ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ♡ CINDERELLA STORY [LuhanxBaekhyun]

    ลำดับตอนที่ #24 : CHAPTER 20 [END]

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.89K
      3
      5 ก.ย. 56

      

      CHAPTER 20





     

    Luhan and Baekhyun | via Tumblrcity news and voices - Όμορφες εικόνες του «Μικρού Πρίγκιπα» | www.athensvoice.gr

     

    "เจ้าชาย....."




    เจ้าชาย.....

    เจ้าชายของพวกคุณเป็นแบบไหนกัน?

     



    มีใครเคยบอกว่าลู่หานเหมือนเจ้าชายในชุดสูทสีดำสุดเท่ หรือชุดสูทสีขาวผูกโบกระต่ายสง่างาม
    แต่แบคฮยอนไม่เคยคิดอย่างนั้นซักนิดเลย




    ภาพของพี่ชายในชุดเสื้อยืดธรรมดาสีขาวกางเกงสามส่วนสีดำข้างหน้านี้ต่างหาก....

    ที่เหมือนเจ้าชายสำหรับเขามากที่สุด




    ลู่หานอาจจะเป็นแค่ผู้ชายธรรมดาคนหนึ่งในสายตาของคนอื่น 
    แต่ผู้ชายคนนั้นก็เป็นคนที่รักแบคฮยอนสุดหัวใจ

    เขาคือเจ้าชายที่ดีที่สุดในสายตาแบคฮยอนเสมอ..

     
     


    พี่ชายผมทองตอนนี้กำลังซักเสื้อผ้าของพวกเขาสองคน 
    แบคฮยอนมองภาพนั้นแล้วหัวเราะเบาๆกับตัวเองจนต้องเอามือป้องปาก




    ธรรมดา ไม่มีอะไรพิเศษเลย





    เพียงแต่.....ไม่ค่อยได้เห็นภาพนี้เท่าไหร่


    ปกติแม่บ้านที่บ้าน คุณแม่นมไม่ก็เขาซะมากกว่าที่เป็นคนซักผ้า 
    โทรศัพท์มือถือเครื่องโปรดแอบถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐาน เอาไว้ตั้งหน้าจอมันก็น่ารักดี




    คนตัวเล็กขำอีกครั้งก่อนจะทำเนียนไปโอบกอดด้านหลัง




    "เหนื่อยมั้ยครับ?"
    "
    ไม่หรอก เพื่อแบคฮยอนพี่ทำให้ได้หมดแหละ"




    "
    เสี่ยวลู่.....ใจดีจัง....."

    มือหนาที่ยังมีฟองสีขาวอยู่ตั้งใจจิ้มที่แก้มให้บุ๋ม 




    "
    แล้วรักพี่มั้ย?"

    "
    แบร่ ผมไม่บอกหรอก"



    น้องชายแลบลิ้นทะเล้น ก่อนจะช่วยเดินไปหยิบตะกร้าที่ซักเสร็จแล้วเอาไปตาก

    เวลาอยู่ด้วยกันสองคนเขามีความสุขมากที่สุด ในใจนึกถึงเมนูวันนี้ เราจะทานอะไรกันดีนะ

     

    นึกถึงวันที่เจ้าชายกับอี้ชิงจะกลับมาโซล นึกถึงวันที่เซฮุนกับชานยอลมาเล่นที่บ้าน

    นึกถึงคยองซูที่คิดค้นกาแฟลายใหม่ๆมาให้ลองวิจารณ์

     

    เขาดีใจที่รู้ว่าพี่ชายรักเขา ดีใจที่รู้ว่าเพื่อนห่วงใยเขา

    เพียงแค่นี้ มันคือความสุขของแบคฮยอนแล้ว

     

     





     

     

     



     

    ไม่ได้เหนื่อยหรือลำบากอะไร เขาชินกับการซักผ้าไปแล้ว อยู่คนเดียวมาหลายปีที่ต่างประเทา ทำไมจะทำเรื่องง่ายๆแบบนี้ไม่เป็น อันที่จริงลู่หานเป็นคนเก่งทุกอย่าง เขาทำงานบ้านได้ เขาทำอาหารอร่อย (แบคฮยอนเคยติดใจจนทานข้าวฝีมือเขาติดกันสามวัน เพียงเพราะคนตัวเล็กชอบไข่ตุ๋นเห็ดหอมของเขามาก)

    พอเห็นน้องเหนื่อยถ้าต้องทำงานบ้านคนเดียวก็ไม่อยากให้เป็นแบบนั้น มีกันแค่สองคน เขาก็อยากจะให้น้องสบาย เขาอยากให้น้องไม่ต้องลำบากบ้าง

     

    ขาโปร่งยาวก้าวไป ผ้าปูที่นอนสีขาวประกอบกับผ้าปลอกหมอนสีเบชปลิวไปตามลม

    มือหนาค่อยแหวกผ้าเดินเข้าไปอย่างระมัดระวังเสียงฝีเท้า

     

    สายตาของกวางหนุ่มพบกับคนที่มีรอยยิ้มงดงามกำลังสะบัดผ้าอยู่

     

    มันคล้ายกับเป็นภาพช้า เพราะน้องชายกำลังยิ้ม คงจะคิดอะไรเพลินอยู่คนเดียว รอยยิ้มสว่างสดใสพอกับแสงอาทิตย์เลยด้วยซ้ำ


                 ลู่หานโอบกอดน้องชายจากทางด้านหลัง เขาจูบเบาๆไปทีขมับสองสามที   

                 แบคฮยอนใช้มือเล็กจับแขนของพี่ชายไว้แล้วยิ้มเขิน มาอารมณ์ไหนอีกละคนนี้?

     


     

    "แบคฮยอนรู้หรือเปล่า ว่าแบคฮยอนสวยที่สุดเลยในสายตาพี่
    "
    พี่รักแบคฮยอนมากที่สุดเลยนะ"




    อยากจะบอกก็บอก ไม่ต้องการบรรยากาศโรแมนติกอะไรทั้งนั้น

    คนเป็นน้องอมยิ้มจนแก้มแทบปริ สีชมพูระเรื่อปรากฏขึ้นมาที่ใบหน้า

     


     

    อันที่จริง แบคฮยอนเป็นคนชอบฟังคำหวาน

    เขาชอบฟังคำบอกรักธรรมดาที่พี่ชายชอบพูดบ่อย เขาไม่เคยเบื่อที่จะฟังมันอีกครั้งเหมือนเทปที่กรอซ้ำ


     

    "รักแค่ไหน?"
    "
    เท่าปลาวาฬ"





    "ไม่เห็นจะซึ้งตรงไหนเลย"




    คิ้วบางขมวดเล็กน้อยแล้วยิ้มออกมา ร่างบางหัวเราะก่อนจะหันหลังกลับไปมองหน้าคนที่กอดอยู่แล้วกอดจนคางเกยไหล่ เขากระซิบบอกพี่ชายแผ่วเบา




    "แต่ผมรักพี่เท่าปลาวาฬชุบแป้งทอดเลย งั้นก็แปลว่าผมรักพี่มากกว่า
    "
    พี่รักมากกว่าสิ เพราะที่จริงแล้วพี่รักแบคฮยอนเท่าปลาวาฬสองตัว แถมยังชุบแป้งทอดสองชั้นไปเลย"

     
     

    พี่ชายเอาโอบเอวบางเข้ามาใกล้มากกว่าเดิมแถมยังเอาหน้าผากมาชนกับคนน้องอีก




    "ว่าไงน้องชาย?"
    "
    โอเคยอมแพ้"




    ลู่หานอมยิ้มออกก่อนจะเอ่ย...






    "ว่าแต่มีเด็กตัวเล็กคนนึง น่าเอาไปชุปแป้งทอดกินเหมือนกันนะ พี่จับตัวไปเลยดีไหม?" 
    "
    อืมม เดี๋ยวไปตั้งกระทะเลยดีกว่า ท่าทางจะเนื้อนุ่ม"

    "
    เอ หรือกินตรงนี้เลยก็ดี กินตอนไหนก็เนื้อนุ่มเหมือนกันเนอะ"

    ใช่ไหม เนอะๆ


     

    สันจมูกที่ฝังลงมาไม่เท่าไหร่ แต่หนวดไรสีครึ้มที่เริ่มขึ้นมานั้นแหละทำให้คนถูกหอมรู้สึกจักจี้

     

    "งื้อออ อะไรละครับ อย่าเล่นนะ 

                “อื้มมม เนื้อนุ่มจริงๆด้วย

     

                แบคฮยอนหัวเราะมากขึ้นเมื่อพี่ชายระดมจูบไปทั้งตัว ทั้งหน้าผาก แก้ม ลำคอ แถมยังกอดซะแน่น พอคนตัวเล็กมีโอกาสหนีได้เขาก็เลยวิ่งหนีใหญ่ พี่ชายก็แกล้งวิ่งไล่จับตาม สองพี่น้องหัวเราะให้กันในวันที่ท้องฟ้าสดใส

                พวกเขามีความสุขเพียงแค่หนึ่งวันธรรมดา แค่ซักผ้า ตากผ้า ใช้ชีวิตด้วยกัน...

     

     

     

     

     

     city news and voices - Όμορφες εικόνες του «Μικρού Πρίγκιπα» | www.athensvoice.grcity news and voices - Όμορφες εικόνες του «Μικρού Πρίγκιπα» | www.athensvoice.gr

     "จะตามใจหนึ่งวันแต่.........."

     



     

    พี่ปอกให้ไหม?”

    งืมๆ เสี่ยวลู่ไม่เอากากนะ แบคฮยอนไม่ชอบ

     

    ส้มถูกวางเทียบกันบนใบหน้าขาวเล็ก ลู่หานหัวเราะออกมาเบาๆแล้วจับแก้มใสนั้นอย่างทะนุถนอม บางทีส้มมันก็กลมเท่ากับแก้มแบคฮยอนเลย เขาปอกเปลือกออกมองหน้าน้องชายแล้วคิ้วขมวดเมื่อแบคฮยอนยังมองจอทีวีไม่วางตา แถมยังรับส้มพอดีคำกับที่เขาปอกและค่อยๆเอากากให้อย่างบรรจง คิดอะไรอยู่นะ ทำไมไม่สนใจพี่เลย เด็กผู้ชายผิวคล้ำในทีวีนี่ใครกัน

     

    อร่อยมั้ย

    อื้มมมมม อร่อยมาก หวานด้วย

     

    ฮ่าๆ เด็กดื้อ

     

                ลู่หานยีผมน้องชายจนยุ่งไปหมด ช่วงนี้น้องชอบอะไร ไม่ชอบอะไร เขาก็เอาใจไปซะหมด บางทีเขาก็แอบคิดนะ น้องชายจะกลายเป็นเอาแต่ใจมากไปหรือเปล่านะเนี่ย แต่ไม่เป็นไรหรอก เพราะเขาชอบมองหน้าน้องเวลาดีใจที่สุดนี่นา

     

    พี่อณุญาตปอกกากส้มออกให้แค่วันนี้นะ จะตามใจนายหนึ่งวัน แต่...

     

     

     

    แบคฮยอนต้องทานบ้างนะ รู้ไหม จริงๆแล้วกากส้มมันก็อร่อยนะ

                เสียงเล็กๆเอ่ยขึ้นมาแทรกแล้วหัวเราะคิกคัก เหมือนรู้ว่าจะพูดอะไร ลู่หานเลยแกล้งเขกกะโหลกไปหนึ่งที

     

    ผมรู้แล้วค้าบ บ่นเป็นตาแก่ไปได้

    ก็เด็กบางคนดื้อนี่นา

     

     

    ไม่ได้ดื้อเลยนะ ก็แบคฮยอนไม่ค่อยชอบจริงๆ ถ้าเป็นช็อคโกแลตงี้ว่าไปอย่าง

     

     

    ลู่หานส่ายหน้ากับเจ้าตัวยุ่งของเขา

    เพิ่งรู้ว่าการต้องเอาใจน้องบางทีก็ยากเย็นอยู่ บางทีแบคฮยอนก็ดื้อพอสมควร

     

    แล้วไม่ต้องโทรให้อี้ฟานซื้อมาฝากเลยนะ

     

    อะ อะไร ไม่โทรอยู่แล้ว เจ้าชายน่ะ เค้ารู้ใจแบคฮยอนต่างหาก เจ้าชายเค้าใจดี....

    จริงดิ แล้ววันก่อนที่ส่งแมสเสสไปบอกให้ซื้อเฟอร์เรโร่มาสองกล่องนี่อะไรเนี่ย


     

    เฮ้ย แอบดูมือถือคนอื่นได้ไง

    ไม่ได้แอบดู อี้ฟานมันส่งเมสแสสผิดมาหาพี่


     

    ลู่หานหยิบมือถือตนเองขึ้นมาเปิดอ่านข้อความแล้วหัวเราะในลำคอ เขาอ่านช้าๆด้วยความจงใจแกล้งน้องชาย

     

    From YIFAN

    เจ้าชายตามใจแบคฮยอนอยู่แล้ว ช็อคโกแลตสองกล่องใช้ไหม เอาอะไรอีกไหมเจ้าหญิง ที่นี่มีเอ็มแอนดเอมรสใหม่ด้วยนะ อลิซชอบเยลลี่ฮาริโบมาก เจ้าหญิงเอาด้วยไหมจะได้ซื้อเลยทีเดียว?


     

    เอ้ยยยยย บ้าไปแล้ววว เจ้าชายอะ คอยดูนะ แบคฮยอนจะไม่คุยด้วยเลยยย

    พี่ชายก็ด้วย ไม่ต้องชวนผมคุยอีกต่อไปเลย ฮึ่มมม...

     
     

    ไม่ชวนๆ เอ ว่าแต่บ่ายนี้พี่ว่างนี่นา ว่าจะขับรถไปดูหนังแอคชั่นคนเดียวดีกว่า

    “ช่วงนี้มีหนังบู๊เข้าใหม่ซะด้วย พลาดไปแย่เลยนะเนี่ย อืม ซื้อป๊อปคอร์นรสชีสไปทานคนเดียวในโรงคคงจะเจ๋งน่าดู”

     

    พอได้ยินคนตัวโตพูดคนเดียวมองไปทางอื่น คนตัวเล็กก้มหน้างุดจนคางชิดอก

    ในตอนแรกก็ทำเป็นไม่สนใจหรอกนะ แต่มันอดบ่นพึมพำไม่ได้นี่นา

    ลู่หานแอบยิ้มที่มุมปากเอียงหน้าเข้าไปใกล้ น้องถอนหายใจฮึกฮัดแล้วพูดอะไรกัน ได้ยินไม่ค่อยชัดเลย

     

    “ไปดูคนเดียวไม่ได้นะ พี่ชายรู้ว่าผมชอบ...”

     

    แหงละ พวกเขาสองคนไม่คุยกันนาทีเดียวเท่านั้นแหละ เวลางอนกันพี่ชายก็เป็นคนง้อตลอด

     

    ถึงบางที เวลาที่ง้อ ลู่หานจะไม่ได้ง้อโดยการพูดคำหวาน แต่เขาก็ชอบแกล้งแบบนี้

    แกล้งพูดขอโทษลอยๆ แกล้งซื้อดอกไม้มาเกินปักแจกันจนต้องยื่นมาให้บ้าง แกล้งบอกว่าคุณเลขาซื้อเค้กมาฝากบ้าง แกล้งบอกว่า แบคฮยอน..(ในที่นี้คือตุ๊กตาหมา) ฝากบอกว่าพี่ชายน้อยใจ ให้ใส่สร้อยข้อมือได้แล้วและอะไรที่ทำอีกมากมาย

    บางที แบคฮยอนก็คิดว่าพี่ชายมีมุมน่ารักเหมือนกันนะเวลาที่เขินหรือต้องมาทำอะไรไร้สาระกับเขานี่แหละ

     

    “สรุปไปด้วยกันเปล่า...คิดไปคิดมาพี่ก็กินป๊อปคอร์นรสชีสคนเดียวไม่ไหวหรอก”

    “ไปก็ได้....พี่ชายเลี้ยงนะ”

    “ก็เลี้ยงเด็กซนมากี่ปีแล้วอ่ะ ถ้าไปให้เวลาอาบน้ำครึ่งชั่วโมง แต่งตัวน่ารักๆนะ..”

     

    แบคฮยอนแทบจะวิ่งขึ้นห้องรีบไปอาบน้ำแต่งตัวเสร็จสรรพในทันที บอกว่าให้แต่งตัวน่ารักๆก็คิดไม่ออก สุดท้ายก็เลยใส่เสื้อสูทสีฟ้าอ่อนลายทางสวมทับกับเสื้อข้างในสีขาวนั้นแหละ แบคฮยอนวิ่งไปหยิบโพลาลอยด์มาแถมยังควงแขนพี่ชายร่าเริงไปตามประสา พวกเขาขึ้นรถเต่าไปด้วยกัน มีแบคฮยอนคนเดียวที่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่แอบถ่ายรูปด้านข้างของพี่ชายตามเคย

     

     

    พี่ชายบอกว่า วันนี้แบคฮยอนทานขนมได้ตามใจ แต่สุดท้ายคนตัวเล็กร่าเริงก็ต้องปากยู่ลงเล็กน้อย

    เพราะพี่ชายบอกว่า เขาต้องลองทานถั่วงอกหนึ่งคำในชามราเมนด้วยนะสิ

    แถมยังขู่ว่าถ้าไม่ลองเคี้ยวและกลืนเข้าไป เขาจะจับจูบต่อหน้าคนอื่นเลย แบคฮยอนไม่เอาด้วยหรอกนะ!

     

     

     

     



     

    TumblrUntitled

     "ความฝันที่แตกต่างออกไปอีกหนึ่งฝัน"

     

     

    สองปีถัดมา

     

    หลังจากเรียนจบ ... วันนี้ก็ปรกติ แต่อยู่ดีดีพี่ชายก็ถามเขาว่า “ความฝันของเขาคืออะไร”..

    แบคฮยอนพยายามนึก แต่ก็นึกไม่ค่อยออกเท่าไหร่

     

    ความฝันของเขามีไม่กี่อย่าง และเหมือนที่เคยบอกไป อยู่กับพี่ชายที่บ้านก็เป็นความฝันแล้ว...

    พี่ชายบอกว่า ไม่ใช่ความฝันแบบนั้นสิ เอาความฝันที่แบคฮยอนคิดว่าชอบทำมันมากที่สุด มันต้องมีอะไรซักอย่างที่แบคฮยอนสนใจหรือถนัดกับมัน ถ้าสิ่งนั้นจะเป็นความฝันอีกอย่างของแบคฮยอนได้ ลู่หานก็คิดว่ามันเป็นสิ่งที่มีค่า

     

    นอนคิดไปคิดมาบนเตียง จนสุดท้ายก็ได้คำตอบ ถ้าเป็นสิ่งที่แบคฮยอนชอบ สนใจมาก อยากลองทำให้ดีกว่านี้ก็คงจะเป็น “การถ่ายภาพ” ละมั้ง เขาเอ่ยปากบอกพี่ชายทั้งที่ยังนอนจับมือกัน

    ลู่หานยิ้มแล้วพยักหน้าเบาๆ พี่ชายถามดูว่า แบคฮยอนอยากลองไปเรียนถ่ายภาพที่บริษัทของเจ้าชายที่แคนาดาดูไหม ที่นั้นมีอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญการถ่ายภาพอยู่หลายคนเลย มีหนังสือที่ดี มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย มีทิวทัศน์ที่สวย ถ้าได้ถ่ายรูปก็คงจะเพลิน

     

    เพียงแต่ถ้าไปเรียนก้คงจะต้องไปซักสองเดือนหรือมากกว่านั้น...

    แบคฮยอนจะลองไปคิดดูก่อนก็ได้

     

    ไม่ใช่ว่าไม่รักหรอกนะ อันที่จริงไม่อยากจะอยู่ห่างกันอีกด้วยซ้ำไป แต่ลู่หานคิดว่า น้องสมควรได้รับในสิ่งที่เป็นประสบการณ์กับตัวน้องเองบ้าง เขาอยากให้น้องมีความสุขในทุกๆสิ่งที่ตัวเองควรได้รับ

    ถ้าเป็นเรื่องระยะทางหรือต้องห่างกัน..มันไม่ใช่ปัญหาเลย เพราะน้องรักเขาและเขาก็รักน้องอยู่ทุกวัน ที่นั่นอี้ฟาน เพื่อนรักตัวสูงจะคอยดูแลแบคฮยอนอย่างดี

     

    ลู่หานรู้ดีว่าเขาไม่สามารถไปอยู่เป็นเพื่อนน้องได้ เขาติดภารกิจอีกเยอะที่บริษัท

    เป็นเรื่องที่ปฏิเสธไม่ได้ คนควบคุมกิจการทั้งหมด ไม่ค่อยจะมีวันว่างเท่าไหร่หรอก

     

    น้องชายพยักหน้าฟังเหตุผลแล้วคิดไม่ตก เขาติดพี่ชายมากที่สุด เพียงแต่สิ่งที่พี่ชายบอกมันก็ทำให้เขารับปากว่าเขาจะไปอยู่ที่แคนาดาซักพัก

     

    ความฝันที่แบคฮยอนกำลังจะก้าวไปตามหา คือความฝันที่พี่ชายสนับสนุนและคอยให้กำลังใจอยู่เบื้องหลัง

    ถ้าในวันข้างหน้า ขาสองข้างของแบคฮยอนได้เดินไปตามความฝันนั้นโดยมีพี่ชายยังมองดูอยู่ แบคฮยอนก็ยังอยากจะเดินไปเพื่อพิสูจน์ให้เห็นเช่นกัน

     






     

    Wallpaper roseFlowers | pictures i love


     

    "ต้นรัก........" 

     

     

    วันนี้อากาศแจ่มใส แบคฮยอนเช็ครายละเอียดของที่จำเป็นและต้องใช้ที่แคนาดาอีกครั้ง เขากำลังจะเดินทางไปอาทิตย์หน้า มันไม่มีอะไรขาดหายแล้ว

    สายตาเลื่อนสำรวจกระดาษแผ่นเล็กอีกครั้ง ก่อนที่จะเดินออกมาหน้าบ้าน แบคฮยอนเดินออกมาหาคนตัวโตที่กำลังยุ่งอยู่กับการขุดดิน คิ้วขมวดเชียว....น้องชายใช้ผ้าเช็ดหน้าสีขาวเช็ดเหงื่อให้ก่อนจะยื่นแก้วน้ำให้พี่ชายดื่มแก้กระหาย

     

    พวกเขาสองคนช่วยกันปลูกดอกกุหลาบ ลู่หานเป็นคนพรวนดิน ส่วนน้องชายก็เป็นคนใช้ผักบัวรดลงไป พอลงต้นกุหลาบเสร็จ ทั้งสองก็ช่วยตบๆดินให้เข้าที่ ลู่หานโอบกอดจากทางด้านหลัง จับมือน้องทั้งสองข้างให้ตบดินไปด้วยกัน พวกเขามองหน้ากัน ยิ้มให้กันแล้วหัวเราะออกมา

     

     

    “นี่คือต้นรักของพี่กับแบคฮยอนนะ....”.

     

     

    ไม่รู้สิ บางทีมันก็อดยิ้มไม่ได้

                ทำไมต้องพูดอะไรแบบนั้นด้วย แบคฮยอนพยักหน้าขึ้นลงบอกว่าเข้าใจแล้วอยู่คนเดียวแล้วซุกลงไปในอก ลู่หานอุ้มน้องให้ไปนั่งบนหินสีเทาที่วางเป็นที่นั่งในสวน

     

     

    พี่ชายเก็บดอกหญ้าทั้งหลายมาผูกรวมกัน เขาเติมดอกไม้สวยๆบางชนิดลงไป

    ในที่สุดมันก็กลายเป็นมงกฏดอกไม้ มือหนาวางมงกฏนั่นลงบนผมสีน้ำตาลอ่อน

    เขานั่งยองๆข้างหน้า จับมือแน่นแล้วยิ้มให้

              

    น่ารักจัง

    เหมือนเจ้าหญิงเลย

                   “เหมือนจริงหรอ...?

                   “ไม่เหมือนหรอก เจ้าหญิงอะไรแก่นขนาดนี้...”     

                     “โธ่...”

     

    มือหนาพยายามช่วยเช็ดเศษดินบนใบหน้าของแบคฮยอนออกให้

     

    “ไปแคนาดาอย่าแอบร้องไห้คิดถึงพี่นะ...”

    “อย่าซนมากด้วย...อี้ฟานตามใจมากจะกลายเป็นเด็กดื้อเข้าไปใหญ่”

    “พี่ต้องคิดถึงแบคฮยอนทุกวันแน่ๆ แบคฮยอนต้องโทรกลับมาหาพี่ทุกคืนเลยนะครับ รู้ไหม...”


    “อื้อ รู้แล้วน่า....”

     

    แบคฮยอนยิ้มกว้าง พี่ชายกดจูบเบาที่ฝ่ามือ ก่อนเขาจะขยับขึ้นมาสัมผัสริมฝีปากแล้วลูบแก้มอยู่อย่างนั้น

     

    แค่.... ชอบสายตาแบบนี้

    อยากให้พี่ชายพูดแบบนี้ ทำแบบนี้ให้บ่อยๆ แบคฮยอนอยากได้แค่นั้นจริงๆ

     

    "เต้นรำกับพี่ไหม?"

     

    พอได้จูบ พอได้หอม ก็ยิ้มให้ซะกว้าง แถมยังเอามือหนาวางไว้ที่เอวหนึ่งข้าง อีกข้างก็จับมือเล็กของแบคฮยอนมาวางไว้บนไหล่ ลู่หานอมยิ้มบางเมื่อถามคำถามนั้น ดวงตามีแต่ความอบอุ่น เขาพาน้องชายล่องลอยไปในอากาศ 

     

    ลู่หานบอกให้แบคฮยอนหมุนตัว คนตัวเล็กหัวเราะออกมาแล้วหมุนตั้งหลายที ก่อนทั้งสองคนจะกอดกันกลมแล้วเต้นรำซ้ายขวาไปอยู่อย่างนั้น 

     

    พวกเขาเต้นรำด้วยกัน

    ไม่มีทำนองเพลงใดบรรเลงซักนิด

     

    ทุกอย่างเป็นเพียงเสียงนกน้อยที่ดังกังวาน เป็นเพียงเสียงระฆังของโบถส์ที่อยู่ไม่ไกลลอยมาตามสายลม

    แต่ถึงอย่างนั้น บทเพลงรักที่พี่ชายมอบให้ แบคฮยอนคิดว่ามันโรแมนติกที่สุดในโลกเลย

     





     


     

    KAISOO | via FacebookTumblr

    "วันหนึ่งรักจะเติบโต......"


     

    ผีเสื้อตัวน้อยสีขาว ปีกลายงดงามบินผ่านคล้ายสามลมที่พัดผ่านสองพี่น้องไป มันบินเข้าไปในบ้านสีขาวสะอาตา หน้าจอทีวียังคงปรากฏฉายภาพของเด็กชายคนเดิม เด็กชายผิวคล้ำที่แบคฮยอนมองดูไม่วางตา เขาคือคนที่แบคฮยอนเคยคิดเป็นห่วง เรื่องราวระหว่างคิมจงอินกับเพื่อนรักคยองซูเหมือนไม่มีคำตอบเลย

     

    ในตอนนี้ เวลาได้หมุนไปข้างหน้าแล้ว

    ในตอนนี้ทุกอย่างอาจจะเปลี่ยนไป และแบคฮยอนเชื่อว่า มันคือวันที่พวกเขารอคอยกันอยู่แน่นอน

     

    แม้ผีเสื้อตัวน้อยที่บ้านริมทะเลสาบไม่สามารถบินไปไกลขนาดนั้น หากแต่อีกฟากหนึ่งใจกลางเมืองหลวงกลับมีผีเสื้อลายแปลกประหลาดบินอยู่ในสวนเช่นกัน พวกมันน่าแปลกตรงที่มีหลายเหมือนกันทุกอย่างราวกับเกิดมาคู่กัน แต่มันดันอยู่ไกลกันคนละที่ แทบจะไม่มีวันเจอกันเลยด้วยซ้ำ

    ผู้จัดการร้านกาแฟมองผีเสื้อที่มีปีกงดงามแล้วอดยิ้มไม่ได้ โด คยองซูโค้งตัวอ่อนน้อม เขาเก็บแก้วจากลูกค้า เอ่ยขอบคุณแล้วยังมองตามผีเสื้อในสวนสีเขียวหน้าร้านกาแฟจนมันบินเลยไปยังทีวีจอใหญ่ในร้านกาแฟที่ถ่ายทอดสดอยู่

                เรียวขาก้าวเข้าไปดูโทรทัศน์ที่ปรากฏใบหน้าของคนคุ้นเคย

    คิมจงอิน นักเทนนิสมือวางอันดับต้นๆของโลก ไฟแรงและยังหนุ่ม อนาคตยังอีกไกล เขาเป็นได้ทั้งนายแบบ ทั้งต้นแบบของนักกีฬาที่ดี มีความอดทนและขยันหมั่นเพียร

     

                ในวันนี้ รายการออสเตรเลียนโอเพน เขาสามารถเฉือนเอาชนะมือวางอันดับหนึ่งไปได้ด้วยสกอร์ที่ไล่เลี่ยกัน เป็นหนึ่งในแมชที่คนดูลุ้นจนตัวโก่ง การขนะและได้แชมป์ในครั้งนี้ทำให้อันดับโลกของเขาขยับขึ้นไปอีก

     

    ขอบคุณคุณพ่อที่ท่านคอยสั่งสอนผมมาตลอด ผมเชื่อว่าทุกอย่างที่ท่านทำหวังดีต่อผมมาก ท่านสอนให้ผมเป็นคนที่มีความอดทน และนั่นทำให้ผมฝึกซ้อมจนชนะได้ในวันนี้"

    คำพูดของคิมจงอินที่พูดเป็นภาษาอังกฤษทำให้ทั้งนักข่าวและคนที่ดูถ่ายทอดสดยิ้มตามไปด้วย

     

     


    "ขอบคุณมากๆเลยครับ แต่สำหรับผม การได้แชมป์ ไม่ยากเท่ากับการรักษาแชมป์เอาไว้หรอกนะครับ"

     

    เสียงฮาครืนดังขึ้นเมื่อจงอินทำท่าจูบถ้วยรางวัลแล้วยกขึ้นเต้นท่าฮิปฮอป ผู้คนทั้งตลกท่าทางและตลกในความคิดที่มองไปข้างหน้าเพียงอย่างเดียว

    การรักษาแชมป์

     

                ชายหนุ่มร่างสูงผิวคล้ำยังคงให้สัมภาษณ์ต่อไป แต่ใบหน้าของเขาดูจริงจังมากขึ้น มีรอยยิ้มแต่แววตากลับฉายภาพเด็กชายคนหนึ่ง และเขามองเห็นมันเพียงคนเดียว

     

    "เหมือนกับการรักษาความรักเช่นกัน ขอบคุณคยองซูที่อยู่เคียงข้างผมมาตลอด ถ้าวันนี้้เรารักกันได้ ผมก็อยากบอกว่า ผมรักคยองซูเสมอและตลอดมาครับ"

     

     

     

    ผม.......อยากทานลาเต้ฝีมือคยองซูแล้ว

     

     

                ไม่มีใครรู้ว่า คยองซูคือใคร สาวน้อยใหญ่คงจะผิดหวังกันน่าดู นักกีฬาเทนนิสที่ติดอันดับโลกมีคนอยู่ในใจแล้วหรอ คนที่โชคดีคนนั้นคือใครกันน่ะ พวกแฟนคลับพากันสงัสย ลูกค้าในร้านกาแฟก็เช่นกัน แต่แน่นอน ผู้จัดการร้านขายกาแฟที่โด่งดังแห่งนี้ มีป้ายชื่อติดอยู่ว่าเขาชื่อ คยองซู เขารู้ว่าตัวเองคือใคร เขาคือคนๆนั้นจงอินเอ่ยถึง

     

    น้ำตาอยู่ดีดีมันก็ไหลลงมาจนต้องเอามือมาปากอยู่อย่างนั้น ไม่รู้สิ มันคงเป็นความภาคภูมิใจในคนที่เรารักมั้ง เราได้เฝ้ามองดูเขาเติบโต วันที่เขาล้มลงเพราะแพ้เราก็คอยให้กำลังใจอยู่ วันที่เขาชนะ เราก็คอยให้กำลังใจอยู่ จะดีจะร้ายก็แค่อยากให้รู้ว่าเรายังคงยืนอยู่เพื่อเขาทั้งนั้น


     

                ผ่านไปซักพัก ก็มีสายโทรศัพท์เข้ามา มันเป็นเบอร์มือถือของคนเดิมที่คุ้นเคย เบอร์ของคนที่แทบจะไม่ได้เจอหน้ากันเลยหลังจากเรียนจบ คนตัวเล็กตาโตสูดหายใจเข้าลึกๆแล้วพยายามรับสายให้น้ำเสียงเป็นปรกติที่สุด


                "อืม ว่าไง...."
     

                “ที่นายเคยบอกว่าความรักของเขาเหมือนหนอนในท้อง

                “.........”

                “มันแย่มากและโคตรอึดอัดเลยเนอะ...

     

                คยองซูเงียบ เขาตั้งใจฟังทุกอย่างที่คนในสายพูด น้ำเสียงทุ้มนั้นเอ่ยขึ้นมา ทำให้น้ำตาต้องร่วงหล่นอีกครั้ง

                มันคือน้ำตาแห่งความรัก และความดีใจที่เอ่อล้นจนเต็มอก

     

                “คุณพ่อไม่ว่าอะไรแล้ว..ท่านเข้าใจนาย ท่านเข้าใจฉัน เข้าใจพวกเราแล้ว”

    “..........”

                “ฉันยังดีใจอยู่นะที่นายไม่ได้ไปรักคนอื่นซะก่อน...”

     

     

                “คยองซูอ่า.....หนอนตัวนั้นถึงมันจะแย่ ทำให้ฉันรู้สึกทรมาณจนเคยอยากตาย.....”

                “แต่ฉันว่าตอนนี้ หนอนตัวนั้นเติบโตเป็นผีเสื้อแล้วนะ

     

     

     

                ผีเสื้อที่บินวนในช่องท้อง

                ความรู้สึกครั้งแรกที่สบตากันตอนมัธยมปลาย

                ผีเสื้อตัวนั้นอาจจะเติบโตช้า ไม่รู้ว่ากี่ปีแล้วที่ผ่านพ้นมา แต่มันจะยังคงงดงาม และบินวนอยู่ในหัวใจตลอดไป

     

     

     

     

     

     

               

     

     

     look at the stars...Baekhyun

     

    " ดวงดาวแบคฮยอน..."

      

     



                       ชิงช้าสีขาวที่มีพี่ชายเป็นคนแกว่งให้เบาเบา ค่ำคืนนี้มืดมิดแต่มีแสงสว่างเต็มท้องฟ้า คืนนี้คือคืนสุดท้ายก่อนแบคฮยอนจะบินไปที่แคนาดา อี้ชิงโทรมาบ่นว่าอย่าลืมอะไร เพราะเขาจะไม่ให้แบคฮยอนยืมอะไรเด็ดขาดแม้แต่แปรงสีฟัน

    คนตัวเล็กตอบรับเสียงอ่อยก้มหน้างุดพร้อมกับบอกว่าเข้าใจแล้ว เขาเล่าให้พี่ชายฟังก่ะจะฟ้องซักหน่อย แต่พี่ชายก็เอาแต่อมยิ้มส่ายหน้าเท่านั้น แบคฮยอนนั่งชิงช้าเพลิน นึกอะไรไปเรื่อย ก่อนจะได้ยินเสียงกระซิบข้างหู

     

    "นี่ แบคฮยอน ถ้าแบคฮยอนลากเส้นแบบนี้ เราก็จะเห็นว่าดวงดาวนี้เป็นกลุ่มดาวลูกไก่นะ"
    "
    ไหนครับ?"


    "นี่ๆตรงนี้ไง
    "
    อ๋อออออออ


    ลู่หานชี้ขึ้นไปทางด้านซ้ายแล้วอธิบายให้น้องฟัง แบคฮยอนแอบมองด้านข้างของพี่ชายแล้วอมยิ้ม

    คนตัวเล็กพยามสำรวจดวงดาวอย่างที่พี่ชายบอก


    "ส่วนนี้ก็เป็นดาวเหนือ มันสว่างที่สุดเลย ถ้าหลงทางอย่าลืมไปตามทางนี้นะ"

    “อื้ออออ”

    ดาวเหนืออยู่ทางด้านขวา แบคฮยอนเงยหน้าตามมือแล้วยิ้มจนเห็นเขี้ยว



    "แล้วนี่...ดวงดาวชื่อแบคฮยอน"
    "
    ดาวดวงนี้สวยที่สุดเลยนะในสายตาพี่"


     

    พี่ชายเดินอ้อมมานั่งยองตรงหน้าคนตัวเล็ก สบตากันแปปเดียว ก่อนจะยื่นหน้าเข้าไปหาอย่างรวดเร็ว

    ริมฝีปากหนาที่อบอุ่นกระทบมายังริมฝีปากบางคล้ายกับจะล้อเล่นกัน



    จุ๊บ
    "น้องพี่น่ารักที่สุดในโลกเลย"



    ฟอด
    "ตัวก็หอม"

    "
    งื๊อ อย่าสิครับ"



    "หืม ทำไมละ เดี๋ยวนี้พี่กอด พี่หอมไม่ได้เลย เดี๋ยวก็ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ?"
    "
    คิก ช่ายยย ห้ามหอมเลย ผมไม่ได้อาบน้ำมาสามวันแล้วน้ะ"




    จริงๆแล้วก็เขินนั้นแหละ พอทำอะไรแบบนี้คนตัวเล็กจะหน้าแดงทุกที

    แบคฮยอนแกล้งพูดเล่นหวังว่าจะให้พี่ชายหยุด แต่เหมือนประโยคดังกล่าวเขาจะคิดผิด

    เพราะนั่นมันทำให้พี่ชายจอมเจ้าเล่ห์ได้ใจ




    "เฮ้ย จริงดิ

    งั้น.....พี่อาบให้ไหมละ?"



    ดวงตาเป็นระยิบระยับส่อแววออกมา พี่ชายจูบละเลียดที่แก้มใส ก่อนจะซุกตรงซอกคออีกรอบจนแบคฮยอนต้องดันออก อายสิ เขินมากจนไม่รู้จะทำยังไงแล้ว



    "เสี่ยวลู่ !! ทำไมเดี๋ยวนี้ทะลึ่ง"
    "
    นะ พี่อาบให้เถอะนะ มาเร็วๆ"
    "
    ฮ่าๆ ไม่เอาาาค้าบ อย่านะ"


    ลู่หานแกล้งดึงน้องให้เข้ามาในอ้อมกอด พวกเขาเล่นวิ่งไล่จับกันอีกครั้ง
    พี่น้องทั้งสองหัวเราะให้กันอย่างมีความสุข 


     จนสุดท้าย ทั้งคู่ก็ล้มลงนอนพักเหนื่อยพร้อมกันที่ภูเขาริมทะเลสาบ

     

     

     



     





     

     

    ตอนกลางคืนมันหนาวมากไปหน่อย ลู่หานหยิบเอาผ้าห่มที่เขาพกมาด้วยมาคลุมตัวแบคฮยอนไว้ แขนแข็งแรงของตัวเองก็รองรับศีรษะทุยๆของน้อง

     

    พี่ชายชี้มือให้แบคฮยอนมองขึ้นไปบนฟ้าอีกครั้ง
    หน้าเรียวมองตามมือหนาของลู่หานแล้วยิ้มตาม ดวงดาวมันยังคงเป็นประกายระยิบระยับเต็มไปหมดเลย


     

    "โอ๊ะ นี่อะไรเนี่ย"
    "
    มาอยู่ในมือพี่ได้ไง"

     

    พี่ชายกำมือเหมือนรับอะไรซักอย่างมาจากด้านบน

    แบคฮยอนคิ้วขมวดงุนงน

     

    ลู่หานชี้มาที่มือตนเองที่กำไว้แน่น ทำหน้าสงสัย ก่อนจะเรียกมาดูด้วยกัน แบคฮยอนเอียงตัวเข้าไปมอง

     

    ทันทีที่มือหนาคลายออกมาก็ปรากฏสิ่งหนึ่งที่สะท้อนพร้อมกับแสงดาว

    มันเป็นแหวนเงินราบเรียบ ไม่ได้มีความพิเศษอะไร

     


    "สงสัยตกลงมาจากฟ้าเหมือนแบคฮยอนเลย"

     

    คนตัวโตกว่ายันลุกตัวขึ้นนั่ง แบคฮยอนก็มองเข้าไปแล้วก้ยิ้ม

     

    ข้างในสลักของแหวนถูกสลักไว้อย่างบรรจงว่า...
    鹿晗伯賢

     

     
     

    พี่รักแบคฮยอนที่สุดในโลกเลยนะ...

    ต่อจากนี้ไป อยู่ด้วยกันทุกวัน อย่าดื้อนะ....

    เข้าใจไหม คุณเจ้าหญิง...

     

     

     

     

     

     

    เข้าใจแล้ว..คุณพี่เลี้ยง

     

    แบคฮยอนโถมเข้ากอดในทันทีแถมยังกอดแน่นอีก ทั้งสองคนล้มไปกับพื้นหญ้าอีกครั้งโดยมีแบคฮยอนเอาคางมาจิ้มๆอกหรือไม่ก็ถูไปมา เขาดีใจนี่นา ไม่ค่อยได้รับของขวัญที่ดูมีค่าขนาดนี้เท่าไหร่ นอกจากสร้อยข้อมือของพี่ชายแล้ว ก็แทบจะไม่ได้สิ่งของที่ปรกติคู่รักคนอื่นๆจะซื้อให้กันเลย ไมว่าจะเป็นสร้อยคอ หรือเข็มกลัด แบคฮยอนก็ไม่เคยได้มันจากพี่ชายเลย

     

    “อยากให้แหวนแบคฮยอนตั้งนานแล้ว แต่เขิน.....ไม่กล้าให้ซักที...”

     

     

    ลู่หานยกมือเกาท้ายทอยตัวเองเล็กน้อย เขาบรรจงสวมแหวนไปที่นิ้วนางข้างซ้ายของแบคฮยอน นิ้วมือน้องชายสวยอยู่แล้ว แต่พอได้ใส่แหวนวงนี้ เขารู้สึกว่ามันกลับพอดีกันอย่างบอกไม่ถูก วันนี้เอง ลู่หานก้รู้สึกประหม่าอย่างบอกไม่ได้เช่นกัน

     

     

    “สัญญาไว้ก่อนนะ กลัวไปแอบรักคนอื่น..”

    “ถ้าแบคฮยอนกลับมา....”

    “เราสองคน......”

     

     

     

     

    “พี่กับแบคฮยอน... แค่สองคน...”

    “ครับ...?

     

    ลู่หานหัวเราะออกมา เขากลายเป็นคนพูดไม่ออกไปได้ยังไงนะ

    ทั้งๆที่ซ้อมอยู่หน้ากระจกตั้งแต่เช้าแล้ว ไม่พูดกับน้องวันนี้ก็ไม่รู้จะพูดวันไหน...

    มือหนาเช็ดจมูกไปมาพร้อมกับช้อนตาเงยขึ้นมองเจ้าหญิงที่ทำหน้าสงสัยอยู่ตรงหน้า

     

     

     


     

    “แต่งงานกันไหมครับ.... แบคฮยอนจะช่วย...แต่งงานกับพี่ได้ไหม.?

     

     

     

                ไม่มีเสียงใดตอบรับกลับมา มีเพียงแขนเล็กที่ยกขึ้นมาโอบกอดแน่นจนตัวสั่นและการหลับตาที่มีขนตางดงามพร้อมรอยจูบจากเจ้าหญิงอีกครั้ง ลู่หานกอดน้อง ปลอบน้องโดยที่มีน้ำตาไหลจนเต็มเสื้อ แบคฮยอนเป็นเด็กขี้แยเสมอในสายตาของเขา

                สาเหตุของน้ำตา...อาจจะไม่ได้มีเพียงอย่างเดียว

                แต่น้ำตาที่ไหลลงทุกครั้ง มันมีต้นเหตุมาจาก “ความรัก” ด้วยกันทั้งนั้น








     

    Diario_SeHun | via Tumblridk





    "คิดถึง....." 

     

     

    สองเดือนที่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน แต่ก็เหมือนอยู่ใกล้กันทุกวัน คุณเลขาจะเห็นว่าผู้บริหารเสี่ยวคนเก่งมักจะนั่งเปิดไอแพดแชทนู่นนี่อยู่ทั้งวัน จนบางทีเธอต้องแกล้งกระแอมไอดัง พอเจ้านายรู้ตัวเข้าหน่อยก็แกล้งทำหน้านิ่ง โธ่! รู้หรอกน่า คุณแบคฮยอนไม่อยู่แค่สองสามวัน เจ้าชายเธอก็ดูไม่ค่อยอารมณ์ดีเลย ...

     

    แต่วันนี้คงจะไม่เป็นแบบนั้นแล้วแหละมั้ง เพราะคุณแบคฮยอนบอกว่าเขาจะมาเซอร์ไพรส์ที่บริษัท อย่าเพิ่งบอกพี่ชายเด็ดขาด คุณเลขาก็ร่วมมืออย่างง่ายดาย เจ้านายน่ะมีจุดอ่อนไม่กี่อย่างหรอก เธอก็อยากจะแกล้งบ้าง

     

    คนตัวเล็กวิ่งเข้าไปยังห้องทำงานโดยไม่สนใจคุณเลขาที่ร้องเรียกทักทายเท่าไหร่ เขาเพียงแค่โค้งเบาๆอย่างรวดเร็วแล้ววิ่งเข้าไปในห้อง ตั้งแต่ลงจากเครื่องก็รีบมาหาเลย

     

     

    "ขอกอดหน่อยนะ!"

    แบคฮยอนวิ่งเข้าไปที่เก้าอี้ทำงานของพี่ชายแล้วนั่งตักในทันทีโดยไม่สนคนตรงหน้ากำลังจะเซ็นเอกสาร ใส่แว่นหน้าตาเคร่งเครียดอยู่เลย แน่นอนลู่หานก็ยิ้มกว้าง เขาแทบจะทิ้งเอกสารทั้งหมดที่มีอยู่บนโต๊ะด้วยซ้ำ


    "เด็กดื้อ กลับมาแล้วหรอ ตัวหนักขึ้นเปล่าเนี่ย!"
    "
    คิดถึงพี่ชายจะตาย หนักแล้วยังไงกันเล่า ก็จะกอดอย่างนี้ ยังไงเสี่ยวลู่ก็ต้องตามใจแบคฮยอน เข้าใจไหมๆ"

     

    แบคฮยอนเข้ามากอด เข้ามาอ้อน ถูใบหน้าไปมากับไหล่พี่ชาย คิดถึงกลิ่นหอมนี้ยัง

    คนตัวเล็กยิ้มทำปากยู่แถมยังเอาหน้าผากมาชนเบาๆอีก

     
    "ฮ่าๆ เข้าใจแล้ว ก็แค่อุ้มเด็กอ้วนบางคน หลังคงไม่หักหรอกเนอะ"
    "
    ช่าย ไม่หักหรอก......”

     

     

     

     

    “....................”

     

    เอ้ย เดี๋ยวนะ นี่พี่ชายหลอกว่าผมว่าอ้วนหรอ เดี๋ยวเจอดีแน่ นี่แหนะๆๆ"


    มือเล็กยกขึ้นดึงแก้มของพี่ชายไปมาไปมาอยู่อย่างนั้น
    คงคิดถึงพี่มากเลยสิ ไม่ได้เล่นด้วยกันตั้งนาน


    "โอ้ย เจ็บ ยอมแล้ว"

     


     

    ตกลงอ้วนไหมตอบดีดีนะ

    ไม่อ้วนๆ สองเดือนก่อนยังแบกขี่หลังได้อยู่เลย แบคฮยอนออกจะหุ่นดี เซกซี่จะตาย พนักงานสาวๆสู้ไม่ได้แล้วเนี่ย

     

     

    เฮ้ย นั่นประชดแล้วเสี่ยวลู่

     

    ลู่หานหัวเราะออกมา

    พี่ชายจุ๊บเบาไปที่แก้มใสอย่างรวดเร็วแล้วกระซิบลงที่ใบหู

    พวกเขาหัวเราะเบาๆกันสองคน


    เอาล่ะๆ หุ่นดี ไม่ดีพี่ก็รัก..คืนนี้ให้กอดเยอะๆนะ
    "หึ ให้มันรู้ซะบ้างว่าใครเป็นใคร"




    "แล้วนายเป็นใครละเนี่ยไม่เจอนานจำไม่ได้แล้ว"
    "
    แฟนเสี่ยวลู่ไง เป็นสุดที่รักที่เสี่ยวลู่รักม๊ากมาก"


    "
    ไอเดกบ๊อง หลงตัวเอง"
    "
    คิก"


     

                แบคฮยอนคุยเรื่องหงุงหงิงกับพี่ชายต่อไป เขาได้ไปศึกษาการถ่ายภาพทุกอย่างมาแล้ว ในตอนนี้มีความสุขมากเลย ก่อนจะกลับมา ก็มีคนมาติดต่อ ขอจองตัวให้ไปถ่ายรูปที่บริษัทโฆษณาหลายแห่ง แต่แบคฮยอนปฏิเสธไป

    เขาบอกว่าเขาอยากจะช่วยบริษัทของพี่ชายและเจ้าชาย เขาอยากลองแบ่งเบาภาระบ้าง แม้มันจะเป็นพียงเล็กน้อยก็ตามที ลู่หานแกล้งถามว่า มาเป็นเลขาไหม เขาชักเบื่อคนที่แอบฟังอยู่หน้าห้องแล้วเหมือนกัน คุณเลขาชะงักร้อง อุ่ย ก่อนเธอจะรีบเดินไปเช็ดตารางงานของเจ้านายอีกครั้ง (ก็ได้) แบคฮยอนหัวเราะออกมาแล้วยิ้มให้พี่ชายจนตาหยี

    ซึ่งลู่หานเองก็อมยิ้มแล้วลูบหัวน้องชายอยู่อย่างนั้น....

     

    คิดถึง รัก เป็นทุกอย่างแล้วสำหรับคนๆนี้

     

     

     

    WeddingTake a Seat 

     "เพื่อรักและยกย่องให้เกียรติคุณ"

     

     

    มันเป็นเพียงงานเล็กๆ ไม่มีใครพิเศษมากจนเกินไป มีจางรี่อินที่เคยบอกว่าจะมาพังงานแต่งลูกชายแต่เธอกลับแต่งตัวได้สวยที่สุด เธอเป็นคนมาส่งแบคฮยอนให้กับลู่หานเองกับมือ

     

    มีเพียงเด็กๆจากโบสถ์ที่อยู่ใกล้โปรยดอกไม้ไปตามทางเดิน มีคุณพ่อบาทหลวงที่พวกเขาเคยเจอในสมัยเด็กๆ

    มีเก้าอี้สีขาวที่ผูกลูกโป่งวางเรียงราย มีชานยอลแต่งตัวซะหล่อนั่งอยู่จับมือ บางทีก็ตีกันไปมาอยู่ข้างเซฮุน

                มีอี้ชิงยืนอยู่ข้างแบคฮยอนคอยจัดทรงผมให้ มีอู๋อี้ฟานยืนข้างลู่หานคล้ายจะให้กำลังใจ

     

                ชุดสูทสีขาวทำให้แบคฮยอนดูดีเสมอ คนตัวเล็กตื่นเต้นที่สุดก็คือวันนี้ พี่ชายเองก็ประหม่าเล็กน้อยเช่นเดียวกัน

                พวกเขาให้คำมั่นสัญญาต่อกันที่บ้านริมทะเลสาบ ต่อหน้าเพื่อนและครอบครัวอันเป็นที่รัก

     

                “จะถือซื่อสัตย์ต่อคุณ ทั้งในยามสุข และยามทุกข์ ทั้งในเวลาป่วยและเวลาสบาย”
                “เพื่อรักและยกย่องให้เกียรติคุณ จนกว่าชีวิตจะหาไม่..”




                      
                รอยจูบที่ตึงตราอยู่อยู่ในหัวใจ จูบที่อบอุ่นและคุ้นเคยมันดี บางเบาแต่มีความหมายเหลือเกิน
               
     ช่อดอกไม้ที่แบคฮยอนถือครั้งสุดท้าย ก่อนจะหันหลังโยนมันไป

     

                น่าแปลกที่คนที่รับได้กลับเป็นคิมจงแดไปซะงั้น คุณหมอใหญ่หัวเราะเสียงดังแถมยังเอามือมาปิดหน้า ก็จงแดไปยืนหน้าสุดขนาดนั้น ไม่ได้ก็ไม่รู้จะว่าไงแล้ว จงแดบอกว่าเขาจะเป็นเจ้าบ่าวที่หล่อกว่าลู่หานให้ได้ แต่ตอนนี้เก็บตังก่อนนะ ให้คุณหมอรอก่อนซักครู่นึง แต่ถ้าคุณหมอรีบจะแต่งต่อจากแบคฮยอนกับลู่หานเย็นนี้เลยก็ได้

                เรียกได้ว่า เรียกเสียงหัวเราะครืนออกมาได้ยกใหญ่กันเลยทีเดียว

     

    หลังจากที่งานเลี้ยงในตอนเย็นเริ่มขึ้น แบคฮยอนและลู่หานจับมือกันแน่นไม่ปล่อย พวกเขาคุยกับเพื่อนๆ

    ทักทายผู้ใหญ่คนสำคัญที่ให้เกียรติมาร่วมงาน

    ทั้งสองคนเต้นรำกัน ก่อนจะเลือกเดินจูงมือกันตามทางของทะเลสาบที่งดงามเพียงสองคน

     

     

    มีคนหลายคนบอกว่า ไตคล้ายกับเม็ดถั่วแดงสองข้าง

    หรือรูปร่างของไตคล้ายกับตุ่มถั่วงอกที่แบคฮยอนไม่ชอบ

     

    แต่แบคฮยอนไม่ได้คิดเช่นนั้น

    เขาคิดว่าไตทั้งสองข้างของเขา คล้ายกับคู่ของรองเท้าที่แบคฮยอนทำหล่นหาย

    รองเท้าอีกหนึ่งคือ คือไตอีกข้างที่เขาตั้งใจทิ้งเอาไว้เพื่อให้พี่ชายตามหาเขา

     

     

    รู้อะไรไหม?

    มันไม่เป็นอะไรเลย ถ้าแบคฮยอนจะทำรองเท้าแก้วคู่นี้หายให้กับลู่หาน

    ไม่เป็นไรเลย หากเขาจะมอบให้กับคนที่เขารัก

     

     

    เพราะจากนี้ไป แบคฮยอนรู้ดีว่าพี่ชายจะเติบโตพร้อมกับแบคฮยอน

     


    เขาจะจูบน้องในตอนเช้าคล้่ายน้องเป็นเจ้าหญิงนิทรา
    เขาจะเป็นกระจกวิเศษที่คอยบอกว่าน้องน่ารักที่สุดในโลกคล้ายเจ้าหญิงสโนไวท์
    จะเป็นคนคอยสระผม ตัดผม หวีผมให้น้องทุกวันคล้ายกับน้องเป็นเจ้าหญิงราเพนเซล


     

    จะเป็นคนที่ต่อให้อุปสรรคร้ายแรงแค่ไหนก็จะไปหาน้อง 

     


    และที่สำคัญเขาจะหาน้องให้เจอจากรองเท้าที่สำคัญข้างนี้ที่น้องทำหล่นหายให้กับเขา
    เขาจะตามหาน้องเจอ จากคู่รองเท้าที่คู่กันพอดี


     

     


    {Cinderella story.. -ซินเดอเรลล่า สตอรี่...}




    THE END...


     











    -ขอบคุณทุกคอมเม้นและกำลังใจมากเลยค่ะ ฟิคจะไม่จบได้ถ้าไม่มีคอมเม้นที่ให้กำลังใจเลย:))
    ถ้ามีอะไรติชมเราพร้อมรับฟังเสมอนะคะ ^_^
    ขอบคุณจริงๆค่ะ มีอะไรพิมพ์ไว้ที่ห้องคุยกับคนแต่งนะคะ



      

    © Tenpoints! 
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×