ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ดูการ์ตูนอย่างแมว ๆ

    ลำดับตอนที่ #47 : Sky Crawlers วัฏจักรอเวจีใต้ฟ้าสีคราม

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 8.48K
      7
      14 ก.ค. 60


                    สวัสดีครับทุกท่าน ขออภัยที่ตอนนี้มาช้านิดๆ เนื่องจากกำลังดูอมิเนชั่นการ์ตูนที่ดองเค็มเอาไว้ ทั้งหลายเหล่อยู่นะครับ ดองไว้กว่า 40 เรื่องแนะ(ไม่ได้โม้) แถมบางเรื่องยังกลับมาดูอีกรอบอีก ทำให้การเกิดแต่ละตอนถึงช้าแหละ และแน่นอนการ์ตูน 40 เรื่องที่ว่านี้ ไม่มีการ์ตูนที่คนอื่นแนะนำเลยครับ เหอๆ ดังนั้นตอนที่จะปรากฏจะไม่มีการ์ตูนที่คนอื่นแนะนำในเม้นแน่นอน 

                    ส่วนหนังสือการ์ตูน บางเรื่องก็ไม่ได้เขียนตามที่คนอื่นเรียกร้องก็เนื่องมาจากอยากให้การ์ตูนเรื่องนั้นตีพิมพ์จนจบมากกว่า เพื่อที่จะได้อ่านแล้วมีอะไรเขียนมากขึ้น ซึ่งหากมันพิมพ์จบแล้วนับลองมาได้อ่านแน่นอน


                    ในโลกสมมุติที่สงครามเวหาระหว่างฝ่าย รอสท็อคและเลาเทิน ดำเนินต่อเนื่องมาอย่างยาวนานด้วยสาเหตุที่ไม่อาจระบุได้ แต่ถึงกระนั้นผู้คนทั้งหลายกลับดูเพิกเฉยและไม่ได้ใส่ใจกับมันเท่าไหร่นักราวกับชินชา คันนามิ ยูอิจิ นักบินหนุ่มฝีมือดีของฝ่ายรอสท็อคถูกย้ายไปประจำยังฐานทัพอากาศที่ดูจะไกลปืนเที่ยงพอสมควรแห่งหนึ่ง สิ่งแรกที่สังเกตเห็นคือบุคลากรในฐานทัพนอกจากช่างเครื่องและวิศวกรไม่กี่คน นักบินหรือผู้บังคับบัญชาเองกลับดูอายุน้อยจนผิดสังเกต และตัวยูอิจิเองที่แม้จะมาที่ฐานทัพแห่งนี้เป็นครั้งแรกแต่ตัวเขาเองกลับรู้สึกคุ้นเคยกับฐานทัพแห่งนี้อย่างน่าประหลาด อีกทั้งความสัมพันธ์ระหว่างเขากับผู้บัญชาการค่อนข้างเป็นสัมพันธ์ที่อธิบายไม่ถูก ความสัมพันธ์นี้จะจบยังไง ติดตามได้ใน

     

    Sky Crawlers (2008)วัฏจักรอเวจีใต้ฟ้าสีคราม

    แนวไซไฟและสงคราม

    (แนะนำให้ไปเช่าเรื่องนี้มาดูก่อนครับ เนื้องจากเนื้อหาตอนนี้สปอยจนเกือบหมดเลย)
    คลิปตัวอย่าง http://video.mthai.com/player.php?id=18M1239088063M0

     

                    Sky Crawlers เป็นผลงานภาพยนตร์การ์ตูนของ โอชิ มาโมรุ ผู้กำกับที่เคยฝากผลงานในเรื่อง Ghost in the shell ซึ่งการ์ตูนเรื่องนี้ดัดแปลงจากนิยายแนวไซไฟของโมริ ฮิโรชิ ซึ่งนักเขียนคนนี้เคยมีผลงานในเรื่อง ปมปริศนาห้องลับกับสุดยอดด๊อกเตอร์ (Doctor in Isolated Room) ที่ถูกตีพิมพ์เป็นการ์ตูนแปลไทยมาแล้ว

                    Sky Crawlers เป็นนิยายที่นักเขียนโมริ ฮิโรชิ ที่เขียนมากว่า 7 ปี ออกถึง 5 เล่ม ดังนั้นสิ่งที่การ์ตูนเรื่องนี้นำเสนอนั้นไม่สามารถเก็บรายละเอียดเท่านิยายแน่นอน เพียงแต่การ์ตูนภาพยนต์เรื่อง Sky Crawlers  นี้ยกเค้าโครงมาจากนิยายภาคแรก ที่วางจำหน่ายเมื่อ 2001 มาใช้เป็นเค้าโครงภาพยนตร์เรื่องนี้เท่านั้น

                    Sky Crawlers  มีชื่อไทยว่าสงครามเหนือเวหา แต่กระนั้นก็ขอบอกว่าการ์ตูนเรื่องนี้เป็นการ์ตูนสงครามก็จริง หากแต่ฉากสงครามที่ว่านั้นค่อนข้างน้อยและรวดเร็วจนดูไม่ทันว่าฝ่ายไหนเป็นฝ่ายไหน(เครื่องบินทั้งสองฝ่ายดูยากเป็นบ้า) ในฉากสงครามนั้น ใช้กราฟิก 3D มาใช้ ที่มีรายละเอียดสูงอย่างมากก็จริง  หากแต่หากมองไปนานๆ เข้าก็พบว่ามันหยาบกระด้างและขาดอารมณ์พอสมควร(เป็นความตั้งใจของผู้กำกับที่ทำภาพออกมาในลักษณะแบบนี้) ดังนั้นคนที่พิสมัยในเรื่องฉากสงครามที่ตื่นเต้นเร้าใจก็ขอให้ถอยห่างไปซะ!!

                    ทางด้านตัวละครนั้นออกแบบอย่างง่ายๆ (จนไม่สามารถบอกได้ว่าจะน่ารักหรือสมจริงดี) มีความผสมผสานระหว่างคนญี่ปุ่นกับคนต่างประเทศ แม้เนื้อหาจะบอกว่าเป็นเรื่องของโลกคู่ขนาน แต่กระนั้นตัวละครดันชื่อญี่ปุ่น หนังสือพิมพ์เขียนภาษาญี่ปุ่น ส่วนบ้านเมืองเป็นแบบยุโรป ทำให้ภาพที่ดูออกมาอาจขัดๆ นิดหน่อย หากมาเปรียบเทียบกับโลกแห่งความจริงแต่กระนั้นการ์ตูนเรื่องนี้ได้ตอบรับในด้านบวก และได้รับเลือกฉากในงานภาพยนตร์ใหญ่ๆ หลายงาน และกวาดรางวัลไม่น้อย จนเกือบได้เข้าชิงรางวัลออสการ์สาขาอมิเนชั่นด้วยซ้ำ

                    Sky Crawlers เป็นเรื่องราวของโลกขนานแห่งหนึ่ง ที่เกิดสงครามระหว่าง รอสท็อค(Rostock) และ เลาเทิน (Lautern) ที่ทั้งสองรบราฆ่าฟันกันทางอากาศมาอย่างยาวนานโดยไม่ทราบเหตุผลว่ารบกันเพื่ออะไร? ฆ่ากันทำไม? และดูเหมือนไม่มีทางยุติสงครามนี้ได้เลย แต่กระนั้นทหารนักบินที่ทำสงครามและผู้คนเหล่านั้นกลับเฉยเมยไม่สนใจ,ไม่ใส่ใจมันเท่าไหร่นัก ราวกับว่ามันเป็นเรื่องปกติในชีวิตประจำวันอย่างไงอย่างงั้น……

                    
                   ช่วงที่ 1
    เปิดฉากออกมาเป็นสงครามเครื่องบินทั้งสองฝ่าย ที่ผมดูแล้วยัง งง อยู่ว่านี้เป็นฝ่ายไหนเป็นฝ่ายไหน จนไม่รู้จะเชียร์ใคร และสงครามก็จบลง ด้วยชัยชนะของเครื่องบินสีน้ำตาลอ่อนลำหนึ่งที่มีสัญลักษณ์เสือจากัวร์(มารู้ที่หลังว่าเครื่องบินลำนั้นเป็นฝ่ายเลาเทิน)

                    เนื้อเรื่องตัดมาที่พระเอกคนหนึ่งชื่อ คันนามิ ยูอิจิ(Yuichi Kannami) เป็นนักบินหนุ่มฝีมือดี ของฝ่าย รอสท็อค ที่เข้ามาประจำการที่ฐานทัพอากาศในบ้านนอกที่แสนจะเงียบเหงาและกันดานแห่งหนึ่ง สิ่งแรกที่เขาเข้ามา เขาพบว่า ที่นี้มีวิศวกรและช่างเครื่องไม่กี่คน อีกทั้งนักบินก็มีเพียงแค่ 3 คน อีกทั้งผู้บังคับบัญชายังเป็นผู้หญิงอีก

                    ที่น่าสังเกตคือทั้งนักบินและผู้บังคับบัญชารวมทั้งคันนามิ ยูอิจิ ดูเหมือนอายุยังน้อยจนผิดสังเกต ส่วนตัวคันนามิ ยูอิจิก็เริ่มมีคำถามต่างๆ เขามาในสมองของเขามากมาย(รวมทั้งผู้ดู) เช่น ทำไมเขาถึงคุ้นเคยกับสถานที่แห่งนี้เหลือเกิน ถึงแม้เขาจะประจำการที่นี่ครั้งแรก เขากลับรู้สึกว่าเขารู้สักสถานที่นี้เป็นอย่างดี คุ้นเคยอย่างบอกไม่ถูก ทุกคนในที่นี้ต่างต้อนรับเขาเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนนักบิน, ผู้บังคับบัญชา, มาสเตอร์บาร์เหล้า(ที่ดูเหมือนว่ามีแห่งเดียวในบ้านนอกแห่งนี้), กับหญิงบริการที่เขานอนด้วยเป็นคืนแรก เขารู้สึกเลยว่าเขาเคยรู้จักคนพวกนี้มาก่อน อีกทั้งเครื่องบินที่เขาขับก็รู้สึกว่าเขาเคยขับเครื่องบินนี้มาก่อนด้วย มันเสมือนหนึ่งปรากฏการณ์เดจาวูยังไงอย่างงั้น ไม่สิ!!.....หรือว่ามันไม่ใช้เดจาวูธรรมดา? ยิ่งกว่านั้นผู้บังคับบัญชาที่เป็นผู้หญิงชื่อ คุซานางิ ซุยโตะ(นางเอก) เธอเป็นใครกันแน่? ทำไมเหมือนกับว่าเขารู้จักกับเธอมาก่อน ดูเหมือนเธอจะเป็นคนสำคัญกว่าเขา เธอกำลังเก็บความลับอะไรที่สำคัญโดยที่เขาไม่รู้และในตอนนั้นเองคันนามิก็พูดกับกับผู้บัญชาการคุซานางิ ว่า “คุณคือคิลเดรน(Kiklren)หรือ??” แล้วคิลเดรนมันคืออะไรกันแน่?? อีกทั้งเขาจำเรื่องสมัยเด็ก ครอบครัว หรือเรื่องก่อนหน้านี้ไม่ได้เลย สิ่งที่เขาจำได้มีเพียงแค่ทักษะการขับเครื่องบินเท่านั้น และเขาไม่เข้าใจความหมายสงครามครั้งนี้ว่าพวกเขารบไปเพื่ออะไร ทำไมถึงต้องรบ?

                   
                    หลังจากนั้นเนื้อหายังเพิ่มปริศนาเข้ามา คือพระเอกได้สงสัยว่า เกิดอะไรขึ้นนักบินก่อนหน้าที่เขามาประจำการแทนเขา(เจ้าของเครื่องบินที่คันนามิขับ) รู้แต่ว่านักบินที่เขามาแทนนั้นชื่อ “คุริตะ จินโร” แต่ดูเหมือนหลายคนไม่อยากจะเอ่ยถึงเขานัก เขาเป็นใครกันแน่?? และเกิดอะไรขึ้นกับตัวเขา??

                    รู้สึกว่าคันนามิ ยูอิจิ จะเป็นพระเอกที่ดูยากมาก ผมดูไม่ออกว่าเขาชอบอะไร ไม่ชอบอะไร ท่าทางของเขาจะเฉยเมยต่อสิ่งรอบข้าง และมีนิสัยการแสดงออกเหมือนเด็กไม่ยอมโต แต่เสียดายนิดๆ ตรงที่เสียงพากษ์ที่เป็นเสียงผู้ใหญ่แทนที่จะเป็นเด็ก

                    เนื้อเรื่องค่อนข้างดำเนินแบบเนิบนาบ ราบเรียบ อย่างที่หลายกระทู้ว่าไว้จริงๆ แต่การเนิบนาบเหล่านี้ดูแล้วสวยงาม น่าดู หากได้ดูรอบที่ 2

                    
                    แค่ประจำสัปดาห์แรกพระเอกก็งานเข้า เมื่อเครื่องบินฝ่ายศัตรูรุกล้ำเขามาพรมแดน และพระเอกก็ต่อสู้และชนะอย่างง่ายดาย แต่จุดสำคัญ ไม่ได้การโชว์เทพของพระเอกหรือฉากสงครามกลางเวหาแต่อย่างใด แต่แสดงให้เห็นว่าขนาดบ้านนอกฝ่ายศัตรูยังเข้ามาบุก แสดงว่าบ้านนอกนี้คงเป็นสถานที่สำคัญต่อจุดยุทธศาสตร์พอสมควร และการที่เครื่องบินฝ่ายศัตรูมาบ่อยๆ ก็แสดงให้เห็นว่าพรมแดนของร็อคท็อค
    และเลาเทินคงจะอยู่ใกล้มากๆ คงมีเพียงแค่มหาสมุทรแบ่งเขตแดนไว้เท่านั้น

                    ดังนั้นการจะดูการ์ตูนนี้ ให้สนุกนั้นอย่างแรกเราควรตั้งคำถามต่างๆ ไปด้วย ว่าทำไมถึงเป็นอย่างงั้น? เพราะเหตุใด? ทำไม?  ซึ่งการตั้งคำถามเหล่านั้นสามารถไปใช้การ์ตูนเรื่องอื่นๆ ได้ ซึ่งจะช่วยให้การดูการ์ตูนมีอรรรสมากยิ่งขึ้น

                    แต่ดูเหมือนว่าการเผยคำตอบปมปริศนาขอการ์ตูนเรื่องนี้นั้น มาจากการสนทนาของตัวละครเสียมากกว่าที่พระเอกจะไปหาคำตอบด้วยตนเอง ปริศนาต่างๆ มาจากที่พระเอกได้ฟังตัวละครที่จู่ๆ ก็เอ่ยคำตอบปริศนาคาใจขึ้นมาเท่านั้น แถมคำตอบปริศนาคาใจเหล่านั้นค่อนข้างยืดยาวและราบเรียบ ตัวเอกที่ฟังตัวละครเฉลยปริศนาเหล่านั้นก็มีสีหน้าเรียบเฉย ไม่แสดงอารมณ์ใดๆทั้งสิ้น หากแต่ก็เก็บไว้กับตัวคนเดียว ไม่ระบายออกมาแต่อย่างใด

                    
                    ช่วงที่ 2 คันนามิเริ่มปรับตัวสถานที่แห่งใหม่นี้อย่างรวดเร็ว คำถามที่เขาสงสัยก่อนหน้านี้เริ่มได้คำตอบ แต่กระนั้นคำถามใหม่ก็เริ่มถาโถมเข้ามาในโสตสมองเขาอีกจนได้..... เมื่อ
    คันนามิพบว่าผู้บัญชาการคุซานางิ ซุยโตะมีลูกสาวอยู่คนหนึ่ง แต่เธอบังคับให้ลูกสาวเรียกตัวเองว่า “พี่สาว” เป็นเพราะอะไรทำไมถึงต้องปกปิดคนอื่นว่าเธอมีลูกสาว คนที่เป็นคิลเดรนไม่สามารถมีลูกได้หรือ??

                     
                    หลังจากนั้นคันนามิรู้จากปากของเพื่อนนักบินจึงทราบว่า คุริตะ จินโร นักบินคนก่อนนั้น แท้จริงแล้วเขาถูกผู้
    บัญชาการคุซานางิฆ่า แต่ทำไมเธอถึงฆ่าเขา? ทั้งๆ ที่การแสดงออกของผู้บัญชาการคุซานางิดูเหมือนเธอจะรักเขามาก และบางทีเขาอาจพ่อของเด็กสาวของผู้บัญชาการก็ได้

                  จากเหตุการณ์ที่ผ่านมา พระเอกก็เริ่มสงสัยกับตัวตนที่แท้จริงของสงครามในครั้งนี้ ว่ามันคืออะไรแน่?? ชาวบ้านใกล้ๆ ฐานทัพของพระเอกแทบไม่รู้สึกรู้สมกับสงครามเหล่านี้เลย หนังสือพิมพ์ที่พวกนักบินอ่านไม่ยักก็มีข่าวอะไรเลยเกี่ยวกับสงครามเลย(ข่าวสงครามปรากฏออกมาในช่วงแรก หากแต่ช่วงหลังเริ่มมีแต่ข่าวธุรกิจแล้ว) แม้จะมีข่าวถ่ายทอดสงครามบนท้องฟ้าผ่านทีวี หากแต่ภาพของสงครามเป็นเสมือนการรายงานข่าวธรรมดา สั้นๆ ไม่ยาวและให้รายละเอียดมากมาย เลย และไม่มีข่าวเรื่องเหยื่อผู้เสียชีวิตหรือแสดงความเสียอกเสียใจหรือความสูญเสียแต่อย่างใด

                   

                    ช่วงที่ 3 หลังจากที่ฝ่ายพระเอกคันนามิเอาชนะศึกสงครามกับฝ่ายเลาเทนอยู่บ่อยครั้ง ฝ่ายเลาเทนก็ได้งัดอาวุธลับนั้นก็คือนักบินที่ได้มีฉายาว่า “อาจารย์ใหญ่” ที่ขับเครื่องบินสัญลักษณ์รูปเสือจากัวร์ที่ปรากฏออกมาตอนต้นเรื่อง และขับเครื่องบินลำนั้นเพื่อสู้รบกับพระเอก

                    คันนามิและเพื่อนรู้ซึ่งถึงความเก่งกาจของ “อาจารย์ใหญ่” ที่ฝีมือขับเครื่องบินเหนือกว่าพวกตนมาก คันนามิและเพื่อนไม่สามารถเอาชนะนักบินคนนี้ได้เลย อีกทั้งเพื่อนคนหนึ่งของนามิก็ตายจากการปะทะในศึกครั้งนี้ด้วย

                    แต่ที่น่าแปลกคือ ฝ่ายของพระเอกไม่มีใครสักคนรู้สึกเศร้าเสียใจจากการของเพื่อนคนนี้เลย ได้แต่เงียบและพูดคุยปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นอย่างงั้น

                    “อาจารย์ใหญ่เป็นใครเหรอ?” คันนามิเอยถามเพื่อนนักบิน เพราะเขาสงสัยประโยคก่อนตายของเพื่อนนักบินจากเหตุปะทะ

                    “อาจารย์ใหญ่เป็นนักบินฝีมือดีของเลาเทน ลือกันว่าเขาเป็นมนุษย์ผู้ใหญ่”เพื่อนนักบินคนหนึ่งให้คำตอบ

                    “มนุษย์ผู้ใหญ่เหรอ?” พระเอกสงสัยกับประโยคนี้และคนดูก็สงสัยด้วยว่า “มนุษย์ผู้ใหญ่”ในที่นี้หมายถึงอะไร

                    ดูเหมือนว่าผู้บังคับบัญชาคุซานางิ รู้สึกฝังใจกับ “อาจารย์ใหญ่มาก” ในวันลาดตระเวณในวันต่อมา ฝูงบินรบที่มีผู้บังคับบัญชาคุซานางินำทีมด้วย ถึงกลับทิ้งฝูง เพื่อปะทะเครื่องบินฝ่ายข้าศึกที่มี “อาจารย์ใหญ่” นำขบวน จนตนเองต้องบาดเจ็บสาหัส

                    
                    จากนั้นเรื่องก็มาถึงฉากสงครามครั้งใหญ่ที่สุดของเครื่อง ก็การนำฝูงบินรบไปทิ้งระเบิดฐานทัพแนวหน้าของเลาเทน ที่ฐานทัพรวมพลพระเอกคันนามิก็ได้รู้จักเพื่อนนักบินคนหนึ่งที่ชื่อ
    มิตสึยะ ที่ดูเหมือนเธอจะรู้จักกับเขามานานแล้วเหมือนกัน

                    จากนั้นเราก็ได้เห็นฉากการรบทางอากาศครั้งใหญ่ เมื่อกองทัพอากาศของรอสท็อคจะบุกโจมตีครั้งยิ่งใหญ่ รอสท็อคปะทะกับกองกำลังทางอากาศของฝ่ายตรงข้ามเหนือน่านฟ้าเขตเมืองใหญ่

                    ในฉากการรบทางอากาศครั้งใหญ่ก็เหมือนกัน แม้จะมีการถ่ายทอดสด และชาวบ้านได้มุงดูรายการถ่ายทอดนี้อย่างกังวลใจ เพราะในขณะที่ชาวบ้านเหล่านั้นกำลังดูข่าว กลับมีชาวบ้านคนหนึ่งที่เบื่อหน่ายข่าวสงครามและหันมาอ่านหนังสือพิมพ์ข่าวธุรกิจอยู่ น่าแปลกจริงๆ ท่ามกลางสงครามแท้ๆ แต่ทำไมธุรกิจยังดำเนินไปได้อย่างไร้ซึ้งปัญหา?

                    ผลจากสงครามครั้งนี้ฝ่ายรอสท็อคล้มเหลว แต่กระนั้นฝ่ายพระเอกก็ไม่สนผลของสงครามนี้แต่อย่างใด ใครจะเป็นจะตาย ใครจะชนะก็ช่าง และเพื่อนพระเอกก็ชวนพระเอกเข้าเมืองเพื่อปลดปล่อยอารมณ์

                    น่าสังเกตในเมือง เป็นเมืองแบบยุโรปที่ผู้คนต่างหลับนอนแต่หัวค่ำ และไม่มีปฏิกิริยาเกี่ยวกับผลของสงครามนี้เลย

                    ผู้บังคับบัญชาคุซานางิและคันนามิไปที่บาร์ ดูเหมือนคุซานางิจะเครียดอะไรสักอย่าง เธอดื่มไวน์จนเกินพอดี

                    “ในวันที่เครื่องบินโดนอาจารย์ใหญ่ยิงตก ทำไมคุณถึงบุ่มบ่ามแบบนี้ คุณยึดติดกับอาจารย์ใหญ่เหรอ”คันนามิถามผู้บังคับบัญชาคุซานางิในขณะอยู่ด้วยกันสองต่อสอง

                    “เขาเคยเป็นครูของชั้น เค้าเคยอยู่ฝ่ายเดียวกับเรามาก่อน เป็นมนุษย์ผู้ใหญ่ มนุษย์ที่ไม่เหมือนเรา”ผู้บังคับบัญชาคุซานางิตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

                    “ถ้าหากผมฆ่าเขา จะเปลี่ยนอะไรได้บ้าง”คันนามิถามผู้บังคับบัญชา(ความหมายของประโยคนี้อยู่ท้ายช่วง 4 ครับ)

                    ผู้บังคับบัญชาคุซานางิบอกว่าไม่มีทางหรอก อาจารย์ใหญ่ไร้พ่าย เขาไม่เคยถูกยิงตกเลยสักครั้ง

                    “ทำไมเหรอ?

                    ผู้บังคับบัญชาคุซานางิถามตอบพระเอกว่ามีความคิดเห็นยังไงกับสงครามครั้งนี้ พระเอกตอบว่า”เพราะมันเป็นหน้าที่” ก่อนที่เธอจะพล่านประโยคที่เข้าใจยากอะไรสักอย่างแก่เขา

                    “มนุษย์ไม่สามารถใช้ชีวิตปราศจากสงครามได้  สงครามอยู่คู่ประวัติศาสตร์ของมนุษย์ตลอดเวลา พวกเขาจะรู้สึกต้องมีตัวตนอยู่ การสร้างสงครามก็เหมือนกับการสร้างความสงบให้คงอยู่ไว้ และต้องเป็นสงครามจริง ไม่ใช่สงครามเด็กเล่น การอ่านสงครามในหนังสือมันไม่พอหรอก ส่วนมากก็เหมือนนิทานหลอกเด็ก ถ้าหากคนเราไม่ได้ยินข่าวการตายในหน้าหนังสือพิมพ์ ถ้าหากไม่แสดงอาการเจ็บปวด ความสงบสุขก็อยู่ไม่ได้ ค่าของความสงบสุขจะถูกลืม  คนเราต้องการสงคราม สงครามแสดงถึงการมีชีวิตอยู่ มันก็ไม่ได้ไปต่างอะไรกับพวกเราหรอกนะ ที่มีชีวิตชีวาตอนอยู่บนท้องฟ้า และเพราะสงครามก็คือเกมส์การละเล่นที่ไม่มีวันจบ และเวลาเล่นก็ต้องมีกฎ เช่น จำเป็นต้องสร้างศัตรู ศัตรูที่ไม่มีวันเอาชนะได้”

                    “แล้วนี้คืออาจารย์ใหญ่” พระเอกคันนามิเอ่ย

                    
                    ช่วงที่ 4 หลังจากผ่านค่ำคืนเลิฟซีนระหว่างพระเอกคันนามิและผู้บัญชาการคุซานางิมาได้(แค่จูบแต่โครตเสียว ไม่เชื่อไปดูได้) และแล้วพระเอก(และคนดู)ก็ได้คำตอบเกือบทั้งหมดเมื่อเขาพบเพื่อนที่น่าจะตายตั้งแต่โดน “อาจารย์ใหญ่” ฆ่าครั้งก่อน กลับมีชีวิตขึ้นมาใหม่ นั่งดูที่ประจำ และอ่านหนังสือพิมพ์เหมือนเมื่อก่อนไม่มีผิด เพียงแต่เปลี่ยนชื่อ และนักบินที่มาประจำการคนใหม่เท่านั้นเอง....

                    ตอนนั้นแหละ พระเอกก็รู้ทันทีว่าเขาก็คือมนุษย์โคลน และอดีตเขาก็เคยประจำการอยู่ที่นี่ในฐานะ “คุริตะ จินโร” ซึ่งเคยอดีตคนรักผู้บัญชาการคุซานางิจนกระทั้งมีลูกนั่นเอง

                    และในวันนั้นในห้องพักของคันนามิ ระหว่างคันนามิ กับนักบินมิตสึยะมิตสึยะได้ปลดปล่อยความรู้สึกในใจที่รู้สึกสับสนและทุกข์ทรมานกับชีวิตของคิลเดรน สิ่งมีชีวิตโครนที่สร้างขึ้นเพื่อสงคราม ที่มีชีวิตราวกับไม่มี ไม่มีความทรงจำ(ที่ดี)ใดๆ และผูกพันอยู่กับการฆ่าอย่างไม่มีจุดสิ้นสุด มิตสึยะหวาดกลัวความตาย กลัวจะตายเหมือนคันนามิ เธอไม่อยากเกิดใหม่ และใช้ชีวิตวัฏจักรการฆ่าแบบไม่สิ้นสุดนี้

                    มาถึงตอนนี้เนื้อเรื่องก็เริ่มเฉลยหมดแล้ว ว่าโลกคู่ขนานนี้ความจริงแทบไม่มีสงครามเลย เพราะถ้ามีจริงเราคงได้เห็นเศษซากบ้านเรือนของทั้งสองฝ่ายหรือเห็นรถถังหรือพวกทหารถือปืนไล่ยิงชาวบ้านบ้าง แต่การ์ตูนนี้ไม่มีเลย มีเพียงแต่เครื่องบิน บินว่องบนฟ้า สงครามโลกคู่ขนานนี้คงโดนจำกัดกฎอะไรมากพอสมควร ทำให้สงครามนี้เกิดเฉพาะในวงแคบๆ เท่านั้น บางทีอาจเป็นเพียงทำสงครามเพื่อผลประโยชน์ โชว์ศักยภาพทางการทหาร โชว์ภูมิแผนการรบของแต่ละฝ่าย เหมือนเป็นความบันเทิงของคนใหญ่คนโตเสียมากกว่า(ส่วนชาวบ้านดูแค่รายงานข่าว)

                     อีกทั้ง ทั้งสองฝ่ายไม่ได้ใช้มนุษย์จริงๆ มาทำสงคราม หากแต่มนุษย์ที่ใช้และมนุษย์ที่ตายในสงครามแต่ละครั้งนั้นเป็นเพียงมนุษย์ทดลองที่สามารถชุบชีวิตใหม่ขึ้นมาได้

                    พระเอกคันนามิและนักบินทุกคนเป็นมนุษย์ทดลองที่ถูกเรียกว่า “คิลเดรน(Kiklren)” เป็นมนุษย์โคลนที่ไม่มีวันเติบโตเป็นผู้ใหญ่ ไม่มีอายุ และไม่มีวันตาย นอกเสียจะถูกฆ่าในสนามรบ แต่กระนั้นเมื่อพวกเขาตายไปก็สามารถชุบชีวิตใหม่ได้ โดยให้มีรูปร่าง และประสบการณ์บินเหมือนเดิม และได้รับการปลูกถ่ายความทรงจำใหม่เข้ามาแทนที่  เหมือนในกรณีของพระเอก

                    ผมสังเกตเลยว่า  ทั้งสองฝ่ายนั้นไม่ได้คิดปกปิดเรื่องคิลเดรนแก่เหล่านักบินอะไรเลย และไม่สนเลยว่าหากพวกเขารู้เรื่องเข้า นี้พวกเขาจะสิ้นหวังหรือก่อกบฏอะไรเลยหรือ? แต่ถึงอย่างไรสองฝ่ายนี้ไม่ได้สนใจเรื่องเหล่านี้เลย เพราะสองฝ่ายนี้รู้ดีว่า พวกคิลเดรนไม่มีทางก่อกบฏ แม้พวกนักบินจะรู้ตัวว่าตนเองเป็นคิลเดรนเพราะว่าสงครามได้เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตของพวกเขาแล้ว

                    อีกอย่าง คิลเดรนไม่มีทางที่จะสามารถชนะมนุษย์อย่างเราๆ ได้ เพราะทักษะการต่อสู้ของพวกเขาถูกจำกัด และสำเร็จรูปมากเกินไป ทำให้มองออกง่ายๆ  อีกทั้งวันดีคืนดีจะมนุษย์จริงๆ “ ที่เป็นคนฝึกเหล่าคิลเดรนซึ่งสามารถเข้าฝ่ายไหนก็ได้ตามต้องการของตน โดยใช้ชื่อว่า “อาจารย์ใหญ่” ซึ่งเป็นผู้ให้กำเนิดคิลเดรน มาสเตอร์ และเทพเจ้าแห่งสงคราม โดยมีสัญลักษณ์เครื่องบินรูปเสือจากัวว์  ซึ่ง “อาจารย์ใหญ่”จะปรากฏตัวในสถานการณ์ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งกำลังได้เปรียบเพื่อกลับมาให้เสมอหรือสูสีขึ้น ซึ่งพวกคิลเดรนไม่สามารถจะต่อด้าน “อาจารย์ใหญ่” ผู้นี้ได้เลย

                    สัญลักษณ์เสือจากัวร์ก็หมายถึงความมีอำนาจในวัฒนธรรมของตนนั้นเอง

                    พวกคิลเดรนเป็นสิ่งมีชีวิตที่น่าสงสาร แม้พวกเขาสามารถชนะกฎธรรมชาติ สามารถเป็นอมตะได้ แต่พวกเขาไม่มีวันเป็นอิสระ ไม่สามารถประกอบอาชีพอื่นใด นอกจากนักบินเครื่องบินรบได้ พวกเขาจะอยู่วัฏจักรแห่งสงครามตลอดกาล แม้พวกเขาจะตาย ก็สามารถชุปชีวิตใหม่ แต่การชุปชีวิตแต่ละครั้ง ประสบการณ์ต่างๆ ที่ไม่เกี่ยวกับทักษะการบินจะถูกลบไปเสียสิ้น ไม่ว่าจะเป็น ความรัก มิตรภาพ ถูกลบหายไปจนหมดสิ้น สิ่งเหล่านี้ไม่แตกต่างเลยอะไรไปจากนรกของเหล่าคิลเดรน

                    แต่ในเรื่องมีคิลเดรนอยู่ 2 คน พยายามจะแหกวัฏจักรเหล่านี้

                    
                   ผู้บังคับบัญชาคุซานางิ ซุยโตะ
    ไม่รู้ว่าอดีตของนางเอกคนนี้เป็นอย่างไร(ภาคเกมส์ หรือนิยายคงเฉลยเรื่องราวเหล่านี้มั้ง) เท่าที่รู้เธอมีเพศสัมพันธ์กับมนุษย์ผู้ใหญ่ที่เป็นคนใหญ่คนโตในสมัยเด็ก(ฉากเร็วมาก) และคงมีประสบการณ์อะไรไม่ดีหลายอย่าง ทำให้เธอ มองมนุษย์คนอื่นอย่างเกลียดชัง เช่น อยากยิงพวกกรู๊ปทัวร์ที่มาเที่ยว ด่าพวกสงสารเหล่าคิลเดรนที่ตายไปว่า “พวกโง่ พวกคิลเดรนไม่จำเป็นต้องสงสารหรอก” มองพวกผู้หญิงที่พยายามตีสนิทคิลเดรนว่า “มันน่าจับพวกเหล่อนเอามาเป็นพินให้ลูกโบลิ่งขว้างใส่หน้า” เป็นต้น แม้เธอมีความคิดเกลียดชังในมนุษย์ แต่เธอก็ไม่สามารถทำได้ เพราะเธอรู้ดีในฐานะตัวเธอที่เป็นคิลเดรนคนหนึ่ง

                    ที่น่าสังเกตคุซานางิมีชื่อเดียวกับนางเอกในเรื่อง Ghost in the Shell ซึ่งมีร่างครึ่งคนครึ่งเครื่องจักร และมีเนื้อหาคล้ายกับเรื่อง Sky Crawlers แทบทุกอย่าง คือการเป็นอมตะ แต่อยากเป็นมนุษย์ มีความรู้สัก และมีความรัก ซึ่งคุโรซากิก็เหมือนกัยนางเอก Ghost in the Shell  เธอมีความรัก รักกับคุริตะ จินโร(คันนามิสมัยก่อน) จนเกิดลูกขึ้นมา มันเป็นไปได้ไงว่าสิ่งมีชีวิตทดลองเหล่านี้สามารถมีลูกได้ แล้วอย่างนี่เราพูดได้เต็มปากหรือเปล่าว่าเหล่าคิลเดรนไม่ใช้มนุษย์สังเคราะห์ มนุษย์ทดลอง หากแต่เป็นมนุษย์สมบูรณ์ ที่มีเลือด มีเนื้อ มีจิตใจ มีความรู้สึก เหมือนกัน

                   

                    คันนามิ ยูอิจิ(คุริตะ จินโร) ในอดีตของเขาคือคุริตะ จินโร ซึ่งตอนที่เขามีความรู้สึกถึงวัฏจักรคิสเดรนเขาก็หวาดกลัวนี้ เขาขอร้องให้คุซานางิ ซุยโตะฆ่าเขาให้ตายเพื่ออยากจะหนีวัฏจักรนี้ แต่ปรากฏว่ามันไม่ได้เป้นอย่างที่คิด เขาคืนชีพขึ้นมาใหม่ แม้จะเปลี่ยนความทรงจำ แต่เขาก็มีความจำแบบเดจาวู เมื่อเขารู้ว่าแม้ตายก็ไม่สามารถทำให้อะไรเปลี่ยนได้ เขาเลยต้องการทำลายวัฏจักรนี้ โดยสิ่งที่ควรทำคือการก้าวข้ามขอบเขตวัฏจักร

                    หากเราเอาชนะอาจารย์ใหญ่ได้ จะสามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้บ้างไหม?? อย่างเช่น "ข้อจำกัด"หรือ “ซะตากรรม”

                    พระเอกคันนามิต้องการเอาชนะอาจารย์ใหญ่เพราะเขาคิดว่า “ทุกคนมีสิทธิเส้นทางชีวิตที่เดินอยู่ทุกวันได้ ถึงแม้จะเป็นถนนสายเดิม เราก็ได้เห็นสิ่งใหม่ๆ นั้นยังไม่พอกับชีวิตอีกเหรอ หรือว่าพวกเราต้องการอะไรมากกว่านั้น.....”

                    และในฉากการตัดสินระหว่างคันนามิกับอาจารย์ใหญ่ในสงครามกลางเวหา พระเอกได้พูดคำหนึ่งที่เรียกอาจารย์ใหญ่ว่า “ผมจะฆ่าพ่อเอง!!

                    “พ่อ”หมายถึงอะไรกัน เราได้เห็นคำพูดของพระเอกของเรื่องพูดในขณะขับเครื่องบินขณะลาดตระเวนก่อนถึงฉากประจันหน้ากับ “อาจารย์ใหญ่” พระเอกพยายามฝืนโชคซะตาอันนี้ด้วยการเป็น “ลูกฆ่าพ่อ” แม้เขาไม่ใช้มนุษย์แต่เขาก็อยากจะชนะมัน หากสุดท้ายพระเอกก็พ่ายแพ้ ไม่สามารถเปลี่ยนชะตากรรมวัฎจักรนี้ได้ เพราะนี้ไม่ใช้การต่อสู้ระหว่างพระเอกกับอาจารย์ใหญ่(พ่อ) หากแต่เป็นการต่อสู้ระหว่างเด็กและผู้ใหญ่ หรือบางทีอาจเป็นวิทยาศาสตร์(มนุษย์ทดลอง)กับพลังธรรมชาติ(พ่อ) ซึ่งการต่อสู้เหล่านี้แทบจะไม่มีทางที่จะเท่าเทียมหรือผลัดกันแพ้ผลัดกันชนะ หรือไม่วันที่ฝ่ายหนึ่งสามารถเอาชนะได้เลย

                    ฉากสุดท้ายคือ เป็นฉากที่ทุกคนในฐานทัพบินตั้งหน้าตารอพระเอกคันนามิกลับมา แต่รอแล้วรอเล่าก็ไม่ปรากฏแม้แต่เงา จนหลายคนรู้แล้วละว่าคันนามิตายแล้ว หากแต่พวกเขาไม่มีใครสักคนที่ร้องไห้การจากไปของเขา เพราะพวกเขารู้ดีว่ายังไงสักวันหนึ่งเขาต้องกลับมา หากแต่การกลับมาของเขาไม่ใช้ คนเดิมอีกต่อไป

                    และหลังเครดิตจบ ก็ปรากฏร่างนักบินคนใหม่ประจำการ ซึ่งก็เป็นใครก็ไม่ต้องเดาแล้วล่ะ

                    วัฏจักรแห่งนรกนี้ก็ยังดำเนินต่อไปอีกนานเท่านาน...................

                    สรุป  ผมมารู้ที่หลังว่าทำไมการ์ตูนเรื่องนี้ถึงดำเนินเรื่องแบบเนิบนาบ เชื่อมช้า และไม่เร้าใจ สาเหตุคือผู้กำกับจงใจให้ดำเนินเรื่องแบบนี้ เสมือนหนึ่งชีวิตของมนุษย์ที่เติบโตมาอย่างช้าๆ เรียนรู้ ฝึกทักษะ เข้าสังคม สร้างฐานะ อย่างค่อยเป็นค่อยไป จะมีอุปสรรค์บ้าง แม้ชีวิตของมนุษย์จะเชื่อมช้า แต่อายุของมนุษย์ช้างสั้นนักแค่ 60-80 ปีก็ลาจากโลกแล้ว โดยพวกเขาก็ไม่เข้าใจความหมาย “ชีวิต” อย่างแท้จริง ดังนั้นมันไม่แตกต่างอะไรกับวัฏจักรที่ทุกข์ทรมานของเหล่าคิลเดรนในเรื่องเลย

                    เมื่อการ์ตูนจบครั้งแรกผมก็พบว่า “นี้มันเลน ภาค 2 เรอะ” ผมคิดแบบนี้จริงๆ แต่หากดูกลับ รอบที่ 2 พบว่ามันสนุกเหลือเชื่อ เพราะฉากจบหลังเครดิตนั้นหากลองไปคิดว่าเป็นฉากเปิดเรื่องละก็การ์ตูนเรื่องนี้จะไม่มีตอนจบ มันจึงเหมือนนี้คือวัฏจักรนั้นเอง

                    ล่าสุดการ์ตูนเรื่องนี้ถูกนำมาสร้างเป็นเกมส์ในชื่อ Sky Crawlers: Innocent Aces ของเครื่อง Wii เป็นช่วงที่ผู้บังคับบัญชายังสาวและเราจะรู้ปมต่างๆ ที่ไม่สามารถไขได้จากภาคนี้ แน่นอนข้อมูลนี้ผมก็แค่เดาๆ และดูของเขามาอีกที ผิดพลาดตรงไหนก็ขออภัยด้วยครับ

                    

                    สุดท้ายนี้ก็มีความลับอะไรเกี่ยวกับการ์ตูนเรื่องนี้สักหน่อยนะครับ สังเกตจากใปปิดภาพยนต์การ์ตูนเรื่องนี้จากการวางองค์ประกอบเหมือนจะคล้ายหนังดังอดีตเรื่องหนึ่งเรื่อง Top Gun (ฟ้าเหนือฟ้า)เป็นหนังดังในปี 1986 ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นหนังแนวเครื่องบินรบดีที่สุดเท่าที่เคยมีมาเรื่องหนึ่ง เป็นเรื่องราวของ มาเวอริค เป็นนักบินมือหนึ่ง ที่ได้ไปเรียนใน Top Gun Naval Flying School ที่นั่นเขาต้องต่อสู้กับทัศนคติของนักบิน คนอื่นๆ มักพูดจาใส่ร้ายพ่อของเขาในทางที่ไม่ดี และเมื่อเขาเป็นนักบินฝีมือดีก็ทำให้คนอื่นๆ ไม่พอใจ  เขาจะจัดการปัญหาเหล่านี้ได้อย่างไรก็ไปหามาดูเอาเถอะ...

                    จบซะที......

    + +

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×