คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #14 : :>>: บทที่ 11 :
ความเดิมตอนที่แล้ว
>>>
“ฉันบอกแล้วนะว่าฉันเริ่มเห็นไอดำจากด้านหลังของเธอแล้ว ...ระวังตัวด้วยล่ะ
เพราะฉันรู้สึกเหมือนงานนี้ไม่หมูเอาซะเลย”
เทียนหอมพูดทิ้งท้ายแล้วเดินจากไป ปล่อยให้ฉันนั่งตะลึงงันอยู่กับที่
โดยไม่รู้เลยว่า...แม่ของตัวเองกลับแอบปรือตาขึ้นมานิดๆ ก่อนที่จะทำสีหน้าลำบากใจ
แล้วหลับตาลงอีกครั้งเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
-------------------------------------------------------------------
:>>: บทที่ 11 :<<:
ความลับที่ยังไม่ได้บอก
< :: LAL PART :: >
หลังจากที่ฉันเห็นภาพวิญญาณในห้องถ่ายเอกสาร
และเทียนหอมก็เข้ามาช่วยได้ทันก่อนที่ฉันจะเผลอสลบไป
ฟื้นขึ้นมาอีกทีก็คือเห็นลูกสาวของตัวเองกำลังเค้นถามกับเด็กผู้ชายที่เป็นรุ่นราวคราวเดียวกันกับน้ำอบซะแล้ว
และถ้าฉันจำไม่ผิด...เด็กผู้ชายคนนี้เคยทักฉันว่าเห็นไอดำแห่งความโชคร้าย
แน่นอนว่าฉันถึงกับตกตะลึง และรีบซ่อนอาการเหล่านั้นเอาไว้
...เพราะฉันไม่ยอมให้ลูกสาวรู้เรื่องที่ฉันมี ‘ญาณอาถรรพ์’ เด็ดขาดเลย...
“หมายความว่าไง หา นายเพี้ยน แม่ฉันไปสลบอยู่ที่ห้องถ่ายเอกสารตั้งแต่เมื่อไหร่”
น้ำอบถามน้ำเสียงทำนองกระซิบ เทียนหอมทำสีหน้าลำบากใจ
พร้อมกับพูดอะไรบางอย่างออกมา
“ตอนเช้าคาบเรียนที่ 1
...คราวนี้...ไอดำแห่งความโชคร้ายเริ่มดำสนิทลงเรื่อยๆ
แล้วนะ”
“อะไรนะ?”
“ฉันเคยบอกเธอแล้วใช่ไหมว่าฉันเห็นไอดำสนิทอยู่ที่หลังเฉพาะคนที่กำลังเผชิญ
กับเรื่องร้ายๆ และแม่เธอก็ด้วย แต่คราวนี้มันดำมาก...เหมือนหลุมดำเลยแหละ อ๊ะ...” เทียนหอมทำท่าชะงักเหมือนเห็นอะไรบางอย่างทางด้านหลังของน้ำอบ
ก่อนที่น้ำอบจะหันไปมองทางด้านหลังตัวเอง
และทำหน้าสงสัยใส่เทียนหอมเมื่อรู้ว่าด้านหลังนั้นไม่มีอะไรเลย “นี่นาย...มองอะไรงั้นเหรอ?”
“ธะ...เธอ เธอ!”
เทียนหอมพุ่งตัวไปจับแขนลูกสาวฉันด้วยสีหน้าที่แตกตื่น
“ตอนเช้าเธอไปทำอะไรมา ...หลังจากที่ฉันลากเธอมาส่งที่ห้อง!?”
“โอ๊ย! เทียนหอม ฉันเจ็บนะ”
“เอ่อ...ขอโทษนะ แต่ว่าฉันเห็นไอดำนิดๆ ที่ข้างหลังของเธอ” เทียนหอมปล่อยมือด้วยแววตาที่รู้สึกผิดจริงๆ
ก่อนที่จะพูดอะไรออกมา แน่นอนว่าเล่นเอาฉันถึงกับเผลอจิกผ้าปูเตียงแทบจะทันที
“!!!!?” ...ว่าไงนะ!??
“หา!!?”
น้ำอบทำสีหน้าตกใจ
แต่เทียนหอมกลับทำท่าทีเหมือนว่าอย่างเพิ่งไปใส่ใจกับมันมากนักเลย
“ชะ..ช่างมันเถอะ ยังไม่โชคร้ายเท่าไหร่หรอก แต่เอาเป็นว่าเธอพอจะได้ยินเรื่อง ‘ประธานนักเรียนต้องสาป’ บ้างไหม?”
คำพูดของเทียนหอมทำเอาความรู้สึกจุกอกแล่นจู่โจมเข้าทันที
เท่าที่ฉันฟังและคาดเดาเอาไว้ คิดว่าเด็กผู้ชายคนนี้ท่าทางจะมีสัมผัสที่ 6 เหมือนฉันแน่ๆ แต่ฉันก็ยังไม่แน่ใจเท่าไหร่
เพราะของแบบนี้ ใครก็แอบอ้างได้ทั้งนั้น และยิ่งคำถามบ้าๆ นี่อีก
มันจะต้องเกี่ยวโยงกับเหตุการณ์ที่การินใช้อำนาจเงินปกปิดข่าวฉาวนี้แน่ๆ
และทันทีที่น้ำอบพูดถึงเรื่อง ‘ประธานนักเรียนต้องสาป’ ขึ้นมา
ความจริงก็ทำให้ฉันถึงกับจุกจนพูดอะไรไม่ออก ใช่...มันเป็นเรื่องที่การินใช้เงินเพื่อปิดข่าวจริงๆ!
ให้ตายเถอะ...! แล้วฉันจะต้องทำยังไงดี
หรือว่าคราวนี้จะเป็นเพราะญาณอาถรรพ์ของฉันกันแน่!?
เมื่อฉันตัดสินใจแอบฟังเด็ก 2 คนนี้พูดไปเรื่อยๆ คราวนี้ฉันถึงได้แน่ใจแล้วว่าเทียนหอมเป็นคนที่มีสัมผัสที่ 6 จริงๆ แต่เขาพูดเหมือนกับว่าไม่เคยเห็นวิญญาณร้ายจนกระทั่งมาเจอ...ฉัน?
เอ๊ะ!?
หรืออาจจะเป็นเพราะญาณอาถรรพ์ฉันไปแผลงฤทธิ์กับเทียนหอมกันแน่?!?!
ในขณะที่ฉันคิดไปร้อยแปดจิปาถะจนปวดหัว
เทียนหอมก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วพูดอะไรบางอย่างออกมา
“ฉันบอกแล้วนะว่าฉันเริ่มเห็นไอดำจากด้านหลังของเธอแล้ว”
คำพูดของเทียนหอมทำให้ฉันรู้สึกอยากจะร้องไห้โฮออกมา ไม่เอานะ
ลูกสาวฉันไม่ควรจะเจอเรื่องพรรค์นี้สิ ขอร้องแหละ
อย่าให้เจอเหตุการณ์น่าสยดสยองเหมือนฉันเลย ...ได้โปรด
“...ระวังตัวด้วยล่ะ เพราะฉันรู้สึกเหมือนงานนี้ไม่หมูเอาซะเลย”
เทียนหอมออกจากห้องไปแล้ว
ฉันได้แต่แอบปรือตาขึ้นมาดูลูกสาวตัวเองด้วยแววตาที่หนักใจ
ก่อนที่จะพริ้มตาลงเพราะไม่อยากจะรับรู้เรื่องพรรค์นี้อีกแล้ว
...แต่มันก็ดันเกิดขึ้นอีกจนได้สินะ...
“ทำไมโรงเรียนถึงมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นนะ? ทั้งๆ ที่อยู่มาตั้ง 2 ปี ก็ไม่เคยได้ยินเรื่องน่ากลัวๆ
แบบนี้เลยนี่นา”
น้ำอบเพ้อรำพัน
ฉันได้แต่แกล้งหลับตาลง ทั้งๆ
ที่ใจจริงแล้วอยากจะวิ่งไปปรึกษาการินเหลือเกินว่าจะทำยังไงดี
“...พี่พริกหวานคะ ไม่ว่ายังไงหนูก็จะไม่ให้พี่เป็นอะไรแน่ๆ”
คำพูดของน้ำอบทำเอาฉันสงสัย ...พริกหวาน? เอ๊ะ ใครกันนะ?
“...พูดถึงใครกันจ๊ะลูกสาวของแม่” ฉันตัดสินใจทำลายความเครียดและเงียบขรึมนี้ด้วยการฉีกยิ้ม
แล้วปรือตาขึ้นมาทางถามถึงคนที่น้ำอบเพิ่งจะเพ้อถึงเมื่อครู่
น้ำอบสะดุ้งเฮือกสุดตัว แล้วหันหน้ามาทางฉันด้วยใบหน้าที่แดงซ่านเหมือนมะเขือเทศสุก
“อ๊ะ มะ..แม่!!? O//////O!!!!”
“พริกหวานเนี่ยชื่อผู้ชายหรือชื่อผู้หญิงกันจ๊ะ เดี๋ยวนี้หัดมีความลับรึไง”
ฉันยิ้มหยอกทั้งๆ ที่ในใจกลับมีเรื่องต้องคิดเต็มไปหมด
แต่ดูเหมือนว่าน้ำอบจะไม่ตอบคำถามของฉัน
เพราะลูกสาวคนนี้กลับหันมาเป็นห่วงเป็นกังวลกับฉันเสียก่อน
“แม่เป็นยังไงบ้างคะ แล้วแม่ไปทำอะไรที่ห้องถ่ายเอกสาร หนูเป็นห่วงแม่มากเลย
ถ้าไม่ได้เทียนหอมช่วยล่ะก็แย่แน่ๆ...” น้ำอบทำหน้าเศร้าๆ และกุมมือของฉันแน่นขนัด
ฉันอดที่จะยิ้มซะไม่ได้ ผลงานที่ฉันกับการินร่วมกันสร้างขึ้นมามีชีวิตชีวาและเจิดจ้าถึงขนาดนี้
เชียวเหรอ
“เทียนหอมเนี่ย...ใช่คนที่ลูกเขม่นกันเมื่อวันปฐมนิเทศรึเปล่าล่ะ ^^?”
“โธ่...แม่คะ ที่หนูญาติดีกับเขาเพราะเขามาช่วยแม่เอาไว้เฉยๆ หรอก =_= ...เอ๊ะ เดี๋ยวสิ นี่แม่ยังไม่ตอบคำถามหนูเลยนี่คะ!? >_<++!!!”
“ฮะๆๆ”
ฉันหัวเราะเฝื่อนๆ
พร้อมกับกำลังนึกเรื่องโกหกอยู่
จะให้บอกว่าได้ยินเสียงเรียกจนเดินมาถึงห้องถ่ายเอกสาร
แล้วก็เจอซากศพที่ถูกชำแหละซะเละอย่างนั้นเหรอ? คงจะไม่เข้าท่าแหะ
และที่สำคัญสิ่งที่ฉันเห็นคือความอาวรณ์ที่เห็นจากญาณอาถรรพ์เท่านั้นเอง
แล้วทำไมเทียนหอมกลับเห็นเหมือนที่ฉันเห็นตอนเผลอก้าวเข้าไปในห้องถ่ายเอกสารล่ะ?
จะเป็นไปได้ไหมว่าที่เทียนหอมเห็นนั้น
เป็นเพราะโดนญาณอาถรรพ์กระตุ้นให้สัมผัสที่ 6 ของเทียนหอมทำงานได้ดีขึ้น???
อา... เลิกคิดซะแป๊บจะดีกว่า ปวดหัวไปหมดแล้ว
“แม่เอาเอกสารไปถ่ายที่ห้องนั้นน่ะลูก แล้วแม่ก็รู้สึกเหมือนจะเป็นลม
เทียนหอมก็เลยเข้าไปช่วยแม่ได้ถูกจังหวะพอดีเลย ^-^;” ฉันตัดสินใจเอาเรื่องโกหกที่น่าเชื่อถือมาใช้
น้ำอบทำหน้าเหมือนไม่อยากจะเชื่อ แต่ซักพักก็คลี่ยิ้มแล้วพยักหน้า
“อ๋อค่ะ ...ว่าแต่ว่าแม่จะกลับบ้านเลยไหม? ไปนอนพักซักหน่อยแล้วพรุ่งนี้มาทำงานต่อก็ได้นะคะ”
น้ำอบเป็นห่วงฉันมากมายจริงๆ ฉันค่อยๆ พยุงตัวขึ้นมาจากเตียง
แล้วนั่งห้อยขาเพื่อมาประจันหน้ากับลูกสาวของตนเอง
...ลูกสาวเพียงคนเดียวที่ไม่ว่าจะเป็นฉันหรือการินก็ไม่อยากจะให้เจอเรื่อง ร้ายๆ
แบบนี้ทั้งนั้น
“แม่ยังไม่กลับหรอก เพราะแม่จะไปหาพ่อก่อน” ฉันเอามือลูบหัวลูกสาวตัวเองด้วยความรักใคร่
น้ำอบถามฉันตาใสแป๊ว “ให้หนูไปส่งแม่ที่ห้องทำงานพ่อนะคะ?”
“แต่ลูกจะเข้าเรียนสายนะ”
“ไม่เป็นหรอกคะ หนูหัวดีพอๆ กับพ่อนั่นแหละ ^++^” น้ำอบยิ้มยิงฟัน
ในขณะที่ฉันกลับส่ายหัวเพราะที่น้ำอบพูดน่ะ...มันเป็นเรื่องจริงซะด้วยสิ
“ก็ได้ พอไปส่งแม่แล้วก็รีบกลับไปเรียนด้วยล่ะ”
“ค่า ^O^/
คุณแม่คนสวย
อิๆ!”
น้ำอบทำสีหน้าเริงร่า ซึ่งมันพอจะบรรเทาความหวาดกลัวในจิตใจฉันไปได้บ้าง
จนกระทั่งน้ำอบมาส่งฉันถึงห้องผู้อำนวยการ น้ำอบก็เดินจากไปพร้อมกับรอยยิ้ม
ปล่อยให้ฉันยืนอยู่ที่หน้าห้อง ก่อนที่จะเคาะประตูห้อง 2 - 3 ที
ก่อนที่จะเปิดประตูห้องเข้าไปอย่างไม่ต้องรอให้ได้รับอนุญาต
ก๊อกๆๆ
“การิน ฉันเข้าไปนะ”
แอ๊ดดดดด...
ทันทีที่ฉันเอามือผลักประตูเลื่อนเข้าไป
ก็พบว่าการินกำลังดูเอกสารอยู่ที่โต๊ะทำงานอย่างคร่ำเคร่ง เมื่อเขาเงยหน้าขึ้นมา
สิ่งแรกที่เขาทำเป็นประจำเมื่อเห็นฉันนั่นคือรอยยิ้มที่แสยะออกมา
“อ้าว ยัยโง่ คิดถึงฉันขนาดนั้นเลยเหรอ”
“ไม่ใช่เวลาจะมาตลกนะการิน ฉันมีเรื่องจะมาปรึกษา” ฉันเดินก้าวเข้าไปหาเขา การินหัวเราะหึๆ
ในลำคอ แล้วลุกขึ้นมาจากเก้าอี้นวมตัวใหญ่เพื่อเดินมาหาฉันเช่นกัน
“เอ... คราวนี้จะมีเรื่องสนุกอะไรเกิดขึ้นอีกนะ”
“เรื่องที่นักเรียนโดนฆ่าชำแหละศพเมื่อ 2 ปีที่แล้ว
...ข่าวที่นายเพิ่งใช้เงินฟาดเพื่อปกปิดข่าวในตอนนั้นไงล่ะ” ฉันพูดด้วยสีหน้าที่จริงจัง
การินแสยะยิ้มกว้างกว่าเดิม
“เหมือนจะเจ๋งแหะ”
“แต่การิน คราวนี้ลูกของเรากำลังจะมี่เอี่ยวนะ!”
“!!!? ว่าไงนะ!!!?”
การินถึงกับหุบรอยยิ้มแสยะลงแทบจะทันที
ก่อนที่จะคว้าเข้าที่ต้นแขนฉันอย่างแรง
“หมายความว่าไง?!
นี่ลูกเรากำลังจะเจอเรื่องแบบนี้อย่างงั้นเหรอ?!!”
“โอ๊ย! การิน ฉันเจ็บนะ!” ฉันเผลอครางด้วยใบหน้าที่เหยเก การินถึงกับถอนหายใจขึ้นจมูก
ก่อนที่จะดึงฉันเข้าไปสวมกอดแทน
“ขอโทษ แค่นึกว่าลูกจะเจอเรื่องแบบเรา มันก็ทนไม่ได้”
“ฮิๆ รู้แล้วล่ะน่า ฉันเข้าใจดี ก็เราเป็นพ่อกับแม่ของน้ำอบนี่นา” ฉันซุกหน้าเข้าไปที่อกกว้างซึ่งทำหน้าที่เป็นพ่อที่ดีให้กับน้ำอบอย่างไม่
ขาดตกบกพร่อง ก่อนที่จะเริ่มถามการินเสียงเครียด
“แล้วเราจะจัดการเรื่องนี้ยังไงกันดี?”
“ลองเล่าเรื่องที่ว่ามาให้ฉันฟังสิ
แล้วฉันสัญญาว่าจะไม่ให้ลูกของเราเป็นอะไรไปเด็ดขาด”
การินพูดด้วยสายตาที่แน่วแน่ ในขณะที่ฉันก็ไม่แพ้กัน
เรื่องในคราวนี้ไม่ใช่เพียงแค่เราทั้ง 2 คนเหมือนแต่ก่อนแล้ว...
เพราะคราวนี้กลับทำให้น้ำอบเดือดร้อน...แน่นอนว่าฉันไม่มีวันให้เกิดขึ้นเด็ดขาด!
::: ~~~ To be continues
~~~ :::
-------------------------------------------------------------------
ความคิดเห็น