ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    All + Reader ตัวละครแสนรัก [ปิดรับรีเควสชั่วคราวจ้า]

    ลำดับตอนที่ #34 : [Marvel] Star-Lord x Reader : Night sky [Request]

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.03K
      53
      5 ส.ค. 61

    Pairing : Star-Lord x Reader
    Theme : ตำนานฝันรัก
    Summary : เรื่องเล่ากลุ่มดาวผูกใจสองดวง(?)




    ...................................................................................................................................................................................................................


            ยามรัตติกาลคือช่วงเวลาที่คุณชอบที่สุดเพราะทุกๆสิ่งจะเงียบสงัดทำให้ใจของคุณสงบจากสิ่งวุ่นวายต่างๆและมีสมาธิมากขึ้น ปราศจากสิ่งรบกวน เรื่องวุ่นวายบนโลกและในอวกาศ

            หมู่ดาวดวงแล้วดวงเล่าสะท้อนเป็นประกายระยิบระยับอยู่ภายในนัยน์ตาสี(...)ที่กำลังแหงนมองพวกมันอยู่บนหลังคาของยานเอ็ม-ชิพ  หลังจากวันอันแสนชุลมุนวุ่นวายจากเหล่าสิ่งมีชีวิตหลากหลายสายพันธุ์กับมนุษย์ต่างดาวพิลึกกึกกือทั้งหลาย มันก็เป็นการดีที่จะได้มีช่วงเวลาสงบๆที่ไม่ต้องออกแรงก่อสงครามกับใคร ที่จริงตอนนี้ก็ไม่ค่อยเป็นเวลาที่เหมาะดูดาวนักหรอกเพราะมันเป็นเวลาเกือบจะเที่ยงคืนแล้วเมื่อดูจากตำแหน่งดวงจันทร์สีขาวหม่นที่ลอยเคว้งคว้างอยู่ไกลๆท่ามกลางดาวเล็กๆที่โปรยปรายไปทั่วท้องฟ้า...ไม่สิ...ต้องเรียกว่าอวกาศถึงจะถูก

    " เจ้ายังไม่นอนรึ? "
            เสียงปริศนาที่จู่ๆก็ดังขึ้นส่งผลให้คุณสะดุ้ง คุณผุดลุกขึ้นมาพบกับปีเตอร์ ควิลล์ที่กำลังปีนขึ้นมาสมทบกับคุณ เขาอยู่ในเสื้อผ้ายืดคอกลมแขนยาวสีเทาเข้มกับกางเกงแนบตัว เขาเสยผมสีบลอนด์ไปด้านหลังขณะหย่อนตัวลงนั่งขัดสมาธิข้างๆ เฉกเช่นเดียวกับคุณ...นัยน์ตาสีฟ้าของเขาเป็นประกายระยับพร่างพราวด้วยดวงดาวต่างๆที่อยู่เบื้องบน

            " แค่...ยังไม่ค่อยง่วงน่ะ "
    คุณตอบพลางยักไหล่ เขาเปลี่ยนมานั่งเหยียดขายาวไปข้างหน้าพลางแกว่งปลายเท้านิดๆแก้เบื่อ
            " แปลกนะ บู๊แหลกลุยมาเกือบทั้งวันตอนนี้คนอื่นๆหมดแรงหลับไปหมดแล้ว เจ้านี่ตื่นตัวดีจัง "
    เขาพูดติดตลก คุณขยับตัวไปมาอย่างไม่ค่อยสบายใจ ที่คุณไม่ค่อยอยากจะนอนมันมีเหตุผลหรอก...คุณแค่..ชอบฝันร้ายก็เท่านั้นเอง
            " ก็...พอได้ออกมาดูดาวแบบนี้มันก็หายเหนื่อยไปเยอะเลย "
    คุณกลบเกลื่อนพร้อมลงไปนอนแผ่เหมือนเดิม มือสองข้างประสานไว้ใต้ศีรษะที่ปกคลุมด้วยเรือนผมสี(...) ปีเตอร์พยักหน้า แหงนเงยขึ้นไปดูวิวเบื้องบน และด้วยเหตุอะไรสักอย่าง ริมฝีปากของเขาระบายรอยยิ้มออกมา
            " นั่นสิเนอะ...เรื่องเล่าของพวกมันไม่ว่าจะนึกถึงหรือฟังกี่ครั้งก็เพลินทุกที "
    คิ้วของคุณเลิกสูงขึ้นเป็นเชิงสงสัยขณะผงกหัวขึ้นมา
            " อ้าว ไม่เคยได้ยินเหรอ...ก็พวกเรื่องตำนานนิทานกลุ่มดาวต่างๆไง "
    เขาถามด้วยเสียงแปลกใจราวกับจะบอกว่ามันเป็นเรื่องที่ใครๆก็รู้ 

    แหม...ล้อเล่นรึเปล่าพ่อคุณ ในจักรวาลนี้มีดาวหลายพันหลายล้านดวงที่มีชื่อเรียกและประวัติความเป็นมาของตัวเอง เขาคงไม่ได้กำลังคิดว่าทุกคนจะจำนิทานทั้งหมดเป็นพันเรื่องในสมองเดียวทั้งสองซีกได้หรอกนะ...

            " ฉันพอรู้บ้างหรอก ถึงจะไม่ละเอียดก็เถอะ อย่างชื่อดาวเคราะห์ก็เป็นชื่อตามตำนานเทพเจ้ากรีก-โรมันใช่ไหมล่ะ "
    เขาพยักหน้า เอนตัวลงนอนราบแนวเดียวกับคุณ
            " มันมีอะไรลึกมากกว่านั้นอีกนะ อย่างเช่นนายพรานที่ถูกส่งตัวขึ้นมาเป็นกลุ่มดาว "
    พอฟังประโยคนั้นแล้วคุณก็อดแค่นหัวเราะไม่ได้
            " จู่ๆคนจะกลายเป็นดาวบนฟ้าได้ไง.. "
    คุณบ่นอุบอิบ แต่ก็ยอมรับว่าลึกๆข้างในนั้นรู้สึกสนใจเรื่องเล่าแฟนตาซีล้ำจินตนาการพวกนั้น ปีเตอร์หัวเราะเบาๆก่อนจะหยัดตัวลุกขึ้นมาอยู่ในท่านั่ง
            " ถ้าอยากรู้เดี๋ยววันหลังจะเล่าให้ฟัง...เจ้าสนใจรึเปล่าล่ะ? "
    คุณพยักหน้าโดยอัตโนมัติ คุณเจอสัตว์ประหลาดกับพวกมนุษย์อวกาศแนวไซไฟพิลึกพิลั่นมามากพอแล้ว บางทีการได้ฟังอะไรที่เป็นนิทานเทพนิยายคลาสสิคอาจจะช่วยบรรเทาอาการฝันร้ายได้ดีขึ้นก็ได้
            " เอาล่ะ~ข้าว่าข้าบ่มง่วงเต็มที่แล้วล่ะ...ราตรีสวัสดิ์ เจ้าเองก็ควรนอนเหมือนกันนะ "
    ปีเตอร์กล่าวเรียบๆ หยัดตัวลุกขึ้นกลับเข้าไปในยาน คุณยังนอนไขว่ห้างดูดาวพวกนั้นต่ออีกหน่อยก่อนจะเข้านอน
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
            ผิวขรุขระของดวงดาวไม่ได้เป็นอุปสรรคในการวิ่งสำหรับคุณเลย ทุกครั้งที่ปลายเท้าของคุณเตะหรือสัมผัสโดน มันก็จะสลายกลายเป็นฝุนผงกระจายตัวหายไปในอากาศซึ่งเป็นอะไรที่ช่วยได้เยอะเมื่อโดนสิ่งมีชีวิตต่างดาวผิวสีม่วงพลัมขนาดใหญ่เท่ารถบรรทุกกำลังวิ่งไล่คุณด้วยขายาวแปดขามีขนยุ่บยับรุงรัง ลูกตาสีดำมืดกลมโตเงาวับคล้ายลูกแก้วของมันสะท้อนภาพเหยื่อที่กำลังวิ่งหนีอย่างสุดชีวิต...คุณอยากให้เหยื่อของมันเป็นใครก็ได้ที่ไม่ใช่คุณ

    " อย่ามายุ่งกับฉัน!!!"

            คุณร้องตะโกนใส่ใบหน้าน่าขยะแขยงที่ปกคลุมด้วยไรขนสีม่วง เขี้ยวยาวสองข้างที่แลบออกมาจากปากเหมือนเขาของตัวด้วงขบงัดกันฉึบฉับราวกับกรรไกรตวัดฟัดเหวี่ยงเข้ามาเมื่อไหร่ก็ตามที่มันคิดว่าจะงับคุณได้ 

    " ออกไปนะ "

            คุณตวัดหันไปรวดเร็วเพื่อยิ่งลูกไฟจากฝ่ามือโจมตีใส่เจ้าสัตว์ประหลาดเมื่อเห็นว่ามันเริ่มเข้ามาใกล้จนอยู่ในระยะอันตราย คุณรู้สึกได้ถึงลมหายใจเหม็นอับแบบกลิ่นสาบของสัตว์ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ...จนกระทั่งเขี้ยวยาวทั้งสองข้างของมันหนีบล้อมรอบตัวคุณไว้ได้ คุณรู้สึกถึงแรงดึงกระตุกด้วยลิ้นยาวๆเหนียวๆเหนอะๆเข้าไปในปากที่อ้ากว้างของเจ้าสัตว์ประหลาดก่อนที่มันจะทำการปิดลง แล้วทุกอย่างก็มืดสนิทพร้อมกับฟันแหลมคมที่ร่วมใจกันบดขยี้ลงมา

    " อ๊ากก!!!"

            เสียงร้องลั่นออกมาดังสะท้อนก้องไปทั่วห้องพร้อมๆกับนัยน์ตาสี(...)ที่เบิกโพลงขึ้นทันทีพร้อมกับร่างกายที่หอบหายใจหนักหน่วงด้วยความหวาดผวา ทั่วใบหน้าของคุณมีเหงื่อผุดประปรายทั่วตั้งแต่หน้าผากไล่ลงมาถึงซอกคอ เมื่อคุณผงกหัวขึ้นมา คุณก็ร้องออกมาอีกครั้งด้วยความตกใจเมื่อพบว่าตนเองกำลังมองสบเข้ากับนัยน์ตาสีดำกลมป๊อกของใบหน้าที่ปกคลุมด้วยขนสีเทาดำและขาวไล่เป็นลาย ใบหูสามเหลี่ยมโค้งมนของร็อคเก็ตกระดิกไปทางโน้นทีทางนั้นทีเพราะตกใจกับน้ำเสียงของคุณ เจ้าแรคคูนที่ไม่ใช่แค่แรคคูนธรรมดากระโดดเหย็งลงไปจากตัวคุณทันที

            " ให้ตายสิ คราวหลังตะโกนใส่หูฉันเลยก็ได้นะ
    เขาพูดประชดพลางขยี้แคะๆใบหูทั้งสองข้างดังเอี๊ยดอ๊าด คุณค่อยๆหยัดตัวลุกขึ้นมา ยังคงมีอาการง่วงงุนสะลึมสะลืออยู่หน่อยๆ
            " โทษทีร็อคเก็ต...ฝันร้ายนิดหน่อยน่ะ "
    คุณพูดเสียงอ่อย เขากระโดดขึ้นมาบนเตียง คิ้วที่เป็นแนวขนสีขาวย่นขมวดเข้าหากัน
            " ฉันว่าไม่ค่อยนิดหน่อยเท่าไหร่นะ เธอดูยังกับโดนมนุษย์อวกาศวิ่งไล่ยังไงยังงั้น "
    ประโยคนั้นทำคุณสะดุ้งน้อยๆ
            " ย-ยังงั้นเหรอ..."
    คุณพึมพำ พยายามกลบเกลื่อนความกลัวข้างใน ร็อคเก็ต แรคคูนส่ายหัวพลางถอนหายใจก่อนจะกระโดดลงไปยืนเท้าเอวบนพื้น
            " อะไรก็ช่างเถอะ ลุกเตรียมตัวได้แล้ว ตะวันส่องก้นแล้ว ถึงตรงที่เราอยู่จะมองไม่เห็นดวงอาทิตย์แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะนอนอุตุเท่าไหร่ก็ได้นะ "

            เขาทิ้งท้ายก่อนเดินจ้ำอ้าวออกข้างนอกไป คุณเตะผ้าห่มออกไปลวกๆ ขยี้ตาเป็นครั้งสุดท้ายให้ตัวเองตื่นเต็มที่ก่อนจะลุกออกไปเตรียมตัวผจญภัยกับอะไรก็ตามแต่ที่ปีเตอร์กับยานเอ็ม-ชิพแสนรักของเขาจะพาไปเจอ

    เยี่ยม...อีกวันหนึ่งกับการก่อวินาศกรรมกับสิ่งมีชีวิตเผ่าพันธุ์อวกาศ
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    เพียงเห็นร่างสูงเรือนผมสีบลอนด์ในชุดเสื้อสีเทาจากทางหางตาคุณก็รู้แล้วว่าเป็นใครโดยไม่ต้องหันไปมองให้ชัดๆ

            " คุณเองก็ยังไม่นอนนี่ "
    คุณหยอกโดยที่นัยน์ตายังจับจ้องดูกาแล็กซีรูปก้นหอยกลุ่มหนึ่งกำลังหมุนวนไล่สีเคว้งคว้างอยู่ท่ามกลางอวกาศสีรัตติกาล คุณรู้สึกว่าร่างโปร่งนั้นหย่อนตัวลงนั่งข้างๆ
            " ข้าจำได้ว่าเมื่อคืนก่อนมีใครบางคนอยากรู้ว่าคนจะกลายเป็นกลุ่มดาวได้ยังไง ใช่ไหมนะ "
    ปีเตอร์พูดขึ้นลอยๆเชิงเย้าเล่นขณะเหยียดขายาวใต้กางเกงแนบเยื้อสีดำออกไปเพื่อให้นั่งได้สบาย คุณหลุดรอยยิ้มออกมา
            " แล้วใครบางคนคนนั้นก็บอกว่าจะเล่าตำนานของพวกมันให้ฉันฟังด้วย "
    คุณเสริมขณะหันไปมองหน้าคู่สนทนา นัยน์ตาสีฟ้าของเขาฉายแววขำขัน ริมฝีปากหยักเป็นคลื่นเหมือนกำลังจะหัวเราะออกมา
            " ข้าไม่ลืมหรอกน่า...เอาเรื่องไหนก่อนดีล่ะ "
            " เอาที่คนกลายเป็นกลุ่มดาวอะไรนั่นน่ะ "

    ปีเตอร์พยักหน้าน้อยๆ ก่อนจะชี้นิ้วให้คุณดูกลุ่มดาวกลุ่มหนึ่งที่อยู่ห่างออกไปราวๆสิบสองนาฬิกา สำหรับคุณมันดูเหมือนห้าเหลี่ยมที่มีแขนขางอกแตกออกมามากกว่าจะเป็นรูปร่างคน
            " มันเหมือนแมงป่องมากกว่า... "
    คนเล่าคลี่ยิ้มออกมาอย่างขำขัน
            " นี่...เจ้าคงไม่ได้หวังว่าดาวมันจะเรียงติดๆกันออกมาเป็นรูปคนหรอกนะ..."
    คุณนึกภาพตามแล้วก็หัวเราะลั่นออกมาพร้อมกัน ปีเตอร์เสยปอยผมสีบลอนด์ที่ตกมาปรกหน้าขึ้นก่อนจะเปลี่ยนมานั่งในท่าชันเข่า
            " อ่ะแฮ่ม ข้าจะเล่าล่ะนะ...เรื่องนี้ย้อนยาวกลับไปในสมัยกรีกโบราณ มีนายพรานคนหนึ่งชื่อโอไรรออน เขาเป็นเหมือนชายในอุดมคติทั่วไปในค่านิยมชายหนุ่มสมัยนั้น หล่อเหลา ฉลาดปราชญ์เปรื่อง เก่งกาจ แข็งแรงล่ำบึ้ก สูงยาวเข่าดี--"
            "--เดี๋ยว คำสุดท้ายนั่นมันคำที่เขาใช้กับผู้หญิงนี่นา "
    คุณขัดขึ้น ปีเตอร์หยุดชะงักไปครู่หนึ่ง
             " งั้นเอาเป็นสุดเท่แทนก็แล้วกัน--ละทีนี้ก็มีเทพีกรีกองค์หนึ่งนามว่าอาร์เทมีสซึ่งเป็นเทพีแห่งดวงจันทร์และเป็นพรานหญิงคอยออกตระเวนล่าสัตว์ไปตามที่ต่างๆ ไม่ต้องบอกเจ้าก็น่าจะเดาได้ว่านายพรานกับพรานหญิงต้องมีสักวันที่บังเอิญโคจรมาพบกัน-- "

            เขาเล่าด้วยเสียงที่นุ่มนวลแผ่วเบาชวนให้คนฟังเคลิบเคลิ้ม ในเวลาเพียงไม่นาน คุณก็พบว่าตัวเองได้ถูกมนต์เสน่ห์นั้นดึงดูดให้เพลิดเพลินมีอารมณ์ร่วมไปกับมันโดยสมบูรณ์
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
            ตำนานเรื่องนี้เหมือนกับเทพนิยายผสมผสานกับความขมขื่นในชีวิตจริง ทั้งสองตกหลุมรักกัน แต่ด้วยความที่อาร์เทมีสมีหน้าที่ขับรถม้าศึกลากดวงจันทร์ส่องสว่างในยามค่ำคืน ด้วยเสน่ห์ความรักทำให้พระนางละเลยหน้าที่ ส่งผลให้ชาวโลกเดือดร้อน เมื่อเทพอะพอลโลพี่ชายของนางทราบเข้า เลยทำให้คิดจะกำจัดโอไรออนด้วยการหลอกให้อาร์เทมีสยิงธนูไปที่พรานหนุ่มในตอนที่เขากำลังลงเล่นน้ำอยู่ทำให้เขาสิ้นใจตายทันที 

            " -- ด้วยความเสียใจ เทพีอาร์เทมีสจึงนำร่างของเขาขึ้นไปบนท้องฟ้าให้เกิดเป็นดวงดาวมีให้มองดูได้ตลอดกาลและเพื่อเป็นการระลึกถึง นั่นก็เป็นที่มาของกลุ่มดาวนายพรานไงล่ะ...นั่นแหละโอไรออน"

            เขาชี้ให้คุณดูกลุ่มดาวที่ว่า...ในวันนี้มันเปลี่ยนตำแหน่งอยู่เยื้องทางขวาไปประมาณสี่สิบองศาเมื่อมองดูจากดาดฟ้าของยาน ดาวใหญ่ของมันส่องแสงระยับพร่างพราว
            " ฟังดูเศร้าจัง..."
    คุณพูดขึ้นลอยๆ นัยน์ตายังคงจับจ้องไปที่กลุ่มดาวเบื้องบน ปีเตอร์สูดหายใจลึกพลางยกมือลูบไล้เรือนผมสีบลอนด์เงาของตัวเอง
            " มันมีหลายแบบนะ บางตำนานก็บอกว่าโอไรออนคือพรานนิสัยไม่ดีที่ล่าสัตว์ทุกตัวแบบไม่ยั้ง แล้ววันนึงเกิดดวงซวยไปฆ่าสัตว์ต้องห้ามของเหล่าเทพเข้าก็เลยถูกสังหารเป็นการลงโทษ"
    พอฟังเช่นนั้นแล้วคุณก็หน้ามุ่ยลงทันที
            " ฉันว่าเรื่องแรกฟังดูดีกว่าเยอะเลย "
    อีกฝ่ายหัวเราะเบาๆ
            " เนอะ น่าจดจำกว่าใช่ไหมล่ะ? "
    คุณพยักหน้า เขาคลี่ยิ้มจางพร้อมกับที่มือใหญ่ขยี้เรือนผมสี(...)
            " ข้าไปนอนล่ะ เจ้าเองก็อย่านอนดึกให้มากนะ เจอกันตอนเช้า ราตรีสวัสดิ์ "

            รอยยิ้มของคุณค่อยๆจางสลายไปเมื่อเห็นแผ่นหลังกว้างนั้นลับตา ถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่ายเพราะรู้ดีว่าจะต้องเจอกับอะไรในยามที่ข่มตาหลับลง
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
            เรียวขาทั้งสองข้างของคณโกยอ้าวอย่างไม่คิดชีวิตอยู่บนทางเดินหินอัดโทนสีมืดดูน่ากลัว แต่ก็ยังไม่น่ากลัวเท่ากับสัตว์ประหลาดดำทะมึนที่คืบคลานตามข้างหลังคุณมาติดๆ คุณอ้าปากหอบหายใจ ฝีเท้าเริ่มชะลอด้วยความเหนื่อยตรงข้ามกับเจ้าสัตว์ประหลาดที่เข้าใกล้คุณเข้ามาทุกทีๆ จนในที่สุด เงาสีดำทะมึนก็เข้าครอบตัวคุณเหมือนโดมขนาดใหญ่ก่อนที่มันจะโถมเข้าหาคุณเหมือนกลุ่มเมฆหมอก

            " นี่!ตื่นสิ!เจ้าเป็นอะไรน่ะ?"

            เสียงทุ้มและแรงเขย่าบริเวณไหล่ฉุดให้นัยน์ตาสี(...)เบิกโพลงขึ้นมาด้วยความตกใจ คุณผุดลุกพรวดขึ้นมาบนเตียงพบกับร่างสูงโปร่งอันคุ้นตาที่อยู่ในท่ากึ่งนั่งกึ่งนอนพิงกำแพงฝั่งตรงข้ามด้วยความตกใจผสมกับความงุนงง นัยน์ตาสีฟ้าของปีเตอร์จ้องค้างอยู่ที่คุณตาไม่กระพริบ ไม่เข้าใจอารมณ์ของสมาชิกตรงหน้าว่าเกิดอะไรขึ้น
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
            " --นั่นแหละคือสาเหตุที่ฉันไม่ค่อยอยากจะนอน "
    คุณเล่าให้เขาฟังเมื่อสถานการณ์พอจะเสถียรสู่ภาวะปกติ ปีเตอร์ไม่ได้ว่าคุณว่าเป็นเด็กน้อยหรือไร้สาระเลย เขากลับนั่งฟังอย่างตั้งใจและพยักหน้ารับเป็นช่วงๆสื่อให้คุณรู้ว่าเขากำลังฟังอยู่

            "รู้อะไรไหม...เมื่อก่อนข้าเองก็เคยเป็นนะ.."
    เขาบอก คุณเงยหน้ามองคนที่ตัวสูงกว่า ความประหลาดใจฉายอยู่บนใบหน้าของคุณ
            " จริงเหรอ? "
    เขาพยักหน้า
            " สมัยก่อนตอนที่ข้ายังเป็นเด็กอยู่บนโลกมนุษย์น่ะ...ข้าชอบฝันถึงพวกมนุษย์ต่างดาวหรือสิ่งมีชีวิตอะไรเทือกนั้นในอวกาศ--"
    คุณเปลี่ยนมานั่งในท่าชันเข่า สนอกสนใจในเรื่องที่เขาเล่า
            " แล้วไงต่อ?"
            " แล้ว...พอข้าได้รู้ตัวตนของตนเอง...ข้าก็คิดว่าบางทีมันอาจจะเป็นลางทำนายหรือเป็นอะไรบางอย่าง...เจ้าคิดว่าไงล่ะ?"
    คุณแค่นหัวเราะพลางยักไหล่
            " ฉันว่าฉันคงถูกล็อตเตอรี่แห่งทางเชือกเผือกละมั้ง"
    คุณพูดติดตลก ปีเตอร์หัวเราะลั่นพลางเอามือขยี้ผมคุณจนยุ่งเหยิง
            " หรือบางทีเจ้าอาจจะเจอแจ็กพ็อตได้เป็นสตาร์-เลดี้"
    ริมฝีปากคุณหลุดหัวเราะพรืดออกมา
            " ประโยคนั้นน่าจะเหมาะกับกาโมร่ามากกว่ามั้ง "
    ด้วยเหตุอะไรสักอย่าง...ปีเตอร์เสมองไปทางอื่นพร้อมกับแนวแก้มของเขาที่ขึ้นสีกุหลาบอ่อนเรื่อ
            " ข้าไม่ได้รู้สึกแบบนั้นกับเธอสักหน่อย.."
    คุณรู้สึกว่าตอนนี้ใบหน้าเต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถาม
            " หมายความว่าไง?.."
            " ก็...คนที่ข้ารู้สึกแบบนั้นคือเจ้าต่างหาก...ถ้าเจ้าหมายถึงความรู้สึกแนว'นั้น'น่ะ "
            " โอ้..."
    ความเงียบเข้าปกคลุมบรรยากาศอยู่พักหนึ่ง
            " ทีแรกฉันคิดว่าคุณชอบกาโมร่าซะอีก..."
    ริมฝีปากคมของอีกฝ่ายคลี่ยิ้มออกมาอย่างโล่งอก
            " ข้าชอบเจ้าต่างหาก "
    ใบหน้าคุณร้อนแผ่วผ่าว ถ้าบอกว่าไม่ได้ชอบเขาก็คงจะเป็นเรื่องโกหกเพราะคุณสะดุดตาเขาตั้งแต่วินาทีแรกที่เข้ามาร่วมกลุ่มแล้ว
            " ฉันเองก็ชอบคุณ.."
    นัยน์ตาทั้งสองสีหันสบกันอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะหัวเราะร่วนออกมา
            " งั้น...เราออกไปดูดาวด้วยกันต่อไหม?"
    คราวนี้เขากลับเป็นฝ่ายชวนคุณ
            " แต่พรุ่งนี้เราต้องเดินทางต่อนี่นา "
            " ไม่ใช่อีกแล้ว ข้าว่าเราพักกันสักวันสองวันก็ไม่น่าทำให้อวกาศล่มนะ "
    เขาพูดพลางฉีกยิ้มหวาน ทำเอาหัวใจคุณเต้นตึกตัก
            " งั้น...เล่าตำนานกลุ่มดาวให้อีกได้ไหม? "
    เขายีผมคุณเล่นพลางพยักหน้า
            " ให้ข้าเล่าจนหมดกาแล็กซี่ก็ยังได้ "


    ...................................................................................................................................................................................................................
    ป.ล.คิวรีเควสจ้า
          1. Makoto Tachibana [Free!]
          2. Kirito [Sword Art Online]
          3. Pharaoh Atem [Yu-Gi-Oh!]
          4. Doctor Strange [Doctor Strange]
          5. Rikuo Nura [Nurarihyon no Mago] 
          6. Lavi [D.Gray-man]
          7. Yukimura Tooru [Aoharu x Kikanjuu]
          8. The Shape [Dead By Daylight]
          9. Nura Rihan [Nurarihyon no Mago]
          10. Nurarihyon [Nurarihyon no Mago]
          11. Kageyama Tobio [Haikyuu!!]
          12. Eyeless Jack [Creepypasta] 
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×