ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Snape The last prince สเนป เจ้าชายองค์สุดท้าย

    ลำดับตอนที่ #6 : 5

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.03K
      137
      12 เม.ย. 62

    26 มค1996

    วันนี้เป็นวันศุกร์แล้ว เซเวอร์รัสกลัววันพรุ่งนี้เหลือเกิน เด็กนักเรียนฮอกวอตส์จะปลอดภัยหรือไม่ขึ้นอยู่กับแผนการนี้อย่างเดียว เขาอ่านทบทวนจดหมายที่นทีเขียนมาเป็นภาษาอังกฤษและตรวจดูจดหมายที่เขาจะนำไปให้จอมมาร ภาษาพาร์เซลเป็นตัวอักษรที่ยึกยือเหมือนงูซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจนัก ในเมื่อมันเป็นภาษางู เขาทบทวนแผนการในใจอีกครั้งจนมั่นใจว่าจะทำได้ตามแผนและเขาค่อยไปจัดการงานอย่างอื่นต่อไป

    **********************************

    27 มค 1996

    เซเวอร์รัสรู้สึกเจ็บแปลบที่แขนซ้าย จอมมารเรียกเขาแล้ว เขารีบคว้ากรงงูที่ใส่ชลอยู่ ชลเป็นงูสีเขียว มีหงอนทอง และตาแดง ขนาดของชลใหญ่พอๆกับนากินี หากไม่ใหญ่กว่า ชลเป็นนาคที่ร่าเริงแจ่มใสและดูเหมือนจะไม่กลัวอะไรเลย สเนปรีบออกไปจากบริเวณฮอกวอตส์ ก่อนจะหายตัวไปในที่ที่จอมมารอยู่
    “มาแล้วหรือ เหล่าลูกน้องผู้จงรักภักดีของข้า” โวลเดอมอร์กล่าวทักทาย

     สถานที่นัดพบวันนี้เป็นคฤหาสน์หลังใหญ่ จอมมารนั่งอยู่บนเก้าอี้สูงตรงหัวโต๊ะใหญ่ในห้องรับแขกที่มีโคมไฟห้อยระย้า รอบๆโต๊ะมีผู้เสพความตายนั่งตามลำดับกันไป ข้างขวาของจอมมารคือเบลลาทริกซ์ เลสแสตรงค์ที่ดูพอใจในตัวเองอย่างมาก ส่วนด้านซ้ายของจอมมารว่างอยู่และดูเหมือนไม่มีใครคิดอยากจะนั่งตรงนั้น

    “มานั่งนี่ เซเวอร์รัส” โวลเดอมอร์กวักมือเรียก “ข้างๆข้า”
    เซเวอร์รัสเดินเข้าไปใกล้ มือยังคงถือกรงงูไว้
    "เจ้านำอะไรมา” จอมมารหรี่ตามองอย่างสงสัย
    สเนปคุกเข่าลง “นายท่าน สิ่งนี้เรียกว่าอากัวเซอร์เพนท์ หายากยิ่งนัก มันคู่ควรจะเป็นของนายท่าน” เขาพูด พลางยื่นกรงให้โวลเดอมอร์
    “ข้าไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อน” โวลเดอมอร์พูดอย่างระแวง “เจ้าไปนำมันมาจากไหน อีกอย่างข้าก็มีนากินีอยู่แล้ว”
    สเนปรีบหยิบจดหมายที่นทีเขียนเป็นภาษาพาร์เซลยื่นให้เจ้านาย “นายท่าน รายละเอียดของอากัวเซอร์เพนท์อยู่ในจดหมายฉบับนี้ มันเขียนด้วยภาษาที่ข้าไม่อาจจะเข้าใจ ข้ามีสติปัญญาโง่เขลานัก”
    โวลเดอมอร์กระชากจดหมายไปทันทีและเริ่มอ่าน ไม่นานก็มีรอยยิ้มพึงพอใจปรากฏอยู่บนใบหน้า “เยี่ยมจริงๆ เซเวอร์รัส เยี่ยมมาก” เขาเอ่ย “อากัวเซอร์เพนท์เป็นสัตว์วิเศษที่อยู่ในแถบเอเชีย พิษของมันสามารถเป็นยาบำรุงกำลังอย่างดี ทั้งมันยังสามารถดูดพลังเวทมนตร์ของผู้วิเศษและสิ่งมีชีวิตอื่นๆได้อีกด้วย ของหายากเช่นนี้ เจ้านำมาให้ข้า ไม่เสียดายหรอกหรือ”
    อาจารย์ปรุงยาแกล้งทำเป็นตกใจ “นายท่านพูดอะไรอย่างนั้น ของล้ำค่าเช่นนี้จะคู่ควรกับข้าได้อย่างไร มีแต่ท่านเท่านั้นที่สามารถใช้มันได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด”
    “เอาล่ะ เจ้าลุกขึ้นแล้วมานั่งบนเก้าอี้ได้แล้ว” จอมมารสั่ง
    สเนปทำตาม
    หลังจากนั้นก็เป็นการประชุม เซเวอร์รัสบอกข้อมูลของภาคีให้จอมมารและเหล่าผู้เสพความตายรับรู้ แน่ล่ะมันไม่ใช่ข้อมูลจริงๆหรอก เขามอบข้อมูลที่ดูเหมือนจะมีประโยชน์แต่ก็ปกปิดแก่นสำคัญของมันไว้ เขาใช้วิธีนี้เสมอมา ส่วนทางด้านชลกับนากินีก็พูดคุยกันด้วยภาษาพาร์เซลที่สเนปฟังไม่เข้าใจ
    “ดูเหมือนสัตว์เลี้ยงของข้าทั้งสองจะชอบพอกันเสียแล้ว” โวลเดอมอร์พูด “ลูกที่เกิดจากพวกมันจะมีพลังอำนาจยิ่งกว่างูตัวใดบนโลกนี้ พวกเจ้าจงระวังตัวไว้ให้ดี เพราะหากมีใครทำงานผิดพลาดอีก เจ้าอาจจะต้องเป็นอาหารบำรุงครรภ์ให้นากินี” ผู้เสพความตายหลายคนตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว
    การประชุมเลิกแล้ว เหล่าผู้เสพความตายต่างแยกย้ายกันไปรวมทั้งหางหนอนด้วย สเนปสบตากับชล พยายามบอกว่าให้ทำตามแผน ก่อนจะเดินออกไปจากคฤหาสน์
    “ช่วยด้วย” ปีเตอร์ร้องเสียงหลง เมื่อทันทีที่เขาพ้นจากคฤหาสน์ เจ้างูที่สเนปนำมาก็เลื้อยตามเขามาและมารัดเขาไว้เสียแน่น เขาพยายามดิ้นหนีแต่ก็ไม่อาจหลุดรอด เขาจึงแปลงกายเป็นหนู หวังจะหนี แต่ฉับพลันนั้นเอง เจ้างูยักษ์ก็แปลงเป็นแมวไล่กวด หางหนอนวิ่งวนไปมา
    “สตูเปฟาย” เสียงร่ายคาถาดังขึ้น หางหนอนซึ่งมัวแต่วิ่งหนีแมวอยู่ ไม่ทันมองจึงโดนคาถาเข้าอย่างจัง
    สเนปเสกกรงขึ้นมาแล้วนำหนูใส่เข้าไปในกรง ส่วนชลก็แปลงกายเป็นมนุษย์
    “สำเร็จแล้ว” สเนปพูดอย่างพึงใจ “ เธอทำได้เยี่ยมมาก ชล”
    ชลมีท่าทีปลาบปลื้ม “ด้วยความยินดีพระเจ้าค่ะ นากินีก็เป็นงูสาวที่งดงามเหลือเกิน ถือว่าครั้งนี้หม่อมฉันได้กำไรแล้วพระเจ้าค่ะ”
    เซเวอร์รัสคิดว่าเขาไม่แสดงความคิดเห็นอะไรเรื่องนี้จะดีกว่า
    “หม่อมฉันขอทูลลานะพระเจ้าค่ะ” ชลกราบก่อนจะหายวับไป
    **********************************
    นากินีกำลังเลื้อยอย่างงุ่นง่าน งูหนุ่มตัวนั้นช่างสง่างามเหลือเกิน เขามาพูดกับเธอด้วยคำอ่อนหวานที่ไม่ได้ยินมานานเต็มที นอกจากนี้เขายังสอนให้เธอสื่อสารโดยไม่ต้องออกเสียงออกมา
    “เผื่อเราจะคุยเรื่องส่วนตัว กะหนุงกะหนิงกันไงจ๊ะ” เขาว่า “ถ้ามีคนฟังออก มันก็น่าอาย” และเธอก็เห็นด้วยกับเขา
    หลังการประชุมเสร็จ เขาก็เลื้อยหนีไป หลังจากสัญญาเป็นมั่นเป็นเหมาะว่าจะกลับมาหาเธอ และยังย้ำให้เธอติดต่อเขาทางจิตเสมอ ด้วยวิธีนี้เขาจะรู้ว่าเธอสบายดีและเขาจะกลับมาหาเธอบ่อยๆ
    แต่สิ่งที่นากินีไม่รู้ คือ ชลไม่ได้ต้องการรู้ว่านากินีสบายดีหรือไม่ แต่เขาต้องการรู้แผนการทั้งหมดของโวลเดอมอร์ แผนการที่ไม่บอกกล่าวแก่ผู้เสพความตาย แต่บอกนากินี เธอไม่รู้ตัวเลยว่าถูกใช้ให้เป็นสายลับอีกชีวิตหนึ่งของภาคี
    **********************************
    ดัมเบิลดอร์เรียกประชุมสมาชิกภาคีตอนเย็น เมื่อสมาชิกมาครบแล้ว ต่างคนก็ต่างรายงานสิ่งที่ตนเองสืบได้มา
    เซเวอร์รัสยังคงนั่งนิ่ง เขาจินตนาการถึงสีหน้าสมาชิกภาคีเมื่อรู้ว่าเขาจับคนทรยศมาได้และอดหัวเราะไม่ได้
    “แกหัวเราะอะไร สนิฟเวลลัส" ซิเรียสพูดอย่างไม่พอใจ “กำลังมีสงครามกัน แกคิดว่าน่าขำนักหรือ”
    “แกไม่เห็นต้องห่วงนี่แบล็ค แกไม่ต้องทำอะไรสักหน่อย แค่หดหัวอยู่ในบ้านเฉยๆ” สเนปเยาะ
    “เซเวอร์รัส!”ดัมเบิลดอร์พูดเชิงเตือน
    “ฉันกลัวแกจะเหงา” สเนปพูดพลางหยิบกรงหนูออกมา “เลยหาสัตว์เลี้ยงมาให้แกแก้เหงา”
    ปฏิกิริยาของทุกคนดูน่าขำจริงๆ บางคนก็อ้าปากค้าง บางคนก็ขยี้ตาตนเองไปมา
    ซิเรียสชี้นิ้วสั่นระริกมาที่กรง “ไอ้หนูทรยศ แกจับมันมาได้ยังไงกัน”
    สเนปไม่ตอบ เขาหันไปหาคิงส์ลีย์ “เราจับผู้ร้ายตัวจริงได้แล้ว มีทางให้แบล็คหลุดจากคดีได้ไหม”
    “ได้สิ ได้” พ่อมดผิวดำพูด “ผมจะจัดการเรื่องนี้เอง” และเขาก็หยิบกรงหนู ก่อนจะเดินออกไป
    เซเวอร์รัสรายงานเรื่องของอัมบริดจ์ เป็นอย่างที่คิดจริงๆ มักกอนนากัลไม่รู้เรื่องนี้และเธอก็โกรธมาก แต่ความโกรธของเธอ เทียบไม่ได้กับของดัมเบิลดอร์
    “ฉันจะจัดการเรื่องนี้” เขาพูดอย่างหนักแน่น “ยัยนั่นต้องได้รับผลกรรมอย่างสาสม ไม่มีใครทำร้ายนักเรียนมาก่อนนับตั้งแต่ฉันเป็นอาจารย์ใหญ่”
    “คุณควรได้รับความดีความชอบเรื่องนี้นะศาสตราจารย์สเนป” นางวีสลีย์พูด “คุณจับเพ็ตติกรูว์มาได้”
    “ถึงฉันไม่เต็มใจเท่าไหร่ แต่ถ้าชื่อฉันพ้นมลทินแล้ว ฉันจะยื่นขอเหรียญตราเมอร์ลินให้แก” แบล็คว่า “แกอยากได้ไม่ใช่หรือ”
    “ฉันเคยอยากได้” สเนปแก้ “แต่ตอนนี้ ถ้าฉันได้มันก็อันตราย มันต้องเป็นข่าวครึกโครมแน่ และจอมมารก็จะสงสัย”
    “แล้วเธออยากได้อะไรล่ะ เซเวอร์รัส” ดัมเบิลดอร์ถาม “ฉันให้เธอได้ทุกอย่าง ยกเว้น..”
    “ตำแหน่งอาจารย์วิชาป้องกันตัวจากศาสตร์มืด” สเนปว่า พร้อมกับที่ดัมเบิลดอร์พูดคำเดียวกัน สเนปมีท่าทีผิดหวัง
    “ขออย่างอื่น เซเวอร์รัส” ดัมเบิลดอร์ว่า “ฉันให้เธอไม่ได้จริงๆ”
    และความปรารถนาอย่างหนึ่งก็แวบขึ้นมาในใจของสเนป เป็นความปรารถนาแรงกล้าที่เขาไม่เคยรู้สึกมาก่อน
    “ผมอยากได้สระบัวส่วนตัว” เขาบอกในที่สุด เขาไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงอยากได้ แต่เขาไม่เคยอยากได้อะไรมากเท่านี้มาก่อนเลย
    ดัมเบิลดอร์มีท่าทีแปลกใจ “เธอจะได้สระบัว” เขาพูดในที่สุด “แต่ฉันไม่ยักรู้ว่าเธอชอบบัว”
    “ผมรักมันเลยแหละ” สเนปว่า เขาคิดถึงคำเรียกอีกอย่างของดอกบัว ลิลี่น้ำ
    ไม่มีใครพูดอะไร แต่ดัมเบิลดอร์ดูเหมือนจะเข้าใจความนัย
    *************************************

    28 มค. 1996

    “แฮร์รี่” เฮอร์ไมโอนี่ร้อง ก่อนจะโบกหนังสือพิมพ์ไปมา “มีข่าวใหญ่”
    แฮร์รี่นั่งลงข้างๆเธอ “ข่าวอะไร” เขาพูดอย่างไม่ใส่ใจนัก คงไม่แคล้วเป็นข่าวโง่ๆอีกตามเคย
    “เขาจะรื้อคดีของซิเรียสมาทำใหม่” เฮอร์ไมโอนี่บอกอย่างแจ่มใส
    “อะไรนะ” ทั้งแฮร์รี่และรอนร้องพร้อมกัน ทั้งคู่ต่างพยายามแย่งหนังสือพิมพ์มาอ่าน

    ความผิดพลาดน่าขายหน้าของกระทรวง  

           เป็นที่รู้กันดีว่าฆาตรกรโหด ซิเรียส แบล็ค ได้ทรยศครอบครัวพอตเตอร์และฆ่าปีเตอร์ เพ็ตตริกรูว์รวมทั้งมักเกิ้ล12คน เมื่อ14ปีก่อน และได้แหกคุกออกมาเพื่อตามล่าแฮร์รี่ พอตเตอร์ กระทรวงยังสงสัยว่าเขามีส่วนช่วยการแหกคุกอัซคาบันครั้งใหญ่ แต่เป็นอย่างนั้นจริงๆหรือ คิงสลีย์ ชักเคิลโบลต์ เจ้าหน้าที่คนหนึ่งของกระทรวงที่รับผิดชอบคดีนี้อยู่ได้พบกับคนที่ทุกท่านคิดว่าตายไปแล้ว ปีเตอร์ เพ็ตตริกรูว์นั่นเอง คำถามก็คือเขาไปอยู่ที่ไหนมา ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา หากจะอ้างว่าเขากลัวซิเรียส แบล็คก็ดูจะไม่เข้าท่า เพราะแบล็คก็ถูกจับเข้าอัซคาบันไปเป็นเวลานาน แต่เพ็ตตริกรูว์ก็ไม่เคยมาปรากฏตัว นอกจากนี้ยังไม่พบหลักฐานการไต่สวนใดๆของซิเรียส แบล็คอีกด้วย

        ออกัสต้า ลองบัตท่อม แม่ของมือปราบมารผู้มีชื่อเสียงได้แสดงความเห็นว่า
    “ฉันเคยเจอพ่อหนุ่มซิเรียสอยู่บ่อยๆ เขาไม่น่าจะเป็นคนร้ายไปได้ ยิ่งฉันรู้ว่าไม่เคยมีการไต่สวนก็ยิ่งมั่นใจ หวังว่าความจริงคงปรากฏให้เห็นและคืนความยุติธรรมให้แก่ทุกคน”
        ดูเหมือนเรื่องนี้จะเป็นเรื่องน่าสยอง การจับ คนโยนเข้าคุกโดยไม่มีการไต่สวน แต่เรื่องนี้ยังไม่น่าสยองเท่าคนที่กระทรวงส่งมาจะเป็นคนทำร้ายนักเรียนเสียเอง
        มิเนอร์ว่า มักกอนนากัล รองอาจารย์ใหญ่ฮอกวอตส์บอกว่า “อัมบริดจ์ใช้ปากกาขนนกเลือดกับเด็กนักเรียน ฉันมีพยานและหลักฐานพร้อมมูล จะยื่นต่อศาลเมื่อไหร่ก็ได้”
    ทางด้านกระทรวงเวทมนตร์จะออกหมายเรียกตัวโดโรเรส อัมบริดจ์มาสอบสวนอย่างเร่งด่วน
    แฮร์รี่เงยหน้าขึ้นจากหนังสือพิมพ์และมองไปที่โต๊ะอาจารย์ และเขาก็เห็นอัมบริดจ์กำหนังสือพิมพ์เสียแน่น อาจารย์คนอื่นๆมีท่าทีพอใจ ทันใดนั้นเองก็มีมือปราบมาร2คนเดินเข้ามา พวกเขาแสดงป้ายเรียกตัวอัมบริดจ์ก่อนจะพาตัวเธอไป
    “ฉันเป็นคนของกระทรวงนะ” เธอกรีดร้อง “แกไม่มีหลักฐานอะไรสักหน่อย”
    มือปราบมารคนหนึ่งหยิบปากกาขนนกเลือดออกมาพร้อมภาพถ่ายที่แสดงให้เห็นว่ามันอยู่บนโต๊ะทำงานของอัมบริดจ์ “แค่คุณมีสิ่งนี้ไว้ในครอบครองก็ผิดกฎหมายแล้ว” เขาพูดก่อนจะพยักหน้าให้กับอีกคนหนึ่ง มือปราบมารทั้งคู่มายืนขนาบข้างเธอ ก่อนจะนำตัวเธอออกไป
    แฮร์รี่ไม่เคยคิดว่าท้องฟ้าจะสดใสได้เท่านี้เลย ตอนนี้เขามั่นใจว่าหากมีผู้คุมวิญญาณมา เขาก็คงจะเสกคาถาผู้พิทักษ์ได้ง่ายดายเหมือนปอกกล้วยทีเดียว

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×