ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ตามรอยเรื่องลึกลับ

    ลำดับตอนที่ #13 : ซูชิโนโกะ (Tsuchinoko)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 9.38K
      5
      1 ก.พ. 51



    ซูชิโนโกะ

                   

                    หลายประเทศมีสัตว์ลึกลับมากมายที่เป็นแหล่งดึงดูดนักท่องเที่ยวใช่เปล่าครับ ที่สก็อตแลนด์มีเนสสี เนปาลมีเยติ อเมริกามีบิ๊กฟุต ฯลฯ

                    ญี่ปุ่นก็ไม่น้อยหน้าเช่นกัน เพราะเขามีงูประหลาดอย่าง ซูซิโนโกะ เช่นกัน...

                    ซูซิโนโกะหรือสึจิโนโกะ (「ツチノコ」, Tsuchinoko, ツチノコ) เป็นงู แต่ไม่เหมือนงูธรรมดา ตามคำบอกเล่าของผู้พบเห็นมันมี ลำตัวมันอ้วนสั้น ท้องแบน สันหลังสูง เมื่อมองดูจากข้างหน้าจะเห็นรูปตัดของลำตัวเป็นรูปสามเหลี่ยมคล้ายๆ กับแท่งช็อกโกแลตยี่ห้อเบลอโรน ลักษณะเด่นๆ ของมันอีกอย่างคือเหนือนัยน์ตาดวงเล็กๆ ของมันมีปุ่มกระดูกยื่นออกมาทำให้ดูเหมือนมีเขาเล็กๆ อยู่บนหัว และมีรูบุ๋มลึกอยู่บนใบหน้าด้วย คอของมันคอดกิ่วแยกส่วนหัวและลำตัวออกจากกันอย่างชัดเจน ไม่มีขา ความยาวประมาณ 30 ถึง 80 เซนติเมตร มีลวดลายคล้ายงู แต่มีปลายหางแหลมยาวออกมา เคลื่อนไหวได้รวดเร็ว บ้างก็กล่าวว่าสามารถกระโดดได้ไกลหลายเมตรด้วย บ้างก็บอกว่ามันร้องเสียงว่า " จี่ " บ้างก็กล่าวว่าเคยเห็นมันงับหางตัวเองแล้วเคลื่อนที่ไปข้าง ๆ เหมือนท่อนไม้กลิ้ง หลักฐานแรกที่มีการกล่าวถึงสึจิโนโกะ สามารถย้อนกลับไปไกลถึงได้ 10,000 ปีก่อน ในยุคโจมง (Jōmon Period) (10,000 - 300 ปีก่อนคริสตศักราช) มีวัตถุที่คล้ายสึจิโนโกะ ในยุคเอโดะ ในสารานุกรมเล่มแรกของญี่ปุ่นก็ได้มีการกล่าวถึงสึจิโนโกะด้วย โดยเรียกว่า เยตสุ เฮบิ (yatsui hebi)

    นอกจากนี้ ซูซิโนโกะ ได้ถูกอ้างอิงถึงในวัฒนธรรมร่วมสมัยของญี่ปุ่นหลายอย่าง เช่น ในการ์ตูน โดราเอมอน มีอยู่ตอนหนึ่งใช้ชื่อว่า ค้นพบ สึจิโนโกะ (หรือตอน เจองูดิน! ในเล่มที่ 9 ของเนชั่น เอ็ดดูเทนเมนท์) ในเนื้อเรื่องกล่าวถึง โนบิตะที่ต้องการจะเป็นผู้ที่มีชื่อจารึกไว้ในสารานุกรมบุคคลสำคัญของโลก จึงขึ้นเครื่องไทม์ แมชชีน ไปพร้อมกับโดราเอมอนเพื่อหาซื้อ สึจิโนโกะ ซึ่งเป็นสัตว์เลี้ยงยอดนิยมในโลกอนาคต มาอวดคนในยุคปัจจุบันว่า ตนเป็นผู้ค้นพบสึจิโนโกะ แต่ปรากฏว่าเมื่อนำกลับมาแล้ว สึจิโนโกะได้หนีหายไป ท้ายที่สุดปรากฏว่า ไจแอนท์เป็นผู้ค้นพบสึจิโนโกะไป

                    หลายต่อหลายเมืองในญี่ปุ่นได้ใช้ซูซิโนโกะเป็นเครื่องมือดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้าไปเที่ยวเมืองของตัวเอง โดยตั้งรางวัลก้อนใหญ่จับมันไว้ด้วย อย่างเช่นปี 1992 หมู่บ้านชิกูซ่า เสนอรางวัลสูงกว่า 200 ล้านเยน สำหรับผู้จับซูซิโนโกะตัวเป็นๆ มาแสดงได้ หรือ 100 ล้านเย็น ถ้ามันตายแล้ว แต่ก็ไร้ผลจนบัดนี้ก็ไม่มีใครสามารถคว้ารางวัลได้

                   
                   
    เดือนสิงหาคม ปี
    2000 สื่อมวลชนญี่ปุ่นได้เสนอข่าวว่ามีการพบเจอตัวซึซิโนโกะที่เมืองโยชิอิ เมืองเล็กๆ ที่อยู่ตอนกลางของจังหวัดโอคายามา

                    ตามข่าวในหนังสือพิมพ์ไมนิชิ ชิมบุน เรื่องเกิดขึ้นเมื่อ 1 พฤษภาคม เช้าวันนั้นชาวนาคนหนึ่งออกไปตัดหญ้า ได้แลเห็นสัตว์อะไรบางอย่างเขาอิบายว่า สัตว์ตัวนั้นรูปร่างคล้ายงู ใบหน้าเหมือนโดเรมอน แมวการ์ตูนในทีวี(??) มันกำลังเลื้อยข้ามทุ่งนา เขาจึงหวดมันด้วยเคียวดายหญ้าแต่งูหลบทันและเลื้อยหลบลงลำธารใกล้ๆ แล้วหนีไปได้ แต่ถึงอย่างไรมันก็ได้บาดแผลบาดเจ็บฉกรรจ์

                    25 พฤษภาคม ฮิเดโกะ ตากาฮิชิ แม่เฒ่าวัย 72 ได้พบงูนอนตายอยู่ข้างลำธาร แม่เฒ่าเลยนำมันไปฝัง เธออธิบายลักษณะให้แก่นักข่าวว่า มันมีใบหน้ากลม ดูน่ารัก เห็นชัดว่ามันไม่ใช้งู เพราะฉันเคยเห็นพวกมันก่อนหน้านี้เหมือนกัน มันรอง จิ๊บๆ

                    เมื่อทางเทศบาลเมืองโยชิอิทราบ เรื่อง จึงส่งเจ้าหน้าที่มาสอบสวนไปที่ฝังเจ้างซูซิโนโกะเอาไว้ และขุดซากไปตรวจสอบ

                   
                   
    มาถึงตอนนี้โรคคลั่งซูซิโนโกะเริ่มกระจายไปเที่ยวเมืองโยชิอิ จนนายกเทศมนตรีต้องประกาศว่า เขาจะเสนอเงิน
    20 ล้านเยน แก่ใครก็ได้ที่จับเจ้างูนี้มาให้เขาเป็นๆ แถมยังสัญญาอีกถ้าปีนี้จับไม่ได้รางวัลจะเพิ่มขึ้นอีกปีปีละล้านเย็น จนกว่าสิ้นสุดเมื่อมีใครจับมาให้เขา

                    เมื่อข่าวนี้แพร่ไป เมืองโยชิอิก็กลายเป็นเมืองท่องเที่ยวทันที เจ้าญี่ปุ่นที่อยากรวยทางลัดเริ่มเข้าเมืองนี้และอยู่เมืองนี้หลายเดือน แม้จะไม่พบหรือจับไม่ได้ ก็มีไวน์ตราซูซิโนโกะปลอบใจ หรือไม่ก็มีขนมโก๋ตราซูซิโนโกะ ของเล่นตราซูซิโนโกะอื่นๆ สุดแล้วแต่พวกพ่อค้าคิดทำขึ้นมา

                    ทางเทศบาลเองก็มิได้วางเฉย เขาส่งคณะค้นหาออกไปหาซูซิโนโกะด้วย ออกตระเวนค้นหาตามป่าเขารอบๆ เมือง และออกไปสัมภาษณ์ผู้เฒ่าผู้แก่ที่เคยพบเห็นมันเป็นการเก็บข้อมูลด้วย

                    มีรายหนึ่งให้ข้อมูลน่าสนใจ มิตซูโกะ อาริม่า อายุ 82 ปี เธออ้างว่าเห็นตัวมันในเช้าวันที่ 15 มิถุนายน เธอออกไปอาบน้ำที่แม่น้ำ และได้เห็นตัวอะไรบางอย่าง ฉันประหลาดใจมาก มันมองมาหทางฉัน ฉันชี้ไปที่มัน ถามว่า เจ้าเป็นใคร?? เจ้าเป็นใคร?? มันไม่ตอบฉัน แต่จ้องเขม็ง มันมีใบหน้ากลม ฉันยังจำลูกตามันได้จนถึงเดี๋ยวนี้...

                    พอตกถึงเดือนกันยายน ข่าวการตามล่าซูชิโนโกะเริ่มจางหายไป แถมมีรายงานล่าสุดว่าซากงูที่นำไปตรวจสอบเป็นแค่ งูชนิดหนึ่งไม่ใช้สัตว์แปลกประหลาดอย่างใด

                    และแล้วสื่อมวลชนก็เงียบไปเลย.......

                   

                    คราวนี้มาถึงการวิเคราะห์ของนักสัตว์ลึกลับวิทยาบ้าง ซึ่งจากการวิเคระห์แล้วซูชิโนโกะน่าจะเป็นงูสาบเสือ (tiger water snake : Rhabdophis tigrinus) เป็นงูน้ำจืดของญี่ปุ่น มีพิษ มันอาจจะเป็นซูซิโนโกะก็ได้เพียงแต่ว่ามันตัวเล็กกว่ามันแค่นั้นเอง และมีลักษณะแตกต่างจากซูซิโนโกะที่ลำตัวอ้วนสั้น ลำตัวสามเหลี่ยม ท้องแบน และนัยน์ตาเล็ก

                    หรืออีกกรณีหนึ่งซูซิโนโกะอาจเป็น งูกะปะ หรือ pit viper หรือภาษาวิชาการว่า Agkristrodon halys เพราะมันมีรอยบุ๋มบนใบหน้า ซึ่งเป็นลักษณะจำเฉพาะของงูกะปะใช้รับคลืนรังสิความร้อน มันออกหากินเวลากลางคืน


                    นอกจากนี้ก็มีการวิเคราะห์ว่าซูซิโนโกะมีรูปร่างคล้ายกิ้งก่าจำพวกหนึ่งที่เรียกว่า กิ้งก่าลิ้นสีน้ำเงิน (
    blue-tongued lizard) หรือ กิล่ามอนสเตอร์ (Gila Monster) ที่พบในทะเลทรายทวีปอเมริกาเหนือ เป็นต้น ซึ่งถ้าสึจิโนโกะมีจริง อาจเป็นไปได้ว่าเป็นสัตว์จำพวกนี้ก็ได้ในขณะที่บางคนเชื่อว่า แท้ที่จริงแล้วซูซิโนโกะก็คืองูที่กินอาหารชิ้นใหญ่กว่าลำตัวเข้าไป ทำให้ลำตัวป่องออก แต่เป็นที่น่าสังเกตว่า การอ้างว่าพบเห็น ซูซิโนโกะมีอยู่ทั่วประเทศญี่ปุ่น

     

                    ผลสุดท้ายก็ไม่สามารถตอบได้ว่าซูซิโนโกะมันคืออะไรกันแน่ คงต้องติดตามต่อไปอีก....

     

    ต่วนตูนพิเศษ ฉบับ 322 ธันวาคม 2544+ +

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×