พันธะรักนายหัวทมิฬ

ทักทายผู้อ่าน 

+++  มาแล้วๆๆๆ สวัสดีนักอ่านทุกท่านค่ะ 

                          

         นิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องแรกที่ไรท์เขียนฉากเลิฟซินหนักแบบเจาะลึกไปเลย 

         เป็นอะไรที่ยังใหม่มากสำหรับไรท์ จะเอามาลงให้อ่านจนจบก่อนจะเปิดขาย

         แต่ในเด็กดีจะต้องตัดบางฉากออก แม้จะเปิดขายก็จะไม่แก้ไขนะคะ 

          เพราะเสี่ยงต่อการโดนแบน ยังไงฝากติดตามกันด้วยนะคะ

        ................................................

           เพราะเหตุที่เขาเคยช่วยชีวิตบิดาของเธอไว้ จนทำให้เขาและเธอต้องผูกพันธะต่อกันทั้งที่ยังไม่เคยเจอหน้ากัน ละอองดาวไม่ต้องการแต่งงานกับเขมทัตเพราะเธอไม่อยากแต่งงานกับผู้ชายที่เขาไม่รักเธอ เธอจะเอาตัวรอดจากเงื้อมมือของคนจิตใจทมิฬนี้ได้ยังไง...

“ฉันอยากจะทำข้อตกลงกับคุณก่อนที่เราจะจดทะเบียนกัน”เสียงหวานเอ่ยขึ้นกล้าๆกลัวๆ

“ข้อตกลงอะไร?”

“ฉันไม่อยากให้เกิดเรื่องเหมือนเมื่อคืนนี้อีก และก็ไม่อยากให้ความสัมพันธ์ของเราเกินเลยกว่ากระดาษแผ่นเดียว”

“ทำไม?”

“เพราะฉันไม่อยากมีสัมพันธ์แบบนั้นกับคุณ”

“แล้วคุณคิดว่าที่ผมยอมแต่งงานผูกพันธะกับคุณเพราะอะไรถ้าไม่ใช่เพราะต้องการตัวคุณด้วย”

“ถ้าอย่างนั้นเราก็ไม่ต้องจดทะเบียนแต่งงานกันก็ได้ ฉันยอมให้คุณใช้ประโยชน์ในที่ดินโดยที่ไม่ต้องมีงานแต่งเกิดขึ้น”

“คุณกำลังคิดเบี้ยวสัญญา?”

“ไม่ใช่ค่ะ เพียงแต่อยากจะหาทางออกที่ดีที่สุดให้กับเราทั้งสองคน หากการแต่งงานไม่ได้เกิดจากความรักสักวันเราก็ต้องหย่า เพราะฉะนั้นฉันไม่อยากให้เราต้องเสียเวลากันทั้งคู่”

“เสียเวลางั้นเหรอ แล้วตลอดเวลาห้าปีที่ผมสูญเสียไปกับการส่งเสียเลี้ยงดูคุณเป็นอย่างดี พร้อมๆกับรักษาชีวิตโสดของตัวเองเพื่อรอวันที่คุณเรียนจบมันไม่เสียเวลาเลยใช่ไหม”

“ฉันขอโทษค่ะที่ทำให้คุณเสียเวลาครองโสดมาเพื่อฉัน แต่ฉันคิดว่ามันคุ้มกับที่ดินผืนนั้น”

“งั้นเหรอ?”

“ฉันต้องการคำตอบจากคุณ”

“คำตอบคือไม่ตกลง!”

“แล้วถ้าฉันจะบอกว่าฉันมีคนรักแล้ว และต้องการที่จะแต่งงานกับเขาเพียงคนเดียว คุณจะเห็นใจและปล่อยฉันไหมคะ”

“ไม่เห็นใจและก็ไม่ปล่อยไป แต่จะทำให้คุณลืมไอ้หมอนั่นไปซะ”

“คุณจะทำอะไร? อย่าเข้ามานะ”

“เสียแรงที่อุตส่าห์เฝ้ารออย่างทะนุถนอมแต่คิดไม่ถึงว่าจะร่านมีคนรักถึงขนาดกล้ามาต่อรองกับผม ทำไม…ติดใจบทรักเขาจนยอมเบี้ยวสัญญาเลยเหรอ”

 “หยาบคาย! สกปรก!”

“งั้นก็ลองมาเป็นเมียคนหยาบคายสกปรกดู จะได้รู้ว่ามันถึงใจกว่าคนไหนๆที่คุณเคยผ่านมา”