ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ดูการ์ตูนอย่างแมว ๆ

    ลำดับตอนที่ #263 : ที่สุดของ Anime แห่งปี 2013 by Cammy

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 5.74K
      0
      31 ธ.ค. 56

    ความจริงแล้วยังอีกหลายวันจะถึงช่วงสิ้นปี และอนิเมะซีซั่นนี้หลายเรื่องยังไม่จบ แต่ที่เขียนเพราะว่าเนื้อหาค่อนข้างยาวพอสมควร  เลยเขียนเอาไว้ก่อน

                    แน่นอนว่าช่วงนี้ก็เริ่มมีการสรุปภาพรวมของปีนี้แล้วว่าเป็นยังไงบ้าง อย่างไม่นานก็มีการประกาศ บุคคลแห่งปี จากนิตยสารไทม์ นั้นคือ โป๊ปฟรานซีสส่วนบ้านเราก็เริ่มมีการพูดถึง แห่งปี ในเรื่องต่างๆ ไม่ว่า กีฬา การเมือง  เหตุการณ์ในต่างประเทศบ้างแล้ว

                    แน่นอนว่าในวงการการ์ตูนก็เริ่มมีการพูดถึง มีการให้โหวตแล้วว่า อนิเมะไหนสมควรเป็นอนิเมะที่ดีแห่งปี การจัดอันดับตัวละครอื่นๆ ก็มีให้เห็นหลายเว็บ ซึ่งวันส่งท้ายปีก็คงได้เห็นว่า ตัวละครที่ได้รับความนิยมแห่งปี และอนิเมะที่ดีแห่งปี มีเรื่องอะไรบ้าง

                    แน่นอนว่าการจัด ดีที่สุดแห่งปี นอกเหนือจากความคิดเห็นคนส่วนมากแล้ว ยังมีความคิดเห็นรายบุคคลด้วย ซึ่งคนที่วิจารณ์การ์ตูนบางเราตามบอร์ดต่างๆ ก็เริ่มออกมาพูดถึงการ์ตูนที่ตนชอบที่ผ่านมาแห่งปีแล้วว่า พวกเขาชอบเรื่องอะไร ชอบเรื่องอะไรบ้าง ซึ่งส่วนมากเหตุผลที่คนนั้นชอบก็ขึ้นอยู่กับรสนิยม เนื้อหาที่ทำออกมานั้นโดนใจมากขนาดไหน ฯลฯ

                    แน่นอนว่ารวมถึงผมด้วย ที่น่าจะออกมาพูดถึงอนิเมะและมังงะประจำปีสักหน่อย เพราะมีอะไรมากมายให้พูดถึงเหมือนกันใน ฐานะเขียนบทความบ่นเรื่องการ์ตูนในช่วงปีที่ผ่านมา

                    ก่อนอื่นขอพูดเรื่องอนิเมะประจำปี 2013 ก่อน สำหรับปีนี้มีอนิเมะหลายเรื่องมาก ดังที่เห็นในรายชื่อในวิกิพีเดียด้านล่าง (รายชื่อไม่ได้รวม อนิเมะที่เป็นภาพยนตร์จอเงิน และยังมีอนิเมะอีกหลายเรื่องที่ไม่ได้อยู่ในวิกีพีเดีย และไม่รวมอนิเมะซีรีย์ยาวๆ อย่าง โคนัน, วัชพีช เป็นต้น

                    http://en.wikipedia.org/wiki/Category:2013_anime_television_series

                    สำหรับภาพรวมอนิเมะปีนี้  ตามความคิดของผมล่ะกัน แม้ว่าซีซั่นนี้จะมีความหลากหลายก็จริง แต่อนิเมะที่ดังๆ ยังคงตามความคิดที่ผมคิดเอาไว้คือ นี่คือยุคขายคาแร็คเตอร์ เรื่องไหนมีคาแร็คเตอร์ดีนำชัยไปกว่าครึ่ง  ไม่เชื่อลองไปดูบอร์ดกระทู้ในเว็บดังๆ ของไทยดู เพราะพวกเขามักพูดถึงความอวยตัวละคร มากกว่าการดำเนินเรื่องโดยภาพรวมเสียอีก  เป็นต้นว่า น่ารักสาด นี้สินางเอก  ขอมดำดิน

                    เรามักพูดเสมอว่าอนิเมะสมัยนี้ขายแต่พวกโอตากุ แต่อนิจจาคน ทันทีที่คุณชอบตัวละคร ชอบตัวละครมากกว่าดูที่เนื้อเรื่อง นั้นแหละคือ ยุคขายคาแร็คเตอร์ แล้ว

                    ปวดหัวครับ การเอาอะไรไปเปรียบเทียบสมัยนี้กับสมัยก่อนเป็นยังไง แขวะเรื่องนี้ดี หรือขายโอตากุ ก็ยังคงเป็นสิ่งที่ไทยเรายังคงอยู่ เพราะแบบนี้แหละทำให้คนมองอีกว่าการ์ตูนเป็นเรื่องของเด็ก ดังนั้นดูการ์ตูนอย่าไปฟังเสียงเหล่านี้ หากคุณชอบอะไรก็ชอบไปเลย โดยไม่จำเป็นต้องฟังเสียงรอบข้า อย่าเอากระแสมาวัดในการดูการ์ตูนเรื่องนั้น พยายามสนุกไปการ์ตูนเรื่องนั้นจะดีกว่า

                    กลับมาพูดถึงอนิเมะปี 2013 หลายคนอาจไม่สังเกต ในขณะที่ไททัน หรือเรื่อง Kill la Kill ดัง แต่มีการ์ตูนอีกประเภทหนึ่งกำลังดังมาอย่างเงียบๆ  นั้นคือ แนวไอดอล บ้านเราอาจมองว่าเป็นการ์ตูนขายพวกโอตากุ แต่ขอโทษครับโอตากุก็ช่างหัวมันสิ เพราะแนวแบบนี้ได้รับความนิยมมากที่ญี่ปุ่น อย่างเรื่อง ไอดอลโรงเรียน (Love Live!) พร้อมกับการกำเนิดคู่จิ้นทวินเทลกับหัวแดงจนสายมืดเอามาเล่นอย่างเมามัน (ทั้งๆ ที่ทั้งสองไม่ใช่นางเอกหรือตัวหลักด้วยซ้ำ)

                    แม้ว่าปีนี้จะไม่มีอนิเมะเรื่องไหน โด่งดังตูมตามเทียบเท่าพระแม่มาโดกะ  (ไททันสำหรับผมแล้วยังขาดอะไรบางอย่างที่ยังไม่ได้เป็น ตำนาน) แต่กระนั้นเราก็ได้เห็นความหลากหลายของแนวการ์ตูน รวมไปถึงกระแสของการ์ตูน ว่าเรื่องไหนได้รับความนิยม เรื่องไหนท่าดีทีเหลว เรื่องไหนห่วยแตกตั้งแต่ต้นจนจบ เรื่องไหนเซ็งจิต  รวมไปถึงเรื่องที่ตกตะลึงกันไปทั่ว ซึ่งเราก็ได้เห็นแล้ว

                    ส่วนทางด้านผม ผมก็ขออกตัวมาที่นี้ว่า ผมชอบแนวฮาเร็มเป็นชีวิตจิตใจ  จนถึงตอนนี้ผมยังคงยืนยันคำเดิม ต่อให้อนิเมะรเองไหนดังโครตๆ แต่ถ้าเคมีไม่เข้ากันกับผม ก็ไม่ชายตามองแม้แต่น้อย

                    สำหรับซีซั่นนี้ผมดูอนิเมะน้อยกว่าปีที่แล้ว อนิเมะแนวฮาเร็มที่ชอบดันไม่ค่อยมีเลย แถมพวกซีรีย์ดังๆ ผมก็ไม่ค่อยปลื้มาสักเท่าไหร่ ซึ่งสิ่งที่ผมเขียนบทความนี้อาจไม่ถูกใจหลายคนแน่นอน

     

    หนาวนี้ปลิงดิ้น!! ดราม่าอนิเมะประจำประเทศไทย ที่ไม่เหมือนที่ไหนๆ  สมัยก่อนนี้อาจไม่ค่อยมีเพราะสมัยนั้นวงการลิขสิทธิ์อนิเมะยังคงแคบๆ อีกทั้งลิขสิทธิ์อนิเมะส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องเก่าๆ ที่จบไปนานแล้ว อีกทั้งไม่ค่อยดัง หากแต่สมัยนี้เป็นยุคตื่นตัวอนิเมะมากขึ้น ข่าวสารทันใจ การพัฒนาของอินเทอร์เน็ตทำให้เราได้ดูอนิเมะใหม่ๆ ได้ทันใจมากขึ้น สิ่งเหล่านี้เป็นที่มาของดราม่า ปลิง

    ทุกครั้งที่มีไทก้าหรือโรส (ผู้จำหน่ายอนิเมะลิขสิทธิ์ดังของไทย) ประกาศลิขสิทธิ์อนิเมะใหม่ที่ไร จะต้องมีคนออกมาโวยวายหลายราย เพราะอนิเมะที่ประกาศไปนั้นส่วนมากเป็นอนิเมะที่พึ่งฉายในซีซั่นนั้นๆ ออกเพียงไม่กี่ตอนไทยก็ประกาศลิขสิทธิ์ แบบทันใจ ดูเหมือนเป็นเรื่องดีเพราะเหมือนไทยเราใส่ใจลิขสิทธิ์มากขึ้น แต่สำหรับหลายคนแล้วถือว่าเซ็งสุดขีด  เพราะอนิเมะที่ลิขสิทธิ์ส่วนมากเป็นเรื่องดัง คนดูกันเยอะ และเป็นเรื่องที่มีการทำแฟนซับออกมา และเมื่อมีการประกาศออกมา แฟนซับก็ต้องยุติลงตอนใหม่ ไม่งั้นจะผิดกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์ ส่วนคนที่ดูแฟนซับเรื่องนั้นเพราะดูแล้วไม่เสียเงินแถมยังรวดเร็วทันใจต่างเซ็งสุดขีด เพราะหากจะดูต้องไปดูซับอังกฤษ (ซึ่งอ่านอังกฤษไม่ออก) หรือต้องเสียเงินซื้อแผ่นเอา แต่ปัญหาคือ แผ่นลิขสิทธิ์ออกมานานมากกว่าจะออกนานบรม (อนิเมะที่ลิขสิทธิ์มันจบนานแล้ว ทีประกาศลิขสิทธิ์นี้ไว แต่กว่าลิขสิทธ์จะวางขายนี้มันก็หมดแรงที่จะดูแล้ว) หรือคุณภาพกล่องแผ่นลิขสิทธิ์ที่แสนจะไม่ได้เรื่อง ไปจนเสียงพากย์ที่ไม่ปลื้มอย่างแรง ฯลฯ

     

    อนิเมะที่ชอบแห่งปี (1) Vividred Operation


                ผมยกให้ Vividred Operation เป็นอนิเมะที่ผมชอบแห่งปี ทั้งๆ ที่เนื้อหาอนิเมะสูตรสำเร็จ ตัวละครออกแบบก็สูตรสำเร็จ การดำเนินเรื่องก็เดาเรื่องได้ตลอดต้นจนจบ ไม่มีพลิกล็อก และไม่ได้สร้างความแปลกใหม่อะไร กลับทำให้คนแก่อายุ 31 ปี (พึ่งอายุ 31 ปีเมื่อ 5 ธันวาคมที่ผ่านมา) ชอบมากขนาดนี้ เพราะอนิเมะเรื่องใส่สิ่งที่เอาใจคนดู รู้ว่ากลุ่มไหนชอบอนิเมะประเภทนี้ ต้องการอะไร อยากเห็นอะไร เรื่องนี้เลยจัดเพื่อเอาใจโดยเฉพาะ ผลคือประสบความสำเร็จอย่างที่ตั้งใจเอาไว้  สูตรง่ายๆ แต่ประสบความสำเร็จเกินคาด

    Vividred Operation เป็นเรื่องราวของสี่สาวปกป้องโลกจากมนุษย์ต่างดาวที่นำโดยเด็กสาวจากต่างมิติ พล็อตที่พบเห็นโดยทั่วไปในการ์ตูนแนวสาวน้อยเวทมนตร์ต่อสู้เหล่าร้าย หากแต่สิ่งที่ผมชอบกลับไม่ใช่เนื้อหาของมัน กลับเป็นองค์ประกอบยิบย่อยที่ใส่มาตลอดในอนิเมะนั้นคือฉากเซอร์วิสที่ทำให้ผมหื่นตลอดเวลา การกลับมาของบลูเมอร์ กางเกงขาสั้นที่แสนจะโมเอะเมื่อเห็น อีกทั้งการจิ้นวายนางเอกหัวแดงกับสาวๆ  และฉากสุดท้ายปักธงหัวม่วงได้อย่างเมามัน และการจบแสนประทับใจ  สิ่งเหล่านี้ทำให้เรื่องนี้อยู่ในใจผมแห่งปีโดยบริยาย และอนิเมะเรื่องนี้แสดงให้เห็นว่า ยุคขายคาแร็คเตอร์ มันต้องแบบนี้แหละถึงจะประสบความสำเร็จ

     

    อนิเมะที่ชอบแห่งปี (2) Hataraku Maou-sama!


                  จอมมารพาร์ท ไทม์! หรือจอมมารตกอับ อะไรก็เรียกตามใจของคนดูเถอะ เรื่องราวของจอมมารที่หนีมายังญี่ปุ่นปัจจุบันและทำงานเป็นพนักงานร้านแม็กโดนัลด์ เป็นอนิเมะที่สร้างจากไลท์โนเวลที่ดีเกินคาด ยอมรับเลยว่าตอนแรกไม่คิดจะชายตามองด้วยซ้ำ หากแต่เมื่อดูตอนแรกความฮ่าก็บังเกิด (ด้วยภาษาบ้าบออะไรก็ไม่รู้ ทั้งๆ ที่ฉากมันไม่ฮ่าสักหน่อย) พล็อตจอมมารกลับใจกำลังเป็นที่นิยมในปัจจุบัน

    เรื่องนี้เป็นอนิเมะอีกเรื่องที่ลิขสิทธิ์บ้านเราเร็วเพียงแค่ฉายในญี่ปุ่น 1 ตอนก็ประกาศลิขสิทธิ์แล้ว ปลิงเลยดิ้นเป็นธรรมดา  สิ่งที่ผมชอบอนิเมะเรื่องนี้คือการเล่าเรื่องไม่ตัดทอนจากไลท์โนเวลมากนัก พร้อมกับความน่าติดตามเรื่องของจอมมารว่าตกลงแล้วจอมมารคนนี้เป็นคนเลวจริงหรือไม่?  แต่จุดเด่นที่สุดคือมุกตลกที่ถูกที่ถูกเวลา ทำได้อย่างฮ่า โดยเฉพาะฉากที่นางเอกผู้กล้ากำลังโกรธแค้นจอมมารในเรื่องทำลายบ้านเกิดของตน กำลังดราม่าอยู่ดีๆ มาขัดจังหวะรุ่นน้องนมโตโผล่มาเห็นเข้าพอดี กลายเป็นดราม่าใหม่ซะงั้น จังหวะนี้ผมฮ่ากากๆ จริงพับผ่า

    ตัวละครเรื่องนี้ผมชอบนักบวชน่ะ น่ารักดี เห็นว่าไลท์โนเวล เริ่มหลงรักจอมมารแล้ว และเท่าที่อ่านสปอยจอมมารประกาศด้วยว่าจะฮ่าเร็ม อันนี้ไม่รู้จริงหรือเปล่า

     

    อนิเมะที่ชอบแห่งปี (3) Shingeki no Kyojin

     
                ใครจะคิดล่ะว่ามังงะที่ตอนแรกแทบไม่มีใครสนใจ แถมลายเส้นแสนจะครึ่งกลางๆ จะกลายเป็นอนิเมะดังแห่งปี 2013 ที่ดังทั้งในญี่ปุ่นและไทย จนมีการทำฟิค ทำคลิปล้อเลียน โดจิน ไปจนถึงภาพยนตร์จอเงินที่จะฉายในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าตามมา

    เรื่องราวของมนุษย์ชาติที่ต่อกรกับ ไททัน สิ่งมีชิวีตปริศนาที่มนุษย์ธรรมดายากที่จะกำจัดมัน หากแต่เพราะปรากฏตัวของ เอเลน มนุษย์ที่แปลงร่างเป็นไททันได้ทำให้ทิศทางของมนุษย์ชาติต้องเปลี่ยนไป พล็อตโหลๆ แต่เนื้อหาตื่นเต้น เร้าใจ และอลังการ ไม่ต้องแปลกใจเลยว่าทำไมถึงดัง  อนิเมะนั้นทำออกมาดีกว่าต้นฉบับมาก ขนาดผมดูมังงะมาก่อนหน้านี้แล้วก็ยังติดตามตั้งแต่ต้นจนจบ เสียงเพลงที่แสนติดหู การต่อสู้ที่มันระเบิด การแสดงให้เห็นถึงคนธรรมดากลายเป็นคนสำคัญต่อมวลมนุษย์ชาตินั้นเป็นอะไรที่น่าดูจริงๆ  พร้อมกับนางเอกอันโด่งดัง มิคาสะ ทั้งสวยเก่งโมเอะ (และซิคแพค)  ดีกรีเป็นเพื่อนสมัยเด็ก (เป็นพี่สาวบุญธรรมของเอเรน) ที่เก่งที่สุดในประวัติศาสตร์ของมวลมนุษย์ชาติ ยอมเป็นศัตรูกับคนทั้งโลกเพื่อป้องกันพระเอกที่แสนกากไม่เจียมตัวคนเดียว เป็นอะไรที่หลายคนอวยมาก

    หลายคนบอกว่าเรื่องนี้แหละจะเป็นการ์ตูนในตำนาน แต่ความคิดเห็นผมแล้วเรื่องนี้ ยัง เพราะยังขาดปัจจัยหลายอย่างที่จะเรียกว่าตำนานได้ ไม่ว่าจะเป็นฉากที่น่าจดจำ มุก และที่สำคัญตอนจบที่จะสามารถทำตรึงตาตรงใจหรือเปล่า อันนี้ต้องติดตามต่อไป

     

    อนิเมะที่ชอบแห่งปี (4) Log Horizon


               Log Horizon เป็นอนิเมะที่ทำให้ผมกลับมาศรัทธาแนวเกมออนไลน์อีกครั้ง เพราะอนิเมะนี้ใส่สิ่งที่ผมอยากเห็นในเกมออนไลน์มากที่สุด (แต่สิ่งที่ขาดไปคือ ฮาเร็ม) เรื่องราวของเหล่าเกมเมอร์ร่วม 30,000 ชีวิต เกิดเข้าไปติดในโลกของเกมออนไลน์ Elder Tales โดยไม่ทราบสาเหตุ ซึ่งหนึ่งในนั้นมีเป็นเด็กหนุ่ม   ชิโรเอะหนึ่งในผู้โชคร้ายที่ติดในเกมนี้ด้วย ซึ่งเขากลับพวกๆ จำเป็นต้องเรียนรู้เอาตัวรอดในโลกแห่งนี้

    ยอมรับเลยว่าถ้าไม่มีนักฆ่าเตี้ยแบนผมคงไม่ติดตามเรื่องนี้เป็นแน่แท้ และเมื่อดูตอนแรกก็ติดตามจนกลายเป็นเรื่องที่ตั้งหน้าตาคอยต่อสัปดาห์ ว่าเมื่อไหร่ตอนใหม่จะออก ความลับของโลกใบนี้เป็นอย่างไร มันจะดราม่าขนาดไหน  เนื้อหานำสิ่งที่เรียกว่านี้แหละเกมออนไลน์ทำให้เรื่องนี้ดังพอสมควรในญี่ปุ่น เห็นได้จากเริ่มมีมังงะหลายบทออกมาให้เห็นแล้ว แม้อนิเมะจะมีศัพท์เกมออนไลน์หลายคำที่ งง แต่นั้นก็ไม่ได้ทำให้การดูอนิเมะเรื่องนี้หมดความสนุกแต่อย่างใด

     

    อนิเมะที่ชอบแห่งปี (5) Non Non Biyori


                   Non Non Biyori อาจเป็นการ์ตูนโมเอะธรรมดาที่ไม่แปลกใหม่ ดูเหมือนจะเงียบๆ แต่ความจริงแล้วยอดขายวีดีซี บลูเรย์ไม่ได้เงียบเลย แถมประสบความสำเร็จด้วยซ้ำ  แม้เนื้อหาก็ยังคงเป็นแนวการ์ตูนที่ใช้ชีวิตประจำวันไปวันๆ ไปโรงเรียน ทำกิจกรรม กลับบ้าน เน้นมิตรภาพตัวละคร (ซึ่งส่วนมากเป็นผู้หญิง) หลายคนแขวะว่าเป็นการ์ตูนขายตัวละครหญิงโมเอะ

    ก็ถูกแหละมันเป็นการ์ตูนขายโมเอะจริงๆ ตามที่แขวะแหละ แต่อนิจจา ผมกลับไม่สามารถละเลยสายตากับมันได้ เพราะตัวละครหญิงน่ารักจริงๆ พับผ่า ไม่ว่าจะเป็นโอตารุ หรือโคมาริ หรือแม้แต่เร็นเงะที่ตอนแรกไม่ได้อวยเลย แต่มาตอนที่ 10 นี้โหด...น่ารัก พร้อมบรรยากาศบ้านนอก ที่แฝงไปด้วยความสงบและเงียบเหงา โทนของการ์ตูนเหมาะทุกวัย  เหมาะกับการลดความเครียด จรรโลงจิตใจได้ เวลาเจออะไรหนักๆ มาดูการ์ตูนเรื่องแนวนี้ก็ช่วยได้ไม่มากก็ไม่น้อย ถือว่าเป็นอนิเมะดีอีกเรื่องของปี 2013 ก็ว่าได้

     

    เข็นไม่ขึ้นแห่งปี (1)  Aku no Hana (ยังไม่ทันเข็น ก็หมดแรง)


                 จากอวยอนิเมะมาดูเรื่องที่ผมอวยไม่ลงบ้าง สำหรับซีซั่นนี้มีสองเรื่องสองแบบคือ อวยไม่ลงตั้งแต่ต้นจนจบ และอวยในตอนแรกแต่ครึ่งหลังอวยไม่ลง

    เริ่มจากดอกนรก Aku no Hana (ลิขสิทธิ์ไทยโดยวิบูลย์กิจ ในชื่อ “รักโรคจิต”) ยอมรับเลยว่าใครที่ดูอนิเมะเรื่องนี้จบ คุณเก่งมากเลย เพราะผมดูแค่ตอนเดียว และอวยไม่ลงพับผ่า

    ก่อนอื่นผมบอกว่าผมไม่ใช่แฟนการ์ตูนเรื่องนี้ มังงะซื้อมาก็ไม่ได้แตะ ซึ่งตอนอนิเมะเรื่องนี้ประกาศว่าจะสร้าง พร้อมเผยตัวอย่างภาพฉากหลังที่สวยมาก ผมก็วาจะดู และเขียนอวยสักหน่อย หากแต่เมื่อเปิดดูตอนแล้วผมตะลึงปากค้าง กลายเป็นฝันร้าย (เข้ากับชื่อจริงๆ ดอกนรก) ของใครหลายคนจนบัดนี้

    เรื่องราวของเด็กมัธยมปลายที่ถูกผู้หญิงโรคจิตซาดิสต์ปั่นหัว พล็อตเรื่องที่แสนกดดันที่ปัจจุบันการ์ตูนญี่ปุ่นไม่นิยมเอามาทำเป็นอนิเมะมากนัก มังงะนั้นได้รับความนิยมพอสมควร แต่อนิจาอนิเมะทำลายความคาดหวังหลายๆ คน (รวมถึงผม) เพราะแทนที่จะใช้ลายเส้นตัวละครมังงะที่แสนโมเอะ กลับใช้ เทคนิคพิเศษที่เรียกว่า rotoscope มาทำ ทำให้หน้าตัวละครไม่รับไม่ได้อย่างแรง โดยเฉพาะนางเอกของเรื่อง “นาคามูระ” ที่มังงะน่ารักโมเอะ ได้ในอนิเมะหน้าอย่างกับยัยตุ่มใส่แว่นไม่โมเอะ ดูแล้วอย่างฟันต้นคอราวกับมันคือไททัน ฉากนางรองใส่บลูเมอร์แทนที่จะมีอารมณ์กลายเป็นเสื่อมสภาพทางเพศผมเลยทีเดียว  นอกจากนี้ภาพเคลื่อนไหวที่ดูหงุดหงิด เพลงเปิดและเพลงปิดที่แสนจะปวดประสาท ทำให้ผมเมาและปวดหัวเป็นอย่างมาก

    อนิเมะได้กลายเป็นดราม่าพักหนึ่ง คนที่ไม่ชอบก็บอกว่าไม่โมเอะรับไม่ได้อย่างแรง ส่วนคนที่ดูต่อก็บอกว่าอย่าสนลายเส้นสิดูลายเส้นก็ได้ (แน่นอนว่าด่าว่าพวกโอตากุอีกต่างหาก) เถียงไปเถียงมา แม้ว่าเรตติ้งคนดูอาจจะไม่ได้เลวร้าย แต่ยอดขายบลูเรย์หรือวีซีดีก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง คงไม่ต้องบอกว่ายอดขายดีหรือเปล่า

     

    ไม่มีวาสนาที่จะดู kill la kill


                   แน่นอนว่าซีซั่นนี้มีอนิเมะหลายเรื่องที่ผมพลาดไป และไม่ได้ดู รวมไปถึงอนิเมะดังอย่างเรื่อง kill la kill ที่ผมไม่ได้ดูเลย ด้วยเหตุผลว่าเป็นอนิเมะของ “ที่งานสร้างกุเร็นรากัน” (อนิเมะเป็นของสตูดิโอ Trigger ที่ก่อตั้งโดยทีมงานเก่าของไกเน็กซ์)

    ไม่ใช่เพราะชุดยูนิฟอร์มที่แสนอุบาทลูกตา หรือไม่ใช่แนวฮาเร็มที่ผมชอบหรอก แต่เห็นคำว่าทีมงานสรค้างกุเร็นรากันนี้ ผมก็ไม่มีอะไรบรรยายแล้ว แถมเห็นคำว่าไกเน็กซ์ ผลงานก่อนๆ อย่างกุเร็นรากัน และแพนตี้กับสตรองกิ้ง ตอนจบทำเอาผมช็อกเซ็งอย่างบอกไม่ถูก kill la kill คงเจริญรอยตามรุ่นพี่เป็นแน่ ซึ่งผมก็ไม่อยากเจอฉากจบสไตล์ไกเน็กซ์สักเท่าไหร่ ผลคือไม่ได้ดูเรื่องนี้อย่างช่วยไม่ได้ เลยอยากถามคนที่มาอ่านบทความนี้และดูเรื่องนี้ว่า ไม่เข็ดตอนจบของไกเน็กซ์บ้างเหรอ?

     

     

                    เพลงแห่งปี


                ปีนี้มีเพลงเปิดและเพลงปิดอนิเมะที่ชอบหลายเพลง ส่วนใหญ่เป็นเพลงทำนองติดหู ฟังแล้วได้อารมณ์ความตื่นตัว เร้าใจ และแน่นอนว่าเพลงที่หลายคนชอบคงจะเป็นเพลงเปิดอนิเมะไททัน (ไม่ว่าจะเป็นเพลงเปิดตอนต้นซีรีย์และช่วงกลางซีรีย์) ร้องโดยวง
    Linked Horizon ไม่ว่าจะเป็นเพลงปิดShingeki no Kyojin OP 1 Guren no Yumiya หรือศรแห่งเพลิง และเพลง OP2 Jiyuu no Tsubasa ปีกแห่งเสรี โดยเฉพาะศรแห่งเพลิงนั้นฮิตมาก จนหลายคนเอาเพลงมาแซว เอามาล้อเลียน ได้อย่างฮ่า ฟังจนหูแฉะไปข้าง อย่างไรก็ตามส่วนตัวผมแล้วซีซั่นนี้มีหลายเพลงที่ชอบเยอะ ดังเห็นที่เห็นด้านล่าง

    เพลงเปิด Vividred Operation OP ENERGY ด้วยทำนองฟังแล้วสดชื่น สื่อถึงมิตรภาพ

    เพลงเปิด Haiyore! Nyaruko-san W ยังคงมาตรฐานเหมือนภาคเดิมๆ ฟังแล้วบ้าบอดี

    เพลงเปิด Date A Live ฟังแล้วเข้ากันดีกับฮาเร็มและการต่อสู้อลังการ

    เพลงปิด Devil Survivor 2 The Animation ให้อารมณ์ความหายนะ วันสิ้นโลกมาก

     


                    ขโมยซีนอย่างยอดเยี่ยม คูโกะ


                  สำหรับปีนี้ตัวละครหญิงที่ผมอวยนั้นมี 3 คน และทั้งสามคนก็เป็นนางรองหมด ไม่มีนางเอกตัวหลักเจือปนเลยแม้แต่น้อย จะว่าไปอนิเมะซีซั่นนี้ผมชอบเป็นตอนๆ มากกว่าที่จะชอบแบบภาพรวม เและปีนี้ผมไม่อวยตัวละครชายคนไหนเป็นพิเศษ

    แม้ว่า Haiyore! Nyaruko-san W เนียวรูโกะซีซั่นสองจะทำได้ไม่ดีเท่าภาคแรก แต่ภาคนี้ผมก็ได้เห็นสิ่งที่ตั้งใจเอาไว้ นั้นคือการปักธงคูโกะ หรือ คลูธกา นั้นเอง

    คูโกะผมยังคงชื่นชอบกับความเป็นสาวทวินเทนหื่น หน้าตาย (ไม่ใช่สาวคูลเดเระ แต่เป็นสาวยันเดเระ) และความรักที่มีต่อเนียวรูโกะจากซีซั่นแรก (เมื่อปี 2012) มาภาคนี้แม้บทบาทก็ยังคงเป็นนางรอง แต่กระนั้นภาคนี้กลับดูโดดเด่นยิ่งกว่าเนียวรูโกะของเรื่องอีก เพราะมาซีซั่นนี้มาฮิโระปักธงเนียวรูโกะอย่างเป็นทางการ โดยเรื่องของเรื่องคือมาฮิโระต้องจำใจมาแสดงเป็นคู่หมั่นของคูโกะเพื่อที่ไม่ให้คูโกะไปดูตัวกับมนุษย์ต่างดาวคนอื่นๆ และนั้นทำให้คูโกะเริ่มชอบมาฮิโระขึ้นมาจริงๆ จนประกาศว่าเธอเป็นไบ (ชอบทั้งเนียวรุโกะและมาฮิโระ) จนเรียกเรตติ้งจากคนดูมากโข

    อนิจจา ในขณะที่นางเอกเนียวรุโกะ พยายามที่จะเรียกเรตติ้งกลับคืนมา แถมทนไม่ได้ที่มาฮิโระสวิทกับคูโกะมากเกินไป ตอนกลางคืนและแอบย่องไปนั่งค่อนมาฮืโระถึงเตียงเลย แต่กลายเป็นว่าเรตติ้งรัศมีนางเอกดับวูบลงซะงั้น เรื่องนี้สอนให้รู้ว่านางเอกทีดีควรเป็นฝ่ายรับ ไม่ใช่ฝ่ายรุก!?

     

    เพียงตอนเดียวก็ขโมยซีนอย่างยอดเยี่ยม ซาระ รุคาว่า


                  ผมหวังอะไรกับอนิเมะ
    Da Capo III  ที่สร้างจากเกมจีบสาวเรื่องนี้ ก็หวังจะดูสุดยอดฮาเร็มของพระเอกน่ะสิ โอเคเลยเรื่องฮาเร็มเรื่องนี้ใช้ได้ มีรูทครบ (ขนาดสาวตัวประกอบยังมี) แต่อนิจจาขาดดราม่า และช่วงท้ายขอบอกว่าผมดูไม่รู้เรื่อง ดีที่ตอนจบพระเอกพูดกับเหล่าสาวๆ ว่าตนไม่สามารถเลือกใครได้ อยากให้เป็นเพื่อนตลอดไป ซึ่งเหล่าสาวๆ ก็ตอบรับด้วยความยินดี

    แม้เรื่อง Da Capo III   ค่อนข้างผิดหวังเรื่องการดำเนินเรื่อง แต่อย่างไรก็ตาม ในตอนที่ 5 ของอนิเมะเรื่องนี้ (ชื่อตอน “สถานที่ที่หนึ่งที่ไม่ได้อยู่ตามลำพัง”) ผมกลับดูหลายรอบอย่างโลกจิต เพราะเป็นรูทของรุ่นน้องทวินเทลผมน้ำเงินที่ชื่อ “ซาระ รุคาว่า”

    ซาระเป็นเพื่อนเดียวกับห้องพระเอก แต่อายุน้อยกว่า แต่เรียนข้ามหนึ่งปี ดังนั้นเธอจึงเรียกพระเอวก่ารุ่นพี่ เป็นเด็กอิจฉริยะ แต่ค่อนข้างปากไม่ค่อยเพราะเท่าไหร่ แต่แฝงด้วยความซึนนิดๆ

    สำหรับตอนนี้ประมาณว่าเป็นรูทซาระโดยเฉะพาะ (น่าเสียดายที่รูทดราม่าและปักธงรุ่นน้องทวิอนเทลนั้นอนิเมะไม่ได้นำเสนอ หากอยากดูต้องไปเล่นเกมหรือดูมังงะกันเอาเอง ซึ่งผมก็ไม่ได้ดูเหมือนกัน) ทั้งตอนได้เห็นรุ่งน้องทวินเทลผู้นี้อยู่ในชุดบลูเมอร์ (ชุดบลูเมอร์ถือว่าเป็นยุดยอดไอเท็มในตำนานที่จะทำให้สาวน้อยมีความโมเอะมากขึ้น) รวมถึงอีเวนท์ที่น่าอิจฉาไม่ว่าจะเป็นพระเอกกับรุ่นน้องถูกขังในห้องพละด้วยกัน ไปจนถึงการสอนรุ่นนเองเล่นซอฟท์บอล (ดูภาพบนสิมันน่าอิจฉาหรือเปล่า) และภาพรุ่นน้องทวินเทลนอนหลับใต้ต้นซากุระ น่ารักโครตเลยแหละ กลายเป็นหนึ่งในตัวละครขึ้นหิ้วของผมเป็นที่เรียบร้อย

     

    สุดยอดน้องสาว คาน่อน


                   ปีนี้อาจไม่ใช่ปีทองของเพื่อนสมัยเด็ก (ทั้งความเศร้าของโยโซระ, หัวส้มโดนด่า, ขอมดำดิน ฯลฯ ยังดีที่มีมิคาสะมาช่วยกู้สถานการณ์ไว้ได้)  แต่กระนั้นปีนี้มีน้องสาวสุดยอดมากอยู่ในใจผมสองคน คนแรกคือน้องสาวพระเอกจาก
    Inu to Hasami wa Tsukaiyou ที่นิสัยสุดยันเดเระ และเทพ (ในหลายๆ ความหมาย)  อย่างไรก็ตามสุดยอดน้องสาวผมกลับให้เธอ “คานอน”

     คานอนติดอยู่ในสุดยอดน้องสาวในใจผมเป็นที่เรียบร้อยๆ ทั้งๆ ที่คาแร็คเตอร์ของธอจะสูตรสำเร็จ เนื้อการูทของเธอก็ไม่ได้แปลกใหม่อะไร คล้ายๆ “มิยะ” น้องสาวใน “อาม่าฆ่าหมี” ด้วยซ้ำ แต่มันกลับทำให้ผมมีความรู้สึกว่านี้แหละคือน้องสาว!!

    แม้ว่า Photo Kano ไม่ใช่อนิเมะที่ดีเลิศเท่าไหร่นัก รูทสาวๆ ทำอย่างลวกๆ ซึ่งส่วนตัวผมเองก็ดูตอนที่ 1-5 แล้วดูรูทสาวที่ชอบ และตอนสุดท้าย (ตอนที่ 13) ก็คือเธอ “คานอน”

    บางคนบ่นตอนจบเรื่องนี้เป็นแถบๆ ว่าทำไมตอนจบนางเอกเป็นคานอนว่ะ แต่ผมไม่น่ะ เพราะปกติมันจบแบบรูทๆ อยู่แล้ว และตอนสุดท้ายก็สมดีที่จบกับน้องสาว เพราะเหมือนว่าสุดท้ายแล้วครอบครัวเป็นสิ่งสำคัญที่สุด คานอนเป็นน้องสาวของพระเอก เป็นน้องสาวที่แสนน่ารักชั้นมัธยมปลาย ปีที่ 1 ชมรมเทนนิส นิสัยร่าเริง เลยทำให้รู้จักสาวๆ ในฮาเร็มพระเอกหลายคน ในด้านคาแร็คเตอร์น้องสาวแบบสุดๆ นั้นคือรักพี่ชายมาก

    สำหรับเนื้อหาตอนสุดท้าย เนื้อหาก็ค้ำคอร์โครตๆ (จนใจผมละลายก็ว่าได้) ประมาณว่าวันหนึ่งพระเอกเริ่มมีความคิดกับคาน่อนว่าตอนนี้เขาไม่ได้มองคาน่อนเป็นน้องสาวของเขาอีกต่อไป หากแต่มองคาน่อนเป็นผู้หญิงคนหนึ่ง ยิ่งเขาขอน้องสาวเป็นแบบกล้องมากขึ้นเรื่อย เขาเริ่มหึ่งห่วงน้องสาว งอนน้องสาวที่คุยกับชายคนอื่น  (เป็นไม่กี่เรื่องที่น้องสาวต้องไปง้อพระเอกน่ะฮ่า) จากนั้นทั้งคู่ก็พูดคุยแลกเปลี่ยนความทรงจำกันและกัน (จนมารู้ว่าคาน่อนไม่ใช่น้องสาวแท้ๆ ของพระเอก) และแล้วพระเอกจะพูดกับคาน่อนว่า เธอเป็นคนที่น่ารักที่สุดในโลกสำหรับเขาและคาน่อนก็รู้สึกแบบนี้เช่นกัน ตอนจบเป็นวันที่คาน่อนสำเร็จการศึกษามัธยมปลายและเธอก็โผเข้ากอดพี่ชายเป็นอันจบอนิเมะโฟโต้คาน่อ (น) เอาไว้แต่เพียงเท่านั้น

     

    คู่รักแห่งปีโฮตารุXโคมะจัง


                  ปกติผมไม่นิยมจิ้นวาย ไม่ว่าจะเป็นยูริ หรือยาโอยเหมือนกัน ซึ่งสำหรับอนิเมะปีนี้มีการจิ้นคู่วายยูริและยาโอยหลายคู่ ทั้งๆ ที่เนื้อหาไม่ได้เน้นเรื่องเพศอะไรเลยแม้แต่น้อย แต่ด้วยคำพูด การแสดงออกของตัวละครก็อดไม่ได้ที่ทำให้คนดูรู้สึกจิ้นไม่ได้

                    ปีนี้พิเศษหน่อย เพราะมีคู่จิ้นคู่หนึ่งที่ผมอดชอบไม่ได้ นั้นคือคู่รัก โฮตารุกับโคมะจัง จาก Non Non Biyori ซึ่งถือว่าเป็นคู่จิ้นวายน่ารักแห่งก็ว่าได้

                    ความจริงมีการ์ตูนแนวตลกโมเอะหลายเรื่องในปีนี้ และแต่ล่ะเรื่องก็มีคู่วายหลายคู่เช่นกัน แต่กรณีคู่รักโฮตารุกับโคมะจังค่อนข้างโดดเด่นและมีเสน่ห์ค่อนข้างมากกว่าคู่อื่นๆ โดยโอตารุ หรือ “อิชิโจ โฮตารุ” เด็กสาวประถม 5 ที่โตเกินวัย คือดูเหมือนผู้ใหญ่สาวสวย (น่ารัก) ได้ย้ายมาอยู่บ้านนอก ที่นั้นเธอได้พบ “โคมะจัง” หรือ “โคชิกายะ โคมาริ” เด็กชั้นม.3 หากแต่โคมะจังนั้นรูปร่างไม่เหมือนสาวมัธยมเลยแม้แต่น้อย เพราะเธอตัวเล็กนิดเดียว และนิสัยบางครั้งก็เหมือนเด็กประถม (ต่างจากโอตารุที่นิสัยเหมือนผู้ใหญ่มากกว่าด้วยซ้ำ)

                    ตอนแรกๆ โฮตารุก็ชอบโคมะจังเพราะเป็นรุ่นพี่ ตอนหลังๆ โฮตารุได้เห็นว่ารุ่นพี่คนนี้ตัวเล็ก น่าลูบหัว หลังจากมองไปมองมา นานวันเข้าความรักของโฮตารุก็ก่อตัวขึ้นจนกลายเป็นอยากอุ้ม (??)  อยากกอดโคมะจัง  อยาก XXX  ทุกครั้งเมื่อมีโอกาสโอตารุต้องเข้าหาโคมะจัง (แค่อยู่ใกล้ๆ โฮตารุก็ดีใจมากแล้ว)  เวลาที่โคมะจังให้อะไรโอตารุจะดีใจมาก ซ้ำโอตารุยังทำตุ๊กตารูปโคมะจังจนเต็มห้อง แต่อนิจจาโคมะจังไม่รู้เลยแม้แต่น้อยว่าโฮตารุคิดอะไรอยู่ ตรงจุดนี้แหละคือความสนุกของเรื่องก็ว่าได้ และนอกจากนี้ผมชอบโฮตารุครับ

     

    ทำไมปีนี้ไม่มีตัวละครชายที่ชอบ

    ปีนี้ไม่มีตัวละครชายที่ผมถูกใจสักเท่าไหร่ สาเหตุเพราะหลายสิ่งที่พระเอกบอกว่าจะทำให้ได้แต่ปรากฏว่าผลคือมันทำไม่ได้แม้จะไม่ล้มเหลวจนถึงขั้นเลวร้ายก็เถอะ และฮาเร็มหลายเรื่องพระเอกหลายคนก็ไม่แสดงให้เห็นว่าเป็นเทพแห่งฮาเร็ม หรือความซาบซ่าเท่าไหร่ (พูดง่ายๆ หลายคนห่วยบรม) ที่ใกล้เคียงก็นาเอกิ จากโรงเรียนฆาตกร หากแต่ที่ไม่ติดเพราะพระเอกไม่ได้ทำตามสิ่งที่ตนตั้งใจเอาไว้คือ “ทุกคนต้องรอด” แต่ไปๆ มาๆ เพื่อนของนาเอกิก็เหลือไม่กี่คน (แถมคนที่แช่งให้ตายก็รอดเยอะอีกต่างหาก)

     

    ปีแห่งความซ้ำใจเพื่อนสมัยเด็ก


                     บางทีหลายคนอาจไม่ได้รู้สึกอะไร แต่พอดีผมเป็นพวกลัทธิอวยเพื่อนสมัยเด็กเป็นชีวิตจิตใจ แต่มาเจอเรื่องน่าเจ็บใจกับอนิเมะหลายเรื่องในเรื่องนี้ที่ทำหลักการเพื่อนสมัยเด็กพังทลาย ย่อยยับ และทำออกมาให้หลายคนด่าว่าเพื่อนสมัยเด็กของผม (ยอมรับว่าบ้านเราชอบสายนี้น้อยมาก บางทีคนที่ชอบอาจต้องอายุมากหน่อย และขาดแคลนความรัก ทำให้ได้เห็นสายนี้ดีเลิศเพียงใด)

     เริ่มจากชมรมไร้เพื่อน Boku wa Tomodachi ga Sukunai Next โยโซระ สุดยอดเพื่อนสมัยเด็กของผม บทก็แสนจะน้อย พอบทอวยก็ไม่ถึงใจเท่าไหร่ (อย่างไรก็ตาม หากมาดูอนิเมะพบว่าบทตัวละครทุกคนก็ไม่คุ้มค่าสักเท่าไหร่อยู่ดี) ตอนท้ายก็ร้องไห้ ออกเดินทางค้นหาตัวเองตามลำพังอีก ถือว่าเป็นการจบอนิเมะซีซั่นที่แย่เหลือเกินพับผ่า (ในไลท์โนเวลพบว่าโยโซระไปเจอโคบาโตะระหว่างทาง เลยมาอาศัยอยู่บนโคดากะ และโคดากะได้เห็นโยโซระเปลื่อย และผมขอบอกว่าฮาเร็มเรื่องไหน พระเอกที่เห็นตัวละครหญิงทุกคนเปลือยหมดจะจบฮาเร็มทุกเรื่องไป....)

    จากนั้นมาดูเรื่อง Ore no Kanojo to Osananajimi ga Shuraba Sugiru สงครามแฟนปลอมและเพื่อนสมัยเด็ก ทำไมคนด่าจิวะ ผมส้มเหลือเกิน เห็นคนด่าผมส้มแล้วรับไม่ค่อยได้ (ความจริงก็มีคนด่าหัวขาวเหมือนกัน แต่พอดีผมไม่เจอเม้นดังกล่าว....ฮ่า) หัวส้มผิดตรงไหน ตนเป็นเพื่อนสมัยเด็ก รักพระเอกมาตั้งนานแล้ว ที่ไม่อยากรุกเพราะกลัวพระเอกเกลียด พอจะรุกก็โดนคนว่า เอ่อ... คนรักจะไม่มีสิทธิรักได้เหรอ

    นอกจากนี้ หลายคนอาจไม่รู้สึก แต่ผมนี้จิ๊ดขึ้นสมอง อารมณ์ขึ้นสุดขีด หลังจากได้ดู Outbreak Company  กับฉากเพื่อนสมัยเด็กปฏิเสธรักพระเอกเพราะเป็นโอตากุ จนพระเอกกลายเป็นพวกเก็บตัว แม้เพื่อนสมัยเด็กคนนี้ออกมาฉากเดียว แถมเห็นแบบแวบเดียว แต่สมองผมก็เต็มไปด้วยคำถามว่าตกลงเพื่อนสมัยเด็กจริงดิ ทำไมทำร้ายจิตใจพระเอกขนาดนี้ (ปกติเห็นแต่พระเอกทำร้ายจิตใจเพื่อนสมัยเด็ก) แล้วตอนพระเอกกลายเป็นพวกเก็บตัว ไม่เห็นมาปลอบสักครั้ง หลังจากนั้นก็ไม่เห็นมีบท หรืออะไรให้กล่าวถึงสักประโยค แค่คำว่า “เพื่อนสมัยเด็ก” ตกลงแล้วมันเพื่อนสมัยเด็กจริงดิ ขอร้องเถอะคนเขียน เปลี่ยนจากเพื่อนสมัยเด็กเป็น “เพื่อนร่วมห้อง” ยังน่าจะประทับใจกว่าเสียอีก และนั้นทำให้ผมดูอนิเมะด้วยความอคติทันที

    อย่างไรก็ตาม ที่หนักสุดคือ  Kakumeiki Valvrave โชโกะหรือหลายคนขนามเธอว่า “ขอมดำดิน” ไม่ว่าจะเป็นบทน้อย ความรักซาบซ่าก็ไม่มี แถมยังทำร้ายจิตใจคนชอบเพื่อนสมัยเด็ก ทำลายกฎเพื่อนสมัยเด็กที่ว่า “เพื่อนสมัยเด็กต้องรับทุกอย่างที่พระเอกเป็น” อาเระมงกุฏบาปที่ว่ารับไม่ได้แล้ว มาเจอโชโกะยิ่งแย่เข้าไปใหญ่ อย่างไรก็ตามหากมองอีกมุมโชโกะที่ผมแบบนี้เพื่อส่วนร่วม หน้าที่ การงาน แต่สอบตกความเป็นเพื่อนสมัยเด็กอย่างร้ายกาจ ซึ่งตอนที่เขียนอยู่นั้นยังไม่รู้ว่าบทสรุปจะเป็นอย่างไร แต่ที่แน่ๆ ซีซั่นนี้เป็นปีที่คนรักเพื่อนสมัยเด็กเจ็บปวดสิ้นดี (ไม่นับนานามิจากน้องสาวไม่น่ารักน่ะนั้น)

     

    ตายแห่งปี ไมโซโนะ ซายากะ


                  ทำไมไมโซโนะ จาก
    Danganronpa ตัวละครที่ออกมาไม่กี่ตอนและตายก่อนเพื่อน ถึงติดอันดับตายแห่งปี ในใจผม เพราะการตายของไมโซโนะนำมาซึ่งเรื่องดีและเรื่องเลวร้ายในเวลาเดียวกัน เลวร้ายคือเป็นจุดเริ่มต้นของเกมฆาตกรทำลายมิตรภาพของเพื่อนๆ ที่แสนน่าเศร้าในเวลาต่อมา แต่ในอีกแง่หนึ่งการตายของไมโซโนะกลับเป็นการพัฒนาจิตใจให้แก่พระเอกนาเอกิเติบโตขึ้น

    การตายของไมโซโนะหลายคนอาจไม่ได้สนใจนัก แต่หากมองดีๆ นี่คือคำตอบว่าจะทำอย่างไรให้เราเกิดความผูกพันตัวละคร และจะทำอย่างไรให้ตัวละครตายแล้วจดจำ คำตอบคือ การออกแบบ ความสัมพันธ์อดีตที่แสนจดจำระหว่างเธอและพระเอก การตายที่แสนโหดร้าย รวมไปถึงอารมณ์มากมายๆ ไม่ว่าจะเป็น ความโกรธ ความแค้น การทรยศและการหักหลัง การบีบบังคับ ทั้งหมดนี่คือไมโซโนะ ตัวละครที่ดูเหมือนธรรมดาแต่ไม่ธรรมดา ซึ่งเรื่องราวของเธอผมเขียนเอาไว้ในบทความหนึ่งเต็มๆ การตายของเธอ หลายคนถึงขั้นแต่โดจินอวยเธอโดยเฉพาะ ถือว่าเป็นตัวละครบทสั้นๆ แต่กระแสดีอีกคนหนึ่งเลยก็ว่าได้

     

    ตายแย่แห่งปี (บทเรียนแห่งปี การตายของตัวละครใช่ว่าจะทำให้เนื้อเรื่องน่าติดตามเสมอไป)


                    ในระหว่างมังงะ
    Gokukoku no Brynhildr และ Sora no Otoshimono ตอนล่าสุดนั้นมันแสนปวดตับสิ้นดีกับตัวละครที่ผมทั้งอวยและผูกพันกันมาอย่างยาวนาน  แต่พอมาดูการตายตัวละครของ Kakumeiki Valvrave กลับทำให้ความรู้สึกผมดับวูบ ลดความน่าสนใจลง เกิดความรู้สึกเซ็งอย่างบอกไม่ถูก (Gokukoku no Brynhildr ก็หวังลึกๆ ว่าอาจมีการคืนชีพ ส่วน  Sora no Otoshimono ไม่ต้องห่วงคืนชีพแน่นอน)

    ปกติแล้ววัตถุประสงค์การตายของตัวละครนั้น ไม่ว่าจะส่งผลดีหรือร้ายต่อเนื้อเรื่อง แต่หลักๆ แล้วการทำให้ตัวละครหลัก (พระเอก นางเอก หรือพวกพระเอก) เติบโตมีการพัฒนาจิตใจมากขึ้น (หากเลวร้ายคือตกสู่ด้านมืด ก่อนที่จะกลับมาด้านสว่างเติบโตเป็นคนใหม่อีกครั้ง) และบางครั้งการตายของตัวละครหลักจะช่วยดึงเรื่องน่าสนใจขึ้นน่าติดตามขึ้นว่าต่อไปจะเป็นอย่างไรจะจบอย่างไร ทุกคนจะมีความสุขหรือเปล่า

     แน่นอนการตายตัวละคร ที่เป็นตัวละครหลักนั้น ควรต้องทำให้ตัวละครนั้นมีความผูกพันคนดูเสียก่อน หากไม่ฉะนั้นแล้วต่อให้ตัวละครตาย คนดูจะไม่เกิดความรู้สึกอะไรเลยแม้แต่น้อย ก็แค่ตัวละครแบนๆ คนหนึ่งตายเท่านั้น อย่างการตายตัวละครของ Kakumeiki Valvrave ในซีซั่นสอง ผทให้ล้มเหลว (พอๆ กับการตายของฮาเระในมงกุฏบาป)  แทนที่ตัวละครตายจะทำให้เนื้อหาน่าติดตามหรือสร้างความน่าตื่นเต้นขึ้นกลับตรงกันข้าม หลายคนกลับเซ็ง ปลงชีวิต (อะไรก็มาเถอะประมาณนี้) เรตติ้งวูบลง....... (ดูจากจอดยองบลูเรย์และวีซีดีหลังผ่านมาได้ 7 สัปดาห์ อาจไม่ได้เลวร้ายมากนัก แต่กระแสไม่ดีเท่าซีซั่นแรกและเทียบกับอนิเมะเรื่องอื่นๆ ถือว่าแพ้อยู่ดี)

    ไล่ตั้งแต่น้องแว่นซีซั่นแรกไม่เท่าไหร่ เพราะการตายของน้องแว่นนำมาซึ่งแรงขับของแต่ละคน มาซีซั่นสอง ซันไลท์ (น้ำยาล้างจานกำจัดคราบจนสะอาด) จัดการฆ่าตัวละครแบบเรียงตัว, เพื่อนของโชโกะ (ตัวละครนี้เสียดาย), เจ้าหญิงทวินเทล, รุ่นพี่ และเหล่าเพื่อนๆ ในโรงเรียน  แถมทำให้หลายคนมาด่าโกะผมอีกว่าทำไมคุณเธอไม่ตายไปพร้อมกับพวกนี้บ้างว่ะ!! (โชโกะจะกลายเป็นนายกปูแล้วเหรอนี้ ทำอะไรก็ผิดหมด)

    ความจริงการตายตัวละครเหล่านี้จะมีคุณค่ามาก หากอนิเมะมีความยาวตอนเยอะกว่านี้ ทำให้คนดูรู้สึกตัวละครเกิดความรู้สึกอารมณ์ร่วมก่อนค่อยมาตายอย่างงดงามและโหดร้ายทีหลัง แต่เพราะความใหญ่ของเนื้อเรื่องมันไม่พอจำนวนตอน 24 ตอนที่จัดเอาไว้ ทำให้บทการตายละครทำออกมาอารมณ์แบบตายดื้อๆ บางตัวละคร ทั้งๆ ที่เป็นตัวละครหลัก แต่ยังไม่ค่อยมีบท พอมีบท ก็ทำให้ตายแล้ว ซึ่งตอนที่เขียนบทความนี้ยังไม่รู้ตอนจบของอนิเมะว่าจะเป็นตอนจบที่ดีหรือไม่ หากไม่ดี ก็จะถือว่าผลงานนี้ของซันไลท์ล้มเหลวอีกครั้ง (แถมผลงานใหม่อีกเรื่องของซันไลท์ฏ้มาแนวหุ่นยนต์อีก กลัวว่าถึงเมื่อนั้นหลายคนคงเข็ดอีกครั้งแน่แท้)

    การตายของตัวละครใช่ว่าจะช่วยให้เนื้อเรื่องน่าติดตามขึ้นเสมอไป  สิ่งเหล่านี้หลายคนรู้อยู่แล้ว เพียงแต่ว่าซันไลท์จะมองเรื่องนี้ออกหรือไม่เท่านั้น (อย่างไรก็ตาม ช่วงซีซั่นหลังผมไม่ได้ดู เพราะลิขสิทธิ์เสียก่อน อ่านแต่สปอยและคำบ่นๆ เม้นด้านล่าง แต่เห็นสปอยแล้วไม่ชวนอยากให้ดูเลยแม้แต่น้อย)

     

    ก็จบลงไปเพียงเท่านี้สำหรับความทรงจำต่ออนิเมะในปีนี้ ซึ่งเมื่อเทียบกับปีอื่นๆ ถือว่าน้อย แถมแนวฮาเร็มจ๋าที่ชอบสุดขีดไม่อีกหาก ซึ่งก็หวังซีซั่นหน้าจะมีฮาเร็มดีๆ ให้มาเชยชมอีก ซึ่งก็ขออภัยด้วยกับการจัดอันดับที่ไม่หลากหลายพอ (ฮ่า) พอดีปีนี้ไม่มีซีนแปลกประหลาดสักเท่าไหร่

    สำหรับซีซั่นหน้า เรื่องดีๆ ก็ยังคงมีอยู่ ที่แน่ๆ ผมสนใจก็เช่น To Love Ru Darkness กับฉากการปรากฏตัวของเนเมซิสลาสต์บอสและโดนมหาเทพริโตะสกิลเทพใส่ อยากรู้จังว่าเสียงเนเมซิสจะเป็นอย่างไร

    อนิเมะแนวต่อมา ก็เรื่อง Ore, Twintails ni Narimasu ผมอ่านคราวๆ แล้วเหมือนจะปลุกความรุ่นดึกอีกครั้งครับ เพราะพล็อตชายหญิงปราบเหล่าร้ายนั้น สมัยก่อนถือว่าแนวที่ฮิตมาก เพียงแต่ยุคสมัยใหม่มีการใส่ความเป็นโมเอะ ปรับเปลี่ยนเซอร์วิสมากขึ้นเพื่อเข้าถึงคนกลุ่มอื่นๆ ด้วย (เรื่องนี้ผมไม่แน่ใจจะมาซีซั่นหน้า)

    อีกเรื่องที่น่าสนใจ Nagato Yuki-chan การหายตัวของนางโตะ ยูกิจัง ที่ประกาศเป็นอนิเมะแล้ว ไม่รู้ว่าหลายคนหมดกระแสฮารุฮิหรือยัง นางาโตะขี้อายนี้จะดีหรือเปล่าก็ไม่รู้ (รู้แต่ว่านางาโตะคูลเดเระน่ารักกว่าอ่ะ)

                    ส่วนฮาเร็มก็เล็งเรื่องพระเอกปักธงKanojo ga Flag o Oraretara - Ooyuusha yo, Flag o Tateteshimau to wa Nanigoto da!? ฉายในปีหน้าแน่นอน เรื่องนี้ขอบอกว่าฮาเร็มพระเอกเยอะมาก (หลังๆ นี้พวกสาวๆ เริ่มไม่ใช่คนธรรมดา เป็นต้นว่า สาวพลังจิต หุ่นยนต์ ล่าสุดมังงะถึงรูทประธานนักเรียน) แถมรักพระเอกสุดๆ ชนิดว่าพระเอกคาดสายตาไม่ได้ ร้องไห้เกือบยกกลุ่ม (แถมกลุ่มที่ว่ามีดุ้นอีกต่างหาก)

    อีกเรื่องดราม่าปวดตับ Gokukoku no Brynhildr จากผู้วาดหูแมวโหดประกาศเป็นอนิเมะแล้ว ในตอนล่าสุดของมังงะ ตับผมพังเรียบร้อย กับการตายของตัวละคร เรื่องนี้ผมขอเตือนทุกท่านว่าอย่าอวยใครเด็ดขาด ไม่งั้นคุณจะเสียใจแน่ ในอนาคต และอย่าอ่านสปอย เรื่องนี้สิ่งสำคัญไม่ใช่ใครเข้าวินหรอกครับ เพราะพระเอกรักสาวทุกคน เจ็บปวดไปพร้อมกับพวกเธอ มันอยู่สุดท้ายพระเอกกับเหล่าสาวๆ จะพบความสุขหรือไม่ เราจะได้เห็นคนธรรมดาทำสิ่งที่คนธรรมดาทำไม่ได้ ณ บัดนี้  (เรื่องนี้ผมไม่แน่ใจจะมาซีซั่นหน้า)

                   

    ซีซั่นหน้าผมอยากเห็นอนิเมะแนวฮาเร็มในฝันสักเรื่อง พบกันไหมซีซั่นหน้าครับ

     

     

     
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×