ทริกเด็ดๆ ในการเลือกซื้อ web hosting คุณภาพ
เขียนโดย
cheaphosting
บริการ web hosting คือการเช่าพื้นที่บน web server ที่อยู่ภายใน internet data center (IDC) และทำงานตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้ website รวมทั้ง web service ต่างๆ ภายในเว็บไซต์ สามารถใช้งานได้ตลอดเวลา หากจะทำเว็บไซต์ใดๆ ก็ตาม เพื่อนๆชาวเด็กดีจำเป็นต้องเลือก hosting ที่มีคุณภาพสูง เพื่อให้เว็บไซต์ทำงานได้ดี คือเว็บโหลดไว และไม่ล่ม เพราะหากเว็บโหลดช้าหรือล่มบ่อย visitor ที่เข้าใช้งานเว็บไซต์ของเราอาจจะหงุดหงิด และอาจจะไม่อยากเข้าเว็บไซต์เราอีกเลย ยิ่งหากเราทำเว็บไซต์ค้าขายหากเว็บล่มบ่อยจะกระทบยอดขายของเรามาก เพราะลูกค้าจะหนีไปซื้อสินค้าที่เว็บอื่นๆ กันหมด
คำถามโลกแตก มีโฮสติ้งให้เลือกตั้งมากมาย แล้วเราจะใช้บริการ hosting ที่ไหนดีละ อย่างแรกเลยเราควรเลือกใช้ server location ให้ตรงกับผู้เข้าใช้งานเว็บไซต์ส่วนใหญ่ ตัวอย่างเช่น ถ้าเราทำเว็บไซต์รีวิวร้านอาหารไทย เป็นเว็บภาษาไทยสำหรับคนไทย เราควรเลือกใช้ hosting ที่มี server location อยู่เมืองไทย เพื่อที่เว็บไซต์รีวิวร้านอาหารของเราจะเปิดใช้งานได้รวดเร็วเต็มประสิทธิภาพ แต่หากเราทำเว็บไซต์ affiliate แนะนำโรงแรมและการท่องเที่ยว เป็นเว็บภาษาอังกฤษสำหรับลูกค้าต่างชาติ เราควรเลือกใช้ hosting ที่มี server location อยู่ต่างประเทศ เช่น USA เป็นต้น เพื่อให้เว็บไซต์เปิดได้เร็วสำหรับลูกค้าต่างชาติ
อยากที่สองเราควรเลือกใช้ประเภทของ hosting ให้เหมาะสม เช่นหากเว็บเราเป็นเว็บดังมีคนใช้งานเยอะ web hosting ทั่วไปคงไม่เหมาะหรอกครับ ในเคสนี้ใช้บริการ vps จะดีกว่า เพราะ vps เป็น server ส่วนตัวที่ไม่ต้องแบ่งทรัพยากรกับใครทำให้เว็บไซต์โหลดเร็วกว่าเมื่อใช้แชร์โฮสติ้งมากๆ
สุดท้ายเป็นเทคนิกการเลือกผู้ให้บริการ hosting และการทดสอบเบื้องต้นว่าคุณภาพของ host และคุณภาพของบริการหลังการขายว่าดีแค่ไหน มีอะไรบ้างมาดูกัน
1. ลองทดสอบเข้าเว็บของผู้ให้บริการ hosting ก่อนเลยว่า น่าเชื่อถือไหม จดทะเบียนบริษัทหรือบริการในรูปแบบบุคคล ใส่ข้อมูลและราคาต่างๆ ชัดเจนไหม ข้อมูลติดต่อชัดเจนหรือไม่ นโยบายการให้บริการและการรับประกันสินค้าและบริการและนโยบายการคืนเงินเป็นอย่างไร ที่สำคัญเว็บของผู้ให้บริการ host โหลดไวหรือไม่ หากโหลดช้าหรือช้ามาก เพื่อนๆ ชาวเด็กดีควรมองหาเจ้าอื่นดีกว่าครับ เพราะมีแนวโน้มสูงที่เว็บของเราจะโหลดช้าเช่นกัน
2. พิจารณาราคาของแพกเกจ hosting ว่าสมเหตุสมผลหรือไม่ หากถูกเกินไป ให้มองไว้ก่อนว่าคุณภาพอาจจะไม่ดีเพราะอาจจะเน้นขายอย่างเดียว ไม่เน้นการ service หรือไม่ก็อาจจะขาย hosting ราคาถูก เพราะ oversell resource ซึ่งทำให้ host ทำงานหนักและเว็บไซต์ของเราทำงานช้า
3. ลองทดสอบการบริการของผู้ให้บริการโฮสติ้งดู โดยส่งคำถามไปตามช่องทางต่างๆ ว่าผู้ให้บริการ hosting ตอบข้อสงสัยไวแค่ไหน และใส่ใจในการตอบคำถามหรือไม่ ลองถามไปเยอะๆ ด้วยว่าผู้ให้บริการรำคาญเราหรือไม่ หากเจอ host ที่ตอบช้าควรรีบถอยห่างให้ไว เพราะหากเว็บไซต์เราล่ม hosting แบบนี้แก้ไขปัญหาได้ช้าแน่นอน ฟังธงได้เลยจ้า
4. ส่วนมากผู้ให้บริการ hosting จะมีตัวอย่างเว็บลูกค้าที่ใช้บริการ เพื่อนๆ ชาวเด็กดีลองค่อยๆ ลองเปิดดูทีละเว็บนะครับ ว่าเว็บโหลดช้าหรือเร็ว หากโหลดช้าอาจจะแปลว่า server ห่วย หรือมีลูกค้าต่อ server มากเกินไป เจอแบบนี้หนีไปใช้โฮสติ้งที่อื่นดีกว่าครับเพื่อนๆ
5. ลองดูรีวิวต่างๆ ในอินเตอร์เน็ต โดยค้นชื่อ hosting ในอินเตอร์เน็ตว่ามีคนชมเยอะไหม และมีคนด่าเยอะไหม ทั้งนี้ควรพิจารณาเลือกอ่านเฉพาะรีวิวจริงๆ ไม่ใช่หน้าม้าด้วยจ้า
เมื่อเราหา hosting ดีๆ ได้แล้ว เว็บไซต์ของเราก็สามารถทำงานได้อย่างราบรื่น จบปัญหาเรื่องเว็บอืดหรือล่มไปได้เลย เพื่อนๆ ชาวเด็กดีจะได้มีเวลาไปพัฒนาเว็บไซต์และ content ต่างๆ ใน website ได้อย่างเต็มที่
Reference : เทคนิกการทดสอบคุณภาพของ Hosting
แจ้ง Blog ไม่เหมาะสม
27 เม.ย. 63
177
0
ความคิดเห็น