ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ดูการ์ตูนอย่างแมว ๆ

    ลำดับตอนที่ #282 : โอตากุในการ์ตูนญี่ปุ่น

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.33K
      0
      21 พ.ค. 57

    http://drama-addict.com (หรือเว็บจ่า หรือเว็บดราม่า ตามภาษาปากของผม) เป็นเว็บของ จ่าพิชิต ขจัดพาลชน (น่าจะเป็นนามปากกา) เจ้าของสโลแกน ดราม่าเอยจงซับซ้อนยิ่งขึ้นซึ่งเป็นเว็บ (และเพจ)ที่มีชื่อเสียง ซึ่งเป็นเว็บรวบรวมดราม่าตามที่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเว็บที่มีชื่อเสียงอย่าง พันทิป เฟสบุ๊ค และเว็บต่างๆ

                    แน่นอนว่าผมเป็นคนหนึ่งที่ติดตามเว็บแห่งนี้ และมีหลายครั้งก็พูดมักอ้างชื่อเว็บหลายครั้งในบทความหลายตอนที่ผ่านมา ดังนั้นผมจึงถือโอกาสแนะนำเว็บนี้ให้หลายคนรู้จัก (ซึ่งมีบางคนไม่รู้)

    ผมเห็นดราม่าต่างๆ มามากมาย หลายดราม่าแสดงให้เห็นว่าสังคมอินเทอร์เน็ตเริ่มที่จะมีบทบาทสังคม เริ่มมีอิทธิพลต่อชีวิตประจำวัน หรืออาจเปลี่ยนชีวิตส่วนตัวของคนหนึ่งได้เลยทีเดียว

     

     

    ภาพหัวเว็บไซต์ drama-addict.com

     

                    แน่นอนว่า ในดราม่าต่างๆ ที่อยู่ในเว็บดราม่า ก็ยังมีดราม่าโอตาคุ  เกลียดโอตาคุเยอะ มีหมด ไม่ว่าจะเป็นหมั่นไส้โอตาคุแบกหมอนข้าง, สปอยดราก้อนบอล, เนชั่น ซึ่งผมพูดไปแล้วก่อนหน้านี้

                    แต่ประเด็นที่จะมาพูดในบทความนี้ มาจากดราม่าชื่อ โอตาคุ! ชายในอุดมคติ” (ผมขอเรียกโอตาคุเพื่อความสะดวกนะครับ จะเปลี่ยนเป็นโอตาคุก็ไม่ทันซะแล้ว) ในเว็บพันทิป  ประมาณต้นเดือนมีนาคม 2014

                    โดยคนตั้งกระทู้ที่ต่อมาได้กลายเป็นดราม่านี้ ได้ถามคนในบอร์ดการ์ตูน ในเว็บพันทิปว่า ทำไมสาวๆ ไม่สนใจโอตาคุ ในเมื่อโอตาคุไม่กินเหล้า เมายาว ไม่เจ้าชู้ ไม่เที่ยวผู้หญิง ไม่เอาเงินไปใช้ในเรื่องสาระ (ซื้อการ์ตูน ฟิคเกอร์ โมเดล นี้ไม่ไร้สาระเนอะ) คุณสมบัติเพียบพร้อมขนาดนี้โอตาคุน่าจะเป็นผู้ชายในอุดมคติของสาวไทยไม่ใช่เหรอ

                    (อุดมคติ หมายถึง จินตนาการที่ถือว่าเป็นมาตรฐานแห่งความดี ความงาม และความจริง ถือว่าเป็นเป้าหมายถึงชีวิต หากตามความรู้สึกของผม คงแปลว่า สเป็กในฝันของคนนั้นๆ ละมั้ง)

                    (ปล. เว็บดราม่าพลาดตรง เชิงอรรภ ความหมายว่า โอตาคุ เป็นคนเสพการ์ตูนญี่ปุ่นอย่างคลั่งไคล้ จนแยกแยะความจริงกับการ์ตูนไม่ออก ทั้งๆ ที่โอตาคุหมายถึงความชอบอย่างใดอย่างหนึ่ง ที่ชอบมากๆ ไม่จำเป็นต้องเป็นการ์ตูน และโอตาคุมีหลายระดับ  อีกทั้งโอตาคุใช่ว่าทุกคนมีทักษะการเข้าสังคมต่ำ ไม่ได้หันไปชอบสาวในการ์ตูนมากกว่าสาวจริง เพราะโอตาคุบางคนมีลูกมีครอบครัว

    ความจริงน่าจะเขียนว่าโอตาคุเป็นภาษาญี่ปุ่นที่ชอบสิ่งใดสิ่งหนึ่งเป็นพิเศษ แต่โอตาคุในที่นี้หมายถึงผู้ที่ชอบการ์ตูนมากๆ และความชอบมีหลายระดับ แต่ภาพลักษณ์ในสื่อมักสื่อโอตาคุประเภทเดียว คือหลงใหลตัวการ์ตูนมากๆ จนแยกการ์ตูนและความจริงไม่ออก )

    แน่นอนว่าชาวพันทิปที่แสดงความคิดเห็นประเด็นนี้ส่วนใหญ่มักเห็นด้วย เพราะคุณสมบัติที่ไม่กินเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ไม่เที่ยวผู้หญิง ก็แค่ผู้ชายธรรมดา ไม่ได้เป็นผู้ชายอดุมคติสักหน่อย (ผมว่า มันมีคุณสมบัติอื่นๆ ด้วยน่ะ นอกเหนือคนดี ก็ต้อง รวย หน้าตาดี มีชื่อเสียง นี้แหละครับชายในฝันของสาวของแท้เลย)

                    หลังจากนั้น เม้นแสดงความคิดเห็นส่วนใหญ่ มักพูดเสียงเดียวกันว่าโอตาคุเป็นคนน่ารังเกียจ หมกมุ่นอยู่กับการ์ตูนสุดๆ รูปร่างน่าเกลียด ไม่ออกกำลังกลาย มีรสนิยมการแต่งกายห้วยแตก ไม่ดูแลตนเอง การเข้าสังคมต่ำ (โอตาคุที่พูดถึงส่วนมากมาจากสื่อ ในย่านการ์ตูนอากิบาฮาร่า ซึ่งส่วนจะมีนักข่าวไปขอสัมภาษณ์ แสดงความคิดเห็นโอตาคุที่พูดถึงกันเยอะ เพราะนักข่าวสังเกตดูการแต่งตัวก็รู้เลยว่าเป็นโอตาคุ ซึ่งสาเหตุที่โอตาคุแต่งตัวแบบนี้ เพราะพวกเขาหน้าตาไม่ดีอยู่แล้ว แต่พวกเขาก็อยากแสดงออกให้สังคมได้รับรู้ว่าตนชอบการ์ตูน  ในขณะที่โอตาคุบางคน (อาจมากด้วยซ้ำ) ที่หน้าตาดีๆ เลือกที่จะปิดเงียบ ไม่ได้แสดงออกอะไรมากมาย ทำให้ไม่มีการสัมภาษณ์ เพราะคนสัมภาษณ์ไม่รู้ว่าเขาคือโอตาคุ)

                    ต่อมา ก็มีคนหนึ่งชื่อ f_m_p57 (ผมคุ้นๆ ชื่อนี้ชอบกล) ได้ออกความเห็นว่า โอตาคุก็เป็นคนธรรมดา มีหน้าที่การงานทำ หน้าตาก็ใช้ได้ มีเงิน ทำไมหลายคนชอบมองโอตาคุในแง่ลบ โอตาคุไม่ได้เลวร้ายสักหน่อย (เพราะหลายคนไม่รู้ว่าโอตาคุมีหลายระดับครับ)

                    แล้วชาวพันทิปตอบโอตาคุคนนี้ว่า คุณไม่ใช่โอตาคุ โอตาคุของแท้ต้องหมกมุ่นสุดๆ จนคุยเรื่องทั่วไปกับคนอื่นไม่ได้ (มันมีคุณสมบัติแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กันหว่า ผมว่ามีการจัดออกสอบบทความเป็นโอตาคุ แบบใบขับขี่หน่อยเถอะ)

                    นิยามของโอตาคุนั้นเลวร้ายมากๆ ไม่งั้นคนทั่วไปถึงรังเกียจโอตาคุเหรอ ก็รังเกียจอยู่หรอก แต่โอตาคุไม่ได้ทำตัวเลวร้ายสักหน่อยน่ะ)

     

     

    คิริโนะ ตัวละครในฝัน

     

    ต่อมานาย f_m_p57  ที่ไม่พอใจที่ชาวพันทิปวิจารณ์โอตาคุกันสาดเสียเทเสีย (ความจริงผมไม่โกรธหรอกน่ะ คนจะว่าโอตาคุเสียยังไง เพราะแค่รู้โอตาคุจากสื่อ ไม่ได้เจอตัวจริงๆ สักหน่อย)  จึงตั้งกระทู้แตกประเด็น (ความจริงว่าเงียบเป็นดีที่สุดน่ะ) โดยบ่นว่าทำไมชาวพันทิปถึงได้คิดว่าโอตาคุมันเป็นคนไม่ดี เลวร้าย เป็นภัยกับสังคมอย่างนั้น (เพราะสื่อนั้นแหละ)

    จากนั้น นาย f_m_p57   ได้ยกตัวอย่าง สองตัวอย่างคือ

    -โคซากะ คิริโนะ. จาก Ore no Imoto ga Konna ni Kawaii Wake ga Nai โดยบอกว่านางเอกจากการ์ตูนเรื่องนี้ เป็นโอตาคุ ที่คลั่งเกมจีบสาวโป๊เป็นชีวิตจิตใจ แต่คิริโนะนั้นไม่ได้ต่ำต้อยในสังคม เธอเป็นนางแบบชื่อดัง หน้าดีในสังคม อีกทั้งมีเพื่อนดีๆ มากมาย และหนึ่งในเพื่อนของเธอ บางคนตัวจริงเป็นคุณหนู ฉลาดล้ำ เห็นอกเห็นใจคนอื่น ฯลฯ ดังนั้นคนที่ว่าพูดโอตาคุห่วยขอให้คิดไหม

    (อนึ่ง หลังจากตอนจบน้องสาวไม่น่ารักออกมา กลายเป็นว่าหลายคนอยากลืมเรื่องนี้ออกไปจากหัวสมองมากที่สุด  และ ปล. เว็บดราม่า เล่าเรื่องย่อน้องสาวไม่น่ารัก ซะ.....)

     

     

    คัตสึรากิ เคย์มะ

     

                    นอกจากนี้ยังยกพระเอกชื่อ คัตสึรากิ เคย์มะ จาก Kami nomi zo Shiru Sekai หรือThe World God Only Knows ก็เป็นอีกเรื่อง หลังการ์ตูนเรื่องนี้จบ หลายคนอยากลบการ์ตูนเรื่องนี้ออกจากหัวสมอง และ เช่นกัน ผมไม่ได้ติดตามน่ะ ) ซึ่งเป็นตัวละครโอตาคุอีกคนที่มีโลกส่วนตัวสูง แต่เขาก็เป็นคนฉลาด และหากทำอะไรก็จะจริงจัง และทุ่มสุดตัว โดย นาย f_m_p57    ได้กล่าวว่าโอตาคุถึงจะเป็นพวกเล่นเกมตลอดเวลา คุยภาษาคนไม่รู้เรื่อง  ชอบสาว 2D ติดเกม ติดการ์ตูน แต่ก็ไม่ได้เสียคุณค่าของเป็นมนุษย์

    แต่กลายเป็นว่าดราม่าหนักไปใหญ่ บางคน (ซึ่งผมก็เห็นด้วย) บอกว่าจะยกการ์ตูนมาเป็นตัวอย่างทำไม แยกแยะการ์ตูนกับความจริงไม่ออกเหรอ การ์ตูนมันเป็นแค่เรื่องแต่ง การ์ตูนที่ยกตัวอย่างมา มันเป็นแนวขายฝัน สร้างภาพให้โอตาคุดูดีขึ้นเพื่อขายให้โอตาคุนั้นแหละ (งั้นคนดู ติดตามเรื่องนี้ก็โอตาคุสิ?)

                    บางคนให้ความคิดเห็นว่าการ์ตูนแนวขายฝันแบบนี้ เน้นลูกค้าโอตาคุเป็นหลัก เขาคงไม่ทำการ์ตูนที่ตีแผ่ความคิโม่ยของโอตาคุ  คงไม่มีโอตาคุที่ไหนกล้ารับความจริงว่าโอตาคุเป็นคนน่ารังเกียจ และดูไม่ดีในสายตาคนส่วนใหญ่ของสังคมหรอกนะ

                    บางคนก็ตอบแรง (แรงนะสำหรับผม) พวกโอตาคุหน้าตาดี ตั้งใจเรียน มีความรับผิดชอบงานในชีวิต จริงทีผ่านมาไม่เคยเห็นโอตาคุที่ว่าแบบนี้สักคน (มีครับ ก็คุณไม่เคยเห็นนี้น่า)

                    สรุปคือพลาดอย่างแรงที่เอาการ์ตูนมายกตัวอย่าง แม้ว่านาย  f_m_p57 จะบอกว่า ที่ยกตัวอย่างการ์ตูนเรื่องนี้มา เพราะเห็นว่าเป็นเรื่องดัง และน่าจะทำให้หลายคนเข้าใจ และบอกว่าหากยกตัวอย่างคนเป็นๆ ก็เป็นพวกนักเขียนการ์ตูน คนพากย์การ์ตูนดังๆ ทุกคนก็เป็นโอตาคุทั้งนั้น

                    อย่างไรก็ตาม แม้นาย f_m_p57 จะอธิบายมากขนาดไหน ก็ไม่ได้เปลี่ยนความคิดของคนอื่นไม่ เมื่อจ่าเอาเนื้อหาดราม่านี้มาพูดถึงในเว็บดราม่า เราก็ได้เห็นความคิดเห็น (ส่วนใหญ่ตามน้ำ) ที่แสดงความเกลียดชังโอตาคุต่างๆ นาๆ อีก

                    ดราม่านี้เกิดขึ้นเพราะคนไทย คนในบอร์ดเข้าใจความหมายของโอตาคุไม่ละเอียดพอ เพราะคำว่าโอตาคุนั้นมันกว้างมาก (แถมมันมีหลายระดับอีกต่างหาก) ทำให้บรรทัดฐานตัดสินความแตกต่างของโอตาคุแตกต่างไปในแต่มุมมองของแต่ละคน  ส่วนใหญ่มุมมองคน แค่มองว่าคนชอบการ์ตูน อ่านการ์ตูนเยอะหน่อยก็เป็นโอตาคุแล้ว

    ไม่ว่าจะที่ไหน ก็ต้องมีคนมองว่าการ์ตูนเป็นเรื่องของเด็ก ดังนั้นพวกสาวๆ จึงมองว่าโอตาคุที่ติดการ์ตูนติดเกม เหมือนเด็ก (อีกทั้งหน้าตาไม่ได้หล่อ)  จึงดูไม่เท่ ไม่พอเป็นคู่ควงพอที่จะไปอวดชาวบ้าน และไม่สามารถฝากชีวิตไว้ได้ บวกกับนาย f_m_p57 พลาดในการตอบแบบใส่รายละเอียดไปนิดหนึ่ง (แต่ถึงแม้ละเอียด ผมก็ไม่เชื่อว่าดราม่านี้จะยุติแต่อย่างใด) ดราม่าจึงเกิดอย่างที่เห็น

    ความจริง การจะอธิบายด้านดีโอตาคุดังกล่าว ควรยกตัวอย่างบุคคลดังๆ จริงๆ ที่เป็นโอตาคุครับ มากกว่ายกตัวอย่างการ์ตูน อย่างนักร้องไอดอล หรือรัฐมนตรีบางคนที่ชอบการ์ตูน และมีโอตาคุหลายคนประสบความสำเร็จจากการนำความชอบของตนเองมาใช้ ไม่ว่าจะเป็นวาดโดจินออกมาขาย จนกลายเป็นอาชีพที่น่าอิจฉา  เช่น เคนจิ นารูซาวะ (Kenichi Narusawa หลายคนเรียกว่าโกโร่ เป็น พระเอกหนังโป๊ AV ชื่อดังของญี่ปุ่นที่มีรายได้มากมายจากความรู้โอตาคุคนตนเอง) แม้หลายคนไม่รู้จัก แต่ก็นั้นตัวอย่างนี้ก็น่าจะทำให้หลายคนสนใจ และน่าจะกลับไปหาข้อมูลได้ไม่มากไม่น้อย  และนอกจากนี้ก็อธิบายระดับของโอตาคุด้วยว่า โอตาคุมากมายหลายแบบ  แถมมีเป็นยศอีกต่างหาก

     

    http://i632.photobucket.com/albums/uu48/TUM_METALMAN/Lucky_Star_IzumiKonata_03.jpg 

    โอตาคุที่น่ารักที่สุดในโลก

     

                    ที่น่าสนใจคือประเด็นชาวพันทิปที่ว่าคิริโนะนั้นเป็นตัวละครสมมุติถูกสร้างเพื่อเอาใจโอตาคุ แน่นอนถูกต้องร้อยเปอร์เซ็นต์เพราะว่าตัวละครอย่างคิริโนะนั้นไม่อยู่จริงในชีวิตจริงๆ ของเราแน่นอน (ถึงมีคุณเธอก็คงจะปกปิดความลับแน่นหนายิ่งกว่าคิริโนะเสียอีก)

    หากพูดถึงโอตาคุในมโนภาพ จากความคิดของเรา ก็มักคิดว่าหน้าตาไม่หล่อ อ้วนเกินไป ผอมเกินไปอะไรก็ห่วยแตกหมด ดังนั้นจึงสร้างให้คิริโนะมีภาพลักษณ์ผู้หญิงทั้งสวย (น่ารัก)ทั้งเก่ง  ส่วนนิสัยน่ารังเกียจของโอตาคุนั้นคิริโนะก็เหมือนกันก็คือทั้งเชิดและหยิ่งเพียงแต่นิสัยที่ว่าทำให้หลายคนมองว่าน่ารักไป (แต่บางคนก็ใช่ว่าจะชอบคิริโนะ)

    โอตาคุนั้นมีทั้งเปิดเผย และไม่เปิดเผยปกปิดเป็นความลับแต่จุดนี้คิริโนะนั้นเลือกเก็บเป็นความลับมากกว่าเพราะไม่อยากให้หลายคนได้รับรู้ว่าคนเก่งแบบตนจะมีงานอดิเรกที่ดูแล้วไม่เหมาะสมกับเด็กผู้หญิงที่ใส่ใจแฟชั่นการแต่งตัวแน่นอน

    นอกจากนี้มโนภาพของโอตาคุก็คือโอตาคุหมดเงินไปกับของสะสมเป็นจำนวนและเงินส่วนใหญ่เป็นเงินพ่อเงินแม่ แต่คิริโนะนั้นใช้เงินจากการเป็นนางแบบ รายได้ดีทำให้ไม่ห่วงเรื่องเงินในการซื้อของสะสมเกมจีบสาวโป๊ (+18) มากนัก(แถมส่วนใหญ่เป็นรุ่นจำนวนจำกัดอีกต่างหาก)

    คิริโนะทำอะไรก็ดีไปหมด นอกจากจะเก่งอะไรทุกอย่างแล้วเธอยังแต่งไลท์โนเวลอีกด้วย แม้ไลท์โนเวลของคิริโนะจะดูเกรียนๆ ไปหน่อยแต่ก็ประสบความสำเร็จ ได้ถูกทำเป็นอนิเมะด้วยซ้ำ

    ยังมีตัวละครหนึ่งที่ถูกสร้างเอาใจโอตาคุเหมือนกัน ก็มีเซนะจากชมรมไร้เพื่อนก็เป็นตัวละครหนึ่งที่เป็นขวัญใจของใครหลายคน ภาพลักษณ์ของคุณหนูทั้งเชิดและหยิ่ง แต่รวย เก่งอะไรไปหมดทุกอย่าง อีกทั้งรูปร่าง (และหน้าอก) แต่ตัวตนหนึ่งกับบ้าเกมจีบสาว(ทั้งธรรมดา และ +18)แถมเวลาจะพูดกับคนอื่นก็มักเอาเกมโป๊มาเปรียบเทียบ แถมมีนิสัยติ่งเกมจีบสาวใครว่าอะไรในอินเทอร์เน็ตก็ทนไม่ได้ต้องเข้าไปเกรียนตลอด แต่แทนที่จะเกลียดหลายคนกับชอบแทน

    ส่วนอีกคน หลายคนก็รู้จักเช่นกันอิซึมิ โคนาตะ สาวน้อยผู้น่ารักจากลักกีสตาร์ (LuckyStar)ที่ชอบเล่นเกมมากๆ โดยเฉพาะเกมจีบสาวอันเนื่องมาจากอิทธิพลของพ่อของเธอนั้นเอง แม้จะใช้เงินหมดกับไปกับการสะสมแต่เธอก็หารายได้ด้วยการเป็นพนักงานสาวเมดในร้านเมดคาเฟ่ ส่วนคนนี้หัวไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่หากแต่ถ้าเป็นเรื่องการ์ตูนจะจริงจังมาก

    คือภาพลักษณ์ตัวละครหญิงที่เป็นโอตาคุในโลกของการ์ตูนญี่ปุ่นหากตอบว่าพวกเธอถูกสร้างเพื่อเอาใจโอตาคุก็ไม่ผิดนักเพราะตัวละครเหล่านี้ลบภาพลักษณ์อะไรไม่ดีเกี่ยวกับโอตาคุจนเกือบหมดอาจมีนิสัยน่าเกียจบ้าง แต่ก็ไม่มากนัก เพราะออกไปทางน่ารัก และตลกอะไรมากกว่า

    แต่อย่างไรก็ตามใช่ว่าตัวละครหญิงเหล่านี้ยังมีจุดหนึ่งที่สามารถอ้างอิงได้นั้นคือการให้ความสำคัญกับเพื่อน มิตรภาพ อย่างที่เราเห็น  ซึ่งดูเหมือนว่าสังคมญี่ปุ่นจะเป็นแบบนั้น และนอกจากนี้ก็คือการต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงตนเอง

     ภาพลักษณ์ของโอตาคุที่อ้วนฉุ (หรือผอมน่าเกียจ) ทำตัวซกมก ในห้องมีแต่ของสะสมเกี่ยวกับการ์ตูนไปหมด ปากชอบพูดว่าสาว 2D สุดยอด ส่วนสาว 3D ชีวิตจริงนั้นไม่สนใจ  ความจริงแล้วโอตาคุก็ใช่ว่าไม่อยากเปลี่ยนแปลงตนเอง ไม่ได้รักสาว 2D ตลอดไป ลึกๆ ในจิตใจแล้วพวกเขาเองก็อยากใช้ชีวิตเหมือนคนธรรมดา อยากให้มีสาวๆ สักคนมาสนใจเหมือนกัน ไม่อยากให้สังคมดูถูกพวกตน พวกเขาก็คือมนุษย์ที่มีลมหายใจเหมือนกัน

    ก็อย่างที่เห็นในการ์ตูนญี่ปุ่นหลายเรื่อง ที่ตัวเอกเป็นโอตาคุ ใครๆ ก็ไม่อยากคบ แต่ความจริงแล้วลึกๆ เขาก็อยากเป็นคนสมบูรณ์แบบ เพียบพร้อม มีเพื่อน มีสาวมาชอบบ้าง อย่าง  คัตสึรากิ เคย์มะ จาก Kami nomi zo Shiru Sekai (อย่าพึ่งเซ็งกับเรื่องนี้ครับ) เองเขาก็อยากเปลี่ยนแปลงตนเอง  และมีหลายครั้งที่แสดงให้เห็นว่าเขาก็เป็นชายที่พึ่งพาได้เหมือนกัน ซึ่งปกติการ์ตูนที่ตัวแอกที่เป็นโอตาคุจะอารมณ์ประมาณนี้แหละ มันสนุกตรงที่ได้เห็นการพัฒนาจิตใจอย่างช้าๆ

     

     

    หนุ่มรถไฟของเนชั่น ตัวอย่างดีๆ ที่โอตาคุก็อยากจะเปลี่ยนแปลงตนเอง

     

                    ถ้าจะเอากรณีดังๆ ของโอตาคุที่อยากจะเปลี่ยนแปลงตนเอง แบบชีวิตจริงๆ ก็มี  “หนุ่มรถไฟ” หลายคนคงนึกออกแน่นอน เพราะครั้งหนึ่ง “หนุ่มรถไฟ” เคยโด่งดังไปทั่วญี่ปุ่น บ้านเราก็มีโอกาสได้เห็นซีรีย์ และนิยาย (มีแต่ภาษาอีโมคอนเพียบ) และการ์ตูนมังงะก็มีหลายเวอร์ชั่น (เอามาแซวก็มี อย่าง “หมีรถไฟ” ในคุโรไมตี้ หรือจะเป็น ชินปาจิ ในกินทะมะก็เคยเป็นหนุ่มรถไฟมาแล้ว) ที่ผมเห็นก็มีของเนชั่น และของบงกต ลายเส้นของคนเขียนก็รู้จักกันดี  (เนชั่นวาดโดย hara hidenori ซึ่งนักเขียนคนนี้เก่งแนวรักๆ และของบงกตก็มี daisuke douke ความจริงก็มีเวอร์ชั่นอื่นๆ อีก อย่างของคนวาดแม่มดสาวรุรุโมะ)

                    เรื่องของ “หนุ่มรถไฟ” นั้นดังจากในบอร์ดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น ซึ่งเป็นเรื่องราวที่อ้างว่าเป็นเรื่องจริง และแสดงให้เห็นว่าอิทธิพลของอินเทอร์เน็ตนั้นมีอิทธิพลขนาดไหนในยุคปัจจุบัน ที่เปลี่ยนชีวิตของคนหนึ่งคนได้ โดยเรื่องราวเริ่มต้นขึ้น เมื่อเดือนมีนาคมถึงพฤษภาคม 2004 หนุ่มโสดคนหนึ่ง ที่ต่อมาหลายคนเรียกเขาว่า “หนุ่มรถไฟ” โพสประสบการณ์ชีวิตตน ในสังคมเน็ต 2channel โดยเล่าปัญหาที่เขาไม่รู้จะพึ่งใครดี โดยบอกว่า เขาเป็นโอตาคุ ที่ค่อนข้างห่วยแตกคนหนึ่ง การแต่งกาย ทรงผมดูยังไงก็ไม่น่าเป็นผู้เป็นคน จนกระทั่งวันหนึ่งหลังจากเขานั่งรถไฟกลับบ้าน เขาได้บังเอิญช่วยสาวสวยคนหนึ่งจากการถูกชายขี้เมามาหาเรื่องแบบไม่ได้ตั้งใจ แม้เขาจะโดนคนแก่เมาคนนั้นซัดหมอบ แต่เขาก็ทำให้สาวสวยคนนั้นประทับใจมาก และเขาก็อยากจะรู้จักเธอมากๆ

                    แต่ปัญหาคือ “หนุ่มรถไฟ” เขาเป็นโอตาคุ ที่ไม่เก่งความรักเลย ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนเข้ามาในชีวิต ไม่เคยคุยกับผู้หญิง เลยกล้าๆ กลัว เขาเลยเอาเรื่องนี้มาปรึกษาเพื่อนในห้องแชท (และเพื่อนแชทที่ว่าเขาแทบไม่รู้จักมักจี่อะไรด้วยซ้ำ) เจ้าหนุ่มโอตาคคนนั้นอยากเปลี่ยนแปลงตนเอง เพื่อให้สาวคนนั้นมองเขา โดยเริ่มจาก

                    อย่างไรก็ตาม เพื่อนห้องแชทได้ให้คำแนะนำดีๆ กับโอตาคุ “หนุ่มรถไฟ” คนนั้น คือก่อนอื่นต้องเปลี่ยนแปลงตนเองซะ ไปทำผมมาใหม่ ใส่เสื้อให้เหมือนผู้เหมือนคน และเลิกเก็ยตัวอยู่แต่ในห้องหลังจากนั้นหนุ่มรถไฟก็เริ่มสนิทสนมกับสาวสวยคนนั้น (ซึ่งเขาเล่าเรื่องราวของเขาผ่านห้องแชทประจำ) จนมีหลายคนเริ่มติดตามเรื่องของเขา หลังจากนั้นบุคลิกภาพของเขาก็เปลี่ยนไปที่ดีขึ้น ไม่กี่เดือนต่อมาเขาก็สารภาพรักกับเธอ และเธอก็ตอบตกลง และนั้นเองทำให้

                    มนุษย์ทุกคนก็อยากเปลี่ยนแปลงตนเองครับ แต่สังคมจะเปิดโอกาสให้เขาได้เปลี่ยนแปลงหรือเปล่า? ให้คำปรึกษาอะไรดีๆ หรือเปล่า

                    และนอกจากนี้ก็มีการ์ตูนอีกหลายเรื่อง ที่นำเสนอโอตาคุที่อยากเปลี่ยนตนเอง  โดยเลิกการเป็นโอตาคุเลิกสะสมการ์ตูน แล้วเป็นคนธรรมดา เพราะคิดว่าเป็นสิ่งที่คนรอบข้างรังเกียจ  แต่หลังจากทำตัวเป็นคนธรรมดาได้พักใหญ่ ก็ต้องมีเหตุอะไรบางอย่างที่พระเอกนั้นต้องกลับไปหางานอดิเรก (ส่วนใหญ่เป็นเพราะคนรอบข้างเป็นโอตาคุเหมือนกัน) จะมีเหตุผลอะไรที่ต้องทิ้งของเรารัก เพื่อให้คนอื่นและคนรอบข้างสนใจ เราควรที่จะอยู่กับมัน หาความสุขตามแบบฉบับของเรา และเพื่อนที่เข้าใจเราดีกว่า

    บางครั้ง การใส่ความเป็นโอตาคุในการ์ตูนญี่ปุ่นลงไปในตัวละคร ไม่ว่าจะเป็นชาย หรือหญิง ก็จะช่วยทำให้ตัวละครมีสีสันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นแนวตลก สามารถปล่อยมุกการ์ตูน (รวมถึงเกม) เพื่อสร้างสีสันให้กับเรื่องมากกว่า ยกตัวอย่าง เช่น เนียวรุโกะ, คูโกะ ที่ทั้งสองเป็นโอตาคุเข้าเส้นเลือด เวลาจะทำอะไรก็ปล่อยมุกการ์ตูน (ที่ดักแก่ตลอด)

                    สำหรับโอตากุตัวประกอบในการ์ตูนญี่ปุ่น ส่วนมากเป็นตัวละครที่สร้างสีสันมากกว่า  ไม่ว่าจะเป็นตัวละครตลก หรือสนับสนุนเสริมให้ตัวละครหญิงในเรื่องโดดเด่นมากขึ้น เรามักเห็น  ตัวละครหญิงที่เป็นตัวเอกมีกมีฉากแต่งตัวเป็นสาวเมด, ขึ้นเวทีร้องเพลง ไปจนถึงไอดอล แต่งคอสเพลย์ จะมีพวกโอตาคุออกมาอวย ชื่นชอบ ถ่ายรูป ทำให้ตัวละครหญิงคนดังกล่าวดูแล้วมีสเน่ห์ น่าหลงใหลด้วยซ้ำ

     

     

    Genshiken (คนที่โผล่เต็มหน้าไม่ใช่นางเอก และเธอก็ไม่ใช่โอตาคุ แต่มีแฟนเป็นโอตาคุ และแฟนก็ไม่ใช่พระเอกในเรื่อง)

     

    ยังมีการ์ตูนดีๆ อีกมากที่มีโอตากุเป็นตัวเอก โดยตัวละครโอตาคุในเรื่อง ไม่ได้ถูกสร้าง แต่ส่วนมากเป็นด้านบวกของโอตาคุ ส่งเสริมให้หลายคนมองโอตาคุด้านดี ด้านบวกมากขึ้น ส่วนมากมักนำเสนอให้เห็นว่าพวกเขามีความสุขในงานอดิเรกของตน มีเพื่อนที่เป็นคอเดียวกัน และมักไปงานอีเวนท์ต่างๆ และตัวละครในเรื่อง  แต่ดูเหมือนว่าบ้านเราไม่ชอบการ์ตูนแนวชีวิตประจำวันโอตาคุสักเท่าไหร่ อาจเห็นว่ามันน่าเบื่อ และมองเป็นด้านลบจนไม่ได้เปิดใจอะไรมากนัก

    มีการ์ตูนอีกเรื่องหนึ่งที่หลายคนบอกว่าเป็นการ์ตูนโอตาคุที่ดีอีกเรื่องหนึ่ง (แต่ผมไม่ค่อยได้ตา,มากนัก แต่ก็ดูจนจบ 9 เล่มภาคแรก) นั่นคือ Genshiken หรือชื่อลิขสิทธิ์คือ ชมรมคนน็อตหลุด ( ผู้แต่ง :  Kio Shimoku) แนวชีวิตประจำวันของพวกโอตาคุ (ภาคแรกมี 9 เล่มจบ ปัจจุบันเป็นภาคสอง และมีทั้งอนิเมะ ภาคแรกมีสองซีซั่น ส่วนภาคสองมีหนึ่งซีซั่น)

    ถ้าผมจำไม่ผิด ตัวละครจากการ์ตูนเรื่องนี้ชอบไปแจมการ์ตูนเรื่องอื่นประจำ เพราะฉากเด่นๆ เรื่องนี้คือพวกโอตาคุ (ตัวเอก) คุยกันชนิดที่คนอ่านอย่างเราๆ ไม่รู้เลยว่ามันพูด (ห่าเหว) อะไรกัน บางอย่างเป็นศัพท์แสลงเฉพาะในวงการ แต่บางอย่างเป็นการ์ตูนงานเก่าๆ ของคนเขียนอีก  (แถมบ้านเราไม่รู้จักอีกต่างหาก)

    สำหรับเรื่อง Genshiken เป็นเรื่องของเหล่าสมาชิกชมรม “วิจัยวัฒนธรรมการทัศนาสมัยใหม่” ของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง (หรือชมรมโอตาคุดีๆ นั้นแหละ) ซึ่งเป็นโอตาคุทุกคน ซึ่งแปลกก็คือปกติแล้วชมรมโอตาคุที่เราเห็นมักเป็นพวกเด็กมัธยมต้น, มัธยมปลายมากกว่า ซึ่งมีไม่กี่เรื่องที่เป็นเรื่องของเด็กมหาวิทยาลัย และที่น่าสนใจคือสมาชิกแต่ละคนเป็นโอตาคุคนละสาย เป็นต้นว่า คนหนึ่งโอตาคุรักคอสเพลย์, โอตาคุชอบโมเดล, โอตาคุชอบเกม H เป็นต้น

    เนื้อหาของเรื่องไม่ได้ตื่นเต้นอะไรมากนัก เพราะเป็นแนวชีวิตประจำวันของพวกโอตาคุ เพียงแต่สิ่งที่เราได้เห็นไม่ได้เป็นด้านน่าเกลียดของโอตาคุ เราได้เห็นตัวละครมหาลัยที่อยู่คณะมารวมตัวกันเพราะความรักการ์ตูน แม้แต่ละคนจะเป็นโอตาคุคนละสาย แต่พวกเขาก็นำความหลากหลายนี้มาเป็นการพูดคุย แลกเปลี่ยนความคิดเห็น

    พระเอกในเรื่องเป็นโอตาคุที่พึ่งเริ่มจะชอบการ์ตูนไม่นาน และเริ่มเข้าหาโอตาคุที่เป็นรุ่นพี่มหาลัย ตอนแรกๆ เขาคิดว่าโอตาคุเป็นคนโลกส่วนตัวสูง และพูดคุยด้วยยาก แต่ไม่นานเขาก็รู้ว่าพวกรุ่นพี่นั้นเป็นคนดี มีอัธยาศัยดี และแต่ละคนมีหน้าที่ การงาน สละภาพว่าโอตาคุเป็นพวกไม่มีใครคบ ไม่ชอบเข้าสังคมได้เลย

    แม้ว่า Genshiken จะเป็นการ์ตูนเรื่องสมมุติ แต่หลายอย่างก็มีความสมจริง ในแง่ชีวิตประจำวัน เนื้อเรื่องจะเป็นตัวละครในชมรมใช้ชีวิตประจำวันร่วมกัน 4 ปี ในการทำกิจกรรม ไม่ว่าจะเป็น คุยเรื่องการ์ตูน เล่นเกม วาดโดจิน หรือไปงานอีเวนท์ หรือร้านการ์ตูนด้วยกัน

    และแสดงให้เห็นว่าโอตาคุไม่ได้มีชีวิตล้มเหลวอย่างที่หลายคนเข้าใจ โอตาคุก็ทำอาชีพ ตามความถนัดของแต่ละคน บางคนเป็นพนักงานบริษัท บางคนทำงานบริษัทมังงะ บางคนทำงานเป็นโปรแกรมเมอร์ บางคนมีแฟน ในขณะที่เรื่องการ์ตูนเป็นเพียงงานอดิเรกที่พวกเขารัก และพยายามหาเวลาว่างอยู่กับมันเท่านั้น

    (เรื่องนี้ผมไม่ชอบอยู่อย่างยัยผมทองในเรื่อง คือมันเป็นตัวละครแนวรำคาญมากกว่า แถมก็ไม่ได้เป็นแฟนพระเอกอีกต่างหาก จึงกลายเป็นตัวละครที่รกๆ ชอบกล ดีที่ช่วงหลังมีตัวละครอย่าง “รุ่นน้อง” เข้ามา ทำให้การ์ตูนเรื่องนี้ดีขึ้นจม แต่อนิจจาภาค 2 รุ่นน้องหาย ผมเลยไม่ตามอีกเลย หลังจากนั้นเป็นต้นมา)

                   Genshiken ได้รับยกย่องว่าเป็นการ์ตูนตลกที่ถ่ายทอดชีวิตประจำวันของโอตาคุที่สมจริง และเก็บรายละเอียดฉากหลังได้ดีมาก ไม่ว่าจะเป็นห้องชมรม และห้องของโอตาคุของแต่ละคน ซึ่งมีทั้งห้องที่เรียบร้อย ไปจนถึงห้องอันแสนรกที่เต็มไปด้วยหนังสือการ์ตูนตกอยู่บนพื้น หรือห้องที่เต็มไปด้วยเครื่องวีดีโอเกมและแผ่นเกมเต็มห้อง เป็นต้น

    ทั้งเรื่อง “หนุ่มรถไฟ” และ Genshiken อาจไม่ได้นำเสนอโอตาคุที่ดูเท่ ดูฉลาด แต่เป็นโอตาคุธรรมดา เดินดินคนหนึ่ง ที่ตรงกับความเป็นจริงมากกว่า แต่มันก็แสดงให้เห็นว่า โอตาคุก็พร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงตนเอง ปรับปรุงตนเองเพื่อให้ผู้หญิงหันมาสนใจ การคบผู้หญิงก็ไม่จำเป็นต้องเลิกทิ้งความเป็นโอตาคุก็ได้ หากทำให้ผู้หญิงเห็นว่าตนเป็นผู้ชายที่ดี เข้าใจกันและกันก็เพียงพอแล้ว (แต่ผมว่า Genshiken ยัยผมทองกับคนบ้าเกมนั้นไม่น่าจะไปกันรอดน่ะ)

     

    โดยปกติแล้วผู้หญิงนั้นชอบผู้ชายหลักๆ สองอย่าง คือ อย่างแรกคือ ภายนอก คือรูปร่างดี มีทักษะกระตุ้น มีความสามารถทำให้ฝ่ายหญิงสนใจ (คารมดี) และทักษะเอาชีวิตรอด มีทรัพยากร (เงิน, ที่ดิน, ที่อยู่, ฐานะการงาน) รู้จักดูแลฝ่ายหญิง ก็ช่วยทำให้ผู้หญิงหันมาสนใจได้  ซึ่งหากใครที่มีคุณสมบัติดังกล่าวก็สามารถจีบผู้หญิงติดได้ แม้แต่โอตาคุก็ตาม หากปรับปรุงตัวเองตามให้ตรงลักษณะดังกล่าว

    และที่น่าสนใจคือ ปัจจัย เรื่องความดี ความชั่วของฝ่ายชายนั้น ไม่ได้เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ฝ่ายหญิงตัดสินใจคบมากนัก (มักเป็นเหตุผลท้ายๆ) ดังนั้นจึงไม่แปลกที่ปัจจุบันเรามักเห็นผู้หญิงหลายคนดูจะใจง่าย ล้มเหลวในเรื่องชีวิตคู่ และมีข่าวเกี่ยวกับพิษรักอยู่บ่อยครั้ง

    ไม่ว่าชายคนนั้นจะเป็นโอตาคุ เป็นชายที่ดีหรือไม่นั้น ผมคิดว่าสิ่งสำคัญคือการคบหาอะไรมากกว่า ต้องใช้เวลาที่ดูใจ ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายหญิงหรือฝ่ายชาย คนเรานั้นไม่ได้สมบูรณ์แบบดีเลิศไปเสียหมด อุดมคติไม่มีอยู่จริง สิ่งที่เห็นก็อาจไม่ได้เป็นอย่างที่คิด คนเราจะคตบกันได้ตลอดรอดฝังหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับรสนิยมของแต่ละคนมากกว่า

    สุดท้ายนี้ ผมก็อยากบอกว่าเวลาเจอเม้นเกลียดโอตาคุ เม้นไม่ชอบฮาเร็ม เกลียดฮาเร็ม (ซึ่งก็ไม่เข้าใจทำไมไม่เกลียดพวกดราก้อนบอล พวกจัมป์บ้าง การ์ตูนสร้างความรุนแรงทั้งนั้น) ก็อย่าไปจริงจังมากนักครับ หลายคนไม่เคยเจอโอตาคุจริงๆ ด้วยซ้ำ



     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×