คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #24 : บทที่ 11 ตอนที่ 1
บทที่ 11
ฮิปนอสลืมตาตื่นขึ้น ง่วงงุนและรู้สึกว่าศีรษะหนักอึ้งราวกับตะกั่วเหมือนทุกครั้ง เขาจำได้ดีว่ามันเป็นเรื่องที่ทานาทอสคอยตำหนิเขา “เจ้านอนมากเกินไป! ” และเมื่อนึกถึง เสียงแหบห้าวของน้องชายก็แทบจะแว่วมาเข้าหู
เทพแห่งการหลับใหลค่อย ๆ ทบทวนอย่างเชื่องช้าว่าอะไรทำให้เขาตื่นขึ้น เขาต้องอาศัยเวลาอยู่กับเงียบ ๆ พักหนึ่ง จึงนึกขึ้นได้ว่าอาเธอร์ไม่ได้อยู่ที่นี่กับเขาแล้ว ดังนั้นเขาจึงไม่มีทางตื่นขึ้นเพราะเสียงของห่วงจับประตูที่กรีดร้อง -- แต่ก็เกือบช้าเกินไป เขาเดินไปถึงหน้าประตูเพราะคิดว่าอาเธอร์หนีไปอีกครั้ง ก่อนจะนึกถึงเรื่องนี้ได้และกลับมานั่งลงบนเตียงอีกครั้ง
เขาตื่นขึ้นได้อย่างไรกัน
ฮิปนอสคิดหนัก มันเป็นเรื่องที่เขาต้องคิด น้อยคนนักจะรู้ว่าถึงแม้จะขี้เซาและง่วงเหงาหาวนอนอยู่ตลอดเวลา แต่เขาก็มีเวลาหลับและตื่นที่แน่นอน ตารางนั้นเพิ่งแปรปรวนตอนที่ห่วงจับประตูถูกเสกเสียงกรีดร้องไว้ แต่เมื่อมันหายไป ฮิปนอสก็กลับมาเป็นปกติอย่างรวดเร็ว จะต้องมีอะไรสักอย่างทำให้เขาตื่นขึ้นผิดเวลา และเทพแห่งการหลับใหลก็เชื่อว่านั่นไม่ใช่เรื่องปกติ
เสียงหรือ... ฮิปนอสพยายามเงี่ยหูฟัง แต่ไม่มีเสียงอะไร กลิ่นหรือ... เขาพยายามดมกลิ่นอย่างที่ตัวเองคิดได้ว่าต้องน่าขัน แต่ก็ไม่มีกลิ่นอะไรเลยในอากาศที่เยียบเย็น แสงสีหรือ... เขามองเห็นแต่เพียงสีดำสนิทของยมโลก หรือว่าเป็นสัมผัส...
ฮิปนอสรู้สึกทันที
เขาตัวสั่น เขารู้ว่าสัมผัสนั้นมาจากไหน และจากใครด้วย
ท้องฟ้ามืดสนิท เกลื่อนด้วยดวงดาวและแสงนวลสีเงินของดวงจันทร์ ทุ่งเอลลีเซียมที่อยู่ต่ำลงไปและไกลแสนไกลออกไปในพื้นเบื้องล่างเงียบสงัด เอเรอาญ์รู้สึกว่าตนเองค่อย ๆ จมลงไปในความเงียบงันทีละน้อย บางทีอาจเป็นเพราะกอดของเขา -- แต่เธอไม่อยากเรียกมันว่ากอด
ปีกที่โอบเธออยู่ขยับน้อย ๆ และทำให้เธอตื่นจากภวังค์ หญิงสาวเหลือบมองเสี้ยวหน้าเฉยเมยของฮาเดส ก่อนที่เขาจะรู้สึกตัวและหันกลับมามองเธอบ้าง เอเรอาญ์จ้องลึกลงไปในดวงตาคู่นั้น มันไม่ยากอย่างที่เธอคิดและเคยรู้สึกเมื่อตั้งใจทำจริง ๆ
“เจ้ากำลังคิดอะไรอยู่” เขาถาม เสียงเบาประหลาดหู
“เทพีเพอร์ซีโฟเน่ชอบที่นี่มากไหมคะ” เธอตอบด้วยคำถาม ก่อนจะกวาดตามองท้องฟ้าเบื้องนอกอีกครั้ง “สำหรับฉัน... ”
“นางไม่เคยมาที่นี่”
“คะ -- ”
เธอหันกลับไปมองเสี้ยวหน้าของเขาอีกครั้ง ริมฝีปากของฮาเดสเม้มแน่น “นางจากไปก่อนจะเคยมาที่นี่”
มีกระแสบางอย่างในน้ำเสียงของเขาที่ทำให้เอเรอาญ์รู้สึกหนาวยะเยือก
“ฉันคิดว่า -- ท่านรักเธอนะคะ”
“เจ้าพูดว่าอะไรนะ” เขาจ้องใบหน้าของเธอที่กำลังยิ้มกว้าง “เจ้าหมายความว่ายังไง”
“ฉันคิดว่าท่านรักเธอ” เอเรอาญ์ตอบชัดถ้อยชัดคำ ความอบอุ่นและอ่อนโยนจากปีกของเขาทำให้เธอรู้สึกว่าฮาเดสไม่ใช่เทพเจ้าที่น่ากลัวเลย “ท่านรักเธอ ด้วย... ใจ ไม่ใช่ศรกามเทพ”
“แต่ว่า -- ”
“ฟังก่อนสิคะ” เธอปราม “ที่ท่านขังเธอเอาไว้ในตอนนั้น เป็นเพราะ -- ท่านอยากให้เธออยู่กับท่านตลอดเวลา ฉันคิดอย่างนี้ถูกไหมคะ”
“ข้าคิดว่า -- ใช่”
“นั่นคือความรักที่เกิดจากศรกามเทพ ความรู้สึกที่ท่านเองก็บอกว่ามันไม่น่าจะเป็นอะไรที่แท้จริง ฉันเองก็คิดอย่างนั้น ความรักคงไม่ใช่สิ่งที่ต้องการและเรียกร้องจากอีกฝ่ายถึงขนาดนั้นหรอกค่ะ” เธอค่อย ๆ เรียบเรียงคำพูด ทว่าคราวนี้คำพูดทุกคำกลับหลั่งไหลออกจากปากราวกับมันไม่ใช่ปากของเธอเอง “แต่ท่าน ‘มองหา’ ความต้องการของเทพีเพอร์ซีโฟเน่ตลอดเวลานี่คะหลังจากนั้น ท่านจะรู้ได้ยังไงว่าเธอโหยหาโลกเบื้องบน ท่านจะใส่ใจเรื่องเหล่านั้นและสร้างทั้งห้องสมุดกับหอคอยตรงนี้ทำไม ถ้าหากไม่ได้เฝ้ามองเธอตลอดเวลาและต้องการให้เธอมีความสุข ความรักของท่าน ความรักที่เกิดจากหัวใจของท่านเองค่อย ๆ เติบโตขึ้น ฉันว่าบางทีการที่กามเทพแผลงศรใส่ท่าน คงไม่ได้หวังให้ท่านใช้แต่ความรักจากศรของเขาหรอกค่ะ แต่คงต้องการให้ท่านค่อย ๆ ปล่อยให้ความรักของตัวเองงอกงามต่างหาก ท่านเพียงแต่ไม่เคย -- สัมผัสคำว่ารัก จึงสับสนและคิดว่าทั้งความรู้สึกทั้งของท่านและเธอไม่ใช่ของจริง กระทั่ง -- ”
“ความรู้สึกของนางอาจไม่ใช่ของจริง”
“แต่ฉันคิดว่าจริงนะคะ”
“ทำไม”
“ฉันรู้สึกอย่างนั้น” เธอตอบโดยไม่ทันคิด “ขอโทษค่ะ -- ฉันเพียงแต่รู้สึกอย่างนั้น ท่านบอกว่า เทพีเพอร์ซีโฟเน่กลัวท่านมาก ความกลัวเปลี่ยนเป็นการแสดงความรักความห่วงใยไม่ง่ายดายหรอกนะคะ ฉันคิดว่านั่นไม่ใช่การเสแสร้ง”
“แต่นางไม่เคยบอกว่ารักข้า” น้ำเสียงของเขาเปี่ยมด้วยอารมณ์ขึ้นมาเล็กน้อย
“ไม่ได้หมายความว่าเธอจะไม่รักนี่คะ” เอเรอาญ์แย้ง “เพราะเธอกลัวว่าท่านจะไม่เชื่อหรือเปล่า เธอถึงไม่พูด”
น่าแปลกที่คราวนี้ฮาเดสไม่เถียงเธอเลย เขามองท้องฟ้าอย่างไร้จุดหมาย เอเรอาญ์มองไม่เห็นความรู้สึกบนใบหน้าหรือในดวงตาคู่นั้น แต่กลับรู้สึกได้ว่าปีกที่โอบรอบตัวเธออยู่สั่นสะท้าน
“คงจะจริง” เขาตอบในที่สุด “ข้าเองที่ปล่อยให้ทุกสิ่งสายไป”
“ท่านคะ -- ”
“ช่วยบอกข้าหน่อยได้ไหม... เจ้าคือเพอร์ซีโฟเน่จริง ๆ หรือเปล่า”
เขามองเธอ เธอสบตาเขา เอเรอาญ์พยายามคิด พยายามรู้สึกอะไรก็ได้ที่เทพีเพอร์ซีโฟเน่ควรจะรู้สึก แต่ก็ไม่มี เธอไม่รู้สึกอะไรเลย “ไม่ค่ะ” เธอตอบอย่างมั่นอกมั่นใจ “ฉันไม่ใช่เธอ”
“เจ้ามีดวงตาของนาง”
“แต่ฉันไม่รู้สึกเลยว่าฉันเป็นเธอ ไม่เคยเลยค่ะ”
“แต่เจ้าบอกว่าเจ้า... ” เขาอึกอักเหมือนเลือกคำพูดไม่ถูก “เจ้าบอกว่า... เจ้ารู้สึกได้ว่านางรักข้า”
“แต่ว่า -- ”
“เจ้าต้องเป็นนางสิ ข้าจะไปหานางจากที่ไหนได้พบ ในเมื่อข้าพบเจ้าแล้ว เจ้าถูกพวกข้างบนนั่นส่งมา เจ้าจะไม่ใช่นางได้ยังไง”
“ฉันขอโทษ” เธอส่ายศีรษะอย่างอับจนหนทาง “ฉันขอโทษ ฉันรู้สึกอย่างนั้นจริง ๆ ท่านเข้าใจใช่ไหม ฉันรู้สึกว่าฉันเข้าใจเธอ มันรู้สึกเหมือนกับเวลาที่ฉันเข้าใจหรืออ่านความรู้สึก ความคิดของอาเธอร์ออก แต่ฉันไม่เคยรู้สึกว่าฉันเป็นเธอเลย”
“ถ้าหากเจ้าไม่ใช่นาง ข้าจะไม่มีวันได้รู้เลยว่านางรักข้าหรือไม่”
“แต่เธอจากไปแล้วนี่คะ สิ่งเดียวที่พอจะทำได้คือเก็บความรู้สึกทั้งหมดที่เธอเคยแสดงออกเอาไว้ในความนึกคิดของท่านเท่านั้น เทพฮาเดส!”
เธอร้องอุทานเมื่อเขาดึงตัวเธอเข้าไปกอดอย่างรวดเร็ว เอเรอาญ์ไม่รู้สึกว่ามันเป็นการบังคับ ตรงกันข้าม เธอกลับรู้สึกเหมือนน้ำตาจะไหลออกมาเสียให้ได้
“ข้าจะไม่มีวันได้แน่ใจในความรู้สึกของตัวเอง และพูดคำว่ารักออกมาได้อีกเลย”
เขากระซิบ มันแหบแห้งเหมือนเสียงของทานาทอส แต่ฟังแล้วเจ็บปวดกว่ากันมาก เอเรอาญ์ไม่ได้กอดเขาตอบ เธอได้แต่ยืนอยู่ตรงนั้น ไม่รู้จะอธิบายอะไรให้เขาฟัง
“ฉันขอโทษค่ะ... ”
เธอไม่รู้ว่าเขาได้ยินเธอหรือเปล่า แต่เขาไม่ได้คลายอ้อมแขนลงเลย มันเป็นเวลานานแสนนานเหมือนนาฬิกาทุกเรือนบนโลกหยุดเดินในวินาทีนั้น
แต่แล้วจู่ ๆ เขาก็ดันตัวเธอออก สีหน้าเคร่งเครียด
“เกิดเรื่องแล้ว”
เขาพูดแค่นั้น ใบหน้าดูว้าวุ่น เอเรอาญ์ยังไม่ทันสัมผัสได้ถึงอะไรเลยตอนที่เขาดึงแขนเธอ และมาปรากฏตัวอีกครั้งในห้องของเธอทันที
“ทานาทอส น้องข้า! จะว่าไปเจ้าอยู่ไหน! ข้าคิดว่า -- ”
“ฮีป! หยุดส่งเสียงเสียที! ”
เสียงทานาทอสตะคอก มันดังก้องพระบัญชรว่าการที่ว่างเปล่า “อะไรปลุกเจ้าขึ้นมาล่ะ หรือลืมอีกแล้วว่าเจ้าวิญญาณครึ่งเป็นครึ่งตายไม่ได้อยู่กับเจ้า มันไม่ได้หนีไป”
“ไม่ใช่ -- ” ฮิปนอสหอบหายใจ “ไม่เกี่ยวกับอาเธอร์ อาร์เรห์น” เทพแห่งความหลับใหลถึงกับต้องยกมือขึ้นพิงผนัง “เทพีดีมิเทอร์มาที่นี่ ข้าสัมผัสได้”
“อะไรนะ! ”
อาจดูประหลาดที่เทพีแห่งพืชพรรณธัญญาหารซึ่งไม่น่าจะเป็นพิษภัยได้ทำให้เทพเจ้าทั้งสองแห่งยมโลกแตกตื่น แต่ทั้งฮิปนอสและทานาทอสมีเหตุผลที่เป็นอย่างนั้น
“ข้าไม่รู้ว่ามาที่นี่ด้วยเหตุใด สัมผัสได้แต่ว่านางอยู่ไม่ไกลจากแม่น้ำลีธี”
“ยังไม่ถึงวสันตฤดู” ทานาทอสแย้ง ความตื่นตระหนกของพี่ชายทำให้เทพแห่งความตายสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายที่ค่อย ๆ เข้มข้นขึ้นได้เช่นกัน แม่น้ำลีธีอยู่ไกลจากพระบัญชรว่าการมากกว่าตัวปราสาท “เทพีดีมิเทอร์ไม่มีสิทธิ์ทวงคืนองค์ราชินีกลับไป”
“ข้าไม่รู้... ”
ทานาทอสจ้องมองใบหน้าของพี่ชาย รู้สึกเหมือนปากและลำคอแห้งผาก
“เราไปที่นั่นกันเถอะ”
ฮิปนอสทำเสียงเหมือนแมวคราง
ความคิดเห็น