คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #17 : #14# คืนพิเศษ
ผมเดินตัวเปียกๆ กลับที่พักกับจิง เราจับมือกันอยู่อย่างนั้นจนเกือบถึงที่หมายก็ปล่อยออก แล้วผมก็เปลี่ยนเป็นกอดคอมันแทน จิงยิ้มนิดๆ แล้วก็ยกแขนขึ้นมากอดคอผมบ้าง
“ไปไหนมาวะ เปียกเชียวพวกมึง”ไอ้ฟี่ร้องถาม ผมกับไอ้จิงยิ้มๆ แต่ไม่ได้ตอบอะไร
“ไปอาบน้ำไปนางฟ้า ท็อป จะได้รีบลงมา เออแล้วก็ไปปลุกมิ้นด้วย มันขึ้นไปนอนตั้งนานละยังไม่ลงมาเลย”เบลว่า พวกผมโค้งให้คุณแม่ดีเด่นไปทีนึงก่อนจะวิ่งหนีตรีนเบลเข้าบ้าน
พอเข้ามาไอ้ซันกับจูนก็กำลังยกอาหารสดที่จะเอามาย่าง มาเผากินกันคืนนี้ออกมา มันสองคนคุยกันกระหนุงกระหนิงแบบไม่ได้เกรงใจไอ้จิง ส่วนไอ้จิงก็ได้แค่มองๆ ก็แหงอ่ะครับ ดูท่าว่าจูนไม่ได้อะไรกับไอ้ซันแล้ว เหมือนจะชอบๆ ด้วยซ้ำ จิงมันจะเอาอะไรไปขัดเพื่อนมัน...
“เห็นแล้วรมณ์เสียว่ะมึง”มันหันมาพูดขณะที่เรากำลังเดินขึ้นบันไดไปที่ห้อง ผมแอบสะดุดในน้ำเสียงและคำพูดของไอ้จิงนิดนึง ก่อนจะเอื้อมมือไปแตะไหล่มันเบาๆ เชิงให้ใจเย็น
“ก็กูบอกไรมันก็ไม่ฟังอ่ะ ช่างแม่ม ท้องแล้วเรียนไม่จบก็จะไม่ไปแก้ตัวกะแม่ให้หรอก”มันว่างอนๆ ผมก็ได้แต่ขำๆ กับท่าทางของมัน ในใจก็ได้แต่คิดว่าจิงห่วงจูนในฐานะเพื่อนสนิทเพื่อไม่ให้ตัวเองคิดมาก
“เอาน่ามึง กูก็พอจะรู้ลิมิตไอ้ซันอยู่ว่ามันเป็นคนแบบไหน อย่าไปคิดมากน่ามึง”ผมว่า ไอ้จิงหันมายิ้มหน่อยๆ แล้วก็ไม่พูดอะไร เปิดประตูเดินเข้าห้อง หยิบของเข้าห้องน้ำไปเงียบๆ คนเดียว
พอมันเข้าห้องน้ำไปก็เหลือผมที่ยังไม่ได้ทำอะไร ก็เลยคิดว่าจะเอาเสื้อผ้าไปอาบน้ำห้องไอ้ฟี่ไอ้มิ้นมัน แล้วก็ถือโอกาสปลุกไอ้เชี่ยมิ้นด้วยเลย
ผมเดินออกจาห้อง ตรงไปที่ห้องตรงกันข้าม ผมเคาะประตูเบาๆ อยู่หลายที่ก็ไม่มีคนตอบ เลยเปิดเข้า แล้วภาพตรงหน้าก็ทำเอาผมอึ้ง!
“เอ่อ...คุณ?”ถ้าวันคุณเดินเข้ามาหาเพื่อนที่สนิทกันมาสามปีในห้องนอนที่คาดวาจะมีมันอยู่คนเดียว แล้วพบว่าไม่ใช่มันคุณจะคิดยังไง
“เหะ?”คนที่นั่งอยู่ขอบเตียงในชุดเดียวกับไอ้มิ้นลืมตาขึ้นข้างนึงเหมือนถาม
“ไอ้มิ้นอ่ะครับ”ผมพูดกับเขา พร้อมทั้งมองว่า คนคนนี้เหมือนเพื่อนผมมากอยู่เหมือนกัน เว้นก็แต่ทรงผมฟูๆ ที่มองเห็นตรงโคนผมว่าเป็นสีตาลอ่อนกว่าสีเดิมมาก ซึ่งไอ้มิ้นจะหวีผมรีบไม่มีใครเคยเห็นหนังหัวเว้นแต่ทรงที่แสก กับการที่ไม่ใส่แว่น
“กูนี่ไง”มันว่าแล้วก็สะบัดหัวไปมา ผมมองมันอึ้งกว่าเดิมๆ ก่อนที่มันจะปลุกขึ้นหันหลังให้ แล้วคว้าอะไรๆ เข้าห้องน้ำไป...
.......................................... มะกี๊กูตาฝาดเปล่าวะ ไอ้มิ้นเนี่ยนะ ......................................................
ผมหอบข้าวขของกลับมาที่ห้องแบบงงๆ เอ๋อๆ ในใจก็นึกด่าตัวเองไป ..เมื่อกี๊กูตาฝาด? ไอ้เชี่ยมิ้นมันสามารถดูดีได้ขนาดนั้น? ไม่จริงมั๊ง กูอ่านฟิคมากไปจนคิดว่านางเอกรึพระเอกจะสามารถเปลี่ยนลุคแล้วดูดีได้หรอวะ?
“เป็นไรวะ”ไอ้ซันที่เหมือนจะเพิ่งขึ้นมาร้องถามผม ผมส่ายหัวเบาๆ แล้วหันมองหน้ามัน..
“มึงว่าคนเราพอเปลี่ยนลุคแล้วจะดูดีแบบคนละคนได้ไหม๊ว่ะ”ผมถามไอ้ซัน ไอ้หมานี่ก็ทำหน้าแบบความงงครับ แล้วก็เอาหลังมือแปะหัวผมข้างนึงหัวมันข้างนึงเหมือนวัดไข้
“ไม่ได้ป่วย ..แล้วนึกไงถามไรแบบนี้ ชีวิตครับเพื่อนชีวิต ไม่ใช่ฟิคเกย์”ไอ้เจี้ยนี่ นี่แหละฟิคเกย์ซึ่งมีกูเป็นพระเอกแล้วมึงเป็นเบ๊พระเอก ฮ่าๆ
“เออ งั้นกูคงตาฝาด”พูดจบไอ้จิงงก็เปิดประตูห้องน้ำออกมาพอดี ผมถือของเดินสวนเข้าไปแล้วเริ่มภารกิจ โดยไม่ได้นึกถึงเรื่องก่อนหน้าอีก เพราะมังแต่ฟังไอ้สองตัวข้างนอกคุยกัน แอบหวั่นว่าไอ้ซันนึกคึกอยากเป็นไบแล้วมาปล้ำไอ้จิง เดี๋ยวกูจะไม่ได้เมีย
“มันบ้ากูว่า”ผมแอบได้ยินไอ้จิงพูด มันด่าใครวะคนอ่าน?
“เอ๋อด้วย”ไอ้ซันเสริม นี่กูตงิดนะเนี่ย
“แต่มันก็ทำตัว งงๆ มาตั้งนานแล้วล่ะไอ้ห่านนี่หน่ะ”ไอ้จิงพูดต่อ ผทเริ่มเกาคางตัวเองแบบบคิดๆๆๆๆ ใครวะ บ้า เอ๋อ งงๆ ไม่ใช่กูหรอก เพราะกูหล่อ((ไม่เกี่ยว))
“น่าสงสารวินนี่จริงๆ มีพี่แบบไอ้เชี่ยท็อป”พูดจบก็ได้ยินเสียงมันหัวเราะกัน พี่วินนี่ ชื่อท็อป ไอ้เชี่ยนี่ชื่อคุ้นมาก เหมือนกูจะรู้จัก อ๋อออ ..กูนี่เอง
“แสรดดด แล้วกูมายืนฟังมันสองตัวนินทาทำไมวะ”
ผมเลิกนอยแดกเรื่องความหล่อของไอ้มิ้น พร้อมกับเดินลงมาข้างล่างพร้อมไอ้ซัน โดยที่จิงมันเดินลงมาก่อนแล้ว เพราะว่าจะมาช่วยพวกเบลเตรียมของ ซึ่งแน่นอนว่าไอ้เจี้ยซันเลยต้องรอผม
“แล้วมึงไปเจอไรมาวะ”จู่ๆ ไอ้ลูกครึ่งสามสัญชาติก็ถามผมขึ้นมา ผมหันหน้าหล่อๆ ไปมองแล้วก็เอ๋อใส่
“เจอ?”ไอ้ซันขมวดคิ้วแล้วทำท่าจะถีบผมตกบันได ก็กูไม่รู้นี่นาว่ามึงถามเรื่องไร
“ที่ถามกูก่อนไปอาบน้ำอ่ะ”มันว่า ผมคิดนิดนึงก่อนจะหันมายิ้มให้มันบางๆ
“ไม่มีไรหรอกน่ามึง”ว่าจบก็จะเดินลงมา แต่ไอ้จวยนี่ก็ดึงเสื้อไว้ แล้วมองหน้าคาดคั้น แสรดดดด อยากรู้ทุกเรื่องอ่ะไอ้ซันเอ๊ย!
“กูเห็นไอ้มิ้นมันหล่อแค่นั้นแหละ”ว่าจบไอ้ซันก็ขำครับ ทำไมอ่ะ?? ก๔ผิดหรอที่มองมันหล่อ ที่จริงไออ้มิ้นก็ไม่ได้หน้าแย่อะไร แต่มันชอบทำหน้าเฉยชาไร้ความรู้สึก หวีผมทรงเดียว ไม่เคยเซททรงให้ดีหรือวัยรุ่น ไม่เคยถอดแว่น ขนาดตอนนอนไอ้ฟี่มันยังเล่าว่าไอ้มิ้นถอดแว่นปั๊ปก็ดึงไอ้ผ้าปิดตามาปิดตาทันที แล้วก็อ้างว่าปวดตา ตอนไปร้องเพลงเป็นวงก็เหมือนกัน ไอ้นี่ไม่เคยแต่งตัวเหมือนคนอื่นๆหรอก เป็นตัวของตัวเอง แต่งผมเรียบกริบเหมือนเวลามามหาลัย -*-
“มึงฝัน?”ไอ้จวยนี่ก็กวนตีนครับ ผมส่ายหัวระอามัน ถึงกูไม่ฉลาดเท่าไร แต่กูไม่ขนาดที่แยกหล่อกับธรรมดาไม่ออกหรอกนะเว้ย!
“กูว่าไม่”ผมตอบไปงงๆ ไอ้ซันมองหน้ามองด้วยสายตาคาดคั้นอยากรู้อยากเห็นของมันเอง
“กูเห็นโคนผมมันเป็นสีน้ำตาลอ่อนกว่าผมด้านนอก ไม่ใส่แว่น แล้วก็....”ผมไม่พูดต่อ เพราะคิดว่าอันนั้นคงตาฝาดไปเองจริงๆ ไอ้ซันขมวดคิ้วน้อยๆ
“แล้วไร?”มันว่า ผมส่ายหัวเบาๆ เชิงบอกว่าอันนั้นคงไม่ใช่ มันก็พยักหน้าเข้าใจ แล้วตอบผมกลับมา
“มึงรู้ไหม๊ ที่จริงแล้ว ไอ้มิ้นมันเคยเป็นคนดังของโรงเรียนเรา”ผมงงสิครับ ไอ้เรื่องคนดังของโรงเรียนเนี่ยมันก็ต้องเรียนจบที่เดียวกันดิ แล้วที่ไอ้ซันพูดเหมือนไอ้มิ้นจะจบที่เดียวกันกับพวกผม((ทั้งที่ไม่น่าใช่)) แล้วไอ้ตำแหน่งนั้นก็เป็นของเด็กสายวิทย์คนนึงที่เด็กๆ มันเรียกกันว่า พี่ปริ๊น
“ตลก! ไอ้มิ้นมันจบที่เดียวกะกูกะมึงที่ไหน”ผมว่า ไอ้ซันยิ้มบางๆ แต่ไม่ตอบอะไร เดินนำลิ่วลงไปรวมกับคนอื่นๆ โดยทิ้งผมไว้ตรงนั้นคนเดียว ไอ้จวย!
พวกเราเริ่มตั้งวง(เหล้า)กินข้าวกันทันทีที่เตาปิ้งอาหารสดพร้อม ผมกับไอ้จิงถูกกีดกันจากไอ้เชี่ยฟี่ให้นั่งตรงข้ามกันเพราะมันจะนั่งตรงข้ามวินนี่ ตกลงนี่กูต้องยอมมึงที่จะสมัครเป็นน้องเขยกูใช่ไหม๊
“แล้วไอ้มิ้นนั่งไหนวะ เก้าอี้แม่งไม่พอ”เบลที่เริ่มห่ามขึ้นตามข้างขึ้นข้างแรมเอ่ยปากเสียงเรียบ ผมหันไปมองมันที่มองหาที่นั่งด้วยแววตาเฉยชา ก่อนจะพุดขึ้น
“ไปลากเก้าอี้มานั่งข้างไอ้ซันไปมึง”มันพยักหน้ารับเบาๆ ก่อนจะหายเข้าไปลากเก้าอี้หัวโล้นสีส้มสดใสมานั่งข้างไอ้ซันตรงตำแหน่งหัวโต๊ะ โดยตรงข้ามมันกับไอ้ซันก็เป็นเบลกับจูนที่นั่งคุยกันกระหนุงกระหนิงตามประสาสาวเถื่อน-*-
“มึงเอานี่ป่าวจูน”เบลว่า พลางใช้ส้อมจิ้มกุ้งมาโชว์ จูนมองน้อยๆ แล้วพยักหน้ารับ
“แล้วไม่ให้กูอ่ะ”จูนถามหลังจาหที่ตอบแล้วเบลก็เอากุ้งตัวนั้นใส่จานต้องเองแล้วแกะกินตามสะดวก เบลหันมายิ้มบางๆ แล้วตอบไป
“ถามเฉยๆ ไม่ได้บอกจะให้”หลังจากนั้นมันก้เถียงกันต่อแบบธรรมชาติของมันสองตัว คนนึงห่าม คนนึงแอบห้าว
“อ่ะ”ไอ้จิงจิ้มปลาหมึกที่มันเพิ่งหั่นเสร็จเมื่อครู่มาให้ผมแล้วยิ้มๆ ผมยิ้มตอบบ้างแล้วจิ้มน้ำจิ้มครึ่งนึงก่อนส่งคืนให้มัน
“กูจะอิ่มกว่าถ้ามึงได้กิน”ผมว่าโดยไม่สนใจเพื่อน เพราะความจริงแล้วก็ไม่มีใครสนใจผมสองคน ไอ้ฟี่ก็ม่อวินนี่ตักนู่นนี่ให้แบบำม่กลัวเพื่อนจะไม่มีแดรก ไอ้ซันก็ส่งสายตากะจูนจนมดแทบขึ้นน้ำจิ้มซีฟู๊ด เบลกับไอ้มิ้นก็ไปยืนช่วยกันปิ้งอาหารบริการเพื่อนกันไป ดูมาเป็นคู่ๆ ดี แต่ที่เห็นท่าไม่ค่อยดีคงเป็นไอ้มิ้นที่ปิ้งปลาหมึกไป กระดกเบียร์ไปอั่กๆ
“ไม่ใช่โค้กนะเว้ย กระดกซะน่ากลัวเขียว”เบลว่าเสียงหลง ไอ้มินหันไปยิ้มมุมปากให้ก่อนจะบีบกระป๋องเบียร์ในมือจนบุบ แล้วโยนใส่ถังขยะอย่างไม่ยี่หร่ะ
“ไอ้ซัน กูขออีกกระป๋อง”มันหันมาว่า ไอ้ซันขมวดคิ้วแล้วหันไปหยิบในกระติกมายื่นให้
“มึงแดกจะห้ากระป๋องแล้วนะตั้งแต่เริ่มเนี่ย”ไอ้มิ้นยิ้มรับ มือมันก็เปิดกระป๋องไป โดยที่สายตาของมันจบไปที่..ไอ้ฟี่ที่ร่าเริงอยู่กับการจีบวินนี่...
........................................... แค่เห็นกูยังรู้สึกแย่แทนมึงเลยว่ะมิ้น .........................................
ฉันนอนไม่หลับ ~~~~~~~~
เสียงโทรศัพท์ของวินนี่ดังขึ้นท่ามกลางวงพี่ๆ ของมัน วินนี่ยิ้มบางๆเชิงขออนุญาต ก่อนจะเดินออกไปตรงชายหาดเพื่อนรับโทรศัพท์ ไม่ทันที่จะได้หันมองหน้าใครเสียงโทรศัพท์อีกเครื่องก็ดังขึ้นพร้อมกับทุกสายตาที่จ้องไปทางเจ้าของ....
แค่อยากรู้รังเกียจกันไหม๊ ขอให้มัน...~~~~~~~
“ครับ”ไอ้มนุษย์สูบเบียร์รัโทรศัพท์เสียงนุ่ม พวกผมหันกลับมาก่อนจะสะดุดกับชื่อที่หายไปนานที่มันเอ่ยออกมา...
“พี่มิ้วกลับมาแล้วหรอ คิดถึงจัง มิ้นอยู่ทะเลกับเพื่อนครับ”มันว่าเสียงใส พลางยกเบียร์ขึ้นจบ แต่พวกผมนี่นิ่งเลยครับ แข็งกว่าตอไม้อีก
..................... พี่มิ้วที่ได้ข่าวว่าเป็นแฟนคนนึงของไอ้มิ้น ..................
“เป็นไรกันวะ ทำไมทำหน้าแบบนั้น”ไอ้มิ้นที่วางสายพี่มิ้วของมันไปแล้วหันมาตามด้วยน้ำเสียงสดใสขึ้น
“นั่นสิคะ”วินนี่ที่เพิ่งกลับเข้ามาก็ถามอีกเช่นกัน พวกผมที่เหลือมองหน้ากันเลิ่กลั่กจนไอ้จิงตอบไป
“พี่มิ้วไปไหนมาวะ”ที่จริงเขาไม่เรียกว่าถามใช่ไหม๊ครับ
“ไปทำงานมา หายไปเกือบสามเดือน คิดถึงโครต”ตอบแล้วก็ยิ้มออกมาแบบที่มันทำไม่บ่อย
“พี่มิ้ว? อ๋อ พี่ผู้ชายที่ขาวๆ ตาเล็กๆ ผมน้ำตาลๆ สูงๆ ใช่ไหม๊คะ”วินนี่ว่า ไอ้มิ้นพยัหหน้าแรงๆ รับ แล้วกระแทกตัวนั่งข้างไอ้ซัน
อยากรู้ไหม๊ครับว่าทำไมพวกผมที่เหลือถึงได้คอตั้งนั่นเกร็งตูดกัน ก็เพราะ.....
หลังจากนั้นก็ทำตามแผน สะกดรอยตามไอ้มิ้นกับพี่มิ้ว สะกดไปมา โดนจับได้เกือบโดนกระทืบตายคาตรีนพี่แก ข้อหาแส่ไม่เข้าเรื่อง คนรักกันจะเดทกันเสือกตาม โดนด่าเช็ด หางลู่หูตก เว้นแต่ไอ้ฟี่ที่ไม่ค่อยสลดเท่าไร ออกแนวจะหมั่นไส้พี่มิ้วมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ หาวิธีทำให้เลิกกันอยู่หลายที แต่ไอ้มิ้นก้ไม่เห็นว่าอะไร ใส่ไฟอะไรเข้าไปมันก็เอาแต่ยิ้ม ไม่พูด จนไอ้ฟี่เลิกทำแหละครับ พี่มิ้วก็หายไป...
“กินดิวะ”มันสะกิดไอ้ฟี่ที่หน้ามันไม่ได้ตกในอาการสะพรึงแบบพวกผมเบาๆ ไอ้ห่านฟี่ก็พยักหน้าหงึกๆ เหมือนไม่พอใจ แต่ก็ไม่พูดอะไร ตักอาหารประเคนน้องสาวผมต่อ โดยลืมเรื่องวินนี่เดินออกไปคุยโทรศัพท์ไปเลย....
ผมมองไปรอบๆ นั้น ก็สะดุดับโรงแรมใหญ่ที่อยู่ไม่ไกลจากบ้านตากอากาศของไอ้ฟี่นัก โรงแรมนั้นสูงประมาณ30 ชั้น ติดชายทะเลแบบทั่วไป แต่สิ่งที่สะดุดตาผมกลับเป็นป้ายที่เป็นตัววิ่งบนยอดอาคารโรงแรม
“การแสดงพิเศษของ “ปริ๊น” สุภาพบุรุษนักดนตรีจากรั๊วโรงเรียนดัง คืนพรุ่งนี้”
“ไอ้ซัน ดูนั่น”ผมว่าแล้วชี้ไปที่ป้ายนั้น ไอ้ซันหันไปมองงงๆ ก่อนจะใบ้แดกไป คนอื่นๆ มองตามนิ้วผมไปที่ป้ายนั้นหลังจากเห็นอาการไอ้ซันก่อนที่วินนี่จะ..
“ปริ๊น...ต้องเป็นพี่ปริ๊นแน่ๆ เลย”ว่าแล้วคุณเธอก็บิดไปบิดมา เขินซะงั้น...
“ปริ๊น ที่หล่อๆ โรงเรียนมึงอ่ะหรอ”ไอ้จิงเอ่ยขึ้น ผมหันไปยิ้มให้มันบางๆ แล้วพยักหน้ารับ ไอ้จิงเกาคางเบาๆ แต่ไม่พูดอะไร
ผมปลีกตัวออกมาจากวงของเพื่อนๆ ลัดเลาะไปตามทางที่เดินมากับไอ้จิงเมื่อเย็นไปเรื่อย ลมทะเลตอนนี้กำลังเย็นสบาย ผมนั่งลงที่หาดตรงที่มีแสงไฟถนนสาดเข้ามาอย่างเมื่อยๆ...
“ทำไมหนีมานี่คนเดียวล่ะ”เสียงใสๆ แอบทุ้มนิดๆ ของคนที่ผมแสนคุ้นเคยดังขึ้นข้างๆ พร้อมกับเงาที่นั่งลงข้างกัน
“ดูฟ้า ดูทะเล...สวยนะมึง”ผมว่า ไอ้จิงขำนิดๆ ก่อนจะเอนหัวลงมาซบไหล่ผมหนักๆ
“มึงนี่น้ำเน่าดีว่ะ มองฟ้า มองดาว”มันว่า
“ที่จริงแล้วกูอยากมองมึงมากกว่ามึงเชื่อกูไหม๊”ผมพูดจบไอ้จิงก็ลุกขึ้นยืนแทบทันที ก่อนจะมองผมตาขวาง
“พอเหอะน่า...วันนี้มึงหวานใส่กูทั้งวัน อย่างกะวันครบรอบพิเศษอะไร”พูดจบมันก็เดินหนี ผมลุกขึ้นเดินตามไป ก่อนจะฉวยมือมันเข้ามาหาตัวแล้วกอดไว้แน่น...
“กูพูดจริงๆ นะจิง ขอบใจที่วันนี้มึงยืนข้างกู แค่คืนนี้กูมีมึงข้างๆ มันก็พิเศษพอแล้ว....ท็อปรักจิงนะ”
------------------------------------------------------------------------------------------------*
2 b con
เม้นหน่อยเหอะ เห็นคนเข้าอ่านแล้วแอบเซ็ง 55+
ดู 22 เม้น 4
เยี่ยมมม ม! เอาเหอะเนอะไม่เม้นก็แล้วแต่ มันขึ้นอยู่กับจิตสำนึกคนแหละ ฮ่าๆ
แล้วเจอกันจ้า ^^
ความคิดเห็น