chai2v8
ดู Blog ทั้งหมด

เท้าแบน! ทำไงดี/อ.พญ.กุลภา ศรีสวัสดิ์ แพทย์เวชศาสตร์ฟื้นฟู

เขียนโดย chai2v8
Converter Box Coffee Pod Maker Coffee Makers Best Coffee Makers Bunn Coffee Makers Cuisinart Coffee Makers Single Cup Coffee Makers 4 Cup Coffee Makers Braun Coffee Makers Keurig Coffee Makers Melitta Coffee Makers Best Price On Bunn Coffee Makers Krups Coffee Makers Grind And Brew Coffee Makers Drip Coffee Makers Mill And Brew Coffee Makers Under Cabinet Coffee Makers Hamilton Beach Coffee Makers Consumer Review Coffee Makers Grind & Brew Coffee Makers Kuerig Coffee Makers Mini Travel Coffee Makers Discount Bunn Coffee Makers One Cup Coffee Makers Senseo Coffee Makers Top Rated Coffee Makers Delonghi Coffee Makers Red Coffee Makers The Best Type Of Coffee Makers Commercial Coffee Makers Bunn Coffee Maker Coffee Maker Keurig Coffee Maker Krups Coffee Maker Braun Coffee Maker Best Coffee Maker Cuisinart Coffee Maker Who Makes The Best Coffee Maker One Cup Coffee Maker Delonghi Coffee Maker French Press Coffee Maker Espresso Coffee Maker Single Cup Coffee Maker Vacuum Coffee Maker Senseo Coffee Maker Travel Coffee Maker Hamilton Beach Coffee Maker How To Clean Coffee Maker Thermal Coffee Maker Capresso Coffee Maker

   เท้าแบน เป็นปัญหาของเท้าที่พบบ่อยปัญหาหนึ่ง ซึ่งอาจเป็นภาวะปกติหรือผิดปกติ และอาจแสดงหรือไม่แสดงอาการใด ๆ ลักษณะของภาวะเท้าแบน พบในผู้ที่มีอุ้งเท้าเพียงเล็กน้อยหรือไม่มีเลย โดยอาจเป็นอยู่เดิมหรือเกิดขึ้นใหม่ภายหลังจากที่กระดูกมีการเจริญเติบโตเต็มที่แล้ว

   พัฒนาการของอุ้งเท้า
    การเจริญเติบโตของโครงสร้างเท้าส่วนใหญ่เกิดขึ้นในช่วง 7 - 8 ขวบปีแรก โดยเมื่อเด็กเริ่มตั้งไข่และเดิน เท้าของเด็กจะมีลักษณะ 3F คือ fat, flat และ floppy การเดินจะไม่มีการถ่ายน้ำหนักจากส้นเท้าไปสู่ปลายเท้าเหมือนในผู้ใหญ่ ซึ่งเป็นกลไกตามธรรมชาติที่ช่วยเพิ่มความมั่นคงในการยืนและเดิน โครงสร้างของเท้าและอุ้งเท้าจะมีลักษณะเหมือนผู้ใหญ่เมื่ออายุประมาณ 7 - 8 ปี ส่วนการเดินในลักษณะถ่ายน้ำหนักจากส้นเท้าไปสู่ปลายเท้าจะเริ่มเมื่ออายุ 3 - 4 ปี

   ปัญหาเท้าแบนที่พบบ่อยในเด็ก
ส่วนใหญ่เป็นภาวะเท้าแบนชนิดไม่ติดแข็งที่คงอยู่ต่อเนื่องมาตั้งแต่วัยเด็กเล็ก อุ้งเท้าไม่สูงขึ้นแม้กระดูกจะมีการเจริญเติบโตเต็มที่แล้วก็ตาม มักจะพบทั้งสองข้าง สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากพันธุกรรม
ผู้ป่วยมักรู้สึกว่าเท้าหรือขาอ่อนล้าง่าย ร่วมกับปวดบริเวณอุ้งเท้า ส้นเท้าและเท้าด้านนอก โดยอาการเป็นมากขึ้นเมื่อมีการลงน้ำหนัก ขณะยืนลงน้ำหนักจะพบส้นเท้าบิดออกมากกว่าปกติ ส่วนใหญ่มักจะมีกล้ามเนื้อน่องและเอ็นร้อยหวายตึงร่วมด้วย หากมีส้นเท้าบิดมากๆ เป็นเวลานาน อาจทำให้ข้อเสื่อม และเคลื่อนไหวได้น้อยลง

เท้าแบนชนิดนี้ไม่ถือว่าเป็นโรค ดังนั้นหากไม่มีอาการ ไม่จำเป็นต้องทำการรักษาใดๆ เพียงติดตามความเปลี่ยนแปลงเป็นระยะๆ

การรักษา มุ่งเน้นการป้องกันไม่ให้มีการผิดรูปเกิดขึ้น ควบคุมน้ำหนัก ปรับกิจกรรม ใช้อุปกรณ์เสริมในรองเท้า และปรับรองเท้า อาจรับประทานยาหรือทำกายภาพบำบัดร่วมด้วย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับอาการและความรุนแรง ส่วนการผ่าตัดจะพิจารณาเมื่อการรักษาดังกล่าวข้างต้นไม่ได้ผล

   ปัญหาเท้าแบนที่พบบ่อยในผู้ใหญ่
ส่วนใหญ่เกิดจากการอักเสบหรือสูญเสียหน้าที่ของเอ็นประคองอุ้งเท้า มักเป็นเพียงข้างเดียว พบบ่อยในเพศหญิง อายุ 45 - 65 ปี ซึ่งไม่มีประวัติอุบัติเหตุนำมาก่อน อาการจะเป็นมากขึ้นเมื่อใช้งานหนัก เช่น ยืนนาน ๆ หรือเดินมาก จะรู้สึกปวดบริเวณอุ้งเท้า ส้นเท้าและข้อเท้าด้านใน หากเป็นมากขึ้นอาจยืนเขย่งปลายเท้าไม่ได้ เท้าผิดรูปจะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จนทำให้ข้อติดแข็ง

   การรักษา
คล้ายกับการรักษาเด็ก โดยการควบคุมน้ำหนัก การใช้อุปกรณ์เสริมในรองเท้า และการปรับรองเท้า อาจรับประทานยาหรือทำกายภาพบำบัดร่วมด้วย ขึ้นอยู่กับอาการและความรุนแรง ส่วนการผ่าตัดจะพิจารณาเมื่อการรักษาดังกล่าวข้างต้นไม่ได้ผล

   การใช้อุปกรณ์เสริมและการปรับรองเท้า (Pedorthic Management)

Pedorthics เป็นศาสตร์ของการดูแลรักษาและป้องกันปัญหาต่าง ๆ ของเท้า โดยการออกแบบและผลิตอุปกรณ์เสริมภายในรองเท้า (foot orthoses) รวมทั้งการผลิตหรือปรับรองเท้า (shoe modification) อย่างเหมาะสม โดยอาศัยผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการอบรมและสอบระดับมาตรฐานทาง Pedorthics เรียกว่า Certified Pedorthist (C.Ped.)

การใช้อุปกรณ์เสริมภายในรองเท้ามีเป้าหมายเพื่อปรับรูปเท้าให้อยู่ในลักษณะปกติที่สุดเท่าที่จะทำได้ และป้องกันไม่ให้อุ้งเท้าแบนจนเอียงล้มมากขึ้น อาจทำได้โดยใช้อุปกรณ์เสริมชนิดสำเร็จรูป หรือใช้อุปกรณ์เสริมชนิดหล่อพิเศษเฉพาะราย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับชนิดและความรุนแรงของปัญหาเท้าแบน อย่างไรก็ตามอุปกรณ์เสริมนั้นจะใช้ได้ประโยชน์สูงสุดก็ต่อเมื่อใช้กับรองเท้าที่เหมาะสมเท่านั้น

รองเท้าที่เหมาะสำหรับผู้ที่เท้าแบน ควรเป็นรองเท้าชนิดหุ้มส้น เช่น รองเท้าคัตชูหรือรองเท้ากีฬา และควรมีความกว้างส่วนหน้าเท้าพอสมควร ควรหลีกเลี่ยงการสวมใส่รองเท้าแตะ หรือรองเท้าชนิดที่มีสายรัดส้นเท้า นอกจากนี้พื้นรองเท้าภายในควรจะมีเนินช่วยประคองบริเวณอุ้งเท้าอีกด้วย

การสวมใส่รองเท้าที่เหมาะสมร่วมกับการใช้อุปกรณ์เสริมภายในรองเท้า จะช่วยให้ผู้ที่เท้าแบนสามารถใช้เท้าทำงานต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

ความคิดเห็น

ยังไม่มีความคิดเห็น