"ไสหัวออกไปจากจวนของข้าซะ นับจากนี้เจ้าหาใช่ฮูหยินใหญ่แห่งเรือนแม่ทัพอีกต่อไป!!"
ร่างบางของหญิงสาวในชุดสีแดงเพลิง ถูกเหวี่ยงออกมาด้านหน้าประตูทางเข้าจวน แม้จะพลบค่ำแต่ก็มีชาวบ้านมามุงดูให้ความสนใจอยู่ไม้น้อย เสียงนินทา สายตาที่มองอย่าสมเพช คำพูดจาทับถม ที่ทุกคนต่างเอ่ยไปในแนวทางเดียวกัน ว่าสมควรแล้วที่ถูกกระทำเช่นนี้ บ้างก็หาว่าตัวนางนั้นเป็นสตรีแพศยา แย่งคนรักของสหายตัวเอง แถมยังชอบส่งคนไปทำร้ายแม่เทพธิดาแสนบริสุทธิ์
เหอะ...ผู้คนเหล่านี้ล้วนถูกความใสซื่อหลอกทั้งสิ้น คำกล่าวนินทาใดก็หาได้ทำให้หัวใจของหญิงสาวผู้นี้สะท้านไม่ หากแต่ใจของนางที่เจ็บ นั่นคืออ้อมกอดของสามีนางนั้น มีหญิงสาวอีกคนหนึ่ง ที่เมื่อในอดีตหญิงผู้นั้นคือเพื่อนสนิทของตนเอง
ดวงตาของหญิงสาวผู้ที่ถูกขับไล่ มองไปยังชายหญิงที่ยืนโอบกอดกัน อย่างเจ็บปวด
'เหอะนางสมควรถูกเรียว่าแพศยาอย่างนั้นหรือ?? คนที่สมควรถูกเรียกเยี่ยงนั้นควรเป็นอดีตสหายนางหาใช่ตัวนางไม่'
"หึ..บุรุษสายตามืดบอด กับสตรีอ่อนหวานที่เต็มไปด้วยมารยา"
ร่างบางในชุดสีแดงเพลิงพูดด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน ก่อนหันหลังให้กับอีกฝ่าย สองเท้าก้าวเดินไปด้านหนัา ท่ามกลางถนนที่ถูกปกคลุมได้วยหิมะ
หลี่่ซูหรง ใช้สองมือกอดตัวเองเพื่อบรรเทาความหนาวเหน็บทั้งกายและจิตใจ หากแต่มันก็ไม่สามารถบรรเทาได้เลยแม้แต่น้อย
ร่างบางเดินตรงไปตามทางเรื่อยๆ จนได้ยินเสียงฝีเท้าของใครบางคนที่ตามมา
กึก...
"เจ้าต้องการอะไรจากข้าอีกชูเหยียน" หลี่ซูหรงเอ่ยถามทั้งๆที่ยังยืนหันหลังให้กับอีกฝ่าย
"หึ..ในเมื่อว่าเจ้ารู้ว่าเป็นข้าก็ดี จะได้ไม่ต้องพูดอันใดให้มากความ"
หลี่ซูหรงยืนหลับตานิ่ง ตัวนางรู้อยู่แล้วว่าอตีดสหายของนางผู้นี้ไม่มีวันปล่อยให้โอกาสเช่นนี้หลุดมืออย่างแน่นอน
"เพราะเหตุใดกันชูเหยียน?? ข้าดีกับเจ้ามิพอเช่นนั้นหรือ"
"เจ้าดีจนน่าสะอิดสะเอียน...คนอย่างเจ้าเกิดมาดีพร้อมทุกอย่าง ทั้งฐานะ ชื่อเสียง ตระกูล รูปโฉม ไม่มีวันเข้าใจลูกชาวบ้านจนๆเช่นข้าหรอก!!!" ชูเหยียนตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยโทสะ
"หากแต่ในยามนี้ เจ้าเองก็ได้ทุกสิ่งที่อยากได้แล้วมิใช่รึ??"
ใช่ในตอนนี้ไม่ว่าจะบิดา พี่ชาย หรือแม้กระทั้งสามีของนาง หญิงสาวผู้สวมใส่หน้ากากอ่อนโยนประดับใบหน้า ได้แย่งชิงทุกสิ่งไปจากนางแล้วหมดสิ้น!!!
อั่ก...
หลี่ซูหรงกระอักเลือดออกมาคำโต ร่างบางค่อยๆล้มลงบนกองหิมะหนาอย่างช้าๆ ดวงตากลมโตค่อยๆปิดลง พร้อมกับลมหายใจที่แผ่วลงเรื่อยๆ 'สวรรค์เหตุท่านช่างใจร้ายกับหลี่ซูหรงนักเจ้าคะ ท่านแม่ท่านคอยรอรับบุตรสาวคนนี้อยู่หรือไม่เจ้าคะ'
หากตัวข้าฉลาดกว่านี้ก็คงดีสินะ มุมปากของหญิงสาวยกยิ้มขึ้นคล้ายกับกำลังเย้ยหยันตัวเอง ก่อนที่ลมหายสุดท้ายของนางจะหมดไป
จบการเกริ่นเนื้อหาเพียงเท่านี้
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่แต่งขึ้นเท่านั้น ไม่ได้มีการอ้างอิงประวัติศาสตร์แต่อย่างใด
น้องหลาม ถือเป็นนักเขียนมือใหม่ ที่ยังต้องการฝึกอีกมาก
ของฝากเรื่องนี้กับทุกคนด้วยนะคะ
กดติดตามกันไว้รึยัง.......
ความคิดเห็น