ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    All + Reader ตัวละครแสนรัก [ปิดรับรีเควสชั่วคราวจ้า]

    ลำดับตอนที่ #35 : [Hitman] Agent47 x Reader : One Mission , Two Agents

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 722
      38
      12 ส.ค. 61

    Paring : Agent 47 x Reader
    Theme : Mission Must Possible
    Summary : วันเซอร์ไพรส์ของว่าที่อดีตสายลับกรมตำรวจ




    ...................................................................................................................................................................................................................



            เสียงผู้คนคุยกันจ้อกแจ้กอึกทึกอื้ออึงที่อบอวลแว่วๆมาจนถึงบาร์ด้านในทำให้คุณคิ้วขมวดด้วยความหงุดหงิดขณะเช็ดขัดแก้วอยู่หลังเคานต์เตอร์เตรียมพร้อมสำหรับบรรดาแขกเหรื่อทั้งหลายที่กำลังจะหลั่งไหลเข้ามาในห้องจัดเลี้ยงในไม่อีกไม่กี่นาทีข้างหน้านี้ คุณจัดแก้วหลากประเภทสำหรับเครื่องดื่มชนิดต่างๆที่เพิ่งถูกล้างและขัดมาใหม่เอี่ยมจนขึ้นเงาเรียงเป็นแถวดูสวยและพร้อมสำหรับการใช้งานก่อนจะก้มลงไปเปิดกรงใต้เคานต์เตอร์ให้อิสระแก่สิ่งมีชีวิตขนสีขาวมีปลอกคอสีชมพูผูกอยู่เพิ่มความน่ารักให้กับมัน

    " สนัฟเฟิล พอแขกมาแล้วรู้นะต้องทำยังไง? "
             คุณบอกเจ้านกกระตั้วตัวจิ๋วที่กำลังเอียงหัวมีหงอนสีเหลืองซีดฟังเจ้าของ มันกระพือปีกดุกกระดิกแสดงอาการดีใจที่ได้ออกมาข้างนอกสักที

            ถึงตรงนี้คุณเจอคำถามมาเยอะจนชินชาแล้วว่าทำไมโรงแรมหรูระดับหกดาวนี้ถึงได้อนุญาตให้มีนกแก้วเฉิดฉายป้วนเปี้ยนไปทั่วภัตตาคารยันโซนล็อบบี้ได้ คำตอบก็คือมันเป็นนกนำโชคน่ะสิ ใช่....ทุกคนฟังไม่ผิดหรอก มันอาจจะดูไม่น่าเชื่อ แต่เจ้าสนัฟเฟิลของคุณมีความสามารถในการโปรยเสน่ห์ใส่แขกของโรงแรมและลูกค้าขาจรทั้งหลายที่มาภัตตาคารได้อย่างไม่น่าเชื่อ มันมักจะเดินดุ๊กดิ๊กโชว์ความน่ารักกับลูกค้าไปทั่วให้พวกเขาเอ็นดูจนทำให้มีหลายครั้งหลายคราที่พวกเขายอมลงทุนสั่งเครื่องดื่มหรืออาหารเพิ่มเพื่อนั่งดูหรือเล่นกับมันไปพร้อมๆกับดื่มด่ำบรรยากาศของห้องอาหารหรูต่ออีกสักหน่อย ครั้งหนึ่งหัวหน้าคุณถึงกับเคยบอกว่ามันเป็นนกที่ฉลาดที่สุดที่เธอเคยเห็น มันกลายเป็นไฮไลท์ของที่นี่ไปเลย

            เสียงดนตรีในจังหวะตื่นเต้นเร้าใจดังขึ้นเป็นสัญญาณว่าถึงเวลาเริ่มงานแล้ว สนัฟเฟิลบินไปประจำอยู่บนแท่นยืนของมันหน้าประตู บรรดาแขกทั้งหลายพากันทยอยเข้ามาในห้องในชุดเสื้อผ้าสวยสดงดงามทั้งสุภาพบุรุษในเสื้อสูททางการและสุภาพสตรีในชุดออกงานหรูสง่า ทุกคนต่างโบกมือให้เจ้านกที่ยืนเอียงคอมองพวกเขาด้วยลูกตากลมป๊อกสีดำเป็นประกาย

            ห้องจัดเลี้ยงเริ่มถูกเติมเต็ม บริเวณเคานต์เตอร์บาร์ที่คุณทำหน้าที่ประจำอยู่ก็เริ่มทำการเสิร์ฟเครื่องดื่มสารพัดชนิดตามคำขอของแขก คุณเห็นพวกเขายืนจับกลุ่มคุยกันอย่างออกรสตามจุดต่างๆทั่วห้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งพื้นที่หน้าเวทีใหญ่ที่ตอนนี้มีผู้คนมากหน้าหลายตายืนออกกันอยู่ ถึงบนเวทีตอนนี้จะมีเพียงแสงไฟสปอตไลท์ส่องพื้นว่างเปล่าที่ทำจากกระจกไฟนีออนขัดเงา แต่ทุกคนยังยืนแออัดเนืองแน่นด้านหน้ารอต้อนรับคนสำคัญของงานอย่างใจจดใจจ่อ 

    มิเกล กอนโดลอส

            สำหรับคนทั่วไป กอนโดลอสอาจจะเป็นแค่มหาเศรษฐีระดับแนวหน้าของยุโรปตอนเหนือผู้ร่ำรวยจากธุรกิจเกี่ยวกับอัญมณีเพชรพลอยต่างๆ แต่ในอีกด้านหนึ่ง...เขาคือตัวอันตรายและจอมกลับกลอกสำหรับใครหลายๆคนที่คลุกคลีคุ้นเคยกับวงการมืดเป็นอย่างดี

            ภายใต้หน้ากากความงดงามที่ส่องประกายแวววาวของเพชรนิลจินดาต่างๆ เบื้องหลังของกอนโดลอสคือนายหน้ารายใหญ่แห่งธุรกิจค้าขายอาวุธสงครามผิดกฎหมายผ่านตลาดมืด เทคนิคความเจ้าเล่ห์มีเหลี่ยมมุมซับซ้อนอันสกปรกของเขาที่ทำการทรยศหักหลังทุกๆคนหลังหมดผลประโยชน์ด้วยแล้วไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขาจะเป็นที่รักของคนในวงการนั้นแค่ไหน อย่างไรก็ตาม เขาเป็นชายที่ฉลาดหลักแหลมพอสมควรเพราะสามารถหาสารพัดวิธีการทำลายร่องรอยกลบเกลื่อนหลักฐานของการทำผิดกฎหมายได้ทุกครั้งเวลาที่ถูกทางการตามล่าตัว จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีใครคนไหนสามารถจัดการกับเขาได้อย่างจริงจังด้วยเหตุนี้ และเป็นเรื่องน่าแปลกใจที่เขาสามารถหลุดรอดพ้นเงื้อมือของนักฆ่าทั้งหลายที่ถูกเหล่าผู้คนในวงการมืดจ้างวานให้ทำการเก็บเขาทิ้ง

            ในที่สุด ห้องจัดเลี้ยงทั้งห้องก็กึกก้องไปด้วยเสียงปรบมือเกรียวกราวให้กับชายในชุดสูทสีขาวสะอาดเมื่อเขาเดินสง่าออกมาจากหลังเวทีตามไฟสปอตไลท์ที่ส่องมารวมกันที่ตัวเขา ฝูงชนที่ยืนกระจายกันอยู่รอบนอกเมื่อครู่เริ่มทยอยเดินเข้ามามุงรวมกันหน้าเวทีหรือไม่ก็หันไปจ้องมองดาวเด่นของงานไม่เว้นแม้แต่คนที่กำลังนั่งอยู่ที่บาร์หรือทานอาหารว่างง่ายๆตามโต๊ะนั่ง...ยกเว้นแขกคนหนึ่งซึ่งเป็นชายหัวล้านในชุดสูทสีดำขลับคู่กับโบว์หูกระต่ายสีดำกำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้สูงตรงปลายสุดของบาร์ เขาดูไม่ได้สนใจของงานเลยเพราะมัวแต่ก้มหน้าก้มตาสนใจอะไรบางอย่างบนตัก 

     " ไงจ๊ะ (...) วันนี้เจ้าจิ๋วไม่อยู่เหรอ แปลกจังนะ "
            แขกขาประจำคนหนึ่งของโรงแรมถามขึ้นขณะที่เธอเดินมาเอาค็อกเทลเพิ่ม
    " เอ...ก็อยู่นะคะ "

            คุณขมวดคิ้วด้วยความงุนงง คุณรู้ว่าเธอหมายถึงเจ้าสนัฟเฟิล แต่ทำไมเธอถึงถามแบบนั้นล่ะ ตะกี้มันก็ยังอยู่นี่นา ว่าแล้วคุณก็กวาดตาไปรอบๆห้อง ไม่ใช่เรื่องยากเลยที่จะมองหานกตัวสีขาวจั๊วะท่ามกลางสีโทนเข้มของชุดออกงานต่างๆ แต่ไม่ว่าจะหันไปทางไหนก็ไม่มีวี่แววของสนัฟเฟิลเลย

    มันหายไปไหนแล้วเนี่ย...

            คุณชักจะเริ่มเป็นกังวลจึงลองมองหามันอีกรอบ คุณรู้สึกว่าได้ยินเสียงร้องจิ๊บๆอยู่ใกล้ๆที่หูข้างซ้ายตรงที่นั่งปลายสุดของบาร์ คุณค่อยๆเดินผ่านเพื่อนร่วมงานคนอื่นไปจนถึงที่นั่งของชายหัวล้านดูโลกส่วนตัวสูงคนนั้น

            นัยน์ตาสี(...)เบิกกว้างด้วยความตกใจเมื่อเห็นเจ้านกที่กำลังตามหาเกาะอยู่บนตักของแขกผู้เป็นชายศีรษะล้าน ภายใต้มือใหญ่ของเขามีหัวที่ปกคลุมด้วยขนนกสีขาวมีหงอนสีเหลืองอ่อนของเจ้าสนัฟเฟิลกำลังซุกไซร้คลอเคลียเล่นกับเขาอยู่ ซึ่งเป็นเรื่องที่ทำให้คุณประหลาดใจเอาการอยู่เพราะปกติสนัฟเฟิลจะไม่ค่อยติดคนอื่นนอกจากคุณ แต่นี่ดูท่าทางมันจะชอบชายหนุ่มในชุดสูทผู้นี้เป็นพิเศษ

    " อ่ะแฮ่ม มาอยู่นี่เองสนัฟเฟิล "

            ทั้งคนทั้งนกเหลือบขึ้นมามองคุณ ความแปลกใจฉายอยู่ในแววตาของคุณอีกรอบ นัยน์ตาสีฟ้าของชายหนุ่มคนนี้เป็นโทนเดียวกับหินเทอร์คอยส์ที่ส่องประกาย คิ้วสีเข้มและเครื่องหน้าคมๆของเขาทำให้คุณรู้สึกคุ้นหน้าคุ้นตา แต่ก็นึกไม่ออกว่าเคยคนเห็นหน้าแบบนี้ที่ไหน...บางทีมันอาจจะนานมากจนจำไม่ได้แล้วก็ได้

            ชายคนนั้นหันไปมองเวทีที่ตอนนี้กอนโลดอสได้กลับไปที่ห้องชั่วคราวเนื่องจากเป็นช่วงพัก นับว่าเป็นครั้งแรกที่คุณเห็นเขามองอย่างอื่นนอกจากเล่นกับเจ้าสนัฟเฟิลบนตัก เขาก้มดูนาฬิกาข้อมือพลางควักเงินออกมาวางบนเคาน์เตอร์ให้คุณเป็นค่าทิป เอานิ้วลูบหัวเจ้านกสีขาวก่อนจะหยัดตัวลุกขึ้นพยักหน้าให้คุณแล้วเดินหายเข้าไปท่ามกลางฝูงชนออกไปจากห้องจัดเลี้ยง

    ตากลมโตของสนัฟเฟิลมองตามร่างสูงอย่างอาลัยอาวรณ์ก่อนจะกระโดดมาเกาะไหล่คุณ คุณเอานิ้วจิ้มหัวนุ่มนิ่มนั้น

    " นี่ แขกคนนั้นถามหาแกแน่ะ จำได้ไหม? คุณนายเมดิสันน่ะ "
            คุณผายมือไปทางสุภาพสตรีคนเดิมที่มาถามหามันเมื่อครู่ มันผงกหัวแล้วก็โผบินไปหาเธอคนนั้น คุณอมยิ้มน้อยๆพลางเหลือบดูนาฬิกา อีกราวๆหนึ่งชั่วโมงก็จะถึงเวลาช่วงเวลาที่กอนโลดอสออกมาทำการเปิดตัวโชว์สินค้าล็อตใหม่ นั่นหมายความว่าคุณควรจะเริ่มทำการจัดเตรียมเครื่องดื่มให้พร้อมเพียงพอสำหรับงานช่วงต่อไป

    " ลงไปเอาของเพิ่มเหรอ? แต่เรายังมีเก็บไว้ข้างหลังอีกเยอะเลยนา "
            บาร์เทนเดอร์คนหนึ่งทักขึ้นเมื่อเห็นคุณคว้ากุญแจห้องคลังเก็บเสบียงในชั้นใต้ดิน
    " เจ้าภาพงานสั่งมาว่าต้องเป็นแชมเปญเท่านั้นถึงจะเข้ากับบรรยากาศสินค้าเขาน่ะ "
            คุณบอก เขากลอกตาอย่างเอือมๆ
    " พวกเศรษฐีมากเรื่อง "
            เขาพูดเย้ยหยันก่อนจะหันกลับไปชงเครื่องดื่มให้สุภาพบุรุษคนหนึ่ง
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
            ลังไม้และกล่องกระดาษใส่ของตั้งซ้อนกันเรียงรายเป็นแถวอยู่รอบแนวกำแพงและบนพื้นห้องเก็บวัตถุดิบรอบตัวคุณ นัยน์ตาสี(...)กวาดมองตามชั้นวางไม้ที่วางขวดเครื่องดื่ม

    บ้าจริง...มีแต่ไวน์กับวิสกี้ แล้วแชมเปญมันอยู่ตรงไหนเนี่ย

            ขาของคุณเขย่งยงโย่ยงหยกหารายการของที่ต้องการ ในที่สุด คุณก็ไปสะดุดตาเข้ากับลังไม้ที่อยู่ล่างสุด ในลังอัดแน่นเรียงไปด้วยขวดเครื่องดื่มสีเข้มที่ถูกห่อด้านบนด้วยฉลากสีทอง

    เจอแล้ว

            คุณยกลังนั้นขึ้นมาในอ้อมแขนออกไปจากห้องแล้วล็อกประตูดังเดิม ก่อนที่จะได้กลับขึ้นมาข้างบน ในตอนที่เดินผ่านโซนห้องเก็บของและห้องพักสำหรับภารโรงและเจ้าหน้าที่ คุณก็สังเกตเห็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคนหนึ่งใส่หมวกเดินก้มหน้าสวนไปบันไดทางขึ้นห้องระบบไฟฟ้าของโรงแรม

    แปลกจัง...เรามีเจ้าหน้าที่ไว้ผมทรงหัวล้านด้วยเหรอ?

    เมื่อคุณเหลียวหลังกลับไปมอง คุณก็พบอะไรบางอย่างที่น่าแปลกใจบริเวณท้ายทอยของเขา

    นั่นมัน...บาร์โค้ด...

            คุณตัดสินใจวางลังไม้ลงแล้วตามชายคนนั้นไป ถึงตอนแรกคุณจะไม่มั่นใจว่าเขาเป็นเจ้าหน้าที่จริงหรือเปล่า แต่อย่างน้อยคุณก็แน่ใจว่าไม่มีเจ้าหน้าที่หรือพนักงานคนไหนมีรอยสักรูปบาร์โค้ดอยู่ที่ท้ายทอยแน่นอน
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
            เงามืดของซอกหลืบตามที่ต่างๆเป็นตัวช่วยอย่างดีในการอำพรางตัวคุณในขณะแอบสะกดรอยตามเขาไปจนถึงส่วนที่เป็นห้องควบคุม คุณเห็นเขาโยนเหรียญหรือของจุกจิกอะไรสักอย่างเพื่อหลอกล่อให้พนักงานฝ่ายช่างเทคนิคและเอฟเฟคคนหนึ่งให้ลุกออกจากตำแหน่งก่อนตัวเองจะย่องทะลุเข้าไปหลังประตูอีกบานซึ่งเป็นระบบไฟฟ้าของห้องพักรับรองที่อยู่ติดกัน คุณไม่รอช้ารีบหันทองซ้ายขวาแล้วออกตัวย่องตามไปติดๆโดยอาศัยตู้และชั้นวางต่างๆเป็นที่หลบ


            คุณเข้าไปทันเห็นเขากำลังลงมือจัดการทำอะไรบางอย่างกับโครงเหล็กที่ยึดแชนเดอเลียร์สไตล์ฝรั่งเศสติดกับเพดานที่เป็นกระจกสองด้าน เขาติดตั้งอุปกรณ์ทรงกลมเส้นผ่านศูนย์กลางขนาดเท่าลูกปิงปอง อุปกรณ์ปริศนานั้นมีไฟสีเขียวส่องกระพริบเป็นจังหวะ คิ้วของคุณเลิกสูงพร้อมนัยน์ตาสี(...)ที่เบิกกว้างด้วยความตกใจเมื่อเห็นว่าเจ้าสิ่งนั้นคือระเบิด

    " ทำอะไรน่ะ!? "

            เห็นได้ชัดว่าชายคนนั้นเพิ่งจะรู้ตัวว่าถูกสะกดรอยตาม เพราะเขารีบหันขวับมาทันทีก่อนจะปรี่ตรงเข้ามากระโจนใส่หมายจะคว้าตัวคุณ คุณรีบย่อตัวลงแล้วสไลด์ตัวออกอีกทางให้พ้นจากวิถีจู่โจมก่อนจะล้วงมือใต้เครื่องแบบแล้วคว้าเอาปืนพกขนาดจิ๋วออกมาแล้วหันกลับไปชี้อีกฝ่ายซึ่งกระทำการเช่นเดียวกันคือหันปากกระบอกปืนชี้กลับมาทางคุณ

            ริมฝีปากของคุณหยักยิ้มเป็นเชิงเย้ยหยัน ตอนนี้คุณนึกออกแล้วว่าเคยเห็นใบหน้าแบบนี้มาก่อนเมื่อได้เห็นปืนที่เขาใช้อยู่ชัดๆ มีอยู่คนเดียวที่ใช้อาวุธปืนรุ่นซิลเวอร์บอลเลอร์ ปืนชนิดสั่งทำพิเศษของไอซีเอบริษัทนักฆ่าชื่อดัง

    " นึกว่าใครที่ไหนซะอีก...สายลับ 47..."

            คุณเอ่ย นัยน์ตาสีฟ้าใสของสายลับหนุ่มหรี่ลงด้วยความสงสัยและเป็นเชิงเตรียมตั้งรับ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังคงไม่ลั่นไกปืนซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับเปิดการเจรจา

    " ฉันก็ทำอาชีพเดียวกับคุณนั่นแหละ เพียงแต่...ฉันออกจะเอนไปหาด้านสว่างอยู่นิดหน่อย "
            คุณบอกพลางล้วงเอาหนังสือประจำตัวขึ้นมากางให้คนตรงหน้าดู
    " สายลับพ่วงนักฆ่าสังกัดหน่วยสืบสวนของกรมตำรวจ "
            สายลับ47ลดปืนลง แต่สายตายังคงจ้องเขม็งด้วยความระแวดระวัง คุณถอนหายใจเนือยๆพลางเก็บหนังสือลงในกระเป๋าเหมือนเดิม
    " ดูเหมือนเราจะมีเป้าหมายเดียวกันสินะ "
            คุณตอบโดยที่สายตาชำเลืองเหล่มองลงทะลุลงไปยังเบื้องล่าง คุณเห็นกอนโดลอสกำลังนั่งไขว่ห้างอยู่บนเก้าอี้กำมะหยี่หรูหราด้วยท่าทางวางมาดอยู่ภายในห้อง

    " ฉันจะตอบคำถามคุณก่อนละกัน พวกเราตำรวจรับคำสั่งนี้มาเพราะหน่วยงานรัฐไม่ต้องการรอหลักฐานอะไรอีกต่อไปแล้ว พวกเขาต้องการให้เราเก็บกอนโดลอส...แบบลับๆ ฉันเลยสมัครเข้ามาทำงานที่นี่เมื่ออาทิตย์ก่อนเพื่อสำรวจที่ทาง "

            คราวนี้สายตาแข็งกระด้างของชายหนุ่มอ่อนเย็นลง เขาเหลือบมองระเบิดที่ตั้งไว้กับแชนเดอเลียร์ก่อนจะตอบคุณสั้นๆ
    " คู่แข่งทางธุรกิจต้องการกำจัดเขา "
            คุณส่งเสียงหัวเราะในคอเป็นเชิงเยาะเย้ยเพราะรู้แกวระบบการทำงานในวงการมืดเป็นอย่างดี
    " แล้วจากนั้นคุณก็จะได้คำสั่งให้เก็บคู่แข่งคนนั้นต่ออีกทอดนึง "
            นัยน์ตาสีฟ้าใสเหล่มองคุณทางหางตาเป็นเครื่องยืนยันว่าคุณเดาถูก คุณกลอกตา เก็บปืนเข้าที่เดิม
    " ช่างมันเถอะ คุณจัดการเอาเป้าหมายไปได้เลย ฉันไม่สนใจแล้วล่ะ "
            สายลับ47ชำเลืองมองคุณอีกครั้ง ถึงจะไม่ได้พูดอะไรออกมาแม้แต่คำเดียว แต่คุณก็เห็นประกายความสงสัยในแววตาคู่นั้น ในฐานะนักฆ่าด้วยกัน เขาเองย่อมรู้ดีว่าศักดิ์ศรีที่สำคัญที่สุดของนักฆ่าคือการไม่ยอมละทิ้งเป้าหมายของตนเองโดยเด็ดขาดจนกว่าภารกิจจะสำเร็จ ยิ่งมีเป้าหมายคนเดียวกันด้วยแล้วก็ยิ่งเป็นเหมือนความท้าทายในการคว้าชัยชนะ เพราะงั้นการที่คุณยอมสละเอาดื้อๆแบบนี้ย่อมสร้างความแปลกใจให้เขาไม่น้อย

    " --นี่เป็นงานสุดท้ายที่ฉันรับก่อนจะลาออก"
            คุณหยิบมีดพกเล่มเล็กขึ้นมาหมุนเล่น นี่เป็นอาการที่คุณมักจะทำเวลารู้สึกประหม่า 
    " --เคยได้ยินประโยคที่ว่า 'มีความสามารถยังไงก็สูญเปล่าถ้าหัวขโมยยังอยู่' ไหม? นั่นแหละฉัน"
            สายลับหนุ่มยังคงจ้องคุณนิ่ง ด้วยอะไรบางอย่าง สายตาของเขาจับจ้องหยุดนิ่งที่คุณเหมือนจะบอกเป็นนัยว่าเขาฟังอยู่
    " --หัวหน้าฉันเองแหละ ทุกๆงานทุกๆภารกิจ ส่วนที่เป็นงานเปื้อนเลือดเขาจะมอบให้ฉันกับเพื่อน ส่วนตัวเขาก็รอเอาผลงานเราไปอวดอ้างคนอื่นว่าเป็นฝีมือของตัวเอง หึ ทุเรศสิ้นดี...ฉันสุดจะทนแล้วล่ะ ไปๆมาๆฉันชอบทำงานแบบในนี้มากกว่าอีก ได้สร้างรอยยิ้มให้แขก ได้เห็นพวกเขามีความสุข "
            คุณสูดหายใจลึก คุณไม่ได้หวังให้คู่สนทนารู้สึกเศร้าหมองเวทนาไปกับคุณหรอกเพราะสายลับ47ไม่ใช่คนประเภทที่จะตีหน้าเศร้าเข้ามากอดหรือเห็นอกเเห็นใจกับเรื่องสะเทือนอารมณ์กุ๊กกิ๊กหยุมหยิมของคนอื่น
    " แต่ถ้าคุณอยากได้ความช่วยเหลือล่ะก็...ยินดีเสมอ "
            คุณตั้งท่าจะออกเดินเมื่อเห็นว่าเขาไม่ได้พูดอะไร 
    " เลขาของเขา เมเรลลี ปาลาส คนที่คอยประสานงานธุรกิจให้เขา "
            ชายหนุ่มพูดขึ้นในตอนที่คุณเดินมาถึงประตู แค่ประโยคเดียวคุณก็เข้าใจจุดประสงค์ของคำถามนั้นทันที เมเรลลีเป็นคนที่รอบคอบระมัดระวังตัวตลอดเวลา เธอมักจะไปไหนมาไหนโดยมีบอดี้การ์ดประกบอย่างน้อยหนึ่งคนและเลือกใช้เส้นทางที่คนพลุกพล่านตรงข้ามกับกอนโลดอสที่ค่อนข้างชะล่าใจเรื่องความปลอดภัย

    " คุณอาจจะยังไม่รู้ แต่เท่าที่ฉันสังเกตมาตลอดสามสี่วันที่ผ่านมา เมเรลลีพักอยู่ในห้องพักวีไอพีที่มีอ่างแช่น้ำร้อนแบบญี่ปุ่นตรงระเบียง และคุณน่าจะเดาออกว่าคงไม่มีใครเหน็บเอาบอดี้การ์ดติดตัวไปด้วยตอนอาบน้ำหรอกจริงไหม--"
     
    คุณเอื้อมมือคว้าลูกบิดประตู แต่ก็หยุดชะงักกะทันหันเมื่อนึกอะไรขึ้นได้

    " อ้อ--อ่างอาบน้ำนั่นน่ะเป็นแบบสมัยใหม่ที่ให้ความร้อนด้วยระบบไฟฟ้าแทนหินน้ำพุร้อน เพราะงั้นคงไม่ดีแน่ถ้ามีใครไปรบกวนระบบการทำงานของมัน--แค่บอกไว้เผื่อเป็นประโยชน์--คุณโชคดีนะที่ได้ทำงานกับหัวหน้าที่เห็นความสำคัญเคารพในตัวคุณ "

    คุณทิ้งท้ายก่อนจะย่อตัวย่องหายออกจากห้องไป ปล่อยเป้าหมายให้อยู่ในความดูแลของอีกฝ่าย
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
            เช้าวันต่อมามีข่าวแพร่กระจายไปทั่วโรงแรมถึงการเสียชีวิตอันน่าสะพรึงของแขกสองคน คนแรกคือมิเกล กอนโลดอส พนักงานฝ่ายรูมเซอวิสที่นำอาหารเช้ามาเสิร์ฟได้เปิดเข้าไปพบร่างของกอนโดลอสถูกแชนเดอเลียร์ตกลงมาทับอยู่ตรงกลางห้อง อีกคนคือเมเรลลี ปาลาส บอดี้การ์ดของเธอเข้ามาพบเธอเสียชีวิตขณะกำลังแช่น้ำร้อนในอ่างที่เกิดไฟรั่ว ทั้งสองกรณีนั้นสุดท้ายแล้วพวกตำรวจก็ลงความเห็นกันว่าเป็นการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ...หรือไม่ก็พวกเขาหลับหูหลับตาตัดสินไปแบบนั้นตามความคิดของคุณน่ะนะ

            เจ้านกสนัฟเฟิลบินร่อนลงมาเกาะโต๊ะตรงหน้าคุณขณะที่คุณกำลังจัดการเช็ดถูเคานต์เตอร์ คุณสังเกตว่าจะงอยปากของมันคาบดอกคาร์เนชั่นสีขาวสะอาด*มาดอกหนึ่ง มีกระดาษโน้ตแผ่นจิ๋วเสียบอยู่ตรงกลางเกสรของดอก คุณดึงออกมาดู บนกระดาษมีเพียงตัวเลขสั้นๆที่อาจไม่มีความหมายสำหรับคนอื่น แต่คุณเข้าใจมันได้เป็นอย่างดี

    ' 47 '

            คุณเงยหน้าขึ้นกวาดตาไปรอบๆ แล้วคุณก็เห็นชายหัวโล้นร่างสูงในชุดสูทสีดำเดินหายลับออกไปตรงประตูที่นำทางไปสู่ท่าเรือ ถึงเขาจะว่องไวแค่ไหน...แต่คุณก็ยังเห็นรอยสักรูปบาร์โค้ดตรงท้ายทอยของเขาได้อยู่ดี





    ...................................................................................................................................................................................................................
    *เพิ่มเติม*

    *ดอกคาร์เนชั่นสีขาว นอกจากจะนิยมเป็นดอกไม้ที่ใช้แสดงความยินดีในโอกาศต่างๆแล้ว ยังสามารถใช้ในการแสดงความขอบคุณได้ด้วยเช่นกันจ้า



    ...................................................................................................................................................................................................................
    ป.ล.คิวรีเควสจ้า
          1. Makoto Tachibana [Free!] - Coming soon
          2. Kirito [Sword Art Online]
          3. Pharaoh Atem [Yu-Gi-Oh!]
          4. Doctor Strange [Doctor Strange]
          5. Rikuo Nura [Nurarihyon no Mago] 
          6. Lavi [D.Gray-man]
          7. Yukimura Tooru [Aoharu x Kikanjuu]
          8. The Shape [Dead By Daylight]
          9. Nura Rihan [Nurarihyon no Mago]
          10. Nurarihyon [Nurarihyon no Mago]
          11. Kageyama Tobio [Haikyuu!!]
          12. Eyeless Jack [Creepypasta] 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×