คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : An accident or not ?? 8
An accident or not ??
ตอนที่ 8
หลังจากครั้งที่ซาสึเกะบุกไปถึงห้องทำงานของท่านซึนาเดะ
แต่กลับเจอหนึ่งในสามนินจาจิไรยะแทนทำให้ถูกหลังมือคาคาชิจนสลบคาโต๊ะ
เพราะเกือบจะล่วงเกินคือกระชากคอชายร่างใหญ่มาถามว่านารุโตะอยู่ที่ไหน
คาคาชิเองก็รู้ว่าที่เด็กหนุ่มทำลงไปไม่ได้เจตนาแต่เพราะห่วงคนที่ตามหามากทำให้ขาดสติไปชั่ววูบ
จิไรยะเองก็ไม่ถือสาหาความอะไร พอซาสึเกะฟื้นจากการสลบก็ดูแปลกๆไปอยู่หลายวัน
แต่สุดท้ายก็กลับมารับภารกิจได้ตามเดิมแม้ว่าจะไม่มีนารุโตะก็ตามที
ซากุระเองก็ถามหานารุโตะตลอดจนคาคาชิเองก็ไม่รู้จะเลี่ยงยังไง
เด็กหนุ่มก็ดูหงุดหงิดทุกครั้งที่เด็กสาวเอ่ยถึงนารุโตะจนโพล่งออกไปเองเลย
“นารุโตะน่ะจะไม่มาทำภารกิจกับเราอีกแล้ว แล้วก็เธอน่ะเลิกมาประจ๋อประแจ๋กับฉันซักที ฉันมีคนรักแล้ว”
ประโยคทีทำซากุระแทบจะล้มทั้งยืน โจนินหนุ่มก็ได้แต่ยืนอึ้ง
ส่วนตัวคนพูดเดินกลับบ้านไปไม่ใส่ใจทั้งครูโจนินและเพื่อนร่วมทีมสาว
พอผ่านวันที่ซาสึเกะประกาศอย่างไร้เยื่อใยกับซากุระก็ดูเหมือนสาวเจ้าจะเงียบตามไปอีกค
นยิ่งทำให้ทีมเกิดบรรยากาศอึดอัดเข้าไปอีก คาคาชิได้แต่ถอนใจ
‘นี่ถ้านารุโตะอยู่มันก็คงไม่เป็นแบบนี้หรอก’
“ครูคะ”
“หือ มีอะไรรึเปล่า ซากุระ”
ชายหนุ่มกลับมาสนใจในเสียงเรียกของลูกศิษย์สาวหลังจากคิดถึงเด็กสาวผมบลอนด์อีกคน
ที่หนีหายไปอยู่ที่ไหนก็ไม่มีใครรู้ได้นอกจากโฮคาเงะหญิงซึนาเดะ ซึ่งตอนนี้ก็ไม่ได้อยู่ที่หมู่บ้านเช่นกัน
“เล่าเรื่องนารุโตะให้หนูฟังหน่อยสิคะ หนูรู้นะว่าครูปิดบังอะไรอยู่แน่ๆ”
ซากุระเอ่ยในเย็นวันหนึ่งเมื่อมาถึงขั้นนี้แล้วเขาเองก็คงจะต้องบอกขืนอมพะนำต่อไปคงมีแต่ทำให้อะไรๆมันแย่ลง
“ครูไปคุยที่บ้านก็ได้ พ่อกับแม่จะได้ไม่ว่าหนูเรื่องกลับบ้านช้า”
เด็กสาวเอ่ยท่าทางซึมๆเพราะสิ่งที่ซาสึเกะพูดยังฝังหัว คาคาชิได้แต่ลูบผมเด็กสาวและพูดปลอบไปเรื่อยๆเท่านั้น
แต่เท่าที่ดูมันก็ไม่ค่อยจะได้ประโยชน์อะไรนัก เดินไปสักพัก เด็กสาวก็ยกมือขึ้นจับมือของครูโจนิน
พอคาคาชิหันไปมองก็เห็นซากุระน้ำตาร่วงเผาะจนเขาต้องหยุดปลอบ
“ครูคะ ซาสึเกะ กับนารุโตะ...ฮึก...เขา ชอบกัน...ใช่ไหม ฮึก..”
โจนินอย่างเขาเองยังต้องทึ่งในเซ้นส์ของเด็กผู้หญิง
ยิ่งเป็นซากุระด้วยแล้วมันคงไม่ยากที่จะปะติดปะต่อเรื่องอย่างมีเหตุผล
“ครูไม่อยากให้เธอเสียใจหรอกนะ แต่ถ้าไม่บอกมันก็คงยิ่งรู้สึกแย่ใช่ไหมล่ะ”
เด็กสาวพยักหน้าหงึก เธอทำใจไว้แล้วในเรื่องนี้เพราะตั้งแต่งานครบรอบหมู่บ้าน
เธอมองเห็นบางอย่างเปลี่ยนไปจากสายตาที่เพื่อนร่วมทีมของเธอทั้งคู่มองกันและกัน
ตอนแรกเธอก็ไม่ใส่ใจแต่ยิ่งเห็นท่าทางอาการของเด็กหนุ่มอุจิวะเธอก็ยิ่งหวั่นว่าสิ่งที่เธอคิดมันจะจริงขึ้นมา
ตอนแรกเธอจะถามนารุโตะให้รู้แน่แต่พอเห็นอีกฝ่ายร่างกายผิดปกติอีกทั้งยังหายหน้าหายตาไปบ่อยๆ
เธอก็คิดว่า อย่าถามเลยจะดีกว่าเพราะสีหน้าของนารุโตะเวลาเจ้าตัวเผลอตอนอยู่คนเดียวมันเศร้าเหลือเกิน
เธอไม่อยากเพิ่มเรื่องให้เจ้าตัวต้องคิดมากไปกว่านี้
“บอกมาเถอะค่ะครู หนูทำใจไว้แล้ว” เด็กสาวปาดน้ำตาเงยหน้ามองครูโจนิน
“นารุโตะเขา....ท้อง.....” ขนาดว่าเตรียมใจแล้วแต่พอได้ยินซากุระเองก็ถึงกับถลึงตาไม่เชื่อ ได้แต่เอ่ยอย่างช็อคๆ
“ไม่มีทาง ทำไม ก็นารุโตะเขา...เป็นผู้ชายนี่
.เอ๊ะ หรือว่า ตอนที่...”
“ใช่ นารุโตะ กับซาสึเกะมีอะไรกัน ตอนนั้นนารุโตะอยู่ในร่างเด็กผู้หญิง”
เด็กสาวถอยหลังเพื่อทรงตัว คำตอบที่ได้เหนือการคาดหมายมากเกินไป
นัยน์ตาสีเขียวหรุบต่ำก่อนที่ร่างทั้งร่างจะลงไปนั่งพังพาบอยู่กับพื้น
“ซากุระ เป็นอะไรรึเปล่า”
คาคาชิเข้าไปช่วยพยุงตัวเด็กสาวที่ส่ายหน้าปฏิเสธว่าไม่เป็นไรแต่ดูยังไงก็เป็นแน่ๆ
ซากุระพยายามยันตัวลุกแต่ก็ล้มลงไปนั่งอยู่ท่าเดิม น้ำตาเริ่มร่วงผล็อยๆเป็นหนที่สอง
‘คงยากจะยอมรับในตอนนี้ล่ะนะ แต่อย่างซากุระไม่นานก็คงเข้มแข็งขึ้นได้แน่’
ชายหนุ่มร่างสูงคิดก่อนตัดสินใจอุ้มเด็กสาวขึ้น
“อ๊ะ ครูคาคาชิ ไม่เป็นไรเดี๋ยวหนูเดินเองได้ค่ะ”
“เฮ้อ ช่างเถอะน่า ขาไม่มีแรงแล้วไม่ใช่รึไงกัน ไม่ต้องคิดอะไรมากนักหรอก”
พอครูพูดแบบนั้นเธอเองก็เลยยอมให้โจนินหนุ่มอุ้มกลับบ้านไปแต่โดยดี
พอถึงบ้านพ่อกับแม่ก็กำลังรอทานข้าวเย็นอยู่คาคาชิเลยได้เข้าร่วมทานอาหารเย็นฝีมือบ้านฮารุโนะ
***********************
“ถามหาที่ท่าเรือไหนก็ไม่มีใครเห็น นายไปอยู่ที่ไหนกันนารุโตะ”
ร่างที่หอบเหนื่อยจากการเดินทางตามหาคนสำคัญนั่งลงที่ม้านั่งริมท่าเรือพลางเอ่ยอย่างครุ่นคิด
ตอนนี้ก็เริ่มดึกแล้วคนเริ่มบางตาลงทุกที มองเห็นไฟริบหรี่ที่ประภาคารไกลๆ
เขาออกตามหานารุโตะแบบนี้มาเกือบเดือนแล้วแต่ก็ยังไร้ร่องรอย
แม้กระทั่งถามจิไรยะก็ยังไม่รู้โฮคาเงะยิ่งไม่ต้องพูดถึงวันๆเอาแต่ทำงานอยู่ในห้อง
เขาพยายามขอพบจะได้ถามเรื่องนารุโตะก็ถูกบ่ายเบี่ยงตลอดจนเขาเองก็จนปัญญา
ซาสึเกะหลังจากที่รู้ตัวเองก็พยายามตั้งสติเช็คตามท่าเรืองที่คิดว่านารุโตะใช้โดยสารแต่เบาะแสน้อยเกินไป
ท่าเรือที่อยู่ใกล้ที่สุดก็อยู่ห่างไปจากหมู่บ้านหลายกิโลพอสมควร
และไม่ได้มีแค่ท่าเรือเดียวแต่ถึงอย่างนั้นเด็กหนุ่มก็ยังค้นหา
การถามไปทีละท่าเรือทำให้กินเวลานานมากแต่ก็ต้องยอม
อีกทั้งเวลาเขามีแค่ช่วงกลางคืนเท่านั้นเพราะตอนกลางวันก็ต้องทำภารกิจที่ไม่ว่ายังไงก็ทิ้งไม่ได้
นินจาที่ไม่ปฏิบัติภารกิจก็เหมือนกับก่อสวะที่ไร้ประโยชน์ แม้ว่าใจนั้นอยากจะทิ้งภารกิจบ้าๆบอๆ
เพื่อเอาเวลาไปตามหาคนสำคัญแต่เพราะเป็นนินจาสายเลือดอุจิวะ
เขาจำต้องรู้หน้าที่คือหน้าที่เรื่องส่วนตัวก็เรื่องส่วนตัว
และเป็นอีกคืนที่คว้าน้ำเหลว ซาสึเกะกลับมาที่หมู่บ้าน
พาร่างที่อ่อนแรงเดินไปตามถนนจนถึงหน้าบ้านของร่างที่เขาเคยกอดไว้แต่บัดนี้กลับว่างเปล่า
ภายในบ้านนั้นมืดสนิทไร้วี่แววผู้คน
ประตูถึงจะล็อกแต่สำหรับเขามันก็เหมือนกับเป็นแค่การบิดลูกบิดประตู
เด็กหนุ่มเดินเข้ามาในบ้านที่ฝังกลิ่นอายของเจ้าของนันย์ตาสีฟ้าสดเอาไว้
แล้วล้มตัวลงบนเตียงของคนที่ไม่ได้อยู่ที่นี่แล้ว
เสียงแจ้วๆกังวานใสยามเอ่ยปากพูดคุยกับเขา ดวงตาสีฟ้าจัดที่ดึงดูดใครต่อใครได้ไม่ยากเย็นเพียงแค่ปรายตา
เส้นผมสีบลอนด์นุ่มลื่นชวนให้จับต้อง ผิวสะอาดเกลี้ยงน่าสัมผัสทุกครั้งที่อยู่ใกล้
หายไปแล้ว...............จากไปแล้ว................................
และไม่รู้ว่าทั้งชีวิตของเขาจะได้กลับคืนมาไหม.................................................................
เสียงเคาะไม้ที่ใช้บอกเวลาในหมู่บ้านดังขึ้นสามครั้ง.....ตีสามแล้ว...................
ไม่นานนักซาสึเกะก็หลับลงด้วยความเหนื่อยล้า
แต่แม้ต้องตามหาจนเลือดและลมหายใจเหือดหายไปก็จะหาให้เจอ!!!!!!!
.****************************
ลืมตาขึ้นมาในตอนเช้าตรู่แต่ก็ยังไม่อาจคลายความอ่อนล้าไปจากแววตาได้
เด็กหนุ่มนอนจ้องเพดานห้องนิ่งราวกับว่ามีหน้าของคนที่ตามหาประทับอยู่บนนั้น
มือเริ่มดึงหมอนและผ้าห่มมากอดไว้แล้วซุกหน้าลงไป
“นายอยู่ที่ไหนกัน นารุโตะ.... อยู่ที่ไหน.......”
ทำได้แค่กอดหมอนของคนที่พร่ำเพ้อถึงเท่านั้น แต่กายที่ต้องการกอดกกไว้จริงๆกลับจากหาย
กลิ่นผิวกายที่ติดตรึงอยู่ในเนื้อผ้ารังแต่จะทำให้คลั่งเจียนตาย
หา หา หา
ก็ทั้งที่หาจนพลังใจมันจะไม่เหลือแล้วแต่ก็ยังคงหา
“ซาสึเกะคุงจ๊ะ”
เสียงของเด็กสาวดังขึ้น นัยน์ตาสีเขียวจ้องมองร่างที่ดูอ่อนล้าของเด็กหนุ่ม
เธอไปตามที่บ้านของซาสึเกะเองแล้วแต่ไม่เจอทั้งที่เลยเวลาที่คาคาชินัดมานาน
และ เธอก็เดาไม่ผิดเด็กหนุ่มอยู่ที่บ้านของนารุโตะ เมื่อเธอเรียกชื่อ เสียงของเธอสั่นหากแต่ก็พยายามข่มมันเอาไว้
คนตรงหน้าเธอ ซาสึเกะที่เคยเข้มแข็ง ดวงตากลับเลื่อนลอยในมือนั้นกอดหมอนของคนที่เธอรู้จักดี
เพื่อนร่วมทีมอีกคนที่ตอนนี้ไม่ได้อยู่ที่นี่อีกต่อไปแล้วไว้แน่นเหมือนกับว่ากลัวจะมีใครมาแย่งชิงไป
สิ่งที่นารุโตะทิ้งไว้ให้มีแค่ที่นี่เท่านั้น.........................
“ซากุระ มีอะไร” แม้จะเอ่ยตอบแต่ใบหน้านั้นก็ไม่ได้หันมามองเด็กสาว
ซึ่งเธอก็พอจะเข้าใจว่ายามนี้เด็กหนุ่มตรงหน้าเธอคงจะกำลังเจ็บปวดอยู่มากเลยทีเดียว ก็คนสำคัญทั้งคน
ไม่สิ สองคนหายไปแบบไม่รู้ข่าวอะไรเลยนี่
“ฉันรู้จากครูคาคาชิแล้วว่านารุโตะคุงกับซาสึเกะคุง..เอ่อ..”
“อือ ใช่ แล้วฉันก็เลวทำหมอนั่นทรมาน ก็เลยหนีไป คงจะโกรธเกลียดฉันแล้วก็ได้”
เด็กสาวพูดอะไรไม่ออก แต่เรื่องนึงที่เธอต้องบอกซาสึเกะเรื่องที่เธอแอบได้ยินครูคุเรไนพูดกับท่านรุ่นที่ 5 ในห้อง
“ฉันพอจะรู้ว่านารุโตะคุงเขาอยู่ที่ไหนนะ”
“ที่ไหน!!!!”
เพียงแค่นั้นก็ทำให้ซาสึเกะถึงกับลุกพรวด ใจจดจ่ออยู่ที่คำพูดของเด็กสาว
“เมื่อเช้าฉันไปหาท่านซึนาเดะมา แล้วแอบได้ยินครูคุเรไนพูดกับท่านซึนาเดะ
ท่านซึนาเดะบอกว่าจะไปหานารุโตะขึ้นเรือตอนสองยามที่ท่าเรือไปแคว้นฮิโนะคุนิวันนี้”
ดั่งจุดประกายหวังให้ลุกฮือขึ้นอีกครั้ง ซาสึเกะกระโดดลงจากเตียงคว้ามือเด็กสาวออกวิ่งทันที
“เดี๋ยว!!! ซาสึเกะคุงจะไปไหน!!!!”
“ไปปฏิบัติภารกิจให้เสร็จเร็วๆฉันจะได้กลับมาเตรียมจัดของไปฮิโนะคุนิ!!!”
น้ำเสียงของเด็กหนุ่มกระตือรือร้นอย่างเห็นได้ชัด จนเด็กสาวใจชื้นขึ้นมา
อย่างน้อยเห็นคนสำคัญมีความสุขแม้จะไม่ใช่ในแบบที่เธอเคยวาดหวังไว้
แต่มันก็ทำให้รู้สึกเต็มตื้นในใจได้ไม่ต่างกัน ที่เหลือก็อยู่ที่นารุโตะแล้วว่าจะยอมกลับมาที่โคโนะฮะหรือเปล่า
แต่ซากุระภาวนา
.................ขอให้กลับเถอะ..............
“ซากุระ.....ขอบใจมากนะ....”
“อื้อ” สาวน้อยยิ้มตอบอย่างเต็มใจ
ภารกิจเสร็จสิ้นลงในช่วงเย็นแม้ว่าจะพยายามเร่งมืออย่างเต็มที่แล้วก็ตาม
ซาสึเกะรีบกลับมาที่บ้านของตัวเองเพื่อเตรียมของที่จำเป็นสำหรับการเดินทาง
เป็นเวลาค่ำแล้วตอนที่เตรียมของเสร็จเรียบร้อย
เด็กหนุ่มเอาเป้ขึ้นหลังเช็คดูจำนวนเงินในสมุดบัญชีที่ตัวเลขมักไม่ค่อยลดลงสักเท่าไหร่
มรดกของตระกูลที่เหลือทิ้งไว้จะว่าไปมันก็มากพอที่ถึงแม้จะไม่รับเงินจากภารกิจก็อยู่ได้อย่างสบายๆไปทั้งชีวิต
แต่ว่าในเร็วๆนี้แหละที่เขาอาจจะต้องใช้เงินในการแต่งบ้านกับสวนใหม่
แต่จะแต่งยังไงก็คงต้องถามนารุโตะดูก่อนว่าชอบแบบไหน
แล้วยังเจ้าตัวเล็กที่จะต้องเกิดมาอีก จะเป็นเด็กหญิงหรือเด็กชายนะ ชื่อที่จะตั้งก็ยังไม่ได้คิดด้วย
นารุโตะจะคิดไว้แล้วรึเปล่า ถ้าเป็นเด็กผู้หญิงก็ดี แล้วถ้าจะมีอีกสักคนเป็นผู้ชายไว้สืบสกุลฝ่ายนั้นจะยอมเขาไหม
คิดไปคิดมาก็ยิ่งอยากจะเจอหน้าเร็วๆขึ้นอีก
“ระยะเวลาที่เดินทางไปท่าเรือพอถึงก็คงจะราวๆห้าทุ่มพอดี เรือออกสองยาม
ระหว่างอยู่ในเรือก็ต้องห่างๆรุ่นที่ห้าเอาไว้ พอขึ้นฝั่งแล้วค่อยตามสะกดรอยไปเรื่อยๆเอา”
หลังจากวางแผนเรียบร้อยเด็กหนุ่มอุจิวะก็ปิดประตูออกจากบ้านมุ่งหน้าสู่ท่าเรือเดินทางไปแคว้นฮิโนะคุนิ
“ซาสึเกะคุง!!!!”
“อ้าว ซากุระ มีอะไร” ยังไม่ทันได้ออกจากประตูของหมู่บ้านก็ถูกเด็กสาวเรียกตัวเอาไว้
“นี่จ้ะ ฉันเอามาให้ กินระหว่างเดินทางนะ ยังไม่ได้กินข้าวเย็นไม่ใช่เหรอ”
ซากุระเอ่ยพร้อมกับยื่นข้าวกล่องให้ ซาสึเกะรับเอาไว้ นึกขอบคุณ
“ขอบใจนะ” เด็กหนุ่มร่างสูงพอรับข้าวกล่องก็เริ่มออกเดินทาง โดยมีเด็กสาวตะโกนเชียร์ไล่หลัง
“พานารุโตะกับเจ้าตัวเล็กกลับมาให้ได้นะ!!!!!”
“แน่นอน!!!”
พอมาถึงท่าเรือได้ไม่นานนักซาสึเกะก็เจอหญิงสาวซึนาเดะ
เมื่อยามฝั่งเริ่มเรียกผู้โดยสารที่มีไม่มากนักขึ้นเรือ ซาสึเกะเลยเข้าไปด้วยเพื่ออำพรางไม่ให้หญิงสาวเห็น
เขาจำเป็นต้องหลบไปอีกด้านของเรือ
กว่าจะถึงแคว้นฮิโนะคุนิคงพรุ่งนี้เช้าช่วงนี้เขาจึงพอที่จะนอนเอาแรงได้บ้าง
เรือที่โคลงไปมาตามกระแสคลื่นยิ่งทำให้หลับได้ง่ายขึ้นไปอีก
ตั้งตารอวันพรุ่งนี้ที่จะได้เจอกับคนที่ตาหามานานแรมเดือน.........................................
ซึนาเดะเองก็รู้ว่าถูกสะกดรอยตาม แต่ความจริงคือจงใจให้ตามต่างหาก
หญิงสาวขึ้นเรือไม่ใส่ใจการตามมาของอีกฝ่ายมากนักเพราะอาจให้เกิดพิรุธได้
เพราะเรื่องที่มันควรจบมันก็ต้องจบได้แล้ว และไม่ว่าจะออกมาในรูปแบบไหน
เธอมั่นใจว่าเจ้าหนูของเธอจะต้องไม่เสียใจแน่
จากเวลาร่วมเดือนที่เธอเฝ้ามองความตั้งใจมุ่งมั่นและความเด็ดเดี่ยวของเด็กหนุ่มอุจิวะที่ตามหาตัวนารุโตะและถึงกระนั้นก็ยังไม่ลืมหน้าที่ภารกิจของนินจาที่จะต้องทำ
กลางวันออกไปทำภารกิจตามที่ได้รับมอบหมายพอตกกลางคืนมีเวลาว่างก็ใช้เวลาทั้งหมด
ที่มีนั้นทุ่มเทในการหาตัวคนสำคัญ แสดงถึงความรับผิดชอบและความเป็นผู้ใหญ่ที่แบ่งหน้าที่ได้เหมาะสม
เหตุนั้นเธอจึงตัดสินใจช่วยกลายๆแบบที่ทำอยู่นี้
เรื่องที่เธอพูดกับคุเรไนอันที่จริงจงใจให้เด็กสาวซากุระได้ยินและท่าว่าเด็กสาวคงจะบอกต่อเจ้าหนูอุจิวะเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“เจ้าหนูโชคดีจริงๆ คนแบบซาสึเกะคุงนี่แหละที่เหมาะจะเป็นผู้นำครอบครัวที่ดี แหม พูดแล้วก็อิจฉาเจ้าหนู”
หญิงสาวพึมพำ ขณะที่เรือใกล้จะถึงที่หมายแคว้นฮิโนะคุนิในตอนเช้ามืด
เมื่อเรือจอดเทียบท่าเป็นที่เรียบร้อยเหล่าผู้โดยสารเริ่มทยอยขึ้นเรือซาสึเกะถือโอกาสปะปนไปกับคนหมู่มาก
ตามหลังหญิงสาวอยู่ห่างพอประมาณ จนคนเริ่มแยกออกไปตามทางของแต่ละคน
เหลือแค่เขากับคุโนะอิจิสาว การพลางตัวจึงยากยิ่งขึ้นหลายครั้งที่หลุดจนคิดว่าอีกฝ่ายรู้แล้ว
ว่าถูกตามแต่ทว่าหญิงสาวยังเดินเฉยเหมือนไม่รู้ตัวจนซาสึเกะเองเริ่มแปลกใจว่าคนแบบนี้เป็น
โฮคาเงะได้ไงขนาดแค่ถูกตามก็ยังไม่รู้เลย
‘หรือจะจงใจให้ตาม’
เด็กหนุ่มเริ่มฉุกคิด แต่ไม่ทันได้คิดมากไปกว่านั้นก็เห็นบ้านหลังหนึ่งด้านนอกประดับเป็นปีกไม้สวยทั้งหลังกลมกลืนกับธรรมชาติรอบๆด้าน หญิงสาวเดินเข้าไปที่บ้านหลังนั้น
ซาสึเกะขยับตัวเข้าไปใกล้ขึ้นอีกและใช้วิชาอำพรางตัวจนใกล้พอที่จะได้ยินบทสนทนาด้านใน
“ชิซุเนะ เจ้าหนูเป็นไงบ้างล่ะ”
“ก็ดีค่ะ มีอาการแพ้ท้องบ้างเล็กน้อย ตอนนี้สงสัยรับแดดยามเช้าอยู่ด้านบนน่ะค่ะ”
“อือ แล้วรายนั้นบ่นบ้างไหมล่ะ ก็นะ ยังไงก็ท้องแรกด้วย คงจะลำบาก”
“ก็บ่นค่ะแต่บ่นเพราะห่วงลูกซะส่วนใหญ่ ”
ตึก ตึก ตึก
“ป้าซึนาเดะ!!มาแต่เช้าเลย!!!”
เสียงลงบันไดตามมาด้วยเสียงคนที่คุ้นหูซาสึเกะดังแว่วมาเสียงนี้แหละคนที่เขาตามหาอยู่ที่นี่แล้วจริงๆ
“นี่ ชิซุเนะ เดี๋ยวฉันจะออกไปเล่นปาจิงโกะไปเป็นพื่อนหน่อย”
“อ้าว แล้วนารุโตะคุงล่ะคะ”
“อยู่คนเดียวที่บ้านได้รึเปล่านารุโตะ ไม่ค่อยอยากให้ออกไปด้วยที่นั่นมันควันบุหรี่แยะ”
“สบม สบายมาก เดี๋ยวจะอ่านหนังสือด้วย เมื่อวานพี่ชิซุเนะอุตส่าห์ออกไปซื้อให้”
ซาสึเกะได้ยินดังนั้นเลยซุ่มรอจนกว่าทั้งคู่จะออกจากบ้าน ประตูแง้มเปิด สองสาวเดินออกมาจากบ้าน
เด็กหนุ่มยิ่งหมอบตัวหลบลงต่ำโชคดีพุ่มไม้แถวนั้นสูงพอประมาณ
เขาเห็นคุโนะอิจิหญิงคุยอะไรบางอย่างกับผู้ติดตามที่ชื่อชิซุเนะ
อยู่ๆสาวคนนั้นก็ทำหน้าตาตื่นตกใจแต่ก็ยิ้มกว้างในภายหลังเนื่องจากสองคนนั่นเวลาคุยดันกระซิบกัน
ทำให้ไม่ได้ยิน พอทั้งสองเริ่มก้าวขาก็เหมือนจงใจเดินเฉียดมาตรงที่เด็กหนุ่มซุ่มดูอยู่
เพียงแต่ตาไม่ได้มองจับมาที่เขาเท่านั้นเอง
“โอกาสเปิดให้แล้วก็ใช้โอกาสซะ”
หญิงสาวดั่งว่าพูดขึ้นมาลอยๆแต่ซาสึเกะถึงกับอึ้งกิมกี่
‘รู้ตัวมาตลอดรึนี่ สมกับเป็นโฮคาเงะจริงๆ’
เป็นครั้งแรกที่รู้สึกนับถือและขอบคุณโฮคาเงะสาวคนนี้ขึ้นมา รออีกสักพักทั้งสองคนก็เดินลับไป
ซาสึเกะออกมาจากที่ซ่อนตัวยืนอยู่หน้าประตูบ้าน เริ่มเกิดอาการตื่นเต้นระคนกับความหวั่นใจ นารุโตะจะเปลี่ยนไปแค่ไหน ตอนนี้ท้องคงจะขยายออกจนเห็นได้ชัดแล้วแน่ๆ คนที่ตามหาแค่เปิดประตูนี้เข้าไปก็จะเจอแล้ว
เด็กหนุ่มตัดสินในเปิดประตูแล้วเดินเข้าไปเงียบๆ
“ใครน่ะ เข้ามาสิ ป้าซึนาเดะอ๊ะป่าว ไหนบอกว่าจะเล่นปาจิงโกะ กลับเย็นๆไง”
นารุโตะพูดโดยไม่มองเพราะมัวแต่ง่วนอยู่กับหนังสือเกี่ยวกับการดูแลเด็ก บัดนี้หน้าท้องขยายออกจนเห็นได้ชัด
ผมสีบลอนด์ทองยาวประบ่าถูกมัดเอาไว้
ซาสึเกะถึงกับมองค้าง ครั้งนี้ที่ได้มาเห็นดูยังไงก็เด็กสาวที่ตั้งครรภ์เขาเกือบจำนารุโตะไม่ได้
แต่เพราะผมสีทองกับน้ำเสียงนั่นยืนยันว่าใช่เจ้าตัวแน่ ความรู้สึกที่เอ่อท้นขึ้นมาผลักดันเขา
ในที่สุดเขาก็เจอนารุโตะ
ไม่ต้องเสาะหาอีกแล้ว ความรัก ความคิดถึง ความโหยหา
ครั้งนี้จะคว้าไว้ จะไม่ปล่อย ไม่ปล่อยอีกแล้ว
หมับ!!!
“อ๊ะ!!! ซาสึเกะ!!!!”
TBC
ความคิดเห็น