หลางหยาป่างตอนพิเศษ
เหมยฉางซู : "ถวายบังคมฝ่าบาท"
จิ้งเหยียน : "ลุกขึ้นเถอะเสี่ยวซูเจ้าล้มป่วยเช่นนี้ไม่ต้องมากพิธี"
เหมยฉางซู : "หม่อมฉันไม่คิดว่าฝ่าบาทจะเสด็จมาด้วยพระองค์เองเช่นนี้"
จิ้งเหยียน : "เรียกชื่อข้าเถอะ เหมิงจื้อบอกข้าว่าเจ้าป่วย"
เหมยฉางซู : "ที่ไหนกัน เหมิงจื้อกระต่ายตื่นตูมไปแล้ว ดูข้าสิ"
บอกพร้อมกางแขนออกข้างตัว เผยให้เห็นแขนที่ผอมบาง โผล่พ้นชายเสื้อนั้น แลดูขาวเนียนเยี่ยงสตรี ช่างบอบบางยิ่งนัก "ข้าแข็งแรงดี"
ลิ่นเฉิน. : "ถ้าแข็งแรงดังเจ้าว่างั้นถือชามข้าวต้มสมุนไพรถ้วยนี้แล้วกินเสียให้หมด ห้ามเหลือนะ ข้าฝากฮ่องเต้ช่วยเฝ้าดูแทนข้าด้วย เฟยหลิว ลงมาเล่นข้างล่างนี้ ข้ามีของจะให้เจ้า ลงมาเร็วๆ"
เฟยหลิว. : "ไม่เอา"
ลิ่นเฉิน :"น่าหงุดหงิดจริงเจ้าเด็กนี้ ถ้าไม่ลงมาข้าจะขึ้นไปจับเจ้าลงมานะ"
แต่มีหรือที่เฟยหลิวจะรอนะให้จับ ต่างวิ่งไล่หนีกันให้วุ่นทั่วหลังคาบ้าน ส่วนในตัวบ้าน คนป่วยกำลังโดนบังคับให้กินข้าวต้มสมุนไพร
จิ้งเหยียน : "แค่ถือชามข้าว เจ้ายังมือสั่นระริก เอามานี้ข้าป้อนเจ้าเอง"
ว่าพลางดึงถ้วยข้าวต้มมาไว้ในอุ้งมือ แล้วใช้ช้อนไม้ตักข้าวต้มมาเป่าให้คลายร้อน ก่อนนำมาจ่อที่ปากทำตาดุใส่คนป่วย "กิน"
เหมยฉางซู : "ข้ากินเองได้ ไม่ต้องลำบากท่านหรอก"
จิ้งเหยียน : "ข้าไม่ได้ลำบากอะไร เสี่ยวซูห้ามดื้อ ข้าบอกให้เจ้ากิน"
ก่อนทำตาดุใส่อีกรอบ สุดท้ายคนป่วยยอมแพ้ คนป้อนเผยยิ้มบางๆ เมื่ออีกฝ่ายยอมกินแต่โดยดี เขาตักป้อน และทิ้งระยะให้อีกฝ่ายเคี้ยวกลืนไปเรื่อยๆ เวลาล่วงเลยผ่าน ลมโชยบางๆผ่านม่านไม้ไผ่เป็นระยะ หนึ่งฮ่องเต้หนึ่งบุรุษช่างเป็นภาพที่งดงามยิ่งนัก
เหมยฉางซู : "ข้ารู้สึกอิ่มแล้ว"
จิ้งเหยียนก้มมองในชามข้าวต้มใบเล็ก เห็นว่าเหลืออีกคำเดียวก็หมดแล้ว
จิ้งเหยียน : "เสี่ยวซูเจ้ากินน้อยยิ่งกว่าแมวดมเสียอีก เหลืออีกแค่คำเดียว เจ้ากินให้หมดเถอะ"
แววตาไม่ได้บังคับ แต่ช้อนมาจ่อที่ปาก สายตามิตั้งใจประสานกัน คนผิวขาวบางขึ้นสีระเรื่อที่แก้ม อ้าปากรับข้าวต้มช้อนนั้น แม้นไม่เอ่ยอันใด ต่างเข้าใจถึงความรู้สึกของกันและกัน
อิอิ แต่งเองฟินเอง????????????????????????
ความคิดเห็น