คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : บทที่ 10 : ลองชุด ! (รีไรต์)
บทที่ 10
หลังจากนั้น ฉันก็คาดโทษเจ้าน้องชายตัวดีไว้
แต่เหมือนว่าเขาจะไม่สะทกสะท้านเลยแม้แต่น้อย.. แถมยังเอาไปเล่าให้คาร์ลอสฟังอีกต่างหาก
จนสุดท้ายฉันจึงเดินหนีออกมาจากศาลา ก่อนที่พวกเขาจะร่วมหัวกันแกล้งฉัน !
เมื่อเดินหนีออกมาได้ซักพัก ฉันก็นั่งลงบนพื้นท่ามกลางเหล่าดอกไม้นานาพันธุ์
สายตาจดจ้องอยู่ กับเหล่าผีเสื้อและแมลงต่างๆที่พากันดอมดมเหล่าเกสร
ฉันทิ้งตัวลงนอนอย่างไม่กลัวเสื้อผ้าจะเลอะ พลางทอดสายตามองท้องฟ้าสีครามสดใส จ้องมองหมู่เมฆที่ก่อตัวเป็นรูปร่างต่างๆ
สายลมพัดมาแผ่วเบาชวนให้รู้สึกเย็นสบาย จึงหลับตาลงก่อนจะเผลอหลับไป
.
.
“ คุ.. ห..นู..ะ “
“ คุณ..นู..ค.. ! “
“ คุณหนูคะ ! “
เฮือก
ฉันเด้งตัวลุกขึ้น ดวงตาเบิกกว้างอย่างสัมผัสได้ หัวใจเต้นแรงจนกลัวว่ามันจะกระเด้นออกจากร่าง
ฉันจับบริเวณหัวใจเบาๆ ก่อนจะค่อยๆสูดลมหายใจเข้าออกอย่างตั้งสติ
“ คุณหนูคะ..? “
เสียงๆหนึ่งดังขึ้น ทำให้ฉันนึกได้ว่าที่ตื่นมาก็เพราะเสียงของคนๆนี้
จึงเลื่อนสายตาไปสบกับคนตรงหน้า ภาพที่เห็นคือสาวใช้คนหนึ่งที่กำลังมองฉันด้วยสีหน้างงๆอยู่
เมื่อเห็นดังนั้นจึงเอ่ยปากถามออกไป
“ มีอะไร ? “
โทนเสียงนิ่งๆ เย็นๆ ตามปกติของเธอ
กลับทำให้คนตรงหน้าเข้าใจผิดคิดว่าเธอหงุดหงิดไปซะนี่
“ ขออภัยด้วยคุณหนู
องค์ราชินีทรงเรียกเข้าพบ ดิฉันจึงมาตามเจ้าค่ะ “
เมื่อฟังจบฉันก็พยักหน้าเป็นเชิงรับรู้เล็กน้อย
ก่อนจะเห็นวาท้องฟ้าสีครามที่ก่อนหน้านี้เห็นได้แปรเปลี่ยนเป็นท้องฟ้าสีส้มหม่นไปซะแล้ว
นี้ฉันหลับไปนานขนาดนี้เลยเหรอเนี้ย..
คิดกับตัวเองว่ากลายเป็นคนขี้เซาตั้งแต่เมื่อไร
ท่ามกลางสายตาที่มองมาของสาวใช้ที่มาตาม จึงลุกขึ้นแล้วมองหน้าอีกฝ่ายเป็นเชิงว่า ‘ นำทางไปสิ ‘ สาวใช้เหมือนจะรับรู้ได้
จึงเดินนำเข้าไปในปราสาท
เสียงรองเท้ากระทบกับเสียงกระเบื้องที่พื้นดังเป็นจังหวะราวกับเสียงดนตรี
แอบแปลกใจที่สาวใช้มาทางอีกทางที่คนไม่ค่อยมี แต่ก็ไม่ได้สงสัยอะไร เดินมาเรื่อยๆจนมาหยุดอยู่หน้าห้องๆหนึ่ง
“ ขออนุญาตเจ้าค่ะ “
สาวใช้เคาะประตูเบาๆ ก่อนที่จะมีเสียงตอบกลับมา ประตูแกะสลักตรงหน้าของเธอก็ถูกเปิดออก..องค์ราชินีนั้นเอง
เธอนั่งอยู่บนเก้าอี้คลิบสีทองเป็นลวดลายสวยงาม ทั่วทั้งห้องประดับตกแต่งไปด้วยผ้าม่านสีสวย
และชุดสตรีมายมายราวกับรอคอยให้มีคนมาหยิบไปสวมใส่
“ มาแล้วงั้นรึหลานรัก “
เสียงหวานเอ่ยขึ้นอย่างยินดี องค์ราชินี หรือก็คือท่านป้าคลี่ยิ้มอ่อนหวาน
ก่อนจะเดินเข้ามาจับจูงฉันเข้าไปหาเสื้อผ้าต่างๆ
ฉันทำหน้างงจนท่านป้าหลุดหัวเราะออกมาแผ่วเบา
“ นี้คือเสื้อผ้าที่หลานจะใส่ในงานวันเกิดยังไงเล่า
“
เธอพูดเฉลย แต่ฉันก็ยังไม่เข้าใจ จะให้ใส่หมดนี้อ่ะนะ?
และเหมือนท่านป้าจะรู้ว่าฉันคิดอะไรอยู่ จึงเปิดปากพูดอีกรอบ
“ ป้าเอามาให้เลือกต่างหากละ เอ้า ! ลองดูตัวนี้สิ “
ท่านป้าหยิบชุดๆหนึ่งที่มีลักษณะแขนเสื้อเป็นทรง bell cuff sleeve หรือง่ายๆก็เสื้อแขนกระดิ่ง ยาวจนถึงข้อมือ
ทั้งตรงส่วนปลายที่บานออกก็มี 2
ชั้นและมีลายลูกไม้ต่างๆประดับพร้อมด้วยโบว์ขนาดกลางติดระหว่างบริเวณข้อพับแขน เสื้อคอกลมมีลายลูกไม้สลัก
และก็มีโบว์สีชมพูหวานติดอยู่ตรงกลาง กระโปรงยาวเกือบกรอมเท้า
ตรงปลายกระโปรงมีระบายลูกไม้อีกแล้ว..
พร้อมด้วยลวดลายของกระโปรงที่เป็นดอกกุหลาบสีชมพูสวย
เอาจริงๆทั้งชุดนี้ก็มีแต่สีชมพูเต็มไปหมด
ทั้งยังมีหมวกขนาดใหญ่ที่เหมือนหมวกไว้ใส่ให้กับตุ๊กตาพร้อมด้วยมีดอกไม้ประดับ
และแน่นอนว่าเป็นสีชมพู..
ฉันฉีกยิ้มแห้งๆให้ท่านป้า พลางพยายามตอบเลี่ยงๆเคียงๆว่าไม่ชอบชุดสีชมพู
แต่เมื่อมองไปยังชุดมากมายที่ยังรอคอยอยู่ ก็ล้วนมีแต่สีชมพูทั้งนั้น
ฉันพนมมือขึ้นสวดภาวนาให้ตัวเองรอดตายจากสถานการณ์นี้ แต่สิ่งที่พูดไปข้างต้นก็เกิดขึ้นแต่ในความคิดของฉันเท่านั้นแหละ..
“ หลานไม่ชอบชุดนี้เหรอ..
งั้นป้าว่าชุดนี้ก็ดีนะ “
“ เดียวๆ ข้าหมายถึง.. ข้าชอบชุดนี้มากกว่านะท่านป้า
“
ฉันรีบร้องห้ามเมื่อเห็นว่าเธอหยิบชุดอีกชุดที่ดูโอเวอร์ยิ่งกว่าชุดเมื่อกี้มาจะมาองสวมให้ฉัน
พอดีกับที่สายตาของฉันมองเห็นชุดๆหนึ่งที่เป็นสีชมพู
แต่กลับอ่อนจนแทบกลายเป็นสีขาว
“ ชุดนี้งั้นเหรอ.. “
ท่านป้าวางอีกชุดลง ก่อนจะหยิบชุดที่ฉันพูดถึงมาพิจารณา
ฉันพยักหน้าแล้วฉีกยิ้มที่คิดว่าน่ารักที่สุดไปให้ เพื่อแสดงว่าชอบชุดนั้นจริงๆ..
“ ถ้าหลานว่าอย่างนั้นก็ย่อมได้ “
เมื่อได้ยินดังนั้น ฉันก็ถอนหายใจออกอย่างแผ่วเบาด้วยความโล่งใจ
ก่อนที่เวลาแห่งนรกก็ได้เริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง..
.
.
“ คุณหนูงดงามมากเลยเจ้าค่ะ “
“ งดงามจริงๆ “
ฯลฯ
เสียงสาวใช้ดังขึ้น พลางเอ่ยคำชมเชยฉัน
จะว่าไปปกติร่างนี้ก็สวยอยู่แล้ว พอมาจับแต่งตัว ทำผมดีๆให้สมหญิง ก็ยิ่งทวีความสวยเข้าไปอีก
เพราะปกติฉันจะใส่แต่แนวสีหม่นๆหรือไม่ก็เรียบๆเสียมากกว่า
ฉันจ้องมองและพิจารณาตัวเองในกระจก เด็กสาวตัวน้อยหน้าตาจิ้มลิ้ม
เรือนผมสีทองถูกดัดตรงปลายเล็กน้อยให้พอเป็นลอนสวยงาม และปล่อยยาวลงมา บนศีรษะมีหมวกใบใหญ่สำหรับใส่ให้ตุ๊กตาที่เคยพูดถึงก่อนหน้านี้..
มาชุดนี้ก็ไม่พ้นอยู่ดี หมวกสีครีมพร้อมระบายลูกไม้และดอกกุหลาบสีชมพูดอกใหญ่ 3 ดอก เสื้อคอเต่าพร้อมด้วยดอกกุหลาบแบบเดียวกับบนหมวกติดอยู่ตรงกลาง
ปกเสื้อเป็นแบบ Puritan พร้อมด้วยลูกไม้ไล่ลงมา
ต่ำลงมาจากดอกกุหลาบกลางคอเสื้อ เป็นโบว์สีขาวขนาดกลางติดอยู่
ต่ำลงมาเป็นกระดุมสีทองพร้อมด้วยลูกไม้ แขนเสื้อเป็นแบบแขนกระดิ่งเหมือนชุดก่อนหน้านี้
แต่มีดอกกุหลาบเล็กๆติดอยู่ประปราย กระโปรงทรงบอลลูนหน่อยๆยาวเลยเข่าลงมาเล็กน้อย 4 ชั้น.. ปลายกระโปรงมีดอกกุหลาบสีชมพูติดสลับกันเป็นบ้างช่อง พร้อมด้วยถุงน่องสีขาว รองเท้าส้นแบนแบบผูกเชือกหรือเรียกว่า oxford สีขาวครีมเข้ากับชุด
ฉันหมุนตัวเองอยู่หน้ากระจกซักพัก ก่อนจะสบตากับตัวเองในกระจก ดวงตาสีเขียวอ่อนคลับคล้ายจะมีภาพของใครบางคนซ้อนทับขึ้นมา
ดวงตาสีเขียวเหมือนจะเข้มขึ้นจนรู้สึกได้ แต่เมื่อฉันกระพริบตา
ภาพตรงหน้าก็กลับมาเป็นเหมือนเดิมอีกครั้ง ฉันเม้มปากแน่น
แต่ก็ต้องรีบปรับสีหน้าท่าทางให้เป็นปกติเมื่อได้ยินเสียงจากท่านป้า
“ โอ้.. หลานรัก
สมแล้วที่เป็นลูกของเจ้าเคนดัลล์กับเลนิต้า “
ท่านป้าพูดพลางจับตัวฉันหมุนไปมาจนชักจะเริ่มมึนหัว
แต่ก่อนที่จะเกิดการอ้วกแตกกันกลางห้อง ท่านป้าก็หยุดหมุน
“ อ่ะ จริงสิ เครซิเมอร์เองก็หล่อมากๆเหมือนกันนะ
“
ท่านป้าพูดก่อนจะเดินออกจากห้อง และกลับเข้ามาพร้อมกับเครซิเมอร์
น้องชายตัวดีที่เธอเพิ่งคาดโทษไปก่อนหน้านี้ เขาแต่งตัวด้วยเสื้อเชิ้ตสีขาว
ปกเสื้อเป็นแบบปกเสื้อสูท ตรงกลางมีกระดุมเม็ดเล็กๆสีแดงอ่อนๆ ไล่ลงมาเป็นกระดุม 4 เม็ดติดเรียงยาวเป็นแถว ในส่วนของเสื้อคลุม
ปกเสื้อชี้ขึ้นเล็กน้อยเหมือนกับเสื้อคลุมของแวมไพร์
พร้อมด้วยแขนเสื้อทรงบอกยาวจนถึงข้อมือพับขึ้น และมีกระดุมเล็กๆน้อยๆติดประดับ
ตัวเสื้อคลุมยาวจนถึงเข่า มีกระดุมติดบริเวณเสื้อสีทองอ่อนๆ และมีคล้ายๆเข็มขัด(?)
พาดติดกัน 3 อัน พร้อมด้วยกระดุมสีทองขนาดใหญ่
เสื้อคลุมเป็นสีแดงเลือดหมูหมดเลยยกเว้นกระดุม..
ส่วนของกางเกงเป็นกางเกงขายาวแบบรัดสีดำสนิท และกระดุมสีขาวอีกนิดหน่อย
รองเท้าเป็นรองเท้าพื้นหนังสีดำ พร้อมด้วยเชือกผูก เพิ่งสังเกตเห็นว่าเขาใส่สร้อยคอรูปไม้กางเขนอีกด้วย
แต่มันคงจะเข้ามาเป็นเซ็ตเสื้อผ้าของเชื้อพระวงศ์อะไรแบบนี้
เมื่อฉันพิจารณาจนพอใจแล้ว ฉันก็ถอนสายตาออกมาทันที
จนน้องชายร้องบู้วออกมา
“ บู้วว ท่านพี่
ทำไมไม่ชมข้าซักหน่อยเล่า “
เขาพูด พร้อมกับพยายามโพสท่าทางที่ดูหล่อเหลาที่สุดเท่าที่เขาคิดได้ออกมา
ฉันเพียงสายหัวและถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่ายใจ.. แค่เพียงเดือนเดียว
คนเรามันก็เปลี่ยนไปได้ขนาดนี้เลยเหรอเนี้ย..
ฉันคิดอย่างหนักใจ แต่เมื่อน้องชายยังไม่หยุดโพสท่า
ฉันจึงพูดชมเขาไปแบบส่งๆ
“ อ่าๆ.. วันนี้เจ้าหล่อมาก พอใจยัง..
“
ฉันพูดด้วยน้ำเสียงติดจะรำคาญหน่อยๆ
แต่ประโยคหลังพยายามพูดแบบเบาเสียงลง เครซิเมอร์เพียงยิ้มอย่างดีใจ
ก่อนจะหันไปคุยกับท่านป้าเล็กน้อย
“ ไปกันเถิด ป่านนี้แขกคงรอแย่แล้ว “
ท่านป้าพูดก่อนจะจับมือฉันไปเดินข้างๆ
พร้อมด้วยเครซิเมอร์ที่อยู่อีกฝั่ง เมื่อเดินมาเรื่อยๆ
ก็มาถึงหน้าบันไดที่จะใช้ลงไปยังงานเลี้ยงวันเกิดของพวกเธอ ฉันจ้องมองไปยังผู้คนข้างล่าง
มีทั้งคนที่คุ้นหน้าคุ้นตาและไม่คุ้น.. แต่เหมือนว่าคนที่ไม่คุ้นหน้าน่าจะเยอะกว่า
ฉันสูดลมหายใจเข้าเล็กน้อย เพราะไม่เคยได้มีงานวันเกิดที่ยิ่งใหญ่
และมีผู้คนมากมายมาร่วมงานขนาดนี้ เอาจริงๆ แค่เค้กเล็กๆซักก่อน
สำหรับเธอก็ถือว่าดีมากแล้ว.. ฉันกวาดสายตามองอย่างสำรวจ บันไดแบบแยกสองข้างออกไป
แล้วเมื่อลงมาถึงข้างล่างก็จะบรรจบกัน ตัวบันไดเป็นปูนเปลือยสีขาวสะอาด
ราวที่จับสลักด้วยรูปร่างต่างๆและที่สำคัญยังมีทองเป็นส่วนประกอบอีกด้วย
มองเลยไปบนเพดานเห็นเป็นภาพจิตรกรนางฟ้านางสวรรค์บนท้องฟ้ากำลังร่ายรำกันอย่างอ่อนช้อย
ฉันหันหน้าไปหาเครซิเมอร์เพื่อที่จะบอกว่าจะลงไปทางไหน
แต่ก็พบว่าเขาก็หันมามองเธอเช่นกัน ฉันยืนฟังว่าเขาจะเลือกลงทางไหน
แต่สิ่งที่ได้ยินกลับไม่ใช่เรื่องเดียวกันกับที่ฉันคิด
“ ข้าพูดจริงๆนะ ท่านพี่วันนี้นะ..
งดงามมาก “
เขาพูดพลางสบตาฉัน แววตาของเขาบ่งบอกว่าเขาพูดเรื่องจริง
ไม่ใช่แค่เพื่อจะแกล้งยอเธอ ฉันเพียงพยักหน้ารับรู้เล็กน้อย
ก่อนที่จะตัวนิ่งแข็งไปซักพัก เมื่อได้ยินท่านป้าพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน
ที่แม้จะไม่ได้เปล่งออกมามากนัก แต่เสียงกลับดังกังวานทั่วทั้งห้องโถง
“ ยินดีต้อนรับแขกผู้มีเกียรติทุกท่าน
ข้าขอขอบคุณที่ให้เกียรติมาร่วมงานวันเกิดของหลานข้าทั้งสอง “
ท่านป้าพูดขึ้น สีหน้าและน้ำเสียงไม่เปลี่ยนไปเลยซักนิดแม้จะถูกจับจ้องด้วยสายตามากมายที่มองมา
ฉันกำมือแน่นอย่างตื่นเต้น
พลางพยายามย่อตัวอย่างที่คิดว่าสวยงามมากที่สุดเท่าที่จะทำได้
ถึงแม้ว่าขาจะสั่นมากแค่ไหนก็ตาม
“ นี้คือออร์ล่า มาร์เควสส์
หลานสาวของข้า “
หลังย่อเสร็จฉันก็ฉีกยิ้มด้วยรอยยิ้มน่ารัก.. หวังว่ามันจะดูน่ารักนะ
“ และนี้ เครซิเมอร์ มาร์เควสส์
หลานชายของข้า “
เมื่อพูดจบ ฉันก็เห็นลางๆจากหางตาว่าเครซิเมอร์เองก็โค้งคำนับและคงจะตื่นเต้นพอๆกับฉัน
เมื่อท่านป้าพูดจบ พวกฉันก็เดินบันไดกันคนละฝั่ง ยังดีที่ไม่แย่งกันลง..
ฉันลงฝั่งขวาด้วยขาที่ยังสั่นไม่หาย ทั้งมือก็ยังสั่นอย่างห้ามไม่ได้
ด้วยเพราะไม่เคยถูกจดจ้องด้วยสายตามากมายเช่นนี้
เพราะปกติก็มีแต่เป็นฝ่ายที่ได้จ้องมองไปยังคนเหล่านั้นเสียมากกว่า
เมื่อลงมาถึง ฉันกับเครซิเมอร์ก็มายืนข้างๆกัน
รับรู้ได้ว่าเขาเองก็สั่นไม่ต่างกัน ในระหว่างนั้นก็มีเสียงของท่านลุงหรือก็คือองค์ราชาดังขึ้น
ราวกับเสียงจากสวรรค์ของเธอ
“ ทำตัวตามสบายเถอะ ! “
เมื่อเขาพูดจบ สายตาส่วนใหญ่ก็เริ่มถอนออกจากพวกเธอ.. แต่กลายเป็นว่า
พวกเขาเริ่มมารุมล้อมเธอกับเครซิเมอร์แทนซะนี้สิ !
เอาล่ะ.. ฉันขอถอนคำพูกที่ว่าราวกับเสียงจากสวรรค์
นี้มันเสียงจากนรกต่างหากเล่า !!
Talk Talk
รู้สึกจะลงดึกๆตลอด.. พอดีหัวชอบแล่นตอนนี้--
อันนี้ชุดของทั้งสอง และก็บันไดวังเผื่อคนนึกไม่ออกนะคะ
ความคิดเห็น