การนำสัตว์เลี้ยงจากเมืองไทยไปประเทสแถบยุโรป
เขียนโดย
computer51
คััดลอกมาจาก http://www.bloggang.com/mainblog ...
group=3&gblog=1
ทาง จขบก
แจ้งไว้ด้วยว่าจะมาอัพข่าวให้ทราบหลังจากจัดการเรื่องเอกสารเรียบร้อยแล้ว
ยังไงก็ขอบคุณทาง จขบก ไว้ด้วยค่ะ
(บางตอนได้ตัดทอนออกและแก้ไขเท่าที่จำเป็นค่ะ)
การนำสัตว์
เลี้ยงจากเมืองไทยไปยุโรป
(ยุโรปในที่นี้หมายถึงกลุ่มประเทศเชงเก้น
ไม่รวมประเทศอังกฤษ ประเทศอังกฤษค่อนข้างเข้มงวดมาก
คนเอาสัตว์เลี้ยงไปถึงจะฉีดวัคซีนไปแล้ว มีผลเลือดแล้ว ก็ยังถูกกักตัว 6
เดือนอยู่ดี )
สิ่งที่ต้องเตรียม
1.
ก่อนอื่นนำสัตว์เลี้ยงไปรับวัคซีนที่จำเป็นก่อนเดินทางเนิ่นๆ เช่น
ฉีดวัคซีนพิษสุนัขบ้า และวัคซีนอื่นๆที่จำเป็น
ในกลุ่มประเทศเชงเก้นเขาจะเข้มงวดมากเรื่องการฉีดวัคซีนพิษสุนัขบ้า
จะเอาไปต้องฉีดและอยู่ในประเทศต้นทางอย่างน้อย 3 เดือนก่อนเดินทาง
ไม่เช่นนั้นจะเข้าประเทศไม่ได้ หรือสัตว์เลี้ยงอาจถูกกักบริเวณ ณ
สถานกักกันที่ประเทศปลายทาง สุขภาพจิตของมันก็จะย่ำแย่
และเจ้าของต้องรับผิดชอบ ค่าใช้จ่าย
ค่าอาหารอีกเยอะมากจนกว่าจะนำสัตว์นั้นออกมาได้
2.ฝังไมโครชิฟ
โดยไมโครชิฟที่ใช้ต้องเป็น International Microchip ที่ได้ ISO 11784
เท่านั้น
อย่าลืมขอ Microchip certificate จากสัตว์แพทย์มาด้วย
3.
กรง กรงที่ได้มาตรฐาน คือแข็งแรงพอที่จะให้สัตว์เลี้ยง หมุน/กลับตัวได้
มีที่ใส่อาหาร/น้ำ
หาซื้อตามตลาดนัดทั่วไปเดินทางระหว่างประเทศไม่ให้ใช้กระเป๋าผ้า
เพราะสายการบินส่วนใหญ่ให้โหลดลงใต้ท้องเครื่อง
4.EU Pet Passport
ให้สัตว์แพทย์ในเมืองไทยที่มีใบประกอบอาชีพถูกต้องออกให้ต้องติดรูปหน้าตรง 2
นิ้วด้วย
5.Health certificate (English)
ให้สัตว์แพทย์ในเมืองไทยที่มีใบประกอบอาชีพถูกต้องออกให้
6.Lab
result ผลเลือดที่ออกโดย Lab ในยุโรป
ที่แสดงว่าได้มีการฉีดวัคซีนพิษสุนัขบ้าแล้ว
การส่งเลือดไปตรวจต้องให้
สัตวแพทย์เจาะเลือดหลังจากฉีดวัคซีนไปแล้ว 2
สัปดาห์ขึ้นไปเพื่อให้เลือดของสุนัข/หรือแมว
มีภูมิขึ้นถึงขีดที่สามารถผ่านการตรวจได้ เลือดจะถูกส่งไปที่ Lab
ที่ได้รับการรับรองในยุโรป (ในไทยไม่มี Lab
ไหนเลยที่รับรองผลเลือดได้และเป็นที่ยอมรับแบบสากล...น่าอายจริงๆ)
ผลเลือดจะถูกส่งกลับมาที่สัตว์แพทย์เพื่อเตรียมทำเอกสารอื่นๆต่อไป
7.กรอก
แบบฟอร์ม ร.1 ขอจากด่านกักกันที่สนามบินสุวรรณภุมิ ก่อนเดินทาง 3
วันต้องเอาเอกสาร ร.1 นี้ไปยื่นที่ด่านฯพร้อมนำสัตว์เลี้ยงและกรงไปด้วย
ด่านฯก็จะออกเอกสาีรอีกชุดสำหรับใช้วันเดินทางค่ะ
8.Export license
(English) ด่านกักกันสัตว์สุวรรณภูมิจะออกให้ก่อนเดินทาง
9.Export
certificate (English) ด่านกักกันสัตว์สุวรรณภูมิจะออกให้ก่อนเดินทาง
10.
สำเนา Passport ของเจ้าของที่เดินทางไปด้วย
ขั้นตอนคร่าวๆก็คือให้
ติดต่อหาสัตว์แพทย์ที่มีประสบการณ์ทางด้านนี้
เตรียมสัตว์เลี้ยงให้พร้อมที่จะฉีดวัคซีน ฝังไมโครชิฟ และเจาะเลือด
ถ้าต้องการทำหมันก่อนไป ก็ควรรอให้ร่างกายของมันสมบูรณ์ร่าเริงก่อน
ค่อยให้สัตวแพทย์เจาะเลือด
ระยะเวลารอผลเลือดและเอกสารก็ประมาณ 1
เดือนเวลาจองตั๋วเครื่องบิน
ต้องบอกทางสายการบินว่าเดินทางไปกับสุนัขหรือแมว
เพราะเขาต้องแจ้งกัปตันให้ปรับความดันใต้ท้องเครื่อง
เคยมีเหตุการที่เขาลืมปรับแล้วสัตว์เลี้ยงตายเหมือนกัน
ในหนึ่งเที่ยวเขาให้เอาสัตว์เลี้ยงขึ้น 1-2 ตัวเท่านั้น
เพราะฉะนั้นควรจองตั๋วไว้เนิ่นๆ
ค่าใช้จ่าย
ค่าดำเนินการด้าน
เอกสาร ส่งเลือด ฝังชิฟ (จ่ายให้สัตว์แพทย์) ประมาณ 12,000-17,000 บาท
ค่า
วัคซีนพิษสุนัขบ้า 100 บาท
ค่ากรง 800 - 1,000 บาท
ค่าโหลดขึ้น
เครื่องแล้วแต่สายการบิน;
KLM คิดราคา 160EURO(Flat
rateค่ะ)โดยมีข้อกำหนดว่า สัตว์เลี้ยงต้องมีอายุเกิน 2 เดือน
ถ้าน.น
.สัตว์รวมกรง<6ก.ก. สามารถเอาขึ้นห้องโดยสารได้
ถ้าเกินต้องโหลดใต้ท้องเครื่อง
EVA และ China Airline
ให้โหลดใต้ท้องเครื่องเท่านั้น คิดก.ก.ละ 1,250 บาท
ที่อยู่และ
เบอร์ติดต่อของด่านกักกันก็ตามนี้ค่ะ
Suvarnabhumi Airport animal
quarantine station.Free zone Area,CE-1 building 1st Flor.Suvarnabhumi
Airport, Tel: 02-1340731
ในด่านกักกันเองก็มีเจ้าหน้าที่ที่รับเจาะ
เลือดส่งตรวจเหมือนกันค่ะ แต่ไม่ใช่สัตวแพทย์หนะค่ะ
จขบ
ขอแนะนำให้ใช้สัตวแพทย์ดีกว่าเพราะ
สัตว์แพทย์จะรู้ว่าเจาะเลือดช่วงไหนผลถึงจะผ่าน
แจ้ง Blog ไม่เหมาะสม
20 มี.ค. 53
343
1
ความคิดเห็น