ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    All + Reader ตัวละครแสนรัก [ปิดรับรีเควสชั่วคราวจ้า]

    ลำดับตอนที่ #21 : [Conan] Amuro Tooru x Reader : Spy [Request]

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.76K
      84
      20 พ.ค. 61

    Pairing : Amuro Tooru x Reader
    Theme : สปาย
    Summary : จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อคู่หูสายลับต้องมาเจอเหตุการณ์อันตรายที่เสี่ยงตายแพ็คคู่




    ..........................................................................................................................................................................................................





            เสียงฝีเท้าจากรองเท้าหนังสีดำขลับสะท้อนก้องกับพื้นดังตึกๆตามจังหวะการก้าวเดินของเจ้าของ ร่างในชุดลำลองแต่คล่องแคล่วเดินไปตามทางเท้าผ่านย่านตึกอาคารต่างๆบนถนนสายหลัก แขนข้างหนึ่งหนีบซองเอกสารไว้ใต้รักแร้ นัยน์ตาสี(...)ซ่อนอยู่หลังกรอบแว่นกันแดดสีชา เจ้าของร่างนั้นเดินหลบเข้าไปในซอยเล็กเปลี่ยวซอยหนึ่งที่ค่อนข้างมืดสลัวและไม่มีคนพลุกพล่าน ยืนเอนตัวพิงหลังกับกำแพงฝั่งหนึ่ง สายตาคอยจับจ้องออกไปยังถนนข้างนอกพยายามมองหาบุคคลที่นัดหมายไว้ 

            รอไม่นาน บุคคลที่ว่าก็เดินทางมาถึง ชายหนุ่มผิวสีแทนอ่อนในชุดเสื้อยืดคอวีแขนยาวสีครีมสวมทับด้วยเสื้อตัวนอกสีดำ เส้นผมสีบลอนด์ทรายซีดเป็นปอยระกับกรอบใบหน้าของเขา เช่นเดียวกับคุณ นัยน์ตาสีครามของเขาซ่อนอยู่หลังเลนส์แว่นกันแดดสีดำเข้าชุดกัน อามุโร่ โทโอรุ กำลังเดินตรงมาหาคุณ หรือชื่อจริงอีกชื่อของเขาที่คุณรู้จักดีในชื่อของฟุรุยะ เรย์

            เขาถอดแว่นกันแดดออกเช่นเดียวกับคุณ มือข้างหนึ่งของเขาล้วงกนะเป๋าด้วยท่าทางสบายๆ อชมืออีกข้างยกขึ้นเสยผมสีบลอนด์ซีดนั้น ริมฝีปากได้รูปหยักยิ้มด้วยความเป็นมิตร

            " ว่าไง มีอะไรคืบหน้าบ้างล่ะ ซาเกะจัง*? "

    เขาพูดด้วยเสียงนุ่มทุ้ม ปนหยอกล้อคุณด้วยชื่อเล่นที่เขาตั้งให้ คุณกลอกตาพลางมองค้อนเขาแวบหนึ่งก่อนจะส่งซองเอกสารนั้นให้เขา

            " ดูให้คุ้มหน่อยนะ บอน-บอน กว่าฉันจะได้มันมานี่เลือดตาแทบกระเด็น "
    คุณว่า หยอกย้อนเขากลับด้วยชื่อเล่นที่คุณเรียกเองเช่นกัน

             ทั้งคุณและโทโอรุต่างเป็นสปายแฝงตัวอยู่ในองค์กรชุดดำโดยมีโค้ดเนมเป็นของตนเองเหมือนสมาชิกคนอื่นๆ เขาถูกตั้งโค้ดเนมว่าเบอร์บอนที่คุณตั้งเล่นใหม่ให้เขาเป็นบอน-บอน ซึ่งนั่นก็แลกกับการที่เขาเองก็เรียกคุณเล่นกลับว่าซาเกะจัง...คุณอยู่ในฝ่ายเทคนิคกับเอกสารคอยแอบแฮ็กสื่อต่างๆหรือเจาะระบบการสื่อสารเพื่อล้วงเอาข้อมูลออกมา แต่ปัจจุบันนี้เหลือคุณอยู่ในนั้นคนเดียว เพราะส่วนใหญ่โทโอรุจะออกมาทำงานภาคสนามอยู่ข้างนอกมากกว่า แต่วันนี้คุณปลีกตัวจากจอคอมพิวเตอร์กับตั้งแฟ้มเอกสารเป็นกรณีพิเศษเพื่อลอบเอาเอกสารรวบรวมข้อมูลที่คุณแฮ็กได้ทั้งหมดในเดือนนี้มาส่งต่อให้กับโทโอรุ ซึ่งเจ้าตัวรับมาเปิดดูคร่าวๆก่อนจะหนีบไว้ในอ้อมแขนก่อนจะสบตาแล้วฉีกยิ้มหวานให้คุณ

            " ไม่ทำให้เธอผิดหวังหรอก ซาเกะจัง ว่าแต่ เลือดตาแทบกระเด็นเชียวเหรอ เธอขลุกอยู่ในห้องพวกนั้นคนเดียวทั้งวัน น่าจะจัดการได้สบายๆเหมือนเดินจ่ายตลาดเลยนะ "

    ประโยคนั้นสะกิดต่อมหงุดหงิดจนคุณตวัดหน้าหันขวับปรายตามองค้อนตัวคนพูด

            " นายลองกลับไปสำนักงานใหญ่สักรอบแล้วจะรู้ ตอนนี้พวกนั้นติดระบบรักษาความปลอดภัยแน่นยิ่งกว่าเดิมอีก ยิ่งห้องของฝ่ายเทคนิคข้อมูลอย่างพวกฉันนะ...ไม่รู้จะติดกล้องกับพวกระบบเซ็นเซอร์ตรวจจับอะไรนักหนา คอมพิวเตอร์ทุกตัวก็ถูกตั้งโค้ดรหัสผ่านตั้งสองชั้นกว่าจะเข้าไปใช้ได้ ขนาดฝั่งพวกนั้นเองยังบ่นกันเลย"

    โทโอรุเลิกคิ้ว เขาเกาท้ายทอยด้วยท่าทีประหม่า
            "...เรื่องนั้นฉันไม่รู้เลย ไม่ค่อยได้ตามข่าวจากข้างใน วุ่นกับงานข้างนอกนี่แหละ"
    คุณถอนหายใจแล้วยกมือขึ้นกอดอก
            " แล้วที่นัดฉันมาแถวนี้ มีอะไรหรือเปล่า ปกตินายทำงานอยู่ฝั่งย่านชานเมืองโตเกียวนี่นา"
    รอยยิ้มของเขาเปลี่ยนอารมณ์กลายเป็นยิ้มแบบเจื่อนๆ
            " ก็...ยังไงดีล่ะ...อยู่ดีๆยินก็ส่งคำสั่งมาให้ฉันไปสะกดรอยตามกลุ่มคนน่าสงสัยกลุ่มหนึ่งเข้าน่ะสิ ฉันแวะไปดูมาแล้ว พวกเขาดู...ไม่รู้สิ ท่าทางจะซ่อนอะไรไว้อีกเยอะ นั่นแหละ..เอาง่ายๆคือฉันอยากได้กำลังเสริมนั่นแหละ ถ้าเธอไม่รีบน่ะนะ พวกเขาให้เวลาเธอถึงกี่โมงล่ะ? "
    คุณก้มดูนาฬิกา ตอนนี้มันชี้บอกเวลาบ่ายสามโมง
            " ฉันต้องกลับสำนักงานให้ทันสี่โมงครึ่ง"
    โทโอรุเอามือจับคางขณะใช้ความคิด
            " ชั่วโมงครึ่งเหรอ...ทันอยู่ถ้าเราช่วยกันเร่งมือ เธอโอเคไหม?"

            เขาถาม คุณนิ่งไปครู่หนึ่ง ถึงเขาจะบอกว่าทันก็เถอะ แต่คุณก็ไม่ค่อยอยากเอาตัวเองไปเสี่ยงมากหรอก คุณไม่อยากมีปัญหากับพวกระดับสูงขาโหดคนอื่นๆที่จะเค้นเอาความไม่หยุดถ้าคุณกลับไปไม่ทัน

            " เราต้องทำอะไรบ้างล่ะ?"
    " แค่สืบแล้วก็รายงานยินหรือว็อดก้า แล้วพวกเขาจะส่งคนมาเก็บกวาดหรือจัดการอะไรก็แล้วแต่ ตามที่สองคนนั้นเห็นสมควร"
    คุณถอนหายใจด้วยความเคยชินกับบอสใหญ่สองคนก่อนจะกระซิบกับเขาเบาๆ
    "งั้นก็ได้ อย่างน้อยเราก็ไม่ต้องฝืนใจทำอะไรให้เลือดเปื้อนมือ.."

            เขาพยักหน้าพลางเดินนำกลับออกไปยังถนนภายนอกโดยไม่ลืมสวมแว่นกันแดด คุณทั้งคู่ทำทีคุยกันจิปาถะไปเรื่อยเปื่อยทำทีกลมกลืนไปกับคนอื่นๆ แต่เมื่อสังเกตดีๆ คุณก็เห็นว่าสายตาของโทโอรุนั้นดูระแวดระวังคอยสอดส่องหาเป้าหมายอยู่ตลอด
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
            และแล้วคุณก็สะดุ้งโหยงเมื่อจู่ๆเขาก็กระตุกแขนดึงตัวคุณแนบติดกับกำแพงอาคารแห่งหนึ่งใกล้ทางเข้าตรอกมืดๆแคบๆซอยหนึ่ง ด้านในสุดมีกลุ่มชายสามคนในชุดสูทสีดำคู่กับแว่นกันแดดสีดำ ทุกคนมีกระเป๋าทำงานใบใหญ่คนละใบวางอยู่บนพื้นข้างๆ หนึ่งในสองคนกำลังก้มหน้าก้มตากดโทรศัพท์มือถือในมือ ส่วนสองคนที่เหลือกำลังพูดคุยอะไรสักอย่างที่ดูเคร่งเครียด

            คุณคอยดูต้นทางให้ในระหว่างที่โทโอรุกำลังใช้สารพัดอุปกรณ์เก็บหลักฐานและจับตาดูท่าทางคนกลุ่มนั้น บันทึกเสียงลงนาฬิกาข้อมือพิเศษหรือถ่ายรูปด้วยกล้องพกพาอัจฉริยะตัวจิ๋ว 

            เวลาผ่านไปนานเท่าไหร่แล้วคุณไม่รู้ คุณรู้แค่ว่าเท้าของคุณเริ่มเมื่อยล้าจากการยืนแล้วหน้าผากกับไรผมก็เริ่มชื้นเหงื่อเพราะความอบอ้าวของอากาศในฤดูร้อน

            ตอนนั้นเองที่คุณได้ยินเสียงการชักอาวุธดังมาจากในซอยพร้อมๆกับที่ตัวคุณถูกดึงกระชากไปอีกทางด้วยพละกำลังของคนข้างๆ โทโอรุดึงคุณเข้าไปหลบหลังถังขยะสาธารณะขนาดใหญ่ที่อยู่ในตรอกข้างๆ คุณจ้องมองเขา ส่งสายตา 'มันเกิดอะไรขึ้น?' ไปให้อีกฝ่าย แต่เขากลับยกนิ้วชี้ขึ้นจุ๊ปาก ขยับปากเป็นทำนองว่า 'เดี๋ยวก็รู้'

            เพียงแค่ชั่วครู่ คุณก็เห็นชายคนหนึ่งในกลุ่มนั้นสาวเท้าเข้ามาในตรอก ส่วนอีกคนนึงวิ่งเลยไปดูอีกทาง โทโอรุค่อยๆดึงตัวคุณให้เขยิบเข้าใกล้เขามากขึ้น คุณทั้งคู่ระมัดระวังอย่างมากไม่ให้เผลอทำเสียงดัง พวกคุณสามารถมองเห็นวิวข้างหน้าผ่านรูโหว่เล็กๆของถังขยะเท่านั้น แถมผู้ชายที่เดินวนเวียนอยู่ก็ชักปืนออกมาเตรียมตัวเรียบร้อย ไม่มีอะไรแย่ไปกว่านี้อีกแล้ว

    เยี่ยมจริงๆ...ฉันเหลือเวลาอีกไม่ถึงชั่วโมงที่ต้องกลับสำนักงานให้ทันแล้วยังต้องมากังวลกับคนที่จ้องจะฆ่าอยู่ตรงหน้าอีก ช่างเป็นวันที่ดีจริงๆอะไรอย่างนี้นะ...

            ความกลัวและความกังวลทำให้คุณทั้งสองคนลืมสภาพแวดล้อมสกปรกๆและอากาศเหม็นๆของขยะไปหมดสิ้น สิ่งเดียวที่พวกคุณปราถนาคือการได้ออกไปจากตรงนี้อย่างปลอดภัย

            "โทรุ...เราจะทำไงล่ะแบบนี้...มันวนเวียนไม่ยอมไปไหนเลย พอจะทำอะไรได้ไหม?"
    คุณกระซิบถาม คำตอบที่คุณได้คือการส่ายหัวจากคนข้างๆ
    " อย่าเพิ่งเสี่ยงเลย รอดูไปก่อน "
    คุณชะงักไปเพราะเพิ่งจะรู้ตัวว่าคุณกับเขาอยู่ใกล้กันขนาดไหน ตอนนี้ทั้งตัวทั้งใบหน้าคุณแทบจะแนบติดกับเขาอยู่แล้ว
    " หือ? มีอะไรรึเปล่า? "

            คุณรีบส่ายหัวกลบเกลื่อนก่อนจะหันกลับไปเพ่งมองข้างหน้าเหมือนเดิม ชายอีกคนเข้ามาสมทบ ดูเหมือนเขาจะตรวจดูแถวนั้นจนแน่ใจแล้วว่าไม่เจอพิรุธอะไร คุณเหลือบเห็นโทโอรุล้วงกระดุมสีดำรูปร่างกลมออกมาแล้วทำทีโยนมันออกไปข้งหน้าเบาๆ คุณรู้ดีว่ามันไม่ใช่กระดุมหรอก มันคือเครื่องดักฟัง...โทโอรุหมุนปุ่มสี่เหลี่ยมบนหน้าปัดนาฬิกาข้อมือของเขาเพื่อบันทึกข้อมูลก่อนจะหันกลับไปข้างหน้า

    " ทางโน้นมีไหม? " 
    "ไม่มี ฉันไปดูยันสุดถนน ไม่มีวี่แววพวกน่าสงสัยตะกี้"
    "แปลกนะ เวลาแค่นิดเดียวพวกมันจะไปไกลขนาดนั้นได้ยังไง"

            เหงื่อของโทโอรุหยดลงบนไหล่ของคุณ หน้าผากของคุณเองก็ชุ่มเหงื่อเช่นกัน ไม่ใช่เหงื่อที่มาจากความร้อนหรืออากาศ แต่มาจากความกดดันและความกังวลที่อัดแน่นอยู่ในใจ 

    "แล้วในนี้แกค้นหมดรึยัง?"
    "เข้ามาก็ไม่มีอะไรน่าสงสัย"
    " ฉันว่าเดินไปดูข้างหลังหน่อยจะดีกว่า มันน่าจะมีพื้นที่พอจะหลบได้ "

    ประโยคนั้นทำให้คุณย่อตัวลงต่ำยิ่งกว่าเดิม โทโอรุเองก็เช่นกัน

    " แกเอาจริงเรอะ ซ่อนอยู่หลังถังขยะเนี่ยนะ เป็นฉันไม่ลงทุนขนาดนั้นหรอก "

    อีกคนนึงส่งเสียงแค่นหัวเราะอย่างขำขันปนดูถูกตรงข้ามกับคุณทั้งคู่ที่ใจคอไม่ดีอย่างมาก โทโอรุดึงคุณเข้ามาใกล้เขายิ่งกว่าเดิม

    "ก็ไม่แน่หรอก ดีกว่าปล่อยให้มันหลุดไป ดีซะอีกจะได้ทำลายหลักฐานไปพร้อมกันเลย ไอ้ถังนี่มันใหญ่พอควร กองขยะข้างหลังอีก จัดการมันแล้วก็ซ่อนไว้แถวนี้นั่นแหละ กว่าจะมีคนมาเจอใครจะรู้ เผลอๆอาจปาไปตอนบี้ขยะแล้วก็ได้"

    "งั้นทำให้มันเสร็จๆซะ แกนำไปก่อน"

            เสียงชักไกปืนดัง'กริ๊ก'ขึ้นสองครั้งก่อนจะตามมาด้วยเสียงฝีเท้า คุณแทบจะกลั้นหายใจทุกขณะที่เสียงฝีเท้านั้นเดินใกล้เข้ามาเรื่อยๆ คราวนี้คุณแนบตัวลงติดพื้นโดยมีโทโอรุตามมาติดๆ  คุณชำเลืองมองเขาด้วยความกังวล เขาพยักหน้าน้อยๆแล้วลูบไหล่คุณเป็นเชิงให้กำลังใจ

            คุณได้ยินเสียงหัวใจเต้นดังแข่งกับเสียงตึกๆของการเดินขึ้นแทบจะทุกวินาที จนในที่สุด เสียงฝีเท้าทั้งสองเสียงก็ฟังดูเหมือนกับอยู่ห่างออกไปแค่หนึ่งไม้บรรทัด

            แต่ในตอนนั้นเอง เสียง'ติ๊ดๆ'เป็นจังหวะก็ดังออกมาจากฝั่งตรงข้ามพอดีกับเสียงฝีเท้าทั้งสองหยุดลง ความเงียบปกคลุมบริเวณไปครู่หนึ่ง

            "...หมอนั่นบอกว่าคนนัดมาถึงแล้ว ไป ยิ่งส่งของนั่นเร็วเท่าไหร่ยิ่งดี "
    " แล้วไอ้พวกนั้นล่ะ? "
            " ช่างมัน ถ้าเราไม่ปากสว่างก็ไม่มีทางหลุดไปหรอก แกก็เงียบเอาไว้ละกัน "
    หลังจากนั้นก็ตามมาด้วยเสียงฝีเท้าที่ค่อยๆแผ่วเบาแล้วเงียบหายไป 

            เมื่อเห็นว่าชายทั้งสองคนจากไปแล้ว คุณกับโทโอรุก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ด้วยความโล่งใจ พวกคุณโผล่หัวยืดตัวขึ้นมาให้คลายความปวดเมื่อย แต่พักเดียวที่พวกคุณพากันเดินห่างออกมาจากถนนตรงนั้นเพราะรู้ดีว่าเป็นการสุ่มเสี่ยงถ้าหากยังอยู่ในตรอกนั้นนานๆ
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
            โทโอรุพาคุณมาหยุดอยู่ริมถนนแห่งหนึ่ง เขาส่งยิ้มแห้งๆเป็นเชิงสำนึกผิดมาให้

            " ขอโทษนะที่พาเธอเกือบซวย"
    คุณพยักหน้า แต่ไม่ได้พูดอะไรเพราะมีอีกอย่งหนึ่งที่สำคัญกว่านั้น
            " ตอนนี้กี่โมงแล้ว?"
    เขาก้มดูนาฬิกา
            " สามโมงสี่สิบ"
    คุณถอนหายใจ
            " โอเค มีเวลากลับไปทันถ้านั่งแท็กซี่"
    เขากระพริบตา สีหน้าดูสงสัย
            " แล้วเนื้อตัวเธอล่ะ?"
    คุณยักไหล่
           "เดี๋ยวแวะอาบน้ำที่ฟิตเนสแถวนี้เอา"
    เขาพยักหน้า
           "ไว้ถ้าได้วันหยุดจะตอบแทนเธอเป็นการชดเชยที่เกือบพาตายคู่"
    คุณหลุดหัวเราะ ตีแขนเขาเบาๆ
            "ช่างมันเถอะ  ฉันต่างหากต้องขอบคุณที่อุตส่าห์ปกป้องฉันซะแนบแน่นเชียว"

            คุณพูดแล้วก็นึกถึงตอนที่เขาโอบคุณให้เข้าไปใกล้ ทีแรกคุณกะแค่หยอกโทโอรุเล่นๆ แต่เขากลับตอบกลับมาด้วยประโยคที่ทำเอาคุณอึ้งไป

            " คนเราก็ต้องปกป้องคนที่รักเป็นธรรมดา "
    เขาพูดด้วยท่าทีสบายๆปนเขิน แต่เมื่อเหลือบมาเห็นสีหน้าของคุณ แก้มเขาก็เกิดขึ้นสีเรื่อเป็นแถบ
            " ก็...ชอบเธอมานานแล้วล่ะ แต่ไม่มีโอกาสบอก ลืมๆไปเถอะ มันไม่สำคัญหรอก...มั้ง"
    คุณส่ายหัวก่อนจะยิ้มหวานออกมาเพราะความน่ารักของเขา คุณเอื้อมมือขึ้นหยิกแก้มเขา
            " มันสำคัญสิ เพราะ...ฉันเองก็ชอบนายเหมือนกัน..."
    คุณก้มหน้ามองพื้นทันทีที่ประโยคนั้นหลุดออกไป
            " จริงเหรอ? "
    คุณพยักหน้า เขาหัวเราะร่วนแล้วยกมือขึ้นลูบหัวคุณเบาๆ
             " งั้นมาตกลงกัน คราวหน้าถ้ามีวันหยุด...เราไปเดทกัน โอเคนะ"
    เขาเอ่ยพร้อมกับยื่นนิ้วก้อยมาตรงหน้าคุณ คุณค่อยๆเอานิ้วเกี่ยวก้อยกับเขาด้วยความเขิน
            " งั้น...ไว้เจอกันนะ ซาเกะจัง "
            " อย่ามาสายล่ะ บอน-บอน "

            เขาหัวเราะร่วนแล้วโบกมือลาก่อนจะหันหลังเดินกลับไปพร้อมๆกับคุณที่มุ่งหน้าไปอีกทางโดยที่ใบหน้ายังคงเปล่งประกายไปด้วยความสุข

    สำนวนที่กล่าวว่าภายในเรื่องร้ายๆก็ยังคงมีเรื่องดีๆแฝงอยู่นี่มันมีจริงๆด้วยสินะ


    ...................................................................................................................................................................................................................
    *เพิ่มเติม*
    *ซาเกะหรือสาเก เป็นเหล้าชนิดหนึ่งของญี่ปุ่นจ้า



    ...................................................................................................................................................................................................................
    ป.ล.1 ไรต์กลับมาแล้วจ้า หลังจากมรสุมการสอบ...ทรมานไปอีก...
    ป.ล.2 ขอโทษนะคะที่หาเวลาลงไม่ได้เลย ปีนี้แจ็กพ็อตแตกมีแต่วิชายากๆ
    ป.ล.สุดท้าย คิวรีเควสจ้า
           1. Mafumafu [Utaite]
          2. Soraru [Utaite]


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×