ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ฟาโรห์ที่รัก ตอน จอมใจฟาโรห์

    ลำดับตอนที่ #6 : เดินทางข้ามห้วงแห่งกาลเวลา

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.8K
      12
      29 มี.ค. 55

         พรพิงค์ตกใจกับสายสร้อยที่เธอได้มาในวันนี้ เธอถือจี้นั้นไว้ในมือของเธอแล้วแนบไว้ที่อก พอเธอเปิดมือดูจี้นั้นก็ปรากฏแสงสว่างจ้าส่องกระจายไปทั่ว เธอแสบตาจนต้องหลับตาสนิท ภัทรวินเห็นท่าพรพิงค์แปลกๆจึงถาม

       "พรพิงค์เป็นอะไร จึงหลับตาซะปิ๊ดขนาดนี้"

       "เปล่าค่ะ...แค่.."

        พอพรพิงค์ลืมตาอีกที แสงนั้นก็หายไปแล้ว แต่บรรยากาศภายนอกท้องฟ้าอยู่ๆกลับมืดด้วยเมฆฝน 

       "พี่ว่าเรากลับบ้านกันเถอะเดี๋ยวต้องไปส่งน้องกัญญาอีก"

        "ค่ะ..."

         ทั้งสามเดินออกจากร้านอาหารตรงไปยังที่จอดรถ ภัทรวินขับไปส่งกัญญาที่บ้าน ฟ้าก็ผ่าและร้องเป็นระยะ 

          ทางด้านของหนึ่ง เทพีไอซิสพร้อมด้วยเทพีเนฟทีปทรงมองเหตุการณ์ผ่านสระน้ำทิพย์

          "ไม่นาน พรพิงค์ก็จะเดินทางมายังอียิปต์โบราณ"

          "น้องแทบจะอดใจต้อนรับเหลนสะใภ้ไม่ไหวแล้วเพคะพระพี่นาง"

          "ใจเย็นเถิด วันนี้นางมาแน่ๆ"

         ทางด้านวิหารแห้งแสงตะวัน เทพเจ้าทั้งสาม ได้แก่เทพราห์ เทพท็อต และเทพคอนชู กำลังสนุกสนานกับการเดินหมากตาราง
       
          "ดูซิว่าตานี้ท่านพี่จะเสียหมากอีกไหม"
     
          "น้องข้า อย่าดูถูกตาแก่อย่างข้าน่ะ"

           "ข้าว้า ท่านทั้งสองต้องเสียตานี้ให้แก่ข้าแน่ๆ"

          "ข้าเองก็อยากที่จะชนะท่าน คอนชูจริงๆ"

          "เทพราห์ผู้ยิ่งใหญ่เชิญเดินเถิดท่าน เราจะได้ทราบผลแพ้ผลชนะกันเสียที"

         เทพราห์กำลังจับหมากตัวหนึ่งขึ้นหลังจากที่คิดไตร่ตรองอยู่นาน และแล้วเทพราห์ก็ทรงหันไปยังด้านข้างสายพระเนตรมองไปยัง สายฟ้าอสุนีบาตมากมายกระจายไปทั่ว

         "แปลกประหลาดจริงๆ ทำไมสายฟ้าจึงฟาดลงมากมายเช่นนี้มันผิดสังเกต"

         เทพท็อตถึงกับเหนื่อยตก เทพท็อตจึงพยายามจะบ่ายเบี่ยงความสนใจของเทพราห์

         "ท่านพี่เดินเถิด ข้ากับเทพคอนชูรอท่านนานแล้วนะ กำลังจะสนุกเลย"

         "นั้นซิน่ะ เรามาเดินกันต่อเถิด"

          เทพราห์วางหมากลง

          "ข้ากินแล้ว น้องข้า"

          เทพท็อตโล่งอกไปที ท่านภาวนาหวังให้แผนการนั้นจนสำเร็จก่อนที่เทพราห์จะไม่สนใจในการเดินหมากตารางอีกต่อไปนั้นหมายความว่า ความยุ่งยากต้องเกิดขึ้น แต่แล้วอสุนีบาตแรงขึ้นทุกทีจนแสงแห่งอสุนีบาตนั้นจ้าเข้าพระเนตรแห่งสุริยเทพราห์ หมากตัวต่อไปในกระหัตถ์แห่งพระองค์ซึ่งกำลังจะวางไว้ลงตารางต่อไปแต่แล้ว...
         เทพท็อตเหนื่อยไหลไปทั่วตามใบหน้า ขอภาวนาให้พระองค์ทรงอย่าได้สนใจอสุนีบาตเหล่านั้นเลย หากพระองค์สนพระทัยขึ้นมา พวกเราพบจุดจบที่ไม่สวยแน่ๆ 

      "ข้ากินอีกแล้ว ข้าได้กินของท่านและท่านเทพคอนชู"

       "เสด็จพี่ทรงปราชญ์เปรื่องมากพ่ะย่ะค่ะ"

        "น้องข้า เจ้าจงรักษาหมากของเจ้าให้ดีๆ ไม่นั้นข้าอาจจะกินหมากของเจ้าอีกตัวนะจะบอกให้ ฮา..ฮา...ฮา...."

       จันทรเทพท็อตค่อยคลายความตื่นกลัวลง ทุกอย่างกลับคืนสู่สภาพปกติอีกครั้ง แสงอสุนีบาตเหล่านั้นจางบางบางลงเรื่อยๆ จนหมดสิ้นไป 

        ภัทรวินขับรถมาส่งกัญญา 

        "รอก่อนนะพิงค์รอกันที่มหาวิทยาลัย  พี่วินสวัสดีค่ะ"

        "สวัสดีครับน้องกัญ"

        กัญญาลงจากรถแล้วผลักประตูรั้วเข้าไปในบ้าน จากนั้นไม่นานฝนก็โปรยปรายลงมา 

       "ว่าไปแล้วมันก็ไม่ใช่หน้าฝนซะหน่อย ทำไมหนอไม่เข้าใจเลยนะคะพี่วิน"

       "ก็อย่างนี้ล่ะจ๊ะ โลกเราเปลี่ยนแปลงไปมาก อากาศก็แย่ เดี๋ยวร้อน เดี๋ยวหนาว เดี๋ยวฝนตก จนคนอย่างเราก็จะบ้าตามธรรมชาติอยู่แล้ว"

       "พี่วินก็พูดถูก"

       ขณะนั้นจราจรบนท้องถนนติดขัด สายฝนก็เทลงมาอย่างหนักจนน้ำท่วมถนน ลมข้างนอกก็เป็นลมพายุพัดอย่างกระหน่ำมีต้นไม้หักโครมลงมาจึงเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดจราจรติดขัด 

       "พิงค์โทรบอกแม่หน่อยว่า เราอาจจะกลับบ้านช้าเพราะเกิดจราจรติดขัด พี่กลัวว่าแม่จะรอ..."

       "ค่ะ"

       พรพิงค์หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาแล้วกดเบอร์โทรศัทพ์บ้าน 

      "ฮัลโหลแม่ค่ะ"

      "พิงค์ทำไมเรากับพี่ออกไปข้างนอกนานจัง แม่เป็นห่วงน่ะ ตอนนี้ฝนฟ้าก็แปรปรวนรีบกลับบ้านนะจ๊ะ แม่เป็นห่วงมากเลย"

       "ค่ะ แม่แต่ตอนนี้รถติดมากเลยค่ะ แม่ไม่ต้องเป็นห่วงนะค่ะ"

       "จ๊ะ แค่นี้น่ะ"

       "ค่ะ"

       แม่ของพรพิงค์วางสายลง แม่หันไปยังกรอบรูปทอง ซึ่งถูกแขวงไว้ที่ผนังข้างห้องรับแขก เป็นรูปภาพของพระแก้วมรกตทรงเครื่องภาคฤดูร้อนอย่างงดงาม แม่พนมมือขึ้น
     
    "คุณพระคุณเจ้าทำไมมันวิปโยคเช่นนี้น่ะ ขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั่วสากลโลกช่วยคุ้มครองลูกวินกับลูกพิงค์ด้วยเทอญ... สาธุ "

    "ไม่เป็นไรเราจะดูแลนางให้เป็นอย่างดี" เทพีไอซิสในร่างกายทิพย์ยืนอยู่ข้างหลังแม่ของพรพิงค์แล้วหายวับไป 

      "นั้นเสียงใครอ่ะ หรือจะเป็นเสียงของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ สาธุ..."

       แต่แล้วก็มีเสียงกระจกแตกดังขึ้น

      "ว๊าว... ตายแล้วอะไรแตก"

       แม่ของพรพิงค์เดินไปดู ปรากฏว่า กรอบรูปที่ใส่ภาพของพรพิงค์หล่นลงมาแตก กระจาย

      "ตายแล้ว มันเป็นลางหรือเปล่า พิงค์ลูกแม่ โธ่คุณพระคุ้มครองลูกของลูกด้วยเทอญ"

       ด้านทางพรพิงค์กับภัทรวินที่ยังไม่ขยับไปไหน รถก็ยังคงติดอยู่ไม่สามารถจะขยับไปไหนได้เลย 

      พรพิงค์นั่งนิ่งแล้วเธอก็ดูสายสร้อยของเธอ เธอยิ้มแล้วกำจี้น้้นไว้ เธอมีความสุขมากทุกครั้งที่ได้เห็นจี้อันนี้ ในใจของเธอมีแต่คำว่า 

        "หากเราได้ไปอียิปต์ก็คงจะดี...."

       ไม่ทันใดจี้สายสร้อยนั้นก็ลอยขึ้นมาแตะที่หน้าผากของพรพิงค์ พรพิงค์ตะลึงจนพูดอะไรไม่ออก เธอพยายามที่จะร้องภัทรวินแต่เขานิ่งสนิทเสมือนว่าภัทรวินนั้นต้องมนต์ พรพิงค์ร้องจนสุดเสียง แต่แล้วร่างของเธอค่อยๆหาย แสงสว่างนั้นกินร่างของพรพิงค์ทีละนิดทีละนิดอย่างน่าสยอง พรพิงค์ตอบตลอดว่า มันคืออะไร มันเป็นอะไร ใครก็ได้ช่วยฉันที เธอมิอาจจะหยุดสิ่งที่เกิดขึ้นได้ เธอก็ได้หายไปแสงสว่างนั้นก็สลายสิ้นไป เธอไม่มีตัวตนอยู่ที่นั้นแล้ว ภัทรวินหันมาอีกทีก็ไม่เห็นพรพิงค์แล้ว สายฝนหยุดตก ลมสงบ ต้นไม้ที่หักลงมานั้นก็หายไป ทุกอย่างเหมือนไม่มีเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นเลย ภัทรวินแทบจะช็อกคาที่ น้องสาวของเขาหายไปโดยที่ตัวเขาเองไม่รู้ตัวเลยว่า พรพิงค์หายไปไหน เขาลงจากเรือเดินไปมาและพยายามที่จะตะโกนอย่างบ้าคลั่ง

       "พรพิงค์...พรพิงค์......"

        เสียงแตรรถดังขึ้น จราจรกลับมาปกติแล้ว ภัทรวินงงสับสนและเสียใจจนมิอาจจะกลั้นน้ำตาไว้ดี เขาทนรถหลบไปจอดแล้วเขาก็วิ่งตามหาพรพิงค์บริเวณนั้นด้วยความหวังที่มีว่าเขาจะต้องเจอพรพิงค์ แต่มันก็เสมือนการคว้าน้ำเหลว..... เขากลับไปที่บ้านทั้งๆที่ไร้พรพิงค์ แม่ออกมารับ

       "กลับซะมืดเลย เล่นเอาแม่เป็นห่วง วินแล้วพรพิงค์หายไปไหน"

       "ผมก็ไม่รู้ครับแม่ว่าน้องหายไปไหน..."

       "พิงค์หายตัวไปเหรอ....ตายแล้ว แจ้งความยังวิน"

        "ผมแจ้งแล้วครับ บอกลักษณะพร้อมภาพถ่ายของพิงค์มอบให้แก่ตำรวจแล้วครับ แม่ครับผมเสียใจ ผมไม่รู้เลยว่าน้องหายไปไหน ผมมันเป็นพี่ที่แย่และเลวมากครับแม่"

       "แต่พิงค์ยังโทรมาหาแม่เลยว่า จะกลับบ้านช้าเพราะรถติด"

        "ใช่ครับ แต่ตอนนั้นพิงค์กับผมอยู่บนรถทั้งคู่ แต่ไม่รู้เป็นอย่างไรพอผมหันมาอีกที น้องก็หายไปแล้ว"

       ภัทรวินถึงกับล้มอ่อนจากซุกลงกับพื้น แม่เข้ากอดภัทรวิน

         "ไม่เป็นไรหรอกลูกวิน แม่เชื่อว่าทางการเขาต้องช่วยเราได้"

        แม่กับภัทรวินกอดกันและร้องไห้ด้วยความเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น ถึงทางการจะตามหาพรพิงค์อย่างไรก็ไม่เจอได้ เพราะพรพิงค์ไม่ได้อยู่ในโลกนี้เสียแล้ว..... 

        พรพิงค์ค่อยๆรู้สึกตัวขึ้น เธอค่อยๆลืมตาขึ้น สายตาของเธอสัมผัสกับสายแดดบนยอดต้นอินทผลัมที่ไม่จ้าเพราะมีใบของต้นอินทผลัมบดบัง 

       "ที่นี้ที่ไหนกัน และฉันมาที่นี้ได้อย่างไรกัน"

        "ตื่นแล้วหรือ พรพิงค์"

         พรพิงค์รู้สึกได้ว่าเสียงนี้ช่างเป็นเสียงที่คุ้นเคย เธอลุกขึ้นแล้วหันไปด้านข้าง ไอยรินทร์นั่งอยู่ข้างเธอนั้นเอง 

          "พี่ไอยรินทร์ค่ะ ที่นี้ที่ไหน และทุกอย่างที่เกิดมันเป็นเพราะสายสร้อยเส้นนี้ใช่หรือไม่ค่ะ"

         "เข้าใจดีแล้วจ๊ะ ข้าจะตอบเจ้า ที่นี้คืออาณาจักรอียิปต์โบราณ"

          "อียิปต์โบราณ อะไรน่ะ หนูไม่เชื่อ พี่ไอยรินทร์ลักพาตัวหนูมาใช่ไหน พี่ไอยรินทร์เป็นผู้ร้าย"

          "แม่หนูเจ้ากลัวเกรงบ้างไหมว่าเจ้ากำลังพูดอยู่กับใคร"

          "เนปทีนพอ...นางกลัวและตื่นสถานที่ เราต้องค่อยๆแจ้งแก่นางเพื่อให้นางคลายความสงสัย"

           "เพคะพระพี่นาง"

            "แต่พี่ไอยรินทร์ พี่ทำไมถึงแต่งตัวเหมือนราวกับภาพฝาผนังอียิปต์โบราณแล้วเครื่องประดับศีรษะพี่นั้นไม่หนักหรอกหรือ"

           "ไม่หรอกจ๊ะ ข้าสวมมันจนชินแล้วสวมมันมานับเป็นพันกว่าปีแล้ว"

           "หรือว่า พี่จะเป็นปีศาจอย่างปีศาจมัมมี่ในหนัง แล้วจับหนูมาเพื่อฆ่าหนูแล้วก็กิน"

           "ตายแล้ว เธอเราสูงส่งเสียมากกว่าปีศาจมัมมี่อะไรของเธอนะจ๊ะ"

          "พรพิงค์จงตั้งใจฟัง สิ่งที่เราจะแจ้งแก่เธอ...."
     
           "ค่ะ"

           "ดีมากจ๊ะ"

           เทพีไอซิสเผยรัศมีแห่งเทพเจ้าออกจากร่าง ภาพนิมิตที่พรพิงค์เห็นนั้น คือ ภาพของเทพเจ้า 

         "พี่ไอยรินทร์ เป็นเทพเจ้าอียิปต์.."

          "ข้าคือเทพีไอซีส"

          "ส่วนข้าคือเทพีเนปทีส"

           "หนูไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะได้มีโอกาสได้พบกับเทพเจ้าอียิปต์เป็นๆอย่างนี้เลยค่ะ" พรพิงค์ปราบปลื้มเป็นอย่างยิ่ง
      
          "แม่นางพรพิงค์ สิ่งที่ข้ากระทำกับเจ้าอาจจะดูแล้วเป็นสิ่งที่เลวร้าย แต่เจ้าคือความหวังสุดท้ายแห่งเรา เราจึงจำเป็นต้องให้เจ้าช่วย องค์ฟาโรห์ปัจจุบันทรงครองราชย์ท่ามกลางผู้ที่หวังผลประโยชน์ เห็นฟาโรห์น้อยเป็นเครื่องมือหาทรัพย์สมบัติที่สิ่งสนองความต้องการ เช่นนั้นข้าเห็นสมควรที่จะหาองค์ราชินีเพื่อคอยช่วยเหลือองค์ฟาโรห์ ซึ่งข้าได้เลือกแล้ว คือ" 

        สายตาเทพีไอซิสจ้องมองสบตาพรพิงค์

        "พระองค์หมายความว่าหนู...."

          "เจ้าคือผู้ที่เราเลือกให้ครองตำแหน่งพระมเหสีแห่งองค์ฟาโรห์ แล้วแม่เมืองแห่งอียิปต์อันไพศาลนี้"

         "นี้ไม่ได้ฝันไปนะค่ะ"

         "เจ้าคือ ราชินีผิวสีน้ำผึ้งในตำนาน"

         "ราชินีผิวสีน้ำผึ้ง เป็นเรื่องจริง"

          "ซึ่งก็คือเจ้า พรพิงค์ เจ้าจงรับเทวบัญชาจากเราเทพีไอซีส เมื่อเจ้าได้เป็นพระมเหสีแห่งองค์ฟาโรห์แล้วไซร้จงทำหน้าที่ช่วยเหลือองค์ฟาโรห์สุดแรงกำลังของเจ้า ทั้งแรงใจ แรงกาย และสติปัญญาของเจ้า ที่ข้าเห็นแล้วว่ามันเป็นเครื่องมือช่วยเจ้าได้เป็นอย่างดี เจ้าต้องทำให้อาณาจักรเจริญรุ่งเรืองตลอดพระชนม์ชีพแห่งองค์ฟาโรห์"

         "เจ้าจงก้มศีรษะลง แล้วคุกเข่า ยื่นมือของเจ้าออกมา"

          พรพิงค์ทำตามที่เทพีเนปทีนตรัส 

           เทพีไอซีสวางสร้อยดวงเนตรเทพเจ้านั้นลงบนมือของพรพิงค์ 

           "เจ้าจงสวมมือไว้ตลอด ข้าจะรับทราบเรื่องราวเกี่ยวกับเจ้าได้จากสร้อยเส้นนี้ "
     
         พรพิงค์สวมมันไว้ เธออาจจะมีอคติบ้างเพราะสร้อยนี้เป็นต้นเหตุที่ทำให้เธอไม่ได้อยู่กับครอบครัวของเธอ

          "และหนูจะได้กลับบ้านไหมค่ะ พระองค์"
       
          "ข้าเข้าใจ แต่ที่นี้คือบ้านของเจ้าแล้ว พรพิงค์ อีกไม่นานอียิปต์แห่งนี้ เจ้าก็จะมองได้ว่า อียิปต์คือบ้านของเจ้า"

         "จงอย่าทำให้เราเสียใจนะพรพิงค์ เราหวังในตัวเจ้ามาก"

           "ค่ะ เทพีเนปทีน"

           "ที่แห่งนี้ที่เราอยู่มันคือ โอเอซีสกลางทะเลทราย เจ้าจงหาทางไปยังอาณาจักรอียิปต์ด้วยตัวของเจ้าเอง"

         "ทำไมเป็นเช่นนี้ล่ะค่ะพระองค์"

          "เราต้องการให้เจ้าทำด้วยตนเอง เพื่อให้เราชิมลิ้นรสความยากลำบาก เพราะวันข้างหน้าเจ้าจะยิ่งใหญ่ เมื่อเจ้าอยู่จุดสูงสุดแล้ว เจ้าจะได้เข้าใจผู้ที่ตกยากเช่นเจ้าตอนนี้ เราลาก่อน พรพิงค์..."

         ร่างของเทพีไอซิส กับ เทพีเนปทีนหายวับไป ปล่อยให้พรพิงค์อยู่เพียงคนเดียวตามลำพัง
          

       

       
         
     
         
     
     
          
         
      
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×