ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Clannad พลิกคำทำนายเจ้าชายเดือนหก

    ลำดับตอนที่ #31 : ตอนที่ 2 เจ้าชายเดือนหกกับเมืองครอสเซียรา

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 229
      0
      11 ม.ค. 52


                     “โธ่เอ๊ย...ขนาดปิดเทอมยังต้องมาทำงานอีกเหรอเนี่ย เสียงหวานจากเด็กสาวเรือนผมสีดำขลับยาวจรดปลายหลังร้องอย่างเหนื่อยอ่อน ดวงหน้าขาวฟุบลงกับโต๊ะที่เต็มไปด้วยกระดาษ ดวงตาสีสนิมปิดแน่นถ้าหลับได้ตอนนี้คงหลับไปแล้ว

                    พลันไม่ทันไรก็โดนม้วนกระดาษหนาฟาดเข้ากลางศีรษะอย่างจัง

                    รักษากริยาหน่อยสิเมนาไรน์...คนเป็นหัวหน้าหอเขาไม่ทำอย่างนี้หรอกนะ น้ำเสียงทุ่มนุ่มจากชายหนุ่มเส้นผมสีน้ำตาลเข้มยาวประเคลียคอ ดวงตาสีเขียวมรกตเหลือบมองทั่วห้องทำงานกรรมการนักเรียนกระดาษรายชื่อนักเรียนเข้าใหม่กองสุ่มกันแบบเกลื่อนกลาดแล้วถอนใจในอะไรหลายๆ อย่าง

                    อะไรกันเดไซล์...นี่มันไม่ใช่เรื่องที่คนได้โดดงานไปงานเลี้ยงวันเกิดของเจ้าชายทรานเซเวียมาพูดหรอกนะ เมนาไรน์ย้อนทำเอาเจ้าคนเป็นเจ้าชายที่กำลังเก็บหนังสือใส่ชั้นต้องชะงัก...นี่ไม่ใช่เวลาที่จะเอาเรื่องเมื่อหลายวันมาพูดไม่ใช่เหรอ

                    ช่วยไม่ได้นี่ครับ...ก็นั่นน่ะเป็นหน้าที่ของเจ้าชายนี่นา แถมตัวเดไซล์เองก็รีบกลับมาช่วยงานอยู่ไม่ใช่เหรอครับ เจ้าของเส้นผมสีม่วงยาวสวยมัดรวมต่ำๆ ด้วยเชือดเส้นบางพูด ดวงหน้าสวยกว่าที่น่าจะเรียกว่าเป็นผู้ชายขยับยิ้มก่อนที่แก้วน้ำชาจะวางตรงหน้าของหญิงสาว

                    ดื่มน้ำชาแล้วพักก่อนก็ได้นะครับเมนา

                    อะไรกันนิโคลัสมีแค่ของเมนาเองเหรอ เสียงแทรกขึ้นอย่างรวดเร็วดังมาจากเจ้าคนที่เอาขาฟาดวางเหนือโต๊ะทำงานแล้วนอนเอกเขนกพิงเก้าอี้อ่านเอกสารแบบสบายใจเฉิบอยู่ฝั่งตรงข้าม

     เจ้าของเรือนร่างสูงเส้นผมสีดำสนิทตัดสั้นระคอ ฝ่ามือยกแผ่นเอกสารออกที่บังดวงหน้าก่อนตาสีเดียวกับเส้นผมทอดมองร่างของหัวหน้าหอใต้ด้วยความอยากกลั่นแกล้ง ริมฝีปากบางยิ้มแยกเขี้ยวอย่างรู้ทันจนนิโคลัสสะดุ้งตัวโยน

                    แต่ไม่ทันจะพูดอะไรต่อหลังมือของเดไซล์ก็หวดเข้ากลางเส้นผมดำๆ จนเจ้าหัวหน้าหอตะวันตกถึงกับเบ้ปากด้วยความเจ็บ

                    อย่าแกล้งเจ้าหมอนั่นมันนักสิโยเซ็น เจ้าชายผู้ควบตำแหน่งหัวหน้าหอทิศตะวันออกพูดอย่างเซ็งระคนหน่ายก่อนจะนิ่งทำหน้าสยองเพราะถูกดวงตาสีนิลที่จ้องกลับด้วยสายตาเข้าใจยาก

    ถึงจะไม่รู้ความหมายแต่เหตุผลคง...ชวนคนลุกแบบแปลกๆ 

                    อ๊า!!!” อยู่ดีๆ แม่สาวตาสีสนิมก็ร้องออกมาจนทำเอาบรรดาว่าที่หัวหน้าหอประจำปีการศึกษาต้องหันไปมองด้วยความรู้สึกซึ่งไม่ได้แตกต่างกันเลยนั่นคือ...งง

                    น่ารักจังเลย เมนาไรน์ว่าก่อนโยเซ็นที่ยกสังขารเดินมาโตะฝั่งตรงข้ามจะสอดหน้าโผล่เข้ามาดูเจ้าแผ่นกระดาษประวัตินักเรียนปีหนึ่งที่ทำเอาหัวหน้าหอเหนือร้องทันทีที่ได้เห็น

                    อักษรลายมือที่ตวัดกันหากแต่อ่านง่ายสบายตากับรูปที่แนบติดอยู่เหนือกระดาษแผ่นข้อมูล 

    ดวงหน้าหวานอ่อนเยาว์เรือนเส้นผมสีน้ำเงินเข้มราวกับท้องฟ้ายามใกล้รัตติกาลและนัยน์ตาสีฟ้าสะอาดราวกับสายธาราแสนบริสุทธ์

                    นั่นมันเจ้าชายองค์สุดท้องของทรานเซเวียไม่ใช่เหรอครับ นิโคลัสเอ่ยพูดส่วนเดไซล์ก็เอาหน้าซบกับมือแล้วนวดขมับแรงๆ  

                    อยากให้มาอยู่หอเหนือจังเลย เมนาไรน์ว่าก่อนที่เดไซล์ถอนใจแรง

                    เกิดได้อยู่หอเหนือจริงส่อแววไม่แคล้วยัยหัวหน้าหอจอมบ๊องนี่จะให้รุ่นน้องเดินเป็ดรอบหอเป็นการรับน้องใหม่แหงเชื่อสิ!

     

                    ฮ...ฮาด...ชู่ว!!!” เสียงลมที่คัดออกจากปากเพราะสาระบบการหายใจมีอะไรบางอย่างเข้ามาระคายเคืองจนต้องกำจัดออกมา ร่างเตี้ยของคนเส้นผมสีน้ำเงินเข้มชะงักไปเล็กน้อยบนท้องถนนที่เต็มไปด้วยผู้คน เด็กชายยกแขนเอามือขึ้นปิดปาก

                    มีคนกล่าวถึงเหรอครับองค์ชาย ลุควิคเอ่ยถาม ดวงหน้าอ่อนเยาว์ขยับมองผู้เป็นนายอย่างเป็นห่วงแน่นอนถึงจะไม่รู้...แต่ลุควิคนายพูดถูก

                    บ้านนายสิ...แค่จามเท่านั้นแหละน่า แคนาร์ทพูดพลางส่ายหัวดิกๆ จนเส้นผมสีน้ำเงินเข้มที่สางมาเรียบร้อยเริ่มแตกกระจายตามแรงสั่น ดวงตาสีฟ้าใสหันมอรอบตัวอย่างสนใจ กับคนที่ร้อยวันแสนปีจะออกมาข้างนอกสักทีสถานที่แคบและจอแจแบบนี้แหละที่มันแปลกตาสุดๆ

                    ไหนๆ พรุ่งนี้มันก็จะเปิดเทอมทั้งทีก็ขอเที่ยวเมืองครองเซียราให้หนำใจก่อนต้องหิ้วสังขารเข้าโรงเรียนประจำสักวันเถอะน่า

                    แคนาร์ทเอียงคอเล็กเล็กน้อย

                    ถึงแม้จะเป็นการเดินทางแบบพรากน้ำตาท่านพ่อกับพี่ๆ ที่สุดแสนจะห่วงหวงลูกชายคนเล็กของบ้านมาก็เถอะ

                    ช่วยจากกันเงียบๆ แบบเป็นผู้เป็นคนเหมือนท่านแม่กับพี่เอซิสต์ได้ไหมครับ!!

                    ทำกันซะอย่างเขาต้องรับเกณฑ์ไปออกศึกรบสักสามชาติเศษงั้นแหละ

                    มือเล็กล้วงลงในกระเป๋ากางเกงพาลควานหาผ้าเช็ดหน้าที่มันต้องอยู่สักลืบใดลืบหนึ่งแต่ยังไม่ทันจะเจอผ้าเช็ดหน้าฝ่ามือก็สะดุดแกรบเข้ากับกระดาษที่พับหยาบๆ อยู่ข้างในเสียก่อน

                    เผลอเก็บติดตัวไว้แต่เมื่อไร่เนี่ย?

                    แคนาร์ทยกผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาเช็ดจมูกเบาๆ ก่อนร่างเล็กของเจ้าชายที่เด่นในบรรดาคนหมู่มากจะเริ่มเก้าเท้าเดินอีกครั้ง

                     กระดาษแผ่นที่เจอในห้องสมุดในคืนงานวันเกิด...

                    สุดท้ายเพราะมัวแต่ยุ่งเรื่องการเตรียมตัวเข้าโรงเรียนเฮงซวยที่ชื่อก็ลืมไปแล้วหลายๆ วันเข้าก็เลยลืมถามท่านพ่อไปซะสนิท

                    แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้น

                    เนื้อเพลงและถ้อยคำร้องยังคงติดก้องอยู่ในภวังค์ยามหลับตาลง...

     

    ภาพแห่งเหล่าผู้เป็นที่รักปรากฏชัดยามรัตติกาล

    รอยยิ้มที่กอปรกันเป็นผืนแผ่นดินให้ก้าวเดิน

    ในความฝัน...ในความฝัน...นี้

     

                    นัยน์ตาสีท้องฟ้าเปิดขึ้นแบบไม่ทันที่จะยังได้ปรับสายตาดีดวงตาคู่สวยก็ถึงกับเบิกกว้างขึ้นร่างเล็กถลาตัวแทรกฝ่าฝูงคนออกไปด้านหน้าอย่างไม่รีรอคำถามของคนรับใช้ผมทอง ฝ่ามือเรียวบางดึงอะไรบางอย่างเข้าหาตัวก่อนที่อะไรที่ว่านี่จะถูกรถม้าที่แล่นขับมาแบบปรกติสุขจะชนเข้า

                    แคนาร์ทเซถลาตัวล้มลงกับพื้นอิฐหยาบๆ ดวงตาสีฟ้าแหวมองของที่ดึงติดมือย่างหัวเสีย

                    ถ้าโดนรถชนขึ้นมาจะทำยังห๊า!!” แคนาร์ทหวีดเสียงก่อนจะปราดสายตาฝ่าดงคนมุงจนขยาดหนีไปตามๆกัน ร่างเล็กลุกยืนเต็มส่วนสูงก่อนดวงตาสีท้องฟ้าใสจะหลุบมองร่างเล็กของเด็กสาววัยที่ใหล้เคียงกัน เส้นผมสีเหลืองอ่อนราวกับรวงข้าวระกับพื้นยามเธอนั่ง ดวงตาสีม่วงที่มองแคนาร์ทเริ่มครื้นน้ำตา

                    ข...ขอโทษ...ค่ะ...

                    แน่นอนกับไอ้คนที่ชินกับการกลั่นแกล้งลุควิคจนร้องไห้มาหลายหนอย่างเขาแล้วนั้นแค่น้ำตาของผู้หญิงแค่นี้ยังไงเขาก็...

                    แพ้อยู่ดี...

                    ยืนไหวนะ เอ้อ... แคนาร์ทชะงักคำมือพันกันรัวเร็วลนลานเสียจนลุควิคเห็นยังแปลกใจ เจ้าชายหน้าฝนยกสองมือตบขมับเบาๆ 

                    อย่างแรกต้องทำอะไรสักอย่างกับน้ำตาเจ้าปัญหานี่ก่อน

                    เอ่อ...เอาไปเช็ดหน้า...อ๊ะ!!” เหมือนนึกอะไรบางอย่างออก แคนาร์ทเบ้ปากหน้าอืด...ตูเพิ่งเอาผ้าไปเช็ดน้ำมูกมานี่หว่า เด็กชายยัดผ้าเก็บเข้ากระเป๋าก่อนจะตบๆ หาตามตัวสายตาก็มองแม่สาวจอมขี้แยว่าเมื่อไรคุณเธอจะหยุดร้องไห้เสียที

                    แคนาร์ทหยุดมือลงเมื่อสายตามองเห็นโบว์ผ้าสีขาวผืนใหญ่ที่ผูกรอบลำคอตัวเอง มือบางปลดเข็มที่กลัดออกก่อนดึงมาเช็ดหน้าให้กับเด็กสาว โอเค...อย่างน้อยๆ มันก็ดีกว่าเอาผ้าเช็ดหน้าที่ให้แล้วมาเช็ดหน้าให้คนอื่นต่อล่ะน่า...

                    คราวหน้าคราวหลังต้องระวังนะ เดินข้ามถนนต้องมองซ้ายมองขวาให้ดีพอแน่ใจว่าไม่มีรถแล่นตัดมาก่อนแล้วค่อยข้ามนะ เข้าใจไหม? เจ้าชายพูดพร่ำระหว่างใช้ผ้าซับน้ำตาบนใบหน้าให้เด็กสาวฟังคล้ายเหมือนคำปลอบนะ...แต่ในขณะเดียวกันก็เหมือนแม่สอนลูกแบบแปลกๆ 

                    เสียงสะอื้นหายไปแล้ว แคนาร์ทปล่อยมือออกจากผืนผ้าแล้วขยับเสียงถอนหายใจอย่างโล่งอก 

                    ถ้าไม่มีอะไรแล้วฉันไปนะ ร่างเล็กว่าไม่ทันที่จะก้าวเท้าเดินออกไปเจ้าชายตัวน้อยก็ถูกเสียงใสๆ รั้งเอาไว้ด้วยคำพูด

                    ขอโทษนะคะ...แล้วก็ขอบคุณมากๆ เลยค่ะ เธอกล่าวมือบางถือผ้าที่ปัจจุบันกลายเป็นผ้าเช็ดน้ำตาไปแล้วไว้ เด็กสาวหลุบตามองลงต่ำเอ่ยเสียละลักละล่ำ เหมือนเจ้าชายจะคิดไปเองแต่รู้สึกว่าเธอหน้าแดงแบบแปลกๆ ฉ...ฉันชื่อ อลิส มาเรียองโนค่ะ

                    แคนาร์ทเอียงคอลงเล็กน้อยไม่ทันไรที่เข้าใจเด็กชายขยับรอยยิ้มกว้าง

                    แคนาร์ท พูดแล้วโบกมือลาพร้อมกับเท้าที่ก้าวเดินไปยังทางที่ลุควิครออยู่ ทิ้งเหลือเพียงเธอคนเดียวท่ามกลางสายทางผู้คนคลาคล่ำ ดวงตาสีอเมธิตส์มองร่างนั้นจนหายลับไปกับสายตา เด็กสาวยกผ้าสีขาวผืนบางขึ้นสัมผัสดวงหน้าสวยซบลงอย่างแผ่วเบา

                    อลิสขยับยิ้มคลอกับเสียงหัวเราะ น้ำเสียงหวานแผ่วเบาส่งเสียงกล่าวจากริมฝีปากและใบหน้าขาวนวลสีชมพูระเรื่อ

                    คุณแคนาร์ท...

     

                    หวา...นึกว่าจะแย่แล้วสิ แคนาร์ทบ่นเสียงเอื่อยเส้นผมสีน้ำเงินเอนพิงไหล่ของลุกวิคอย่างปลงตัวเองระหว่างเดิน กะอีแค่ทำให้ผู้หญิงหยุดร้องไห้นี่ทำไมมันยากจังนะ

                    ไม่เห็นเหมือนตอนแกล้งเจ้าลุคเลยสักนิด

                    พลันที่เจ้าชายหน้าฝนจะยิ้มหัวเราะหึๆ ในลำคอจนคนที่ให้ไหล่พิงถึงกับขนลุกวาบ

                    ก็น้า...เสียงร้องไห้หมอนั่นมันน่ารักออก

                    อ๊ะ... พลันดวงตาสีท้องฟ้าจะเหลือบเห็นบางอย่างมือเล็กคว้าเรียนแขนของคนผมทองข้างตัวให้หยุดก่อนจะชี้นิ้วชี้ไปยังร้านหนังสือเก่าใกล้ตัว เข้าไปกันเถอะ แคนาร์ทพูดพร้อบกับยิ้มร่างเริงอย่างสนอกสนใจก่อนที่ลุควิคจะพยักหน้ารับพร้อมกับเดินตามร่างเล็กเข้าไปในร้านหนังสืออย่างว่าง่ายเพราะเข้าใจนิสัยหนอนหนังสือของคนเป็นเจ้านายดี

                    ราชบัญญัติกฎหมายเวทสมัยใหม่... แคนาร์ทดึงหนังสือเล่มหนักร่วมสองกิโลกรัมออกจากชั้นก่อนจะชูให้ลุควิคที่อยู่ตรงหน้าดู ไม่ทันไรที่สายตาสีฟ้าจะเหลือบไปเห็นอีกเล่ม รวมคดีพิพากษาการใช้ศาสตร์มืดในทางที่ผิด...อันนี้น่าสนใจดีแหะ

                    ลุควิคเอียงคอลงเล็กน้อยก่อนจะยิ้มแห้งอย่างไม่ค่อยจะเข้าใจแต่ก็พยักหน้ารับกับหนังสือที่เข้าใจยากที่แคนาร์ทหยิบขึ้นมาให้ดูทุกเล่ม...และแน่นอนดูเหมือนว่าเจ้าชายของเขามีวี่แววว่าจะซื้อติดมือกลับไปทุกเล่มอีกต่างหาก

                    ถึงจะดูไม่เข้ากับนิสัยที่ออกแนวปัญญาอ่อนสักเท่าไรแต่ก็นับว่าได้ว่าเจ้าชายแคนาร์ทนับเป็นนักอ่านตัวยงแถมยังนิยมอ่านแต่หนังสือกฎหมายเข้าใจซะด้วยสิ

                    แคนาร์ทก้าวเดินรอบๆ ชั้นตู้หนังสือสูงที่บรรจุหนังสือหลากหลายขนาดอัดแน่นเต็มแถวในแต่ละชั้น ดวงตาสีท้องฟ้าไล่อ่านสันปกอย่างละเอียดถี่พิจารณาทุกๆ เล่มที่ผ่านสายตา...ถึงจะดูแปลกแต่ความน่าสนใจของหนังสือนั้นสำหรับเขาแล้วมันมักจะอยู่ตรงชื่อบนสันนี่แหละ

                    แล้วและสายตาสีฟ้าก็เหลือบเห็นหนังสือชื่อน่าสนใจนามว่า ข้อพิจารณาคดีความต่างระหว่างผู้ใช้เวทมนต์กับแม่มด ร่างเล็กกดหนังสือเล่มหนาหลายเล่มด้วยมือเดียวพิงกับไหล่ก่อนจะเขย่งยืดตัวเอื้อมมือสูงเหนือหัวเพื่อหยิบหนังสือที่อยู่ในสถานที่ไกลเกินกว่าร่างเตี้ยๆ ของเขาจะถึง

                    แต่ใกล้มากสำหรับคนปรกติน่ะนะ...

                    ไม่ทันไรก็มือๆ หนึ่งเอื้อมหยิบหนังสือเล่มที่ปลายนิ้วเล็กของของคนตัวเล็กที่ทำได้ดีสุดแค่สะกิดลงมาให้อย่างง่ายดายแล้วยื่นส่งให้แคนาร์ท...ด้วยไม่แน่ใจว่าเพราะสงสารที่เห็นคนตัวเตี้ยๆ ต้องมาเขย่งสุดตัวก็แล้วยังเอื้อมไม่ถึงอย่างเขาอยู่หรือไงก็ไม่อาจทราบ

                    เล่มนี้ใช่ไหม? น้ำเสียงทุ้มนุ่มดังจากเด็กหนุ่มวัยเท่ากันเจ้าของเรือนเส้นผมเส้นผมสีเงินสะอาดยุ่งเหยิงมากถึงมากที่สุดแต่ในขณะเดียวกันก็ดูเหมือนจะเหมาะกันดีกับหน้า ดวงตาสีน้ำตาลเข้มจากที่ๆ อยู่ไกลแต่ระยะใกล้นั่นก็คือตัวสูงกว่าก้มมองลงมาก่อนจะขยับยิ้มที่ดูยั่วโมโหซะมากกว่าอยากจะพูดขอบคุณให้ 


                  
    เห็นยืนเขย่งอยู่นานแล้วน่ะนะ         

                    ขอบใจ!!!” แคนาร์ทกระวัดมือกระชากหนังสือออกจากมือของชายหนุ่มอย่างรู้สึกโมโหตะงิดๆ จะว่าที่หน้าตากวนข้อเท้ากระตุกนั่นก็ไม่ใช่...แต่ที่ทำให้ฉุนขาดนั้นมันกลับเป็นคำพูดที่เจ้าคนหัวเงินนี่มันจะสื่อออกมาว่าเขา เตี้ย นั่นแหละ 

                    เด็กหนุ่มผมเงินมุ่นคิ้วเล็กน้อยเอียงคอลง ดวงตาสีน้ำตาลเข้มเพ่งพิศมองหน้าตาของคนผมน้ำเงินตรงหน้าเหมือนกับกำลังเทียบอะไรบางอย่าง พลันมือกร้านจะคว้าคางร่างเล็กตรงหน้าแล้วยื่นหน้าอย่าง พิจารณาให้ถี่ถ้วนกว่าเดิม

                    ไม่ทันไรที่ดวงตาสีน้ำตาลเคร่งเครียดจะคลายออก

                    เจ้าชายแคนาร์ท? น้ำเสียงนุ่มพึมพำเบาก่อนแคนาร์ทจะกระชากตัวเองออกจางร่างสูงกว่าก่อนที่เจ้าคนผมเงินจะเอาจมูกทิ่มลูกตาเขา 

                    ก็ใช่น่ะสิ คนถูกทักชื่อรับอย่างง่ายๆ โดยไม่สนใจลุควิคที่กำลังจะสะกิดพูดเตือนว่าอย่ารับ...แต่ถ้ามองจากความจริงแล้วมันน่าจะเป็นว่าไม่ทันมองเห็นความจืดจางของตัวลุควิคเสียมากกว่า

                    แล้วงี้เกิดถูกลักพาไปจะทำยังไงล่ะคร้าบบบ

                    พบกันไวกว่าที่คิดแหะ ร่างสูงพูดแผ่วเบาอยู่ในลำคอราวกับกำลังพูดกับตัวเองไม่ทันไรที่ฝ่ามือซ้ายยื่นให้คนตรงหน้า แคนาร์ทหลุบมามองมือที่ส่งมาให้อย่างไม่เข้าใจแต่ก็จับตอบตามมารยาทดีที่คนเป็นเจ้าพึงจะทำ

                    แต่ก็แค่ว่าติดเป็นนิสัยเพราะพระพี่เลี้ยงจอมโหดเคี่ยวใส่ให้ซะมากกว่า 

                    ฉ...ไม่ใช่สิ กระหม่อมมาเทลโน่ คาซัส องครักษ์ชั่วคราวที่กษัตริย์ทรานเซเวียรับสั่งมาให้คุ้มครองนาย..เอ้อ...ท่านระหว่างที่เข้ารับการศึกษาที่ครอสเซียราครับ...หรือต้องลงท้ายด้วยขอรับหว่า ท่อนสุดท้ายบีบเสียงเบาเพื่อพูดกับตัวเอง...แล้วไหงนายพูดอย่างกับคนไม่เคยใช้คำราชาศัพท์อย่างนั้นล่ะมาเทลโน่เอ๋ย...

                    พลันได้ยินคำว่า องค์รักษ์ เจ้าชายผมน้ำเงินถึงกับเบ้ปากอย่างเหนื่อยจิตถึงจะบอกว่าแค่ชั่วคราวก็เถอะแต่เล่นแบบนี้ไม่ห่วงกันไปหน่อยเหรอไงล่ะครับท่านพ่อ... 

                    ในที่สุดก็พบจนได้...เจ้าชายแคนาร์ท

                   

                    อ๊า...ตื่นเต้นจังเลย น้ำเสียงเล็กๆ อย่างเด็กยังไม่โตเต็มที่ซึ่งโดยส่วนตัวแล้วคิดว่าเป็นเด็กไม่ยอมเสียมากกว่า ร่างน้อยๆ ของคนผมสีฟ้าไกวขาไปมาคลอจังหวะเสียงเพลงที่ฮัมพร้อมโยกตัวเบาๆ ดวงตาสีแดงทับทิมกลมโตจับจ้องร่างของหญิงสาวตรงหน้า พรุ่งนี้จะมีนักเรียนน่ารักๆ แบบไหนกันน้า เซนซี่จัง 

                    นั่นสินะคะอาจารย์เนย์ เซนเซียน์ขยับยิ้มให้ร่างเล็กตรงหน้า เจ้าของเส้มสีมรกตปล่อยตรงยาวประดับด้วยรัดเกล้าสีเหลืองทองหันมองข้าหน้าต่าง ดวงตาสีอำพันใสทอดมองท้องฟ้าสอใสที่เริ่มหมองลงเป็ฯสีเทาจัดจากเมฆฝนที่เริ้มก่อเคล้าสร้างตัว

                    ปีนี้น่ะ...มีเด็กที่น่าสนใจเยอะแยะเลยล่ะค่ะ 



    21. School Idol - Sasagawa Kyoko - Keita Tachibana 

    เพลงประจำตอนค่ะ...เหมือนกับตอนที่แล้วเพิ่งมาเจอก็เปิดแล้ววนกลับไปอ่านอีกรอบ (ฉากแคนาร์ทกับอลิสน่ะแหละ)


    ++++++++++++++++++++++



    Special Thank

    เมนาไรน์
    โยเซ็น
    นิโคลัส
    อลิส
    มาเลโน่

    สปอยตอนหน้า

    "เลือดจะจารึกว่าพวกเธอทุกคนคือนักเรียนแห่งครอสเซียรานี้"
    "จงตอบคำถามของข้า"
    "อ่านว่า อะ-เลส-บลัด ต่างหาก"
    "ดูสนุกสนานดีจังเลยนะครับ"

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×