mast'er
ดู Blog ทั้งหมด

ข้อสอบ O-net สุขศึกษา ม.๖ ปีการศึกษา ๒๕๕๒

เขียนโดย mast'er
1. ข้อใดไม่ใช่การวางแผนดูแลสุขภาพเพื่อการมีสุขภาพดี
             ก. มีกิจกรรมทางกายมากขึ้น
             ข. ดื่มแอลกอฮอล์เป็นครั้งคราว
             ค. เล่นเกมคอมพิวเตอร์ทุกวัน
             ง.   ฝึกซ้อมกีฬาทุกวัน
เฉลย     ค. เล่นเกมคอมพิวเตอร์ทุกวัน
ก.        ผิดเพราะ กิจกรรมทางกายคือ การออกกำลังกาย การเคลื่อนไหว การวิ่ง การเดินก็เป็นส่วนทำให้เรามีสุขภาพดีอยู่แล้ว
ข.        ผิดเพราะ การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นครั้งคราว หรือดื่มบ้างเป็นบางครั้งเวลาที่มีงานเลี้ยงสังสรรค์ก็ยังถือว่าเป็นการดูแลสุขภาพอยู่อีกระดับหนึ่ง เพราะถ้าดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำทุกวันจะเกิดผลเสียของพิษจากแอลกอฮอล์ทำให้เกิด ผลกระทบหลายประการ ได้แก่ โรคเรื้อรัง หรืออุบัติเหตุ เป็นต้น
ค.        ผิดเพราะ การเล่นเกมคอมพิวเตอร์ทุกวัน จะส่งผลทำให้เกิดโทษต่อสุขภาพร่างกาย เช่น แสบตา ปวดข้อมือ ไม่รับประทานอาหาร อดนอน ตื่นสาย เพลียง่วงในเวลาเรียนหรือเวลางาน   โทษต่อสุขภาพจิต เช่น เกิดความทุกข์ ไม่สุขใจ เกิดความขัดแย้งภายในหรือขัดแย้งกับผู้คนรอบข้าง และยังส่งผลต่อทักษะทางสังคม เช่น เห็นเพื่อนเป็นศัตรูของความสนุกสนาน หรือทำให้ผลการเรียนตกต่ำ
ก.        ผิดเพราะ การซ้อมกีฬาเป็นประจำทุกวัน ทำให้เราได้มีการเคลื่อนไหวร่างกาย ก็เป็นการออกกำลังกายไปในตัวด้วยอยู่แล้ว
โดย : น.ส. สมิทธิพร ณรงค์ฤทธิ์ธำรง  ม. 4/1 เลขที่ 34
2.      ต่อมใต้สมองเป็นต่อมหลักสำคัญที่ควบคุมต่อมไร้ท่อต่างๆยกเว้นข้อใด
ก. ต่อมไทรอยด์
ข. ต่อมพาราไทรอยด์
ค. ต่อมหมวกไต
ง. ต่อมเพศ
เฉลย    ข. ต่อมพาราไทรอยด์
ก. ผิดเพราะ เมื่อต่อมไทรอยด์ทำงานผิดปกติจะส่งผลให้ทุกระบบปรวนแปรทั้งร่างกาย จิตใจ และ สมอง โดยเฉพาะต่อประสาทการทำงานอัตโนมัติซึ่งเป็นสิ่งที่เราควบคุมไม่ได้
 ข. ถูกเพราะ เป็นต่อมไร้ท่อที่ต่อมใต้สมองไม่ได้ควบคุม เนื่องจากต่อมพาราไทรอยด์จะสร้างฮอร์โมนขึ้นมาเพื่อควบคุมเมตาบอริซึมของระดับแคลเซียมและฟอสเฟตในร่างกาย
                ค. ผิดเพราะ ต่อมหมวกไตเป็นต่อมไร้ท่อผลิตฮอร์โมนสำคัญหลายชนิด เช่น อะดรีนาลิน จะอยู่เหนือไตทั้งสองข้าง มีหน้าที่ควบคุมการไหลเวียนของโลหิตและการหดตัวของเลือด
                ง. ผิดเพราะ ต่อมเพศทำหน้าที่สร้างเซลล์สืบพันธุ์ ทำหน้าที่เป็นทั้งต่อมมีท่อและต่อมไร้ท่อ
โดย: น.ส. วาสนา ศรีโสภา ม. 4/1 เลขที่ 49
3. ต่อมไร้ท่อ ท่อใด หากถูกทำลายไปเมื่อร่างกายเจริญเติบโตเต็มที่แล้ว อาจมีชีวิตอยู่ได้ระยะหนึ่งได้
ก.        ตับอ่อน
ข.        ต่อมหมวกไตส่วนใน
ค.        ต่อมไทรอยด์
ง.        ต่อมพาราไทรอยด์
เฉลย     ง. ต่อมพาราไทรอยด์
ก.  ผิดเพราะ ต่อมหมวกไตส่วนใน สร้างฮอร์โมนอีพิเนฟฟริน และนอร์อีพิเนฟฟริน ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่เป็นอนุพันธ์ของกรดอะมิโน มีหน้าที่เพิ่มระดับน้ำตาลและกรดไขมันในเลือด เพิ่มอัตราเมตาบอลิซึม เพิ่มการเต้นของหัวใจ เพิ่มการบีบตัวของเส้นเลือด
 
ข. ผิดเพราะ ไทรอยด์เป็นต่อมไร้ท่อที่ใหญ่ที่สุดในร่างกายมนุษย์ ส่งผลเสียอย่างร้ายกาจทีเดียว หากมันทำงานผิดปกติ ซึ่งต่อมไทรอยด์นี้มีหน้าที่ผลิตฮอร์โมนไทรอยด์
ค. ผิดเพราะ พาราไทรอยด์ฮอร์โมน หรือพาราฮอร์โมน เป็นฮอร์โมนที่ถูกหลักจากต่อมพาราไทรอยด์เป็นโพลีเปปไทด์ซึ่งมีกรดอะมิโน 84 ตัว ทำหน้าที่ในการเพิ่มระดับความเข้มขอแคลเซียมในเลือด ในขณะที่ฮอร์โมนแคลซิโตนิน (หลั่งจากต่อมไทรอยด์) ทำหน้าที่ลดความเข้มข้นของแคลเซียม
ง. ถูกเพราะ เป็นต่อมไร้ท่อที่สำคัญที่สุดของร่างกาย เพราะต่อมใต้สมองส่วยหน้าทำหน้าที่ผลิตฮอร์โมนที่ช่วยกระตุ้นและควบคุมการทำงานของต่อมไร้ท่ออื่นๆ คือต่อมไทรอยด์ ต่อมหมวกไต ต่อมสืบพันธุ์ ซึ่งต่อมเหล่านี้จะทำหน้าที่ควบคุมการเจริญเติบโตของร่างกายและมีอิทธิพลต่ออัตราการเผาผลาญของเซลล์ต่างๆในร่างกาย หากถูกทำลายไปอาจส่งผลให้มีชีวิตให้ระยะหนึ่งเท่านั้น
โดย: น.ส. เสาวลักษณ์ จันคนา ม. 4/1 เลขที่ 52
4. กลวิธีป้องกันการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ สามารถทำได้โดยวิธีใด
      ก.ตรวจเครื่องมือ เครื่องใช้โดยสม่ำเสมอ
      ข.ปฏิบัติตนโดยยึดหลัก "ปลอดภัยไว้ก่อน"
      ค.หาความรู้ด้านความปลอดภัยที่ทันสมัย
      ง.ปฏิบัติตามกฎหมายความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด
เฉลย    ง.ปฏิบัติตามกฎหมายความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด
                ก. ผิดเพราะ แม้ว่าเครื่องมือเครื่องใช้จะปลอดภัย แต่ถ้าผู้ขับขี่ไม่ปฏิบัติตามกฎหมายความปลอกภัยก็อาจเกิดอุบัติเหตุได้
 ข. ผิดเพราะ แม้ว่าจะปฏิบัติตนโดยยึดหลัก "ปลอดภัยไว้ก่อน" แต่ก็อาจพลาดเกิดอุบัติเหตุได้
                ค. ผิดเพราะ แม้จะมีความรู้ด้านความปลอดภัยที่ทันสมัยแต่หากไม่ปฏิบัติก็จะเกิดอุบัติเหตุได้
                ง. ถูกเพราะ เมื่อเราปฏิบัติตามกฎหมายความปลอดภัยอย่างเคร่งครัดแล้ว ก็จะช่วยให้การเกิดอุบัติเหตุก็จะน้อยลงได้
โดย: น.ส.พรวิสา    ชอบชน  ม.4/1 เลขที่ 27
5. กีฬาใดที่มีการนับคะแนนการแข่งขันแตกต่างจากกีฬาอื่น
ก. แบดมินตัน               
ข. วอลเลย์บอล          
ค. เทนนิส                     
ง. เทเบิลเทนนิส
เฉลย        ค. เทนนิส
                ก. ผิดเพราะ กีฬาแบดมินตัน นับเกมละ 21 คะแนน
                ข. ผิดเพราะ กีฬาวอลเลย์บอล นับเกมละ 21 คะแนน
                ค. ถูกเพราะ กีฬาเทนนิส นับ 15 - 30 - 40 - 50 เกม
                ง. ผิดเพราะ กีฬาเทเบิลเทนนิส นับเกมละ 21 คะแนน
โดย : นางสาวจุฬาลักษณ์ กนกไตรรัตน์ ม.4 / 1 เลขที่ 36                                            
6. อัตราการเต้นของหัวใจในคนปกติ คือข้อใด
ก. 50-60 ครั้งต่อนาที
ข.      60-70 ครั้งต่อนาที
ค.      70-80 ครั้งต่อนาที
ง.       80-90 ครั้งต่อนาที
เฉลย      ข.       60-70 ครั้งต่อนาที
                ก. ผิดเพราะ 50-60 ครั้งต่อนาที ถ้าเต้นช้า แต่ไม่มีอาการหรือโรคอะไร ไม่เป็นไร เช่นนักกีฬา ที่ฟิตมากๆ บางครั้งอัตราการเต้นหัวใจลดเหลือแค่ 40-50 ครั้ง ต่อนาทีเท่านั้น(พวกนี้จะเหนื่อยยากกว่าคนปกติ)
                ข. ถูกเพราะ 60-70 ครั้งต่อนาที ปกติ ในผู้ใหญ่ อัตราเต้น เฉลี่ย ประมาณ 72 ครั้งต่อนาที (ประมาณ ช่วง 60-80 ครั้ง ต่อนาที) หรือ ถ้าเอาง่ายๆ คือ ไม่เกิน 100 ถือว่าใช้ได้ แต่ถ้าเกิน ต้องระวังโรคต่างๆเช่นโรคหัวใจ โรคไทรอยด์เป็นพิษ
                ค. และ ง. ผิดเพราะ       70-80 ครั้งต่อนาที
           80-90 ครั้งต่อนาที เด็กทารก เล็กๆ จะมีอัตราการเต้นสูงกว่าคนโต
โดย : น.ส.เงินตรา สุชีวะ ม.4 / 1 เลขที่ 17
7. ลักษณะใดที่บุคคลต้องการคบเป็นเพื่อนมากที่สุด
ก. ยิ้มแย้มแจ่มใส           
ข. เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่
ค. เอาใจเขามาใส่ใจเรา   
 ง. พูดจาไพเราะ
 เฉลย     ค. เอาใจเขามาใส่ใจเรา  
                ก.  ผิดเพราะ คนที่ยิ้มแย้มแจ่มใสแต่ภายนอก บางคนในใจอาจเป็นคนไม่ดี อาจกลบเกลื่อนความจริงบางอย่างไว้ในรอยยิ้มนั้นได้ ฉะนั้น ก็ไม่ควรไว้ใจคนแบบนี้มากนัก
ข.  ผิดเพราะ คนที่เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่นั้นส่วนมากจะหวังผลตอบแทนจากเพื่อนไม่มากก็น้อย
ค. ถูกเพราะ คนที่รู้จักการเอาใจเขามาใส่ใจเราจะเข้าใจความรู้สึกของเพื่อนอีกคนหนึ่ง ว่าทำอะไรเพื่อนถึงพอใจ หรือทำอะไรแล้วเพื่อนไม่พอใจ
ง. ผิดเพราะ  คนที่พูดจาไพเราะนั้นอาจจะคิดอะไรไม่ดีในใจไว้ได้และกลบเกลื่อนไว้ในคำพูดที่ไพเราะทำให้เราไว้ใจ และอาจหลอกเราได้ง่าย ๆ จากคำพูดเหล่านั้น
โดย: นายตรีภพ เจริญศิลพุทธคุณ  ม.4 / 1 เลขที่ 3
8. ข้อใดไม่ถูกต้อง
ก.หญิงเข้าสู้วัยเจริญพันธุ์เร็วกว่าชาย
ข.การสำเร็จความใคร่ด้วยตนเอง เป็นการระบายอารมณ์ทางเพศที่ไม่ควรกระทำ
ค.การใส่เสื้อสายเดี่ยวนุ่งกระโปรงสั้นอาจทำให้เกิดอาชญากรรมทางเพศได้
ง.ชายสามารถมีลูกได้จนอายุ 60 ปี
 เฉลย          ข.การสำเร็จความใคร่ด้วยตนเอง เป็นการระบายอารมณ์ทางเพศที่ไม่ควรกระทำ
                ก. ผิดเพราะ หญิงเข้าสู้วัยเจริญพันธุ์เร็วกว่าชาย เป็นข้อความที่ถูกต้อง เพราะ ในช่วงวัยรุ่นเมื่อเด็กย่างอายุประมาณ 12-13 ปี เพศ หญิง จะเข้าสู่วัยรุ่นเร็วกว่าเพศชายประมาณ 2 ปี และจะเกิดการพัฒนาไปจนถึงอายุประมาณ 18 ปี จึงจะเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ โดยจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมากในพัฒนาการด้านต่างๆ
                ข. ถูกเพราะ การสำเร็จความใคร่ด้วยตนเอง เป็นการระบายอารมณ์ทางเพศที่ไม่ควรกระทำ เป็นข้อความที่ไม่ถูกต้อง เพราะ การสำเร็จความใคร่ด้วยตนเองเป็นการระบายอารมณ์ทางเพศที่สามารถกระทำได้ แต่ต้องไม่บ่อยมากและต้องเหมาะสม ทั้งนี้เพราะถ้าหากปฏิบัติบ่อยๆอาจส่งผลต่อพฤติกรรมทางเพศได้
                ค. ผิดเพราะ การใส่เสื้อสายเดี่ยวนุ่งกระโปรงสั้นอาจทำให้เกิดอาชญากรรมทางเพศได้ เป็นข้อความที่ถูกต้อง เพราะ การใส่เสื้อสายเดี่ยวนุ่งกระโปรงสั้นเป็นการแต่งตัวที่ล่อแหลมเกินไปอาจจะนำไปสู่การโดนข่มขืน
                ง. ผิดเพราะ ชายสามารถมีลูกได้จนอายุ 60 ปี เป็นข้อความที่ถูกต้อง เพราะ ชายที่มีอายุมากกว่า 60 ปีอาจมีสรรมถภาพทางเพศที่ต่ำลงและอสุจิอาจไม่มีความแข็งแรง
โดย: นายณัฐพล อ่อนมาเสน ม.4/1 เลขที่ 11
9. ในการเป็นผู้ชมกีฬายิมนาสติกที่ดี ข้อใดไม่ควรปฏิบัติมากที่สุด
ก. ไปถึงสนามหลังการแข่งขัน
ข. ลุกเดินไป-มา ในขณะมีการแข่งขัน
ค. นำอาหาร และเครื่องดื่ม เข้าไปในบริเวณนั่งชม
ง. ปรบมือแสดงความยินดีกับนักกีฬาที่กำลังแสดง
 เฉลย             ง. ปรบมือแสดงความยินดีกับนักกีฬาที่กำลังแสดง
                ก. ผิดเพราะ แม้จะเป็นการปฏิบัติที่ไม่ควรทำแต่อาจมีเหตุสุนิสัยถึงมาช้าหรือก็เป็นสิทธิ์ของผู้เข้าชมที่จะมาช้าจึงยังเป็นข้อที่ถูกน้อยกว่าข้อ ง.
                ข. ผิดเพราะ ผู้เข้าชมอาจมีเหตุหรือธุระที่เร่งด่วนจึงต้องปฏิบัติเช่นนั้นแม้จะไม่ควรปฏิบัติแต่ก้อยังน้อยกว่าข้อ .ง
                ค. ผิดเพราะ การกินอาหารในขณะดูการแข่งขันก็ไม่ควรปฏิบัติเช่นกันแต่เราสามารถที่จะเลือกเวลากินได้เราควรเลือกกินตอนที่พักการแข่งขันจึงจะทำให้ไม่เสียงดังต่างกับข้อ ง. ที่ปรบมือในขณะการแข่งขัน
                ง. ถูกเพราะ ปรบมือแสดงความยินดีกับนักกีฬาที่กำลังแสดง เพราะ การแข่งขันยิมนาสติกต้องใช้สมาธิมากในการแข่งขันดังนั้นผู้ที่เข้าไปชมการแข่งขันไม่ควรปรบมือในขณะที่นักกีฬากำลังแสดงเพราะอาจทำให้นักกีฬาเสียสมาธิแล้วเกิดการผิดพลาดในการแสดงได้ 
โดย: นาย ปวริศ   ภูนุช  ม.4/1 เลขที่ 5
10. ข้อใดเป็นสิทธิในการปฏิบัติงานของลูกจ้างตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน
ก. ลูกจ้างที่ทำงานล่วงเวลาต้องมีเวลาพักจากงานปกติไม่น้อยกว่า 20 นาที
ข. ลูกจ้างต้องมีเวลาพักจากการทำงานปกติไม่น้อยกว่า 2 ชั่วโมงต่อวัน
ค. ลูกจ้างที่ทำงานซึ่งมีความเสี่ยงสูงให้มีเวลาทำงานปกติวันละ 6 ชั่วโมง
ง. ลูกจ้างต้องมีวันหยุดประจำสัปดาห์อย่างน้อย 2 วัน
 เฉลย              ค. ลูกจ้างที่ทำงานซึ่งมีความเสี่ยงสูงให้มีเวลาทำงานปกติวันละ 6 ชั่วโมง 
                ก. ผิดเพราะ ในกรณีที่ทำงานล่วงเวลาจะไม่มีการพักเพิ่มแต่จะให้เงินตามที่กฎหมายบัญญัติไว้
                ข. ผิดเพราะ ในกฎหมายกล่าวลูกจ้างมีเวลาพักติดต่อกันไม่น้อยกว่าวันละ 1 ชั่วโมงดังนั้นลูกจ้างพัก 1 ชั่วโมงก็ได้ไม่ใช่อย่างน้อย 2 ชั่วโมง
                ค. ถูกเพราะ ลูกจ้างที่ทำงานซึ่งมีความเสี่ยงสูงให้มีเวลาทำงานปกติวันละ 6 ชั่วโมง
                ง. ผิดเพราะ ในกฎหมายกล่าวว่าวันหยุดประจำสัปดาห์ต้องไม่น้อยกว่าสัปดาห์ละ 1 วันดังนั้นหยุดวันเดียวก็ได้แต่ไม่ใช่อย่างน้อย 2 วัน
โดย : นาย วศิน กัลยา  ม. 4/1    เลขที่ 8
11. การอบอุ่นร่างกายในข้อใด เหมาะสมที่สุดสำหรับการเล่นกีฬาฟุตบอล
ก. หมุนคอ วิ่งรอบสนาม สะพานโค้ง วิดพื้น
ข. วิ่งรอบสนาม หมุนคอ ลุก-นั่ง สะพานโค้ง
ค. วิ่งรอบสนาม หมุนคอ หมุนข้อเท้า เหยียดขา
ง. ลุก-นั่ง วิดพื้น หมุนคอ เหยียดขา
 เฉลย         ค. วิ่งรอบสนาม หมุนคอ หมุนข้อเท้า เหยียดขา
                ค. ถูกเพราะ กีฬาฟุตบอลต้องวิ่งเยอะ ต้องอาศัยความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อขา ใช้เท้าในการเตะฟุตบอล ถ้าไม่ยืดขาและหมุนข้อเท้า เวลาวิ่ง ฉีกขา หรือเวลาเตะบอล กล้ามเนื้อขาอาจฉีกและอาจเจ็บข้อเท้าได้ การหมุนคอ ถ้าไม่บริหารกล้ามเนื้อกระดูกบริเวณคอ เวลาม่งบอล หรือล้มกระแทกพื้นแรงๆ คออาจเคล็ดได้ และต้องเหยียดขาเพื่อให้กล้ามเนื้อขายืดหยุ่น กล้ามเนื้อขาจะได้ไม่ฉีก
โดย : น.ส. กัญญาณัฐ พวงมาลัย ม.4/1 เลขที่ 14
12. ข้อใดเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้ชีวิตครอบครัวแตกแยก
ก.  ทรัพย์สินเงินทอง
ข.  การศึกษา
ค. หน้าที่การงาน
ง.  ความไม่เข้าใจซึ่งกันและกัน
 เฉลย         ง.  ความไม่เข้าใจซึ่งกันและกัน
                ก. ผิดเพราะ ทรัพย์สินเงินทอง ไม่ได้จำเป็นที่จะทำให้ครอบครัวแตกแยก
                ข. ผิดเพราะ การศึกษาก็ไม่ได้มีส่วนในการทำให้ครอบครัวแตกแยก
                ค. ผิดเพราะ หน้าที่การงาน ก็ไม่ได้มีส่วน ทุกคนในครอบครัวมีหน้าที่ของตนเอง และต้องทำให้ดีที่สุด
                ง. ถูกเพราะ ความไม่เข้าใจกันในครอบครัว นั้นเป็นปัญหาสำคัญ อาจจะทำให้ครอบครัวมีการทะเลาะ แตกแยกกันได้ ถ้าทุกคนไม่คอยรับฟังกันและกัน 
โดย : น.ส. ชนิกานต์ นุชนาฎ ม.4/1 เลขที่ 21

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นที่ 1
ไม่เข้าใจเลย