ลำดับตอนที่ #36
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #36 : special เมื่อเรกูลัสเจอเซเวอร์รัสครั้งแรก
ผมเป็นลูกชายคนเล็กของตระกูลแบล็ค คนส่วนใหญ่พูดกันว่าลูกคนเล็กจะถูกตามใจมากที่สุด แต่ผมเป็นลูกที่ตามใจพ่อแม่มากที่สุดต่างหาก ปีนี้ผมจะเข้าเรียนฮอกวอตส์ พ่อแม่บอกผมว่าผมต้องเข้าบ้านสลิธีริน
“ แกอย่าได้บังอาจเอาอย่างพี่ที่ไม่เอาไหนของแกเด็ดขาด” แม่พูดกรอกหูผมทุกวัน
ความลับอย่างหนึ่งที่ผมไม่เคยบอกพ่อกับแม่คือผมคิดว่าซิเรียสน่ะเท่สุดยอด เขาเป็นพี่ชายที่เจ๋งสุดๆ ผมอยากทำตัวกบฎแบบเขาได้บ้าง แต่ผมไม่เคยกล้าพอ ผมไม่กล้าแม้แต่เถียงพ่อกับแม่ด้วยซ้ำ ผมลังเลระหว่างการที่จะเป็นขบถเท่ๆแบบซิเรียสกับเป็นเด็กดีน่ารักของพ่อแม่ต่อไป
ผมนั่งอยู่บนแป้นสูง หมวกคัดสรรวางบนหัว เสียงแหบห้าวดังขึ้นในใจผม “ แบล็คอีกคนแล้วรึ ดูกล้าหาญอยู่นะ แต่ก็เจ้าเล่ห์ เอาล่ะหนูน้อย เธออยากอยู่บ้านไหน อยากจะต่อต้านพ่อแม่เหมือนพี่ของเธอหรือเปล่า”
ผมไม่กล้าพอ ผมคิดว่าถ้าผมอยู่กริฟฟินดอร์อาจทำให้ผมเท่ขึ้นบ้างในสายตาของซิเรียส เขาจะได้เลิกเรียกผมว่าหนูน้อยเรกกี้ ลูกรักของแม่จ๋า แต่ผมไม่กล้าพอ ผมทรยศตระกูลไม่ได้ ผมจะอยู่สลิธีริน
หมวกคัดสรรตะโกนเสียงดังว่าสลิธีริน ผมถอดหมวกคัดสรรให้ศาสตราจารย์มักกอนนากัล ผมเดินไปที่โต๊ะสลิธีรินที่โห่ร้องต้อนรับผม ผมไม่กล้ามองซิเรียส เขาคงคิดว่าผมขี้ขลาด นาร์ซิสซ่าอยู่ที่นั่น เธอยังดูสดใสเหมือนเดิม เธอโบกมือให้ผมนั่งระหว่างเธอกับเด็กผู้ชายคนหนึ่ง
“ ยินดีที่ได้อยู่สลิธีรินนะ เรก” เธอทักทาย
ผมยิ้มรับ ก่อนจะหันเหความสนใจไปทึ่เด็กผู้ชายคนนั้น เขาดูไม่เข้าพวกอย่างยิ่ง ผมของเขายาวเกินไป ดูไม่เหมือนผมของเด็กผู้ชายเลย ผมของเขามันเกินไป ผิวของเขาซีดเซียวและตัวผอมกระหร่อง แต่ดวงตาของเขาต่างหากที่น่าค้นหา แววตาของเขาเหมือนอุโมงค์ที่มืดสนิท ดูลึกลับ แต่ผมสังเกตว่าไม่มีใครคุยกับเขา เขาเหมือนเงาร่างที่ถูกเมิน นาร์ซิสซ่าดูเหมือนจะสังเกตว่าผมมองเขาอยู่
“โอ้ ฉันลืมไปเลย เซเวอร์รัส นี่เรกูลัส แบล็ค ญาติของฉัน ส่วนเรกูลัส นี่เซเวอร์รัส สเนป เขาอยู่ปี2 เขาเป็นรุ่นน้องคนสนิทของลูเซียสและของฉันด้วย”
“ เขาไม่ใช่เลือดบริสุทธิ์นี่” ผมพูด เป็นไปตามความเคยชินมากกว่าจะตั้งใจดูถูก ตระกูลสเนปไม่ได้อยู่ในตระกูลเลือดบริสุทธิ์ศักดิ์สิทธิ์แน่ๆ อันที่จริงผมจำไม่ได้เลยด้วยซ้ำว่ามีคนตระกูลสเนปที่เป็นพ่อมดแม่มดด้วย
นาร์ซิสซ่าอ้าปากจะพูด แต่ถูกขัดเสียก่อน
“ แน่นอน คุณชายแบล็ค เขาไม่ใช่เลือดบริสุทธิ์” เด็กหนุ่มคนหนึ่งพูด “ เป็นเลือดผสมโสโครกที่เก่งเรื่องการประจบประแจงเท่านั้น”
“ นายเป็นใคร” ผมถาม รู้สึกไม่ชอบใจเจ้าหมอนี่เอาเสียเลย ผมจะไม่คบกับเขาแน่ๆ ต่อให้เขาเป็นลูกหลานเมอร์ลินก็เถอะ
“ รอย เอเวอร์รี่” เขาพูด ยืดตัวขึ้นอย่างหยิ่งยโส ยื่นมือข้างหนึ่งมาให้ผม “ ยินดีที่ได้รู้จักคุณชายแบล็ค”
ผมยื่นมือไป ทำท่าจะจับ แต่กลับปัดมือของเขาทิ้ง “ ฉันไม่อยากคบกับนายหรอก”
รอยยิ้มหายไปจากใบหน้าของเขา เขาพูดด้วยเสียงต่ำอย่างอันตราย “ นายกำลังจะเลือกคบเพื่อนผิดๆ แบล็ค”
“ ฉันแยกแยะคนที่ฉันจะคบเองได้ ขอบใจ” ผมพูดอย่างเย็นชา
“ จะคบกับไอ้เศษสวะนี่น่ะนะ” เขาชี้ไปที่เซเวอร์รัสอย่างดูถูก “ มันจนขนาดที่ไม่มีเงินซื้อหนังสือเรียน เป็นเศษสวะขนาดแม่มันยังไม่เอาเลย ไม่มีเพื่อนสักคน มีแค่ยัยเลือดสีโคลนตัวหนึ่งที่สมเพชมันเลยยอมคบด้วย”
“ หุบปาก” เซเวอร์รัสตะโกน กำหมัดแน่น
“ ทำไม” รอยลอยหน้าลอยตา “ แกอย่าลืมนะว่าฉันสนิทกับอดีตอาเขยของฉันมาก เขาตามใจฉันมาตลอด”
ผมไม่เข้าใจว่าทำไมเขาต้องอวดว่าสนิทกับอาของตัวเองด้วยหรือเขาต้องการเยาะเย้ยว่าเซเวอร์รัสไม่มีญาติพี่น้อง แต่เซเวอร์รัสดูเหมือนจะเข้าใจ พวกเขาพูดกันเป็นรหัสลับหรือไงนะ
“ ฉันขอโทษ” เซเวอร์รัสกัดฟันพูด
“ อย่าให้มีอีกก็แล้วกัน” รอยว่า วางท่าเป็นคนใหญ่คนโต
ผมคิดว่าถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนเรื่องคุยแล้ว ผมยื่นมือไปให้เซเวอร์รัส “ ฉันเรกูลัส แบล็ค ยินดีที่ได้รู้จัก”
เซเวอร์รัสมองผมอย่างหวาดระแวง ไม่ไว้ใจ “ นายเป็นอะไรกับซิเรียส แบล็ค”
“ เขาเป็นพี่ชายฉันเอง” ผมพูดอย่างภูมิใจ “ เขาน่ะเท่สุดๆ เป็นตัวตลกสุดเจ๋งเลยแหละ”
ดูเหมือนผมจะพูดอะไรผิดไปแน่ๆ เพราะเซเวอร์รัสเปลี่ยนจากแววตาหวาดระแวงเป็นแววตาเกลียดชัง “ พี่น้องก็เหมือนกัน เห็นความทุกข์ของคนอื่นเป็นเรื่องตลก” เขาพูด
ผมตกใจมาก ผมรู้ว่าซิเรียสมีอารมณ์ขันแบบกวนประสาท แต่ผมไม่คิดว่าเขาจะเห็นความทุกข์ของคนอื่นเป็นเรื่องตลกหรือที่ผมจากเขาไป1ปี นิสัยของเขาจะเปลี่ยนไป
“ ฉันไม่เป็นอย่างนั้นหรอก” ผมยืนยัน “ เรามาเป็นเพื่อนกันนะ”
“ เรกเป็นเด็กดีจริงๆ” นาร์ซิสซ่าช่วยพูดอีกแรง “ เขาไม่เหมือนซิเรียสหรอก เธอต้องมีเพื่อนบ้างนะ เซเวอร์รัส”
“ ผมมีลิลี่อยู่แล้ว” เซเวอร์รัสว่า
นาร์ซิสซ่าถอนหายใจ “ แต่ลิลี่อยู่คนละบ้านกับเธอและเขาก็เกิดจากมักเกิ้ล อย่าเข้าใจผิด ฉันไม่ได้หมายความในแง่ร้าย แต่เธอควรมีเส้นสายไว้ ยิ่งเยอะยิ่งดี ปีนี้ฉันจะจบแล้ว จะต้องมีใครสักคนมาให้พวกนั้นเกรงใจ และคนนั้นไมใช่เอฟเวนส์แน่”
“ ผมจะต้องหลบหลังคนอื่นไปตลอดชีวิตหรือไง” เซเวอร์รัสพูด “ ผมจะปกป้องตัวเองไม่ได้หรือไง”
“ เราจะปกป้องซึ่งกันและกัน เซเวอร์รัส” ผมพูดอย่างหนักแน่น “ นั่นไม่ใช่เป้าหมายของการเป็นเพื่อนกันหรือไง”
ดวงตาสีดำของเซเวอร์รัสสบกับดวงตาสีเทาของผม ผมรู้สึกเหมือนถูกเอ็กซเรย์ เหมือนกับเซเวอร์รัสกำลังจับผิดคำพูดของผม เขาพินิจใจได้หรือเปล่านะ แต่ผมไม่กลัวหรอก ถ้าเขาจะทำได้ ผมไม่ได้คิดร้ายกับเขาสักหน่อย
“ ต่อไปนี้เราเป็นเพื่อนกัน” เซเวอร์รัสพูดในที่สุด เขายื่นมือมาจับมือผมและเขย่า “ และคนอย่างเซเวอร์รัส สเนป เมื่อเป็นเพื่อนกับใครแล้วก็จะเป็นตลอดไป”
ผมพยักหน้า "ฉันเองก็เหมือนกัน” ต่อมาผมผิดคำสัญญานี้ ผมไม่อาจเป็นเพื่อนกับเซเวอร์รัสได้จริงๆ ไม่อาจจะเป็นแค่เพื่อนได้จริงๆ
Talk ต่อไปเอาตอนพิเศษอะไรกันดีเอ่ย
“ แกอย่าได้บังอาจเอาอย่างพี่ที่ไม่เอาไหนของแกเด็ดขาด” แม่พูดกรอกหูผมทุกวัน
ความลับอย่างหนึ่งที่ผมไม่เคยบอกพ่อกับแม่คือผมคิดว่าซิเรียสน่ะเท่สุดยอด เขาเป็นพี่ชายที่เจ๋งสุดๆ ผมอยากทำตัวกบฎแบบเขาได้บ้าง แต่ผมไม่เคยกล้าพอ ผมไม่กล้าแม้แต่เถียงพ่อกับแม่ด้วยซ้ำ ผมลังเลระหว่างการที่จะเป็นขบถเท่ๆแบบซิเรียสกับเป็นเด็กดีน่ารักของพ่อแม่ต่อไป
ผมนั่งอยู่บนแป้นสูง หมวกคัดสรรวางบนหัว เสียงแหบห้าวดังขึ้นในใจผม “ แบล็คอีกคนแล้วรึ ดูกล้าหาญอยู่นะ แต่ก็เจ้าเล่ห์ เอาล่ะหนูน้อย เธออยากอยู่บ้านไหน อยากจะต่อต้านพ่อแม่เหมือนพี่ของเธอหรือเปล่า”
ผมไม่กล้าพอ ผมคิดว่าถ้าผมอยู่กริฟฟินดอร์อาจทำให้ผมเท่ขึ้นบ้างในสายตาของซิเรียส เขาจะได้เลิกเรียกผมว่าหนูน้อยเรกกี้ ลูกรักของแม่จ๋า แต่ผมไม่กล้าพอ ผมทรยศตระกูลไม่ได้ ผมจะอยู่สลิธีริน
หมวกคัดสรรตะโกนเสียงดังว่าสลิธีริน ผมถอดหมวกคัดสรรให้ศาสตราจารย์มักกอนนากัล ผมเดินไปที่โต๊ะสลิธีรินที่โห่ร้องต้อนรับผม ผมไม่กล้ามองซิเรียส เขาคงคิดว่าผมขี้ขลาด นาร์ซิสซ่าอยู่ที่นั่น เธอยังดูสดใสเหมือนเดิม เธอโบกมือให้ผมนั่งระหว่างเธอกับเด็กผู้ชายคนหนึ่ง
“ ยินดีที่ได้อยู่สลิธีรินนะ เรก” เธอทักทาย
ผมยิ้มรับ ก่อนจะหันเหความสนใจไปทึ่เด็กผู้ชายคนนั้น เขาดูไม่เข้าพวกอย่างยิ่ง ผมของเขายาวเกินไป ดูไม่เหมือนผมของเด็กผู้ชายเลย ผมของเขามันเกินไป ผิวของเขาซีดเซียวและตัวผอมกระหร่อง แต่ดวงตาของเขาต่างหากที่น่าค้นหา แววตาของเขาเหมือนอุโมงค์ที่มืดสนิท ดูลึกลับ แต่ผมสังเกตว่าไม่มีใครคุยกับเขา เขาเหมือนเงาร่างที่ถูกเมิน นาร์ซิสซ่าดูเหมือนจะสังเกตว่าผมมองเขาอยู่
“โอ้ ฉันลืมไปเลย เซเวอร์รัส นี่เรกูลัส แบล็ค ญาติของฉัน ส่วนเรกูลัส นี่เซเวอร์รัส สเนป เขาอยู่ปี2 เขาเป็นรุ่นน้องคนสนิทของลูเซียสและของฉันด้วย”
“ เขาไม่ใช่เลือดบริสุทธิ์นี่” ผมพูด เป็นไปตามความเคยชินมากกว่าจะตั้งใจดูถูก ตระกูลสเนปไม่ได้อยู่ในตระกูลเลือดบริสุทธิ์ศักดิ์สิทธิ์แน่ๆ อันที่จริงผมจำไม่ได้เลยด้วยซ้ำว่ามีคนตระกูลสเนปที่เป็นพ่อมดแม่มดด้วย
นาร์ซิสซ่าอ้าปากจะพูด แต่ถูกขัดเสียก่อน
“ แน่นอน คุณชายแบล็ค เขาไม่ใช่เลือดบริสุทธิ์” เด็กหนุ่มคนหนึ่งพูด “ เป็นเลือดผสมโสโครกที่เก่งเรื่องการประจบประแจงเท่านั้น”
“ นายเป็นใคร” ผมถาม รู้สึกไม่ชอบใจเจ้าหมอนี่เอาเสียเลย ผมจะไม่คบกับเขาแน่ๆ ต่อให้เขาเป็นลูกหลานเมอร์ลินก็เถอะ
“ รอย เอเวอร์รี่” เขาพูด ยืดตัวขึ้นอย่างหยิ่งยโส ยื่นมือข้างหนึ่งมาให้ผม “ ยินดีที่ได้รู้จักคุณชายแบล็ค”
ผมยื่นมือไป ทำท่าจะจับ แต่กลับปัดมือของเขาทิ้ง “ ฉันไม่อยากคบกับนายหรอก”
รอยยิ้มหายไปจากใบหน้าของเขา เขาพูดด้วยเสียงต่ำอย่างอันตราย “ นายกำลังจะเลือกคบเพื่อนผิดๆ แบล็ค”
“ ฉันแยกแยะคนที่ฉันจะคบเองได้ ขอบใจ” ผมพูดอย่างเย็นชา
“ จะคบกับไอ้เศษสวะนี่น่ะนะ” เขาชี้ไปที่เซเวอร์รัสอย่างดูถูก “ มันจนขนาดที่ไม่มีเงินซื้อหนังสือเรียน เป็นเศษสวะขนาดแม่มันยังไม่เอาเลย ไม่มีเพื่อนสักคน มีแค่ยัยเลือดสีโคลนตัวหนึ่งที่สมเพชมันเลยยอมคบด้วย”
“ หุบปาก” เซเวอร์รัสตะโกน กำหมัดแน่น
“ ทำไม” รอยลอยหน้าลอยตา “ แกอย่าลืมนะว่าฉันสนิทกับอดีตอาเขยของฉันมาก เขาตามใจฉันมาตลอด”
ผมไม่เข้าใจว่าทำไมเขาต้องอวดว่าสนิทกับอาของตัวเองด้วยหรือเขาต้องการเยาะเย้ยว่าเซเวอร์รัสไม่มีญาติพี่น้อง แต่เซเวอร์รัสดูเหมือนจะเข้าใจ พวกเขาพูดกันเป็นรหัสลับหรือไงนะ
“ ฉันขอโทษ” เซเวอร์รัสกัดฟันพูด
“ อย่าให้มีอีกก็แล้วกัน” รอยว่า วางท่าเป็นคนใหญ่คนโต
ผมคิดว่าถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนเรื่องคุยแล้ว ผมยื่นมือไปให้เซเวอร์รัส “ ฉันเรกูลัส แบล็ค ยินดีที่ได้รู้จัก”
เซเวอร์รัสมองผมอย่างหวาดระแวง ไม่ไว้ใจ “ นายเป็นอะไรกับซิเรียส แบล็ค”
“ เขาเป็นพี่ชายฉันเอง” ผมพูดอย่างภูมิใจ “ เขาน่ะเท่สุดๆ เป็นตัวตลกสุดเจ๋งเลยแหละ”
ดูเหมือนผมจะพูดอะไรผิดไปแน่ๆ เพราะเซเวอร์รัสเปลี่ยนจากแววตาหวาดระแวงเป็นแววตาเกลียดชัง “ พี่น้องก็เหมือนกัน เห็นความทุกข์ของคนอื่นเป็นเรื่องตลก” เขาพูด
ผมตกใจมาก ผมรู้ว่าซิเรียสมีอารมณ์ขันแบบกวนประสาท แต่ผมไม่คิดว่าเขาจะเห็นความทุกข์ของคนอื่นเป็นเรื่องตลกหรือที่ผมจากเขาไป1ปี นิสัยของเขาจะเปลี่ยนไป
“ ฉันไม่เป็นอย่างนั้นหรอก” ผมยืนยัน “ เรามาเป็นเพื่อนกันนะ”
“ เรกเป็นเด็กดีจริงๆ” นาร์ซิสซ่าช่วยพูดอีกแรง “ เขาไม่เหมือนซิเรียสหรอก เธอต้องมีเพื่อนบ้างนะ เซเวอร์รัส”
“ ผมมีลิลี่อยู่แล้ว” เซเวอร์รัสว่า
นาร์ซิสซ่าถอนหายใจ “ แต่ลิลี่อยู่คนละบ้านกับเธอและเขาก็เกิดจากมักเกิ้ล อย่าเข้าใจผิด ฉันไม่ได้หมายความในแง่ร้าย แต่เธอควรมีเส้นสายไว้ ยิ่งเยอะยิ่งดี ปีนี้ฉันจะจบแล้ว จะต้องมีใครสักคนมาให้พวกนั้นเกรงใจ และคนนั้นไมใช่เอฟเวนส์แน่”
“ ผมจะต้องหลบหลังคนอื่นไปตลอดชีวิตหรือไง” เซเวอร์รัสพูด “ ผมจะปกป้องตัวเองไม่ได้หรือไง”
“ เราจะปกป้องซึ่งกันและกัน เซเวอร์รัส” ผมพูดอย่างหนักแน่น “ นั่นไม่ใช่เป้าหมายของการเป็นเพื่อนกันหรือไง”
ดวงตาสีดำของเซเวอร์รัสสบกับดวงตาสีเทาของผม ผมรู้สึกเหมือนถูกเอ็กซเรย์ เหมือนกับเซเวอร์รัสกำลังจับผิดคำพูดของผม เขาพินิจใจได้หรือเปล่านะ แต่ผมไม่กลัวหรอก ถ้าเขาจะทำได้ ผมไม่ได้คิดร้ายกับเขาสักหน่อย
“ ต่อไปนี้เราเป็นเพื่อนกัน” เซเวอร์รัสพูดในที่สุด เขายื่นมือมาจับมือผมและเขย่า “ และคนอย่างเซเวอร์รัส สเนป เมื่อเป็นเพื่อนกับใครแล้วก็จะเป็นตลอดไป”
ผมพยักหน้า "ฉันเองก็เหมือนกัน” ต่อมาผมผิดคำสัญญานี้ ผมไม่อาจเป็นเพื่อนกับเซเวอร์รัสได้จริงๆ ไม่อาจจะเป็นแค่เพื่อนได้จริงๆ
Talk ต่อไปเอาตอนพิเศษอะไรกันดีเอ่ย
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น