ลำดับตอนที่ #52
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #52 : [Nurarihyon no Mago] Nura rihon x Reader : Matchmaker [Request]
Pairing : Nura Rihon x Reader
Theme : พ่อสื่อนำรัก(?)
Summary : ใครจะรู่ว่าคุณปู่แก่ๆดูธรรมดาๆคนนึงจะนำพาคนรักมาให้คุณได้...
..........................................................................................................................................................................................................................................
คุณกำลังเดินทอดน่องออกมาจากร้านหนังสือที่อยู่ในตรอกซอยเปลี่ยวๆแห่งหนึ่งบนถนนสายหลักในหมู่บ้าน มือเรียวดึงเอาหนังสือรวมเรื่องเล่าสยองขวัญเล่มล่าสุดที่เพิ่งวางแผงออกมาจากถุงกระดาษแล้วเริ่มเปิดหน้าแรกอ่านไปเรื่อยๆขณะเดินไปตามทางจนกระทั่งร่างของคนๆหนึ่งที่เดินสวนมาฉุดให้คุณเงยหน้าขึ้นจากหนังสือ
" สวัสดีค่ะนูระริเฮียง ซื้อหนังสือพิมพ์เหมือนเคยสินะคะ "
คุณทักชายชราผู้เป็นหนึ่งในเพื่อนบ้านละแวกใกล้เคียงกัน เขาพยักหน้าขณะเพ่งมองปกหนังสือที่คุณอ่าน
" 'รวมเรื่องสยองขวัญจากตำนานเก่า'...นี่เธอชอบอ่านอะไรแบบนี้ด้วยเรอะ "
คุณยิ้มให้เขา
" ใช่ค่ะ มันตื่นเต้นดี "
เขาแค่ผงกศีรษะน้อยๆแทนคำตอบ
" ฉันก็ว่างั้นล่ะ แต่ยังไงมันก็ตื่นสู้ของจริงไม่ได้ล่ะว่าไหม "
แล้วชายชราก็ออกเดินต่อไปยังร้านหนังสือโดยที่คุณยังเกิดคำถามสงสัยว่าเขาหมายถึงอะไร แต่ในจังหวะนั้นเองที่สายตาของคุณเห็นกลุ่มเมฆควันอะไรสักอย่างที่มีสีดำกำล้งหมุนวนตามหลังเขาอยู่ นัยน์ตาสี(...)เบิกโพลงขึ้นด้วยความตกใจ
" ระวังค่ะ! "
นูระริเฮียงหันมาในจังหวะที่คุณตวัดมือวาดผ่านอากาศเล็งไปทางกลุ่มควันปริศนานั้น มีเสียงดัง 'ฟั่บ' ขึ้นก่อนกลุ่มควันนั้นจะแข็งตัวแล้วแตกกระจัดกระจายเป็นฝุ่นผงแล้วสลายหายไป
" อืม...จริงๆฉันกะว่าจะจัดการหลังจากเธอเดินลับตาไปแล้ว--"
นูระริเฮียงเอ่ย เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าแล้วมองคุณอย่างพินิจพิจารณา มือเหี่ยวย่นแบบคนชราจับอยู่ที่คางระหว่างใช้ความคิด
" แปลกนะ...ฉันไม่เคยเห็นมนุษย์ธรรมดาที่มีพลังวิเศษแบบนี้มาก่อน น่าสนใจจริง--อยากมาดื่มน้ำชาที่บ้านฉันไหมล่ะ? "
" เอ่อ...คือ--"
" --เอาเถอะ ไม่ต้องเกรงใจ "
แล้วข้อมือของคุณก็ถูกชายชราคว้าเอาไว้แล้วพาเดินนำเลาะเลี้ยวไปตามทาง
.
.
.
.
.
.
.
.
เขาพาคุณมาหยุดอยู่หน้าบ้านสไตล์ญี่ปุ่นขนาดกว้างขวางใหญ่โต ไม่ต้องสงสัยเลบว่านี่เป็นบ้านที่ได้ขึ้นชื่อว่าหลังใหญ่ที่สุดในบรรดาบ้านหลังอื่นๆในบริเวณนี้ คุณตาโตจากความตระการตาในความอลังการงานสร้างนั้นขณะสายตากวาดมองดูความสวงยงามเงียบสงบของสวนบริเวณหน้าบ้านที่ถูกจัดไว้ในสไตล์ญี่ปุ่นแท้
" อ่ะแฮ่ม...เข้ามาสิ "
เจ้าของบ้านบอกแกมสั่ง
" งั้น...ขอรบกวนหน่อยนะคะ..."
เมื่อคุณเลื่อนเปิดบานประตูเลื่อนตามเจ้าของบ้านเข้าไป สิ่งที่ได้เห็นก็ทำเอาคุณแทบผงะหงายหลังด้วยความตกใจ เพราะที่นี่เปรียบเหมือนกับแหล่งรวมมิตรสารพัดผีในตำนานของญี่ปุ่นเป็นสิบชนิดยืนเรียงแถวรวมกันภายใน แต่ละคนต่างโค้งศีรษะให้กับนูราริเฮียงอน่างนอบน้อมเคารพนับถือ
" ทำตัวตามสบาย พวกเขาไม่ทำอะไรหรอก ห้องรับแขกอยู่ทางนี้ "
เจ้าของบ้านผู้อาวุโสตบบ่าเรียกสติคุณที่ยืนแข็งทื่อตกตะลึงอย่างไม่เขื่อสายตาก่อนเจ้าตัวจะเดินเลี้ยวเข้าไปในห้องที่ผีตาเดียวตนหนึ่งเปิดประตูให้
คุณค่อยๆเดินด้วยความหวั่นๆขณะผ่านสารพัดผีที่พากันจับจ้องคุณด้วยความสงสัยใคร่รู้
.
.
.
.
.
.
.
.
" เธอคิดว่าฉันเป็นแค่ตาแก่ธรรมดาใช่ไหมล่ะ? "
นูราริเฮียงถามขึ้นพลางรินน้ำชาร้อนๆใส่ถ้วยให้คุณ คุณยิ้มอายๆให้พลางพยักหน้า เขากอดอกพลางถอนหายใจในแบบที่ค่อนข้างเอนเอียงไปทางหงุดหงิด
" งั้นฉันจะเล่าอะไรบางอย่างให้เธอฟัง..."
แล้วชายแก่ก็เริ่มต้นสาธยายให้คุณฟังหมดเปลือก ทั้งเรื่องที่เขาไม่ใช่มนุษย์ เรื่องราวเกี่ยวกับเหล่าภูติผีปีศาจต่างๆที่ปะปนอยู่บนโลกมนุษย์ ตำนานเก่าแก่และความเป็นมาของสายเลือดโยไกตระกูลของเขาและเรื่องเล่าอีกหลายร้อยพันแปดประการที่ฟังดูราวกับหลุดมาจากหนังสือหรือภาพยนตร์แฟนตาซีที่ชื่นชอบ คุณจึงนั่งฟังอย่างจดจ่อด้วยความเพลิดเพลินไปจนจบ
" แล้ว...ทำไมคุณถึงบอกฉันล่ะคะ? "
คุณถามด้วยความอยากรู้ เขาวางถ้วยน้ำชาลง
" ฉันคิดว่าเธอเป็นมนุษย์ที่มีอะไรบางอย่างพิเศษอยู่ในตัว...ก็เลยไว้ใจ "
คุณกะพริบตาปริบๆ ในใจนึกอยากถามโยไกตรงหน้าว่าไว้ใจเรื่องอะไรก็พอดีกับที่ประตูเลื่อนเปิดออกก่อนร่างของชายหนุ่มคนหนึ่งในชุดกิโมโนสีเขียวลายทางดำจะเดินเข้ามาโดยถือดาบคาตานะพาดไว้บนบ่าข้างหนึ่ง นัยน์ตาสีเหลืองอำพันของเขากะพริบปริบด้วยความสงสัยเมื่อเห็นคุณ
" กลับมาแล้วเรอะ...มานั่งสิ มีคนอยากแนะนำให้รู้จักพอดี "
เขาเดินมานั่งข้างๆนูราริเฮียงพลางวางดาบลงทิ้งไว้บนพื้นข้างๆกาย
" นี่ลูกชายฉัน ชื่อ ริฮัง "
เขาเอาศอกถองสีข้างของลูกชายเบาๆ ริฮังยิ้มให้คุณพร้อมพยักหน้าเป็นการยืนยัน
" ส่วนริฮัง...นี่(...) ที่บ้านอยู่ละแวกเดียวกับเราน่ะ "
ริฮังมองคุณแวบหนึ่งก่อนจะหันไปหาพ่อ
" เธอเป็นมนุษย์? "
นูราริเฮียงพยักหน้าแล้วก็กระซิบกระซาบอะไรสักอย่างที่ทำให้หูของริฮังกลายเป็นสีแดงก่ำ เขากระแอมไอเป็นเชิงก่อนจะยกมือเสยผมสีดำของตนเองเล่นแทน ส่วนชายแก่นั้นหยักยิ้มมีเลศนัยทิ้งท้ายให้เขาแล้ววกกลับมาที่คุณ
" จำที่ฉันบอกเธอเมื่อกี้ได้ไหม? "
เขาถามพลางชี้นิ้วโป้งบุ้ยใบ้ไปทางลูกชาย คุณนิ่งคิดไปสักพัก
" อ่า...เขาก็เป็น...โยไก? "
คนถามพยักหน้าบ่งบอกถึงความพออกพอใจในคำตอบที่ได้
" แล้ว...เธอคิดว่าลูกชายฉันเป็นยังไง? "
เขาถามอีก มือตบๆลำแขนกล้ามขึ้นมัดของริฮังไปด้วย
แต่...คำถามข้อนี้เป็นเหมือนกับลูกระเบิดที่ทำเอาคุณอึ้งตะลึงงันเงียบไปเลย...
ก็แหม...เป็นอะไรยังไงนี่คือแบบไหนแล้วจะให้ตอบยังไงล่ะ จริงอยู่ว่าคุณกับนูราริเฮียงค่อนข้างสนิทสนมคุ้นเคยกันในระดับนึงเพราะเจอกันข้างนอกในละแวกเพื่อนบ้านอยู่บ่อยๆ แต่ก็ไม่ได้สนิทซี้ย่ำปึ้กในระดับที่สามารถพูดจากระโตกกระเตกเฮฮาใส่กันเละเทะได้แบบคนในครอบครัว อีกอย่าง เมื่ออีกฝ่ายไม่ใช่มนุษย์แบบนี้ด้วยแล้ว เกิดคุณทะลึ่งตอบอะไรไม่ถูกใจขึ้นมาก็ไม่รู้ว่าคุณจะได้หอบสังขารกลับบ้านไปครบองค์ประกอบชิ้นส่วนหรือเปล่า...
คุณทำทียกถ้วยชาขึ้นมาจิบปลอบให้อาการสติแตกข้างในสงบลง
" ...ฉันคิดว่าริฮังเขาก็ดีนะคะ เขา...เอ่อ...ดูเป็นสุภาพบุรุษแล้วก็...พึ่งพาได้..."
" หน้าตาดี--มีความสามารถ--และที่สำคัญคือโสดด้วย "
ชายแก่พยักหน้าพออกพอใจคำตอบแถมเสริมเพิ่มเติมให้ด้วย
คุณฉีกยิ้มจางๆให้แต่ก็อดสงสัยในท่อนสุดท้ายของประโยคไม่ได้ว่าทำไมเขาจะต้องเจาะจงบอกรายละเอียดแปลกๆพรรค์นั้นด้วย...
.
.
.
.
.
.
.
.
คืนนั้นคุณหลับสนิททันทีที่ศีรษะเอนสัมผัสลงบนความนุ่มของหมอนเพราะความเหนื่อยล้าจากประสบการณ์การทัศนศึกษาที่พิลึกพิลั่นที่สุดในชีวิต
ร่างของคุณกำลังหลับพริ้มสบายภายใต้ผ้าห่มอุ่นๆในตอนที่เสียงเคาะกระจกหน้าต่างดังขัดจังหวะขึ้นมา แต่คุณไม่ได้สนใจจะทำอะไรนอกจากดึงผ้าห่มและหมอนขึ้นมาปิดใบหน้าเพื่อขจัดเสียงรบกวนนั้นพลางนึกหงุดหงิดอยู่ในใจว่าคนบ้าที่ไหนพิเรนทร์มาเคาะหน้าต่างชั้นสองบ้านคนอื่นเอาตอนดึกๆดื่นๆอย่างนี้
แต่แล้วก่อนที่จะทันเคลิ้มหลับลงอีกครั้ง คุณก็ฉุกคิดอะไรบางอย่างที่ทำให้คุณตื่นเต็มตัวอีกครั้งขึ้นมา
เดี๋ยวก่อนนะ! หน้าต่างชั้นสองงั้นเหรอ!?
คุณรีบกระเด้งตัวลุกพรวดขึ้นมาจากเตียงแล้วรีบตวัดหันไปทางหน้าต่างทันที ตรงข้างนอกหน้าต่างนั้นคือร่างสูงแสนคุ้นตาในชุดกิโมโนสีเขียวนั่งอยู่ตรงระเบียงกำลังเคาะหน้าต่างด้วยท่าทีสบายๆ คุณมองแทบจะไม่เห็นเส้นผมของเขาเนื่องจากสีของมันเข้มจนเรียกว่ากลมกลืนไปกับยามค่ำคืนเลยก็ว่าได้
ริมฝีปากของเจ้าตัวต้นเหตุหยักยิ้มขึ้นมาทันทีเมื่อเห็นคุณรีบปรี่มาเปิดประตูให้
" ทำอะไรเนี่ย!? แล้วปีนบ้านมาอย่างนี้มีธุระอะไร!? "
คุณเอ่ยปากถามลนลาน ยังคงตกใจไม่หายกับสิ่งที่เกิดตรงหน้า ริฮังยิ้มน้อยๆพลางส่ายหัวก่อนจะยกนิ้วชี้จรดริมฝีปากของคมของตัวเองพร้อมทำเสียง 'จุ๊ๆ' เบาๆ
" เขาไปคุยข้างในดีกว่า เดี๋ยวใครมาเห็นเข้า...อีกอย่าง...อากาศตอนกลางคืนมันเย็น เดี๋ยวเธอจะไม่สบายเอานะ "
เขาเอ่ยเรียบๆพลางถือวิสาสะเข้ามาในห้องนอนของคุณพร้อมจัดแจงเอนตัวนอนไขว่ห้างลงบนพื้นห้องเองเสร็จสรรพ คุณเดินตามเข้ามาพร้อมใบหน้าที่คิ้วขมวด
" แล้วตกลงคุณมีธุระอะไร? แล้วคุณนูราริเฮียงรู้ไหมว่าคุณมาอยู่นี่? "
ริฮังกระดิกเท้าอย่างสบายใจเฉิบก่อนจะหันศีรษะเอียงมาทางทิศที่คุณอยู่
" ก็เขานั่นแหละเป็นคนบอกให้ฉันมาที่นี่ "
คำตอบนั้นทำเอาคุณขนตั้งชันลุกซู่ขึ้นมาด้วยความหวั่นกลัว ในหัวสมองพยายามนึกย้อนไปถึงเหตุการณ์เมื่อตอนกลางวันว่าคุณเผลอไปทำอะไรไม่ถูกใจเจ้าตัวเข้าหรือเปล่า หรือบางทีอาจจะเป็นผีสักตัวในบ้านที่เกิดอาการหมั่นไส้อยากล้างแค้นคุณสักป้าบก็เป็นได้
" ไม่ต้องกลัวน่า...เขาแค่ให้ฉันมาชวนเธอไปดื่มน้ำชาด้วยกันอีกก็เท่านั้นเอง "
คุณพยายามข่มอารมณ์ไว้
" ม-ไม่ได้กลัวซะหน่อย..."
" เหรอ...รู้หรือเปล่าว่าตอนนี้เธอหน้าซีดจนจะแข่งกับดวงจันทร์ข้างนอกได้เลยนะ แต่--"
คุณกอดอกจ้องเขานิ่ง รอดูว่าเจ้าตัวจะพูดอะไรต่อ
" --ดวงจันทร์น่ะสู้เธอไม่ได้หรอก--เพราะเธอสวยกว่าเป็นร้อย ~"
นัยน์ตาสี(...)กะพริบปริบๆทำคนถามยิ้มชอบใจ
" หืม...ตอนนี้เปลี่ยนเป็นสีมะเขือเทศแล้ว "
คุณกลอกตา
" พอได้แล้วน่า..."
เขากลั้วหัวเราะเบาๆในคอ พลิกตัวตะแคงหันมาหาคุณ
" แล้วตกลงมาได้หรือเปล่า? "
" ไปได้ตอนบ่ายๆ ครึ่งเช้าฉันต้องเอาต้นฉบับไปส่งสำนักพิมพ์ "
นัยน์ตาสีอำพันของร่างสูงราวกับจะเรืองแสงออกมาด้วยความประหลาดใจ
" เห...เป็นนักเขียนหรอกเหรอ--น่าสนใจจัง คงสนุกน่าดูนะ "
คุณยักไหล่
" ไม่สนุกเท่าไหร่หรอกถ้าใกล้ถึงเส้นตายแล้วงานยังเขียนไม่เสร็จ... "
โยไกยิ้มให้คุณอีกครั้งก่อนจะหยัดตัวขึ้นมา
" นั่นสินะ...งั้น...พรุ่งนี้ตอนบ่ายจะรอนะ "
" เอ๋ จะกลับแล้วเหรอ "
คุณถามเมื่อเห็นเจ้าตัวเดินไปทางระเบียง
" อืม...ว่าจะไปรวบรวมภูติผีแถบภูเขาก่อนกลับสักหน่อย "
คุณพยักหน้าพลางโบกมือให้ริฮัง คุณกลับมาทิ้งตัวลงเตียงทันทีที่เห็นร่างสูงหายลับไปแล้ว
.
.
.
.
.
.
.
.
เมื่อเวลาบ่ายของอีกวันมาถึง คุณก็กลับมานั่งนิ่งอยู่ในบ้านหลังใหญ่โตหลังเดิม
" ขอโทษนะที่ใจร้อนไปหน่อย นิสัยคนแก่ก็แบบนี้ล่ะ "
นูราริเฮียงกล่าวขณะบรรจงเขียนพู่กันแต่งบทกลอนลงกระดาษอย่างประณีตบรรจง
" ไม่เป็นไรค่ะ "
คุณยิ้มน้อยๆ ยกถ้วยชาขึ้นจิบ จังหวะนั้นเองที่เบาะนั่งข้างๆคุณยวบยาบลงเนื่องจากการลงนั่งของร่างสูงผู้เป็นลูกชายเจ้าของบ้าน
" รู้ไหม...พวกเธอสองคนอยู่ด้วยกันแล้วเหมาะสมดีนะ "
ประโยคนั้นทำริฮังหน้าแดงก่ำในขณะที่คุณเกือบสำลักน้ำชา
ขอบคุณสวรรค์ที่หลังจากนั้นนูราริเฮียงก็ชวนคุณคุยเรื่องอื่นไปจนจบการพบเจอกันในวันดังกล่าว
.
.
.
.
.
.
.
.
หลังจากวันนั้นเป็นต้นมา กิจวัตรของคุณก็เปลี่ยนไป หลายครั้งที่คุณถูกเชิญไปดื่มน้ำชาหรือกินมื้อค่ำที่บ้านของเหล่าโยไกโดยนูราริเฮียงหรือบางทีก็เป็นริฮังที่แวะเวียนมาชวนคุณตอนดึกๆดื่นๆ คุณได้แวะเวียนไปบ้านของพวกเขาบ่อยเสียจนคุณกับริฮังกลายเป็นเพื่อนกันไปโดยปริยาย ถามว่าพวกคุณสนิทกันในระดับไหนน่ะหรือ ก็สนิทกันในระดับที่ว่าเจ้าตัวสนมารถถือวิสาสะมาฉกตัวคุณออกไปตะลอนเที่ยวได้บ่อยๆเลยล่ะ
แน่นอนว่าเมื่อเจอเหตุการณ์เช่นนี้นานๆเข้า ความสัมพันธ์แบบฉันเพื่อนก็ได้พัฒนาขึ้นไปเป็นคนรักในคืนวันหนึ่งที่ริฮังได้ทำการขโมยจุมพิตคุณภายใต้ดอกไม้ไฟนับร้อยที่ปะทุเฉิดฉายบนท้องฟ้าในคืนวันสิ้นปึ...วันนั้นคือวันที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ
แต่...ใครจะรู้ว่าคุณจะมีวันที่ดียิ่งกว่านั้นได้อีก เมื่อคืนวันหนึ่งขณะที่คุณกำลังเอนกายพิงไหล่กว้างของริฮังอยู่นอกระเบียงบ้านขณะที่พวกคุณกำลังเพลิดเพลินกับการดูหมู่ดาวต่างๆเบื้องบนแล้วจู่ๆเจ้าตัวก็เอาวงแขนโอบรอบเอวของคุณไว้ราวกับกลัวว่าคุณจะหนีหายไปไหน
" (...) "
เขาเรียกคุณด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาแทบจะไม่ได้ยิน คุณเงยหน้าสบมองนัยน์ตาสวยของเจ้าตัวเป็นการตอบรับ
" เธออยากอยู่กับฉันนานๆไหม? "
คุณเลิกคิ้วพลางยิ้ม
" ก็ต้องอยากสิ "
ริมฝีปากคมหยักยิ้ม ขยับวงแขนดึงให้คุณเข้าใกล้มากขึ้นกว่าเดิม
" งั้น...แต่งงานกันไหม? "
คุณกระตุกศีรษะขึ้นอย่างไม่เชื่อหู
" ล้อเล่นหรือเปล่าเนี่ย... "
ใบหน้าของเขาที่ฉายประดับรอยยิ้มท่ามกลางแสงจันทร์ส่งให้คุณโผกอดเขา ในใจเต็มไปด้วยความตื้นตันที่ไม่อาจบรรยายออกมาได้ คุณรู้สึกถึงฝ่ามือใหญ่ลูบสัมผัสแผ่นหลังของคุณอย่างอ่อนโยน
" งั้น...ถือว่าตกลงนะ "
คุณพยักหน้าทั้งที่ยังซุกศีรษะอยู่กับซอกคอของร่างสูง เขาจูบแก้มคุณโดยที่ยังไม่ยอมคลายวงแขน
ปกติแล้ว...คุณคงจะขอบคุณพระเจ้าหรือพรหมลิขิตที่นำพาความรักมาให้
แต่ครั้งนี้...ต้องขอบคุณนูราริเฮียงน่าจะดูถูกต้องกว่าซะล่ะมั้ง...
..........................................................................................................................................................................................................................................
ป.ล. คิวรีเควสจ้า
1. Nurarihyon [Nurarihyon no Mago]--Coming Soon
2. Kageyama Tobio [Haikyuu!!]
3. Eyeless Jack [Creepypasta]
4. Yamamoto Takeshi [Katekyo Hitman Reborn]
5. Ferid Bathory [Owari no Seraph]
6. Ciel Phantomhive [Black Butler]
7. Atsushi Nakajima [Bungo Stray Dogs]
8. Dazai Osamu [Bungo Stray Dogs]
9. Jason Voorhees [Friday the 13th]
10. Asuramaru [Owari no Seraph]
11. L [Death Note]
12. Ben Tennyson [Ben 10]
13. (Yandere) Pharaoh Atem [Yu-Gi-Oh!]
14. Amuro Tooru [Detective Conan]
15. Severus Snape [Harry Potter]
16. Damian Wayne [DC-Batman]
17. Jyugo [Nanbaka]
18. Reborn [Katekyo Hitman Reborn]
19. Saitama [One-Punch Man]
20. Bruce Wayne [Batman]
21. Jason Todd [Batman]
22. Venom/Eddie Brock [Marvel : Venom]
23. Amamiya Hibiya [Kagerou Daze]
24. Lelouch Lamperouge [Code Geass]
25. Sonic [Sonic The Hedgehog]
26. Jyugo [Nanbaka]
27. Kujou Tenn [Idolish7]
28. Ferid Bathory [Owari no Seraph]
29. Newt Scamander [Fantastic Beasts]
30. Gellert Grindelwald [Fantastic Beasts]
31. Tom Marvolo Riddle [Harry Potter]
32. All Might [Boku no Hero Academia]
33. Hiei [Yu Yu Hakusho]
34. Gavin Reed [Detroit Become Human]
35. Charles Grey [Black Butler]
36. Akashi Seijuro [Kuroko no Basuke]
37. Shoto Todoroki [Boku no Hero Academia]
38. Kuroko Tetsuya [Kuroko no Basuke]
39. The Legion [Dead By Daylight]
40. Levi Ackerman [Attack on Titan]
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น