ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เด็กสลัมกับโลกโอโตเมะเกมของเธอ

    ลำดับตอนที่ #12 : บทที่ 10 : ลองชุด ! (รีไรต์)

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.16K
      97
      23 ต.ค. 61

    บทที่ 10

    หลังจากนั้น ฉันก็คาดโทษเจ้าน้องชายตัวดีไว้ แต่เหมือนว่าเขาจะไม่สะทกสะท้านเลยแม้แต่น้อย.. แถมยังเอาไปเล่าให้คาร์ลอสฟังอีกต่างหาก จนสุดท้ายฉันจึงเดินหนีออกมาจากศาลา ก่อนที่พวกเขาจะร่วมหัวกันแกล้งฉัน !

    เมื่อเดินหนีออกมาได้ซักพัก ฉันก็นั่งลงบนพื้นท่ามกลางเหล่าดอกไม้นานาพันธุ์ สายตาจดจ้องอยู่ กับเหล่าผีเสื้อและแมลงต่างๆที่พากันดอมดมเหล่าเกสร ฉันทิ้งตัวลงนอนอย่างไม่กลัวเสื้อผ้าจะเลอะ  พลางทอดสายตามองท้องฟ้าสีครามสดใส จ้องมองหมู่เมฆที่ก่อตัวเป็นรูปร่างต่างๆ สายลมพัดมาแผ่วเบาชวนให้รู้สึกเย็นสบาย จึงหลับตาลงก่อนจะเผลอหลับไป

    .
    .

    คุ.. ห..นู..ะ

    คุณ..นู..ค.. ! “

    คุณหนูคะ ! “

    เฮือก

    ฉันเด้งตัวลุกขึ้น ดวงตาเบิกกว้างอย่างสัมผัสได้ หัวใจเต้นแรงจนกลัวว่ามันจะกระเด้นออกจากร่าง ฉันจับบริเวณหัวใจเบาๆ ก่อนจะค่อยๆสูดลมหายใจเข้าออกอย่างตั้งสติ

    คุณหนูคะ..?

    เสียงๆหนึ่งดังขึ้น ทำให้ฉันนึกได้ว่าที่ตื่นมาก็เพราะเสียงของคนๆนี้ จึงเลื่อนสายตาไปสบกับคนตรงหน้า ภาพที่เห็นคือสาวใช้คนหนึ่งที่กำลังมองฉันด้วยสีหน้างงๆอยู่ เมื่อเห็นดังนั้นจึงเอ่ยปากถามออกไป

    มีอะไร ?

    โทนเสียงนิ่งๆ เย็นๆ ตามปกติของเธอ กลับทำให้คนตรงหน้าเข้าใจผิดคิดว่าเธอหงุดหงิดไปซะนี่

    ขออภัยด้วยคุณหนู องค์ราชินีทรงเรียกเข้าพบ ดิฉันจึงมาตามเจ้าค่ะ

    เมื่อฟังจบฉันก็พยักหน้าเป็นเชิงรับรู้เล็กน้อย ก่อนจะเห็นวาท้องฟ้าสีครามที่ก่อนหน้านี้เห็นได้แปรเปลี่ยนเป็นท้องฟ้าสีส้มหม่นไปซะแล้ว

    นี้ฉันหลับไปนานขนาดนี้เลยเหรอเนี้ย..

    คิดกับตัวเองว่ากลายเป็นคนขี้เซาตั้งแต่เมื่อไร ท่ามกลางสายตาที่มองมาของสาวใช้ที่มาตาม จึงลุกขึ้นแล้วมองหน้าอีกฝ่ายเป็นเชิงว่า นำทางไปสิ สาวใช้เหมือนจะรับรู้ได้ จึงเดินนำเข้าไปในปราสาท

    เสียงรองเท้ากระทบกับเสียงกระเบื้องที่พื้นดังเป็นจังหวะราวกับเสียงดนตรี แอบแปลกใจที่สาวใช้มาทางอีกทางที่คนไม่ค่อยมี แต่ก็ไม่ได้สงสัยอะไร เดินมาเรื่อยๆจนมาหยุดอยู่หน้าห้องๆหนึ่ง

    ขออนุญาตเจ้าค่ะ

    สาวใช้เคาะประตูเบาๆ ก่อนที่จะมีเสียงตอบกลับมา ประตูแกะสลักตรงหน้าของเธอก็ถูกเปิดออก..องค์ราชินีนั้นเอง เธอนั่งอยู่บนเก้าอี้คลิบสีทองเป็นลวดลายสวยงาม ทั่วทั้งห้องประดับตกแต่งไปด้วยผ้าม่านสีสวย และชุดสตรีมายมายราวกับรอคอยให้มีคนมาหยิบไปสวมใส่

    มาแล้วงั้นรึหลานรัก

    เสียงหวานเอ่ยขึ้นอย่างยินดี องค์ราชินี หรือก็คือท่านป้าคลี่ยิ้มอ่อนหวาน ก่อนจะเดินเข้ามาจับจูงฉันเข้าไปหาเสื้อผ้าต่างๆ ฉันทำหน้างงจนท่านป้าหลุดหัวเราะออกมาแผ่วเบา

    นี้คือเสื้อผ้าที่หลานจะใส่ในงานวันเกิดยังไงเล่า

    เธอพูดเฉลย แต่ฉันก็ยังไม่เข้าใจ จะให้ใส่หมดนี้อ่ะนะ?

    และเหมือนท่านป้าจะรู้ว่าฉันคิดอะไรอยู่ จึงเปิดปากพูดอีกรอบ

    ป้าเอามาให้เลือกต่างหากละ เอ้า ! ลองดูตัวนี้สิ

    ท่านป้าหยิบชุดๆหนึ่งที่มีลักษณะแขนเสื้อเป็นทรง bell cuff sleeve หรือง่ายๆก็เสื้อแขนกระดิ่ง ยาวจนถึงข้อมือ ทั้งตรงส่วนปลายที่บานออกก็มี 2 ชั้นและมีลายลูกไม้ต่างๆประดับพร้อมด้วยโบว์ขนาดกลางติดระหว่างบริเวณข้อพับแขน เสื้อคอกลมมีลายลูกไม้สลัก และก็มีโบว์สีชมพูหวานติดอยู่ตรงกลาง กระโปรงยาวเกือบกรอมเท้า ตรงปลายกระโปรงมีระบายลูกไม้อีกแล้ว.. พร้อมด้วยลวดลายของกระโปรงที่เป็นดอกกุหลาบสีชมพูสวย เอาจริงๆทั้งชุดนี้ก็มีแต่สีชมพูเต็มไปหมด ทั้งยังมีหมวกขนาดใหญ่ที่เหมือนหมวกไว้ใส่ให้กับตุ๊กตาพร้อมด้วยมีดอกไม้ประดับ และแน่นอนว่าเป็นสีชมพู..

    ฉันฉีกยิ้มแห้งๆให้ท่านป้า พลางพยายามตอบเลี่ยงๆเคียงๆว่าไม่ชอบชุดสีชมพู แต่เมื่อมองไปยังชุดมากมายที่ยังรอคอยอยู่ ก็ล้วนมีแต่สีชมพูทั้งนั้น ฉันพนมมือขึ้นสวดภาวนาให้ตัวเองรอดตายจากสถานการณ์นี้ แต่สิ่งที่พูดไปข้างต้นก็เกิดขึ้นแต่ในความคิดของฉันเท่านั้นแหละ..

    หลานไม่ชอบชุดนี้เหรอ.. งั้นป้าว่าชุดนี้ก็ดีนะ

    เดียวๆ ข้าหมายถึง.. ข้าชอบชุดนี้มากกว่านะท่านป้า

    ฉันรีบร้องห้ามเมื่อเห็นว่าเธอหยิบชุดอีกชุดที่ดูโอเวอร์ยิ่งกว่าชุดเมื่อกี้มาจะมาองสวมให้ฉัน พอดีกับที่สายตาของฉันมองเห็นชุดๆหนึ่งที่เป็นสีชมพู แต่กลับอ่อนจนแทบกลายเป็นสีขาว

    ชุดนี้งั้นเหรอ..

    ท่านป้าวางอีกชุดลง ก่อนจะหยิบชุดที่ฉันพูดถึงมาพิจารณา ฉันพยักหน้าแล้วฉีกยิ้มที่คิดว่าน่ารักที่สุดไปให้ เพื่อแสดงว่าชอบชุดนั้นจริงๆ..

    ถ้าหลานว่าอย่างนั้นก็ย่อมได้

    เมื่อได้ยินดังนั้น ฉันก็ถอนหายใจออกอย่างแผ่วเบาด้วยความโล่งใจ ก่อนที่เวลาแห่งนรกก็ได้เริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง..

    .
    .
    คุณหนูงดงามมากเลยเจ้าค่ะ

    งดงามจริงๆ

    ฯลฯ

    เสียงสาวใช้ดังขึ้น พลางเอ่ยคำชมเชยฉัน จะว่าไปปกติร่างนี้ก็สวยอยู่แล้ว พอมาจับแต่งตัว ทำผมดีๆให้สมหญิง ก็ยิ่งทวีความสวยเข้าไปอีก เพราะปกติฉันจะใส่แต่แนวสีหม่นๆหรือไม่ก็เรียบๆเสียมากกว่า

    ฉันจ้องมองและพิจารณาตัวเองในกระจก เด็กสาวตัวน้อยหน้าตาจิ้มลิ้ม เรือนผมสีทองถูกดัดตรงปลายเล็กน้อยให้พอเป็นลอนสวยงาม และปล่อยยาวลงมา บนศีรษะมีหมวกใบใหญ่สำหรับใส่ให้ตุ๊กตาที่เคยพูดถึงก่อนหน้านี้.. มาชุดนี้ก็ไม่พ้นอยู่ดี หมวกสีครีมพร้อมระบายลูกไม้และดอกกุหลาบสีชมพูดอกใหญ่ 3 ดอก เสื้อคอเต่าพร้อมด้วยดอกกุหลาบแบบเดียวกับบนหมวกติดอยู่ตรงกลาง ปกเสื้อเป็นแบบ Puritan พร้อมด้วยลูกไม้ไล่ลงมา ต่ำลงมาจากดอกกุหลาบกลางคอเสื้อ เป็นโบว์สีขาวขนาดกลางติดอยู่ ต่ำลงมาเป็นกระดุมสีทองพร้อมด้วยลูกไม้ แขนเสื้อเป็นแบบแขนกระดิ่งเหมือนชุดก่อนหน้านี้ แต่มีดอกกุหลาบเล็กๆติดอยู่ประปราย กระโปรงทรงบอลลูนหน่อยๆยาวเลยเข่าลงมาเล็กน้อย 4 ชั้น.. ปลายกระโปรงมีดอกกุหลาบสีชมพูติดสลับกันเป็นบ้างช่อง พร้อมด้วยถุงน่องสีขาว รองเท้าส้นแบนแบบผูกเชือกหรือเรียกว่า oxford สีขาวครีมเข้ากับชุด 

    ฉันหมุนตัวเองอยู่หน้ากระจกซักพัก ก่อนจะสบตากับตัวเองในกระจก ดวงตาสีเขียวอ่อนคลับคล้ายจะมีภาพของใครบางคนซ้อนทับขึ้นมา ดวงตาสีเขียวเหมือนจะเข้มขึ้นจนรู้สึกได้ แต่เมื่อฉันกระพริบตา ภาพตรงหน้าก็กลับมาเป็นเหมือนเดิมอีกครั้ง ฉันเม้มปากแน่น แต่ก็ต้องรีบปรับสีหน้าท่าทางให้เป็นปกติเมื่อได้ยินเสียงจากท่านป้า

    โอ้.. หลานรัก สมแล้วที่เป็นลูกของเจ้าเคนดัลล์กับเลนิต้า

    ท่านป้าพูดพลางจับตัวฉันหมุนไปมาจนชักจะเริ่มมึนหัว แต่ก่อนที่จะเกิดการอ้วกแตกกันกลางห้อง ท่านป้าก็หยุดหมุน

    อ่ะ จริงสิ เครซิเมอร์เองก็หล่อมากๆเหมือนกันนะ

    ท่านป้าพูดก่อนจะเดินออกจากห้อง และกลับเข้ามาพร้อมกับเครซิเมอร์ น้องชายตัวดีที่เธอเพิ่งคาดโทษไปก่อนหน้านี้ เขาแต่งตัวด้วยเสื้อเชิ้ตสีขาว ปกเสื้อเป็นแบบปกเสื้อสูท ตรงกลางมีกระดุมเม็ดเล็กๆสีแดงอ่อนๆ ไล่ลงมาเป็นกระดุม 4 เม็ดติดเรียงยาวเป็นแถว ในส่วนของเสื้อคลุม ปกเสื้อชี้ขึ้นเล็กน้อยเหมือนกับเสื้อคลุมของแวมไพร์ พร้อมด้วยแขนเสื้อทรงบอกยาวจนถึงข้อมือพับขึ้น และมีกระดุมเล็กๆน้อยๆติดประดับ ตัวเสื้อคลุมยาวจนถึงเข่า มีกระดุมติดบริเวณเสื้อสีทองอ่อนๆ และมีคล้ายๆเข็มขัด(?) พาดติดกัน 3 อัน พร้อมด้วยกระดุมสีทองขนาดใหญ่ เสื้อคลุมเป็นสีแดงเลือดหมูหมดเลยยกเว้นกระดุม.. ส่วนของกางเกงเป็นกางเกงขายาวแบบรัดสีดำสนิท และกระดุมสีขาวอีกนิดหน่อย รองเท้าเป็นรองเท้าพื้นหนังสีดำ พร้อมด้วยเชือกผูก เพิ่งสังเกตเห็นว่าเขาใส่สร้อยคอรูปไม้กางเขนอีกด้วย แต่มันคงจะเข้ามาเป็นเซ็ตเสื้อผ้าของเชื้อพระวงศ์อะไรแบบนี้

    เมื่อฉันพิจารณาจนพอใจแล้ว ฉันก็ถอนสายตาออกมาทันที จนน้องชายร้องบู้วออกมา

    บู้วว ท่านพี่ ทำไมไม่ชมข้าซักหน่อยเล่า

    เขาพูด พร้อมกับพยายามโพสท่าทางที่ดูหล่อเหลาที่สุดเท่าที่เขาคิดได้ออกมา ฉันเพียงสายหัวและถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่ายใจ.. แค่เพียงเดือนเดียว คนเรามันก็เปลี่ยนไปได้ขนาดนี้เลยเหรอเนี้ย..

    ฉันคิดอย่างหนักใจ แต่เมื่อน้องชายยังไม่หยุดโพสท่า ฉันจึงพูดชมเขาไปแบบส่งๆ

    อ่าๆ.. วันนี้เจ้าหล่อมาก พอใจยัง..

    ฉันพูดด้วยน้ำเสียงติดจะรำคาญหน่อยๆ แต่ประโยคหลังพยายามพูดแบบเบาเสียงลง เครซิเมอร์เพียงยิ้มอย่างดีใจ ก่อนจะหันไปคุยกับท่านป้าเล็กน้อย

    ไปกันเถิด ป่านนี้แขกคงรอแย่แล้ว

    ท่านป้าพูดก่อนจะจับมือฉันไปเดินข้างๆ พร้อมด้วยเครซิเมอร์ที่อยู่อีกฝั่ง เมื่อเดินมาเรื่อยๆ ก็มาถึงหน้าบันไดที่จะใช้ลงไปยังงานเลี้ยงวันเกิดของพวกเธอ ฉันจ้องมองไปยังผู้คนข้างล่าง มีทั้งคนที่คุ้นหน้าคุ้นตาและไม่คุ้น.. แต่เหมือนว่าคนที่ไม่คุ้นหน้าน่าจะเยอะกว่า

    ฉันสูดลมหายใจเข้าเล็กน้อย เพราะไม่เคยได้มีงานวันเกิดที่ยิ่งใหญ่ และมีผู้คนมากมายมาร่วมงานขนาดนี้ เอาจริงๆ แค่เค้กเล็กๆซักก่อน สำหรับเธอก็ถือว่าดีมากแล้ว.. ฉันกวาดสายตามองอย่างสำรวจ บันไดแบบแยกสองข้างออกไป แล้วเมื่อลงมาถึงข้างล่างก็จะบรรจบกัน ตัวบันไดเป็นปูนเปลือยสีขาวสะอาด ราวที่จับสลักด้วยรูปร่างต่างๆและที่สำคัญยังมีทองเป็นส่วนประกอบอีกด้วย มองเลยไปบนเพดานเห็นเป็นภาพจิตรกรนางฟ้านางสวรรค์บนท้องฟ้ากำลังร่ายรำกันอย่างอ่อนช้อย

    ฉันหันหน้าไปหาเครซิเมอร์เพื่อที่จะบอกว่าจะลงไปทางไหน แต่ก็พบว่าเขาก็หันมามองเธอเช่นกัน ฉันยืนฟังว่าเขาจะเลือกลงทางไหน แต่สิ่งที่ได้ยินกลับไม่ใช่เรื่องเดียวกันกับที่ฉันคิด

    ข้าพูดจริงๆนะ ท่านพี่วันนี้นะ.. งดงามมาก

    เขาพูดพลางสบตาฉัน แววตาของเขาบ่งบอกว่าเขาพูดเรื่องจริง ไม่ใช่แค่เพื่อจะแกล้งยอเธอ ฉันเพียงพยักหน้ารับรู้เล็กน้อย ก่อนที่จะตัวนิ่งแข็งไปซักพัก เมื่อได้ยินท่านป้าพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน ที่แม้จะไม่ได้เปล่งออกมามากนัก แต่เสียงกลับดังกังวานทั่วทั้งห้องโถง

    ยินดีต้อนรับแขกผู้มีเกียรติทุกท่าน ข้าขอขอบคุณที่ให้เกียรติมาร่วมงานวันเกิดของหลานข้าทั้งสอง

    ท่านป้าพูดขึ้น สีหน้าและน้ำเสียงไม่เปลี่ยนไปเลยซักนิดแม้จะถูกจับจ้องด้วยสายตามากมายที่มองมา ฉันกำมือแน่นอย่างตื่นเต้น พลางพยายามย่อตัวอย่างที่คิดว่าสวยงามมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ถึงแม้ว่าขาจะสั่นมากแค่ไหนก็ตาม

    นี้คือออร์ล่า มาร์เควสส์ หลานสาวของข้า

    หลังย่อเสร็จฉันก็ฉีกยิ้มด้วยรอยยิ้มน่ารัก.. หวังว่ามันจะดูน่ารักนะ

    และนี้ เครซิเมอร์ มาร์เควสส์ หลานชายของข้า

    เมื่อพูดจบ ฉันก็เห็นลางๆจากหางตาว่าเครซิเมอร์เองก็โค้งคำนับและคงจะตื่นเต้นพอๆกับฉัน เมื่อท่านป้าพูดจบ พวกฉันก็เดินบันไดกันคนละฝั่ง ยังดีที่ไม่แย่งกันลง.. ฉันลงฝั่งขวาด้วยขาที่ยังสั่นไม่หาย ทั้งมือก็ยังสั่นอย่างห้ามไม่ได้ ด้วยเพราะไม่เคยถูกจดจ้องด้วยสายตามากมายเช่นนี้ เพราะปกติก็มีแต่เป็นฝ่ายที่ได้จ้องมองไปยังคนเหล่านั้นเสียมากกว่า

    เมื่อลงมาถึง ฉันกับเครซิเมอร์ก็มายืนข้างๆกัน รับรู้ได้ว่าเขาเองก็สั่นไม่ต่างกัน ในระหว่างนั้นก็มีเสียงของท่านลุงหรือก็คือองค์ราชาดังขึ้น ราวกับเสียงจากสวรรค์ของเธอ

    ทำตัวตามสบายเถอะ ! “

    เมื่อเขาพูดจบ สายตาส่วนใหญ่ก็เริ่มถอนออกจากพวกเธอ.. แต่กลายเป็นว่า พวกเขาเริ่มมารุมล้อมเธอกับเครซิเมอร์แทนซะนี้สิ !

    เอาล่ะ.. ฉันขอถอนคำพูกที่ว่าราวกับเสียงจากสวรรค์

     

    นี้มันเสียงจากนรกต่างหากเล่า !!



    ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ เส้นคั่นเรียบๆ




    Talk Talk

    รู้สึกจะลงดึกๆตลอด.. พอดีหัวชอบแล่นตอนนี้--

    อันนี้ชุดของทั้งสอง และก็บันไดวังเผื่อคนนึกไม่ออกนะคะ

    ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ บันไดปราสาทI like this because you could still see a corset underneathLolitaWardrobe.com

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×