DizzyLessRRA
ดู Blog ทั้งหมด

เรื่องสั้นหัวข้ออิสระ

เขียนโดย DizzyLessRRA

                ยามราตรี คืนที่แสงจันทร์สาดส่องแค่เพียงเบาบาง ณ ยอดไม้สูงของต้นซากุระที่ร่วงโรยสิ้น ปีศาจตนหนึ่งกำลังเฝ้าจับตามองดูอย่างเงียบงันด้วยความเจ็บปวดที่แฝงความซับซ้อนในแววตาสีทะเล

 

                "คุณคะ..." เสียงเศร้าสร้อยของหญิงสาวดังแว่วจากในป่ามืด สายน้ำตาหลั่งรินไม่ขาด เธอโอดร้อง คร่ำครวญถวิลหาชายคนรักผู้ถูกโรคร้ายพลัดพรากไป

 

                เบื้องหน้าหลุมศพของสามีผู้เป็นดั่งแก้วตาดวงใจ หญิงสาวนั้นลุกขึ้นยืนอย่างช้าๆ และไม่มั่นคง ฝืนความทุกข์ทนหยิบโคมตะเกียงแล้วเดินกลับที่พักก่อนความมืดจะปกคลุมสิ้น

 

                เจ้าปีศาจแมวใคร่สงสัย เหตุใดมันถึงทำลายสายธารความเศร้าโศกของสตรีรักได้ มันจำต้องทนเห็นเธอผู้นั้นโศกเศร้า ร่ำไห้อาวรณ์ไปอีกกี่ราตรีกันจึงจักพอ

 

                ตลอดแนวทางเดิน จากยอดเขาสู่บ้านพักที่ห่างไกลจะผู้คน สัตว์ปีศาจมากมายรายล้อมเธอผู้แสนดี เจ้าปีศาจคิดด้วยความทรมานอยู่ในที

 

                หากตัวข้าจักขออยู่เคียง พิทักษ์ข้างกายเจ้าแทนเขาผู้นั้นได้หรือไม่

 

                ปีศาจสองหางคิดในใจ มันเฝ้าพร่ำพรรณนาอ้อนวอน ครวญแด่ดวงจันทร์ วอนขอให้ตนได้มีโอกาสมอบรอยยิ้ม และเสียงหัวเราะกลับคืนแด่มนุษย์ผู้ที่มันหลงรัก คนสำคัญของมันที่หลงรักมาตลอดเวลาอันแสนยาวนาน

 

                ข้าไม่หนีร้างห่างหายเจ้า

 

                มันให้คำสัตย์สาบานแด่ตนเองด้วยความมุ่งมั่น ราวคำอธิษฐานส่งถึง กายหยาบของมันแปรเปลี่ยนไปดั่งภาพชายในความทรงจำที่เคียงข้างเธอผู้อ่อนโยนตลอดยามตะวันสาดแสงและแสงจันทร์ฉายกระจ่าง แต่ควรทำเช่นไรต่อไป ร่างกายนี้จะดีแล้วจริงหรือไร

 

                หากเจ้ารับรู้เรื่องราวนี้ที่ข้ากระทำ เจ้าคงไม่เกลียดชังข้าที่ทำไปเพราะรักหรอกหนา

 

                เสียงร่ำร้องนั้นเฝ้าถามและมองลงมาซึ่งฝ่ามือมนุษย์ ร่างกายนั้นสั่นเทิ้มยามได้สัมผัสต้นไม้และสายลมด้วยกายเนื้อ นิ้วมือเรียวยาวสีขาวนี้ไม่มีเล็บแหลมคมเช่นที่ตนเคยมี ไม่มีอุ้งเท้าเช่นที่ตนเคยสัมผัสดิน ไร้ซึ่งเขี้ยวของสัตว์สี่เท้า ไร้หูใบแหลมเรียวและหางรีตวัด

 

                ข้าจักไปหาเจ้าเพื่อลบล้างน้ำตา ข้าปรารถนารอยยิ้มของเจ้า

 

                ยามที่ราตรีกาลมาเยือนอีกครา บัดนั้น ข้าจักไปหาเจ้าและทำลายความเศร้าไปให้สิ้น

               

                ในคืนนี้ที่แสงจันทร์ฉาย ร่างเงาร่างหนึ่งเดินลงจากเขาอย่างไร้สุ้มเสียง สรรพสัตว์ไม่กล้าแม้แต่เหยียดย่างใกล้ร่างมนุษย์นั้น เจ้าผู้ครองภูเขากำลังเสด็จเพื่อทำตามความปรารถนาที่สั่งสม สัตว์ใต้บัญชาแห่งท่านตนใดเล่าจะกล้าเข้าขัดขวางทางของเหนือหัว

 

                ร่างนั้นเดินก้าวไร้สุ้มเสียงจนถึงที่พักอาศัยของหญิงม่ายผู้เดียวดาย แสงเทียนยังสว่าง เจ้าของบ้านหลังนี้ยัคงไม่เข้าสู่นิทรา ดั่งที่เจ้าของร่างนั้นทราบดี

 

                ... ผ่านประตูกระดาษนั้น ข้าพบตัวเจ้าที่นั่งสั่นระริก ใบหน้างามเปียกปอน ข้าขยับมือที่ไม่คุ้นชินเพื่อเลื่อนเปิดประตูบางๆ กั้นขวางระหว่างเรา

 

                "อย่าร้องไห้อีกเลย ข้าอยู่นี่แล้ว"

 

                ข้าลั่นถ้อยคำวาจา ใบหน้านั้นของเจ้าราวหวาดกลัวสิ่งร้าย กายบอบบางใต้เนื้อผ้าดูซูบผอมลง ข้าย่างเท้าเข้าใกล้ หวังเพียงแค่ได้สัมผัสเจ้าเล็กน้อยและบางเบา

 

                "..."

 

                กรุณามองข้า และรักข้าเช่นที่เจ้ารักเจ้าของกายของข้า

 

                "... อย่ากลัวข้าเลย"

 

                เมื่อเจ้าพยักหน้ารับและขยับเข้าหา ข้าสวมกอดเจ้าเอาไว้ในอ้อมแขนด้วยความรักใคร่ เสน่หามนตราใดของข้าจักมิใช้กับเจ้า แม่หญิงงาม ข้ายินยอมเพียงแค่เจ้าแสดงความรักต่อข้าบ้างแม้จักไม่ใช่ข้าก็ตามที่เจ้ารัก

 

                ข้ารักเจ้าเหลือเกิน ข้ารักเจ้าผู้อ่อนโยน ได้โปรดเพียงซักวินาที

 

                โปรดรักข้าเช่นเดียวกับที่เจ้ารักชายผู้นี้ โปรดยิ้มให้ข้า ข้าขอร้องนายหญิง ทั้งหมดทั้งมวลนี้คือสิ่งที่ท่านหวังไม่ใช่หรือไร... นี่อย่างไรเล่าชายคนรักของท่าน

 

                ขอแค่รอยยิ้มของท่านแม้ซักวินาทีแด่ข้า...

 

                "เจ้ากลับมาหาข้าแล้ว..."

 

                กายบอบบางสวมกอดตัวข้าแน่นขึ้น สายน้ำตาหลั่งไหลอีกครั้ง หากแต่เจ้ากลับมีรอยยิ้มเล็กๆ บนใบหน้า ข้าโอบเจ้าด้วยกายนี้ ผ่านความอบอุ่นนี้ที่เจ้ามอบให้ข้า...

 

                ราตรีแล้วราตรีเล่า ข้าเฝ้าเทียวมาหาเจ้าผู้เป็นที่รักยิ่ง ใบหน้านั้นที่ประดับด้วยยิ้มละมุนของเจ้า ช่างช่วยเหลือข้าไว้เหลือเกิน...

 

                เช่นเคย ข้ามาหาเจ้าแม่หญิง เจ้าสวมกอดกายข้าด้วยแขนเล็กของเจ้า เจ้าพูดกับข้าเช่นคืนอื่นๆ แต่แล้ว เมื่อเจ้าเอ่ยถึงดวงตาของข้า...

 

                "ตาของเธอสวยมาก... ไม่เหมือนกับตาของมนุษย์เลย..."

 

                เจ้าสวมกอดข้าแน่นขึ้นและเริ่มร่ำไห้

 

                "อย่าทิ้งข้าไปเลยนะ... เจ้าอย่าทิ้งข้าไปเลย..."

 

                มนตราจำแลงเริ่มเลือนมลาย กายมนุษย์ของข้าเริ่มย้อนถวิลเข้าสู่กายเดิม เจ้ายื่นมือมายามที่ข้าหันร้างจากจร เสียงของเจ้าสั่นเบาแต่ข้ากลับได้ยินอย่างชัดเจน...

 

                ขอบคุณ

 

                ... ข้ากรีดร้องก้องทำนอง น้ำตาหลั่งรินแทนความเสียใจของเจ้า ข้าหลอกลวงเจ้า แม่หญิง อย่ายกโทษให้ข้าเลย...

                ข้าหลอกลวงเจ้า แม่หญิง ข้าเสียใจเหลือเกิน...

 

                ครานั้น ข้าจักหวังให้เจ้าละเว้นโทษทัณฑ์ บัดนี้ข้ารับรู้แล้วว่าสิ่งนี้คือทัณฑ์สวรรค์ที่แท้จริงของข้า ยอดรักอย่ายกโทษให้ข้าผู้บาปหนาเลย...

 

                แม้นเจ้าจะเกลียดชังข้า ข้าจักไม่โทษเจ้าแม้แต่น้อย...

 

ความคิดเห็น

ยังไม่มีความคิดเห็น