ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ดูการ์ตูนอย่างแมว ๆ

    ลำดับตอนที่ #183 : (ดูอย่างแมวๆ) Spring 2012 Anime อนิเมะซีซั่นนี้น่าสนใจหลายเรื่อง!?

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 8.18K
      0
      20 เม.ย. 55

         กระทู้

    http://www.dek-d.com/board/view.php?id=2449634

     

     สวัสดีวันวันสงกรานต์ครับ หลายคนคงไปเที่ยว มากกว่ามาดูอยู่กับบ้าน แต่สำหรับผมแล้วถือว่าเป็นวันน่ากลัวตลอดสัปดาห์ ไม่ว่าจะเป็นอากาศที่แสนจะร้อน น้องสาวมาบ้าน ญาติมาหา สำหรับคนที่ชอบเก็บตัวแบบผมแล้วถือว่านี้คือนรกพอสมควร

    ตอนที่ผมเขียนกระทู้นี้  การ์ตูนใหม่ประจำซีซั่นก็ฉายหนึ่งตอนเกือบครบหมดแล้วนะครับ ส่วนวันเสาร์หรือวันอาทิตย์เป็นการ์ตูนแนวการ์ดเกมและขายของเล่น สำหรับเด็กดู ซึ่งผมไม่ดูอยู่แล้ว เท่าที่ได้ดูนี้ซีซั่นนี้มีการ์ตูนแนวเหนือธรรมชาติและน่าสนใจเยอะด้วยครับ ดราม่า เครียดนี้ไม่ค่อยมี ถือว่าเหมาะดูแก้ร้อน ก็ถือว่าเยี่ยมไปเลย เอาเป็นว่าขอแนะนำการ์ตูนที่ผมดูแล้วชอบและติดตามมาแนะนำละกันน่ะครับ (ส่วนการ์ตูนเรื่องอื่นๆ ที่ผมดูในซีซั่นนี้ผมตั้งกระทู้ครับ คลิกที่ข้างบนได้เลย)

     

     

     

    -กากบาทสีแดง-อนิเมะที่ผมไม่ได้ดูเลยแม้แต่น้อย  (ไม่ใช่ว่ามันไม่สนุก แต่ผมไม่ได้ดู และไม่มีความคิดที่จะดูเท่านั้น)

    -กากบาทสีเหลืองดูแล้วแต่ไม่น่าติดตาม

    -วงสีเขียว ยังไม่ได้ดูแต่น่าสนใจ หรือกำลังพิจารณาว่าสนุกหรือไม่สนุก

    -และที่ไม่วงคือเรื่องนี้ผมติดตาม

    สำหรับตารางการดูการ์ตูนของผม หลายคนสงสัยว่าทำไมผมไม่ดูการ์ตูนที่คนอื่นชอบกัน อย่างเรื่อง Fate/Zero ก็ขอตอบมา ณ ที่นี้ว่าเป็นเหตุผลและรสนิยมการดูผมล้วนๆ คือต้องเข้าใจผมด้วยน่ะครับ ซึ่งผมไม่ขอกล่าวถึง (แต่ในบอร์ดนักเขียนผมเขียนสาเหตุไว้แล้ว)

     

    Tsuritama

     
                   Tsuritama เป็นอนิเมะที่กำกับโดยนากามูระ เคนจิ สตูดิโอ A-1 Pictures ที่ผลงานภาพการรันตีได้เลยว่าแหล่มเป็ด  (ผลงานที่ผ่านมา เช่น C, Kuuchuu Buranko)

    Tsuritama เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นที่เมืองเอโนชิเมะ เป็นเมืองเล็กๆ บนเกาะกลางทะเล ส่วนพระเอกชื่อ ซานาดะ ยูกิหนุ่มมัธยมปลายที่ย้ายบ้านบ่อยครั้งได้มาเมืองแห่งนี้พร้อมกับคุณย่า ทำให้ไม่มีประสบการณ์เรื่องการคบเพื่อนมาก่อน และเวลาที่ถูกกดดันหรือว่าเครียดเขาจะทำหน้าตาน่ากลัว (เสมือนหนึ่งอาการจมน้ำขาดอากาศหายใจ) จนเป็นเหตุทำให้เขาไม่กล้าพูดคุยกับคนแปลกหน้า และเมื่อเขาถึงเมืองเขาก็พบหนุ่มน้อยแสนประหลาดฮารุ (รู้สึกว่าในการ์ตูนญี่ปุ่นคนที่ชื่อฮารุจะเป็นคนร่าเริง นิสัยเหมือนเด็กน่ะ) ที่ชอบบอกคนอื่นว่าตนเองเป็นมนุษย์ต่างดาวมาเที่ยวโลกเพื่อตกปลาและเมื่อเขาพบยูกิเขาก็ชะตาต้องกัน ฮารุเลยบอกยูกิเป็นเพื่อน (แถมพักบ้านเขาด้วย) และชักชวนยูกิตกปลา พร้อมกับปกป้องโลกด้วยการตกปลา (??)

    แวบที่ผมดูการ์ตูนเรื่องนี้ จู่ๆ ผมเกิดความคิดว่าหากฮารุเป็นเพศหญิงนี้คงโมเอะน่าดู (ป่ะ) เออ...เป็นการ์ตูนแนวมิตรภาพชายตกปลา (แต่กระนั้นก็มีตัวละครหญิงปรากฏอยู่) ไม่ได้ยาโอยจ๋าอย่างที่คิดเอาไว้ เปิดฉากมาสบายตา คมชัด สวยงาม แถมแทรกลูกเล่นเป็นระยะ ตามสไตล์นากามูระ เคนจิที่ชอบสร้างภาพให้น่าติดตาม ดูแล้วเพลินจำเริญใจ ไม่น่าเบื่ออย่างที่คิด แม้ว่าจะเป็นสูตรสำเร็จ ประเภทพระเอกย้ายโรงเรียนมาเรียนที่แห่งใหม่ก็เถอะ

    จากผลงานเรื่องก่อนๆ อย่าง C ที่สร้างภาพให้เป็นโลกธุรกิจการเงินที่พิศวง แต่มาคราวนี้ฉากหลังเป็นเมืองแห่งทะเล (เสียใจไม่มีสาวใส่ชุดว่ายน้ำให้หื่นกันหรอก) ที่ลูกเล่นจะเน้นสีน้ำทะเลเป็นหลัก ดูแล้วอยากไปทะเลเป็นบ้า มีปลา มีหอย มีสีสันสาหร่าย บ้านเรือฝั่งทะเล เนินเขา ชุ่มหัวใจอีก ส่วน มุกตลกฮาๆ สบาย และน่าแปลกใจ ไม่ว่าจะเป็นตัวละครที่มีนิสัยแประหลาด โดดเด่น อย่างฮารุที่ชักชวนเพื่อนร่วมห้องสองคนที่มีนิสัยไม่น่าคบอย่างนัตสึกิและยูกิ เป็นเพื่อนด้วยกัน ซึ่งทั้งสามคนมีนิสัยแตกต่างกันสุดขั้ว (และเพื่อนคนต่อไปจะมาเร็วๆ นี้) ผสมกับการพัฒนาจิตใจตัวละคร ที่ไม่ปวดตับ ดราม่า แต่อย่างใด

    ข้อเสียการ์ตูนเรื่องนี้คือพระเอกยังคงมีบุคลิกเข้ากับคนยากเหมือนเดิมครับ (ดูเหมือนจะเป็นมาตรฐานคาแร็คเตอร์พระเอกค่ายนี้แล้วมั้ง) อีกทั้งหน้าตาคุณพี่เองก็ไม่ค่อยหน้าคบเท่าไหร่ ดังนั้นใครที่หวังดูหนุ่มน่ารักจิ้มวาย คงผิดหวัง (อ่ะนะ) ส่วนหนุ่มแว่นสาวกรี๊ดพอสมควรแต่ผมเห็นแล้วไม่เห็นน่าคบสักเท่าไหร่ ส่วนฮารุนั้นโอเค แถมไม่รู้ไปเที่ยวไทยมาหรือเปล่าเพราะพี่แกพกปืนฉีดน้ำฉีดใส่หน้าพระเอกบ่อยครั้งเลย

    Tsuritama  เป็นการ์ตูนนอกสายตาครับ เชื่อเลยว่าบางคนแค่ได้เห็นผู้ชายและคำว่าตกปลาก็เลิกดูไปกว่าครึ่งด้วยซ้ำ แต่ขึ้นชื่อนากามูระ เคนจิ น่าจะขายกินได้ ลองเปิดใจสักนิด ดูแล้วไม่เสียหายครับ  แม้จะมีหลายๆ ส่วนที่ยังต้องพิสูจน์ตนเองก็เถอะ (ปล. ในเว็บต่างประเทศให้ความประทับใจ B+)

    ทำไมผมถึงชอบ ภาพสวย ฮารุเพี้ยนได้ใจ ไม่ยาโอย (แต่คงมีจิ้นแน่นอน)

     

    Tasogare Otome X Amnesia

     
                    Tasogare Otome X Amnesia หรือ (Dusk Maiden of Amnesia: ยามค่ำคืนของเด็กหญิงที่สูญเสียความทรงจำ)  เป็นอนิเมะดัดแปลงมาจากการ์ตูนมังงะเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างคนกับผี ผลงานของ Meibi (นักเขียนสายมืด) ได้ลิขสิทธิ์โดยสยาม ในเชื่อไทย คนอวดผี เอ้ย.....คนสืบผี โดยอนิเมะนั้นได้ผู้กำกับ Shin onuma มากำกับ (ผลงาน Baka to Test to Shoukanjuu  และ C ³)

    Tasogare Otome X Amnesia เป็นเรื่องราวนาย "นียะ" ที่ได้เป็นนักเรียนมัธยมปีที่ 1 ในโรงเรียนมัธยมเอกชนเซเคียว หากแต่มาวันแรกเขาก็หลงโรงเรียน และเข้ามายังอาคารเก่าของโรงเรียน และเขาก็พบยูโกะซังซึ่งเป็นผีที่ไม่มีความทรงจำในช่วงเวลาตาย ทำให้เขากับเธอต้องตั้งชมรมค้นคว้าเรื่องลึกลับเพื่อตรวจสอบเรื่องลึกลับในโรงเรียน (ที่เกือบทั้งหมดเป็นฝีมือของยูโกะซัง) ร่วมกับสาวๆ อีกสองคน (ที่อายุมากกว่า) คือ โมโมเอะกับคิริเอะ

    แต่ตอนที่ 1 ของอนิเมะเรื่องนี้ยังไม่ได้เล่าถึงเนื้อเรื่องดังกล่าว!!

    Tasogare Otome X Amnesia ตอนที่ 1 เปิดฉากมาหลายคนต้อง งง เป็นแน่แท้  หากไม่ได้ติดตามมังงะมา เพราะเนื้อหาการ์ตูนยังไม่เผยอะไรมากมาย มาถึงก็เผยตัวละครหลักโผล่มาครบแบบไม่มีที่มาที่ไป  (ที่แปลกคือมันไม่มีเพลงเปิดเรื่อง!!~) เปิดฉากมาโมโมเอะ ตัวละครหลักหญิง (กิ๊กของนียะ) นั่งอยู่ในห้องชมรมเรื่องลึกลับ และถูกผียูโกะแกล้ง ก่อนที่ตัวละครหลักจะโผล่มาเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นนียะและคิริเอะ (กิ๊กอีกคนของนียะ) แถมฉากนี้ฉายซ้ำถึง 2 รอบ (ตอนแรกเป็นมุมมองของโมโมเอะที่ไม่เห็นยูโกะซัง ต่อมาก็มุมมองของนียะที่มองเห็นยูโกะซัง) ทำให้ช่วงนี้น่าเบื่อพอสมควร และทั้งหมดก็ไปสำรวจหลุมศพ(ปลอม) ของยูโกะซัง เพื่อให้การ์ตูนแสดงถึงบรรยากาศธีมของเรื่อง ว่ามันน่าขนลุก(และฮาเร็ม) ขนาดไหน (ซึ่งถือว่าตอนที่ 1 น่าจะเป็นตอนที่ 0 อารันบทก่อนที่จะย้อนอดีตนียะเจอยูโกะซังครั้งแรก)

    Tasogare Otome X Amnesia เป็นการ์ตูนอีกเรื่องครับที่หลายคนติดตาม เพราะมันเต็มไปด้วยฉากเซอร์วิสและบรรยากาศขนหัวลุก มืดๆ ทึมๆ (แต่เนื้อหาไม่ได้หลอนน่ะ) เมื่อมาดูอนิเมะ ปรากฏว่างามและได้อารมณ์พอสมควร ฉากโรงเรียนหลังเลิกเรียนที่ไร้ผู้คน ฉากแสงแดดยามเย็นที่กำลังมืดค่ำ ราวกับภาพยนตร์ญี่ปุ่นแนวสยองขวัญทีเดียว (แต่การ์ตูนหนูเมย์กับคำสาปห้อง 3-3 เส้นจะคมกว่า)  ถือว่าสอบผ่านอย่างง่ายดายของสตูดิโอแล้ว ในเรื่องลายเส้นหน้าตาตัวละคร ผมพบว่าน่ารักกว่ามังงะเล็กน้อย แต่กระนั้นฉากเซอร์วิสตอนนิยะจับนมคุณยูโกะยังไม่ถึงใจ (แต่เชื่อว่าตอนต่อๆ ไปคงจะเน้น)

    ตัวละครทุกตัวเสียงเข้าหมด (ผมว่าเสียงนิยะดีแล้วนะครับ ต้องเสียงแบบลูกกระจ๊อกหน่อย) ที่น่าแปลกก็คือเสียงพากย์คุณยูโกะนั้นมันเสียงของเด็กสาวธรรมดาไป ไม่ใช่เสียงบุคลิคเจ้าแม่ แบบเจ๊ปู ซึ่งคนพากย์คือ Yumi Hara ซึ่งที่แล้วมาผลงานมีแต่รับบทตัวประกอบทั้งสิ้น ยังต้องพิสูจน์ตนเองอีกเยอะในตอนต่อๆ ไป สาเหตุที่เสียงของยูโกะเป็นแบบนี้ก็คงไม่อยากให้ใครมาเปลี่ยนเทียบว่ายูโกะคือเจ๊ปูล่ะมั้ง

    สิ่งผมชอบ ผมชอบตั้งแต่ในมังงะแล้ว ยิ่งดูอนิเมะก็ชอบบทสนทนาที่ลื่นไหล ภาพสวย ตัวละครดูเหมือนจะน่ารักกว่าต้นฉบับมังงะเดิม แต่ข้อเสียคือความอึดอัดใจฉากฉายซ้ำตอนต้นเรื่อง แต่โดยรวมแล้วเป็นการ์ตูนที่สมแก่การรอคอยของคนหลายคน

     

    Sankarea


                   ซังกะเรย์หรือหลายคนขนานนามว่า
    ซอมบี้ที่น่ารักที่สุดในโลกเป็นอนิเมะที่สร้างจากมิทสึรุ ฮัทโตริ ตีพิมพ์โดยโคดันฉะตั้งแต่ราวต้นปี 2010 เรื่องผู้กำกับและสตูดิโอเท่าที่ดูพอการันตีได้ สตูดิโอ Studio Deen ผู้กำกับ Mamoru Hatakeyama  )

    แม้เนื้อหาซังกะเรย์จะเกี่ยวกับซอมบี้ แต่ไม่ได้หลอน เลือดสาดอย่างที่คิด (มั้ง??) แต่เป็นเรื่องของโรแมนติก สบายๆ ปวดตับเล็กน้อย (แต่เชื่อว่าจบแอปปี้ เพราะคนเขียนคงไม่ทำร้ายจิตใจผู้ดูขนาดนั้น)

    เปิดฉากมาผมก็รู้สึกเสียดายนิดๆ ที่เพลงเปิดเรื่องน่าจะหลอนสักหน่อย แต่เป็นแนวสบายๆ ดราม่าเล็กน้อย ทำให้เชื่อว่าการ์ตูนเรื่องนี้จะเน้นเรื่องดังกล่าว เปิดออกมาผมก็ขำเล็กน้อยเมื่อผมได้เห็นฟุรุยะ จิฮิโระหรือโคดากะหน้าแมว (พระเอกเรื่องนี้ใช้คนพากย์คนเดียวกับโคดากะจากชมรมคนไร้เพื่อน) ก็แปลกดี (แต่น้องสาวพระเอกไม่ใช่น้องผัก แต่เป็นน้องผี) เนื้อหาการดำเนินเรื่องแตกต่างจากมังงะเล็กน้อย แต่โครงเรื่องยังเช่นเดิมคือโคดากะหน้าแมวหนุ่มที่ชอบซอมบี้อยากได้แฟนเป็นซอมบี้ได้เจอหนังสือปรุงยาสร้างซอมบี้ของปู่เขาเลยใช้ยาตัวนี้กับเจ้าบาบูแมวที่แสนรักของเขาไป โดยเขาได้ปักหลักที่ตึกร้างแห่งหนึ่งเพื่อปรุงยาสร้างซอมบี้นี้ขึ้นมา และต่อมาเขาก็พบซันกะสาวสวยเฟอร์เฟ็คในโรงเรียนสตรีตรงข้ามของเขาได้หนีมาที่บ่อน้ำหน้าตึกร้าง และเธอก็ระบายความอัดอั้นเกี่ยวกับพ่อของเธอ และเขาและเธอก็พบกัน (จบตอนที่ 1)

    ความรู้สึกหลังดูตอนที่ 1 จบ สนุกกว่าที่คิดครับ ไม่ดำเนินเรื่องแบบรวบรัด ตัดความ ดำเนินเรื่องแบบมังงะ เก็บรายละเอียดทุกส่วน บางฉากไม่มีมังงะก็เพิ่มขึ้นมาด้วยซ้ำ อย่างฉากที่พระเอกเสียใจบาบูตายน้องผีก็เข้ามาปลอบพระเอก เล่นเอาคนรักน้องสาวอุทานว่า โมเอะทันควัน ทั้งหมดนี้เป็นการเพิ่มรายละเอียดที่ไม่มีในมังงะให้สมบูรณ์ขึ้น ไม่ใช้ฉากยัดเยียดแต่อย่างใด เรื่องภาพนี้หายห่วงได้เลย ตามมาตรฐานของสตูดิโอนี้อยู่แล้ว ส่วนบรรยากาศในการ์ตูนไม่หลอนครับ แต่เน้นงามของดอกไฮเดรนเยีย เล่นภาพเสียมากกว่า ไม่ว่าจะเป็นฉากที่พระเอกสูญเสียบาบูแมวที่ตนเองรักฉากจะโล่งๆ ได้อารมณ์ของความสูญเสีย ฉากซังกะพูดคุยพระเอก  สิ่งที่ผมหวังอนิเมะเรื่องนี้ก็คือฉากจบอนิเมะนั้นจะออกมาในรูปแบบใด เพราะว่าในมังงะยังไม่จบ ลึกๆ แล้วอยากให้จบในช่วงหลังเทศกาลที่ซังกะคลั่งก็เยี่ยมน่ะ ไม่รู้ว่าคนกำกับจะบ้าจี้จบเอาเองแล้วจบไม่ดีหรือเปล่า ทั้งนี้ก็คงขึ้นอยู่กับการตอบรับของผู้ดูแหละ

    สิ่งผมชอบ เป็นอนิมะที่ดีอีกเรื่องครับ แม้ว่ากระแสในไทยอาจน้อยสักนิด เพราะว่ามีการ์ตูนดังอื่นๆ มากลบค่อนข้างเยอะ แต่ผมแนะนำ เพราะต้นฉบับมังงะนั้นสนุกมากถามใครที่เคยอ่านก็ตอบเสียเดียวกันว่าเป็นการ์ตูนที่ดี ได้ข้อคิด มากกว่าจะเน้นความรักระหว่างหนุ่มสาว

    ปล. ส่วนตัวผมชอบคาแร็คเตอร์ รันโกะเพื่อนสมัยเด็กของพระเอกครับ ต้องออกทอมบอย ร่าเริง และเหมือนเพื่อนพระเอกหน่อย เพราะมันหาได้จริงในโลกแห่งความจริงอ่ะนะ

     

    Haiyore! Nyaruko-san


                เชื่อเปล่าว่าเป็นการ์ตูนที่ผมรอคอยในซีซั่นนี้ ในขณะที่หลายคนเอียนคอมมาตี้สูตรสำเร็จ แต่ขอโทษครับเพราะสูตรสำเร็จแนวนี้แหละผมถึงชอบแหละ!! ดูการ์ตูนสนุกไม่ต้องมีตรรกะอะไรหรอก เห็นแต่แรกก็ตัดสินใจด้วยตนเองเลยว่าชอบหรือไม่ชอบก็ตัดสินเลย ไม่ต้องคิดอะไรมาก ไม่ต้องตามน้ำคนอื่น มันจะดูไม่สนุก

    Haiyoru! Nyaruani เป็นอนิเมะแนวคอมมาดี้ (ฮาเร็มหรือเปล่าก็ไม่รู้สิ) สร้างจากนิยายไลท์โนเวล (ลิขสิทธิ์รักพิมพ์ แต่ยังไม่ได้ตีพิมพ์วางแผงเลย) ผลงานของสตูดิโอ Xebec  เรื่องคอมมาดี้และคุณภาพชื้อขนมกินได้เลย ซึ่งก่อนหน้านั้นเคยเป็นการ์ตูนอนิเมะสั้น Haiyoru!   Nyaruani: Remember My Love(craft-sensei) เล่นเอาคนไทยตาดำๆ ที่ไม่ได้อ่านนิยาย งง เป็นตาไก่ตาแตกว่าเรื่องนี้เกี่ยวกับอะไร (โดยเฉพาะผมก็ งง ) มาคราวนี้ก็เข้าใจเรื่องจริงๆ เสียที ว่าทำไมพระเอกชอบเอาส้อมจิ้มนางเอก และนางเอกเป็นตัวอะไร

    Haiyoru! Nyaruani เปิดฉากด้วยพระเอกหนุ่มธรรมดานาม "ยาซากะ มิฮิโระ"ที่จู่ๆ ถูกเอเลี่ยนไล่ฆ่า (ราวกับปีศาจกากอยมีปีกยังไงไม่รู้) ระหว่างที่เขากำลังโดนต้อนจนมุมเขาก็ถูกนางเอกสาวน้อยผมเงินชื่อ "เนียวรุโกะ" ออกมาฆ่าสัตว์ประหลาดจนเลือดสาด และต่อมาพระเอกก็ได้รู้ว่าเธอก็คือเทพไนอาลาโธเทป (Nyarlathotep) ซึ่งเป็นเทพในงานประพันธ์ของเอช. พี. เลิฟคราฟท์ ไนอาลาโธเทปมีฉายาว่า ความวุ่นวายที่คืบคลาน (Crawling Chaos) ที่สามารถเปลี่ยนรูปร่างเป็นอะไรก็ได้ มีนิสัยขี้เล่น ความจริงเทพดังกล่าวชอบแปลงเป็นชายร่างสูง แต่เรื่องนี้เป็นสาวน้อยซะงั้น และแล้วเนียวรูโกะก็อาศัยอยู่บ้านของพระเอก ตอนแรกพระเอกก็เบาใจที่เธอมาช่วยคุ้มครองเขาจากเอเลี่ยนที่บุกเข้ามาหาเขาเพื่อจุดประสงค์บางอย่าง หากแต่เขาก็พบปัญหาใหม่ เมื่อเนียวรูโกะเป็นสาวไฮเปอร์เกินพิกัด พูดรัวเป็นต่อยหอย นิสัยบ้าบอ เป็นโอตากุ (ชนิดเข้าเส้นเลือด) แถมยังขี้เล่น ยั่วเขาอีก จนเขามักสติหลุดมักเอาส้อมจิ้มเธอ (จนกลายเป็นอาวุธส่วนตัวพระเอกไปแล้ว) และเธอก็ยังไปบ้าต่อที่โรงเรียนพระเอกอีก ชีวิตพระเอกตาดำจะเป็นยังไงต่อไปเนี้ย

    Haiyoru! Nyaruani เป็นการ์ตูนเฉพาะแนวครับ แม้ว่าจะเป็นแนวคอมมาดี้ แต่คุณจะต้องทนอยู่สองอย่างคือ คุณเทพเนียวรูโกะนี้พูดรัวต่อยหอยมาก (ที่ไม่น่าเชื่อคือคนพากย์เนียวรูโกะคือ Kana Asumi ซึ่งรายนี้พากย์ตัวละครที่คาแร็คเตอร์น้องสาวเป็นหลัก) จึงไม่แปลกเลยที่พระเอกในเรื่องชอบรำคาญเธอประจำ และต่อมาคือมุกที่เธอเล่นนี้โครตล้ำลึก ใครไม่ใช่โอตากุพันธ์แท้นี้มีสิทธิง่อยรับประทาน มุกสัตว์ประหลาดโปเกมอนนี้บ้าใช้ได้ (ฉันเลือกนายลิซาดอน) ส่วนเรื่องเกี่ยวกับนิยายเอช. พี. เลิฟคราฟท์ก็รู้บ้างไม่เสียหาย ว่าตัวต่อไปเป็นเทพอะไรบ้าง แต่กระนั้นถึงไม่รู้มุกก็สนุกได้น่ะ (ที่ประหลาดใจคือพระเอกมันเป็นแฟนเลิฟคราฟท์ด้วย)  ส่วนด้านภาพนี้ผมว่าเหมาะกับคอมมาดี้เรื่องนี้ดี เซอร์วิสพองาม มุกสูตรสำเร็จฮาเร็มแน่น (พระเอกนั่งติดหน้าต่างที่ห้องเรียน, นางเอกบุกห้องน้ำที่พระเอกแช่อ่างอยู่ฯลฯ) ชอบตอนเนียวรูโกะทำท่าแปรงร่างนี้แหละ ส่วนเพลงเปิดก็ได้อารมณ์ ฉากต่อสู้เลือดสาดบ้าบอดี ส่วนตรงต้นฉบับไลน์โนเวลหรือเปล่าผมก็ไม่รู้ เพราะรักพิมพ์ไม่แปลแล้ววางแผงสักที

    สิ่งผมชอบ  ผมชอบคอมมาดี้แนวนางเอกปกป้องพระเอกล่ะก็ การันตีเรื่องนี้เลยไม่ผิดหวัง!! (อย่าหวังความน่ารักจากนางเอกในการ์ตูนเรื่องนี้อ่ะนะ)

    (ปล. ตอนที่เนียวรูโกะพาพระเอกไปซื้อไลท์โนเวล มีเรื่องไหนที่ท่านคุ้นตาบ้างเอ่ย?? ตอนหน้าผมเขียนแน่ครับ Ore no Kanojou to Osananajimi ga Shuraba Sugiru)

     

    Accel World

     
                 
    Accel World เป็นการ์ตูน ต่อสู้ ไซไฟ สร้างจากไลท์โนเวลขายดีของ Kawahara  Reki โดยสตูดิโอ  Sunrise (company) เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในโลกอนาคตปี 2046 พระเอกชื่อฮารุยูกิ เด็กอ้วนเตี้ย(วู่มลีลา) ที่ถูกกลั่นแกล้งในโรงเรียน ทำให้เขาหนีโลกแห่งความจริงเพื่อไปผ่อนคลายโลกเสมือนใจ จนเขาได้พบรุ่นพี่สุดสวย "คุโรยูกิ ฮิเมะ" จากนั้นเธอก็มอบโปรแกรมลึกลับโปรแกรมหนึ่ง ที่มีความสามารถทำให้เขาและรุ่นพี่มองโลกแห่งความจริงนี้เคลื่อนไหวช้าสุดๆ ได้  และเมื่อฮารูยูกิครองโปรแกรมดังกล่าว เขาก็ต้องเข้าร่วมต่อสู้เพื่อเก็บแต้มในเกมเซอร์ไวเวอร์ในโลกเสมือนจริงเพื่อเก็บแต้ม โดยจุดประสงค์ของเกมยังลึกลับ

    Accel World เป็นการ์ตูนมาแปลกเพราะออกทีเดียวก็ตอน 1 และ 2  (จำนวนตอน 24 ตอน)  ซึ่งก็ขอยอมรับว่าดูแบบโดดๆ ข้ามๆ เหตุผลก็ง่ายๆ เพราะมันทำซะตรงต้นฉบับเลย  การดำเนินเรื่องตรงกับมังงะ ซึ่งผมดูมังงะไปแล้ว จึงไม่จำเป็นต้องดูอะไรอีก ดังนั้นรอตอนใหม่ที่ขึ้นเล่มที่ 2 อย่างเดียว (หรือไม่ก็ดูตอนพระเอกจับกดเพื่อนสมัยเด็ก) ค่อยมาดูอีกที ถ้าถามผมว่าผมดูแล้วรู้สึกยังไง ตอบง่ายๆ คือเหมือนมงกุฎบาปอีกเวอร์ชั่นหนึ่ง เพราะพระเอกเรื่องนี้ใช้คนพาษย์คนเดียวกับบักชูพระเอกในมงกุฏบาป แถมนิสัยและเนื้อหาจะเหมือนๆ กันอีก ทำให้ดูแล้วนึกถึงบักชูภาคเกิดใหม่ที่ต้องพัฒนาจิตใจเริ่มจากศูนย์อีกครั้ง หากแต่คราวนี้ดราม่า หักหลังคนดู หุ่นยนต์มีลูกไม่มีแรน่นอน ส่วนฮาเร็มมีเพียบ ได้เจอแน่นอนสาวชอบอ้วนเตี้ย คนหล่อเป็นตัวประกอบ (แน่นอนไม่มีเจ้าไก) ส่วนฉากต่อสู้นั้นก็สนุกตื่นเต้น แม้ตอนแรกจะสู้แบบเก้งก้างๆ อยู่ (แหมพระเอกพึ่งเล่นเกมนี้เป็นครั้งแรกนี้ ไม่เหมือนนิยายออนไลน์ในเว็บเด็กดี มาถึงพระเอกเก่งเทพ มันไม่ลุ้นเว้ย) แต่หลายคนอาจกริ๊ดสลบได้เพราะเห็นพระเอกเปลื่อยท่อนบน จิ้นไม่ออก (........)

    Accel World เป็นหนึ่งในการ์ตูนที่หลายคนดูด้วยความอคติแห่งปีครับ เนื่องจากรูปลักษณ์ของพระเอกแตกต่างจากพระเอกในสากลโลก น่าจะเป็นอนิเมะในประวัติศาสตร์ (นอกจาก H) ที่พระเอกอ้วน เตี้ย ฮาเร็ม คือหลายคนยังไม่ทันดู (หรือดูนิดหนึ่ง) ก็ออกมาด่าพระเอกเลยแหละ ว่าพระเอกอ้วนว่ะ ดูแล้วไม่โมเอะ ไม่ชอบ กรูจะจิ้นวาย ไม่ใช่จิ้นอ้วน สับแหลก แหม...ว่าซะเสียหายเลยเนอะ อย่างไรก็ตามสำหรับคนมองการ์ตูนเรื่องนี้ด้านบวก ผมว่าพระเอกเรื่องนี้น่ารักดีน่ะ (บางทีตอนจบพี่แกอาจผอมก็ได้ใครจะไปรู้) ใครที่มีเพื่อนแบบพระเอกนี้ ขอบอกว่าหลายคนหลงรักแบบไม่รู้ตัว บางทีอาจดีกว่าคนหน้าตาดีด้วยซ้ำไป (ที่พูดเพราะผมเคยมีเพื่อนแบบพระเอกไงล่ะครับ)

    ในด้านตัวละคร ไม่รู้ทำไมผมชอบ "จิยุ" เพื่อนสมัยเด็กเป็นบ้า มีทั้งเป็นห่วงเป็นใย รักพระเอก น่ารัก แต่น่าเสียดายเพราะความอ้วนเตี้ยทำให้พระเอกคิดว่าเพื่อนสมัยเด็กคนนี้เป็นแฟนกับเพื่อนชายของเขาที่หล่อและเท่กว่า ทำให้เขาปฏิเสธทำร้ายจิตใจของเพื่อนสมัยเด็กนี้อย่างน่าเสียดาย ไม่รู้ว่าการ์ตูนจะสร้างความสัมพันธ์ระหว่างพระเอกกับเพื่อนสมัยเด็กคนนี้หรือเปล่า (แต่การ์ตูนโป๊มันเล่นซะเสร็จสรรพ)

    ข้อเสียการ์ตูนเรื่องนี้อาจมีศัพท์เทคนิคพอสมควรครับ บางคนอาจงงกับศัพท์ที่ปรากฏในเรื่องไม่มากก็ไม่น้อย  ส่วนงานภาพ ไม่แน่ใจเพราะผมโหลด RAM มาหรือเปล่า ทำไมภาพสีจางเป็นบ้า เดี๋ยวหาโหลดใหม่ก่อน

    สิ่งผมชอบ  พอดีผมชอบพระเอกอ้วนครับ (ก็ตัวผมเองก็อ้วนนี้ ไม่เชียร์แล้วใครจะเชียร์)

     

    Natsuiro Kiseki


                   
    Natsuiro Kiseki เป็นการ์ตูนแนวชีวิตประจำวัน (Slice of Life) ดราม่า แต่ไม่ปวดดับถึงขั้นเป็นกรดในกระเพาะอาหาร ผลิตโดย Sunrise  ส่วนผู้กำกับก็พอมีผลงานพอสมควร ช่างเถอะผมก็ไม่สนเรื่องเหล่านี้สักเท่าไหร่

    Natsuiro Kiseki เป็นเรื่องราวของมิตรภาพสี่สาว ที่ประกอบด้วย นัตสึมิ(ออกทอมบอยหน่อยๆ) ซากิ(สาวผมสีเหลืองนิสัยจริงจัง), ยูกะ (สาวผมดำนิสัยขี้เล่น) และรินโกะ (สาวพูดน้อยทำงานศาลเจ้า) ทั้ง 4 อาศัยอยู่ในบ้านนอกที่เต็มไปด้วยความเชื่อมากมาย ทั้ง 4 คนเป็นเพื่อนสนิทกันตั้งแต่เด็กมีทั้งสุขและเศร้าร่วมกัน หากแต่ว่าเมื่อทั้ง 4 เติบโตขึ้นจนเรียนชั้นมัธยม ซากิก็เริ่มทำตัวห่างหิน และมีเรื่องทะเลาะกับนัตสึมิ ถึงขั้นตัดเพื่อนกัน ทำให้เหล่าเพื่อนๆ ต้องการให้เพื่อนทั้งสองคืนดีกันจึงใช้วิธีเรียกซากิและนัตสึมิมารวมตัวที่หลังศาลเจ้า ณ ก้อนหินใหญ่ ที่ทั้งสี่มีความเชื่อว่าหากอธิฐานพร้อมกันสี่คน คำอธิษฐานนั้นจะเป็นความจริง โดยความฝันทั้งสี่คนคือการเป็นไอดอท!! และแล้วเรื่องราวของฤดูร้อนก็ได้เริ่มต้นขึ้น

    เห็นว่าการ์ตูนเรื่องนี้เป็นออริจินอลที่ใช้นักร้องสี่สาววง Sphere เป็นคนพากย์ตัวละครหลักทั้ง 4 คนด้วยแต่สำหรับผมเสียงก็เหมือนนักพากย์ทั่วไปแหละ เห็นว่าวงนี้เป็นที่นิยมในญี่ปุ่นด้วยน่ะ

    เพลงเปิดและปิดเรื่องเพราะ ในด้านออกแบบตัวละครนั้นน่ารัก แม้ว่าจะใช้สูตรสำเร็จในการออกแบบ (คือผสมหลายตัวจากเรื่องโน้นเรื่องนี้มาใส่ในตัวละครตัวเดียวกัน) แต่ทั้งสี่สาวมีเชิงลึกด้านอารมณ์พอสมควร อย่างเช่นยูกะแม้จะมีนิสัยขี้เล่นแต่ก็มีความอ่อนแอในภายใน, นัตสึมิสาวเทนนิสที่ดูเข้มแข็งแต่เธอจริงจังกับมิตรภาพของกลุ่มเพื่อนมาก ด้านภาพนั้นสวยงาม สื่อถึงเมืองบ้านนอก (ไม่ถึงกับบ้านนอกสุดขีด คล้ายๆ เมืองเก่า) ได้บรรยากาศฤดูร้อนดี ตัวละครน่ารักโมเอะการดำเนินเรียบง่าย ไม่หวือหวา มีดราม่าเพราะตอแรกมาถึงนัตสึมิก็ทะเลาะกับซากิแล้ว จากนั้นเรื่องก็เริ่มรุนแรงขึ้น เราคงเคยเห็นชีวิตจริงว่าบางครั้งหากเพื่อนรักมีเรื่องทะเลาะกันนี้ จะถึงขั้นเกลียดกันชนิดไม่เผาผีกันเลยทีเดียว อย่างไรก็ตามเรื่องเหล่านี้การ์ตูนต่างๆ ก็เอามาเป็นพล็อตใช้จนผุพังแล้ว

    ใครหวังจะแอ็คชั่น ดูแล้ว งง เหมือนยิงหินดำ เลิกคิดได้เลย  เซอร์วิวก็พอมีพองามแต่ไม่ถึงขั้นโชว์กลางกางเกงใน ประมาณนัตสึมินุ่งสั้นก็พอดูได้แล้ว โดยการ์ตูนจะสื่อถึงมิตรภาพของกลุ่มเพื่อน (แต่บ้านเรามันจิ้นเป็นยูริ) ที่มีมิตรภาพที่กำลังสั่นคลอน  นอกจากนี้ตอนท้ายเรื่องดันมีเรื่องเหนือธรรมชาติมาเกี่ยวข้องทำพให้สื่อถึงความมหัศจรรย์ฤดูร้อนให้ตกใจเล่นๆ  จนกลายเป็นการ์ตูนที่น่าสนดี

    สิ่งผมชอบ  Natsuiro Kiseki  เป็นการ์ตูนที่พล็อตไม่ได้แปลกใหม่อะไร มีดราม่าเล็กน้อย แต่ใครชอบคาแร็คเตอร์นั้นก็ดูสนุกได้ (และผมก็พยายามติดตามเพราะชอบคาแร็คเตอร์ของนัตสึมิ) หากใครไม่ชอบพวกดำเนินเรื่องแบบเฉื่อยๆ เรียบง่าย ก็ผ่านไปเถอะ

     

    Nazo no Kanojo X


                   Nazo no Kanojo X เป็นการ์ตูนแนวรักใสๆ โรแมนติก (หรือเปล่า?) สร้างจากมังงะของอุเอชิบะ ริอิจิ เขียนตั้งแต่ปี 2006 ปัจจุบันไม่จบ แม้จะเป็นการ์ตูนแนวรักชายหญิง แต่แปลกนิดหน่อยตรงที่สิ่งที่เชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองคือน้ำเลาย

    การ์ตูนเปิดฉากเมื่อมังงะ เมื่อพระเอก "สีบากิ อากิระ"ทีได้พบสาวผมปกหน้าลึกลับคนหนึ่งชื่อ "อุราเบะ มิโคโตะ"นักเรียนใหม่ที่เข้ามาเรียนในชั้นเรียนเดียวกับเขา (อีกทั้งยังนั่งข้างๆ เขาอีก) โดยเธอมักทำตัวเพี้ยนๆ กล่าวคือช่วงพักเธอมักจะหลับคาโต๊ะ หรือจู่ๆ ก็ระเบิดเสียงหัวเราะแบบลั่นห้องทั้งๆ ที่กำลังอยู่ในห้องเรียน จนหลายๆ คนพยายามตีห่างจากเธอและคิดว่าเธอ "เพี้ยน"

    ตอนแรกอากิระก็ไม่ได้มีอะไรกับมิโคโตะหรอก หากแต่เย็นวันหนึ่ง เขาก็พบเธอหลับบนโต๊ะ ระหว่างปลุกเขาก็พบใบหน้าที่อยู่ภายใต้ผมปกนั้น กลับเป็นสาวน่ารักที่คาดไม่ถึง หลังเธอจากไป เขาก็พบน้ำลายเธอหกบนระหว่างที่นอน จู่ๆ เขาก็ทำสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิด เมื่อเขาชิมน้ำลายนั้น จนทำให้เขามีอาการประหลาด สุดท้ายมิโคโตะก็มาแก้ปัญหาด้วยการให้เขาชิมน้ำลายของเธอทุกเย็น และทั้งสองก็เริ่มคบหากันอย่างลับๆ ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับเธอก็เริ่มขึ้น

    Nazo no Kanojo X เป็นการ์ตูนที่ผมดูไปกินข้าวไป ก็ไม่ได้แหวะอะไรเท่ามังงะน่ะ ในมังงะนี้ลายเส้นจะดิบและบรรยากาศลึกลับ ภาพที่แลกเปลี่ยนน้ำลายกันนี้แหวะใช้ได้ หากแต่ภาพอนิเมะที่สื่อออกมาไม่ได้ทำให้มันน่าสะอิดสะเอียน เพราะสื่อให้เห็นน้ำหวานของผีเสื้ออะไรประมาณนี้มากกว่า

    ที่จริงมังงะนี้ผมก็ไม่ได้ดูสักเท่าไหร่ (เพราะมันไม่ฮาเร็ม) แต่ยอมรับว่ามิโคโตะน่ารักดี และเมื่อได้ดูอนิเมะเรื่องนี้แล้วก็พบว่าหนูมิโตะน่ารักมาก ....โฮก พระเอกมันก็แมน เท่มากเว้ย!!ฉีกรูปถ่ายผู้หญิงออกชอบข้างเดียวเนี้ย (ก็หนูมิโคโตะน่ารักนี้หว่า มีเธอก็ไม่ต้องเอาอะไรแล้ว) แม้หนูมิโคโตะชอบน้ำลายยืดก็เถอะ แต่กรูชอบของแปลกเว้ย มาเป็นแฟนฉันเถอะ!!

    ในด้านเสียงพากย์ใครคิดว่าเสียงนางเอกออกแนวสาวน้อยลึกลับนี้ ขอแสดงความเสียใจด้วยครับ เพราะโทนเสียงของเธอจะออกมาแนวทุ่มๆ ออกทอมบอยนิดๆ หน่อย เพราะนิสัยคุณเธอเป็นแบบนี้อยู่แล้ว (ว่าแต่ตอนแรกไม่มีกรรไกรในแพนตี้เหรอครับ) ดูอนิเมะเรื่องนี้อยากกับไปโหลดมังงะเกือบอีกรอบจัง

    บรรยากาศและเสียงประกอบของอนิเมะเรื่องนี้จะออกแนวพิศวง ลึกลับครับ  เพลงประกอบรู้จังหวะ บางฉากมีรายละเอียดแปลกๆ เข้ามา เช่นฉากที่พระเอกและนางเอกเต้นรำด้วยกันในเมืองแปลกทำได้ดีอย่างน่าชื่นชม หรือสิ่งที่สอดแทรกฉากในห้องพระเอกเป็นโปสเตอร์หนังไซไฟเรื่องหนึ่ง(เรื่องอะไรไปดูเอง), พ่วงกุญแจรูปยูเอฟโอในดินสอกดของนางเอก สอดแทรกสัญลักษณ์เข้าไปประกอบ แต่ไม่ถึงขั้นซับซ้อนซ่อนเงื่อน จนไม่เชื่อเลยว่าเป็นผลงานของสตูดิโอ Hoods Entertainment

    แม้เนื้อหาค่อนข้างตรงกับมังงะ แต่ได้ความสวยและบรรยากาศเข้ามา ทำให้ผมพบว่าเป็นการ์ตูนได้ความแปลกพอสมควร ส่วนข้อคิดของการ์ตูนอาจไม่เหมาะสำหรับเด็กมากนักเพราะเป็นเรื่องเพศสัญลักษณ์ที่ต้องตีความ เอาเป็นว่าใครชอบดูอนิเมะแปลกๆ เรื่องนี้ไม่ผิดหวังครับ

    สิ่งที่ผมชอบ ชอบนางเอก จบข่าว!!

     

    บทความนี้ยังจะจบก็ต่อเมื่อผมได้ดู Hyouka และ AKB0048  ซึ่งทั้งสองเรื่องจะอย่างวันที่ 22 และ29 เมษายน

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×