คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #27 : pretty 1
Fiction pretty pretty boy!
MarkxBamBam
แบมแบมกำลังเดินทางไปโรงเรียนโดยมีสารถีคนเดิมเหมือนทุกครั้ง นักเรียนมัธยมปลายปีสองกำลังนั่งท่องคำศัพท์คร่ำเครียด มีเสียงบ่นหงุงหงิงออกมาบ้างเมื่อจดจำไม่ได้ มาร์คหลุดยิ้มตามทุกครั้งที่ได้ยินแบบนั้น แล้วก็ดูเหมือนว่าเสียงหงุงหงิง จะเริ่มกลายเป็นงอแงขึ้นมาเมื่อเด็กแก้มกลม ดูท่าจะจดจำไม่ได้ง่าย ๆ เสียที
กันต์พิมุกต์ไม่มีสมาธิเพราะอะไรก็ไม่รู้ รู้แต่ว่าคำศัพท์ภาษาจีนที่ละลานตาอยู่ตรงหน้า มันไม่ได้เข้าไปฝังอยู่ในสมองของเขาเลยสักนิดเดียว
ทำยังไงดีล่ะครับ ทำไมจะต้องมาสอบศัพท์ทุกอาทิตย์ที่เรียนด้วยล่ะ แบมไม่เข้าใจอ้ะ
“แบม ถ้าเกิดว่าฝืนจำไม่ได้ ก็พักก่อนสิ” มาร์คว่า เพราะเขาเห็นใบหน้าของคนรักบูดบึ้งและดูงอแงจนไม่น่าจะอ่านหนังสือต่อไปได้ “จริง ๆ แบมอาจจะจำได้แล้ว แต่กดดันตัวเองมากไป ก็เลยกลายเป็นแบบนี้ไง”
“แบมยังจำม่ายด้าย” กันต์พิมุกต์ร้องงอแง “พี่มาร์ค! แบมจะทำยังไงดี ถ้าเกิดว่าเขียนศัพท์ออกมาแล้วคะแนนไม่ดี พี่มาร์คจะดุแบมไหม”
เด็กน้อย... ถ้าหากแบมแบมลองคิดให้ดี แทบจะไม่มีครั้งไหนที่มาร์คเคยดุแบมแบมได้จริงจังเลยด้วยซ้ำ เขายอมรับว่าถ้าหากแบมแบมดื้อ หรือว่าสอบออกมาได้คะแนนไม่น่าพอใจนัก มาร์คก็ต้องตำหนิไปตามระเบียบ แต่เขาไม่เคยจะทำใจดุแบมมาก ๆ ได้เลยสักครั้ง
หรือพวกคุณทำได้ล่ะครับ แค่เห็นตากลม ๆ มากระพริบอ้อนอยู่ตรงหน้า ถ้าหากว่าคุณยังทำใจต่อว่าต่อไปได้ ก็คงต้องนับว่าเป็นคนใจแข็งมากเลยล่ะ
“งั้นก่อนจะถึงโรงเรียน ถ้าพี่ถามคำศัพท์คำไหนไป แบมก็ตอบพี่มาให้ได้ดีไหม” มาร์คถาม เขาแอบดูสมุดของเด็กน้อยมานิดหน่อยตั้งแต่เมื่อคืน แล้วเขาก็จำมันได้ไม่ยากนัก แน่ล่ะในเมื่อเขาก็ใช้ภาษาจีนได้เหมือนกันจริงไหม ถามว่าเขามั่นใจได้ยังไงว่าแบมคงจำได้บ้างแล้ว เป็นเพราะเขานั่งอยู่กับแบมตั้งแต่เมื่อคืน เด็กน้อยของเขานั่งท่องจำเจื้อยแจ้ว ไร้ท่าทางกังวลแบบเวลานี้...
แล้วก็เป็นอย่างที่คิด พอให้แบมแบมเก็บสมุดศัพท์ที่ว่า แล้วลองตอบคำที่เขาลองถามไป เด็กน้อยก็ไม่ได้ความจำแย่อย่างที่กังวล
“บอกแล้วว่าแบมจำได้ อย่ากดดันตัวเองมากเกินไปสิ” มาร์คว่า เอื้อมมือไปโยกหัวกลมเบา ๆ ด้วยความเอ็นดู ยิ้มนิด ๆ เมื่อเห็นว่าปากอิ่มเบะลงน้อย ๆ เหมือนคนยังไม่มั่นใจในตัวเอง “หยิบขนมหลังรถมากินเล่นสิแบม ไม่ต้องกังวลเรื่องสอบแล้ว เรื่องเล็กน้อย”
“งั้นไม่คิดมากละนะ บู้ว ปล่อยละนะครับผม ทำได้เท่าไหนเท่านั้น แบมแบมเก่งที่สุดในโลกอยู่ละ โอ๊ะ อยากกินบูแดจิเกจังเลย~” แบมแบมยังคงมีความสามารถในการโยงเรื่อง (ที่มักจะไม่มีความเกี่ยวข้องกัน) เสมอ มาร์คส่ายหน้ายิ้ม ๆ เมื่อไม่กี่นาทีก่อนยังเครียดเรื่องสอบ แต่ตอนนี้ดันบ่นอยากกินนั่นกินนี่เสียแล้ว ไหนจะขนมที่กำลังเคี้ยวตุ้ย ๆ อยู่นั่นอีก
เป็นเด็กน้อยที่ทำให้เขายิ้มได้ตลอดเวลา... น่ารักเกินไปแล้วนะ เด็กน้อยของมาร์ค
ไม่นานนักมาร์คก็พาเด็กน้อยของเขามาส่งถึงหน้าประตูโรงเรียน เหมือนทุกวันที่แบมแบมจะหันมายิ้มจนตาหยีให้กับเขา พร้อมกับให้คำสัญญาว่าจะตั้งใจเรียน (รวมถึงวันนี้จะตั้งใจสอบศัพท์จีน) ก่อนที่จะเปิดประตูรถลงไป...
ต่างจากทุกวันนิดหน่อย ตรงที่ก่อนแบมแบมจะปิดประตูรถ มาร์คเรียกให้เด็กน้อยของเขาต้องหยุดชะงักตัวเองไว้ก่อน และก้มตัวลงมองเข้ามาในรถอีกครั้ง...
“ครับผม พี่มาร์คมีอะไรจะหว่า” แบมแบมถาม
“ถ้าสอบศัพท์ได้คะแนนดี ๆ เดี๋ยวเย็นนี้จะพาไปเที่ยว โอเคไหม?” มาร์คพูดพร้อมกับยิ้มให้เด็กน้อย แน่นอนว่าเด็กชายกันต์พิมุกต์พยักหน้ารัวเร็วอย่างดีใจ แถมยังให้คำสัญญาอีกต่างหากว่าจะทำออกมาให้ได้ดีที่สุด...
ไร้ความกังวลใด ๆ อีกต่อไป แบมแบมจะทำให้ได้เต็มเลยคอยดู~
ไม่ได้อยากไปเที่ยวนะ! แบมแบมก็แค่อยากทำให้พี่มาร์คภูมิใจ~ ไม่เกี่ยวกับว่าแบมอยากไปเที่ยว หรืออยากไปกินอาหารมื้อเย็นนอกบ้านเลยจริง ๆ ~
.
.
โอเซฮุนกำลังจะปวดประสาทตาย
ไม่ใช่อะไรครับ คืออย่าหาว่าอย่างนั้นอย่างนี้ ผมไม่ได้โง่นะออกตัวไว้ก่อน แต่แบบเมื่อคืนเกิดปัญหากับชีวิตนิดหน่อยครับ...
“ไอ้เชี้ยเซฮุน มึงโง่หรือมึงบ้าวะ! ใครให้มึงเอาน้ำเทลงโน้ตบุ๊คเนี่ย โอ๊ย แล้วนี่จะทำยังไงครับ งามหน้าเลยไหมล่ะ” อิมแจบอมอดใจไม่ให้ด่าเพื่อนสนิทของเขาไม่ได้ เปิดเทอมมาได้ไม่เท่าไหร่ ไอ้โอเซฮุน(ที่ตอนนี้มีสีผมเป็นสีแดงแสบตา)ดันสร้างเรื่อง แล้วเรื่องที่ว่ามันโคตรไร้สาระ...
คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คของมันวางอยู่ดีไม่ว่าดี เมื่อคืนนี้เพื่อนของผมคนนี้ครับ ดันเมาหัวราน้ำครับ เออครับก็เมาอยู่ด้วยกันเนี่ยแหละตอนอยู่ร้านของผม แต่พอแยกตัวกันกลับบ้าน ไม่รู้มันไปทำอีท่าไหน มันบอกว่ามันตื่นมาอีกที ก็เลยรู้ตัวว่าเมื่อคืนเอาน้ำราดใส่อุปกรณ์ทำมาหากินซะอย่างนั้น
อิมแจบอมมีสิทธิ์ด่าเพื่อนอย่างหยาบคายไหมครับ?
ขออนุญาตทำตัวเป็นมนุษย์ปากหมาอีกครั้ง... “ไอ้เหี้ยเซฮุน มึงนี่มันโง่เหี้ย ๆ เลยอะ”
“พอละสัส จะด่าให้กูไม่ได้ผุดไม่ได้เกิดเลยไง๊” เซฮุนเบ้ปาก ใช่ว่าอยากจะโง่ เอ้ย ไม่ ๆ เซฮุนโอไม่ได้โง่ ใช่ว่าอยากจะทำผิดพลาด แต่เมื่อคืนมันเมาแบบไม่ได้สติจริง ๆ นี่ แล้วก็จำไม่ได้เลยด้วยว่าจะเอาราดทำไม
เออ โง่จริง ๆ นั่นแหละว่ะ ไม่แก้ตัวละ
“แล้วนี่จะทำยังไงกับงานมึงในนี้ล่ะวะ กูจะช่วยมึงยังไง คอมพ์มึงก็พังละเนี่ย” แจบอมว่า พลางนั่งเขี่ยโน้ตบุ๊คสิ้นสภาพ ที่กลายร่างเป็นเศษเหล็กไร้ค่าอย่างอดสูใจ
คุณนายแม่ของไอ้เซฮุนจะต้องได้รู้ในสักวันครับ ว่าลูกชายหัวแก้วหัวแหวนเป็นคนไร้สติมากแค่ไหน
“ไม่รู้ว่ะ รอไอ้มาร์คมามั้ง มันอาจจะหาทางช่วยได้” เซฮุนว่า อยากจะเอาหัวโขกโต๊ะกับความซวยประจำวัน ถ้าหากเขาไม่มีปัญหานี้เกิดขึ้น ป่านนี้คงได้ไปนั่งสบายใจอยู่ที่ร้านของพี่ลู่หานแล้ว
ให้ตาย อุปสรรคขัดขวางชีวิตรักของเขาจริง ๆ
“เอ้า ว่าแล้วพี่มาร์คของมึงก็มา มาร์ค! มาช่วยลูกมึงหน่อย สร้างเรื่องละเนี่ย” แจบอมตะโกนเรียกเพื่อนสนิท ผู้เป็นความหวังหนึ่งเดียวของเซฮุนในเวลานี้ที่อาจจะช่วยได้...
จริง ๆ แจบอมก็แอบคิดถึงแจ็คสันอยู่หรอกนะ แต่สิ่งที่คิดคืออย่างมันไม่น่าจะช่วยอะไรได้ นอกจากช่วยให้เรื่องยุ่งไปมากกว่าเดิม เอ้า ไม่ได้ดูถูกเพื่อนครับ แต่ผมมั่นใจว่าดูไม่ผิดอย่างแน่นอน
“ว่า?” มาร์คเดินเข้ามาพร้อมทิ้งตัวลงนั่งที่โต๊ะตัวประจำ เลิกคิ้วนิด ๆ เมื่อเห็นว่ามีซากปรักหักพังวางอยู่บนตะของพวกเขา “ของมึงนี่เซฮุน ทำไมกลายเป็นงี้วะ?”
โอเซฮุนกระพริบตาปริบ ๆ โดยมีอิมแจบอมถอนหายใจด้วยความเหนื่อยหน่าย
“มึง คือเมื่อคืนกูทำโน้ตบุ๊คพังว่ะมาร์ค...”
“แล้ว” มาร์คถาม ท่าทางไม่เดือดเนื้อร้อนใจกับเพื่อนเท่าไหร่นัก แน่ล่ะว่ามันต้องเป็นแบบนั้น เซฮุนได้แต่ค่อนขอดในใจ แหม เรื่องอื่นที่ไม่ใช่เรื่องของน้องแบม ไม่ค่อยจะทำให้มันสะดุ้งสะเทือนได้หรอก
อยากด่านะครับ แต่นาทีนี้เรื่องอื่นช่างมัน ขอหาวิธีที่จะทำให้เครื่องของผมฟื้น หรืออย่างน้อย ๆ ก็แก้ไขเรื่องงานที่จะต้องส่งเร็ว ๆ นี้ได้ก่อนนะครับ
“คือกูรู้ว่าจะทำให้น้องรักของกูฟื้นคืนสติมันยาก แต่แบบ... มึงช่วยกูเรื่องงานหน่อยได้ป่ะวะ คือ...” เซฮุนยังไม่ทันร้องขออะไรจบ มาร์คก็พูดแทรกขึ้นต่อทันที
“ให้กูไปช่วยมึงทำงานว่างั้น วิชาอ.โดที่กำลังจะส่งในอีกสองวันข้างหน้า” มาร์คขัด และอิมแจบอมก็ไม่รอช้าที่จะพูดต่อด้วยทันที “อ.สั่งไว้ตั้งแต่อาทิตย์ก่อนแล้วด้วยนะมึง ไม่ได้แบคอัพข้อมูลไว้ที่อื่นเลยเหรอไอ้โอ”
“ก็กูจะรู้ม้ะว่าจะทำเครื่องพังอ้ะ”
“แต่กูแบคอัพงานตลอด อย่างน้อยก็งานที่สำคัญ” มาร์คขัดขึ้นมาเรียบ ๆ และนั่นก็ทำให้นายเซฮุนนามสกุลโอเงียบลงไปได้
โอเคครับ ผมมันผิดเองที่ไม่รอบคอบ แต่ยอมโดนด่าครับ ยังไงก็ต้องให้พวกมันช่วยอยู่ดี...
“เย็นนี้ไปบ้านกูนะครับพี่มาร์ค นะนะ ช่วยกูหน่อย เนี่ยไม่อ้อมค้อมเลยสักกะนิด เดี๋ยวเลี้ยงข้าว เลี้ยงน้ำ เลี้ยงทุกอย่างที่มึงอยากได้เลย!” เซฮุนยื่นข้อเสนอ รู้ทั้งรู้อยู่หรอกว่าเพื่อนของไม่ได้สนใจเรื่องของแลกเปลี่ยน มาร์คไม่ใช่คนเห็นแก่กิน เออครับเรื่องนั้นเซฮุนรู้ แล้วก็รู้อีกนั่นแหละว่าพี่มาร์คของพวกผมมันไม่ได้อยากได้อะไรทั้งนั้น
นอกจากอยากอยู่กับน้องแบมแบม...
นี่ไม่ได้แซวเล่นนะ ผมพูดจริง ไอ้มาร์คมันกลายเป็นคนติดแฟนไปตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ พวกผมมาตั้งตัวแล้วลองสังเกตกันอีกที ก็เห็นว่าชีวิตของมาร์ค ต้วนแทบจะมีน้องแบมแบมเป็นส่วนหนึ่งไปอย่างแท้จริง ชนิดที่ว่าไอ้พี่ชายตัวดีอย่างหวัง แจ็คสันก็คาดไม่ถึงเหมือนกัน
“เย็นนี้กูนัดแบมเอาไว้แล้ว”
หมดหวังไปกว่าครึ่งแล้วครับโอเซฮุน แต่ไม่ เซฮุนจะไม่ทดท้อและท้อถอย แน่สิครับ! ถ้าผมไม่ได้ไอ้มาร์คช่วยวันนี้รับรองได้เลยว่างานผมไม่มีส่งแน่ ๆ! แค่ไอ้แจบอมคนเดียวมันช่วยผมไม่ได้มากเท่าไหร่นักหรอก
“ก็ให้น้องไปบ้านกูด้วยกัน นะนะนะ เดี๋ยวกูจะเลี้ยงดูแบมอย่างดี”
“มากไป”
“แหะ ๆ” โดนขัดมาทันทีเมื่อคำพูดดูนอกลู่นอกทาง “น่ามาร์ค เย็นนี้แม่กูอยู่บ้านด้วย รับรองว่าน้องมึงจะได้อยู่กินอย่างสุขสบาย แม่กูชอบเด็ก แล้วยิ่งพูดเก่ง ๆ หน้าตาน่าเอ็นดูอย่างน้องแบมนะ รับรองล้านเปอร์เซ็นต์ว่าแม่กูจะต้องดูแลให้อย่างดีเลย”
นาทีนี้หาเหตุผลทุกอย่างมาได้หมดครับ สำนวนที่ว่าชักแม่น้ำทั้งห้ายังอาย ไม่รู้จะอ้างอะไรก็อ้างมั่วไปครับ เอาคุณหญิงแม่เข้าสู้ไว้ก่อนคงช่วยอะไรได้บ้าง...
แต่จริง ๆ เย็นนี้แม่ผมบอกว่าจะมีแขกมานะ... เออแต่ไม่เป็นไรครับ ยังไงแม่ผมก็ต้องเอ็นดูน้องแบมแบมคนน่ารักอยู่แล้ว เกินล้านเปอร์เซ็นต์แน่นอนผมพูดได้แค่นี้ เพราะฉะนั้นพี่มาร์คครับ...
“ได้โปรดเลื่อนนัดเดทวันนี้ เพื่อไปช่วยโอเซฮุนเคลียร์งานหน่อยนะครับนะพี่มาร์ค...”
มีเพียงเสียงถอนหายใจของมาร์ค และการหัวเราะขำ ๆ ของแจบอมเท่านั้น ที่ขำมันก็ไม่ใช่อะไร เป็นเพราะท่าทางอ้อน ๆ (อ้อนตี_) ของเซฮุน มันกำลังทำให้หลาย ๆ สายตาของใต้ตึกคณะวิศวกรรมศาสตร์แห่งนี้ มารวมอยู่ที่เซฮุนอย่างเสียไม่ได้
โอเซฮุนยังคงยืนยันตัวตนได้อย่างดี นอกจากมีหน้าตาเป็นอาวุธอย่างเดียวแล้ว นอกจากนั้นก็ไม่มีอะไรที่ดีอีกเลย
“ถึงกูปฏิเสธไปมันก็ไม่ได้ช่วยอะไรอยู่ดี” นั่นคือคำตอบรับของมาร์ค เพราะเขารู้ดีว่าเพื่อนของเขาคงไม่หยุดตื้ออย่างแน่นอน
โอเซฮุนอาจจะติดนิสัยของแจ็คสัน หวังมาก็เป็นได้ หรือบางทีเพื่อนของเขาอาจจะมีนิสัยนี้ติดตัวกันอยู่ทุกคน มันคงเป็นเรื่องที่เขาต้องทำใจ...
“เย้! มึงนี่มันหน้าตาดีแล้วยังใจดี โอเค รอดไปละหนึ่งเรื่อง เราไปเรียนกันนะครับนะ ชีวิตนักศึกษาปีสี่จะต้องดำเนินต่อไป อย่าไปคิดมากเลยพรรคพวก!”
ถามจริง ๆ นะโอเซฮุน... ไม่คิดบ้างหรือว่าที่จริงแล้วที่เพื่อนต้องคิดมาก ต้นกำเนิดมันก็มาจากตัวเอง... ขอบคุณที่ลืมง่ายแบบนี้
อิมแจบอมล่ะอยากจะยื่นเท้าไปเตะมันสักที ถ้าไม่ติดว่ามันจะไม่สุภาพแล้วก็ดูไม่เป็นที่นับถือของพวกรุ่นน้องล่ะก็นะ เห็นแบบนี้แจบอมก็คีพลุคส์นะครับ ยิ่งมีแฟนเป็นคนดังในหมู่นักศึกษาทั้งมหา’ลัยอย่างปาร์คจินยอง ยิ่งต้องรักษาภาพลักษณ์ตัวเองให้ดีครับ
เดี๋ยวมีคนเอามาใช้เป็นข้ออ้าง บอกว่าผมมันไม่ได้เรื่องแล้วมาคาบเอาจินยองไป อิมแจบอมไม่ยอม!
.
.
หวัง แจ็คสันเริ่มต้นเทอมใหม่ของเขาด้วยการฝึกซ้อมกีฬาอย่างหนัก ไม่เชื่อล่ะสิว่าเขาจะมีมุมทำอะไรมีสาระบ้าง เห็นอยู่ไปวัน ๆ เหมือนคนไม่มีอะไรจะทำ แต่บทจะต้องจริงจัง รับหน้าที่ทำเพื่อมหา’ลัยเมื่อไหร่ แจ็คสันก็แทบจะไม่ได้มีเวลาเป็นของตัวเองแบบนี้...
หล่อแล้วยังเก่งอีกนะครับผมเนี่ย...
“แจ็คสัน! มีคนมาหาว่ะ รออยู่หน้ายิมส์อ่ะ” นิโคลัส หนึ่งในเพื่อนนักกีฬาของแจ็คสันบอก เจ้าของชื่อถอดหมวกออก พยักหน้ารับรู้ ก่อนที่จะเดินออกไปตามทิศทางที่เพื่อนบอก เดาอยู่ในใจไปพลางว่าใครกันที่มาหาเขาในช่วงเวลาแบบนี้ ที่จริงรู้ใช่ไหม ผมมีคนที่คาดหวังว่าอยากจะให้มาหาอยู่แล้วล่ะ...
เด็กสัตวแพทย์ที่เพิ่งจะเข้ามาเป็นน้องใหม่ ชเวยองแจที่เป็นรูมเมทของผมคนนั้นไง...
อะไรครับ ไม่ต้องมองผมแบบนั้นเลยนะ ก็ทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดีแล้วนี่ครับ พี่นิชคุณก็รับรู้แล้ว แถมยังแกล้งผมให้จิตตกไปแล้วอีกต่างหาก ตอนนี้ความสัมพันธ์กำลังไปได้ด้วยดีครับ ขอยืนยันว่าหวัง แจ็คสันไม่ได้คิดไปเอง...
“จะเดินไปยิ้มไปอีกนานไหม” เสียงทักทายที่ดังขึ้นทำให้หวัง แจ็คสันมั่นใจได้ว่าเขาคิดไม่ผิด ใบหน้าที่ยิ้มอยู่แล้วฉีกยิ้มมากยิ่งขึ้นกว่าเดิมเมื่อเห็นว่าคนที่มาหาเขาคือใคร
ชเวยองแจที่มีถุงขนมและน้ำผลไม้อยู่ในมือแบบนี้ แจ็คสันคิดว่ามันน่ารักดีไปอีกแบบนะ...
ถึงเขาจะได้เห็นบ่อย ๆ ในช่วงหลังมานี้ แต่ได้เห็นกี่ที ๆ เขาก็คิดว่ามันน่ารักดีเหมือนเดิม
“เรียนเสร็จแล้วเหรอวันนี้”
“ถ้าไม่เสร็จจะมาหาได้ไง ฉันไม่ใช่พวกชอบโดดเรียนหรอกนะ” โดนไปอีกหนึ่งดอก ครับ ลักษณะภายนอกของยองแจจะดูน่ารักขึ้นขนาดไหน แต่ยังไงแล้วยองแจก็ยังคงเป็นยองแจครับ ยังคงสามารถใช้ฝีปากทำร้ายจิตใจอันบอบบาง(?)ของแจ็คสัน หวังได้เหมือนเดิม
ชินแล้วครับ บอกตรง ๆ ว่าวันไหนไม่โดนจิกต่างหากที่จะทำให้ผมแปลกใจ
“โอเคเข้าใจแล้วครับ นี่เอามาฝากพี่ใช่ไหม”
“ไม่ใช่”
อ้าว ไม่ผิดใช่ไหมครับที่ผมจะทำหน้าเหวอออกไปเมื่อได้ยินแบบนั้น ในเมื่อเรียกผมออกมาหา แล้วตรงนี้ก็มีผมยืนอยู่แค่คนเดียว แล้วเอามาให้ใครอ้ะ!
“เอามาให้แจ็คสัน ฝากไปให้ด้วยนะ รู้จักป่ะ หวัง แจ็คสันอ่ะ?”
โอเค ... แบบนี้แสดงว่าวันนี้ชเวยองแจอารมณ์ดีนะครับนะ นี่คือการหยอกเล่นในแบบฉบับของยองแจนั่นล่ะครับ
“คนที่หล่อ ๆ ละก็เป็นนักกีฬาฟันดาบใช่ป่ะครับ ได้ ๆ เดี๋ยวเอาไปให้ หมอนั่นต้องดีใจแน่ ๆ อ่ะครับน้องยองแจที่มีคนเอามาให้แบบนี้ สงสัยน้องจะต้องเป็นห่วงแจ็คสันมากสินะครับเนี่ย”
“เพ้อเจ้อ”
“ขอบคุณนะน้องยองแจ” พูดจบก็ยิ้มหวานไปให้อีกที ส่วนอีกคนก็ได้แต่พยักหน้าส่ง ๆ รับไปอย่างนั้น แต่ถ้าหากว่าแจ็คสันไม่ได้ตาฝาดไปเอง เขาคิดว่าเขามองเห็นรอยยิ้มบาง ๆ ที่ติดอยู่บนมุมปากของชเวยองแจ...
ไม่ต้องพูดมากก็พอจะรับรู้ได้... เรื่องของความรู้สึกที่มันอยู่ในส่วนลึก ๆ มันไม่ต้องอธิบายอะไรเยอะหรอกนะครับจริงไหม?
“อ้อ เมื่อกี้มาร์คโทรมาหาฉัน บอกว่าเย็นนี้ให้นายช่วยไปรับแบมแบมได้ไหม” ยองแจว่า แจ็คสันทำหน้างงเล็ก ๆ กับคำสั่งกะทันหันที่ส่งตรงมาจากเพื่อนรัก “มาร์คมันโทรหานาย แต่นายซ้อมอยู่ สุดท้ายมันก็เลยโทรหาฉันแทน เหมือนว่าจะติดไปช่วยงานเซฮุน”
“อ้อ แล้วไปส่งน้องที่คอนโดมันเลยหรือว่ายังไงอ่ะน้องยองแจ แล้วยองแจจะไปด้วยกันไหม ไปด้วยกันแล้วกันเนาะ” ตัดสินใจให้เสร็จสรรพโดยไม่ฟังอะไรต่อ แล้วยองแจก็คิดว่าตัวเขาเองบ้าบอกว่าที่เผลอพยักหน้ารับไปแล้ว...
พักหลัง ๆ เขาไม่ค่อยมีสติเท่าไหร่เวลาแจ็คสัน หวังทำตัวเนียนกับเขาแบบนี้ แต่ช่างเถอะ
“ไปส่งที่บ้านพี่เซฮุน” ยองแจตอบ “เหมือนจะมีปัญหาอะไรสักอย่างอีกแล้วนะพี่เซฮุนน่ะ”
“สร้างปัญหาประจำ” แจ็คสันว่า
“ที่จริงแล้วพี่ก็ไม่ต่างหรอก” ยองแจสวนกลับ “รีบเข้าไปซ้อมให้เสร็จดิ น้องเลิกเรียนสี่โมงนี่ จะได้รีบออกไปรับ ไม่งั้นมาร์คคงโทรมาบ่นอีกถ้าให้น้องรอนาน ฉันฟ้องนะถ้าหากว่านายยังลีลาอ่ะ แล้วเรื่องก็คงจะต้องถึงพี่คุณแน่ ๆ...”
ไม่ต้องบอกเลยว่าปฏิกิริยาตอบรับจากแจ็คสัน หวังจะเป็นยังไง...
“ครับผม จะรีบไปซ้อมรีบทำอะไรให้เรียบร้อยเดี๋ยวนี้เลยครับ”
ไม่ได้อยากจะสงสารตัวเองเลยนะครับ แต่ทำไมชีวิตของหวัง แจ็คสันถึงได้มีบุคคลน่าเกรงขามล้อมรอบด้านแบบนี้กันนะ ไม่เข้าใจเลยจริง ๆ ครับ...
แต่มันก็สนุกแล้วก็มีความสุขดีนะครับ บอกตรง ๆ เลยว่าชีวิตของผมตอนนี้มันสนุกแล้วก็มีความสุขมากเลยจริง ๆ
.
.
คิมยูกยอมเพิ่งจะเข้าเป็นนักเรียนม.ปลายของที่นี่ได้ไม่กี่สัปดาห์ แต่ไม่ต้องแปลกใจที่เขาดูจะสนิทกับทุกคนได้อย่างง่ายดาย ในเมื่อทุกคนที่นี่เกือบครึ่งก็เป็นคนที่เขาเคยรู้จักมาแล้วทั้งนั้น ในเมื่อม.ต้น ยูกยอมก็เรียนที่นี่ ถ้าหากไม่รู้จักใครเลยสิน่าจะแปลกมากกว่า...
“เฮ้ย นั่นไอ้ยักษ์ยูก!” มินฮยอกตะโกนลั่น (เกือบจะเรียกได้ว่าลั่นโรงอาหาร) เพราะเปิดเทอมมาหลายสัปดาห์ กว่าที่เขาจะได้เจอเพื่อนที่ไปเรียนแลกเปลี่ยนที่ประเทศญี่ปุ่น...
อยากจะล้อมันมานานแล้วว่าตอนนี้เป็นรุ่นน้องแล้วนะ ไม่ใช่เพื่อนตัวยักษ์ที่เรียนด้วยกัน เจอก็ต้องทำความเคารพหรืออะไรแบบนี้ แค่อยากล้อเลียนน่ะครับ ถึงแม้ตอนที่คิมยูกยอมได้ไปญี่ปุ่น มินฮยอกจะอิจฉามากเลยก็ตาม ใค รๆ ก็อยากไปอยู่ญี่ปุ่นทั้งนั้นล่ะครับ! ของกินก็เยอะ สาว ๆ ก็น่ารัก!
ดูเหมือนว่าจะผิดประเด็นไปแล้วใช่ไหมครับ...
“ตะโกนขนาดนี้กลัวคนไม่รู้จักฉันเหรอวะไอ้มินฮยอก!” ยูกยอมเดินเข้ามาหาพร้อมกับยิ้มกว้าง ประเด็นแรกคือดีใจที่ได้เจอกับหนึ่งในเพื่อนสนิท ประเด็นที่สอง...
ข้าง ๆ มินฮยอกคือแบมแบม
แบมแบมที่เขายอมยกธงขาวว่าจะไม่เข้าหา เพราะว่ามีพี่มาร์คอยู่แล้วทั้งคนนั่นล่ะนะ แต่ว่านะครับ มันก็ถือเป็นเรื่องดีใช่ไหม อย่างน้อยพวกเราก็เป็นเพื่อนกันได้โดยไม่ต้องกลัวอะไรเท่าไหร่...
อย่างน้อยก็อ้างได้ว่าเพื่อนของเพื่อนนั่นล่ะ
“อ้าว รู้จักกันด้วยเหรอเนี่ย ดีจัง~”
“ไม่เห็นจะดีตรงไหน” อิลฮุนเบ้ปาก เขาเห็นมาตั้งแต่ไกล ๆ ว่าไอ้ยักษ์ยูกยอมยืนเด่นอยู่กลางโรงอาหาร อุตส่าห์พยายามหาทางไม่ให้มินฮยอกมองเห็น แต่แน่ล่ะว่ามันยาก ในเมื่อยูกยอมมันทั้งสูงแล้วก็เด่นขนาดนั้น
ไม่อยากจะชมหรอกนะ แต่อิลฮุนก็ไม่ปฏิเสธความจริงที่ว่าหมอนี่มันโดดเด่นมากจริง ๆ
“พาลเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนเลยนะ” ยูกยอมแกล้งแซว แถมยังยักคิ้วกวน ๆ ให้กับอิลฮุนอีกต่างหาก
เรียกได้ว่ายิ่งรู้ว่าไม่ชอบ ยิ่งแกล้งกวนให้หนักไปกว่าเดิม
“เฮ้ย ๆ พอละ ก่อนที่จะกัดกันไปมากกว่านี้ ยูกยอม นี่แบมแบมนะ เป็นคนไทย แต่ว่าพูดเกาหลีเก่งมาก...” มินฮยอกไม่ทันจะได้แนะนำให้จบ ยูกยอมก็แทรกขึ้นมาต่อทันทีว่าพวกเขารู้จักกันแล้ว และก็รู้ด้วยว่าเกาหลีของแบมแบมดีมากแค่ไหน
แล้วก็รู้อีกต่างหาก... ว่าคนน่ารักคนนี้มีแฟนเป็นตัวเป็นตนแล้วด้วย
น่าเสียดาย...
“เออรู้จักกันไว้ก็ดีละ นายนี่แม่งเร็วตลอดเลยนะเรื่องแบบนี้ แถมอยู่บ้านใกล้กันอีกต่างหาก แต่กรณีแบมต้องเสียใจด้วยจริง ๆ ว่ะ ฮ่า ๆ” มินฮยอกแกล้งหยอก เขามองตาเพื่อนสนิทก็พอจะดูออกอยู่หรอกว่าคิดอะไร
แต่บอกแล้วว่าในกรณีของแบมแบม... ต้องเสียใจด้วยจริง ๆ ที่เพื่อนแก้มกลมของเขามีเจ้าของไปซะแล้ว
“สมน้ำหน้า” อิลฮุนว่า ไม่วายส่งสายตาแบบคนชนะให้กับยูกยอม แล้วก็ดึงข้อมือของเพื่อนแก้มกลมให้เดินนำไปด้วยกันอีกต่างหาก
คิมยูกยอมได้แต่ส่ายหน้า อิลฮุนเคยไม่ชอบหน้าเขายังไง จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้เปลี่ยนไปเลยสักนิด งงอยู่เหมือนกันว่าเคยไปทำอะไรให้ พยายามนึกหลายครั้งแต่ก็คิดไม่ออกสักที เลยกลายเป็นว่าปล่อยให้เรื่องมันผ่านไปเรื่อย ๆ แล้วจบด้วยการเป็นคู่กัดกันไปแบบไม่รู้ตัว
ตลกดีเหมือนกันเวลาเห็นคนหงุดหงิดเพราะตัวเขา อยากจะเข้าไปคุยให้รู้เรื่องอยู่หรอกนะครับว่าไม่ชอบกันเพราะอะไร แต่ให้เป็นแบบนี้ก็สนุกดีเหมือนกันครับ แก้เบื่อได้ไม่เบาเลย ...
“เฮ้ ไปตามเพื่อนไปเหรอวะมินฮยอก พากันเดินไปไหนแล้วนั่นน่ะ ไปดิ เดี๋ยวฉันไปด้วย...”
ไม่ว่ากันนะครับพี่มาร์ค ผมแค่อยู่กับแบมในฐานะเพื่อนของเพื่อนจริง ๆ นะ เรื่องจะหักหลังพี่ชายข้างบ้านมันไม่มีอยู่ในหัวแล้วล่ะ
ไม่ได้พูดเล่นนะครับ นี่แค่สนุก ๆ เท่านั้นเอง คิมยูกยอมขอเอาแมวทุกตัวของพี่แทคยอนเป็นเดิมพันเลย
.
.
ร้านขนมหวานของพี่ลู่หานยังเป็นจุดหมายลำดับต้น ๆ ของแบมแบมและเพื่อนอยู่เสมอ
“พี่ลู่หานนนนนนนน” เสียงใสเรียกหาเจ้าของร้าน แล้วก็ได้รับรอยยิ้มหวาน ๆ จากพี่ลู่หานมาเป็นอันดับแรก “โกโก้ปั่นใส่โอรีโอ้หนึ่งแก้วครับผม!”
“อ่าฮะ วันนี้สดใสมาเชียวนะน้องแบม ฮะ ๆ แล้วเราล่ะว่าไงอิลฮุน”
“วันนี้ผมขอเป็นขนมปังปิ้งแล้วกันครับ พวกผมไปนั่งเล่นรอกันตรงนั้นนะ เดี๋ยวมาเอาน้า พี่ลู่หานไม่ต้องไปเสิร์ฟเองนะครับ” ลู่หานพยักหน้ายิ้ม ๆ เด็กสองคนนี้เป็นแบบนี้เสมอ ชอบที่จะเดินมารับขนมไปเอง หรือเผลอ ๆ บางทีถ้าลู่หานยุ่ง ๆ ยังเข้ามาช่วยทำ ช่วยยกออกไปให้กับลูกค้าเสียด้วยซ้ำ
ลู่หานภาวนาทุกครั้งที่แบมแบมกำลังช่วยงานเขา ขอให้เจ้ามาร์คอย่าเพิ่งเข้ามาเลยเชียวล่ะ แค่ครั้งเดียวก็เกินพอแล้วที่ลู่หานถูกตำหนิด้วยสายตาเย็น ๆ แบบนั้น
ยอมรับตามตรง ถึงเขาจะโตกว่ามาร์คหลายปีอยู่เหมือนกัน แต่พอเจอสายตาเย็น ๆ ของมาร์คเข้าไป ก็แทบจะไปต่อไม่ถูกเลยล่ะ ได้แต่ส่งยิ้มแห้ง ๆ กลับไป โดยมีเซฮุนคอยช่วยพูดแก้ตัวไปด้วย...
เชื่อเขาเลยว่าคนอย่างมาร์ค ต้วนจะขี้หวงได้ขนาดนั้น ถ้าไม่เห็นเองกับตา เขาก็ไม่คิดหรอกว่าคนที่ใครต่อใครบอกว่าเป็นเจ้าชายน้ำแข็ง จะติดเด็กน้อยที่ชื่อว่าแบมแบมมากขนาดนี้
ทั้งรักทั้งหวงอาจจะน้อยเกินไป... ลู่หานก็ไม่แน่ใจว่ามาร์ครู้ตัวไหมนะ
“เดินมาไม่รอเลยว่ะ เดี๋ยวไปสั่งน้ำแป๊บ ไอ้ยูกยอมเอาไรป่ะ?”
“ไม่ว่ะ เดี๋ยวนั่งรอตรงนี้แหละ”
ไม่นานหลังจากที่แบมแบมและอิลฮุนนั่งคุยเล่นกันอยู่ ยูกยอมและมินฮยอกเดินตามมาสมทบด้วยหลังจากนั้น อิลฮุนถอนหายใจ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรกับการที่มีมนุษย์ตัวยักษ์มานั่งอยู่ข้าง ๆ แล้วพูดจากวนอารมณ์ตลอดเวลา
ไม่ถูกชะตา! อิลฮุนก็แค่ไม่ถูกชะตากับหมอนี่มาตั้งแต่มัธยมต้น แล้วยิ่งเห็นว่ากำลังทำสายแพรวพราวให้แบมแบมของพวกเราอยู่อย่างตอนนี้ ถ้าไม่เกรงใจนี่เขาคงดีดลูกตาหมอนี่ไปแล้ว!
“วันนี้พี่มาร์คมารับแบมแบมหรือเปล่า?” อิลฮุนถาม จงใจอยากจะให้ไอ้ตัวยักษ์ข้าง ๆ ได้ยินชัด ๆ ไปอีกทีว่าเพื่อนของเขามีคนรักเป็นตัวเป็นตนอยู่แล้ว “แต่ถึงพี่มาร์คไม่มา ยังไงก็ต้องมีคนมารับนายเพราะพี่มาร์คบอกอยู่ละจริงไหม พี่มาร์คออกจะทั้งรักทั้งหวงนายแบบนี้”
คิมยูกยอมแอบขำ เพิ่งจะรู้ว่าอิลฮุนก็เป็นคนหวงเพื่อนไม่น้อยเลย
“ไม่ ๆ วันนี้พี่มาร์คไม่ได้มารับหรอก พี่แจ็คสันเพิ่งจะไลน์มาบอกว่ากำลังออกมารับน่ะ เหมือนจะต้องแวะไปบ้านพี่เซฮุนก่อนด้วย” แบมแบมว่า เขาเสียดายนิดหน่อยที่วันนี้ไม่ได้ไปเที่ยวอย่างที่พี่มาร์คบอกเอาไว้ แต่ไม่เป็นไร ยังไงการสอบศัพท์ที่ออกมาดีกว่าที่คิดของเขา ก็ยังเป็นข้ออ้างที่จะสามารถขอรางวัลในอนาคตได้อยู่ดี
แบมแบมเปล่าเห็นแก่รางวัลนะ!
อิลฮุนกำลังจะชวนเพื่อนคุยต่อไป แต่ทว่าเด็กม.ปลายก็เห็นว่าพี่ชายของแบมแบมอย่างหวัง แจ็คสันกำลังเดินเข้ามาหา...
“แบม! พี่แจ็คสันมาแล้วน่ะ เฮ้ คิมยูกยอม นายจะลุกก็ช่วยบอกฉันก่อนได้ไหมเล่า ดันเก้าอี้ออกแบบนี้ ถ้าเกิดฉันเสียหลักล้มลงไปจะทำยังไง!” อิลฮุนว่าด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด แหงสิครับ ในเมื่อเก้าอี้ตัวยาวที่นั่งได้ฝั่งละสามคน ถ้าหากมีคนนึงดันออก มันย่อมทำให้คนที่นั่งอยู่ต้องขยับตัวตามจริงไหม
แล้วนี่ขยับโดยไม่ปรึกษาเขาแบบนี้ ยังดีนะที่หัวไม่ทิ่มอ่ะ!
“’โทษที ๆ พอดีอยากทักพี่ชายมากไปหน่อย ไงครับพี่แจ็ค ไม่เจอกันนาน หล่อขึ้นป่ะเนี่ย?”
“โหยูกยอม ทำไมโตขึ้นได้ขนาดนี้วะ เอ้า มานั่งกับแบมแบมได้ไง เฮ้ยนี่รู้จักกันหมดเลยเหรอ งั้นก็รู้แล้วดิว่าน้องพี่เป็นแฟนของไอ้มาร์ค เฮ้ย นี่แกรู้ใช่ไหมว่าแบมแบมเป็นน้องชายพี่”
ยูกยอมเลิกคิ้ว ก่อนที่เขาจะหัวเราะออกมาเมื่อคิดว่าพอจะปะติดปะต่อเรื่องราวได้
“นี่โลกมันกลมหรือผมแค่ไม่รู้วะครับเนี่ย ฮ่า ๆ ดีเลย เอาไว้ถ้ามีโอกาสคงได้ไปกินข้าวด้วยกัน อ๊ะ แล้วพี่ชายคนข้างหลังนั่น... จะไม่แนะนำให้น้องรู้จักหน่อยเหรอครับพี่แจ็คสัน”
“เออ ไว้ค่อยว่ากัน ไปครับน้องแบมแบมของพี่หวัง เดี๋ยวไอ้มาร์คบ่นไปถึงช้า พี่ไปก่อนละเด็ก ๆ ไว้เจอกันใหม่” แจ็คสันโบกมือไหว ๆ ยักคิ้วให้กับน้องชายข้างบ้าน(ของไอ้มาร์ค) เขาพอจะคุ้นเคยกับคิมยูกยอมอยู่บ้าง เพราะเมื่อก่อน คือก่อนที่ยูกยอมจะไปแลกเปลี่ยน เขาก็เคยเล่นเคยคุยกับน้องอยู่บ้างถ้าหากไปแถวนั้น
ผู้ชายสนิทกันง่ายมากกว่าที่ทุกคนคิดครับ ถ้าหากไม่ได้เป็นศัตรูกันน่ะนะ
“งั้นเราไปก่อนนะ ไว้เจอกันน้าทุกคน~”
แบมแบมยิ้มกว้าง โบกมือให้กับทุกคนก่อนที่จะกระโดดเกาะหลังพี่ชายอย่างแจ็คสัน หวังแล้วหัวเราะลั่น...
กันต์พิมุกต์ก็ยังเป็นเด็กน้อยที่น่ารักมากเกินไปในสายตาของทุกคนอยู่เหมือนเดิมจริงไหมครับ?
TBC Pretty Pretty boy
TALK:
เหมือนจะถูกกล่าวถึงกันทุกคนแล้วนะคะนะ ... ซะที่ไหนล่ะ ฮา ~ ภาคสองกำลังจะดำเนินต่อไปแล้วนะ! ฝากให้กำลังใจกับทุกตัวละครกันด้วยนะครัช!
ปล.ภาคแรกยังเปิดให้สั่งจองกันได้อยู่นะคะ สอบถามเพิ่มเติม @bpuppyy_ ได้น้า
เจอกันตอนหน้าค่ะ
ความคิดเห็น