ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ฟิคสั้น โน่ริท

    ลำดับตอนที่ #16 : เปลี่ยนแฟนหลายหนไม่ใช่คนหลายใจ ตอน บอกเลิกครั้งแรก

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 520
      3
      5 มิ.ย. 55


    อยู่คนเดียวไม่ได้นานๆ เหมือนมันจะเป็นกรรมเก่า

    ต้องมีคนข้างๆเป็นเงา ก็เลยต้องไขว่คว้ามา

     

                    หลังจากที่กันไม่อยู่ผมก็ไม่มีใคร รู้สึกว่าน่าจะผ่านไปเป็นปีจนวันนั้น วันที่ 23 ตุลาคม วันเกิดกันผมจำได้แม่น ผมไปที่วัดแล้วผมก็ได้ยินเสียงนั้น

    “ฉันอยากจะย้ำ อีกสักครั้ง ให้เธอฟังฉัน อีกสักครั้ง แต่อยากจะย้ำ อยากจะย้ำ จนเธอนั้นมั่นใจ ถึงต่อให้นาน อีกนานสักเท่าไร ก็อยากให้เชื่อใจ ว่าฉันรออยู่ และฉันจะรอต่อไป อย่างที่ได้เคยบอกไว้ จะรอเธอ”

    “กัน” ผมรีบเดินเข้าไป แล้วเขาก็หันมา

    “อ้าว พี่ริท” เสียงนั้นเรียกชื่อผม

    “เอ่อ คุณเป็นใคร”

    “พี่จำผมไม่ได้เหรอ ที่เราเจอกันวันที่พี่ไปห้องซ้อมกับพี่กันนะ แล้วผมกำลังจะบอกชื่อแล้วพี่กันก็มาดึงไปก่อน” ผมนั่งลงข้างๆเขาแล้วคิดย้อนกลับไปตอนนั้น

    “อ่อ ที่เป็นรุ่นน้องของกัน” พอดูใกล้ๆรู้สึกหน้าคุ้นๆ

    “ผมเจอพี่ในงานศพด้วยแต่ยังไม่กล้าเข้าไปทักเพราะเห็นพี่ยังซึมๆอยู่ แล้วตอนนี้เป็นไงบ้าง” เขาวางกีต้าร์แล้วหันมาหาผม

    ชีวิตก็ต้องดำเนินต่อไป สุขสันต์วันเกิดนะกันผมมองที่รูปของกันแล้วเอาดอกไม้ไปวางข้างดอกไม้ที่วางอยู่ก่อนแล้ว

    “พี่ริทยังอยู่ที่คอนโดรึเปล่าครับ”

    “เปล่า พี่ย้ายออกมาได้ประมาณ 3 เดือนแล้ว”

    “แล้วพี่ไปอยู่ที่ไหนละครับ”

    “คอนโดใหม่แถวๆมหาวิทยาลัยนั่นแหละ อยู่ที่เดิมเหมือนเขายังอยู่กับพี่ยังไงไม่รู้ พี่ไม่อยากหลอกตัวเองไปวันๆ” ผมก้มหน้าแล้วเล่าให้เขาฟัง

    “ผมเชื่อว่าพี่เข้มแข็งครับ พี่กันคงอยากเห็นพี่ยิ้มมากกว่าร้องไห้หรือเสียใจ เขาเคยบอกผมว่าชอบเวลาที่พี่ยิ้มมากที่สุดมันทำให้เขามีความสุขไปด้วย ผมว่าไม่ใช่แค่พี่กันหรอกนะครับ แต่ใครๆที่เห็นพี่ยิ้มก็อยากจะยิ้มตามพี่ทั้งนั้น” เขาหันมายิ้มให้ผม

    “ขอบใจนะ ว่าแต่เราชื่ออะไร”

    “ตูมตามครับ”

    “อยู่คณะเดียวกับกันเหรอ”

    “ครับ พี่กันเล่าเรื่องพี่ให้ผมฟังบ่อยๆ” ผมหันไปมองหน้าเขา

    “จริงเหรอ แล้วกันเขาเล่าว่ายังไงบ้าง”

    “ผมว่าเราไปหาที่อื่นคุยกันดีไหมครับ แดดเริ่มร้อนแล้วเดี๋ยวพี่ริทจะไม่สบาย” เขาเดินนำออกไป

    “พี่ได้ป่วยง่ายขนาดนั้นหรอก พี่เรียนหมอนะ” ผมเดินตามเขามา

    “เหรอครับ เห็นพี่กันฝากผมซื้อยาให้พี่บ่อยๆ” เขาหันมายิ้ม

    “มายังไง” ผมดึงเสื้อเขาไว้เพราะดูเหมือนเขาเดินเร็วมาก

    “แท็กซี่ครับ”

    “งั้นขึ้นรถพี่กลับนะ” ผมบอก เพราะอยากคุยกับเขาเรื่องกันด้วย เราขึ้นรถมาด้วยกันผมขับไปเรื่อยๆ

    “เมื่อกี้ตูมตามบอกว่ากันฝากนายซื้อยาให้พี่เหรอ”

    “ใช่ครับ ปี 3 พี่กันเรียนหนักไม่ค่อยมีเวลา เลยฝากผมซื้อข้าว ซื้อยาไปให้พี่”

    “งั้นวันไหนที่กันไม่อยู่ ของที่ห้อยหน้าประตูนั่นเป็นฝีมือตูมตามเหรอ”

    “เรียกตามเฉยๆก็ได้ครับ ใช่แล้วผมซื้อไปให้พี่เอง” ตามบอก

    “อื้ม ยังไงก็ขอบใจนะ”

    “พี่คงรักพี่กันมากสินะครับ” ผมชะงักกับคำถามนั้น ก่อนจะเอ่ยเบาๆ

    “คงไม่เท่ากับที่เขารักพี่หรอก”

    “ก็อาจจะจริงเพราะพี่กันเขารักพี่มาก เขาเสียใจมากๆนะครับที่ไม่ค่อยได้ดูแลพี่เลย”

    “ว่าไงนะ ไม่จริงหรอก ที่ผ่านมาเขาดูแลพี่ดีมากๆพี่ต่างหากที่ไม่ได้ทำอะไรเพื่อเขาเลย” ผมจอดรถแล้วเช็ดน้ำตาที่ไหลออกมา

    “ผมขอโทษครับพี่ริท ผมไม่ได้ตั้งใจทำให้พี่ร้องไห้ นี่ครับ” เขายื่นผ้าเช็ดหน้าให้ผม

    “ขอบใจนะ แต่มันไม่ใช่ความผิดตามหรอก” มันเป็นความผิดผมต่างหาก ผมรับผ้ามาเช็ดน้ำตา แต่มันก็ยังไหลออกมาไม่หยุด

    “บอกแล้วไงครับว่าอย่าร้องไห้ พี่กันเป็นคนสอนผมเล่นเพลงย้ำ พี่เขาบอกว่าเวลาพี่เสียใจหรือนอนไม่หลับให้ร้องเพลงนี้ พี่จะรู้สึกดีขึ้น”

    “นายร้องเพลงเพราะนะ” ผมบอก

    “ก็พี่กันเป็นคนสอนผมนี่ครับ เขาบอกผมว่าถ้าเขาดูแลพี่ไม่ได้แล้วให้ผมช่วยดูแลพี่แทน” ตามจับมือผม

    “กันพูดแบบนั้น ยังกับว่าเขารู้” ผมบอก

    “ผมก็ไม่รู้เหมือนกันนะครับ แต่เขาบอกผมอย่างงั้นแถมยังบอกอีกว่าพี่ไม่ชอบอยู่คนเดียว ให้ผมไปคุยเล่นกับพี่บ่อยๆพอผมไปที่คณะพี่ผมก็เห็นพี่มีเพื่อนอยู่แล้วไอ้ตัวสูงๆหล่อๆนั่น ผมเลยคิดว่าน่าจะไปที่คอนโดแต่ผมก็ไม่เจอพี่ ผมไม่รู้จะเจอพี่ได้ที่ไหน” ตามพูดขึ้นมา

    “นายก็เลยมาที่วัด วันนี้” ผมรู้ทัน

    “ผมก็ตั้งใจจะมาสุขสันต์วันเกิดพี่กันด้วย”

    “แล้วนี่ตามจะให้พี่ไปส่งที่ไหน”

    “ถ้าเป็นไปได้ ผมอยากไปคอนโดพี่” ตามมองหน้าผม

    “อื้ม ก็ไปสิ” ผมบอกหน้านิ่งๆ แล้วผมก็ขับรถออกไป

    “ไอ้เตี้ย ไอ้เตี้ย ที่บ้านพี่เขาเรียกว่าอ่อยนะนั่น” พี่โน่เสียงดังขึ้นมาทันที

    “อ่อย เอ่ยอะไรกันพี่ ผมก็แค่เห็นว่าเขาเป็นรุ่นน้องกัน แล้วตอนนั้นผมก็ไม่อยากอยู่คนเดียวนี่หว่า”

    “นั่นไง ชัดเลย”

    “จะฟังไหม ตกลง” ผมก็เริ่มเซ็งๆเหมือนกัน

    “จ้าๆฟังจ้า” พี่โน่ยิ้มแล้วมากอดเอวผม

    พอเรามาถึงที่คอนโด

    “โทษทีนะ ห้องไม่ไม่ค่อยเรียบร้อยเท่าไหร่” ผมบอกเพราะในห้องเต็มไปด้วยกองหนังสือ

    “ไม่เป็นไรครับ ให้ตามช่วยเก็บนะ” เขาจัดกองหนังสือให้ผม

    “ไม่เป็นไร” ผมรู้สึกเกรงใจเขาจริงๆ

    “ไม่ต้องเกรงใจ ผมเต็มใจทำเพื่อพี่อยู่แล้ว” เขาหันมายิ้มให้ผมแล้วเก็บห้องต่อ ผมเห็นเขาแล้วคิดถึงกัน กันมักจะเก็บห้องให้ผมแบบนี้บ่อยๆ ผมนั่งมองเขาอย่างเพลินๆ

    “พี่ริท พี่ริทครับ” เขาแตะที่ไหล่ผม

    “ห๊ะ ฮะว่าไง” ผมเงยขึ้นไปมองหน้าเขา

     “หิวข้าวรึยังครับ เดี๋ยวผมทำกับข้าวให้กิน” เขาเดินไปเปิดตู้เย็น

    “ในตู้เย็นมีของสดอยู่ เพื่อนพี่ซื้อมาให้” ผมบอก

    “เพื่อน” เขาทำหน้าสงสัย

    “พ็อตเตอร์น่ะ บางทีเขาก็มาทำกับข้าวให้พี่กินเหมือนกัน”

    “อ่อ ไอ้หน้าหล่อนั่นนะเหรอ” เขาพยักหน้ารับ

    “พี่ริทชอบกินข้าวผัดสินะครับ เดี๋ยวผมทำให้นะ” เขาหยิบของมาเตรียมอาหาร กันคงบอกอีกแล้วสินะ

    “ให้พี่ช่วยเถอะ”

    “ไม่เป็นไรครับคุณหนู ไปนั่งเถอะเดี๋ยวผมจะเอาไปเสิร์ฟเอง” ประโยคนั้นที่เขาพูดเหมือนประโยคที่กันพูดไม่มีผิด ผมกลับมานั่งรอที่โต๊ะอาหาร มองบรรยากาศในห้องตอนนี้เหมือนมากๆ เหมือนตอนที่ผมอยู่กับกัน

    “อาหารเสร็จแล้วครับ รับรองไม่มีผัก ไม่มีพริก ไม่มีเผ็ด” เขานั่งลงตรงหน้าผม

    “กัน” ผมพึมพำออกมา

    “พี่ริทว่าไงนะครับ” ตูมตามมองหน้าผมอย่างสงสัย

    “ปะป่าว กินข้าวเถอะ” ผมตักข้าวใส่ปาก รสชาติแบบนี้ผมมองหน้าคนที่นั่งตรงข้ามอีกครั้ง

    “ไม่อร่อยเหรอครับ” เขาเสียงสั่นๆ

    “เปล่า มันอร่อยมากต่างหากละ” ผมรู้สึกว่าตอนนี้กันกลับมาหาผม เพราะทุกๆอย่างที่ตามทำมันเหมือนกับที่กันทำไม่มีผิด

    “ดีใจที่พี่ริทชอบนะครับ” ผมนั่งกินต่อจนหมด คงเป็นวันแรกที่ผมรู้สึกว่าอาหารมันอร่อยมากๆตั้งแต่ที่กันจากไป

    “แล้วจะกลับตอนไหน ให้พี่ไปส่งนะ”

    “ล้างจานให้พี่เสร็จก็จะกลับแล้วครับ” ตามบอกพร้อมๆกับยกจานไปเก็บ

    “ไม่เป็นไร เดี๋ยวพี่ล้างเอง” ผมเดินเข้าไปบอกพร้อมๆกับดึงจานมา

    “ไม่เป็นไรจริงๆ” ตามเปิดน้ำ ผมเดินเข้าไปใกล้ๆเขา

    “จานนิดเดียวเองครับ”

    “ตามอุตส่าห์ทำกับข้าวให้พี่แล้วยังจะต้องมาล้างจานอีก พี่ขอช่วยเถอะนะ” ผมยังดึงดันที่จะช่วย

    “ดื้อ สมคำร่ำลือจริงๆเลยนะ” เราสองคนช่วยกันล้างจานจนเสร็จ

    “นี่แนะ นี่แนะ” เขาสลัดน้ำใส่ผม

    “เฮ้ย นี่แกล้งใช่ไหม” ผมสลัดน้ำใส่เขาบ้าง เราแกล้งกันไปแกล้งกันมา จนเปียกไปทั้งตัว

    “พอแล้วๆผมเปียกขนาดนี้แล้วจะกลับบ้านยังไงเนี่ย” ตูมตามบอก ผมมองดูเสื้อผ้าเขาและผมเปียกด้วยกันทั้งคู่

    “งั้นไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อก่อนเถอะเดี๋ยวไม่สบาย นี่ผ้าเช็ดตัว” ผมไปหยิบผ้ามาให้เขา เขาพยักหน้าแล้วเดินเข้าห้องน้ำ ผมไปหาเสื้อให้เขาเปลี่ยนแต่เสื้อผมก็มีแต่ตัวเล็กๆ ส่วนเสื้อกันที่ผมยังเก็บไว้อยู่บ้างเขาก็คงใส่ไม่ได้ ผมเอาเสื้อเขาที่เปียกไปปั่นแห้งแล้วเอาไปตากพัดลม

    ตูมตามออกมาจากห้องน้ำ ใส่กางเกงยีนส์ตัวเก่าแต่ถอดเสื้อ ผมเงยหน้าขึ้นไปมองเขา เอ่อคือ หุ่นดีไปไหน

     

    “ไอ้เตี้ย แกคงไม่ได้ให้มันถอดเสื้ออยู่อย่างนั้นใช่ไหม” พี่โน่ถามเหมือนรู้ทัน

    “เปล่า ริทไม่ได้ให้เขาถอดแต่เขาไม่ใส่เอง” ผมยิ้ม

    “ไอ้หมอหื่นเอ้ย” พี่โน่ตีหัวผม

    “เจ็บนะ ริทไม่ผิด เขาไม่ใส่จะให้ไปบังคับได้ไงละ”

     

    “พี่ริทไม่ต้องลำบากหรอกครับ เดี๋ยวแป๊ปเดียวเสื้อก็แห้ง ผมอยู่อย่างนี้ก็ได้พี่รีบไปอาบน้ำเถอะเดี๋ยวไม่สบาย” ตูมตามบอก พร้อมๆกับเดินเข้ามาหาผมในห้องนอน

    “ไม่ได้ นายนั่นแหละจะไม่สบาย ใส่เสื้อตัวนี้เถอะ น่าจะใส่ได้นะ” ผมยื่นเสื้อที่ตัวใหญ่ที่สุดในตู้ละให้เขา

    “ไม่อยากรบกวนจริงๆครับ ผมห่มผ้าเช็ดตัวก็ได้” เขานั่งลงกับพื้น

    “มานั่งอะไรที่พื้นไปนั่งบนเตียงเถอะ” ผมบอกเขา

     

    “ไอ้ริท นี่มึงให้มันนั่งบนเตียงเลยเหรอ  โต๊ะ เก้าอี้ โซฟา ไม่มีเหรอวะ” พี่โน่ผละออกจากตัวผมแล้วถามเสียงเข้ม

    “เขาเดินเข้ามาคุยกับริทในห้องนอนนี่นาเพราะริทมาหาเสื้อให้เขา เป็นอะไรพี่โน่ แล้วริทก็ไม่ได้ทำอะไรเลยหลังจากนั้นริทก็ไปอาบน้ำ” พอผมอธิบาย พี่โน่พยักหน้าแล้วฟังต่อ

    ฮัทชิ่ว ฮัทชิ่ว ผมเดินออกมาจากห้องน้ำพร้อมด้วยเสียงจาม

    “นั่นไง พี่ไม่สบายแล้ว”

    “ปะเปล่า พี่ไม่ได้ฮัทชิ่ว ฮัทชิ่ว” ผมจามใหญ่เลยคราวนี้

    “พี่มียาไหม” ตูมตามมาประคองผม

    “เฮ้ยไม่เป็นไร ไม่ต้องประคองก็ได้”

    “ผมขอโทษนะครับ ไม่น่าไปแกล้งพี่เลย ยาอยู่ไหนเดี่ยวผมไม่เอาให้”

    “ยาอยู่ข้างๆหัวเตียง” เขาเดินไปหยิบยากับน้ำมาให้ผม

    “พี่ไม่ชอบกินยาสินะครับ เดี๋ยวผมไม่เอาน้ำหวานมาให้จะได้กินง่ายๆ” การกระทำเหมือนกันอีกแล้ว ผมเริ่มปวดหัวนิดๆแล้วสิ ผมหลับตาลงใบหน้ากันลอยเข้ามา

    “พี่ริท” เสียงกระซิบเบาๆที่ข้างหูผม ผมค่อยๆลืมตาขึ้นมาก็ตกใจเพราะหน้าเขาอยู่ใกล้ผมมาก

    “น้ำมาแล้วครับ” เขายื่นแก้วน้ำมาให้ผม ผมกินอย่างง่ายดายแปลกที่วันนี้ยาไม่ขมเหมือนทุกวัน

    “มาเดี๋ยวผมพาไปนอนที่เตียง” ตามพยุงตัวผมขึ้น

    “ไม่เป็นไร พี่เดินเองได้” ผมรีบเดินไปนอน

    “อ้าวแล้วอย่างนี้ตามจะกลับยังไง” ผมล้มตัวลงนอนแล้วนึกขึ้นได้

    “ไม่เป็นไรครับ ผมกลับเองได้แต่ขอผมมั่นใจก่อนว่าพี่ได้พักผ่อนจริงๆ”

    “นี่ไงหลับแล้ว” ผมหลับตา

    “ผมรู้สึกผิดจริงๆที่ทำให้พี่เป็นแบบนี้” ตูมตามเอ่ยเบาๆ

    “ไม่เป็นไร พี่มันอ่อนแอเองแหละ”  ผมลืมตามองหน้าเขา

    ฉันอยากจะย้ำ อีกสักครั้ง ให้เธอฟังฉัน อีกสักครั้ง แต่อยากจะย้ำ อยากจะย้ำ จนเธอนั้นมั่นใจ ถึงต่อให้นาน อีกนานสักเท่าไร ก็อยากให้เชื่อใจ ว่าฉันรออยู่ และฉันจะรอต่อไป อย่างที่ได้เคยบอกไว้ จะรอเธอ เขาหยิบกีต้าร์ขึ้นมาดีดให้ผมฟัง

    “ถือว่าไถ่โทษแล้วกันนะ” ผมนอนหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้พอตื่นมามีผ้าห่มอยู่บนตัวผม และเขาก็ไปแล้วเหลือแต่โน๊ตแปะไว้ที่ตู้เย็น

    “ข้าวต้มอยู่ในไมโครเวฟนะครับ อุ่นได้เลย อย่าลืมกินยาด้วย เป็นห่วงนะ” ผมหยิบกระดาษนั่นมาแล้วกำไว้ที่อก

    “กัน ริทคิดถึงกัน”

    จากวันนั้นเขาก็คอยมารับมาส่งผม คอยดูแลผมทุกๆอย่าง มาอยู่เป็นเพื่อนจนทำให้ผมมีความสุขขึ้นมาก ดูสดใสกว่าแต่ก่อน

    วันนึงผมมาซื้อของจะไปทำกับข้าวกับตูมตามเหมือนทุกวัน แต่อยู่ดีๆเขาก็เดินหายไป ผมเดิน

    ตามหาซะทั่ว

    “ตาม มาอยู่นี่เองเดินไม่รอพี่เลย” ผมไปหยุดข้างๆเขาที่หน้าร้านขายเรื่องดนตรี

    “พี่ว่ากีต้าร์ตัวนั้นสวยไหม” ตามถามพร้อมๆกับชี้ให้ผมดู

    “ก็สวยดีนะ อยากได้เหรอ”

    “อื้ม แต่ผมคงไม่มีปัญญาซื้อหรอก แพงจะตายไปกันเถอะ” ตามจูงมือผม

    “อ้าวไม่เข้าไปถามราคาก่อนเหรอ เผื่อเขาอาจจะลดให้ก็ได้”

    “ไม่เป็นไรหรอก ไปเถอะผมหิวแล้ว” ผมมองหน้าเขาแว๊บแรกก็รู้ว่าเขาอยากได้จริงๆ

    พอกลับมาถึงคอนโด เรากำลังนั่งกินข้าวแล้วตามก็พูดขึ้นมาว่า

    “พี่ริท พี่ริทเคยสงสัยไหมว่าทำไมพี่กันถึงฝากผมดูแลพี่” อยู่ดีๆเขาก็ถามเรื่องนี้ออกมา

    “นั่นสิ ทำไมเหรอ”

    “เพราะตั้งแต่วันที่ผมเจอพี่ครั้งแรก ผมบอกกับพี่กันว่าผมชอบพี่ ตอนนั้นผมพูดอย่างจริงจังมากๆ”

    “แล้วกันว่ายังไง” ผมถามออกไป

    “พี่กันบอกว่า ถ้ากูดูแลเขาไม่ได้แล้ว กูถึงจะให้มึงดูแลเพราะกูมั่นใจว่ามึงดูแลริทได้ประโยคนี้ผมจำไม่เคยลืมเลย” เขาจับมือผม

    “แล้วพี่ริทคิดว่าผมดูแลพี่ได้รึเปล่า”

    “เอ่อ คือ พี่” ผมไม่รู้จะตอบว่ายัง จริงๆตูมตามก็เป็นคนดีนะ คอยห่วงใยดูแลผมตลอด ผมเองก็ไม่มีใครถ้าถามว่ารักเขาไหม ตอนนั้นผมตอบไม่ได้แต่ก็รู้สึกดีที่มีเขาอยู่

    “พี่ริทให้โอกาสตามได้ไหม” ผมจ้องตาเขาก็รู้ว่าสิ่งที่เขาพูดมันออกมาจากใจจริง

    ผมพยักหน้าเบาๆ

     

    “ง่ายอีกแล้ว เตี้ยเอ้ยยยย”  พี่โน่มองค้อนมาที่ผม

    “พี่โน่งะ อย่าขัดสิ”

     

    “จริงนะ พี่ไม่ได้โกหกผมใช่ไหม” ตามเดินเข้ามากอดผม

    “ผมไม่ได้ฝันไปใช่ไหม”

    “นี่แนะ” ผมตบแก้มเขาเบาๆ

    “โอ๊ย เจ็บนะ” ตามหัวเราะออกมา

    “ใครอนุญาตให้กอดเนี่ย” ผมว่า

    “ก็พี่เป็นแฟนผมแล้วนิ ผมรักพี่นะ ผมรักพี่มากนะ” แม้แต่คำบอกรักก็ยังเหมือน ผมได้แต่คิดในใจ

    “ปล่อยก่อน พี่หายใจไม่ออก” ผมตีแขนเขา

    “ขอโทษครับ ก็คนมันดีใจนี่” สีหน้าเขาดูมีความสุขมากๆทำให้ผมเองก็อดยิ้มไม่ได้

                    เราเป็นแฟนกันมาก็หลายเดือน จนวันเกิดเขาปีนั้น

    “ริท วันนี้ริทจะไปไหนรึเปล่า” เสียงพ็อตถามผม

    “วันนี้วันเกิดตาม ริทจะไปซื้อของขวัญให้เขา”

    “ตกลงริทเป็นแฟนกับตามจริงๆเหรอ” พ็อตถาม

    “ใช่” ผมตอบออกไปสั้นๆ

    “พ็อตขอถามอะไรหน่อยได้ไหม” พ็อตดึงผมมาที่หลังตึกเพราะไม่ค่อยมีคน

    “มีอะไร ทำไมต้องทำลับๆล่อๆ”

    “ริทชอบตามเหรอ” พ็อตจ้องหน้าผม

    “ใช่ ริทชอบตาม”

    “ริทรักเขาจริงๆนะเหรอ”

    “พ็อตทำไมถามแบบนี้”

    “ก็พ็อตไม่เห็นว่าริทจะรักเขาตรงไหน ริทเคยรู้จักอะไรเกี่ยวกับตัวเขาบ้างไหม”

    “รู้สิเขาเรียนเอกเดียวกับกัน เป็นรุ่นน้องกัน อยู่วงดนตรีวงเดียวกับกัน เขาชอบอะไรเหมือนๆกันนั่นแหละ” ผมอึ้งกับคำตอบของตัวเอง แล้วมองหน้าพ็อต

    “พ็อตจะถามเป็นครั้งสุดท้าย ริทรักตามหรือรักความเป็นกันที่อยู่ในตัวตูมตามกันแน่”

    “แล้วจะให้ริททำยังไง ก็อยู่ดีๆเขาก็เข้ามาในวันที่ริทยังคิดถึงกัน นิสัยรวมถึงการกระทำของเขาก็เหมือนกับกันมากๆ

    “ริทก็เลยคิดว่าเขาเป็นตัวแทนของกัน อย่างนั้นใช่ไหม” พ็อตพูดแทรกขึ้นมา

    “ริท ริทรักตาม” ผมพูดแล้วกำลังจะเดินออกไป พ็อตดึงมือผมไว้แล้วพูดต่อ

    “รู้ตัวไหมว่าทำแบบนี้มันเป็นการทำร้ายตาม ทั้งๆที่เขารักริทจริงๆแต่ริทกลับไม่เคยรักตัวเขาจริงๆเลย คิดดูให้ดีว่าเขาจะเจ็บขนาดไหนถ้าวันนึงรู้ว่าแฟนที่คบกันมาไม่เคยรักเขาเลย ให้เขาตัดใจวันนี้ยังทันนะก่อนที่มันจะเกินเลยไปมากกว่านี้”

    “ริทขอโทษ” ผมหันไปบอกพ็อต

    “คนที่ริทต้องขอโทษไม่ใช่พอตแต่เป็นตูมตาม” พ็อตเดินหนีออกไป

     

    “พี่ครับกีต้าร์ตัวที่ตั้งโชว์หน้าร้านมีคนซื้อไปแล้วเหรอครับ” ผมถามเจ้าของร้าน

    “อ่อตัวนั้นมีคนซื้อไปแล้วน้อง”

    “ไม่มีอีกแล้วเหรอครับ”

    “ตัวนั้นมันมีแค่ตัวเดียว”

    “น่าเสียดายจังนะครับ”

    “แต่ถ้าน้องอยากได้จริงๆมีอีกตัวนะแต่เป็นมือสอง รุ่นก่อนหน้านี้รุ่นนึงแต่มีตัวเดียวเหมือนกัน เอาไหม”

    “ขอดูหน่อยได้ไหมครับ” พี่เขาหยิบกีต้าร์ขึ้นมาให้ผมดู ผมเอามือไปสัมผัสดู เสียงก็ถือว่าโอเคถึงผมจะเล่นไม่เป็นแต่ก็พอดูเป็นอยู่ สีก็สวยแปลกดี

    “งั้นเอาตัวนี้แหละครับ”

    “ถึงตัวนี้จะเสียงไม่ดีเท่าตัวที่น้องอยากได้ แต่รับรองว่าไม่ผิดหวังแน่นอน อย่างว่าแหละเนอะของดีๆมันมีแค่อันเดียว ต่อให้ไม่เจอตัวอื่นที่เหมือนกันแค่ไหนมันก็ไม่ใช่ตัวที่เราอยากได้อยู่ดี” พี่เจ้าของร้านว่า ผมพยักหน้าจ่ายเงิน แล้วถือกีต้าร์กลับคอนโด

    ผมนั่งรอตูมตามสักพัก เขาก็มา

    “พี่ริทกลับมานานแล้วเหรอ” เขายิ้มให้ผมตั้งแต่เข้าห้องมา

    “สุขสันต์วันเกิดนะตาม” ผมลุกขึ้นบอก

    “ดีใจจัง จำได้ด้วยเหรอเนี่ย” เขาวิ่งเข้ามากอดผม

    “นี่ของขวัญวันเกิด” ผมยื่นกีต้าร์ให้เขา

    “เฮ้ย กีต้าร์นี่หว่า” เขารีบเปิดดู

    “ขอโทษนะ ที่ไม่ใช่ตัวนั้นคือตอนที่พี่ไปมันโดนขายไปแล้ว”

    “ไม่เป็นไรครับ ตัวนี้ก็เจ๋ง แค่พี่ซื้อให้ผมไม่ว่าจะเป็นอะไร ผมก็ดีใจทั้งนั้น” ตูมตามหยิบกีต้าร์ขึ้นมาลองดีด

    “ตาม พี่มีเรื่องจะคุยด้วย” เขาวางกีต้าร์ลงแล้วเดินมาหาผม

    “พี่เป็นอะไรรึเปล่า ผมว่าจะถามตั้งแต่ที่เข้ามาแล้ว เห็นหน้าเศร้าๆ” ตามพูดพร้อมกับลูบใบหน้าผมอย่างอ่อนโยน

    “ตาม ตามรักพี่รึเปล่า” ผมถามออกไป

    “รักสิ ผมรักพี่ รักมากที่สุด” ตามจับมือผม

    “ถ้าอย่างนั้นเราเลิกกันเถอะ” ผมกลั้นใจพูดออกไป ยากนะ ต้องทำใจกว่าจะเอ่ยคำๆนั้นออกมาได้ คำบอกลาคำแรกจากปากของผม

    “พี่ว่าไงนะ อย่าล้อผมเล่นแบบนี้สิ” ตามเสียงสั่นๆ

    “พี่ไม่ได้ล้อเล่น เราเลิกกันเถอะพี่ไม่อยากทำร้ายตามไปมากกว่านี้ ไม่อยากให้ความหวังไปมากกว่านี้”

    “อะไร ผมไม่เข้าใจที่พี่พูด” ตูมตามนั่งลงที่โซฟา แล้วเอามือปิดหน้า

    “คนเป็นแฟนกันเขาต้องรักกัน แต่พี่ไม่ได้รักตาม” ตามมองหน้าผม

    “แล้วพี่มาเป็นแฟนกับผมตั้งแต่แรกทำไม” ตามปล่อยโฮออกมา ผมเพิ่งเคยเห็นน้ำตาเขาครั้งแรก

    ผมมองเขาอย่างอึ้งๆ

    “เพราะผมเหมือนพี่กันงั้นเหรอ” ตูมตามจับไหล่ผมสองข้าง

    ผมพยักหน้าเป็นคำตอบ ดูเหมือนน้ำตาเขายิ่งไหลออกมามากกว่าเดิม

    “แล้วพี่จะให้ผมทำยังไง ผมต้องเปลี่ยนยังไง ผมยอมทำทุกๆอย่างแต่ขอร้องอย่าให้เราเลิกกันเลย” ตามกอดผมแน่น

    “ไม่ ตามไม่ต้องเปลี่ยนอะไรทั้งนั้น พี่ขอโทษนะ” ผมต้องเข้มแข็งจะร้องไห้อีกไม่ได้เพราะความอ่อนแอแท้ๆที่ทำให้ทุกอย่างแย่แบบนี้

    “ตกลงผมผิดที่เหมือนพี่กันใช่ไหม” ตามมองหน้าผม

    “ไม่ใช่นะตาม เรื่องทั้งหมดพี่ผิดเอง พี่มันอ่อนแอเกินไปพอคนมาทำดีด้วยพี่ก็เลยอ่อนไหวตอนแรกพี่คิดว่ามันคือความรักแต่ตอนนี้พี่รู้แล้วว่ามันไม่ใช่ พี่ไม่ได้รักตามจริงๆแต่พี่รักกันที่อยู่ในตัวตามต่างหาก” ผมมานึกดูแล้วพ็อตเตอร์พูดถูก

    “ถ้าอย่างงั้นให้ผมตายตามไปกันไปเลยไหมละ” เขาตวาดเสียงดังแล้วจ้องหน้าผม

    ผมอึ้งกับคำๆนั้น

    “ถึงตามจะตายไป พี่ก็ไม่มีวันรักตามหรอก” ผมหันหน้าหนี ใช่ผมต้องเข้มแข็ง

    “พี่ริท” ตามเอ่ยเบาๆแล้วทรุดตัวลงนั่งคุกเข่าแล้วกอดเอวผมไว้

    “พี่ขอโทษ พี่ขอโทษ” ผมไม่รู้จะทำยังไงเพื่อชดเชยความผิดทั้งหมดที่ผมได้ทำไว้กับเขานอกจากเอ่ยคำๆนี้ออกมา แต่เรื่องของหัวใจมันบังคับกันไม่ได้จริงๆ เขาปล่อยผมแล้วเดินไปหยิบกีต้าร์ขึ้นมาดีด

    ขอบใจนะที่ครั้งนึงเธอเคยยอมฝืนใจตัวเอง

    ขอบใจนะฉันรู้ว่าเธอทำดีที่สุดแล้ว

    อย่างน้อยครั้งหนึ่ง ที่พยายามทุ่มเท

    อดทนให้กัน แค่นั้นก็ดีมากมาย

    อย่าโทษว่าตัวเธอผิด อย่าคิดว่าเป็นเรื่องร้าย

    อย่ากลัวถ้าเธอจะปล่อยมือฉันไป

    กลับไปเป็นเธอคนเก่า เก็บความทรงจำนี้ไว้

    ได้ไหมฉันขอให้เป็นอย่างนั้น

    (ขอบใจนะ แพรว คณิตกุล)

                    เขาร้องเพลงนี้แล้วมองมาที่ผม ผมยิ้มให้เขาบางๆ

    “ผมเข้าใจทุกอย่างแล้ว จริงๆผมรู้มาตั้งแต่แรกแล้วว่าพี่ไม่ได้รักผม แต่ผมเองที่ยิ้อพี่ไว้ ขอบคุณจริงๆที่อย่างน้อยพี่ยังให้โอกาสผม ผมมีความสุขที่ทุกๆวันได้อยู่กับพี่ ผมรักพี่นะ พี่ริท” เขาเอ่ยออกมาแล้วยิ้มบางให้ผมเช่นกัน

    “ริท กีต้าร์ตัวนั้นให้เพื่อตอบแทนตามสินะ” พี่โน่กอดผมแน่น

    “ใช่แล้ว ว่าแต่พี่โน่ร้องไห้อีกแล้วเหรอ”

    “เรื่องของแกมันเศร้านี่หว่า แต่แกเข้มแข็งขึ้นจริงๆไม่ร้องให้เลยใช่ไหม” เขาพูดทั้งน้ำตา

    “อื้มไม่เลย  แต่พี่ตอนนี้นี่สิตาแดงหมดแล้ว” ผมเช็ดน้ำตาให้เขา

    “ไม่ฟังแล้ว นอนเถอะน้ำตาพี่จะหมดตัวแล้ว”

    “อีกคนเดียวพี่โน่ คนนี้เขาเป็นจูบแรกของริทและเป็นคนที่ทำให้ริทไม่อยากมีแฟนอีกเลยจนมาเจอพี่” พี่โน่ทำตาโด ก่อนจะนั่งลงฟังต่ออย่างตั้งใจ

    ……………………………………………………………………………………….

     

     จูบแรกของริทจะเป็นใครนะ
    ช่วยกันติดตาม
    คอมเม้นต์ติชมกันได้นะจ๊ะ
    หรือไปทักทายกันใน ทวิต @noonoon_kisswa ก็ได้นะจ๊ะ

    ปล.รักรีดเดอร์ที่สุดดดดดดดด

     


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×