ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    บุคคลและประวัติศาสตร์ในชาติต่าง ๆ

    ลำดับตอนที่ #39 : ราชวงศ์ชิง

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 69
      0
      27 ม.ค. 54

    ราชวงศ์ชิง
    中国国际广播电台
     

    ราชวงศ์ชิงเริ่มตั้งแต่ปีค.ศ.1644 และสิ้นสุดลงในปี 1911 ตั้งแต่จักรพรรดินูรฮาจีชื่อจนถึงจักรพรรดิผู่อี๋ มีจักรพรรดิทั้งหมด 12 พระองค์  ปกครองแผ่นดินจีนนานถึง 268 ปี

    ดินแดนของจีนในสมัยนั้นในช่วงที่กว้างใหญ่ที่สุดมีมากกว่า 12 ล้าน ตารางกิโลเมตร เมื่อค.ศ.1616 นูรฮาจี หัวหน้าชนเผ่าแมนจูได้สร้าง”จินยุคหลัง” จนถึงปี 1636 หวงไท่จี๋ โอรสนูรฮาจีชื่อเปลี่ยนชื่อราชวงศ์เป็น”ชิง” ปี 1644 หลี่จื้อเฉิง แม่ทัพชาวนาได้ยกทัพเข้าตีกรุงปักกิ่ง และโค่นการปกครองของราชวงศ์หมิงลง จักรพรรดิฉงเจิน กษัตริย์องค์สุดท้ายของราชวงศ์หมิงผูกพระศอสิ้นพระชนม์ที่เชิงเขาจิ่งซัน ซึ่งอยู่ติดกับพระราชวังโบราณ ทหารราชวงศ์ชิงได้ฉวยโอกาสเข้าโจมตีทหารชาวนา และประสบชัยชนะในที่สุด จากนั้นจึงย้ายเมืองหลวงจากภาคอีสานของจีนมาอยู่ที่กรุงปักกิ่ง ต่อมา ราชสำนักชิงค่อยๆปราบปรามกบฏชาวนาในท้องที่ต่างๆของจีน และอิทธิพลหลงเหลือของราชวงศ์หมิงที่คิดจะฟื้นฟูหมิงทางภาคใต้ของจีน จนกระทั่งได้ปกครองทั่วทั้งประเทศจีนในที่สุด

    เพื่อให้ความขัดแย้งระหว่างชนชั้นต่างๆผ่อนคลายลง ในระยะต้นๆ ราชสำนักชิงได้ดำเนินนโยบายส่งเสริมการทำไร่ไถนา ขยายพื้นที่เพาะปลูก และลดหรือยกเลิกภาษีอากรของชาวไร่ชาวนาตามสมควร ทำให้สังคมจีนในสมัยนั้นพัฒนาก้าวหน้า กลางศตวรรษที่ 18 เศรษฐกิจสังคมศักดินายุคชิงได้พัฒนามากสู่ระดับสูงสุด ได้รับสมญาว่าเป็น”สมัยที่เจริญรุ่งเรืองคังยงเฉียน” ระบบการปกครองแบบรวมอำนาจที่ศูนย์กลางมีความสมบูรณ์และทั่วถึงมากยิ่งขึ้น ประเทศจีนมีความเข้มแข็งเกรียงไกร สังคมสงบเรียบร้อย ถึงปลายศตวรรษที่ 18 ประชากรจีนมีจำนวนถึง 3 ร้อยล้านคน

    ในปี 1661 แม่ทัพเจิ้งเฉิงกงได้นำกองเรือรบข้ามช่องแคบไต้หวันไปสู่เกาะไต้หวัน พิชิตอาณานิคมชาวเนเธอร์แลนด์ที่ยึดครองไต้หวันนาน 38 ปี ในต้นปี 1662 ทหารเนเธอร์แลนด์ยอมจำนนต่อราชวงศ์ชิง ไต้หวันได้กลับคืนสู่อ้อมมาตุภูมิ

    ปลายศตวรรษที่ 16 รัสเซียในสมัยพระเจ้าซาร์แผ่ขยายอาณาจักรมาทางตะวันออก ในช่วงที่ทหารแมนจูบุกลงใต้ ประเทศจีนเกิดความปั่นป่วน รัสเซียได้ฉวยโอกาสยึดครองเขตยาคึซา เขตหนีปู้ฉู่และเขตพรมแดนอื่นๆของจีน ราชสำนักชิงได้ประท้วงและเรียกร้องให้ทหารรุกรานชาวรัสเซียถอนตัวออกจากดินแดนของจีน ในค.ศ.1685 ถึง 1686 จักรพรรดิคังซีได้ยกทัพไปโจมตีทหารรัสเซียที่ประจำเขตยาคึซา บังคับให้รัสเซียยอมเข้าร่วมการเจรจาเพื่อแก้ไขปัญหาปักปันเขตแดนภาคตะวันออกของจีน ปี 1689 ผู้แทนจีนและรัสเซียได้จัดการเจรจาที่เขตหนีปู้ฉู่ ลงนาม”สนธิสัญญาหนีปู้ฉู่”อันเป็นสนธิสัญญาว่าด้วยการปักปันเขตแดนฉบับแรกของจีนกับรัสเซีย

    กลางรัชกาลจักรพรรดิ์เฉียนหลง ราชสำนักชิงใช้กำลังทหารปราบปรามอิทธิพลแบ่งแยกประเทศของเผ่าจุ่นเก๊อะเอ่อและกบฎของต้า-เสี่ยวเหอจั๊วะของเผ่าหุย ทำให้เขตซินเกียงสงบเรียบร้อยลง ดำเนินนโยบายและใช้มาตรการต่างๆ เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจ วัฒนธรรมและการคมนาคมของเขตชายแดนของจีน

    สมัยราชวงศ์ชิง จีนได้ประสบผลสำเร็จอันใหญ่หลวงในด้านวัฒนธรรม ปรากฏนักคิดยอดเยี่ยมหลายคน เช่นหวางฟูจือ  หวงจงซี  กู้เอี๋ยนอู่  ตลอดจนไต้เจิ้นเป็นต้น  ขณะเดียวกัน ก็มีนักเขียนและศิลปิน มีชื่อเสียงโด่งดังในประวัติศาสตร์จีน อาทิเช่นนายเฉาเสวี่ยฉิน  ผู้ประพันธ์”ความฝันในหอแดง”  อู๋จิ้งจือ  ข่งซ่างเหยิน  ในด้านการวิจัยประวัติศาสตร์ ราชวงศ์ชิงก็มีผลงานสะสมจำนวนมาก มีนักศึกษาค้นคว้าฝ่ายต่างๆเกิดขึ้นไมาขาดสาย  ได้ปรากฏ หนังสือ”สื้อคู่ฉวนซู” “กู่จินถูซูจิ๊เฉิง”อันเป็นหนังสือสรรนิพนธ์รวมชุดขนาดใหญ่ จีนสมัยราชวงศ์ชิงยังได้ประสบผลสำเร็จในด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีจำนวนมาก โดยเฉพาะด้านสถาปัตยกรรมการก่อสร้าง

    สำหรับเศรษฐกิจในสมัยนั้น จีนสมัยราชวงศ์ชิงยังคงเป็นประเทศเกษตรกรรม ในด้านวัฒนธรรมและความคิด ราชวงศ์ชิงยังคงส่งเสริมหลักการและคำสอนต่างๆของสังคมศักดินาที่สืบทอดกันมา เพื่อพิทักษ์การปกครองของจักรพรรดิ ราชวงศ์ชิงได้จำคุกบุคคลส่วนหนึ่งในสังคมเพราะเขียนบทประพันธ์ที่เสียดสีหรือแสดงความคิดเห็นคัดค้านต่อต้านราชวงศ์ชิง  ความสัมพันธ์ด้านต่างประเทศนั้นปิดประเทศมาช้านาน  จึงหลงภูมิใจในตน.

    หลังช่วงกลางราชวงศ์ชิง ความขัดแย้งทางสังคมต่างๆนับวันรุนแรงยิ่งขึ้นและปรากฏชัดเจนยิ่งขึ้น เกิดการกบฎต่อต้านราชวงศ์ชิงไม่ขาดสาย การเกิดกบฎลัทธิไป๋เหลียนเจี้ยวทำให้ความเจริญรุ่งเรืองของราชวงศ์ชิงสิ้นสุดลง

    สงครามฝิ่นที่เกิดขึ้นในค.ศ.1840 และการรุกรานของจักวรรดินิยมต่างประเทศบีบ บังคับให้ราชสำนักชิงต้องลงนามสนธิสัญญาที่ไม่เป็นธรรมต่างๆกับจักรวรรดินิยมต่างชาติที่รุกรานจีน ปักปันดินแดนและจ่ายค่าปฏิกรรมสงคราม ให้กับผู้รุกราน เปิดเมืองท่าให้ชาวต่างชาติ ทำให้สังคมจีนค่อยๆกลายเป็นสังคมกึ่งเมืองขึ้นกึ่งศักดินา ปลายราชวงศ์ชิง การเมืองทุจริตเน่าเฟะ กระแสความคิดสังคมไม่ได้พัฒนา ประชาชนจีนที่ติดยาฝิ่นร่างกายอ่อนแอขาดความมั่นใจในตนเอง สังคมศักดินาจีนค่อยๆเข้าสู่ระยะเสื่อมโทรม ประชาชนจีนมีความเดือดร้อนทุกข์ยาก จึงก่อการเคลื่อนไหวต่อต้านจักรวรรดินิยมและศักดินานิยมต่างๆ เช่น การเคลื่อนไหวไท่ผิงเทียนกั๋ว ซึ่งเป็นกบฎชาวนา มีอิทธิพลใหญ่หลวง โจมตีการปกครองของราชวงศ์ชิงอย่างรุนแรง เพื่อช่วยประเทศชาติและกอบกู้ชะตากรรมของตน ภายในชนชั้นปกครองราชวงศ์ชิงได้ดำเนินการปฏิรูปบ้าง เช่น การเคลื่อนไหวหยังอู้ ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ราชสำนักชิงส่งนักศึกษาไปเรียนต่อที่ต่างประเทศและศึกษาประสบการณ์จากประเทศฝรั่งที่ทันสมัยแล้ว และปฏิรูประบอบการเมืองอู้ซวีซึ่งมุ่งปฏิรูประบอบการปกครองแบบศักดินาของจีนและต่อต้านการปกครองประเทศแบบเผด็จการของชนชั้นเจ้านายที่ดิน นักปฏิรูปคิดที่จะสร้างฟื้นฟูความเจริญรุ่ง เรืองและมั่งคั่งให้กับประเทศจีนจากระดับบนสู่ระดับล่าง แต่ต้องประสบความล้มเหลวในที่สุด บุคคลที่มีอุดมคติกว้างไกลและมีวิสัยทัศน์และวีรบุรุษที่ยอมเสียชีวิตเพื่อประเทศชาติจำนวนนับไม่ถ้วน ได้ต่อสู้รุ่นแล้วรุ่นเล่า กระแสชาตินิยมของจีนได้พัฒนาไปสู่จุดสูงสุดในยุคใกล้อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ในปีค.ศ.1911 การปฏิวัติซินไฮ่ ดร.ซุนยัดเซ็นเป็นผู้นำได้โค่นล้มการปกครองของราชวงศ์ชิง และสิ้นสุดสังคมศักดินาจีนซึ่งมีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 2,000 ปี ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา ประวัติศาสตร์จีนได้เข้าสู่ยุคใหม่
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×