ติวเตอร์จินยองกับเกมเมอร์อิมแจบอม #Bnior - นิยาย ติวเตอร์จินยองกับเกมเมอร์อิมแจบอม #Bnior : Dek-D.com - Writer
×

    ติวเตอร์จินยองกับเกมเมอร์อิมแจบอม #Bnior

    โดย lixinyiq

    เมื่อความจนเข้าครอบงำ ผมจึงต้องยอมรับข้อเสนอจากคุณนายอิมแต่ดูเหมือนว่างานนี้ท่าจะยากเพราะเกมเมอร์จอมขี้เกียจอย่างอิมแจบอม ช่างหัวดื้อซะจริง แต่เอาเถอะผมต้องทำให้ได้ แม้จะต้องแลกด้วยอะไรบางอย่าง...

    ผู้เข้าชมรวม

    1,208

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    5

    ผู้เข้าชมรวม


    1.2K

    ความคิดเห็น


    33

    คนติดตาม


    71
    หมวด :  นิยายวาย
    จำนวนตอน :  5 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  15 ต.ค. 61 / 21:50 น.

    อีบุ๊กจากนิยาย ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ


    "ถ้าหนูช่วยป้าได้ หนูต้องการอะไรบอกป้าถือว่าเป็นค่าตอบแทนก็แล้วกัน"





              ว่าเรื่องทางการเงินแล้วมีเหรอที่ผม พัค จินยอง จะปฏิเสธได้ ก็ตั้งแต่ที่ธุรกิจทางครอบครัวของผมล้มละลาย ชีวิตของผมก็เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังเท้ากันเลย ทั้งบ้าน ทั้งทรัพย์สินก็ถูกยึด พ่อของผมก็ตอมใจตายตามธุรกิจที่สร้างมากับมือ ส่วนแม่ของผมก็ดันเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์นอนเป็นเจ้าหญิงนิทราอยู่ที่โรงพยาบาล แต่โชคดีที่ยังมีคอนโดที่พ่อซื้อไว้ให้เผื่อไว้ไปเรียนมหาวิทยาลัยไว้ให้ผมเป็นที่ซุกหัวนอน

              ตอนนี้ก็เหลือเพียงผมเด็กอายุแค่ 17 ปี ที่ต้องดินรนหางานพิเศษทำ ด้วยความที่ผมน่ะเป็นเด็กที่เรียนดีและตั้งใจเรียนมาโดยตลอด ผมจึงใช้ความรู้ที่ผมมีรับสอนพิเศษ แต่ทว่าจู่ๆวันที่ผมนั่งติวอยู่นั้นก็มีคุณป้าคนหนึ่งที่ท่าทางดูใจดี และดูมีฐานะมายื่นข้อเสนอให้กับผม  จะอะไรน่ะเหรอ ก็เจ้าลูกชายตัวขี้เกียจของเขาน่ะ ช่างทำตัวไม่เหมาะสมกับการเป็นลูกมหาเศรษฐีชื่อดังของเกาหลีใต้เอาซะเลย นี่เป็นปีสุดท้ายของชั้นมัธยมปลายของเขาแล้ว  ถ้าเขาไม่ผ่านเทอมนี้อีกคงไม่มีทางได้เรียนต่อมหาลัยแน่ๆ แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ได้สนใจเลย  ผมไม่รู้หรอกว่าเขาจะเป็นยังไง แต่งานนี้ผมก็ต้องรับข้อเสนอไว้ก่อนเพราะลำพังงานพาร์ทไทม์ที่ร้านกาแฟคงไม่พอที่จะยาไส้ผมแน่ๆ อีกทั้งผมยังต้องผ่อนผันค่ารักษาแม่ของผมให้กับทางโรงพยาบาลอีก

    "ผมไม่ขออะไรมาก ขอแค่ได้รักษาแม่ของผมก็พอ"





              ผม อิม แจบอม ไม่ใช่ว่าผมไม่อยากไปโรงเรียนนะแต่ผมรู้สึกไม่ชอบระบบการศึกษาที่ชอบจำกัดความคิดของเด็กเท่าไหร่ ผมรู้สึกว่าคนเราย่อมมีความคิดเป็นของตัวเองทำไมต้องสั่งให้ทำนู้นทำนี่ซึ่งเป็นการบังคับ  ตอนนี้ผมอยู่มัธยมปลายปีสามแล้ว ใช่ครับ เหลืออีกแค่ปีเดียวผมก็หลุดพ้นจากวงจรอุบาศท์นี่แล้ว  ผมไม่อยากให้ใครมองว่าผมเป็นแค่ไอ้เด็กติดเกม  แต่ที่จริงแล้วผมว่าเกมน่ะให้อะไรหลายๆอย่างกับผม ทั้งคลายเครียด ได้จินตนาการ ใช้หัวสมองในการวางแผน แต่ดูเหมือนว่าทางบ้านผมจะไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ ก็เพราะครอบครัวผมเป็นครอบครัวนักธุรกิจน่ะสิ ผมไม่ชอบเอาซะเลย ทั้งคุณนายอิมแม่ของผมก็ชอบบังคับให้ผมออกงานอยู่เรื่อย  ซึ่งผมไม่ค่อยชอบเข้าสังคมเอาเท่าไหร่ ผมรู้สึกว่าเป็นสังคมแห่งการสร้างภาพ อีกทั้งผมก็ไม่ค่อยได้สนใจด้านธุรกิจเท่าไหร่ ที่ผมยอมเรียนต่อจนมาถึงมัธยมปลายชั้นปีที่สามก็เพราะมีข้อแลกเปลี่ยนกับคุณนายอิม
             ผมขอย้ายออกมาอยู่คอนโดเพราะอ้างว่าอยากจะตั้งใจเรียน แต่จริงๆแล้วผมแค่อยากออกมาอยู่อย่างสงบๆ ไม่มีใครรบกวน แค่อยากใช้ชีวิตกับเกมสุดที่รักของผม แต่ดูเหมือนว่าคุณนายแม่จะรู้ทันเพราะจู่ๆก็ส่งไอ้เด็กหน้าหวานมาหาผม แต่คิดเหรอว่าจะทำอะไรคนแบบผมได้ ไม่ว่าแม่จะส่งมากี่คนๆผมก็จัดการจนคนพวกนั้นไม่มากล้าหาผมอีก แต่ดูเหมือนว่าครั้งนี้จะยากเพราะไอ้เด็กคนนี้ช่างดื้อด้านเหลือเกิน.....


    งานนี้ชักจะสนุกแล้วสิ








    --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
    เรื่องเดิมยังแต่ไม่จบนี่แอบมาเปิดเรื่องใหม่ซะแล้ว ฮ่าๆๆ ฝากแชร์ฝากคอมเม้นต์ด้วยน้าาา
    ปล.บุคคลในภาพไม่มีส่วนเกี่ยวข้องแต่อย่างใด เกิดจากจินตนาการของผู้แต่งล้วนๆ




    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    คำนิยม Top

    ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

    คำนิยมล่าสุด

    ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

    ความคิดเห็น