คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #21 : 15(100%)
2 พค 1998
นากินีได้ยินเสียงอะไรบางอย่าง หลังจากที่เธอฝังคมเขี้ยวไปที่คอของสเนป เธอรู้สึกไม่สบายใจที่ทำอย่างนั้น แปลกจริงๆ เธอเคยฆ่าคนตามคำสั่งของเจ้านายมาตั้งหลายครั้งแล้ว ทำไมครั้งนี้จึงรู้สึกผิดราวกับทำร้ายพวกเดียวกัน
“ มาหาฉัน นากินีที่รัก” เสียงเสียงหนึ่งดังขึ้นในใจของเธอ “ อย่าตามเขาไป”
นากินีรู้สึกเหมือนโดนสะกดจิต เธอเลื้อยลงจากไหล่ของเจ้านายและเลื้อยไปตามเสียงเรียก
“ นากินี” โวลเดอมอร์ตะโกน “ กลับมา ไอ้งูโง่”
แต่นากินีไม่ฟัง เธอยังเลื้อยไปเรื่อยๆ จนกระทั่งมาถึงต้นเสียง
“ ชล” นากินีพูด ที่รักของเธอนั่นเอง เธอไม่ได้เจอเขามาเกือบ2ปีแล้ว และคิดถึงเขามาก
“ ฉันจะช่วยปลดปล่อยเธอจากคำสาปอันเลวร้ายเอง” เขาพูด เขาใช้ดวงตาสีแดงจ้องมองเธอ และอะไรบางอย่างก็หลุดออกมาจากร่างกายของเธอ มันเป็นก้อนดำๆที่น่าขยะแขยง ชลจ้องมันจนมันสลายกลายเป็นเถ้าถ่าน
นากินีไม่เคยรู้สึกโล่งสบายขนาดนี้มาก่อนเลย ราวกับภาระหนักอึ้งถูกยกออก เป็นอิสระจากพันธนาการที่ผูกมัด ชลแปลงร่างเป็นมนุษย์ นากินีถอยหลังหนีด้วยความกลัว ชลหยิบขวดยาขึ้นมา มันเป็นยาที่เขาได้มาจากเผ่าวิทยาธร เป็นยาที่ช่วยกำจัดคำสาปได้เกือบทุกชนิด ชลใช้เวลาศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับนากินีนานมาก เขารู้สึกว่างูตัวนี้ไม่ใช่งูธรรมดา และเมื่อเขาค้นข้อมูลไปเรื่อยๆก็พบว่าเธอเคยเป็นมนุษย์มาก่อน แต่โดนคำสาปจนต้องกลายร่างเป็นงูและไม่อาจควบคุมตนเองได้ในร่างนั้น ชลต้องใช้เงินจำนวนมากเพื่อซื้อยาขวดนี้มา มันจะทำให้เธอพ้นจากคำสาป ต่อไปนี้เธอจะควบคุมร่างงูและกลับร่างเป็นมนุษย์ได้ เขาค่อยๆกรอกมันเข้าไปในคอของเธอ
นากินีค่อยๆกลับร่างเป็นมนุษย์ เธอค่อยๆลูบแขนขาของเธอ ความทรงจำหลายความทรงจำไหลบ่าเข้ามาในจิตใจของเธอ เธอจำได้แล้วว่าเธอเคยเป็นมนุษย์ และเคยเห็นอกเห็นใจและเมตตาคนอื่น แต่เพราะคำสาปน่ากลัวนั่นทำให้เธอกลายเป็นงู นอกจากนี้เธอยังต้องกลายเป็นสัตว์เลี้ยงติดตามจอมมารที่โหดร้ายและฆ่าคนมากมายตามคำสั่งของเขา น้ำตาเธอค่อยๆไหลออกมาด้วยความรู้สึกผิด ชลดึงตัวเธอเข้าไปกอด
“ ไม่เป็นไร นากินี” นาคเขียวพูดปลอบ “ มันไม่ใช่ความผิดของเธอ”
“ ฉันไม่อยากกลับไปหาเขาแล้ว” นากินีสะอื้น “ ฉันไม่อยากทำบาปทำกรรมอีกแล้ว”
“ ไม่เป็นไร” ชลปลอบ “ ฉันจะสร้างตัวแทนเธอขึ้นมาเอง เธอไม่ต้องกลับไปหาเขาแล้ว” เขาหยิบผงทรายขึ้นมา ร่ายมนตร์และมันก็กลายเป็นงูยักษ์ รูปร่างเหมือนนากินีไม่มีผิด
“ นี่มัน..” นากินีอุทาน
“หุ่นพยนต์” เขาพูดอย่างภูมิใจ “ มันจะทำตามคำสั่งเราทุกอย่าง แต่ถ้ามันตายก็จะกลับเป็นทรายเหมือนเดิม” เขาหันไปสั่งงู “ ไปหาเจ้าโวลเดอมอร์ ทำตามคำสั่งมันทุกอย่างนะ”
งูตัวนั้นพยักหน้าและเลื้อยออกไป ชลหันมาหานากินี “ เราไปจากที่นี่กันเถอะ ที่รัก” เขากุมมือเธอไว้แน่น และทั้งคู่ก็หายตัวไป
Talk เฉลยแล้วว่าหญิงสาวปริศนาเป็นใคร ถ้าใครได้ดูfantastic beast 2 คงจะรู้สึกสงสารนากินีอยู่หน่อยๆ ไรท์ก็สงสารเลยแต่งให้เธอมีชีวิตที่ดีขึ้นในficนี้
ต่อ
เซเวอร์รัสลืมตาขึ้น เซไวลินกุมมือเขาไว้
“ ไม่เป็นไรแล้วนะครับพ่อ” ลูกชายเขาปลอบ “ พ่อปลอดภัยแล้ว”
“ สงคราม” เซเวอร์รัสพูดเสียงแหบ “ เป็นยังไงบ้าง”
“ มันจบแล้วครับ” เซไวลินส่งยิ้มมาให้เขา “ จอมมารตายแล้ว ฝ่ายดีก็มีตายบ้าง คอลินน่ะครับ และก็เด็กที่อายุไม่บรรลุนิติภาวะ แต่อยากเข้าร่วมในสงคราม” เขาส่ายหน้า “ ไม่น่าเลยจริงๆ”
“ พ่อปกป้องพวกเขาไม่ได้” เซเวอร์รัสพูด กระทั่งคำขอสุดท้ายของดัมเบิลดอร์ เขายังทำไม่ได้ เขามันไร้ประโยชน์จริงๆ
“ ไม่ใช่ความผิดของพ่อ” เซไวลินปลอบ “ พ่อทำเต็มที่แล้วครับ”
เซเวอร์รัสส่ายหน้า “ ไม่ มันยังไม่เต็มที่ พ่อละทิ้งหน้าที่ตอนยังเป็นอาจารย์ใหญ่ พ่อหนีไปเหมือนคนขี้ขลาดอย่างที่มักกอนนากัลพูด”
“ ไม่ใช่” เซไวลินพูดอย่างเดือดดาล “ พ่อไม่ได้ขี้ขลาด พ่อกล้าหาญที่สุด ยัยนั่น..”
แต่เซเวอร์รัสจุปากห้ามลูกชาย “ มีคนกำลังมา”
“ ฉันไม่อยากจะเชื่อเลย รีมัส” ซิเรียสพูด “ ฉันไม่อยากเชื่อเลยว่าฉันจะโดนหลอกง่ายๆ” และเขาก็ตะโกนจนสุดเสียง “ ไว้ใจสเนป ผีบ้าที่ไหนมันบังตาให้ฉันคิดว่ามันเป็นคนดี”
“ ฉันก็เหมือนกัน” รีมัสพูด ด้วยน้ำเสียงโศกเศร้า “ ฉันคิดว่าเราจะเป็นเพื่อนกันได้”
“ เขาหลอกเราทุกคน” เสียงของมักกอนนากัลพูด “ ฉันจะตอบแทนเขาอย่างสาสม”
ทั้ง3คนเดินเข้าไปในเพิงโหยหวนที่สเนปพ่อลูกอยู่ข้างใน
“ สวัสดีค่ะ ท่านอาจารย์ใหญ่” ศาสตราจารย์มักกอนนากัลทักทายด้วยน้ำเสียงประชดประชันเต็มที่ “ เป็นที่ที่แปลกสำหรับการพักผ่อนหย่อนใจนะคะ”
“ ก็ยังดีกว่าอัซคาบันแหละ” ซิเรียสพูดอย่างหมายร้าย “ และก็เป็นที่ที่แกต้องไปอยู่”
เซเวอร์รัสไม่ตอบ เขายังจมกับความคิดของตัวเอง ถ้าเขามีความสามารถมากกว่านี้ เขาคงช่วยแก้คำสาปให้ดัมเบิลดอร์ได้ หรือไม่ก็สามารถปกป้องนักเรียนได้มากกว่านี้ เขามันแย่ ไม่ได้เรื่อง ทำอะไรก็ไม่เคยได้เรื่อง เหมือนที่พ่อเคยว่าไม่มีผิด
“ แกฆ่าดัมเบิลดอร์” มิเนอร์ว่ากรีดเสียง ชี้นิ้วมาทางเขา “ เขาดีกับแกขนาดนั้น เขาถึงขนาดพูดกับฉันว่าเขาเห็นแกเป็นลูกชาย ไอ้ฆาตกร ไอ้คนทรยศ”
เซเวอร์รัสเริ่มต้นอธิบาย “ ผมฆ่าเขา เพราะผมไม่มีทางเลือก ดัมเบิลดอร์ขอร้องผม เขาไม่อยากที่จะ..”
“ คำโกหกแบบนี้” รีมัสขัดขึ้น “ บอกเด็ก5ขวบยังไม่มีใครเชื่อเลย คนที่ยืนยันเรื่องนี้ได้ก็มีแต่ดัมเบิลดอร์ และเขาก็ตายไปแล้ว”
“ ฉันพูดเรื่องจริง” เซเวอร์รัสพูดเสียงแหบ “ ฉันไม่ได้โกหก”
“ ไปแก้ตัวกับศาลเอาเองเถอะ” มักกอนนากัลพูดอย่างใจร้าย เธอโบกไม้กายสิทธิ์และเชือกก็พันรอบตัวเซเวอร์รัส
“ ปล่อยพ่อนะ” เซไวลินกรีดร้อง เขามุ่งไปหาผู้ใหญ่ทั้ง3 แต่ซิเรียสโบกไม้กายสิทธิ์อย่างเกียจคร้าน และเซไวลินก็กระเด็นไป
“ อย่าทำร้ายเขา แบล็ค” สเนปคนพ่อตะโกน “ เขาไม่เกี่ยว”
“ เราจะไม่ทำร้ายเด็ก ซิเรียส” อาจารย์สอนแปลงร่างพูดเสียงเฉียบขาด “ เราจะไม่ลดตัวไปทำแบบ..” เธอมองเซเวอร์รัสด้วยแววตาดูถูก “ เศษสวะอย่างมัน” เธอหันไปสั่งซิเรียสกับรีมัส “ คุมตัวมันเข้าไปในปราสาท”
“ แล้วเราจะทำยังไงกับเด็กสเนป” รีมัสถาม เขาอดสงสารเซไวลินไม่ได้ เด็กคนนี้ไม่มีแม่ ยึดถือพ่อเป็นทุกสิ่งทุกอย่างของชีวิต มันคงเหมือนโลกพลิกคว่ำสำหรับเขา เมื่อพ่อที่เขาคิดว่าเป็นคนดีกลับเป็นฆาตกรทรยศ
“ เราจะจัดการเรื่องนี้” มิเนอร์ว่าพูด “ เราจะหาครอบครัวที่ดี ครอบครัวที่มีเมตตาพอจะละทิ้งความเกลียดชัง ไม่เอาพ่อไปปนกับลูก”
“ งั้นไม่ใช่ผมแน่” ซิเรียสพูด “ ผมไม่มีวันดูแลลูกของสเนปแน่”
รีมัสอึกอัก “ ผมเองก็ต้องดูแลเท็ดดี้ และดอร่าก็คงไม่ยอม..”
“ ฉันไม่คิดจะรบกวนพวกเธอหรอก” หญิงชราพูด “ เซไวลินสนิทกับมิสเตอร์อักเคอร์ลีย์มาก มิสเตอร์อักเคอร์ลีย์คนพ่อก็เป็นมือปราบมารที่มีชื่อเสียง และเป็นคนดี น่านับถือพอจะช่วยเรื่องนี้ได้ ฉันจะลองขอร้องเขาดู”
“ ผมจะไม่ทิ้งพ่อ” เซไวลินพูดทั้งน้ำตา “ พ่ออยู่ที่ไหน ผมก็จะอยู่ที่นั่น”
เซเวอร์รัสพยายามใช้ผมของตัวเองเช็ดน้ำตาให้ลูกชาย “ ลูกไปกับพ่อไม่ได้ ในคุกไม่ใช่สถานที่สำหรับเด็ก อยู่กับครอบครัวอักเคอร์ลีย์ ทำตัวดีๆ อย่าไปคิดว่าตัวเองเป็นลูกอีกคน ให้คิดว่าเป็นคนใช้ เขาสั่งอะไรก็ให้ทำตาม เป็นเด็กดี และต้องมีสติเสมอ ข้อนี้สำคัญที่สุด” เซเวอร์รัสสั่งสอนลูกชาย เซไวลินคงเข้าใจความหมายแฝงของเขา นาค หากไม่มีสติก็จะกลับร่างเดิม และใครจะรู้ว่าครอบครัวอักเคอร์ลีย์จะต้องการงูยักษ์อยู่ในบ้านหรือเปล่า เซเวอร์รัสคิดว่าคงไม่ “ ถ้าลูกรักพ่อ ลูกต้องทำตามที่พ่อบอก พยายามมีชีวิตที่ดีแทนพ่อด้วย”
“ ครับพ่อ” เซไวลินพูดทั้งน้ำตา “ ผมจะทำตามที่พ่อสั่ง”
“ หมดเวลาสั่งเสียกันแล้ว” ซิเรียสพูด เขาเดินย่างสามขุมเข้ามาหาสเนปคนพ่อ “ ไปได้แล้วสเนป ไปรับกรรมของแกซะ” เขาจับเซเวอร์รัสยืนขึ้น และหันไปหารีมัส “ มาช่วยฉันหน่อย” และทั้งคู่ก็ลากเซเวอร์รัสออกไป เซไวลินมองทั้ง3ไปจนลับตา
Talk เราช่วยดัมเบิลดอร์ไม่ได้จริงๆค่ะ ยังไงเขาก็ต้องตาย ไม่อย่างนั้นโวลเดอมอร์จะไม่ส่งนากินีมาฆ่าเซเวอร์รัส และคนอื่นๆก็จะไม่เข้าใจเขาผิดด้วย
ต่อ
**
ห้องพิจารณาคดี
เซเวอร์รัสนั่งลงบนเก้าอี้สำหรับนักโทษ โซ่รัดพันเขาไว้แน่น เขาเคยถูกพิจารณาคดีแบบนี้มาก่อนแล้ว แต่ตอนนั้นดัมเบิลดอร์อยู่เคียงข้างเขา ไม่เหมือนกับตอนนี้ที่เขาไม่มีใครเลย ไม่มีทั้งพยานและหลักฐานที่จะช่วยให้เขาพ้นจากข้อกล่าวหาได้ และพยานที่ยืนยันว่าเขาทำผิดจริง คือ แฮร์รี่ พอตเตอร์ เด็กชายผู้รอดชีวิต วีรบุรุษผู้ปราบจอมมาร โอกาสที่เขาจะรอดยิ่งริบหรี่
“ เจ้าคือ เซเวอร์รัส สเนป ใช่ไหม” ผู้พิพากษาถาม
“ ใช่ครับ” เซเวอร์รัสตอบ
“ เจ้าเป็นคนฆ่าอัลบัส ดัมเบิลดอร์ใช่ไหม” ผู้พิพากษายังซักต่อไป
“ ใช่ครับ แต่..” เซเวอร์รัสยังไม่ทันจะพูดอะไร ผู้พิพากษาก็ขัดขึ้น
“ ทั้งๆที่เขาดีกับเจ้า ข้ายังจำได้ตอนนั้นข้าเป็นแค่คณะลูกขุนเล็กๆ เขาออกตัวปกป้องเจ้า เพื่อเอาเจ้าออกจากคุกอัซคาบัน”
“ ผมทำไปเพราะความจำเป็น” เซเวอร์รัสพูด “ เขาขอร้องผม”
คณะลูกขุนหัวเราะอย่างไร้อารมณ์ขัน “ เพราะความจำเป็น” หญิงสาวคนหนึ่งพูดอย่างดูหมิ่น “ เขาขอร้องเจ้า เจ้าคิดว่าพวกเราเป็นลางั้นเหรอ เจ้าไม่มีทั้งพยานและหลักฐาน”
“ พินิจใจผมสิ” เซเวอร์รัสตะโกน “ สัจจะเซรุ่มก็ได้”
“ จะไปมีประโยชน์อะไร” ผู้พิพากษาพูดด้วยเสียงเรียบ “ พ่อมดที่มีพลังอำนาจมากอย่างเจ้า สามารถหลอกลวงพ่อมดที่ยิ่งใหญ่อย่างอัลบัส ดัมเบิลดอร์ได้ทั้งๆที่เขาเชี่ยวชาญการพินิจใจที่สุด เจ้าสกัดใจเก่งมาก สเนป การพินิจใจไม่มีความหมายอะไรสำหรับเจ้า ส่วนสัจจะเซรุ่ม ถ้าเจ้าเชี่ยวชาญการสกัดใจมากพอ เจ้าก็ฝืนฤทธิ์ของมันได้ จึงไม่มีประโยชน์อะไรอีกเช่นกัน”
“ อย่ามัวแต่เสียเวลากันอยู่เลย” ลูกขุนอีกคนพูดอย่างหมดความอดทน “ เราลงคะแนนเสียงกันเถอะ”
“ ข้าอยากให้ไอ้สวะนี่ถูกจุมพิตผู้คุมวิญญาณ” ลูกขุนผู้หญิงคนหนึ่งพูดอย่างเดือดดาล
“ เราทำอย่างนั้นไม่ได้” ผู้พิพากษาขัดขึ้น “ นายกฯคนใหม่ไม่เห็นด้วยกับการใช้ผู้คุมวิญญาณ เราจะใช้มือปราบมารในการคุมตัวนักโทษ เราต้องให้สิทธิมนุษยชนแก่พวกเขา”
“ แต่สำหรับไอ้คนสารเลวแบบนี้”
“ เราต้องหาอาหาร หาน้ำให้มันด้วยหรือ”
“ เปลืองงบกระทรวงเปล่าๆ”
คณะลูกขุนหลายคนส่งเสียงแสดงความไม่พอใจ
“ ใจเย็นๆก่อน” ผู้พิพากษารีบห้ามปราม “ พวกเราไม่ต้องส่งอาหารและน้ำให้แก่สเนปหรอก เพราะข้าคิดว่าความผิดอันใหญ่หลวงของสเนป สมควรได้รับโทษประหารเท่านั้น มีใครจะคัดค้านอะไรไหม”
“ แต่เราไม่เคยมีโทษประหารนี่” ลูกขุนคนหนึ่งพูดอย่างไม่แน่ใจ
“ เรากำลังจะมี” ผู้พิพากษายืนยัน “ และเราจะทดลองใช้กับสเนปคนแรก มันจะเป็นการประหารกลางแจ้ง ให้คนเข้ามาดูได้”
“ ข้าเห็นด้วย” ลูกขุนคนหนึ่งยกมือ คณะลูกขุนอีกหลายคนยกมือตาม
“ สรุปว่าทุกคนเห็นด้วยใช่ไหม” ผู้พิพากษาถามย้ำ ก่อนจะเคาะค้อน “ งั้นเราจะประหารเขาในวันพรุ่งนี้ ตอนเที่ยงตรง ที่ลานจัตุรัส หมู่บ้านฮอกมีดส์ ตอนนี้เราเอาเขาไปขังไว้ก่อน”
เซเวอร์รัสพูดไม่ออก เขากำลังจะตายและตายแบบนักโทษประหาร ตายแบบคนก่นด่าสาปแช่ง ต่อให้เขาตาย วิญญาณของเขาก็ไม่มีวันเป็นสุข เขาถูกมือปราบมาร2คนลากตัวเข้าไปโยนในคุกอัซคาบัน
“ หลับให้สบาย” มือปราบมารคนหนึ่งเยาะ “ เตรียมคิดคำสั่งเสียไว้ด้วยล่ะ”
เซเวอร์รัสหดตัวลง เขาจะต้องตายในวันพรุ่งนี้จริงๆหรือ จะมีใครมาช่วยเขาได้บ้าง นี่หรือคือผลตอบแทนที่เขาทำงานเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายเพื่อภาคี เพื่อโลกเวทมนตร์ ไม่ใช่เหรียญตราเมอร์ลิน ไม่ใช่ทองเกลเลียน ไม่ใช่บทสัมภาษณ์ชีวิตส่วนตัว แต่เป็นการประหารชีวิตกลางแจ้ง เขาไม่ได้กลัวตาย แต่ก็ไม่อยากตายแบบโดนสาปแช่ง เขาพยายามข่มตาให้หลับ นี่คงเป็นคืนสุดท้ายแล้วที่เขาจะได้นอน และเขาก็ได้ยินเสียงอะไรบางอย่าง
Talk เซเวอร์รัสได้ยินเสียงอะไรนะ
“ เจ้าชาย” เสียงเสียงนั้นพูด“ เจ้าชายโกเมศให้หม่อมฉันมาช่วยเจ้าชาย”
เซเวอร์รัสหันไปทางต้นเสียง เขาเห็นชลยืนยิ้มอยู่หน้าประตูคุก มือปราบมารที่เฝ้าประตูอยู่ล้วนหลับไม่ได้สติ
“ อะไร ยังไง เธอมาที่นี่ได้ยังไง” เซเวอร์รัสถามรัวเร็ว
“ ไม่สำคัญหรอกพระเจ้าค่ะ” ชลพูด “ ทรงถอยออกไปก่อน หม่อมฉันจะพังประตูคุก”
เสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหว ชนิดที่สามารถปลุกคนทั้งเมืองให้ตื่นขึ้นมาได้ แต่มือปราบมารที่เฝ้าประตูอยู่กลับหลับสนิท ไม่มีทีท่าว่าจะตื่นเลยแม้แต่น้อย
“ ไปกันเถอะพระเจ้าค่ะ” ชลเร่ง
เซเวอร์รัสออกมายืนข้างนอก รู้สึกสดชื่นยิ่ง “ ขอบใจมาก”
“ เจ้าชายทรงดำน้ำลงไปได้เลยพระเจ้าค่ะ” ชลว่า “ พยายามคิดถึงเมืองของพระองค์ไว้ ต้องไปถึงได้แน่นอน”
“ แล้วเธอจะไม่ไปกับฉันหรือ” เซเวอร์รัสถาม
ชลยิ้มอย่างมีเลศนัย “ หม่อมฉันจะอยู่ที่นี่แทนพระองค์ จัดการสั่งสอนพวกมนุษย์เสียหน่อย”
“ มันอันตรายนะ” เซเวอร์รัสพูด “ ไปกับฉันเถอะ”
“ กำลังของนาคมากกว่ามนุษย์หลายเท่า หม่อมฉันเป็นองครักษ์ของเจ้าชายโกเมศ หาใช่นาคชั้นต่ำ ไม่ต้องห่วงหรอกพระเจ้าค่ะ พรุ่งนี้หม่อมฉันจะได้เล่นสนุกล่ะ”
เซเวอร์รัสลังเลอยู่ชั่วครู่ ก่อนจะตัดสินใจดำน้ำลงไป เขาคงต้องไว้ใจชล
ชลจัดการยกประตูให้เหมือนเดิม ก่อนจะเปลี่ยนร่างเป็นเซเวอร์รัส คิดจะประหารเจ้าชายงั้นหรือ เดี๋ยวจะได้เห็นดีกัน
3 พค 1998
ที่ลานจัตุรัสฮอกส์มี้ดมีพ่อมดแม่มดมารวมตัวกันเป็นจำนวนมาก ใครๆก็อยากจะเห็นการประหารชีวิตในครั้งนี้กันทั้งนั้น ยังไม่ถึงตอนเที่ยงคนก็แน่นขนัดเต็มไปหมด ครอบครัวอักเคอร์ลีย์กับเซไวลินก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วย
“ พ่อไม่ได้ทำอะไรผิด” เซไวลินร้องไห้ ขณะที่สจ็วตลูบหลังลูบไหล่เป็นการปลอบใจ เขาเองก็ไม่รู้จะพูดอะไรได้ คงจะเป็นเรื่องเลวร้ายมากสำหรับเซไวลิน ตอนแรกเขาจะไม่ให้เซไวลินมาดูการประหาร แต่เด็กชายยืนยันว่าจะมาให้ได้ เขาจึงต้องตามใจ
เซเวอร์รัสโดนคุมตัวมา เขาถูกล่ามโซ่ทั้งตัว แต่สีหน้าของเขาไม่แสดงความหวาดกลัวเลย และถ้าสจ็วตตาไม่ฝาด เขาดูหยิ่งผยองอยู่หน่อยๆด้วยซ้ำ
“ เจ้ามีอะไรจะพูดไหม” ชายคนหนึ่งที่แต่งตัวด้วยเสื้อคลุมอย่างดีถาม “ ก่อนที่เจ้าจะตายน่ะ”
เซเวอร์รัสหัวเราะ “ เสร็จนาฆ่าโคถึก เสร็จศึกฆ่าขุนพล พอไร้ประโยชน์ก็ประหารทิ้งเสีย”
“ พูดจาไร้สาระอะไรของเจ้า” ชายในชุดเสื้อคลุมตะโกน
“ ไม่ต้องให้มันพูดแล้ว” ผู้คนที่รุมดูอยู่พูด “ ประหารมันเลย”
เพชฌฆาตแกว่งดาบคมกริบมา แต่ก่อนที่ดาบนั้นจะฟันลงที่คอของนักโทษ เหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น นักโทษที่พวกเขาคิดว่าเป็นเซเวอร์รัสและถูกมัดไว้อย่างแน่นหนานั้น สลัดโซ่ตรวนหลุดราวกับมันเป็นเพียงเชือกเส้นเล็กๆ และคนที่ยืนอยู่ตรงนั้นไม่ใช่สเนปแน่
มีแต่เซไวลินที่รู้ว่าเขาเป็นใคร “ ชล” เด็กชายพูดเสียงแผ่ว
ชายแปลกหน้าคว้าคันธนูและลูกศรมาจากที่ไหนก็ไม่มีใครรู้ เขาง้างคันธนูและยิงลูกศรขึ้นฟ้า และฝนก็ตก มันไม่ใช่ฝนธรรมดา แต่เป็นพายุที่รุนแรงเสียจนมองไม่เห็นข้างหน้า ชลรีบถือโอกาสนี้คว้าตัวเซไวลินไว้
“ ไปกันเถอะพระเจ้าค่ะ ไปหาพระบิดากัน” “ฝนคงจะตกจนท่วมหมู่บ้าน คงจะได้ใช้ชีวิตเป็นชาวเกาะสักพักแหละ” ชลคิดอย่างสะใจ “ นี่นับว่าเมตตาแล้วจึงไม่เอาถึงตาย ใครสั่งสอนให้เหยียบหางนาคล่ะ” ก่อนจะไปเขามีคำพูดสุดท้ายให้พวกมนุษย์ด้วย “ นี่เป็นแค่การสั่งสอนเท่านั้นนะ ถ้ายังกล้ามายุ่งกับพวกเราอีก ระวังจะตายแบบไม่มีแม้แต่ซากศพ” เสียงของเขาดังกว่าพายุฝนเสียอีก เด็กๆเริ่มร้องไห้ ผู้หญิงกรีดร้อง ขณะที่ผู้ชายโวยวาย แต่ชลไม่สนใจ เขารีบพาเซไวลินหายตัวไปทันที
Talk อย่าแหยมกับนาค ถ้ายังรักชีวิตอยู่ นี่แค่สั่งสอนนะ
ต่อ
2 พค 1998 เมืองนิลนคร
ทันทีที่เซเวอร์รัสเข้ามาในเมือง ก็พบโกเมศยืนกอดอก หน้าบึ้งอยู่
“ หายไปไหนมาตั้งนาน” โกเมศซัก “ ไม่คิดถึงใจคนรอเลยใช่ไหม ว่าเขาเป็นห่วงแค่ไหน”
เซเวอร์รัสอึกอัก “ นายยังไม่ได้กลับเมืองของนายอีกเหรอ” เขาแกล้งเฉไฉเปลี่ยนเรื่อง “ เดี๋ยวพ่อแม่ก็เป็นห่วงหรอก”
“ ไม่ต้องมาเปลี่ยนเรื่อง” โกเมศดุ “ 2 ปี เกือบ2ปีที่นายหายไป ไม่ติดต่อมาสักนิด ทั้งๆที่สัญญาว่าจะเรียนรู้การเป็นเจ้าชายด้วยกัน แล้วฉันก็รู้ว่านายโดนครุฑทำร้าย หัวใจฉันแทบหยุดเต้น นายคิดบ้างหรือเปล่า”
“ ก็ฉันมีงานต้องทำ” เซเวอร์รัสพูดเสียงอ่อย กึ่งกลัว กึ่งพอใจที่มีผู้เป็นห่วงตนมากขนาดนี้
“ งานอะไร” โกเมศว่า “ ฉันไม่เข้าใจเลยว่าทำไมนายต้องเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายเพื่อพวกมนุษย์ด้วย และดูสิ่งที่พวกนั้นตอบแทนนายสิ โทษประหารชีวิต นี่ถ้าฉันไม่สั่งให้ชลไปช่วยนาย นายคงได้ไปเกิดใหม่แล้ว”
“ ว่าแต่นายรู้ได้ไงว่าฉันต้องโทษประหาร” เซเวอร์รัสถาม
“ ฉันก็มีสายของฉันน่ะสิ” โกเมศพูดอย่างให้ความสำคัญกับตัวเอง “ ช่วงที่นายแอบหนีไปบนโลกมนุษย์ ฉันก็ตีซี้กับเซไวลิน ขอให้เขาช่วยเชียร์ฉันหน่อย”
“ เจ้าเล่ห์จริงๆ” เซเวอร์รัสตำหนิแบบไม่จริงจังนัก “ นายเนี่ยทำให้ฉันคิดถึงคนคนหนึ่งเลย”
“ ใครกัน” โกเมศถามอย่างอยากรู้
“ เรกูลัส แบล็ค” เซเวอร์รัสตอบ “ นายไม่ได้หน้าตาเหมือนเขาหรอกนะ เขาน่ะผมดำ ตาเทา แต่นิสัยและลักษณะการพูดจาของนายน่ะ เหมือนเขาเป๊ะเลย”
“ แล้วนายเป็นอะไรกับเขา” โกเมศถาม “ นายตั้งชื่อกลางเซไวลินตามชื่อเขาด้วยนี่”
“ ก็เป็นเพื่อนกัน ฉันเอ็นดูเขาเหมือนน้องชายน่ะ” นั่นไม่ใช่ความจริง ไม่มีพี่ชายที่ไหนที่จูบกับน้องชายแล้วจะหน้าแดงหรอก แค่คิดถึงเรื่องราวในอดีต สีชมพูก็ปรากฏขึ้นที่แก้มของเขา
“ นายโกหก” โกเมศว่า “ นายไม่ได้คิดแค่เพื่อนหรือพี่น้องกับเขา ฉันอยากจะเจอเขาแล้วสิ คนที่ทำให้แก้มนายกลายเป็นสีชมพูได้เพียงแค่พูดถึง” เขามั่นใจว่าเขาต้องไม่ชอบเรกูลัสแน่ ถ้ากล้ามายุ่งกับเซเวอร์รัสของเขา ของเขางั้นเหรอ แกมันหมาหวงก้าง โกเมศ เขาไม่ได้เป็นอะไรกับแกสักหน่อย และอาจจะไม่มีวันเป็นด้วย
“ เขาตายไปแล้ว” เซเวอร์รัสพูด “ หลายปีแล้วล่ะ แม้กระทั่งศพยังหาไม่เจอเลย”
“ ฉันเสียใจด้วยนะ” โกเมศว่า ความหึงหวงหายไปทันที แทนที่ด้วยความสงสาร คงจะแย่มากที่ตายแบบไม่มีคนพบศพ “ แต่ตอนที่เขามีชีวิตอยู่ เขาเป็นคนดีใช่ไหม”
เซเวอร์รัสพยักหน้า เขาคิดว่าเรกูลัสเป็นคนดี แม้จะไม่ใช่ดีสมบูรณ์แบบ แต่ก็ไม่อาจเรียกได้ว่าชั่วร้าย เรื่องเลวร้ายที่สุดที่เด็กหนุ่มก่อก็คงเป็นการเข้าร่วมเป็นผู้เสพความตาย เช่นเดียวกับตัวเซเวอร์รัสเอง
“ งั้นนายก็ไม่ต้องเป็นห่วงเขาหรอก” โกเมศปลอบ “ ถ้าเขาเป็นคนดี ตอนตายไปเขาก็จะได้ไปสู่ที่ดีๆ กฎแห่งกรรมยุติธรรมเสมอ”
“ ไปกันเถอะ” เซเวอร์รัสว่า และออกเดินนำหน้า ตรงไปยังพระราชวังที่เป็นของเขา โกเมศก้าวเท้ายาวๆ พยายามเดินตามให้ทัน
**”
“ หลานกลับมาแล้ว” อัปสราทักทายทันทีที่พวกเขาเข้ามาถึงห้องท้องพระโรง “ เจ้าชายโกเมศเป็นห่วงหลานมาก ไม่ยอมกลับมรกตนครเลย ย่าก็กลัวท้าววิจิเดชจะยกทัพมาถล่มเมืองเราเสียแล้ว” ตอนท้ายพระนางพูดด้วยเสียงกลั้วหัวเราะ ทำให้รู้ว่านางไม่ได้จริงจังนัก
“ เสด็จพ่อไม่ทรงทำอย่างนั้นหรอกพระเจ้าค่ะ” โกเมศว่า “ พระองค์ทรงเห็นด้วยเสียอีกที่หม่อมฉันมาอยู่ที่นี่ จะได้เชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างตระกูลเอราปถกับตระกูลกัณหาโคตมะ เจ้าพี่ไกวัลก็ได้ทรงอภิเษกกับเจ้าหญิงแห่งตระกูลฉัพพยาปุตตะแล้ว ทั้งคู่เหมาะสมกันราวกับกิ่งทองใบหยก เสด็จพ่อมีความสัมพันธ์ที่แนบแน่นกับตระกูลนาครุ้งแล้ว ก็อยากมีความสัมพันธ์กับตระกูลพระองค์บ้าง หวังว่าพระองค์จะไม่ขัดข้องนะพระเจ้าค่ะ”
อัปสรายิ้มที่มุมปาก นางเข้าใจความหมายแฝงของเจ้าชายนาคองค์นี้ดี การเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่าง2ตระกูลมีอยู่แค่ไม่กี่วิธีเท่านั้นและวิธีที่นิยมที่สุดคือการแต่งงาน นางมีชีวิตอยู่บนโลกนี้มานาน มีหรือจะไม่เข้าใจกลอุบายตื้นๆเช่นนี้ การแต่งงานระหว่างเพศเดียวกันในโลกมนุษย์ อาจถือเป็นหายนะของเผ่าพันธุ์ เพราะมนุษย์ไม่อาจจะสืบเผ่าพันธุ์กับเพศเดียวกันได้ แต่กับนาคอย่างพวกนางแล้ว สามารถจะมีทายาทได้ โดยทายาทนั้นอาจเกิดแบบจากไคล หรือเป็นแบบโอปปาติกะ นาตระกูลเอราปถส่วนใหญ่จะถือกำเนิดจากไคล ส่วนตระกูลวิรูปักษ์จะถือกำเนิดแบบโอปปาติกะ
“ ข้าไม่ขัดข้อง” นางพูดยิ้มๆ “ แต่เรื่องของใคร ใครก็ต้องจัดการเอง” และนางก็หันมาหาหลานชาย “ เจ้าคิดเห็นอย่างไรเล่า เต็มใจจะเชื่อมสัมพันธ์ไมตรีกับโกเมศหรือไม่”
เซเวอร์รัสไม่เข้าใจความหมายของการเชื่อมสัมพันธ์ไมตรีนัก เขาคิดว่าหมายถึงการเป็นเพื่อนกันธรรมดา เขาจึงตอบตกลง “ ยินดียิ่งพระเจ้าค่ะ”
“ ดีเลย” ราชินีตบมือ “ งั้นเจ้าชายโกเมศจงส่งสารไปหาพระบิดาเพื่อให้ทรงจัดการเรื่องนี้เถอะ”
โกเมศโค้งคำนับ ก่อนจะเดินออกไป ยิ้มกริ่มกับตัวเอง แผนการสำเร็จ
“ แค่จะเป็นเพื่อนกัน ทำไมต้องบอกราชาตระกูลเอราปถด้วยล่ะพระเจ้าค่ะ” เซเวอร์รัสถามอย่างสงสัย นี่เป็นหนึ่งในประเพณีของนาคหรือเปล่า
“ ใครบอกว่าจะเป็นเพื่อนกัน” ย่าของเขาพูด “ การเชื่อมสัมพันธไมตรี คือ การแต่งงานต่างหาก และราชาวิจิเดชก็ต้องยกขบวนมาสู่ขอเจ้า”
เซเวอร์รัสหน้าซีด อ้าปากค้าง เมื่อตั้งสติได้ เขาก็ถามว่า “ ทำไมหม่อมฉันต้องเป็นฝ่ายถูกสู่ขอด้วยล่ะพระเจ้าค่ะ”
“ ใครจะเป็นภรรยาก็ต้องเป็นฝ่ายถูกสู่ขอ” ราชินีตอบสบายๆ ขณะที่หลานชายของนางอ้าปากพะงาบๆเหมือนปลาทองที่อยู่บนบก
“ หม่อมฉันเป็นผู้ชายนะพระเจ้าค่ะ จะเป็นภรรยาได้อย่างไร” เขาพูด หน้าแดงก่ำ เพราะความอายหรือความโกรธก็ไม่รู้แน่
“ อรชรอ้อนแอ้นอย่างเจ้าไปเป็นสามีไม่ได้หรอก” อัปสราพูดเสียงกลั้วหัวเราะ “ ย่าอยู่มานาน เห็นโลกมามาก โกเมศจะดูแลเจ้าอย่างดี แต่ถ้าเจ้าไม่ต้องการ เจ้าก็มีสิทธิ์ที่จะปฎิเสธ”
เซเวอร์รัสไม่พูดอะไรสักคำ เขาไม่ยอมรับ แต่ก็ไม่ปฏิเสธ เขาไม่ได้รังเกียจโกเมศ ในใจลึกๆก็รู้สึกว่านาคหนุ่มเป็นผู้ที่เขาใฝ่ฝันหา แต่เขาก็เขินอายเกินกว่าจะพูดออกมา.
“ ย่าจะให้เวลาเจ้าคิด” อัปสราพูด “ นาคอย่างเราไม่รังเกียจการแต่งงานกับเพศเดียวกัน เจ้าอยู่สังคมมนุษย์มานาน อาจจะเห็นว่าเรื่องนี้ผิดธรรมชาติ แต่เจ้าจงทำตามหัวใจตัวเองเถิด ถ้าเจ้าอยากแต่ง อะไรก็ขวางเจ้าไม่ได้ แต่หากไม่อยากก็ไม่มีใครบังคับเช่นกัน”
“ หม่อมฉันขอไปทบทวนดูก่อน” เซเวอร์รัสพูดออกมาได้ในที่สุด การที่เขาไม่ปฏิเสธทันทีนั้นทำให้เขารู้ว่าเขาก็รู้สึกอะไรบางอย่างกับโกเมศเช่นกัน แต่ความรู้สึกนี้จะรุนแรงพอที่ทำให้เขาอยากแต่งงานกับนาคหนุ่มหรือไม่ เป็นเรื่องที่ต้องคิดให้รอบคอบ เขาโค้งคำนับก่อนจะเข้าไปในห้องนอนของตัวเอง เฮ้อ มีเรื่องให้ปวดหัวอีกแล้ว
Talk เข้าทางผู้ใหญ่เนี่ยมันดีจริงๆ โกเมศฟันธง มีเสด็จย่าช่วยเชียร์ ไม่นานเซเวอร์รัสก็ต้องใจอ่อน
Talk 2 แต่โกเมศ แกจะหึงตัวเองไม่ได้
ต่อ
วันรุ่งขึ้น ชลพาเซไวลินมาส่ง ก่อนจะขอตัวกลับมรกตนคร โกเมศสนิทกับเซไวลินจริงอย่างว่า ทั้งสามไปไหนมาไหนด้วยกันเสมอ เซเวอร์รัสอดคิดไม่ได้ว่าเหมือนพ่อแม่ลูกชอบกล เซไวลินมักจะอ้อนให้เซเวอร์รัสไปเที่ยวด้วยกัน และต้องพาโกเมศไปด้วย เจ้าชายนาคดำเริ่มคิดจริงๆแล้วว่าต้องเป็นแผนการของโกเมศแน่ๆ เพราะแม้เซไวลินจะเป็นคนอ้อนวอนให้พาไปเที่ยว แต่พอถึงจุดหนึ่งก็หายตัวไปทุกที ทิ้งให้เขาอยู่กับโกเมศ2คน
“ หายไปไหนอีกแล้ว” เซเวอร์รัสบ่น พยายามเหลียวหาเจ้าลูกชายตัวแสบ
ตอนนี้พวกเขาอยู่ที่สระบัวที่สวยงามมาก สระบัวเดียวกับที่เขาเจอโกเมศครั้งแรกนั่นแหละ แต่พอเขาเผลอชื่นชมความงามของบัวนิดเดียว เซไวลินก็หายไปเสียแล้ว อาจจะแปลงร่างเป็นอย่างอื่นก็ได้ เซไวลินเกิดในน้ำนี่นา อาจจะอยู่ในสระบัวก็ได้
“ ไม่ต้องไปสนใจหรอก” โกเมศยิ้มกริ่ม แหงล่ะก็ตัวเองเป็นคนวางแผนนี่ ไม่รู้ติดสินบนเซไวลินไปเท่าไหร่ถึงยอมขายพ่อตัวเองอย่างนี้
ตอนนี้ทั้งคู่กำลังนั่งอยู่ริมสระบัว ชมดอกบัวที่บ้างบาน บ้างหุบ อย่างน้อยๆเซเวอร์รัสก็ชมดอกบัว ขณะที่โกเมศจ้องเขาไม่วางตา
“ จ้องอะไรนักหนาเล่า” เซเวอร์รัสว่า “ ดูบัวสิ สวยจะตาย”
“ ไม่สวยเท่านาย” โกเมศหยอด นาคตนนี้ปากหวานจริงๆ ไม่รู้ไปสรรหาคำพูดพวกนี้มาจากไหน
“ บ้า” เซเวอร์รัสดุอย่างไม่จริงจังนัก ตั้งแต่โกเมศไปอ้อนให้พ่อส่งสารมาสู่ขอเขาได้และย่าเขาไม่ได้ปฎิเสธ เพียงแต่บอกว่าถ้าเขาจีบเซเวอร์รัสติดได้เมื่อไหร่ก็จะจัดงานให้เมื่อนั้น โกเมศก็รุกจีบเขาเสียหลือเกิน และเขากล้าเอาชีวิตเป็นเดิมพันเลยว่าเจ้าหมอนี่ต้องแอบติดสินบนเสด็จย่าเขาแหงๆ มีอย่างที่ไหนได้มานอนห้องเดียวกับเขาอย่างนี้
“ ห้องในวังมันไม่พอ แบ่งๆกันนอนกับเจ้าชายโกเมศไม่เห็นเป็นไรเลย ยังไงก็จะเป็นครอบครัวเดียวกันอยู่แล้ว” นี่เป็นเหตุผลที่เสด็จย่าให้เขา โธ่ ไปหลอกเด็ก5ขวบยังไม่มีใครเชื่อเลย วังออกจะกว้างขวางใหญ่โตจะไม่มีห้องได้ยังไง
“ ไม่คิดจะพูดอะไรนอกจากคำว่าบ้าแล้วเหรอ” เสียงของโกเมศปลุกเขาให้ตื่นจากภวังค์
“ คำว่าอะไรล่ะ” เซเวอร์รัสถาม ในใจก็รู้ว่าต้องมีมุกเสี่ยวอีกแหงๆ
“ คำว่ารัก” โกเมศพูด นั่นไง ถ้าเขาพนันก็คงได้หลายตังค์ไปแล้ว
“ ฝัน” เซเวอร์รัสตอบ นาคอย่างเขาไม่ยอมพูดคำว่ารักกับใครง่ายๆหรอก รอไปก่อนก็แล้วกัน
“ ใจอ่อนสักทีเถอะน่า เซเวอร์รัส” พูดไม่พูดเปล่า ยังเอามือมาจับต้นขาของเขาเสียด้วย อย่าได้เลื่อนขึ้นไปมากกว่านี้เชียวนะ ไม่งั้นอย่าหาว่าไม่เตือน “ จีบมาตั้งหลายอาทิตย์แล้วนะ”
“ จีบให้ครบปีก่อนแล้วค่อยมาพูด” เซเวอร์รัสว่า “ ถ้ารีบก็ไปหานาคตนอื่น หนุ่มๆ สาวๆ หน้าตาดีเยอะแยะ ไม่ต้องมารอ”
“ โธ่ เซเวอร์รัส ถ้าฉันจะหานาคตนอื่นก็หาไปตั้งนานแล้ว แต่นี่ไม่อยากหา ฉันจะรอนาย ปีหนึ่งก็จะรอ” โกเมศยังคงหยอดต่อไป แหม ถ้าเซเวอร์รัสเป็นผู้หญิงคงอายม้วนไปแล้ว
“ งั้นรอไปอีกสักร้อยปีก็แล้วกัน” เซเวอร์รัสพูด “ แล้วมือน่ะเลิกจับได้แล้ว นี่เป็นนาคหรือปลาหมึกกันแน่ รุ่มร่ามจริง”
โกเมศครางออกมา แหมรอได้ แต่ไม่ได้อยากรอนานขนาดนั้นเสียหน่อย เขาไม่ได้เข้าข้างตัวเองนะ ใครๆก็บอกว่าเซเวอร์รัสมีใจให้เขาเช่นกัน
“ ถ้าเจ้าชายไม่มีพระทัยให้พระองค์เลย ก็คงจะทรงปฏิเสธหนักแน่นกว่านี้ หม่อมฉันติดตามเจ้าชายมาตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์ เจ้าชายไม่เคยยอมทรงให้ใครหยอกล้อกับพระองค์ขนาดนี้เลยนะพระเจ้าค่ะ” นี่เป็นความคิดเห็นของนที
“ ศรีวาเรศอยู่เมืองมนุษย์มานาน คงเห็นความสัมพันธ์ระหว่างเพศเดียวกันเป็นเรื่องน่าอาย ข้ามีชีวิตอยู่มาหลายร้อยปี ดูออกหรอกน่าว่าเวลานาคเด็กๆมีความรักจะเป็นยังไง” นี่เป็นความคิดของราชินีอัปสรา
“ เวลาโกเมศไม่อยู่นะ พ่อมองหาอยู่เรื่อย ถึงจะบอกว่าไม่ได้หาก็เถอะ แต่ผมน่ะรู้ดี เชื่อผมนะโกเมศ ผมอยากให้โกเมศเป็นพ่อผมอีกคน เดี๋ยวผมจะช่วยเชียร์เอง พ่อน่ะปากแข็ง” นี่เป็นความคิดเห็นของเซไวลิน
เห็นไหม ใครๆก็ดูออกกันทั้งนั้นว่าเซเวอร์รัสมีใจให้เขา แต่เจ้าตัวน่ะปากแข็งไม่ยอมรับเสียที เอ๋ ว่าแต่ปากแข็งจริงหรือเปล่านะ ชักจะอยากพิสูจน์แล้วสิ ไวเท่าความคิด เขาจับหน้าเซเวอร์รัสให้หันมาหาเขา และใช้ปากเเตะปาก แหม ไม่เห็นจะแข็งเลย นุ่มออกจะตายไป เขาใช้ลิ้นกวาดไปทั่วปาก ตั้งใจจะชิมให้หมด หวานเหลือเกิน หวานอย่างไม่มีอะไรเปรียบ เซเวอร์รัสผลักเขาเบาๆทีหนึ่ง และเขาก็ถอนริมฝีปากออกอย่างนึกเสียดาย
“ ทำบ้าอะไรของนาย” เซเวอร์รัสดุ หน้าแดงก่ำ “ ใครอนุญาตให้จูบ”
“ ไม่อนุญาต แต่ไม่ปฏิเสธใช่ไหมล่ะ” โกเมศล้อ “ จูบตอบฉันด้วยนี่ เคลิ้มเลยล่ะสิ”
“ ฉันไม่อยู่กับนายแล้ว” เซเวอร์รัสลุกขึ้นยืน ก่อนจะเดินจากไป
โกเมศตะโกนไล่หลัง “ เขินแล้วอย่าหนีสิ”
**
เซเวอร์รัสมาถึงวัง ก็พบว่าชลอยู่คู่กับหญิงสาวคนหนึ่งที่เขาไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน
“ ถวายพระพร พระเจ้าค่ะ/เพคะ” ทั้งคู่พูดพร้อมกัน
“ เจ้าชาย” ชลว่า “ คนรักของหม่อมฉันมีอะไรจะกราบทูลพระเจ้าค่ะ”
เซเวอร์รัสหันไปมองหญิงสาว เธอสวยมาก แต่ดวงตาดูเศร้าโศก
“ หม่อมฉันอยากจะขอพระราชทานอภัยเจ้าชายเพคะ” เธอพูด
เซเวอร์รัสสับสน เขามั่นใจว่าไม่เคยรู้จักเธอมาก่อน เธอจะขอให้เขาให้อภัยเรื่องอะไรกัน
“ หม่อมฉันเคยทำร้ายเจ้าชายเพคะ” หญิงสาวอธิบาย “ หม่อมฉันคืองูตัวนั้น งูที่อยู่เคียงข้างโวลเดอมอร์”
เซเวอร์รัสอ้าปากค้าง เขาคิดไม่ถึงเลยว่านากินีจะเป็นนาค ชลดูเหมือนจะรู้ทันความคิดของเขา
“ นากินีไม่ใช่นาคหรอกพระเจ้าค่ะ นางเป็นมนุษย์ที่ต้องคำสาปทางสายเลือดให้ต้องกลายเป็นงู ช่วงแรกๆนางยังควบคุมร่างงูของตัวเองและเปลี่ยนร่างกลับเป็นมนุษย์ได้ แต่พอเวลาผ่านไปนางก็ควบคุมตัวเองไม่ได้อีก จนกระทั่งมนุษย์น่ารังเกียจผู้นั้นนำนางไปเป็นสัตว์เลี้ยงและยังเอาเศษเสี้ยววิญญาณที่น่าขยะแขยงของมันใส่ในตัวนาง นางทำอะไรหลายๆอย่างในร่างงูที่หากนางยังมีสติอยู่ย่อมไม่ทำ หม่อมฉันไปค้นหายาและช่วยให้นางพ้นจากคำสาปพระเจ้าค่ะ หม่อมฉันพยายามบอกนางว่าสิ่งที่นางทำไปตอนอยู่ในร่างงู ไม่ใช่ความผิดของนาง แต่นางก็ยังรู้สึกผิดอยู่ดี นางจึงมาขอพระราชทานอภัยโทษจากพระองค์พระเจ้าค่ะ”
เซเวอร์รัสพูดอะไรไม่ออก งูตัวนั้น งูใหญ่น่าเกลียดตัวนั้น กลับเป็นหญิงสาวที่มีชะตาชีวิตอาภัพนัก
“ ไม่เป็นไร” เขาสำลักคำพูดออกมา “ ฉันไม่ถือโกรธหรอก แล้วก็ ขอให้รักกันนานๆนะ เธอกับชลน่ะ”
“ ขอบพระทัยเพคะ” นากินีพูดอย่างสำนึกบุญคุณ” พระองค์ก็เช่นกันนะเพคะ รักกับเจ้าชายโกเมศนานๆ”
เซเวอร์รัสอ้าปากค้าง โกเมศมันติดสินบนทั่วเมืองบาดาลเลยหรือไง
Talk เขินแล้วเดินหนีมันไม่ดีนะ มาคุยกันให้รู้เรื่องก่อน
ความคิดเห็น