ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    All + Reader ตัวละครแสนรัก [ปิดรับรีเควสชั่วคราวจ้า]

    ลำดับตอนที่ #89 : [Harry Potter] Gellert Grindelwald x Reader : A man of the night [Request]

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.4K
      82
      17 ต.ค. 62

    Pairing : Gellert Grindelwald x Reader
    Theme : Myst , Fluff , Sweet , AU
    Summary : เราสองคนเจอกันครั้งแรกที่นั่น...แต่กระนั้น...ฉันมั่นใจว่าเราจะยังได้เจอกันอีกในสักวันหนึ่ง...








    .................................................................................................................................................................................................................................
            ของเหลวสีเขียวมิ้นท์ส่องประกายถูกรินออกจากแก้วทรงสวยไหลผ่าไปตามลำคอของคุณในระหว่างที่ใบหูกำลังสดับฟังนักร้องอันดับหนึ่งประจำผับซึ่งเป็นเอลฟ์หญิงในชุดราตรีสีเงินระยิบระยับกำลังขับร้องบทเพลงแสนหวาน


    The phoenix cried fat tears of pearl*
    นกฟีนิกซ์ร่ำไห้ออกมาเป็นหยดน้ำตาแห่งไข่มุกเม็ดโต--
    When the dragon snapped up his best girl,
    --เมื่อมังกรฉกฉวยเอาสาวคนสนิทของเขาไป
    And the Billywig forgot to twirl
    และเมื่อบิลลี่วิกหลงลืมที่จะหมุนบิน--


    คุณเท้าคางกับเคาน์เตอร์บาร์ ส่งแก้วที่ว่างเปล่าแล้วคืนให้กับบาร์เทนเดอร์ซึ่งเป็นเอลฟ์ชราตัวเตี้ยหน้าตาดูไม่รับแขกซักเท่าไหร่
    " เอาวิสกี้ไฟแก้วนึง "
    เจ้าเอลฟ์เลิกคิ้ว
    " วิสกี้ไฟเลยเรอะ? ไม่ลองอุ่นคอด้วยเหล้าน้ำผึ้งดูก่อนล่ะ "
    คุณยกยิ้มออกแนวประชดประชัน ส่ายหัว
    " วันนี้อยากได้อะไรแรงๆน่ะ "
    " หืม...วันนี้คงเจออะไรหนักๆมาล่ะสิ "
    เอลฟ์ตอบ กระดิกนิ้วชี้บังคับให้ผ้าผืนหนึ่งเช็ดคราบรอยด่างออกจากแก้ว คุณแค่นหัวเราะ ยักไหล่
    " ก็ไม่เชิง แค่โดนที่ทำงานบ่นใส่ก็เลยเซ็งๆ "

            เอลฟ์ชราส่งเสียงหึ ดีดนิ้วดัง'เป๊าะ'ก่อนถาดกลมจะลอยหวือมาหยุดอยู่ตรงหน้าคุณพร้อมวางแก้วบรรจุของเหลวสีอำพันเข้มลงบนโต๊ะ คุณหยิบมันยกขึ้นจรดริมฝีปากจังหวะเดียวกับใครคนหนึ่งทำการจับจ้องเก้าอี้ตัวถัดมา พลันสายตาคุณก็ชำเลืองมองคนข้างๆ เขาเป็นชายหนุ่มที่ทำให้นึกถึงยามรัตติกาลด้วยเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายโทนสีน้ำเงินเข้มไปถึงดำ ผิวขาวนวลและผมสีเดียวกันขับให้ใบหน้าหล่อคมคายดูผ่องขึ้นไปอีก เขาดูเหมือนภาพวาดของดวงจันทร์สุกสกาวที่อยู่ท่ามกลางท้องฟ้ากลางคืน เขาเองก็มีอากัปกิริยาเดียวกับคุณ นั่นคือสายตาที่จับจ้องนักขับร้องดื่มด่ำเครื่องดื่มของตนระหว่างจดจ่อสดับฟังบทเพลงหวานซึ้ง


    When his sweetheart left him cold,
    --ยามเมื่อหวานใจของเขาทิ้งให้เหงาเปล่าเปลี่ยว
    And the unicorn done lost his horn,
    --และเมื่อยูนิคอร์นสูญเสียเขาของมัน
    And the Hippogriff feels all forlorn,
    --อีกฮิปโปกริฟฟ์ที่กำลังรู้สึกโดดเดี่ยวสิ้นหวัง


    " วิสกี้ไฟอีกแก้ว รอบนี้ไม่ผสมกิลลี่นะ "

            เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นข้างๆด้วยสำเนียงอังกฤษสลวยรื่นหู คุณชำเลืองมองอีกฝ่ายแวบหนึ่งแล้วหันกลับมาสนใจนักร้องเอลฟ์หญิงร่ายมนต์เสกควันสีขาวรูปสัตว์ต่างๆที่อยู่ในบทเพลง ฮิปโปกริฟฟ์บินถลาล่องลอยไปมาสักพักก่อนจะสลายตัวเป็นควันสีรุ้งจางๆตรงหน้า

            " ฮิปโปกริฟฟ์เป็นสัตว์ที่มีความสง่าและศักดิ์ศรี มนุษย์ก็เช่นกัน--แต่บางครั้ง...คนเราก็ไม่จำเป็นต้องใส่ใจคนที่ไม่ยอมลงจากหลังฮิปโปกริฟฟ์**นักหรอก "
    คุณตวัดสายตาหันไปมองชายที่เพิ่งพ่นคำคมแปลกๆออกมา
            " คุณหมายถึงอะไรน่ะ? "

            เขาวางแก้วลงแล้วหันมา ตอนนั้นเองที่คุณตะลึงงันเพราะเพิ่งเห็นชัดๆว่านัยน์ตาทั้งสองข้างของเขาคนละสีกัน ข้างหนึ่งสีฟ้าเทาซีดอ่อนเจือจางจนแทบจะเป็นสีขาว ส่วนอีกข้างหนึ่งเป็นสีเข้มเสียจนเกือบจะเป็นสีดำ

    " ผู้ที่ยืนอยู่ในจุดที่สูงที่สุดมักจะเต็มไปด้วยความหยิ่งผยองเสียจนหลงลืมว่าตัวเองก็เคยอยู่ในจุดที่ต่ำที่สุดมาก่อนเช่นกัน "
    มือใหญ่ยกแก้วเครื่องดื่มขึ้นกระดกท่ามกลางสีหน้าสงสัยของคุณ
    " คุณโดนหัวหน้างานเอ็ดมาไม่ใช่หรือ? "
    " แล้ว...คุณรู้ได้ไง? "
    คุณยกมือเท้าคาง สายตาไม่คลาดไปจากใบหน้าของอีกฝ่าย ริมฝีปากคมยกยิ้มขึ้นจางๆที่มุม
    " คนที่มาเที่ยวในเวลาแบบนี้ด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์แบบคุณน่ะมีอยู่สองอย่าง--ไม่เรื่องรักก็เรื่องงาน "

            คุณขยับปากเป็นคำว่า'ว้าว' แล้วเปลี่ยนกลับมาสนใจเครื่องดื่มของตนเอง สัญชาตญาณบางอย่างเตือนว่าชายคนนี้ไม่ใช่พ่อมดธรรมดาสามัญทั่วไปเมื่อได้สัมผัสความวาทศิลป์เจ้ากวีช่างเปรียบเปรยของเขา แถมความสามารถจากการอ่านความคิดเดาทางคนอื่นแล้วถ้าไม่ใช่คนที่ฉลาดมากก็ต้องเป็นคนที่อันตรายพอสมควร

    เสียงบทเพลงยังคงดำเนินต่อไปโดยที่คุณทั้งสองยังไม่มีใครโต้ตอบใคร


    Cause their lady loves have upped and gone,
    --เพราะหญิงคนรักของพวกมันจากไปแบบฉับพลัน--
    Or that's what I've been told
    --นั่นคือสิ่งที่ฉันได้ยินมาน่ะนะ


    " เรื่องไม่สบายใจนั่นน่ะ--ลืมมันไปซะเถอะ แล้วพรุ่งนี้จะรู้สึกดีขึ้น "
    คุณคิดว่าตาคนนี้ชักจะพูดมากเกินเหตุ อาจจะด้วยฤทธิ์ของเครื่องดื่มหรือความนึกคึกอะไรก็ตามที่มันเริ่มทำให้คุณหงุดหงิดนิดๆแล้ว
    " แล้วคุณแน่ใจได้ยังไง? "
    " มันเป็นคติที่เจ้าของธุรกิจยึดถือกันน่ะ ผมพูดถูกไหมล่ะ ก็ในเมื่ออดีตมันแก้ไม่ได้ก็ปล่อยมันไปซะ แล้วทำวันนี้กับอนาคตให้ดีขึ้น "

    ให้ตายสิ ยังดูหนุ่มแน่นแท้ๆแต่คำพูดคำจายังกับพวกพ่อมดแม่มดแก่ๆ

    คุณเลิกสนใจเขาแล้วหันไปจดจ่อกับเสียงดนตรีทีดำเนินมาถึงท่อนสุดท้าย

    Yes, love has set the beasts astir,
    ใช่ ความรักทำให้พวกอสูรเคลื่อนไหวไปมา
    The dang'rous and the meek concur,
    --ความอันตรายและความอ่อนโยนก็เกิดพร้อมๆกัน--
    It's ruffled feathers, fleece, and fur,
    --มันสะบัดขนจนกระเซิงยุ่งเหยิง--
    'Cause love drives all of us wild.
    --เพราะความรักต่างขับให้เราทั้งหมดคลุ้มคลั่ง


            บทเพลงหวานจบลงพร้อมเอลฟ์หญิงโค้งศรีษะให้กับผู้ชมก่อนจะหายตัววับไป คุณปรบมือพอเป็นพิธี ชำเลืองดูนาฬิกาก็พบว่าตอนนี้เป็นเวลาเฉียดสี่ทุ่มแล้ว คุณตัดสินใจจะกลับบ้านเพราะเกรงว่าถ้าอยู่ดึกกว่านี้จะทำให้ตัวเองโดนสวดเพิ่มอีกหนึ่งคดีโทษฐานมาสายในวันถัดมา มือหยิบเหรียญทองและเงินออกมาจากกระเป๋ากำมะหยี่นิดหน่อย แต่เมื่อหันไปก็พบว่าชายรูปหล่อข้างๆนั้นลุกไปตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่ทราบ ส่วนเอลฟ์บาร์เทนเดอร์ก็กำลังวุ่นกับการเสิร์ฟค็อกเทลหัวเราะให้กับคู่รักวัยรุ่นคู่หนึ่ง คุณจึงวางเงินทิ้งไว้บนโต๊ะแล้วออกจากร้าน

    คุณกำลังเดินขึ้นมาปลายตรอกเมื่อมีเสียง'ป๊อป!'ดังขึ้นก่อนร่างเตี้ยม่อต้อของเจ้าเอลฟ์ชราจะปรากฏตรงหน้าคุณ
            " ฉันจ่ายเงินแล้วนะ "
    คุณท้วง เอลฟ์สูดจมูกงุ้ม ล้วงมือไปใต้กระเป๋าเสื้อเก่าๆหยิบเงินจำนวนเดิมขึ้นมาส่งให้คุณ
            " มีคนจ่ายให้เธอแล้ว "
    คุณย่นคิ้ว นึกไม่ออกว่าตัวเองสนิทกับใครคนไหนในร้านนอกจาก--
            " ผู้ชายอังกฤษมาดขรึมที่นั่งข้างๆเธอนั่นแหละ--อ้อ--เขาฝากไอ้นี่มาให้เธอด้วย "
    เขาดีดนิ้วอีกที มีการ์ดแข็งๆสีน้ำเงินเข้มขนาดครึ่งฝ่ามือปรากฏขึ้น เขายัดมันใส่มือคุณแล้วหายวับไป คุณก้มอ่านข้อความบนการ์ดที่เขียนด้วยเส้นสีเงินลายมือฉวัดเฉวียนสวยงาม

    'Bad day, but wish you a wonderful night(ถึงจะมีวันที่แย่ แต่ก็ขอให้คุณมีค่ำคืนที่วิเศษ)'

            บรรทัดต่อมามีลงชื่อด้วยตัวอักษรภาษาอังกฤษ'จี'ติดกันสองตัว เมื่อคุณพลิกการ์ดกลับมา คุณก็เพิ่งสังเกตว่าตรงกลางมีภาพวาดอะไรสักอย่างที่ดูแปลกตา มันเป็นสัญลักษณ์ที่มีตัวอักษรจีสองตัวหันหลังชนกันครอบอยู่บนสัญลักษณ์อีกชุดซึ่งมีสามเหลี่ยม วงกลมและเส้นขีดแนวตั้งรวมเข้าด้วยกัน คุณเดาว่ามันคงเป็นตราของบริษัทหรือองค์กรอะไรสักอย่างที่เจ้าตัวสังกัดอยู่

    คุณพยายามนึกคาดเดานามของเจ้าตัว

    ชื่อนามสกุลอะไรนะที่มีตัวย่อจีติดกันสองตัว...จอห์น--กิลเบิร์ต--แจ็กคิเนส--จาร์วิส--จิม--เกลเลียน--เกเบิล--จอร์จ--แกเบรียล...มีตั้งเป็นร้อยพันชื่อ...

    คุณส่ายศีรษะ ยัดการ์ดใบสวยเก็บใส่กระเป๋า ไม่มีความจำเป็นต้องใส่ใจอะไรมากมายเพราะไหนๆก็คงไม่ได้มีโอกาสเจอกันอีกเป็นครั้งที่สอง
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
            สัปดาห์ถัดมาเหมือนเป็นพรนำโชคดีชดเชยให้กับสัปดาห์เฮงซวยที่ผ่านมา เพราะมรสุมงานชิ้นใหญ่ที่ผ่านไปแล้วครึ่งหนึ่งทำให้คุณเหลือเพียงงานสรุปยอดและจัดการเอกสารยิบๆย่อยๆในแผนกวัตถุเวทมนต์ภายในประเทศในขณะที่เพื่อนร่วมแผนกอีกจำนวนหนึ่งยังคงหมกตัวขลุกอยู่ในห้องทดลองปรุงยา

            เย็นวันเดียวกัน คุณเตรียมตัวกำลังจะกลับบ้านก็พอดีสายตาเหลือบไปเห็นซองจดหมายและเอกสารจำนวนหนึ่งซึ่งมีตัวปั๊มตราบริษัทของคุณแล้วเขียนจั่วหัวว่า 'ด่วนมาก' คุณจึงโกยพวกมันใส่กระเป๋าทำงานแล้วจัดการหายตัวกลับบ้าน

            คุณเปิดเอกสารทั้งหมดออกดูทันทีที่ถึงบ้าน ในซองนั้นมีตั๋วเรือโดยสารของโนเมจหนึ่งใบซึ่งเดินทางจากนิวยอร์กไปลอนดอนในวันพรุ่งนี้ เอกสารรับรองการเดินทางแบบด่วนสำหรับคุณและเอกสารอีกสองสามแผ่นซึ่งเป็นคำอธิบายชี้แจงงานจากหัวหน้าของคุณ

    สรุปว่าฉันต้องไปลอนดอนหนึ่งวันสินะ...

            คุณนึกในใจเหนื่อยๆขณะกวัดแกว่งไม้กายสิทธิ์บังคับเสื้อผ้าเครื่องใช้ต่างๆเข้าไปเรียงรายอยู่ในกระเป๋าเดินทาง มือข้างที่ว่างถือเอกสารอ่านรายการสิ่งของที่ได้รับมอบหมายให้ไปหาซื้อมาสำหรับทดลองผลิตสินค้าตัวใหม่

    1.เลือดของยูนิคอร์น 8 มิลลิลิตร/1ขวดแก้วกลาง
    2.เลือดของรีเอม 3.5 มิลลิลิตร/ครึ่งขวดแก้วเล็ก
    3.พิษจากเขี้ยวของแมงมุมอโครแมนทูล่า 4 หยด
    4.เขาไบคอร์นที่บดเป็นผงแล้ว 2.8 กรัม
    5.หญ้าน้ำประสาร 5 กรัม
    6.คราบงูเขียวพิษบูมซะแลง 2 ตัว
    ~~

            เห็นแค่รายการของลำดับแรกๆก็แทบจะทำคุณลมจับ เพราะมันมีตั้งแต่ระดับหายากปกติไปจนถึงยากในระดับที่เมอร์ลินยังต้องน้ำตก ไม่มีร้านค้าหรือตลาดผู้วิเศษที่ไหนจะมีของแบบนี้ขายแน่ๆ แถมเมื่อคำนวณจากความหายากของข้าวของบางรายการแล้ว ไม่ต้องถามถึงราคาก็เดาได้ว่าสูงลิ่วปิ้วเกินกว่าพ่อมดแม่มดทั่วไปจะกล้าเอามาขายแน่นอน หรือถ้ามีก็ต้องรอคิวสั่งจองเป็นแรมเดือนในขณะที่บางอย่างก็มีราคาแพงจนไม่คุ้มกับการลงทุน ซึ่งในกรณีที่สองนั้นแน่นอนว่าถ้าอยากได้ล่ะก็มีอยู่สองวิธี วิธีแรกคือบุกป่าฝ่าดงดั้นด้นหามาด้วยตนเองให้จงได้ ส่วนวิธีที่สองคือวิธีที่คุณ(และคนปกติทั่วไปพึงกระทำ...)ก็คือการติดต่อซื้อขายกับองค์กรที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับเรื่องนี้โดยเฉพาะซึ่งอาจมีค่าเดินทางกับบวกค่านายหน้าเพิ่มสักนิดสักหน่อย แต่อย่างน้อยก็คุ้มค่ากว่าการโดนมังกรย่างสดหรือตายเพราะพิษของแมงมุมยักษ์ขนยุ่บยั่บ ว่างั้นไหมล่ะ?

    เพียงแค่นั้น คุณก็พับเอกสารเก็บเดียงแค่นั้นแล้วตรงเข้านอนโดยไม่ได้สังเกตตราสถญลักษณ์ตัวจีสองตัวและชุดสัญลักษณ์เรขาคณิตที่มุมล่างกระดาษ
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    ที่นี่สภาพอากาศเพี้ยนๆแฮะ...

            คุณแหงนมองท้องฟ้าของลอนดอนที่จู่ๆก็เทาครึ้มขึ้นมาทั้งที่ห้านาทีก่อนมันยังใสแดดเปรี้ยงอยู่เลย คุณดึงไม้กายสิทธิ์เสกคาถาร่มขึ้นมาได้ทันท่วงทีเมื่อละอองเม็ดฝนเริ่มโปรยลงมา คุณเดินหลบหลีกพวกโนเมจซึ่งที่นี่เรียกว่า'มักเกิ้ล' จนกระทั่งมาถึงตรอกซอกซอยเงียบๆไร้ผู้คน คุณถอนคาถาออก ชี้ไม้จิ้มก้อนอิฐเป็นจังหวะ กำแพงทั้งหมดก็ขยับเขยื้อนเรียงตัวกันใหม่ก่อเป็นประตูโค้งนำไปสู่ตรอกไดแอกอน คุณตัดสินใจนำสัมภาระไปเก็บที่ห้องพักในร้านหม้อใหญ่รั่วก่อนเพราะไม่อยากนึกสภาพตัวเองแบกกระเป๋าเดินทางไปจับจ่ายซื้อของในโกดังวิเศษ

    นัยน์ตาสี(...)กวาดมองร้านรวงหลากหลายเรียงรายเต็มสองช่วงถนนจนกระทั่งสะดุดเข้ากับป้ายไม้เงางามแกะสลักตัวอักษรสละสลวย

    'กรินเดลวัลด์--วัตถุดิบนำเข้าอันสมบูรณ์แบบ'

            คุณผลักประตูสีดำมันวับเข้าไป ข้างในไม่ได้ให้ความรู้สึกว่าเป็นร้านขายของแต่ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในโรงแรมที่พักชั้นสูงด้วยการตกแต่งด้วยหินอ่อนในสไตล์สีดำและทอง วัตถุดิบเวทมนตร์ต่างๆวางเรียงรายตามชั้นต่างๆดูสวยงามน่าชม ไร้ซึ่งกลิ่นไม่พึงประสงค์ที่ร้านขายวัตถุดิบวิเศษมักจะมี และตรงแผนกต้อนรับก็มีพนักงานที่ดูกระฉับกระเฉงยิ้มแย้มแจ่มใสแทนที่จะเป็นพ่อมดแม่มดแก่ๆบึ้งตึงน่ากลัว

            " สวัสดีค่ะ...ฉันชื่อ(...) ฉันมาหาซื้อของตามรายการพวกนี้น่ะค่ะ "

            แม่มดตัวเล็กหน้าตาน่ารักพยักหน้าให้คุณ เธอโบกไม้แล้วข้าวของต่างๆบนชั้นก็ลอยละล่องเรียงรายอยู่บนเคาน์เตอร์ตามจำนวนที่ต้องการ แต่คุณสังเกตว่ายังขาดไปหลายรายการไม่ใช่น้อย

    " สำหรับสินค้าที่เหลือที่คุณผู้หญิงต้องการนั้นขอเชิญติดต่อข้างในนะคะ ของบางอย่างค่อนข้างเปราะบางเราเลยไม่เอามาวางหน้าร้าน "

            เธอตวัดไม้ไปที่กำแพง ลายหินอ่อนของมันเลื้อยไหวเคลื่อนตัวไปมาเหมือนกับสายน้ำแหวกออกเป็นสองฝั่งเผยให้เห็นประตูไม้ขัดเงาที่ซ่อนไว้ เมื่อคุณเดินเข้าไปใกล้ มันค่อยๆแง้มเปิดออกเผยให้เห็นห้องขนาดใหญ่เท่ากับสองชั้นหลักของมาคูซาในอเมริกา แต่สิ่งที่แตกต่างคือสินค้าในนี้ถูกเก็บไว้ในที่ส่วนตัวของมัน บางอย่างอยู่ในหีบเงินมีกุญแจล็อก บางอย่างอยู่ในตู้กระจกเวทมนต์ที่ภายในถูกเสกคาถาน้ำแข็งแช่เอาไว้

            ประตูปิดลงพร้อมกับเงาไหววูบสีดำพุ่งหวือลงมาจากบันไดปรากฏร่างตรงหน้าคุณ นัยน์ตาสี(...)เบิกกว้างตกใจเมื่อได้ยลเห็นชายปริศนาคนที่เจอกันในร้านเมื่อคืนวันนั้น นัยน์ตาสีแปลกของอีกฝ่ายดูดีๆแล้วเหมือนจะพยายามข่มซ่อนความประหลาดใจไว้ลึกๆ

            " ดูเหมือนโชคชะตาจะพาเรามาพบกันอีกครั้งล่ะนะ "
    ริมฝีปากบางเฉียบของเขาเหยียดยิ้มจางๆขณะเจ้าตัวโค้งศีรษะให้แล้วคว้ามือคุณค่อยๆยกขึ้นประทับจุมพิตแผ่วเบาขับให้พวงแก้มคุณขึ้นสีโทนกุหลาบ
            " ผมเกลเลิร์ต...เกลเลิร์ต กรินเดลวัลด์ "
    ตอนนั้นเองที่คุณฉุกคิดขึ้นมาได้

    เกลเลิร์ต กรินเดลวัลด์...เกลเลิร์ต กรินเดลวัลด์--จีจี!

    " แล้วคุณล่ะ คุณผู้หญิง "
    " ฉ-ฉัน(...)(...) "
    เกลเลิร์ตโค้งให้อีกรอบด้วยความสุภาพก่อนจะผายมือสวมถุงมือหนังสีดำ
    " มีรายการของที่ต้องการใช่หรือเปล่า? "

            คุณส่งใบกระดาษให้ เกลเลิร์ตกวาดสายตาเพียวครู่เดียวก็ควักไม้ของตนออกมาร่ายคาถาเรียกของ แต่คุณไม่มีกะจิตกะใจอยู่กับข้าวของพวกนั้นเลย ตรงกันข้าม คุณกลับไม่สามารถละสายตาไปจากลีลาท่วงท่าการวาดไม้ของเขาที่อ่อนช้อยสง่างามราวกับกำลังกำกับวงดนตรีออร์เคสตรา

    " เรียบร้อย ทั้งหมดที่คุณต้องการอยู่ในนี้ ครบถ้วนไม่ขาดไม่เกิน "
    เขาส่งถุงกำมะหยี่สีกรมท่าปักตราสีทองให้ คุณรับมาแล้วพูดขอบคุณ แต่ก่อนที่คุณจะหันหลังเตรียมออก เสียงนุ่มก็เอ่ยขึ้นซะก่อน
    " อุตส่าห์มาถึงที่นี่เพื่อซื้อสินค้าของผมเชียวหรือ? ประทับใจมากนะ--ถ้ามีโอกาสอีกก็ยินดีต้อนรับกลับมาเสมอ "
    เขาเอ่ย ริมฝีปากกระตุกยกยิ้มจางๆแล้วโบกมือลาคุณอย่างมีชั้นเชิงมาดผู้ดี
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
            คุณจิ้มไก่อบน้ำผึ้งหอมๆเข้าปากก่อนจะตามด้วยบัตเตอร์เบียร์รสกลมกล่อม ร้านหม้อใหญ่รั่วค่อนข้างคล้ายกับร้านไบลน์พิก คือมีบรรยากาศมืดทึม เครื่องเรือนไม้สภาพค่อนข้างเก่า ต่างกันที่ร้านหม้อใหญ่รั้วนั้นไม่มีดนตรีและมีบาร์เทนเดอร์เป็นชายหน้าตาเป็นมิตรคนหนึ่งแทนเอลฟ์แต่ก็ดูมีอายุชราพอๆกัน

    ด้วยความที่ไม่มีเพลงให้ฟัง มันก็เลยออกจะกร่อยๆเงียบเชียบนิดๆสำหรับคนที่มาคนเดียว แต่ครั้นจะให้คุณขึ้นไปอยู่บนห้องก็ไม่มีอะไรให้ทำอยู่ดี

    " วิสกี้ไฟผสมเหล้าน้ำผึ้ง "
    " ไม่เอาเพียวๆเหมือนเดิมเหรอครับ? "
    " อากาศเย็นๆเลยอยากดื่ทอะไรหวานๆละมุนน่ะ "
    เสียงคุ้นหูกระตุกความสนใจให้คุณหันไปมอง คุณสบพบกับนัยน์ตาสองสีคู่งามกะพริบขยิบกลับมาให้แล้วหยิบแก้วเครื่องดื่มชูขึ้นน้อยๆ คุณยกแก้วของตัวเองชูขึ้นตาม
    " เชียร์ส "

            คุณทั้งสองยกแก้วดื่มพร้อมกัน เกลเลิร์ตกระตุกยิ้มบางๆให้ก่อนจะคว้ามือคุณขึ้นมาประทับรืมฝีปากทักทายอีกครั้ง ตอนนั้นคุณเพิ่งสังเกตว่าเขาใส่โค้ตยาวสีดำสนิทคู่กับเสื้อด้านในโทนสีแดงไวน์แก่ คุณเลยแอบนึกสงสัยว่าเขาเปลี่ยนชุดทุกครั้งที่ออกนอกสถานทีหรือเปล่า

    " เสียดายที่ที่นี่ไม่มีดนตรี ว่าไหม? "
    คุณพยักหน้า
    " คุณดูเป็นสาวสังคมนะ เจอกันสองรอบก็ที่ร้านอาหารทุกที "
    " หึ คุณเองก็เหมือนกันแหละ "
    " ผมแค่ไม่มีอะไรทำเลยมาเที่ยวแก้เบื่อ "
    " ฉันก็เหมือนกัน "
    "..."
    "..."
    ความเงียบเข้าคลุมบรรยากาศไปพักหนึ่งก่อนที่เขาจะเป็นฝ่ายพูดขึ้น แต่ไม่ใช่ก่อนที่เจ้าตัวจะโน้มใบหน้าเอนมาทางคุณเล็กน้อย
    " บังเอิญจังนะ...เราเจอกันสามรอบแล้ว "
    " คุณว่างั้นเหรอ? "
    รู้สึกตัวอีกที คุณก็เอาแต่จดจ่อสนใจแค่ใบหน้าอีกฝ่ายเหมือนกัน
    " บังเอิญจนน่าประหลาดใจ-- "
    คุณยังสบตาเขาอยู่เมื่อเห็นเขาขมวดคิ้วทำท่าทางอยากจะพูดต่อ
    " --น่าประหลาดใจจนอดคิดไม่ได้ว่าอาจจะเป็นอะไรอื่น-- "

            เกลเลิร์ตเอ่ยเสียงแผ่วเบาตรงคำว่า'อะไรอย่างอื่น'แล้วกระตุกยิ้มที่ฉายทั้งเลศนัยและเสน่ห์หา คุณเลิกคิ้วนิดๆ ยกมือเท้าคางจ้องอีกฝ่ายแบบไม่ละสายตา ริมฝีปากระบายรอยยิ้มออกมาเพราะเริ่มจะจับทางได้ว่าเขาจะพูดอะไร เหลือแค่รอฟังว่าเขาจะพูดตรงกับที่ใจคุณคิดหรือเปล่า

    "--อะไรอื่นอย่างเช่น...โชคชะตา...พรหมลิขิต...ความรัก..."

            ว่าแล้วใบหน้าหล่อคมก็ค่อยๆเลื่อนเข้ามาใกล้ ส่วนคุณนั้นหยุดนิ่งอยู่กับที่ สายตาล็อกอยู่กับเครื่องหน้าของอีกฝ่ายที่เคลื่อนเข้ามาเรื่อยๆจนกระทั่งใบหน้าของพวกคุณห่างจากกันเพียงไม่กี่นิ้ว เกลเลิร์ตหยุดค้างลังเลชั่งใจอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะบรรจงทาบประกบริมฝีปากของคุณอย่างนุ่มนวลอ่อนโยน รสหวานซ่ากึ่งขมนิดๆจากวิสกี้ไฟผสมเหล้าน้ำผึ้งเข้ากันได้ดีกับกลิ่นกายของอีกฝ่ายและบรรยากาศอบอุ่นมืดสลัวในร้านที่ช่วยผสมผสานรสจูบนั้นสมบูรณ์แบบ
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    " เสียดายที่คุณต้องกลับพรุ่งนี้ "
    คุณยิ้มแห้งด้วยความเสียดายก่อนจะพยักหน้า
    " เรา...จะได้เจอกันอีกหรือเปล่าคะ?..."
    คุณถามแม้จะทำใจไว้แล้วครึ่งนึงว่าไม่น่าจะมีโอกาส แต่สิ่งที่เขาทำคือคว้ามือคุณข้างหนึ่งไปประทับจุมพิต
    " แน่นอน "
    ริมฝีปากคุณระบายรอยยิ้มอย่างไม่รู้ตัว
    " เพื่อเป็นตัวการันตีว่าผมจะทำตามสัญญา "

            เขาหยิบไม้ขึ้นมาตวัดหนึ่งที ของชิ้นหนึ่งก็ปรากฏขึ้น มันคือจี้ทับทิมสีแดงสดที่แกะสลักเป็นรูปหัวใจครึ่งเสี้ยวขนาดเท่าเหรียญเกลเลียนสองเหรียญต่อกันและอยู่ในกรอบทองคำแววาวแกะสลักลวดลายโบราณ เขาคว้ามันส่งให้คุณ

    " จนกว่าเราจะพบกันอีกครั้ง "
    เขาล้วงคอเสื้อหยิบเอาสร้อยคอห้อยจี้แบบเดียวกันชูขึ้นมา คุณยิ้มน้อยๆแล้วส่ายศีรษะก่อนจะรับมันไป
    " จนกว่าเราจะพบกันอีกครั้ง "
    คุณทวนถ้อยคำแล้วห้อยจี้นั้นเข้ากับสร้อยคอของตน  ดวงตาของคุณทั้งคู่ทีสบตากันนั้นฉายประกายแห่งความมั่นใจและความหวัง

    สักสันหนึ่งเราจะพบกันอีก...

    .................................................................................................................................................................................................................................
    ***เพิ่มเติม**

    *เพลงที่ไรต์เอามาชื่อว่า "Blind pig" เป็นเพลงประกอบในหนังเรื่องสัตว์มหัศจรรย์และถิ่นที่อยู่ แต่เป็นภาคแรกจ้า

    **ดัดแปลงมาจากสำนวนเดิมที่ว่า "ลงจากหลังฮิปโปกริฟฟ์ได้แล้ว" ซึ่งเป็นสำนวนที่มีความหมายว่าเลิกกระทำตัวเหนือกว่าคนอื่น อ่อน้อมถ่อมตน เลิกหยิ่งทะนงจ้า(สำนวนนี้จัดอยู่ในหมวดสำนวนและคำแสลงในโลกพ่อมดที่มีอยู่จริงในเรื่องเน้อ ดูข้อมูลอื่นๆเพิ่มเติมตามนี้ได้เลยค่ะ^^ :
    https://www.muggle-v.com/5763

    https://harrypotter.fandom.com/wiki/Wizarding_idioms     )

    .................................................................................................................................................................................................................................
    ป.ล. จัดให้ตามที่คุณรี้ดขอมาว่าอยากให้กรินเดลวัลด์เป็นนักธุรกิจเวทมนต์แทนพ่อมดศาสตร์มืดเน้อ ไม่รู้จะถูกใจหรือเปล่าเพราะตามที่ไรต์ลองดูบุคลิกกับนิสัยการพูดมีวาทะศิลป์ของเขาแล้ว กรินเดลวัลด์ให้ความรู้สึกเหมือนนักธุกิจประเภทสง่ามาดเนี้ยบเงียบขรึมผู้สามารถทำทุกสถานที่เป็นเหมือนกับรันเวย์ไฮแฟชั่นอ่ะนะ... ชอบไม่ชอบยังไงก็ติชมกันได้นะคะ

    ป.ล.สุดท้าย คิวรีเควสจ้า
          1. Tom Marvolo Riddle [Harry Potter]--Coming soon
          2. All Might [Boku no Hero Academia]
          3. Hiei [Yu Yu Hakusho] 
          4. Gavin Reed [Detroit Become Human]
          5. Charles Grey [Black Butler]
          6. Akashi Seijuro [Kuroko no Basuke]
          7. Shoto Todoroki [Boku no Hero Academia]
          8. Kuroko Tetsuya [Kuroko no Basuke]
          9. The Legion [Dead By Daylight]
          10. Levi Ackerman [Attack on Titan]
          11. Cedric Diggory [Harry Potter]
          12. Matsuoka Rin [Free!]
          13. Giant [The Iron Giant]
          14. Theseus Scamander [Fantastic Beast]
          15. Akaashi Keiji [Haikyuu!!]
          16. Tsukishima Kei [Haikyuu!!]
          17. Mukami Yuma [Diabolik Lovers]
          18. Akai Shuichi [Detective Conan]
          19. Okiya Subaru [Detective Conan]
          20. Bakugo Katsuki [Boku no Hero Academia]
          21. Akabane Karma [Assassination Classroom]
          22. Killua Zoldyck [Hunter x Hunter]
          23. Pharaoh Atem [Yu-Gi-Oh!]
          24. Connor RK800 [Detroit Become Human]
          25. Saiki Kusuo [The Disastrous Life of Saiki K.]
          26. Uchiha Shisui [Naruto]
          27. Trafalgar D. Water Law [One Piece]
          28. Kuroo Tetsuro [Haikyuu!]
          29. Nara Shikamaru [Naruto]
          30. Belphegor [Katekyo Hitman Reborn]
          31. Kagami Taiga [Kuroko no Basuke]
          32. Leon Kennedy [Resident Evil]
          33. Ray [The Promised Neverland]
          34. Norman [The Promised Neverland]
          35. Giotto [Katekyo Hitman Reborn]
          36. Eddie Gluskin [Outlast]
          37. Captain America [Marvel]
          38. Okumura Rin [Blue exorcist]
          39. Kris [Seven Night]
          40. Gon Fleece [Hunter x Hunter]
          41. Kise Ryouta [Kuroko no Basuke]
          42. Takao Kazunari [Kuroko no Basuke]
          43. Izuki Shun [Kuroko no Basuke]
          44. Michael Meyer [Halloween]
          45. Jonathan Kent [DC-Super Sons]
          46. Jotaro Kujo [JoJo's Bizarre]
          47. Kira Yoshikage [JoJo's Bizarre]
          48. Bumblebee [Transformer]
          49. Wen Ning [Mo Dao Zu Shi]
          50. Vergil [Devil May Cry]
          51. Star-Lord [Marvel]
          52. Thor [Marvel]
          53. Wei Wuxian [Mo Dao Zu Shi]
          54. Lan Wangji [Mo Dao Zu Shi]
          55. Jafar [Magi]
          56. Erwin Smith [Attack on Titan]
          57. Aizen Sosuke [Bleach]
          58. Yoshida Shouyou/Utsuro [Gintama]
          59. Ryan Clayton [Beyond: Two Souls]
          60. Black Hat [Villainous]
          61. Kiji Mitsuba [Nanbaka]
          62. Tsunayashiro Tokinada [Bleach: Can't fear your own world]
          63. Ichimaru Gin [Bleach]





    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×