ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [GOT7fiction] adorable baby { Markbam } / -ลงชื่อรับเงินคืน-

    ลำดับตอนที่ #18 : markbam baby - 15 -100.5%-

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 9.2K
      65
      2 มิ.ย. 57

    GOT 7 Fiction

    Adorable baby  Mark x Bambam

    By bpuppyy_

    Markbam

    Baby  15

     

     

     

    “กูว่าแล้ว! โอเซฮุนโพล่งนำมาเป็นอันดับแรก

    “ตามนั้น” ตามมาด้วยอิมแจบอมที่ทำแค่ยักไหล่

    “โห... ไอ้มาร์คแม่งเหนือความคาดหมายกูว่ะ โลกจะต้องพังลงมาต่อนหน้าน้องหวังแน่ ๆ เลยค่ะ” ตบท้ายด้วยหวังแจ๊คสัน ชายหนุ่มผู้ทำให้เกิดเรื่องไม่คาดฝันของคนทั้งมหาลัย

     

                    มาร์ค ต้วนผู้ไม่เคยเอ่ยปากเล่าเรื่องอะไรเกี่ยวกับความรัก กำลังนั่งสารภาพหน้าตายว่าตกหลุมรักเด็กผู้ชายแก้มป่องส่งตรงจากประเทศไทย น้องชายสุดที่รักของแจ๊คสัน หวังคนนั้นไง...

                    น้องหวังอยากจะกรี๊ดให้เป็นภาษาอิตาลี! ให้ตายสิ ก็คิดอยู่หรอกนะว่าเรื่องมันจะง่ายขึ้นหลังจากที่บอกน้องแบมไปแบบนั้น แต่ไม่คิดว่ามันจะง่ายยิ่งกว่าลิงปอกกล้วยเข้าปากแบบนี้อ่ะครับ

                    ผมยังไม่ได้หาคำแก้ตัวกับพี่คุณเลยนะว้อย!

     

    “มีอะไรจะถามกูอีกไหม จะได้เล่าให้ฟังทีเดียว” มาร์คว่า ชายหนุ่มผู้เป็นเจ้าของใบหน้าหล่อเหลาราวรูปสลักน้ำแข็งกระตุกยิ้มอย่างขบขัน เขาคิดอยู่แล้วว่าเพื่อนสนิททั้งสามคนจะต้องเดาทางได้ แต่ปฏิกิริยาที่ได้รับก็ยังถือว่าพวกมันไม่ได้ตั้งตัวไว้อยู่ดี

                    โดยเฉพาะพี่ชายตัวยุ่งของแบม ไอ้แจ๊คสันได้แต่กระพริบตาปริบ ๆ แล้วอ้าปากค้างตอนที่เขาบอกว่าบอกน้องไปแล้ว... ว่าคนที่เขารักคือใคร 

                    ต้องขอบคุณแจ๊คสันจริงไหม ถ้าหากมันไม่ทำตัวบ้าบอด้วยการบอกแบมแบบนั้น มาร์คก็คงไม่ได้จัดการเรื่องระหว่างเขากับเด็กอ้วนให้เรียบร้อย

    “ไม่ เรื่องน้องแบมจบไป... เรื่องที่พวกกูอยากถามอ่ะนะ...” แจ๊คสันย้อน ดูเหมือนว่าชายหนุ่มหน้าตาดีแห่งเกาะฮ่องกงจะเป็นฝ่ายเริ่มถามเองใช่ไหม

     

                    เปล่าเลยครับ ถ้าหากคุณลองมองลงไปใต้โต๊ะให้ดี ๆ คุณจะเห็นว่าไอ้มนุษย์ที่ชื่อว่าแจ๊คสันกำลังใช้ปลายรองเท้าเขี่ยเพื่อนรักอย่างอิมแจบอมให้เป็นคนเริ่มบทสนทนา

                    เรื่องยาก ๆ หวังไม่ชอบครับ ให้แจบอมทำแล้วกัน ส่วนไอ้โอ ตัดมันออกไปจากสารบบได้เลย

     

    “แม่งไม่ถามเองวะ” ส่วนอิมแจบอมผู้โชคดีได้แต่สบถเบา ๆ อย่างไม่เข้าใจนัก พวกเขารู้กันดีอยู่แล้วว่าจะถามเรื่องอะไร เพียงแต่มันไม่มีใครกล้าพูดก็เท่านั้น

     

                    เป็นเพื่อนกันมาตั้งนาน ไม่ต้องมองหน้าไอ้แจ๊คยังรู้เลยว่ามันต้องการอะไร ส่วนไอ้เซฮุน ผมแนะนำให้คุณปล่อยมันไปก่อนครับ ผมถ้าให้มันถาม เชื่อว่าเรื่องต้องยาวเพราะแม่งวนไปวนมาพาออกทะเลอย่างแน่นอน

     

    “จะถามก็ถามมา”

    “เรื่องซูจี ไอ้หวังมันเคยบ่นกับพวกกูเรื่องนี้ มันกลัวว่ามึงจะไม่ได้รักน้อง... แบบจริงจัง”

     

                    คำถามถูกส่งไป... อย่างตรงประเด็น ตรงจุด และเข้าหาเป้าหมาย... มาร์คมองแจบอมนิ่ง ก่อนที่จะถอนหายใจออกมาหนัก ๆ ตามด้วยการเลิกคิ้วและมองหน้าเพื่อนรักทั้งสามคนสลับกันไปมา...

                    ชายหนุ่มนามว่าอิมแจบอมผู้เป็นเจ้าของคำถามไม่หลบเลี่ยงสายตา... อยากจะตะโกนดัง ๆ เหลือเกินว่ากูไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องนี้เลยนะครับ แต่เอาเถอะ ถือซะว่าน้องแบมเป็นน้องชายของผมอีกคน จะลองใจพี่มาร์คดูก็แล้วกัน

                    ส่วนแจ๊คสัน หวังผู้เป็นหวงน้องชายดั่งลูกในไส้(หรืออยากให้เรื่องจบ ๆ เพราะต้องการต้อนรับรูมเมทใหม่) กำลังนั่งขมวดคิ้วจ้องเพื่อนรักอย่างไม่ถดถอย และมีบุคคลที่สามอย่างโอเซฮุนคอยสังเกตการณ์อยู่ไม่ห่างออกไป

     

                    เออครับ สรุปง่าย ๆ คือพวกผมก็อยากจะฟังคำตอบกันทั้งสามคนอ่ะ

                    เพราะรู้ดี... พวกเราทุกคนรู้ว่าตอนนั้นมาร์ครักเบซูจีมากแค่ไหน แล้วก็รู้ดีด้วยว่ามาร์ค ต้วนเจ็บปวดทรมานกับความรักนั้นจนแทบจะเป็นจะตาย...

                    เพราะไอ้คนที่เขานับถือเป็นพี่ชาย... อย่างคิมซอกจิน

     

    “กูไม่ได้รักซูจีแล้ว ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่... อาจจะตั้งแต่มึงส่งน้องมึงมาอยู่ด้วยกันกับกูมั้ง ไอ้แจ๊ค” มาร์คว่า แกล้งยักคิ้วให้กับเพื่อนรักผู้สร้างเรื่องทั้งหมดขึ้นมา แถมท้ายด้วยการยิ้มขำ ๆ แล้วไหวไหล่แบบคนไม่คิดมาก

     

                    ส่วนคนรอฟังคำตอบ... ได้แต่นั่งหน้าสลอนหันมองหน้ากันสลับไปสลับมา... ด้วยความงุนงง

                    บอกตรง ๆ ครับ... นี่มันการเปลี่ยนแปลงระดับชาติของไอ้มาร์คชัด ๆ พวกผมพูดเลยนะ ถ้าเป็นเมื่อก่อนมันไม่มีทางที่จะพูดเรื่องซูจีออกมาง่าย ๆ แบบนี้แน่ แล้วก็ไม่มีทางที่จะยักคิ้วหลิ่วตาแบบสบายอารมณ์อย่างนี้...

                    นี่มันปรากฏการณ์แห่งชาติ!

     

                    น้ำแข็งแม่งเหลวเป็นน้ำใสไหลหลากเลยครับ ท่านผู้ชม!

     

    “เดี๋ยว เดี๋ยวนะไอ้มาร์ค มึง... นี่ใช่มาร์ค ต้วนตัวจริงแน่เหรอวะ มึงโดนทุบหัวแล้วสลับตัวกับใครมาป้ะ มึง...” แล้วก็เป็นโอเซฮุนที่ดูเหมือนจะอดสงสัยไม่ไหว

                    ผมวางพนันเล่นข้างมันก็จริงอ้ะ แต่ไม่คิดว่ามันจะเปลี่ยนไปในชั่วข้ามคืนแบบนี้

                    คนมีความรักมักจะดูเด็กลงไปนิดนึง! เออ เซฮุนเชื่อแล้วก็ด้ะ!

    “เหลวไหล”

    “มึงน่ะสิเหลวเป็นน้ำเลยไอ้ซั๊ซ! อิมแจบอมส่วนกลับทันที ตามด้วยพี่แจ๊คสัน หวังของน้องแบมแบมที่ได้แต่นั่งหยักหน้าหงึกหงักตามเรื่องตามราว

                    เอาเหอะครับ ตอนนี้หวังยังหาเรื่องแทรกไม่ได้ กำลังมึนงงอยู่ในระดับสิบเต็มสิบ ไอ้ห่านคู่ ทำไมอยู่ ๆ เรื่องแม่งกลับตาลปัตรกลายเป็นงี้วะครับ

                    หวังเข้าใจนะ แต่บางทีหวังว่าหวังก็ไม่เข้าใจ ไอ้มาร์คแม่ง...

                    น้องแบมแบมของพี่หวังนี่สุดยอดไปเลยครับ มาไม่ทันไร เปลี่ยนเจ้าชายน้ำแข็งให้กลายเป็นเจ้าชายแห่งสายธารไปได้ซะงั้น สาว ๆ รู้นี่คงพากันอิจฉา...

     

                    เออ เวรละ สาว ๆ ของไอ้มาร์คนี่รู้เรื่องพวกนี้แล้วหรือยังวะ...

     

    “มาร์ค มึงมั่นใจนะว่าจะดูแลน้องกูได้ นี่กูเป็นห่วงแบมจริง ๆ นะเว้ย อยู่กับคนดังอย่างมึง สาวก็ชอบเยอะ แถมแต่ละคนร้ายกาจทั้งนั้น อย่านะ อย่าให้น้องกูต้องได้เสียใจเพราะมึง ไม่งั้นกูกับพี่คุณเล่นมึงแน่นะไอ้มาร์ค”

     

                    บทพี่ชายแสนดีที่หวงน้องสุดชีวิตต้องมา บทดราม่าหวังต้องมี นี่จริงจังนะครับ เห็นหวังเป็นคนเล่น ๆ แต่เรื่องพวกนี้หวังไม่เล่นนะ

                    น้องแบมเป็นเด็กผู้ชายก็จริงครับ แต่ก็เป็นเด็กม.ปลายแค่นั้น แถมยังโตมาแบบลูกคุณหนูในโลกใบสวยอีกต่างหาก ถ้าไม่ห่วงก็ไม่ใช่เรื่องแล้วล่ะครับ

     

    “แล้วที่ผ่านมาเกือบสามเดือน กูทำให้น้องมึงต้องเสียใจหรือมีเรื่องอะไรให้น้องมึงคิดมากไหมล่ะ”

                    เออครับ... มันก็ไม่ แต่หลังจากนี้มันก็น่าเป็นห่วงอยู่ดีป่ะวะ น้องหวังเป็นห่วงน้องอ้ะ เหมือนจะมีใครมาพรากไปจากอกก็ไม่รู้ ฮึก

    “แต่มึง...”

    “ที่ผ่านมาเป็นยังไง กูก็จะทำให้เป็นแบบนั้น หรือถ้ามึงเป็นห่วง กูเอาชื่อมาร์ค ต้วนวางเป็นเดิมพันได้เลย ว่ากูจะดูแลน้องมึงให้ดีกว่าเดิม พอใจไหมล่ะ”

     

                    โอเซฮุนห่อปาก ... นึกอยากจะตะโกนแซวมันเหลือเกินว่าไอ้มุกเดิมพันนั่นมันของกูนะ แต่วินาทีนี้ขอทึ่งกับประโยคยาว ๆ จากปากของพระเอกอย่างมาร์ค ต้วนก่อนครับ

                    แม่ง... อยู่ด้วยกันมาตั้งนาน มันพูดยาวสุดแล้วมั้งครับ ไอ้ประโยคที่เหมือนจะขอน้องชายจากไอ้หวังแบบนั้น

                    ขอลุกขึ้นยืนปรบมือดัง ๆ สักสิบที

     

    “เชี่ยแม่งเจ๋งมาก” แจบอมเปรยเบา ๆ

    “เออ สุดยอดเลยว่ะ” เซฮุนสำทับ “เดี๋ยวนะ แต่กูมีคำถามสำคัญอีกคำถามว่ะ”

     

                    มาร์คเลิกคิ้ว ดูเหมือนว่าคำถามต่อไปจะจริงจังมาก... เพราะคนอย่างโอเซฮุนที่ไม่ค่อยจะซีเรียสอะไรกับชีวิตมากนัก ดันทำท่าทางวิตกกังวลขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้

                    ส่วนแจ๊คสัน หวังและอิมแจบอมก็ขมวดคิ้วตามกันไปในทันที และอีกไม่นานหลังจากนั้น... มาร์ค ต้วนก็เข้าใจได้ว่ามันคือเรื่องอะไร

     

    “คือกูก็ไม่ได้อยากถามขึ้นมาให้มันเสียบรรยากาศนะ แต่แบบว่า...”

    “มึงไม่ต้องอ้อมค้อมหรอก เรื่องไอ้ซอกจินใช่ไหม”

                    มาร์ครู้ดี...

                    เรื่องของซอกจินที่เกี่ยวพันกับซูจี

                    เขาไม่ได้รักซูจี แต่ไม่ได้หมยาความว่าความเกลียดที่มีต่อคิมซอกจินจะเลือนหายตามไป ชีวิตของมาร์คจะไม่มีวันต้อนรับคนอย่างมันอีก

                   

                    และเขาสัญญาด้วยชีวิต เขาไม่มีวันปล่อยให้แบมแบมต้องเป็นของเล่นของคน ๆ นั้น ต่อให้มันจะพยายามมากแค่ไหน ต่อให้จะต้องแลกกับอะไร

                    ซอกจินไม่มีวันได้ใกล้แบม

     

    “เออ แบบว่ามึงไม่คิดจะเคลียร์อะไรกับมันหน่อยเหรอวะ...”

    “ไม่ มันกับกูไม่ได้มีเรื่องต้องเคลียร์”

    “เออ ๆ ช่างแม่งเหอะ ไอ้โอมันถามไปงั้นแหละ” แจบอมสรุป ตามด้วยแจ๊คสันหวังที่ส่งคำถามต่อเนื่องมาให้มาร์คจัดสินใจ “แล้วนี่มึงจะเล่าเรื่องซูจีให้น้องกูฟังไหม... เอาจริงนะไอ้มาร์ค ถ้าเป็นไปได้กูอยากให้น้องกูรู้ไว้ว่ะ ถึงน้องจะยังเด็ก แต่ถ้าน้องไปรู้จากใครทีหลัง หรือวันนึงแม่งเกิดเรื่องอะไรขึ้นมา เดี๋ยวแก้ไขยากนะเว้ย”

     

                    หวังรู้ตัวครัวว่าเป็นคนที่หน้าตาดีและมีสาระมาก ไม่ต้องมองหวังด้วยสายตาชื่นชมแบบนั้น...

     

    “วันนี้พวกมึงว่างไหมล่ะ”

    “ว่าง!!!

                    ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเสียงที่พร้อมเพรียงกันดังขึ้นมาจากใคร แจบอมและเซฮุนตะโกนขึ้นพร้อมกันอย่างไม่ได้นัดหมาย ส่วนแจ๊คสัน หวังนั้นไซร้

     

                    นั่งกระอึกกระอักอยู่กับตัวเอง จะปฏิเสธก็ไม่ใช่ จะพูดตกลงก็ไม่เชิง...

     

    “มึงไม่ว่างเหรอวะไอ้หวัง นั่งกระมิดกระเมี้ยนอะไรของมึงอยู่ได้” เซฮุนถามด้วยความหมั่นไส้ แหม ร้อยวันพันปีผมไม่เคยเห็นมันจะปฏิเสธนัดของพวกผมเลยนะครับ

     

                    รายต่อไปคือมึงที่จะต้องโดนจัดหนักแน่ ๆ ไอ้หวัง!

                    กูไปสืบเรื่องมึงกับน้องในความลับที่มึงจะเอามาเป็นรูมเมทจากในเฟซบุ๊คที่มึงคุยกับน้องเขามาแล้วเว้ย! อิอิอิ (เรื่องอย่างนี้... พี่เซฮุนนี่ไวจริง ๆ)

     

    “เอ่อ คือแบบ...”

    “มึงไม่ว่างก็ต้องว่างว่ะแจ๊คสัน เพราะวันนี้กูบอกแบมไปแล้ว ว่าตอนเย็นจะไปกินข้าวด้วยกันที่คอนโดมึง...”

     

                    ไอ้เชี้ยมาร์ค! มึงมันร้าย!

                    คุณแม่คะ! ตั้งแต่พี่มาร์คมีความรัก ตอนนี้พี่มาร์คของน้องหวังเปลี่ยนไปแล้วค่ะ! ไอ่ซั๊ซ แล้วการที่มึงยิ้มรู้ทันใส่กูแบบนั้นมันคืออะไรวะไอ้มาร์ค

     

                    ไอ้ต้วน!!!!

                    มึงนี่มันร้ายกาจชิบเป๋ง แล้วนี่น้องแจ๊คจะทำอย่างไรต่อปายยยยยยย

     

    “เอาเป็นว่าคืนนี้เจอกันคอนโดไอ้หวัง แล้วจะได้เปิดอกนั่งคุยกันในวาระต่อไปนะครับ ปิดวาระการประชุมโดยประธานอิม ขอบคุณครับ”

                    สถาปนาตัวเองขึ้นเป็นประธานและปิดการประชุมเสร็จสรรพ อิมแจบอมลุกขึ้นพร้อมกับคว้ากระเป๋าและเดินตรงไปที่ไหนสักที่โดยไม่ได้ชักชวนใคร ส่วนโอเซฮุนที่ทั้งชีวิตมีเพียงร้านขนมหวานเป็นเป้าหมายก็เดินลุกตามไปในเวลาต่อมา

     

                    เหลือเพียงน้องแจ๊คสันและพี่มาร์ค... ที่ยังคงนั่งจ้องตาไปเรื่อย ๆ อย่างคนรู้เท่าทัน

                    มาร์คจ้องด้วยความขบขัน... ส่วนแจ๊คสันนั้นจ้องอย่างคนจะกินเลือดกินเนื้อ

     

    “เชี่ยมาร์ค”

    “ทำไม มึงมีนัดกับใครที่คอนโดเหรอวะแจ๊คสัน น้องมันอยากกินข้าวกับมึงนะ...” มาร์คว่ายิ้ม ๆ เจ้าของฉายาประติมากรรมน้ำแข็งลุกขึ้นเต็มความสูง เตรียมที่จะไปรับเด็กแก้มกลมที่โรงเรียนเหมือนอย่างทุกวัน

                    แล้วเสียงของแจ๊คสัน หวังก็ดังขึ้น... เป็นคำตอบให้กับเพื่อนรักได้เข้าใจ

    “เออสิวะ! นี่มึงแกล้งกูป่ะเนี่ยไอ้มาร์ค ทำไมต้องมานัดพอเหมาะพอเจาะวันนี้วะ” บ่นครับ งานนี้มันต้องบ่น นี่อุตส่าห์อนุญาต(??)ให้น้องแบมอยู่กับมันครบตามกำหนดสามเดือน (หรือเลยไปมากกว่านั้น จนกว่าพี่คุณจะถามอ่ะครับ) แต่มันกลับหักหลังด้วยการจะพากันมาถล่มคอนโดผมในวันนี้

     

                    น้องหวังรับไม่ได้!

     

    “ช่วยไม่ได้ว่ะแจ๊คสัน เจอกันเย็นนี้นะ กูจะรีบรับน้องแล้วไปหามึงละกัน บาย”

                    ไอ้มาร์ค ต้วนคนกวนตีน!

                    กูจะยึดน้องคืนไอ้ซ๊าซซซซซซซซซ


    *

     

                    แบมแบมกำลังถูกเพื่อนร่วมห้องทั้งสองคนสอบปากคำอย่างถ้วนถี่...

                    แล้วถ้าหากถามว่าทั้งสองคนนี้รู้ได้ยังไง...

    “โอ๊ย พวกเรารู้อยู่แล้วล่ะว่ามันต้องมีอะไรเกิดขึ้นระหว่างแบมกับพี่มาร์ค บรรยากาศชวนให้คิดตลอดเวลาแบบนั้น” หนึ่งความคิดเห็นจากอิลฮุน เด็กหนุ่มโตพอที่จะมองออกได้ว่าพี่ชายกับน้องชายที่จำเป็นต้องมาอยู่ด้วยกันน่ะ มันไม่ใช่ความสัมพันธ์ธรรมดา ๆ

     

                    ไอ้ครั้งแรก ๆ ที่เห็นมันก็เหมือนคนรู้จักกันทั่ว ๆ ไปอยู่หรอกนะครับ แต่ยิ่งเวลาผ่านไปมากเท่าไหร่ ผมกับมินฮยอกยิ่งฟันธงได้แบบมั่นใจเลย...

                    แบมแบมกับพี่มาร์คคนนั้น ยังไงก็ไม่ใช่พี่น้องกันธรรมดา

                    รุ่นพี่ต้วนที่คนทั้งมหาลัยแล้วก็ทั้งโรงเรียนขนานนามว่าเจ้าชายน้ำแข็ง แทบจะไม่เหลือมาดแบบนั้นให้เห็นเวลาอยู่กับแบมแบมเลยสักนิด แล้วจะคิดเป็นอย่างอื่นได้ยังไงล่ะครับ

     

    “ยิ่งวันนี้แบมมานั่งยิ้มทั้งวัน แถมเหม่อแบบนี้อีกต่างหาก จะไม่ให้เราถามได้ไงว่าเกิดอะไรขึ้น ตกลงคบกับรุ่นพี่ต้วนแล้วใช่ไหม พวกเราจะได้ไม่ต้องแอบลุ้นแอบเชียร์สักที” มินฮยอกถาม

                    ส่วนกันต์พิมุกต์ที่เพิ่งจะผ่านเรื่องช็อคโลกและช็อคหัวใจดวงน้อย ๆ มา... ก็ได้แต่นั่งกระพริบตาปริบ ๆ แล้วยิ้มให้กับเพื่อนทั้งสองคน ด้วยเพราะไม่รู้ว่าควรจะทำยังไง...

                    แบมตอบไม่ถูกง่ะ จะให้แบมเล่าให้ฟังทุกอย่างมันก็ไม่ใช่...

     

    “แบมแบม”

                    แล้วน้ำเสียงนุ่มทุ้มที่เรียกชื่อของเด็กน้อยก็ทำให้กันต์พิมุกต์รอดตัวไปได้ อิลฮุนกับมินฮยอกมองหน้ากันยิ้ม ๆ โดยไม่ได้พูดอะไร ส่วนคำถามที่ค้างคาไว้ ถึงไม่ได้รับคำตอบ ก็ไม่ได้ยากเลยที่จะคาดเดา

     

                    เอาเถอะครับ บางทีพวกผมก็คิดว่าการกระทำของรุ่นพี่ต้วนมันชัดเจน... ยิ่งวันนี้มันก็ยิ่งชัดเจน

     

    “เป็นไง วันนี้แอบหลับในห้องเรียนไหม” มาร์คถาม นักศึกษาคนดังเดินเข้ามาหาเด็กน้อยที่นั่งคุยเล่นกับเพื่อนพร้อมด้วยรอยยิ้มบาง ๆ ตอบรับคำทักทายของเพื่อนแบมแบมกลับไปด้วยท่าทีสบาย ๆ

                    เห็นไหมครับ เจ้าชายน้ำแข็งที่ไหนจะมีรอยยิ้มอบอุ่นแบบนี้ได้... นี่ถ้าอิลฮุนกับมินฮยอกไม่ได้เห็นกับตาตอนนี้ บางทีก็ไม่อยากจะเชื่อเหมือนกัน อยากเห็นรุ่นพี่ต้วนยิ้มเยอะ ๆ เหรอครับ...

     

                    ลองมาเป็นเพื่อนแบมแบมสิ รับรองเลยว่าได้เห็นบ่อยแน่ ๆ ครับ

     

    “แอบหลับที่ไหน! แบมไม่เคยหลับเลยน้าพี่มาร์ค!

    “แต่แอบเล่นเกมล่ะสิ เผลอส่งคำขอเกมในไลน์มาให้พี่ มันขึ้นนะ...” กันต์พิมุกต์ทำตาโต สองเพื่อนสนิทได้แต่ส่ายหน้าขำ ๆ กับความเชื่อคนง่ายของเพื่อนแก้มป่อง

                    แบมแบมไม่ได้เล่นสักหน่อยนี่ครับ รุ่นพี่ต้วนแกล้งชัด ๆ เลยที่พูดแบบนั้น พวกผมนั่งอยู่ด้วยกันทั้งวัน รู้กิจวัตรทั้งหมดแหละครับว่าใครทำอะไร...

                    ส่วนรุ่นพี่ต้วนที่ขี้แกล้งคนนั้น... กำลังยื่นมือไปขยี้ผมของแบมแบมอย่างหมั่นเขี้ยวแล้วครับ ให้ตายสิ ดูเหมือนว่าผมกับมินฮยอกกำลังเป็นส่วนเกินเลยว่าไหม...

     

                    แต่สองคนนี้อยู่ด้วยกันแล้วน่ารักมากจริง ๆ นะครับ

                    ขอยืนยันจากสองสายตา ผมรู้ว่ามินฮยอกก็คิดไม่ต่างจากอิลฮุนคนนี้หรอกครับ

     

    “อ่า แบมแบม รุ่นพี่ต้วนครับ พวกผมขอตัวกลับก่อนดีกว่าครับ” มินฮยอกเป็นฝ่ายพูดขึ้นมา ส่วนอิลฮุนก็พยักหน้าหงึกหงักและเตรียมตัวลุกขึ้นตามเพื่อนสนิทอีกคนไป

                    ส่วนเด็กแก้มป่องก็ยกมือขึ้นโบกไหว ๆ และส่งเสียงล่ำลาเพื่อนสนิทร่วมห้องทั้งสองคนอย่างร่าเริง

                    โดยมีสายตาของรุ่นพี่ต้วน... คอยมองดูและอมยิ้มตามอยู่ตลอดเวลา...

                   

    “บ๊ายบาย เจอกันพรุ่งนี้นะอิลฮุน มินฮยอก”

    “แล้วแบมจะนั่งอยู่ตรงนี้จนเย็นเลยเหรอครับ ไปกันยัง กลับได้แล้วเด็กอ้วน เดี๋ยวพาไปกินขนม”

                    อีกละ ว่าแบมเป็นเด็กอ้วนอีกละ!

    “ม่ายกิน! แบมไม่อ้วนอ้ะ บู้ว พี่มาร์ค แบมว่าแบมไม่ได้อ้วนจริง ๆ นะ แบมไม่ได้กินเยอะด้วยอ่ะ แต่ขนมที่อยู่ในตู้ชอบส่งเสียงเรียกให้แบมไปหา... แล้วแบมก็เลยหยิบออกมากิน”

                    แล้วมันใช่ข้อแก้ตัวไหมล่ะนั่น... มาร์คได้แต่ส่ายหน้าแล้วยิ้มขำ ๆ กับท่าทางเป็นเด็กไม่รู้จักโตของเด็กน้อย ชายหนุ่มแกล้งดีดลงบนหน้าผากของแบมแบมไปเบา ๆ ด้วยความหมั่นเขี้ยว

     

                    เด็กอ้วนของเขาน่ะ... จะแก้มป่องหรือตัวกลมไปมากกว่านี้ มันก็ไม่ใช่ปัญหา...

                    น่ารัก บางทีเขาอาจจะเป็นคนเพี้ยนไปแล้วก็ได้ เพราะเวลาที่เขามองแบม มันก็มักจะมีแต่ความคิดพวกนี้ขึ้นมาเท่านั้น

     

    “ไม่ต้องคิดมาก อ้วนกว่านี้พี่ก็เลี้ยงไหว ไปเร็วตุ้ยนุ้ย

     

                    ม่ายยยยยยยยยยย จะอ้วนหรือตุ้ยนุ้ยแบมก็ไม่ใช่ทั้งนั้นเลยน้า

                    พี่มาร์คคนนิสัยไม่ดี!

                    แต่ว่านะ... ถ้าเกิดว่าพี่มาร์คบอกว่าเลี้ยงแบมไหว แสดงว่าแบมก็จะได้อยู่กับพี่มาร์คไปอีกนาน ๆ เลยใช่ม้า แบมแบมเลี้ยงไม่ยากหรอกนะครับ แค่มีความรักกับขนมมาให้ แบมอยู่ได้แล้ว!

     

                    แบมแบมเชื่อแล้วก็มั่นใจ... พี่มาร์คทำให้แบมได้อยู่แล้วครับ

                    เพราะพี่มาร์คไม่ใช่คนไม่รักษาสัญญา... แบมรู้ดี

     

    “พี่มาร์ค!

    “หืม?”

    “ขอบคุณนะครับ...”

                    มาร์คยิ้ม ชายหนุ่มเอื้อมมือมาโยกศีรษะกลม ๆ ของเด็กน้อยที่นั่งอยู่ข้างคนขับ ก่อนที่จะเอ่ยถามว่าเรื่องที่ขอบคุณเขาขึ้นมา... มีสาเหตุมาจากอะไร

                    และคำตอบของแบมแบมก็ทำให้ประติมากรรมที่หลอมละลาย ยกยิ้มอ่อนโยนให้กับนายช่างตัวน้อย ๆ ที่แปรเปลี่ยนหัวใจของเขา...

     

    “ขอบคุณที่ดูแลแบม ขอบคุณที่ไม่เบื่อแบม ขอบคุณที่ไม่รำคาญ... แล้วก็ขอบคุณที่พี่มาร์ค... รักแบม

    “แบมอยากรู้ไหมว่าคำไหนที่พี่อยากได้มากกว่าขอบคุณ”

    “ครับ?”

    “พี่เคยพาแบมไปรู้จักกับคนที่พี่รักแล้ว... แต่ตอนนี้พี่ยังไม่รู้เลยนะ ว่าคนที่แบมรักเป็นใคร... แนะนำให้พี่รู้จักหน่อยได้ไหมครับ แบมแบม”

     

                    กันต์พิมุกต์คิดว่าตอนนี้หน้าของเขาร้อนขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้ ... และหากจะมองย้อนกลับไป เขาคิดว่านี่คงเป็นช่วงเวลาที่อุณหภูมิในร่างกายของเขามันสูงขึ้นจนแทบจะควบคุมไม่ได้

                    หัวใจเต้นแรงจนจะหลุดออกมาข้างนอกอยู่แล้ว...

                    แค่จะเงยหน้าและสบตาตรง ๆ กับพี่มาร์คที่แกล้งเขาอยู่ก็ยังทำไม่ได้...

     

                    ทำไมถึงได้ยิ้มแบบนั้นทั้ง ๆ ที่รู้อยู่แล้วกันนะ

                    พี่มาร์คนิสัยไม่ได้อีกแล้วอ้ะ!

     

    “พ...”

    “หืม... อะไรนะครับ”

    “แบมก็... ก็รักพี่มาร์ค....”

    “มาร์ค? มาร์คไหนครับ ใช่มาร์ค ต้วนคนที่หล่อ ๆ แล้วก็ขับรถมินิหรือเปล่า ถ้าเกิดว่าใช่ พี่จะได้ไปทำความรู้จักกับเขาอย่างเป็นทางการ...” มาร์คแกล้งพูด ชายหนุ่มก้มมองเด็กน้อยของเขาที่ก้มหน้างุด ๆ ไม่กล้าสบสายตา

                    รถคันเล็กแค่นี้ แบมแบมคิดว่าจะหลบเขาไปไหนได้ล่ะ... น่ารักจริง ๆ เลยน้า เด็กคนนี้

    “แล้วพี่ก็จะไปบอกมาร์ค ต้วนว่ายินดีด้วยนะครับ ที่ได้เป็นคนที่น้องแบมรัก คุณช่างเป็นผู้ชายที่โชคดีที่สุดเลยล่ะ... จริงไหมครับ แบมแบม”

     

                    ไม่ไหว... แบมแบมคิดว่าเขารับมือกับพี่ชายใจดีที่กลายเป็นคนแบบนี้ไม่ไหว...

                    แบมจะเป็นโรคหัวใจไหมครับ...

                    ถ้าหากว่าพี่มาร์คยังพูดกับแบม แล้วก็ยิ้มให้แบมแบบนี้...

     

    “พี่มากกว่าที่ต้องขอบคุณ... ที่มีแบมอยู่ตรงนี้”

                    หรือบางทีจากที่มาร์คเคยรำคาญแจ๊คสัน หวังในตอนนั้น มันคงต้องเปลี่ยนเป็นการขอโอกาสขอบคุณเพื่อนจอมวุ่นวายดูสักที

     

                    ขอบคุณ... ที่ทำให้คนอย่างมาร์ค ต้วนมีความรักอีกครั้ง

     

    “บ... แบมว่าเรารีบไปกันดีกว่าเนาะ ด... เดี๋ยวพวกพี่แจ๊ครอนานน้า”

                    ถ้าเกิดว่ายังถูกจ้องหน้าอยู่แบบนี้ แบมแบมต้องทนไม่ไหวแน่ ๆ เลยครับ

     

                    ตลอดทั้งชีวิตที่กันต์พิมุกต์เกิดมา... ไม่เคยรู้สึกว่าเขินอะไรมากขนาดนี้มาก่อนเลย...

     

    “อ่าฮะ... มีเวลาให้พี่ได้คุยกับแบมอีกนาน...”

     

                    ใครก็ได้ช่วยพาพี่มาร์คคนที่เงียบ ๆ กลับมาทีสิครับ...

                    แบบนี้แบมตั้งรับไม่ทันแล้วนะ ถ้าแบมหัวใจวายขึ้นมาสักวัน รับผิดชอบด้วยนะพี่มาร์ค!

     

    80%

     

    *

     

    “น้องแบมแบมของพี่หวังงงงง”

                    ทันทีที่เด็กชายกันต์พิมุกต์เดินเข้ามาในคอนโดของแจ๊คสัน ชายหนุ่มรูปร่างสัดทัน(?)กระโดดเข้าฟัดน้องชายด้วยความเคยชิน

                    ทว่าอนิจจา... หวังแจ๊คสันลืมไปแล้วใช่ไหม น้องชายตัวน้อยที่แสนรักแสนหวงและสนิทสนมยิ่งกว่าใคร ในเวลานี้พี่ชายที่เป็นมากกว่าพี่ชาย... มาร์ค ต้วนผู้คอยอยู่ข้าง ๆ น้องแบมตลอดเวลา

     

                    โอกาสในการเข้ากอดรัดฟัดเหวี่ยงน้องชาย... หวังขอไว้อาลัยให้กับตัวเองสามวินาที เพราะมันเป็นศูนย์ครับ!

     

    “เชี้ยมาร์ค! มึงผลักกูแบบนี้เอาตีนมายันกูเลยม้ะ! หลังจากตั้งหลัก(?)ได้ หวังแจ๊คสันโวยวายยกใหญ่ โดยมีแบ๊คกราวน์เป็นเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดอย่างอิมแจบอมและโอเซฮุนที่นั่งขำกันอย่างสุดชีวิต

                    ถามว่าตลกมากแค่ไหน ก็ให้คิดสภาพโอเซฮุนที่หงายท้องไหลไปบนโซฟาเป็นที่เรียบร้อยแล้วอ่ะครับ

                    แค่น้องหวังถูกให้มาร์คผลักจนเซไปนิดเดียวนะเว้ย! มึงตลกอะไรขนาดนั้นวะไอ้โอเซ!

    “มึงเงียบเสียงไปเลยนะไอ้เซฮุน ฟาย ไม่งั้นกูจะไปถล่มร้านขนมใต้วิดยา” นั่น ไม่รู้จะเอาอะไรมาขู่ให้เอาเรื่องนี้มาครับ “ยังไม่หยุด เดี๋ยวกูจะเดินไปยันหน้ามึงก่อนเลยสัส”

    “ฮ่า ๆ เออ ๆ กูเลิกขำละ จอบอมึงอย่าขำเพื่อนดิวะ เก็บฟันดิ๊สาส 55555555555555” ไหนมึงบอกมึงเลิกขำ แล้วไอ้เสียงหัวเราะยาว ๆ นั่นมันมาจากไหนวะ

     

                    ไอ้โอเซฮุนแม่งต้องโดนน้องหวังสักครั้ง

     

    “โอ๊ย เชี่ยแม่งตลก ท่ามึงตอนจะล้มแม่งเดอะแมทริกซ์มาก จัดว่ายอดเยี่ยม ฮ่า ๆ ไม่พูดละ ๆ น้องแบมมานั่งกับพี่มาครับ” จอบอผู้ไม่เกรงกลัวใคร “นี่ ตรงนี้ว่าง ๆ ให้ไอ้มาร์คไปนั่งอีกด้านนะ”

                    สายตาของมาร์คที่มองมาหาอิมแจบอมพร้อมถอนหายไป... สรุปสั้น ๆ ง่าย ๆ ได้ว่า มากไปแล้วนะมึง

                จบประเด็น

                    มาร์ค ต้วนก็นั่งกับน้องแบมแบมไปตามระเบียบ ถึงแม้แจ๊คสัน หวังจะพยายามแทรกตัวทุกวิถีทาง แต่ดูเหมือนว่าจะกลายเป็นอากาศธาตุไปเสียทุกครั้ง

                    ควรเสียใจกับหวังแจ๊คสันใช่ไหมครับ แต่โอเซฮุนกับอิมแจบอมอยากจะขำให้ลั่นโลกไปเลยอ้ะ!

     

    “ไอ้เชี่ยหวังมึงมานั่งนี่ เร็ว ๆ เข้า แล้วรีบโทรสั่งข้าวมารับประทานครับ หิวจะแย่” แจบอมเรียกพี่ชาย(ผู้ถูกลืม)ให้มานั่ง ส่วนตัวสร้างปัญหาที่ชื่อว่าแจ๊คสัน หวังก็ได้แต่กระเง้ากระงอดมานั่งอยู่ระหว่างเพื่อนรักอย่างจอบอและโอเซอย่างช่วยไม่ได้

     

                    ไม่มีตรงกลางเลยนะไอ้มาร์ค ฟายเย่อ!

     

    “แล้ว... ตกลงว่าเราจะเริ่มคุยเรื่องไอ้ซอกจินให้จบ ๆ กันไปก่อนจะกินข้าวใช่ไหมวะ” บทโอเซฮุนจะเถรตรงขึ้นมา มันก็พูดโพล่งแบบไม่ดูบรรยากาศซะอย่างนั้น

                    แน่ะ ทำหน้าตาไม่รู้เรื่องรู้ราวอีกต่างหาก เดี๋ยวพ่อดีดปากเจ่อเลยนี่ครับ แจ๊คสันอยากจะยกเท้าก่ายหน้าผากให้มันรู้แล้วรู้รอดกันไป!

     

    “เรื่อง... รุ่นพี่คิมซอกจิน?” คนอายุน้อยที่สุดพูดขึ้นมาด้วยความไม่มั่นใจ เด็กชายกันต์พิมุกต์มองใบหน้าของมาร์คที แจ๊คสันที รวมไปถึงพี่ชายอีกสองคนที่ยังไม่เปิดปากพูดอะไรออกมาที

     

                    แล้วแบบนี้... แบมจะต้องพูดอะไรต่ออ้ะครับ

     

    “อืม... พี่มีเรื่องต้องเล่าให้แบมฟัง มันเป็นอดีตที่เกิดขึ้นนานแล้ว และ... มันเป็นแค่อดีต จะเป็นแค่อดีตตลอดไปหลังจากนี้”

     

                    สิ่งที่เขาต้องย้ำ... เรื่องทุกอย่างเกิดขึ้นและจบลงไปแล้ว

                    สำหรับมาร์ค ถ้าเขาพูดคำไหน นั่นคือไม่มีการคืนคำ

                    เขาให้ความสำคัญกับคำสัญญาเสมอ

     

    “ถ้ากูเล่า ชาวบ้านจะหาว่ากูยุ่งไม่เข้าท่าไหมวะ” เซฮุนก็ยังคงเป็นเซฮุนอยู่อย่างนั้น ชายหนุ่มหล่อเสียเปล่าเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม แจ๊คสันถอนหายใจ เหล่มองเพื่อนตัวขาวที่นั่งทำหน้าตาจริงจังแล้วอยากจะร้องกรี๊ดดัง ๆ ออกมา

     

                    เออ อยากเล่าก็เล่าสิวะ! พี่หวังจะได้แจมด้วยอ้ะ! (???)

     

    “อืม กูตั้งใจจะให้พวกมึงเล่าอยู่แล้วล่ะ เรื่องนี้... กูต้องการให้ทุกคนเป็นพยายานยืนยัน ว่ากูไม่ใช่มาร์คที่จมอยู่กับอดีต แต่เป็นมาร์คที่นั่งอยู่ตรงนี้ อยู่ต่อหน้าพวกมึง... อยู่กับแบม”

                    มาร์คพูดพร้อมกับหันไปยิ้มบาง ๆ ให้กับกันต์พิมุกต์ ไม่ลืมที่จะหันกลับมายักคิ้วให้บรรดาเพื่อนสนิทที่นั่งอ้าปากค้างกันอย่างยาวนาน

                เปลี่ยนไป... จนแทบจะกลายเป็นคนละคนเลยด้วยซ้ำ

     

                    โห... ถ้าไม่เกรงใจแจบอมจะก้มลงคำนับมาร์ค ต้วนเดี๋ยวนี้เลยครับ

                    นี่มันวิวัฒนาการขั้นสุดยอดของไอ้มาร์ค...

     

    “พูดดีว่ะ เชี่ยหวัง มึงน่าจะส่งน้องมึงมาอยู่กับไอ้มาร์คตั้งนานแล้วนะ” คิดบ้างครับเซฮุน ส่งน้องกูมาเร็วกว่านี้ น้องกูเพิ่งจะสิบปีต้น ๆ ไอ้พี่มาร์คนี่เข้าใกล้ตารางยิ่งกว่าตอนนี้อีกนะครับ “เอาล่ะ น้องแบมครับ เรามาคุยเรื่องไอ้พี่ซอกจินกันดีกว่า”

     

                    แบมแบมได้แต่พยักหน้า ... เขาไม่รู้หรอกว่าเป็นเรื่องอะไร

                    แต่พี่มาร์คบอกว่ามันเป็นแค่อดีต เขาก็จะแค่รับฟัง... เพื่อรู้เอาไว้เท่านั้น

     

    “มันเริ่มต้นมาจาก... มาร์คมันเคยรักคน ๆ นึงมาก”

    “เคยนะ เน้นว่าเคย” แจบอมย้ำ ยิ้มให้กับน้องเล็กที่กำลังมีท่าทีไม่สบายใจอย่างชัดเจน

                    ยอมรับเลยว่ามันเป็นเรื่องที่ฟังแล้วทำใจได้ยาก แต่มาร์ค ต้วนเพื่อนของเขาก็เข้าใจคิดและใจเด็ดน่าดูใช่ไหมล่ะ แสดงความบริสุทธิ์ใจต่อหน้าไอ้พี่ชายไม่ได้เรื่องอย่างหวังแจ๊คสันด้วยการให้เล่าซึ่ง ๆ หน้าแบบนี้

     

                    รู้ไหมครับ... เรื่องพวกนี้ที่เกิดขึ้นในมิตรภาพของพวกเรา มันทำให้ผมรู้สึกดีอยู่เสมอ ถึงพวกผมจะดูเหมือนอยู่ด้วยกันไปอย่างนั้น แต่ความจริงเราทั้งสี่คนรู้ดีว่ามันมากกว่าคำว่าเพื่อน

                    อิมแจบอม โอเซฮุน หวังแจ๊คสัน หรือแม้กระทั่งคนที่แทบจะไม่เคยพูดอะไรอย่างมาร์ค ต้วน พวกเราไม่เคยมีความลับต่อกัน พวกเราไม่เคยปล่อยให้ปัญหาอะไรก็ตามคาราคาซัง... และค้างคาใจ

     

                    เลือกเดินไปในทิศทางเดียวกันเสมอ

                    มันเป็นเรื่องเล็ก ๆ ที่ยิ่งใหญ่สำหรับมิตรภาพมากเลยนะครับ ... ถึงบางครั้งจะดูไม่ค่อยเข้าท่าเวลาอยู่ด้วยกันไปหน่อยก็เถอะ

     

    “แต่... ที่จริงมาร์คมันก็ไม่ได้บอกใครเป็นทางการหรอก แค่พวกเรารู้ว่ามันรัก... ตอนนั้นปีหนึ่งมั้ง พวกพี่ก็สนิทกันมาตั้งนานอยู่แล้ว ไอ้หวังก็ด้วย” คนนามสกุลหวังพยักหน้า ก่อนที่จะเป็นฝ่ายเริ่มเล่าต่อไป “ไอ้มาร์คแม่งปากแข็ง ซึนหยั่งเงี้ย ถ้าไม่สนิทกันจริงคงมองไม่รู้ว่ามันรักซูจี เออ แต่มันก็รัก”

                    แบมแบมได้แต่พยักหน้า... ถามว่าแบมรู้สึกอะไรไหม ถ้าตอบว่าไม่ก็คงเป็นเรื่องโกหก

                    แต่ที่แบมไม่คิดมากเกินไป... เพราะพี่มาร์คอยู่ข้าง ๆ และกุมมือของแบมเอาไว้... ตลอดเวลา

    “สุดท้าย...” เซฮุนเลือกที่จะตัดช่วงกลางและเรื่องไร้สาระ(?)ทิ้งไป

     

                    เพราะสุดท้าย... เบซูจีต้องทิ้งอนาคตและทุก ๆ อย่างไป...

                    พร้อม ๆ กับหัวใจของมาร์คที่แหลกสลาย...

     

    “ตอนนั้น... ซูจีท้อง...”

    “ท้อง?!

    “...กับไอ้พี่ซอกจิน” แจบอมสรุปปิดท้าย “ทั้ง ๆ ที่มันเป็นรุ่นพี่ที่พวกเราเคารพ มัน... พวกเราเคยสนิทกันมาก อยู่ด้วยกันแบบพี่น้องเลยล่ะ ซูจีเองก็ด้วย...”

     

                    สำหรับเด็กม.ปลายอย่างแบม... มันอาจจะน่าตกใจเกินไป

     

    “ล... แล้วเรื่องมันยังไงกันแน่ครับ...”

    “ตอนนี้ซูจีไม่ได้อยู่ที่เกาหลี ซึ่ง... ไม่มีใครรู้หรอกว่าอยู่ที่ไหน ครั้งสุดท้ายที่พวกเราได้เจอกัน ไม่มีการลา ไม่มีการบอกให้ตามหา ไอ้ซอกจินก็ยังอยู่ที่นี่ ทำตัวเป็นแค่พวกงี่เง่าเอาแต่ได้ มันไม่รับผิดชอบ ยังใช้ชีวิตไปวัน ๆ เหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยน”

     

                    ทั้งที่ทำลายคน ๆ หนึ่งไปทั้งชีวิต...

     

    “พูดแล้วอยากเข้าไปต่อยหน้าแม่ง ทำไมต้องเป็นอย่างนี้ด้วยวะ” แจ๊คสัน หวังบ่นเบา ๆ

    “พอจะเข้าใจที่พี่ไม่ชอบมัน... แล้วก็ไม่อยากให้มันเข้าใกล้แบมใช่ไหม”

    “ครับ... แบมเข้าใจ...”

     

                    คนเรามีเหตุผลที่จะเกลียด... และอาจจะเป็นเพราะว่าแบมมองโลกแบบเด็ก ๆ เกินไป...

                    แบมแบมถึงได้มีความคิด... ว่าคิมซอกจินและเบซูจีคนนั้นก็คงจะมีเหตุผลที่ทำ...

     

    “นั่นแหละ ปัญหามันก็มีอยู่แค่นั้น เล่าได้ไหมวะว่าตอนนั้นมึงเสียศูนย์แบบแทบไม่เป็นผู้คน” นี่ขนาดยังไม่ได้เล่านะเซฮุน “แบบกินไม่ได้นอนไม่หลับ แถมยังเงียบเป็นเป่าสากมากกว่าเดิมอะไรงี้ นี่ตกลงกูเล่าได้ไหมวะ”

                    มึงเล่าไปแล้วล่ะ ... น้องแจ๊คสันว่าพี่เซฮุนเล่าไปแล้ว

    “เออ บอกว่าไม่เล่าก็ไม่ทันแล้วมั้ง”

    “เอาน่ะเพื่อน มันเป็นแค่อดีตเนาะ เอาล่ะ ๆ จบเรื่องเครียดกันแล้วนะ” บทจะจบลงได้ ท่านประธานอิมแจบอมก็สามารถปิดวาระง่าย ๆ ซะอย่างนั้น

                    เครียดทำไมนานครับ หงอกขึ้นกันพอดี

    “ไป ปาร์ตี้กันดีกว่านะ...”

     

                    ทว่า...ยังไม่ทันจะได้เริ่มลงมือกินข้าวกันอย่างที่คิด...

     

    ติ๊งหน่อง...

     

    “ไอ้เชี่ยแจ๊ค นี่ตอนแรกที่มึงไม่ให้พวกกูมา เพราะมึงจะมีนัดใช่ม้ะ! หมายเลขหนึ่งของวงการสอดรู้ โอเซฮุนเด้งตัวขึ้นจากโซฟาทันทีที่ได้ยินเสียงกริ่ง

                    ถูกไหมไม่รู้อะครับ ผมเดาไว้ก่อนว่าเด็กมันแน่

    “ร้าย มึงมันร้าย เชี่ยหวัง หยุดอยู่ตรงนั้น เหล้าเบียร์ไว้ว่ากัน เดี๋ยวประตูที่มึงกำลังจะไปเปิดน่ะ กูจะไปเอง” อิมแจบอมดูเหมือนจะเข้าขากันได้กับเซฮุนเป็นอย่างดี

     

                    เหตุการณ์ทั้งหมดมีน้องแบมแบมและพี่มาร์ค... ที่ได้แต่นั่งมองสถานการณ์วุ่นวายตรงหน้าด้วยความขบขัน

                    อันที่จริงมันจะไม่ตลกเลย ถ้าหากว่าพี่แจ๊คสันของน้องแบมไม่พยายามขัดขืน เลยกลายเป็นว่าโอเซฮุนต้องไปกระโดดเกาะเอาไว้เป็นลูกลิงแบบนั้น...

     

                วุ่นวาย... เป็นสภาพการที่วุ่นวายมากเกินควบคุมไหว

                    แต่ต้องทำใจให้เคยชินครับ นั่นคือคติของมาร์ค

     

    “เอ่อ... สวัสดีครับ”

                    ถ้าบอกว่าไม่ตกใจหรือแปลกใจ... ชเวยองแจก็อาจจะเหนือมนุษย์มากไปหน่อยแล้วล่ะ ในเมื่อคอนโดที่เขาอาจจะต้องมาใช้ชีวิตอยู่ด้วยมันโคตรเอะอะโวยวายแบบนี้

    “น้องยองแจ! อย่าไปทักมัน! ไอ้คนที่เปิดประตูให้น้องมันเป็นคนบ้า!

     

                    ถามว่าสภาพใครน่าจะเป็นคนบ้ามากกว่า... ต้องตอบว่าแจ๊คสัน หวังใช่ไหมนะ...

                    ยินดีด้วยครับคุณหวัง

     

    “เอ่อ... ตกลงพี่พร้อมให้ผมเข้าไปดูห้องไหมครับ หรือว่าผมควรจะมาพรุ่งนี้...” ชเวยองแจยกมือขึ้นเกาศีรษะด้วยความมึนงง เขาไม่รู้ว่าควรจะทำตัวยังไงต่อไป

     

                    ดูเหมือนวันนี้รุ่นพี่ร่วมมหาลัยของเขาจะมีสมาชิกในคอนโด... มากพอสมควรเลยนะ

                    ก็แล้วทำไมไม่เลื่อนนัดยองแจเล่า!

     

    “เข้ามาด้านในก่อนได้ครับ ไม่ต้องกลับหรอก ไหน ๆ ก็มาแล้ว” สุภาพบุรุษอิมแจบอมว่ายิ้ม ๆ ผายมือให้กับเด็กหนุ่มที่กำลังจะก้าวเข้ามาเป็นรูมเมทของแจ๊คสัน หวังให้เข้ามาภายในห้องด้วยความเต็มใจ

     

                    เด็กไอ้หวังแม่งน่ารักนี่หว่า ดูมึน ๆ งง ๆ แต่ท่าทางตรงไปตรงมาใช้ได้

                    ไปหามาจากไหนวะ!

     

    “อ้าว... มาร์ค!

     

                ทฤษฎีโลกกลม... ยังคงใช้ได้กับทุกเวลาและทุกสถานที่... เสมอ

     

    “ว่าละ... ไงยองแจ”

    “เชี้ย นี่มึงรู้จักว่าที่แฟนในอนาคตของกูเหรอวะไอ้มาร์ค!” พูดมาได้อย่างไม่อายปากเท่าไหร่ ส่วนคนที่ถูกโยนตำแหน่งว่าที่แฟนให้ก็ได้แต่ถอนหายใจออกมา

                    เออครับ พี่แจ๊คสันก็ตรงประเด็นครับ ชเวยองแจจะพยายามอดทนแล้วกัน

     

                    แบมแบมได้แต่มองหน้าพี่มาร์คที สลับกับพี่แจ๊คสันทีด้วยความมึนงงไม่เข้าใจเท่าไหร่นัก เด็กแก้มกลมเห็นว่าพี่ชายรูมเมทของเขายักคิ้วให้พี่แจ๊คสัน ส่วนพี่ชายท่าทางใจดีอีกคนที่ถูกเรียกว่ายองแจก็แค่เลิกคิ้ว แล้วไม่ได้พูดอะไรออกมา ...

     

    “ตกลงนี่รู้จักกันทั้งหมดเลยใช่ไหมวะ ใครก็ได้ช่วยอธิบายให้เซฮุนฟังที”

     

     

                    เออ... คงเป็นอีกครั้งที่อิมแจบอมเห็นด้วยกับเพื่อนรักเป็นอย่างที่สุด...

                    นี่มันวันรวมญาติหรืออะไรกันวะ

     

    “อ่าฮะ เราเป็นลูกพี่ลูกน้องกับมาร์คอ่ะ...”

     

                    รู้สึกเหมือนกับว่า... สถานการณ์มันคุ้น ๆ นะครับว่าไหม

                    เพียงแต่ครั้งนี้มันไม่ใช่มาร์คขอร้องให้น้องหวังดูแลน้องชาย แต่เป็นหวังคนนี้นี่แหละครับที่จะเอาน้องชายมันมาเลี้ยงเอง ไอ้ซ๊าซ หวังควรทำอย่างไร...

     

                    พี่คุณครับ ผมว่าผมมีเรื่องต้องสารภาพบาปกับพี่ยาวเลยล่ะ        

                    ยกน้องแบมให้ไอ้มาร์คกันเถอะเนาะ เชื่อหวังอีกครั้งสิครับว่าเพื่อนหวังไว้ใจได้...

                    เปิดทางให้ความรักของหวังกับนักศึกษาสัตวแพทย์ได้เริ่มต้นขึ้นด้วยนะครับ!

     

     

    TBC chapter 16

                   

                    ♥♥♥

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×