญาณในการรับชมอ้ะ แหะ ๆ”

     

                    เอาง่าย ๆ นะครับพี่เซฮุน... ตอบแบมมาแค่ว่าพี่เซฮุนกลัวผี แค่นั้นก็จบแล้วล่ะครับ

                    ถ้าไม่ติดว่าพี่เซฮุนดูเครียดกับงานอยู่ แบมจะย้อนไปแล้วนะครับว่าไม่ต้องสร้างภาพก็ได้... แบมเข้าใจว่าเรื่องแบบนี้มันไม่เข้าใครออกใคร

     

    *

     

    “แบม เบื่อไหม”

                    มาร์ค ต้วนใช้เวลากว่าชั่วโมงไปกับการช่วยเพื่อนรักแก้ไขงาน แน่นอนว่าต้องปล่อยให้แบมแบมนั่งเล่นโทรศัพท์รอโดยไม่ได้ถามไถ่ความเต็มใจสักเท่าไหร่นัก แต่ถ้าเกิดว่าเขาจะต้องปล่อยให้แบมกลับไปอยู่คนเดียวที่คอนโด เขาก็ไม่มั่นใจว่าเจ้าเด็กตาโตคนนี้จะสามารถดูแลตัวเอง (หรือดูแลคอนโดของเขา) ได้

     

                    จับมานั่งอยู่ด้วยกันแบบนี้ มาร์คสบายใจมากกว่า

     

    “ม่าย~ กำลังคุยไลน์กับพี่แจ๊คสันอยู่ พี่แจ๊คฝากบอกว่าคิดถึงทู้กกกกคนด้วยนะครับ แต่เมื่อกี้แบมเห็นว่าพี่ ๆ ดูเครียดกับงาน ก็เลยยังไม่ได้บอก” แบมแบมว่า เด็กน้อยในปกครองของมาร์คยิ้มแป้นเมื่อได้ทำหน้าที่เป็นผู้ส่งสารอย่างสมบูรณ์ “พี่เซฮุน พี่แจบอมมีอะไรฝากบอกพี่แจ๊คไหมครับ พี่มาร์คไม่ต้องบอกหรอกเนาะ อยู่กับแบมตลอดเวลา แบมพูดถึงพี่มาร์คให้พี่แจ๊คฟังตลอดนั่นแหละ”

     

                    มาร์คพยักหน้า ส่วนอีกสองคนรีบคิดหาประโยคบอกเล่าเพื่อให้น้องแบมเอาไปถ่ายทอดต่อทันที...

                    สร้างสรรค์ทั้งนั้น

     

    “ฝากบอกมันว่าพี่อยากกินติ่มซำ รีบกลับมาได้ละ เอามาฝากพี่ด้วย” จากอิมแจบอม

    “บอกมันทีว่าให้รีบ ๆ กลับ โอเซฮุนรับโทรศัพท์จากโรงพยาบาลที่มันหนีออกมาเป็นร้อยครั้งแล้วครับ” จากโอเซฮุน

                    กันต์พิมุกต์เด็กดีของทุกคนรีบพิมพ์ตามคำสั่งด้วยความว่องไว มาร์คแอบยิ้มกับท่าทางเหมือนเด็กน้อยเชื่อฟังผู้ใหญ่ของแบมแบมด้วยความเอ็นดู ทั้ง ๆ ที่ไม่จำเป็นต้องรีบบอกแจ๊คสัน หวังก็ได้ใช่ไหม แต่ตอนนี้แบมกำลังนั่งท่องประโยคของทั้งแจบอมและเซฮุนซ้ำไปซ้ำมาอย่างกับกลัวว่าจะเลือนหายไปจากสมองแบบนั้น...

     

                    ไม่รู้ว่าสายไปหยุดอยู่ที่ปากจิ้มลิ้มกับแก้มป่อง ๆ ของแบมตั้งแต่เมื่อไหร่...

     

    “ไอ้พี่มาร์ค! กูเรียกมึงสามล้านรอบแล้วมั้ง หันมาครับ ไอ้ซ๊าซซซซ ทำไมตรงนี้แม่งผิดอีกละวะ เชี่ย เพราะคิดประโยคคุยกับไอ้หวัง กูเลยคำนวณผิดพลาดไปอย่างไม่น่าให้อภัย!

    “มึงโทษตัวเองก่อนไหมไอ้เซฮุน โห แถวบ้านไม่ได้เรียกคำนวณผิด แบบนี้แถวบ้านพี่แจบอมเรียกโง่ครับ ไม่ต้องถึงมือไอ้มาร์ค มึงดูครับไอ้เซ มึงใส่ตัวเลขผิดจากที่เขียนเอาไว้ ผลคงจะออกมาให้มึงถูกอยู่หรอกไอ้สัส!” แจบอมว่า กองเอกสารหน้าปึกที่อยู่ในมือลอยเข้าหาศีรษะของเพื่อนรักด้วยความหมั่นไส้ทันที “ไอ้แจ๊คกลับมา มึงไปเข้ารับการรักษาที่เดียวกับมันเลยนะ เดี๋ยวกูจะแจ้งคุณนายแม่มึงไว้ให้”

    “อย่ามาปรักปรำ กูยังปกติดีครับ น้องแบมครับ อย่าเอานิสัยของอิมแจบอมจดจำและอย่านำไปใช้นะครับ ต้องสุภาพแล้วก็นิสัยดีอย่างพี่เซฮุนคนนี้”

    “นั่งเงียบ ๆ ก็ไม่มีใครว่ามึงหรอกมั้งเซฮุน งานเหลือส่วนของมึงเยอะสุดแล้วเนี่ย จะทำต่อไหม”

     

                    มาร์คไม่ได้อยากขัดจังหวะระหว่างการพูดคุยของเซฮุนกับแบมแบม... แค่อยากให้เพื่อนรีบเคลียร์งานให้มันจบ ๆ ไปก็เท่านั้นเอง...

     

    “พี่มาร์ค~ ถ้าแบมบอกว่าแบมหิวข้าวง่ะ”

                    นั่งต่อไปได้อีกไม่กี่นาที เด็กชายกันต์พิมุกต์ที่มักจะได้ทานอาหารตรงเวลาอยู่เสมอก็ทนไม่ไหว อาหารเย็นที่ควรจะได้กินตั้งแต่ช่วงหกโมงถูกละเลยมาจนถึงเกือบสองทุ่มในวันนี้...

    “เซฮุน บ้านมึงมีขนมปังหรืออะไรติดไว้บ้างไหม”

    “มีมั้งวะ มึงเดินไปที่ครัวดิ แต่พวกของสดไม่มี นมกับขนมน่าจะมีอยู่ พาน้องไปดูดิ งานเหลือนิดเดียว เดี๋ยวให้ไอ้จอบอช่วยทำ”

    “จอบอ?”

    “มึงอ่ะแหละไอ้สัส จอบอก็แจบอมไง แค่นี้ทำไม่รู้จักชื่อตัวเอง” แล้วโอเซฮุนจะย่อทำไม... อิมแจบอมก็แค่ไม่เข้าใจ “มึงไปเหอะไอ้มาร์ค น้องหิวละ เดี๋ยวน้องแบมผอมแล้วแก้มไม่ยุ้ย ไม่น่ารัก อิอิ รีบกินรีบกลับมาเป็นกำลังใจให้พี่เซฮุนนะครับน้องแบม”

    “รีบหยุดพูดรีบทำไปเหอะมึงอ่ะ ไอ้เซฮุน”

     

                    ขัดใจกูตลอดเลยนะไอ้มาร์ค!

                    กลัวไม่รู้หรือไงวะว่าหวงน้องไอ้แจ๊คสัน หวังอ้ะ! อย่านะ... อย่าให้ได้เจอตัวเป็น ๆ ของไอ้หวัง พ่อจะสาธยายทุกอย่างให้ไอ้เพื่อนสติพังฟังเลยว่ามาร์ค ต้วนแม่งอันตรายต่อความใสซื่อบริสุทธิ์ของน้องแบมแค่ไหน...

                   

                    ไอ้มาร์ค ต้วนคนแกล้งซึน! มึงมันร้ายยยยยยยยยยยย!

     

    *

     

    “กินขนมปังกับนมรองท้องไปก่อนแล้วกัน... อีกแป๊บนึงคงเคลียร์งานเสร็จแล้วล่ะ” มาร์คพูดพร้อมกับยื่นแก้วนมและขนมปังให้กับคนเด็กกว่า กันต์พิมุกต์ยิ้มหวาน ก่อนที่จะรับขนมปังและแก้วกลมมาไว้กับตัวด้วยความเต็มใจ...

     

                    หลังจากนั้นก็เคี้ยวหงับจนแก้มทั้งสองข้างตุ่ยขึ้นมา...

                    มองแบมแบมทีไร... มาร์คไม่เคยคิดถึงคำอื่นได้นอกจากเด็กคนนี้... น่ารัก

     

    “จริง ๆ พี่มาร์คไม่ต้องรีบหรอกครับ แบมแค่บอกว่าหิวเฉย ๆ แต่ว่ายังไม่ได้กินก็ไม่เป็นไรนะ รอพี่มาร์คงานเสร็จเรียบร้อย แล้วก็ค่อยไปกินข้าวทีเดียวก็ด้าย~

     

                    พนันกันได้เลย... ที่แบมพูดแบบนี้เพราะว่ามีขนมรองท้องไว้แล้ว... ไม่อยากนั้นมาร์คคงได้เห็นเด็กน้อยนั่งหน้างอแล้วไม่ยอมพูดอะไรก็ได้

                    แบมแบมเป็นเด็กเอาแต่ใจ... มาร์คเคยบอกไปแล้วใช่หรือเปล่าว่าน้องไอ้แจ๊คไม่ได้เรียบร้อยและเชื่อฟังขนาดนั้น

     

    “ไม่เป็นไร”

    “งั้นกลับไปในห้องทำงานกันดีกว่าครับ แบมถือแก้วนมกับขนมไปกินในนั้นได้ใช่ม้า พี่เซฮุนจะไม่ว่าเพราะกลัวมดขึ้นห้องใช่หรือเปล่า เอ้ย ที่นี่มีมดไหมครับ จะว่าไปตั้งแต่แบมมาเกาหลี แบมเคยเจอมดไหมหว่า...”

                    แล้วมันใช่เรื่องที่ควรจะมาสงสัยตอนนี้ไหม...

    “เซฮุนมันไม่ว่าอะไรแบมหรอก ป่ะ เสร็จแล้วจะได้รีบไปกินข้าวกันนะ... เด็กอ้วน”

     

                    พี่มาร์คว่าแบมอ้วนอีกแล้วนะ!

                    บอกว่าแบมม่ายอ้วนนนนนนน

     

    *

     

    “งานมึงเสร็จแล้วเหรอวะ เซฮุน”

                    เหตุผลที่คำถามของมาร์คเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ก้าวเข้ามาในห้อง เป็นเพราะว่าตอนนี้โอเซฮุนนอนท้าวคางทอดตัวยาวและจดจ้องโน้ตบุ๊คด้วยความตั้งใจ

     

                    เปิดเฟสบุ๊คส่องชาวบ้านไปเรื่อย... ได้ข่าวว่างานมันยังไม่เสร็จใช่ไหม

     

    “เกือบละ เหลือกระติ๊ดเดียวเอง น้องเซฮุนไม่รีบ กลัวพรุ่งนี้ว่าง”

    “แทนที่มึงจะทำให้เสร็จ” มาร์คบ่น แต่เขาก็ไม่คิดว่าจะมีความจำเป็นข้อไหนที่จะบังคับให้เพื่อนทำ ในเมื่อเซฮุนมันอยากเหลืองานเอาไว้ ก็ไม่ใช่ธุระกงการอะไรของเขาที่ต้องไปยุ่งจริงไหม “เสร็จให้ทันวันจันทร์แล้วกัน แล้วมึงล่ะแจบอม”

    “ส่วนของกูเรียบร้อยไปละ ไอ้สัส ขอสบถอย่างหยาบคายอีกครั้ง งานเหี้ยนี่แม่งยากเหี้ย ๆ จนกูอยากลาออกจากการเป็นนักศึกษา”

    “น้องแบมครับ พี่เซฮุนว่าครั้งหน้าตอนแจบอมพูด น้องแบมต้องปิดหูเอาไว้นะครับ”

    “น้องแบมอย่าไปสนใจเซฮุน มันบ้า” แจบอมรีบแก้ตัว (แก้ด้วยการด่าว่าคนอื่นบ้า แหม พ่อคนสติดี จากเซฮุน)

    “งั้นกูกลับแล้วนะ จะพาแบมไปกินข้าว” มาร์คว่า ชายหนุ่มเดินเข้าไปคว้ากระเป๋าทั้งของตัวเองและของแบมแบม ส่วนเด็กน้อยหนึ่งเดียวในห้องยังคงถือแก้วนมและขนมปังที่ยังกินไปไม่ถึงครึ่งเท่านั้น...

     

                    อ้าว ตกลงกันต์พิมุกต์จะได้ไปทานข้าวแล้วใช่ไหมครับ

     

    “กูก็หิวข้าวเหมือนกันอ้ะ พากูไปกินด้วยดิ” เซฮุนพูด โดยมีลูกคู่เป็นอิมแจบอมตะโกนโหวกเหวกขึ้นมาว่ายังไม่ได้มีข้าวสักเม็ดตกถึงท้องตั้งแต่เข้าช่วงบ่ายจนถึงเย็น

    “ไม่”

    “ทำไมวะพี่มาร์คคคคคค มึงมันคนใจร้าย ฮึก” โอเซฮุนคร่ำครวญ ดูเหมือนว่าจะยังเรียกสติที่สมบูรณ์พร้อมกลับมาจากการทุ่มเทจิตวิญญาณเอาไว้ในการทำงานไม่ได้

     

                    แบมแบมล่ะเชื่อพี่เซฮุนเลย

                    เขาเรียกว่าอะไรนะ... หล่อเสียเปล่า ประมาณนี้ล่ะมั้ง (แบมไม่ได้ว่าพี่เซฮุนนะ! แบมแค่ยกตัวอย่างเท่านั้นเอง)

     

    “ขี้เกียจรอ แบมหิว กว่าพวกมึงจะเตรียมตัวเสร็จ แบมไส้กิ่วกันพอดี”

                    อิมแจบอมยักไหล่ ส่วนเซฮุนที่เมื่อไม่กี่วินาทีก่อนยังทำเป็นครวญคร่ำตัดพ้อพี่มาร์คก็ทำเพียงแค่ไล่ส่องเฟสบุ๊คของชาวบ้านต่อไป...

     

                    เห็นได้ชัดว่าไอ้ที่พูด ๆ ไปก่อนหน้า ก็แค่อยากทดสอบปฏิกิริยาของมาร์ค ต้วนเท่านั้น

     

    “งั้นแบมไปก่อนละน้า พี่เซฮุนครับ เดี๋ยวแบมเอาแก้วกับขนมวางไว้ในห้องครัวให้นะครับ”

    “เอ้ยไม่ต้องครับน้องแบม วางไว้ตรงนั้นแหละ เดี๋ยวพี่ใช้ให้ไอ้แจบอมไปเก็บเองครับ น้องแบมรีบไปเหอะ มาร์คมันยืนรอละ เดี๋ยวมันเข้ามาต่อยพี่ ข้อหาใช้แรงงานน้องแบม”

    “ฮ่า ๆ ถ้างั้นแบมไปจริง ๆ ละ สวัสดีพี่แจบอมกับพี่เซฮุนนะครับผม ไว้เจอกันอาทิตย์หน้าน้า~

    “บ๊ายบายครับน้องแบม~~

     

                    อิมแจบอมและโอเซฮุนล่ำลาน้องชายแก้มป่องพร้อม ๆ กัน และโดยมิได้นัดหมาย ชายหนุ่มสองคนที่ทำเป็นไม่สนใจมาร์ค ต้วนเพื่อนรักก็หันมายกยิ้มร้ายให้กัน...

     

                    ไอ้มาร์คมันรู้ตัวไหมวะ... พักหลังมามันชักจะเอาใจใส่น้องชายไอ้แจ๊คสัน หวังเกินหน้าที่ไปหน่อยแล้วล่ะมั้ง...

                   

                    ตอนแรกที่ยังไม่สังเกตอะไรมากมันก็ไม่เท่าไหร่... แต่ยิ่งได้เห็นชัดเจนกับตาไปทุก ๆ วันมันก็ยิ่งสัมผัสได้ถึงการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับเพื่อนรัก...

     

                    ลองคิดภาพเปรียบเปรยง่าย ๆ

                    ตอนนี้มาร์ค ต้วนก็คงเหมือนประติมากรรมน้ำแข็งที่กำลังถูกหลอมละลายให้รูปลักษณ์ที่เคยแข็งกระด้างแปรเปลี่ยนไป...

                    การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ด้วยฝีมือของนายช่างตัวน้อย

     

                    ใครว่าน้ำแข็งอย่างมาร์คไม่มีวันละลาย

                    ใช่ที่ไหนกัน

     

    *

     

    - 60% -

                   

    *

     

                    ปกติแล้วในทุกเช้าของทุก ๆ วันจะเป็นพี่มาร์คที่คอยปลุกให้แบมแบมตื่นทันไปเรียน หรือถ้าหากเป็นวันอาทิตย์เช่นวันนี้ ยังไงก็ต้องเป็นพี่มาร์คที่มาเคาะประตูเรียกแบมที่ห้องอยู่ดี...

     

                    แต่เช้านี้ผิดปกติตรงที่ว่า... เด็กชายกันต์พิมุกต์ต้องกลายมาเป็นคนตะโกนปลุกพี่มาร์คแทน

     

    “พี่มาร์คคคคค จะ 10 โมงแล้วน้า แบมหิวข้าววววววว”

     

                    แบมไม่ได้คิดแต่เรื่องกินนะ... แต่ว่าเด็กที่ดีควรกินอาหารทุกมื้อให้ตรงเวลาจริงไหม เพราะไม่อย่างนั้นจะเป็นโรคกระเพาะเอาได้ ซึ่งมันไม่ดีกับสุขภาพ

     

    “พี่มาร์ค~~~

                    ทดลองส่งเสียงเพื่อเป็นสัญญาณรบกวนให้คนภายในห้องอีกครั้ง แบมรู้ว่าพี่มาร์คไม่ใช่คนประเภทนอนดึกตื่นสาย แต่พี่ชายคนนี้เป็นพวกนอนเร็วหรือนอนดึกแค่ไหนก็มักจะตื่นเช้าอยู่เสมอต่างหาก

     

                    แต่สำหรับเมื่อคืน... อาจจะเป็นเพราะทั้งนอนดึกและใช้สมองไปกับการช่วยสองเพื่อนสนิทอย่างพี่แจบอมและพี่เซฮุนแก้งาน การที่โทรมาหาพี่มาร์คตอนเที่ยงคืนเพื่อบอกว่าเกิดข้อผิดพลาด แบมไม่คิดว่าพี่มาร์คจะสามารถช่วยแก้ได้ในเวลาห้านาที ทั้งที่ก่อนออกมาจากบ้านพี่เซฮุนบอกว่างานจะเสร็จแล้วนะ

     

                    แบมก็ไม่เข้าใจ... แต่ตอนนั้นไม่คิดจะถามอะไรต่อเพราะว่าแบมง่วงซะก่อน

                    ไม่รู้ว่าพี่มาร์คได้นอนตอนกี่โมง...

     

    แกร๊ก

                    เสียงเปิดประตูดังขึ้นพร้อม ๆ กับใบหน้าง่วงงุนของมาร์ค ชายหนุ่มที่เพิ่งจะได้หลับอย่างเป็นจริงเป็นจังตอนที่สามจวนจะตีสี่เกือบจะลืมตามองหน้าแบมแบมไม่ไหว สุดท้ายพอได้ยินเสียงเรียกของกันต์พิมุกต์หลาย ๆ ครั้งเขาก็จำเป็นต้องลากตัวเองให้ลุกขึ้นมาหาแบมอยู่ดี

                ง่วงโคตร ๆ

                    สภาพที่เกือบจะเรียกได้ว่ายับเยิน(?)ของพี่มาร์คทำเอาแบบอ้าปากค้าง ทั้งผมที่ยุ่งเหยิง ดวงตาที่บวมตุ่ยและแอบคล้ำเพราะขาดการพักผ่อน ไหนจะพยายามลืมขึ้นมามองแบมทั้ง ๆ ที่จะลืมไม่ไหวแบบนั้น...

                    กึ่งจะหลับ กึ่งจะตื่น แบมควรทำยังไง~

    “พี่มาร์คไหวป้ะครับเนี่ย โหย เมื่อคืนทำงานถึงกี่โมงอ่ะครับ หิวไหม อยากกินอะไรหรือยัง เดี๋ยวแบมไปทำข้าวต้มให้นะ หรือว่าอยากกินอย่างอื่น พี่มาร์คคคคคคค ตื่นนนนนนน”

                   

                    แล้วใครจะเชื่อว่ามาร์ค ต้วนจะหลับตาใส่แบมแบมทั้งที่กำลังถูกรัวคำถามใส่... ทำยังไงได้ในเมื่อตอนนี้มาร์คง่วงจนแทบจะยืนฟังไม่ไหวแล้วจริง ๆ

     

    “โอเค กินอะไรก็ได้ พี่ขอนอนต่ออีกครึ่งชั่วโมงนะแบม”

    “งั้นอีกครึ่งชั่วโมงเดี๋ยวแบมมาเรียกอีกทีนะครับ” กันต์พิมุกต์พูดด้วยน้ำเสียงกระตือรือร้น คนเด็กกว่าหมายมั่นปั้นมือเอาไว้เป็นอย่างดีว่าวันนี้จะต้องได้ทำกับข้าวให้พี่มาร์คด้วยมือตัวเองอีกครั้ง

     

                    นอกจากช่วงแรก ๆ ที่เข้ามาอยู่กับพี่มาร์ค แบมก็แทบจะไม่เคยทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันอีกเลย

                    แบมแบมไม่ได้ขี้เกียจนะ... แต่รู้ตัวอีกทีก็มีคนคอยพาไปทำนู่นทำนี่จนไม่ต้องทำอะไรเองแล้วอ้ะ จะทำยังไงได้~

     

    “แบม”

    “ครับผม”

    “ถ้าหิวแบมก็กินก่อนพี่เลยนะ ไม่ต้องรอก็ได้...”

     

                    จะง่วงมากแค่ไหน... มาร์คก็ยังเป็นห่วงน้องชายของเพื่อนมาก ๆ อยู่ดี

     

    “ไม่เป็นไรครับ รอพี่มาร์คกินพร้อมกันดีกว่า แบมรอได้ สบายมาก!

     

    *

     

    “อร่อยใช่ม้าพี่มาร์ค! แบมตั้งใจทำสุดฝีมือเลยนะ สูตรคุณแม่ของแบมเอง รับรองว่าไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือน โชคดีจังที่วันก่อนแอบซื้อของสดมาติดตู้เย็นเอาไว้ ไม่งั้นนะ... ห้องพี่มาร์คไม่เคยมีอะไรซ้ากกกอย่าง” แบมแบมว่า เด็กน้อยแก้มป่องดูท่าทางตั้งใจนำเสนอข้าวต้มกุ้งสูตรพิเศษแบบฉบับครอบครัวภูวกุลอย่างภาคภูมิใจ

     

                    อร่อยมากจริง ๆ นะครับ ไม่เชื่อลองหาโอกาสมาชิมฝีมือแบมแบมก็ได้!

     

    “พี่เป็นคนซื้อให้แบม จะเรียกว่าแอบซื้อได้ยังไง” มาร์คย้อนถาม เมื่อต้นสัปดาห์เขาพาแบมไปที่ซุปเปอร์มาเก็ตตามคำเรียกร้อง เพราะเด็กแก้มป่องต้องการจะซื้อของมาตุนเอาไว้

     

                    ต้องอธิบายให้เห็นภาพชัด ๆ ว่าแบมแบมเหมือนเด็กน้อยที่ได้เข้าไปในสวนสนุกไม่มีผิด... เจออะไรก็ถูกใจ คว้าอะไรได้ก็หยิบเข้ารถเข็นทุกอย่างจนมาร์คที่คิดจะห้าม ยังห้ามไม่ทัน

                    สุดท้ายก็เลยตามใจทุกอย่าง... จะได้ของแห้งของสด ของคาวของหวานมาอัดเต็มตู้เย็น

                   

                    ทั้ง ๆ ที่เคยมีเพียงห้องว่างเปล่าและตัวเขาคนเดียวเท่านั้น... ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไป... ไม่ช้า... แต่ก็ไม่ได้รวดเร็วจนมาร์คตั้งตัวไม่ทัน...

     

                    แต่ที่แน่ ๆ มาร์ครู้ว่าแบมแบมกำลังกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเขาไปแล้วจริง ๆ 

     

    “เอ้อ... จริงด้วยเนาะ” กันต์พิมุกต์หัวเราะแห้ง ๆ ให้กับพี่ชาย มือน้อยคนลงไปในชามข้าวต้มแก้เก้อ มีอย่างที่ไหนพูดว่าแอบเจ้าของเงินซื้อ         ลืมไปสนิทว่าคนจ่ายเงินคือพี่มาร์ค... แหะ ๆ

                   

                    พี่มาร์คใจดีกับแบมมาก ๆ ... มากจนแบมไม่อยากไปอยู่กับใครแล้ว...

                    ถึงจะเป็นพี่แจ๊คสันที่เกือบจะเรียกได้ว่ารู้จักกันมาทั้งชีวิต

                    แบมจะทำยังไงดี...

     

    “แบมแบม”

                    อยู่ ๆ เสียงทุ้มของมาร์คก็ดังขึ้นแทรกความเงียบงัน เด็กชายกันต์พิมุกต์ที่ถูกเรียกขึ้นอย่างไม่ทันได้ตั้งตัวสะดุ้งเฮือก ตามว่าทำไมถึงตกใจขนาดนั้น คงเป็นเพราะกันต์พิมุกต์กำลังตกอยู่ในห้วงของความคิดและความรู้สึกบางอย่างที่ซับซ้อนเกินกว่าเด็กม.ปลายจะทำความเข้าใจ

     

                    เพราะเด็กผู้ชายที่แสนสดใสคนนี้... ไม่เคยมีความรัก

                    เด็กผู้ชายที่กำลังจะเปลี่ยนโลกทั้งใบของใครบางคน... ไม่เคยรู้ว่าการที่หัวใจเต้นแรงและรู้สึกมีความสุขอยู่ตลอดเวลา...

     

                    เหตุผล... มันคืออะไร

     

    “ครับพี่มาร์ค”

    “เมื่อวานพี่มัวแต่คิดเรื่องงาน เลยลืมบอกแบมไปเลยว่าไอ้แจ๊คฝากบอก...” มาร์คยังไม่ทันพูดจบ แต่เสียงของเด็กน้อยแก้มกลมก็ดังแทรกขึ้นมาต่อทันที

    “เรื่องพี่ชายของแบมใช่ม้า แบมรู้แล้วล่ะครับ พี่แจ๊คสันบอกว่าพี่ชายแบมจะมาสองสามวันนี้ แต่ยังไม่แน่ใจวันที่แน่นอน” แบมแบมว่า นัยน์ตากลมใสดูมีประกายอย่างเห็นได้ชัด “แบมคิดถึงพี่ชายมากสุด ๆ ไม่เคยอยู่ห่างกันนานขนาดนี้ พี่มาร์ครู้ไหมครับ ขนาดตอนที่พี่คุณไปเรียนมหาลัย แบมยังงอแงขอให้คุณแม่พาไปหาพี่คุณอยู่บ่อย ๆ เลยนะครับ

     

                พี่คุณ...?

     

    “พี่ชายแบม... พี่คุณ?” มาร์คทวน เขาไม่ค่อยคุ้นชื่อในภาษาของแบมแบมเท่าไหร่นัก แล้วพอได้รับคำตอบแบบละเอียดยิบชนิดที่ว่ามาพร้อมทั้งชื่อจริง นามสกุล มหาลัยและคณะที่เรียน รวมไปทั้งอายุที่ห่างกันถึง 8 ปี มาร์คก็ได้แต่พยักหน้ารับฟังไปเรื่อย ๆ เท่านั้น

     

                    ไม่แปลกใจว่าทำไมแบมแบมถึงได้เป็นเด็กทั้งน่ารัก... แต่ก็ดูเอาแต่ใจ

                    คงเป็นเพราะทั้งพี่ชายแล้วก็คุณแม่ไม่เคยขัดใจ อยากได้อะไรคงได้ตามนั้นทุกอย่าง... ซึ่งมาร์คคิดว่ามันคงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจจริง ๆ อย่างที่ว่า...

     

                    มีน้องชายน่ารักแบบนี้ พี่ชายที่ไหนจะกล้าทำให้งอแง... จริงไหม

     

    “ถ้างั้น... แบมมาเรียนเกาหลี ไม่กลัวเหงาเหรอ” มาร์คถาม นั่งท้าวคาวมองเจ้าของแก้มกลมนั่งเจื้อยแจ้วพูดอธิบายอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย

                    เพลินดีเหมือนกัน...

    “กลัวสิครับ แต่คุณแม่บอกว่าถ้าแบมไม่ลอง แบมก็จะไม่โตเป็นผู้ใหญ่สักที แต่ที่จริง... ตอนรู้ว่าพี่คุณจะให้แบมมาอยู่กับพี่แจ๊คสัน แบมก็โล่งใจไปเกินครึ่งแล้วครับว่าไม่ต้องกลัวเหงา พี่แจ๊คพูดมาก”

                    มาร์คหัวเราะเบา ๆ พร้อมกับส่ายหน้า กันต์พิมุกต์อาจจะลืมไปว่าตัวเองก็ไม่ใช่คนพูดน้อยเลยสักนิด ไม่อยากจะคิดเลยว่าถ้าเขาต้องอยู่กับแจ๊คสัน หวังและน้องชายคนโปรดของมัน ... เขาจะมีสภาพเป็นยังไง

     

                    ไมเกรนคงขึ้น  

     

    “พูดมากจริง ๆ นะพี่มาร์ค! เป็นเพื่อนพี่แจ๊คสันต้องรู้ดิว่าพูดเยอะแค่ไหน แต่สนุกดี แบมชอบพี่แจ๊คสันนะ อยู่ด้วยแล้วมีความสุข...”

                   

                    ถ้าหากมาร์ครู้สึกว่ากล้ามเนื้อใต้อกซ้ายเต้นเสียจังหวะ... จะแปลกไหมนะ

                    การที่เขาได้ยินว่าแบมชอบแจ๊คสัน หวัง... ทำไมถึงได้เกิดปฏิกิริยาแบบนี้กัน

     

    “อ่าฮะ...” มาร์คแค่เออออรับไปเท่านั้น

     

                    กันต์พิมุกต์ยังคงพูดเจื้อยแจ้วต่อไป...

                    แน่นอนว่ามาร์ค ต้วนก็ยังเลือกที่จะนั่งมองเจ้าของใบหน้าจิ้มลิ้มเล่าเรื่องทั้งในครอบครัว และเรื่องของตัวเองให้ฟังอย่างไม่คิดปิดบัง

     

                    จนกระทั่งแบมแบมย้อนกลับมาพูดถึงเรื่องที่แจ๊คสัน หวังโยนภาระที่มีชื่อว่ากันต์พิมุกต์มาให้กับมาร์ค...

     

    “ต้องบอกก่อนว่าตอนนี้แบมไม่ได้คิดมากเรื่องที่ว่าจะเป็นภาระหรือว่าไม่นะ... เพราะยังไงแบมก็คงจะต้องอยู่กับพี่มาร์คก่อนอยู่ดี แหะ ๆ” แบมเกริ่น เด็กชายยิ้มกว้างจนตาหยีก่อนที่จะเริ่มพูดต่อไป “แต่แบมมีคำถามค้างคาใจ ตอนแรกที่พี่มาร์ครู้ว่าต้องให้เด็กที่ไหนก็ไม่รู้มาเป็นรูมเมทด้วย พี่มาร์ครู้สึกยังไง...”

     

                    ความเงียบและคิ้วของมาร์ค ต้วนที่ขมวดเข้าหากัน... เป็นคำตอบให้กับแบมแบมในครั้งแรก

                   

    “อ่า... ถ้าพี่มาร์คไม่อยากตอบก็เก็บคำตอบไว้ก็ได้นะ แต่แบมอยากเล่าให้ฟัง!” แบมแบมพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น ตามด้วยการย้ำกับมาร์คว่า ฟังแบมนะ ฟังน้า ก่อนที่จะเริ่มเล่าออกมา

    “ตอนแรกแบมเกรงใจมาก... อยากจะด่าพี่แจ๊คสันหรือไม่ก็ตามไปเตะที่ฮ่องกงให้รู้แล้วรู้รอดที่ทำแบบนี้ แล้วพี่แจ๊คนะ... บอกแบมเอาไว้ว่าพี่มาร์คที่จะให้ไปอยู่ด้วยน่ะ... ใจดีมาก” แบมแบมว่า

     

                    ไอ้เรื่องใจดีน่ะไม่เถียง แต่พี่แจ๊คไม่เห็นจะบอกแบมเลยว่ามีเพื่อนเงียบเหมือนคนเป็นใบ้แบบนี้

                    (หมายถึงตอนแรก ๆ ที่เจอกันนะ แบมคิดว่าพูดอยู่กับหุ่นไล่กา)

     

    “แล้วแบมคิดว่าไง”

    “แบมก็คิดว่าพี่มาร์คเป็นใบ้” แบมแบมแกล้งตอบ พอเห็นมาร์คเลิกคิ้วและตั้งท่าจะแกล้งดีดนิ้วลงบนหน้าผาก แบมก็รีบแก้คำตอบออกมาทันที “ล้อเล่นครับ แบมก็คิดว่าพี่มาร์คเป็นคนดุมาก แล้วก็ต้องเจ้าระเบียบมาก ๆ ต่างหาก...”

    “แล้วตอนนี้ล่ะ”

    “พี่มาร์คใจดีมาก... แล้วก็ไม่ได้เงียบอย่างที่แบมเคยแอบกลัวมาตลอดเลยด้วย... เทียบกับตอนแรกที่เจอพี่มาร์ค ตอนนี้แบมเหมือนไม่ได้คุยอยู่กับเสาอากาศแล้วครับ”

     

                    มาร์ค ต้วนควรจะดีใจหรือเสียใจกับการเปรียบเทียบครั้งนี้...

     

    “พี่มาร์คพูดเยอะ ๆ ดีกว่าพี่มาร์คนิ่ง ๆ น้า แบมว่า...”

    “เหรอ...”

    “อื้อ แต่พี่มาร์คก็ยังไม่ค่อยยิ้มอยู่ดี ทำไมล่ะครับ ยิ้มบ่อย ๆ สิ กลัวสาว ๆ จะไม่ประทับใจความขรึมหรือยังไงกันครับ” แบมแกล้งแซว

     

                    ถ้าย้อนกลับไปเดือนที่แล้ว พูดได้เลยว่าคงไม่มีการกล้าแกล้งแซวพี่ชายที่ชื่อมาร์คแบบนี้แน่นอน

     

    “อืม กลัวเรตติ้งตก ต้องรักษามาด”

    “โห... เล่นกลับด้วยอ้ะ ฮ่า ๆ” แบมหัวเราะอย่างอารมณ์ดี พร้อม ๆ กับที่เตรียมตัวจะลุกขึ้นเก็บโต๊ะอาหารให้เรียบร้อย แต่ทว่าเสียงโทรศัพท์ที่ถูกวางแน่นิ่งเอาไว้ที่โซฟากลับกรีดร้องดังแทรกขึ้นมาเสียก่อน

     

                    ถ้าเป็นโทรศัพท์มาร์ค... ปกติจะตั้งสั่นเตือนในวันพักผ่อน เพราะฉะนั้นถ้าเสียงดนตรีดังนำขึ้นมาแบบนี้ ย่อมต้องเป็นเสียงเรียกเข้าของกันต์พิมุกต์ผู้หลงใหลในการ์ตูนญี่ปุ่นอยู่แล้ว

     

    “ไปรับโทรศัพท์เถอะแบม เดี๋ยวพี่เก็บเอง” มาร์คบอก แล้วก็ต้องพยักหน้ายืนยันกับน้องชายแก้มป่องอีกครั้งว่าเขาทำได้จริง ๆ

                    ไม่เห็นจะต้องเลิกคิ้วทำหน้าไม่เชื่อใจมาร์คแบบนั้น ถึงจะไม่เคยเข้าครัวอย่างคนอื่น แต่ก็ใช่ว่าเขาจะซุ่มซ่ามเดินสะดุดขาตัวเองแล้วก็ล้มลงไปดื้อ ๆ ให้ได้แผลหรอกนะ

                (อย่าแซะน้องแบม...)

    “งั้นแบมไปรับโทรศัพท์น้า~               

                    เด็กชายกันต์พิมุกต์วิ่งเข้าไปหยิบเครื่องมือสื่อสารด้วยความเร็วแสง แล้วมาร์คที่กำลังจัดการกับเหล่าจานชามของมื้อเช้าที่ควบมื้อกลางวันก็ต้องเลิกคิ้วด้วยความสงสัย เพราะเสียงตะโกนดีใจของแบมแบมที่ดังก้องจนเขาต้องหันไปมองเพื่อขอคำตอบจากเด็กในปกครอง...

     

                    แล้วก็ได้คำตอบให้หายข้องใจ กันต์พิมุกต์แค่ดีใจที่ได้คุยกับพี่ชาย หมายถึงพี่ชายร่วมสายเลือด ไม่ใช่พี่ชายตัวปลอมอย่างไอ้แจ๊คสันที่ขยันหมั่นเพียรโทรมาเช็คความเรียบร้อยตลอดเวลา...

                   

                    คงคิดถึงครอบครัว...

     

    “พี่คุณจะมาหาแบมจริง ๆ นะ ไม่โกหกแบมใช่ป่าว ชอบทำให้แบมดีใจเก้อ แล้วพี่คุณก็ติดงานตลอดเลย”

                    มาร์คเดินออกมาจากส่วนของครัว เขาทิ้งตัวลงนั่งข้าง ๆ แบมแบมพร้อมกับส่งถ้วยไอศกรีมร้อกกี้โร้ดที่เจ้าตัวร่ำร้องอยากซื้อมาเก็บไว้ เด็กแก้มป่องที่ยังคงคุยจ้อกับพี่ชายไม่รอช้าที่จะรีบหันมายิ้มกว้าง จากที่มือข้างหนึ่งจับโทรศัพท์แนบหูเอาไว้ก็กลายเป็นยื่นมารับไอศกรีมและช้อนไว้ทั้งสองมือ

     

                    โทรศัพท์เครื่องน้อยเลยต้องถูกแนบใบหูโดยหัวไหล่อย่างช่วยไม่ได้ ส่วนมือน้อยทั้งสองก็ใช้งานประสานกันอย่างดีด้วยการถือไอศกรีมข้างหนึ่ง ตักเข้าปากข้างหนึ่งด้วยความสุขใจ

     

                    ความสามารถในการกินไปและพูดคุยไปโดยไม่ติดขัด...

                    เด็กแก้มป่องกำลังทำให้มาร์ครู้สึกอยากจะดีดจมูกให้หายหมั่นเขี้ยวสักที...

     

    “ตอนนี้แบมอยู่คอนโดของพี่มาร์ค พี่คุณอยากเจอพี่มาร์คใช่ไหม อ่าฮะ พี่ชายก็รีบมาหาน้องแบมสิ~” แบมแบมยังคงคุยโทรศัพท์อย่างเพลินใจ ข้าง ๆ กันก็ยังคงมีมาร์คที่นั่งอ่านหนังสือไปพลาง เช็คข่าวในโทรศัพท์ไปพลาง

     

                    แล้วก็... แอบมองเด็กอ้วนนั่งกินไปคุยไป...

                    หนีบโทรศัพท์เอาไว้กับคอแบบนั้นมันถนัดที่ไหนกัน

     

    “แบม” มาร์คเรียกเด็กน้อยด้วยเสียงกระซิบ เพราะกลัวว่าจะเป็นการรบกวนบทสนทนาทางไกลระหว่างพี่ชายและน้อยชาย ส่วนคนถูกเรียกก็หันมาทำหน้างง ๆ ใส่ว่าพี่มาร์คเรียกเพราะอะไร

    “ถือโทรศัพท์คุยดี ๆ ส่งไอศกรีมมา”

     

                    แบมแบมย่นคิ้ว... พี่มาร์คจะให้แบมคืนได้งาย ยังอยากกินอยู่เลยนะ!

                    แล้วดูเหมือนว่ามาร์คจะรู้ความจริงข้อนั้นเป็นอย่างดี... ถึงได้มีข้อเสนอที่ทำให้เด็กน้อยม.ปลายรีบพยักหน้ารับด้วยความเต็มใจ

     

                    นอกจากจะได้นั่งเล่นนอนเล่นคุยกับพี่ชาย... ยังมีคนป้อนไอศกรีมให้ถึงปากแบบนี้

                    แบมจะปฏิเสธได้ยังไง~

     

    “เดี๋ยวพี่ป้อนให้ นั่งดี ๆ ดิเด็กอ้วน อย่านอนแบบนั้น ”

    “แบมไม่อ้วนนนน พี่คุณ พี่มาร์คว่าแบมอ้วนง่ะ”

    “ไม่ได้ว่า... แต่ลุกขึ้นมานั่งดี ๆ ไม่งั้นพี่ไม่ให้กินแล้วนะแบม”

    “ก็ด้ะ!

                    แล้วสุดท้ายแบมแบมก็ได้นั่งคุยกับพี่ชายด้วยความสบายใจ โดยมีผู้ปกครองจำเป็นที่นั่งอ่านหนังสืออยู่ข้าง ๆ ไปพร้อมกับคอยตักไอศกรีมรสโปรดให้เด็กน้อยงับเข้าปากแล้วอมตุ่ยเอาไว้ข้างแก้ม...

                   

                    มีพี่ชายที่ไหน... ที่ดูแลน้องชายได้ดีทุกเรื่องอย่างที่มาร์ค ต้วนทำให้น้องชายคนนี้บ้างไหมนะ

     

                    มาร์ค ต้วนอาจจะรู้ตัวหรือไม่รู้ก็ได้... ว่าความรู้สึกที่เคยมีให้กับเด็กคนหนึ่งที่เคยคิดว่าน่ารำคาญกำลังจะค่อย ๆ แปรเปลี่ยนไป

                    คงรู้... แต่ก็ขึ้นอยู่กับว่าจะยอมรับ... หรือปล่อยผ่านไป

                   

                    กันต์พิมุกต์จะรู้ตัวหรือไม่ว่าสิ่งที่ได้รับจากคน ๆ หนึ่งที่คิดว่าเป็นพี่ชาย... มันอาจจะกลายเป็นความรู้สึกที่เพิ่มพูนมากขึ้นอย่างที่ไม่เคยได้สัมผัสมาก่อน

     

                    บางที... อย่างที่โอเซฮุนและอิมแจบอมเคยบอกเอาไว้...

                    ที่ที่แจ๊คสัน หวังคิดว่าปลอดภัยกับน้องชายมากที่สุด... มันคงเป็นที่ที่อันตรายได้อย่างไม่น่าให้อภัย

     

                    อย่างน้อย... ก็คงต้องบอกว่าอันตรายกับหัวใจ

                    จริงไหม?

     

    TALK: by @bpuppyy_

                    มาเต็มแล้วค่ะ! กรีดร้องกับพี่มาร์ค ใครอยากได้ขอให้ยกมือขึ้น ฮื่อออออ *อยากได้มาครอบครองสักหนึ่งคน เงียบเป็นเป่าสากกว่านี้ก็จะรับไว้ 55555*

                    ขอบคุณกับทุกคอมเมนท์เช่นเคยนะคะ ดีใจมากกกกกเหมือนเดิม แล้วก็เรื่องการลงในตอนต่อ ๆ ไป ถ้าเป็นไปได้เราจะพยายามให้ครบร้อยแล้วลงนะคะนะ เพื่อความฟินแบบต่อเนื่อง ฮา~ หรือถ้าลงเป็นเปอร์เซ็นต์ เราก็จะพยายามต่อกันแบบไม่เกินสองวันนะคะ

                    เรื่องสุดท้ายของวันนี้... สนใจอยากให้ตัวละครใน #ฟิคเด็กพี่มาร์ค มีบอทมาโลดแล่น(?)ดูไหมหว่า~ แสดงความคิดเห็นของนักอ่านทุกท่านเอาไว้ได้ทั้งในแท๊กและในคอมเม้นท์นะคะนะ ถ้าอยากให้มี แน่นอนว่าจะต้องมา ฮา น้องแบมคนน่ารัก พี่มาร์คคนประหยัดคำพูด พี่หวังสายตรง คู่หูต่างขั้วโอเซจอบอ...

    หรือถ้าใครสนใจอยากลองเล่นบอทคนไหน... แอบกระซิบบอกเราได้ที่ทวิต @bpuppyy_ นะคะนะ มาสนุกกับเด็กพี่มาร์คกันเถอะ!

      

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×