ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    กรรมสิทธิ์ซาตาน (e-book)

    ลำดับตอนที่ #8 : ตอนที่ 3 : 100%

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.1K
      19
      12 พ.ค. 62



                    วันนี้เอมิกาตื่นตั้งแต่เช้ามืดเพราะเมื่อฟ้าสว่างเธอจะต้องเอาผักออแกนิกไปส่งที่ตลาด เสร็จแล้วต้องซื้อของเพื่อเตรียมไว้สำหรับต้อนรับผู้มีพระคุณ

                    หลังจากที่เอมิการับกระดาษจดรายการของสำหรับทำอาหารที่ป้าสายทิพย์จดให้เรียบร้อย เธอก็มาช่วยคนงานที่จ้างเป็นรายวันเพื่อมาตัดผักและแพ็คใส่ถุงแก้วที่เป็นแพ็คเกจจิ้งชื่อว่า ผักสวนฝันเดิมทีชื่อนี้เธอกับชาญวิทย์ช่วยกันตั้งเล่นๆแต่ต่อมาคนที่ตลาดต่างก็เรียกกันจนติดปากก็เลยเป็นที่มาของผักออแกนิกของเธอ

                    เมื่อมีเอมิกามาช่วยบรรจุผักลงถุงอีกแรงงานก็เสร็จเร็วขึ้น จากนั้นทั้งคนงานและเจ้าของผักสวนฝันก็ช่วยกันยกตะกร้าขึ้นรถ ไม่นานรถกระบะสเปซแคปสีบอร์นเงินก็เคลื่อนตัวออกจากบ้านทรงไทยหลังงามสู่ตลาดสดแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร

                    ผักสวนฝันของเธอกับชาญวิทย์แรกเริ่มส่งให้กับตลาดสดไม่กี่แห่งในจังหวัดนครปฐม แต่เมื่อผลผลิตมีมากขึ้นจึงจำเป็นต้องขยายตลาดและเป้าหมายก็คือตลาดสดในกรุงเทพฯ เหตุที่เลือกเป็นตลาดสดเพราะเธอสามารถส่งในราคาที่เป็นไปตามตลาดและพ่อค้าแม่ค้าที่ซื้อผักของเธอก็สามารถขายปลีกในราคาที่ไม่แพงเกินความเป็นจริง เอมิกาเลือกที่จะติดต่อกับพ่อค้าแม่ค้าในตลาดด้วยตัวเองเพื่อหลีกเลี่ยงพ่อค้าคนกลางบางคนที่กดราคาจนน่าใจหาย 

                    พอเข้าเขตกรุงเทพฯเอมิกาก็เจอกับการจราจรติดขัด ขนาดว่าออกจากบ้านตั้งแต่เช้าแล้วเชียวแต่ก็ยังหนีไม่พ้นช่วงเวลาเร่งด่วน นับวันคนใช้รถยนต์ส่วนตัวมีมากขึ้นแต่ถนนกลับมีเท่าเดิม หากจะว่าไปก็นึกสงสารคนที่มีหน้าที่แก้ปัญหาการจราจรในกรุงเทพฯเหมือนกันเพราะนอกจากหนทางแก้ปัญหายังไม่มีรถกลับมากขึ้นทุกวัน โชคดีของเธอแล้วที่ไม่ต้องเข้ากรุงเทพฯบ่อยๆ เพราะแค่สัปดาห์ละครั้งก็แทบจะไม่ไหว

                    ถึงตลาดเอมิกาก็จ้างเด็กเข็นผักให้ไปส่งที่แผงของลูกค้า เสร็จแล้วกำลังจะซื้อของตามรายการที่ป้าสายทิพย์จดมาให้ แต่โทรศัพท์ที่ใส่ไว้ในกระเป๋ากางเกงก็สั่นเตือนว่ามีคนกำลังโทรหา หญิงสาวล้วงโทรศัพท์ออกมาดูหน้าจอ คิ้วเรียวขมวดมุ่นเมื่อเห็นว่าเป็นเบอร์ไม่คุ้นแถมตัวเลขสิบหลักยังเป็นเลขสวยอีกด้วย เพราะไม่รู้ว่าคนโทรมาเป็นใครเอมิกาจึงรับสาย

                    “สวัสดีค่ะ”

                    ไม่มีเสียงตอบกลับเป็นคำพูดใดๆ

                    “สวัสดีค่ะ” หญิงสาวกล่าวอีกครั้ง เธอมั่นใจว่าปลายสายได้ยินเสียงของเธอเพียงแต่อีกฝ่ายไม่ยอมพูดและถ้าโทรศัพท์ไม่เกิดการขัดข้องหรือหูไม่ฝาดเธอได้ยินเสียงลมหายใจของคนปลายสายเบาๆ

                    “ถ้าโทรมาขายประกันฉันไม่ซื้อนะคะ หรือถ้าขายสินเชื่อฉันก็ไม่เอาค่ะ บัตรเครดิตก็ไม่สน เมมเบอร์โรงแรมฟิตเนสอะไรก็ไม่ต้องการ แล้วช่วยลบเบอร์ของฉันออกจากลิสต์รายชื่อด้วยนะคะ” บอกจบเอมิกาก็วางสายไม่คิดจะรอฟังปลายสายจะว่าอย่างไร ช่วยไม่ได้อยากโทรมาแล้วไม่พูดก็เหมาว่าเป็นพนักงานขายสินค้าทางโทรศัพท์ซะเลย






                    อนาวินออกมายืนรับลมทะเลอยู่ที่ระเบียงบ้านพักตากอากาศ ไม่บ่อยนักที่เขาจะเดินทางไปไหนมาไหนคนเดียวเหมือนวันนี้ ปกติก็จะมีอานนท์ที่ตามเขาไปแทบจะทุกที่แต่เพราะเลขาคนสนิทต้องทำงานที่เขาสั่งไว้ก่อนจึงจะตามมาในเช้าวันพรุ่งนี้ และเมื่อวานเขาก็โทรไปชวนหลานสาวกับผู้เป็นย่าให้มางานเปิดตัวกรีนวิวกอล์ฟแอนด์สปอร์ตคลับหัวหินจะได้ถือโอกาสมาเที่ยวทะเลด้วยจะได้ไม่มาบ่นว่าเขาไม่พาไปเที่ยวไหน แต่ทั้งสองคนกลับปฏิเสธบอกว่ามีนัดแล้ว และสุนิสายังบอกอีกว่า

    “หัวหินไว้มาคราวหน้าค่อยไปค่ะ แต่ที่คุณทวดจะพาไปหาโอกาสไปไม่ได้ง่ายๆ” น้ำเสียงตื่นเต้นของหลานสาวตัวแสบทำให้อนาวินรู้สึกแปลกใจอยู่เหมือนกันว่าผู้เป็นย่าจะพาสุนิสาไปเที่ยวที่ไหน กำลังจะถามแต่หลานสาวกลับตัดบทว่าจะไปเตรียมเก็บเสื้อผ้า แล้วก็วางสายไป

    ยืนคิดอะไรๆต่ออีกพัก อนาวินก็เดินมานั่งลงที่เตียงสำหรับอาบแดดก่อนจะเหยียดตัวพิงพนัก แหงนหน้ามองท้องฟ้ายามค่ำคืน จำไม่ได้แล้วว่าเขานอนดูดาวเงียบๆคนเดียวแบบนี้ครั้งสุดท้ายมันผ่านมานานแค่ไหน ขณะที่ชายหนุ่มกำลังนอนมองดูดาวเพลินๆ โทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะใกล้ๆก็ร้องเตือนว่ามีข้อความเข้า มือหนาหยิบขึ้นมาดูก็พบว่าเป็นข้อความจากอานนท์ที่รายงานผลการให้คนไปเฝ้าเจ้าของที่ดิน

    ข้อความของเลขาคนสนิทบอกว่าหญิงสาวถึงบ้านเรียบร้อยแล้ว แต่จะเข้านอนหรือยังนั้นไม่สามารถรู้ได้ หลังจากข้อความผ่านไป  อานนท์ก็ส่งรูปภาพขณะหญิงสาวกำลังก้าวขึ้นบันไดบ้านมาให้อีกภาพเพื่อเป็นการยืนยัน

    อนาวินวางโทรศัพท์ไว้ที่เดิม จากนั้นก็นอนกอดอกมองดูดาว แต่ครั้งนี้ท้องฟ้ากลับไม่เหมือนเดิมเพราะมีใบหน้าของคนที่เขาเพิ่งเห็นในโทรศัพท์ลอยอยู่แทนที่พระจันทร์  นึกไปถึงเมื่อเช้าตอนที่อานนท์โทรมาบอกว่าคนที่ส่งไปเฝ้าไปไม่ทันหญิงสาวออกจากบ้าน  ทำให้เขาอยากรู้ว่าเอมิกาออกไปทำอะไรตั้งแต่เช้าแล้วเพิ่งกลับเข้าบ้านมาเอาตอนสี่ทุ่ม เรื่องที่ดุจดาวบอกว่าหญิงสาวกำลังลำบากแวบเข้ามาในหัวเขาทันที เพิ่งจะผ่านไปแค่วันเดียวคงไม่ใช่เรื่องง่ายที่นักสืบของอานนท์จะสืบรู้ว่าเอมิกากำลังมีปัญหาเรื่องอะไร หรือหากว่านักสืบของอานนท์ทำงานไม่ทันใจเขาอาจจะต้องเป็นคนลงมือเอง...



    @@@@@@@@@@

    ฝากอีบุ๊กด้วยนะคะ


    กรรมสิทธิ์ซาตาน
    สิตางศุ์
    www.mebmarket.com
    (เรื่องนี้เคยตีพิมพ์แล้วนะคะ)“คุณทำให้ผมกลายเป็นคนไม่รู้จักพอ”ในค่ำคืนที่ ‘เอมิกา’ หญิงสาวที่มีชีวิตธรรมดาๆ และไม่มีอะไรโดดเด่นต้องตกเป็นของมหาเศรษฐีหนุ่มรูปหล่ออย่าง ‘อนาวิน’ ซาตานที่แสนเร้าใจ  หญิงสาวก็ไม่คิดเลยว่าด้วยสัมพันธ์ทางกายเพียงข้ามคืนนั้นจะทำให้เธอต้องสูญเสียสิ่งที่หวงแหนที่สุดในชีวิตไม่ใช่แค่เพียงความสาวเท่านั้นที่เขาได้ครอบครอง แต่ยังรวมไปถึง ‘ที่ดินมูลค่ามหาศาล’ซึ่งถูกเขาปล้นไปพร้อมสถานภาพใหม่ที่เธอจำใจต้องยอมรับ ‘ภรรยาตีทะเบียนที่แถมไปกับโฉนด’เพื่อเป็นการค้ำประกันชื่อเสียงของเธอ เผื่อว่าเธออาจจะตั้งครรภ์ทายาทของเขา!แต่ ‘ความลับ’ ที่อนาวินรู้ดีแต่เพียงผู้เดียวก็คือ เอมิกาไม่มีทางตั้งครรภ์เพราะเรื่องราวบนเตียงในคืนนั้นเขายังไม่ได้รุกล้ำหรือล่วงเกินเธอเลยแม้แต่น้อยถึงแม้เธอจะดูยั่วยวนและปลุกเร้าไฟปรารถนาในกายของเขาจนแทบลุกไหม้สักแค่ไหนก็ตามแต่ในเมื่อเอมิกาเข้าใจผิดและคิดไปเองว่าเธอถูกเขาครอบครองตีตราCEO หนุ่มที่บริหารงานอย่างเฉียบขาดและคิดถึงแต่เรื่องตัวเลขของผลกำไรอย่างอนาวินจึงไม่คิดรีรอที่จะฉวยโอกาสสวมรอยในฐานะ ‘สามีคืนเดียว’ เพื่อกรรมสิทธิ์ผืนดินที่เธอเป็นผู้ถือครองโดยที่อนาวินเองไม่เคยคิดเลยว่า พันธะสมรสจอมปลอมที่ปราศจากความรักในครั้งนี้กำลังทำให้เขาหลงเสน่ห์ของเหยื่อชนิดเกือบจะถอนตัวไม่ขึ้นยิ่งภรรยาคนสวยมีผู้ชายคนอื่นแสดงท่าทีสนใจและเข้ามาพัวพัน เขาก็ยิ่งหึงหวงจนบ้าคลั่งและตอนนี้ซาตานตัวร้ายก็เดินเข้ามาสู่ทางแยกที่ต้องเลือก ระหว่าง...‘ที่ดิน’ หรือ ‘เธอ’ ในฐานะภรรยาที่แท้จริงจนกระทั่ง ‘ความลับ’ ที่ว่าหญิงสาวยังไม่เคยตกเป็นของเขาถูกเปิดเผยออกมาซึ่งความลับสำคัญนี้จะทำให้ผู้ชนะอย่างอนาวินต้องกลายเป็นผู้แพ้และต้องชดใช้ให้กับเธอด้วยใบหย่าที่เอมิกาพร้อมจะเซ็นเพื่อเป็นการแก้แค้น!



    เงื่อนร้ายกับดักรัก
    สิตางศุ์
    www.mebmarket.com
    “สมัยเรียนคุณตกวิชาคณิตศาสตร์หรือเปล่า ถึงได้นับเลขผิดไปเยอะขนาดนี้ ผมว่าคืนนั้นเราสองคนแตะขอบฟ้าพร้อมกันไม่ต่ำกว่าสี่ครั้งนะ อ้อ ยังไม่นับรวมที่ผมทำให้คุณกรีดร้องอย่างมีความสุขอีก...”นักธุรกิจหนุ่มผู้เชี่ยวชาญทางด้านผู้หญิง ‘หัสดิน ธาดาโชติสกุล’ กำลังเผชิญปัญหา เมื่อเขาต้องการนำทรัพย์สินซึ่งเป็นมรดกจากพ่อผู้ล่วงลับมา ‘ประมูล’ เพื่อการกุศล เพราะแม้จะเคยมีความสามารถในการจัดการกับบัญชีรายชื่อคู่ควงที่ผ่านมา แต่กับบัญชีข้าวของที่จะนำไปประมูลเขากลับจนปัญญา จนกระทั่งหญิงสาวแปลกหน้าอย่าง ‘รัณนภัทร’ เข้ามาเสนอตัวช่วยเหลือ และชายหนุ่มก็ยอม‘ว่าจ้างเธอ’ ภายใต้เงื่อนไขที่ว่าหญิงสาวจะต้องยอมเป็น ‘ลูกจ้าง’ และ ‘คนรัก’ ของเขาไปพร้อมๆ กัน! แม้ว่า ‘การเสนอตัว’ เข้าไปทำงานให้ชายหนุ่มหล่อเหลือร้ายที่มี sex appeal เกินต้านทาน แถมร่ำรวยมหาศาลอย่าง หัสดิน ธาดาโชติสกุล เป็นงานที่ยากและอันตราย... แต่รัณนภัทรก็จำเป็นต้องทำ! ถึงเขาจะพยายามเปลี่ยนสถานะจาก ‘ผู้ช่วยเสนอตัว’ ไปเป็น ‘เมียเสนอตัว’ หญิงสาวก็จำต้องซ่อนความเหนียมอายเอาไว้ พร้อมกับความลับที่ว่าเธอก่าลังตกหลุมรัก Boss ของตัวเอง สุดท้ายการ ‘ทำตัวให้ว่าง’ ทุกครั้งที่เขาต้องการใช้งานก็ทำให้ได้รับรางวัลในฐานะพนักงานคนขยัน นั่นคือ โบนัสพิเศษเก้าเดือนในครรภ์เป็นของแถม พร้อมกับ ‘ความลับที่แท้จริง’ เรื่องเมียเสนอตัวถูกเปิดเผย! “มีปากก็ไม่จำเป็นต้องใช้พูดเสมอไป เก็บไว้ทำอย่างอื่นที่มันสนุกแล้วก็ได้อารมณ์กว่าพูดก็ได้” เขาว่าแล้วเหลือบมองคนมีปากเอาไว้พูดด้วยดวงตาพราวระยับกรุ้มกริ่มอย่างมีความหมาย คนถูกมองหน้าร้อนผ่าวขึ้นมาทันที แต่ก็ไม่วายจะโต้ตอบอย่างคนไม่ยอมแพ้ง่ายๆ “เรื่องนี้ฉันเห็นด้วย เวลาใช้ปากด่าคนก็ได้อารมณ์ดี” “แบบนั้นมันได้อารมณ์แค่ฝ่ายเดียว แล้วคุณอยากรู้ไหมว่าใช้ปากทำอะไรถึงสนุกแล้วก็ได้อารมณ์ทั้งสองฝ่าย” พอได้ยินแบบนั้นหน้าที่ร้อนผ่าวอยู่แล้วของรัณนภัทรก็แดงจัด...(เรื่องนี้เคยตีพิมพ์ในชื่อ 'เมียเสนอตัว' นะคะ)
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×