ลำดับตอนที่ #27
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #27 : :>>: บทที่ 24 :
ความเดิมตอนที่แล้ว >>>
ฝ่ายพริกหวานที่เห็นแบบนั้น เขาก็ได้แต่ก้มหน้ากำหมัดแน่น ความโกรธคับแค้นแน่นอกราวกับมีใครสุมไฟให้แผดเผาเขากำลังจะตายทั้งเป็น ยังไงก็ตาม...สู้ตัวต่อตัวเขาอาจจะพ่ายแพ้
แต่ถ้าเป็นวิธีการโกงเกมให้เขาชนะล่ะก็...พริกหวานคนนี้ล่ะถนัดนัก!!!
“ม่ายยยยยย...พี่พริกหวานของหหหหหหหหหนู~~~ (/TOT)/”
ฉันกรีดร้องเสียงโหยหวนที่สุดในโลกหล้าเมื่ออีตาเทียนเน่าเพี้ยนๆ มาลากฉันออกจากความสุขอีกครั้ง TT_TT ฮือออออ ขอสามคำ ไป! ตาย! ซ้าาาาาา!!! >O</!!!! (หมายถึงตาเพี้ยนนี่น่ะนะ)
โอ๊ยยยยยยย อยากจะบ้า Y_Y
“โหยหวนเข้าไป ยัยบ้าผู้ชาย! -_-^!”
“ถึงฉันจะบ้า แต่ฉันก็บ้าของฉันคนเดียว ซึ่งนั่นก็คือพี่พริกหวาน! >_<! ได้ยินม้ายยยย พี่พริกหวานคนเดียวเท่าน้านนนนนน” ฉันลากเสียงตะโกนใส่หูเทียนหอมอย่างขัดใจที่สุดในปฐพี ในขณะที่เทียนหอมกลับหยุดเดินจนฉันที่เดินตามเขาอยู่ก็ถึงกับเบรกไม่ทัน จนทำให้หน้าฉันกระแทกเข้าที่แผ่นหลังของเขาอย่างจัง
ปึก!
“อ๊าก เจ็บ! TAT!” ฉันสบถพร้อมกับเอามือลูบจมูกปอยๆ แงๆๆ อีตานี่รังแกจมูกน้อยๆ ของหนู T^T
“นี่เมื่อไหร่เธอจะเลิกปลื้มพี่พริกหวานของเธอซะทีเนี่ย ฉันเบื่อและรำคาญจะแย่อยู่แล้ว” เทียนหองใช้หางตามองฉันอย่างน่าหมั่นไส้ ในขณะที่ฉันก็แหวใส่น้ำเสียงไม่พอใจ “รำคาญฉันก็ปล่อยสิยะ!”
“รำคาญไอ้รุ่นพี่พริกหวานตั้งหาก!”
กรีดร้องงงง เขาเรียกพี่ (ว่าที่สามี) ของหนูว่า ‘ไอ้’ T^T
“นายหยาบคายมากเลย -_-^! รู้ตัวไหมว่านับวันนายก็ยิ่งทำตัวเก้งก้างเกะกะสายตา ฉันว่าฉันก็อยู่ของฉันเฉยๆ และทำตัวเชยๆ ให้ไม่มีใครมาสนใจนอกจากพี่พริกหวานของฉันแล้วนะ แล้วนี่อะไร? นายยังจะตามมาตอแยกับฉันเรื่องแม่ทำไม ไม่ไปตามตอแยกับแม่ให้พ่อฉันเจื๋อนนายเลยซะเล่า!?”
“ก็เคยบอกไปแล้วนี่ว่าแม่เธอจะมีเคราะห์”
“ก็นั่นแหละ! คราวนี้ฉันอนุญาตให้นายไปหาแม่ฉันแล้วช่วยโดยตรงได้เลย! (ถ้าไม่โดนพ่อฉันฆ่านะ T^T)”
“และฉันก็เคยบอกไปแล้วนี่ว่าฉันสนใจเธอด้วย...ก็เลยจะตามตื้อเป็นพิเศษ”
วาบบบบบบ O//////O
จู่ๆ เทียนหอมก็หันมาสบตาฉัน แล้วพูดประโยคเมื่อกี๊ออกมาด้วยสายตาที่จริงใจ น่าแปลกจัง...ฉันว่าฉันต้องมีปัญหากับสายตาแน่ๆ ที่เห็นว่าเทียนเน่านี่มีริ้วแดงๆ ที่แก้มเหมือนเขินฉันด้วย อ๊ากกกกก ไม่จริง! ทำไมฉันรู้สึกว่าเขาน่ารักน่าหยิกกว่าพี่พริกหวานของฉันล่ะ อีตานี่ไปร่ำเรียนยาเสน่ห์มาจากที่ไหนรึเปล่า!? T^T ใจเต้นผิดคนแล้วว้อยยยย ไอ้หัวใจบ้า!
ขอสามคำ...หนู ใจ เต้นนนนน >O<///// (แงๆๆ ไม่จริงน่า!)
“ตื้อที่ว่าเนี่ยมันแบบไหนกันล่ะ” ฉันเมินหน้าหนี ในขณะที่เทียนหอมกลับหัวเราะคิกคักชวนหงุดหงิดใจ
“คิกๆ ...เธอหน้าแดงด้วยแหละ ยัยอบเชย ^^”
“ฉันชื่อน้ำอบ! >_<! นายชื่อเชย!!” ฉันสวนกลับไปทันควัน ในขณะที่เทียนหอมทำท่าเอามือทาบอก แล้วอ้าปากเหวอเหมือนตกใจ “โอ้ววววว เจ็บนะนั่น แต่เธอก็ชื่อสมัยน้องโบเหมือนกันนี่นา ว่าฉันคนเดียวไม่ได้หรอกนะ”
“อีตาเทียนเน่าจอมเพี้ยน!!!”
ฉันเขม่นเขาด้วยสีหน้าที่กัดฟันกรอด ในขณะที่เทียนหอมกลับอมยิ้มเหมือนเอ็นดู และก่อนที่ฉันจะนึกขึ้นได้ว่าเทียนหอมจับข้อมือฉันอยู่ ฉันถึงได้สะบัดมือออก เทียนหอมก็ยอมปล่อยอย่างง่ายดาย และเขาก็ทำท่าชูมือขึ้นเหมือนจะยอมแพ้ฉันยังไงอย่างงั้น
แต่ฉันมั่นใจว่ารอยยิ้มที่เหมือนไร้เดียงสานั่นไม่ใช่เป็นเพราะจะยอมแพ้ฉันแน่ๆ -_-^
“ไม่คุยกับนายแล้ว เสียอารมณ์!” ฉันสะบัดหน้าใส่ ในขณะที่เทียนหอมกลับพูดลอยๆ ขึ้นมา “เอ... เธอถามฉันว่าอะไรนะ? อ๋อ นึกออกแล้ว ‘ฉันตื้อแบบไหน’ สินะ?”
กึก!!!
ฝีเท้าที่กำลังจะก้าวเดินกลับหยุดชะงัก ฉันเอี่ยวตัวหันไปมองเขาด้วยแววตาที่ว่างเปล่า ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริงแล้วฉันอยากจะกระโดดเข้าไปเขย่าคอเสื้อเขาให้เลิกพูดกำกวม แบบนี้ใจจะขาดแล้ว
“นี่นายจะพูดอะไรกันแน่?”
“อยากรู้ไม่ใช่เหรอ วิธีตื้อของฉัน ^_^”
“ไม่อยากรู้แล้ว -__-* ฉันว่านายเอาเวลาที่เหลืออยู่ไปเข้าห้องเรียนแล้วสงบสติความเพี้ยนของนายให้ ดีขึ้นจะดีกว่า อย่างน้อยนายจะได้ไม่มาขัดจังหวะเวลาฉันกินข้าวหรือว่าไปทำ ‘อะไร’ กับพี่พริกหวาน 2 ต่อ 2 คิกๆๆ”
“ชิ ยัยบ้า...” ...บ่นพึมพำคนเดียว
“นายว่าอะไรนะ -*-”
“เปล๊าาาาาา ฉันแค่จะบอกว่างั้นคราวหน้าฉันจะเลี้ยงข้าวเธอเป็นการไถ่โทษ”
“ไม่ต้องการและไม่จำเป็น -_____-!!!”
“แต่ในกรณีของฉันเผอิญว่าต้องการและจำเป็นมากกกกกก” เขาลากเสียงกวนโมโห ในขณะที่ฉันกลับตีหน้านิ่งก่อนที่จะแปรเปลี่ยนเป็นยิ้มหวาน “จริงอ่ะ? ^O^”
“อุแหม่ รอยยิ้มหวานจริงอะไรจริง จริงสิครับ ^___^ เลี้ยง 2 มื้อเลยเอ้า กำไรเห็นๆ”
“มื้อเดียวก็พอ ส่วนกำไร...” ฉันก้าวเข้าไปใกล้ๆ เทียนหอมอย่างเนียนๆ ก่อนที่จะเอามือไปลูบไล้ใบหน้าเขาเบาๆ ฮุๆๆ ฉันเห็นเทียนหอมทำหน้าอึ้งเหมือนตกใจด้วยแหละ >_< แน่นอนว่าอาการแบบนี้...เขาเสร็จฉันแน่!
“ขอแค่นี้ก็พอ...” ฉันยื่นหน้าไปใกล้ๆ เขาอย่างค่อยเป็นค่อยไป ดูเหมือนว่าอีตาเพี้ยนนี่จะหลงเคลิ้มอย่างไรก็ไม่ทราบ เพราะเขายิ้มที่มุมปากแล้วพริ้มตาลงเหมือนคาดหวังให้ฉันทำอะไรกับเขา บางอย่าง ใช่...ฉันทำ
ปึ้ก!!!!
ทำ...อย่างนี้ไง! -_____-+!!
“O_O!!!! โอ้ยยยยยยยยย!!! ยัยอบเชยยยยยย นี่เธอทำอารายช้านนนน =[ ]=!!!!”
ทันทีที่เทียนหอมเผลอ ฉันก็จัดการใช้ส้นเท้าของตัวเองกระแทกใส่เท้าเขาเต็มแรง แน่นอนว่าเทียนหอมรีบลืมตาแล้วแหกปากร้องแทบจะทันที ในตอนนี้เขาก็กุมเท้าพร้อมกระโดดเหย็งๆ อยู่ หึๆๆ สมน้ำหน้า! >p<!
“นี่ไงกำไรฉัน และเป็นต้นทุนดีๆ ที่หาได้ยากของฉันอีกด้วย!”
“หนอยแน่! เธอ! ยัยงูพิษษษษ~~~ >[ ]<! ยัยแสบเอ้ยยยย!” เทียนหอมเอาแต่สบถแล้วสบถอีก ในขณะที่ฉันทำท่าแลบลิ้นและดึงหนังตาลงอย่างหมั่นไส้เขาไม่หาย ก่อนที่จะเดินจากไปโดยไม่หันไปมองเขาอีกเลย
ชิ! สมน้ำหน้า และฉันจะสะใจมากเมื่อเขาโดนคุณไสยของพ่อฉันเล่นงานไปด้วย! -____-^+!!
ฉันคิดอย่างหงุดหงิดใจ จนกระทั่งเดินไปถึงห้องเรียน ก็พบว่ากริ๊งเข้าเรียนดังขึ้นพอดิบพอดี และสิ่งที่ฉันแปลกใจไปมากกว่าเดิมก็คือลูกหว้าที่อยู่ภายในห้องเรียน แทนที่หล่อนควรจะอยู่ในห้องสมุดเสียมากกว่า น่าสงสัยยิ่งกว่าเดิมคือเธอเอาหน้าฟุบโต๊ะแล้วใช้มือทั้งสองข้างปิดหู
“ลูกหว้า...เป็นอะไรไป?” ฉันเดินเข้าไปหาหล่อนแล้วถามออกมาอย่างเป็นห่วง เมื่อฉันใช้มือแตะบ่าหมายจะจับให้เธอรู้สึกตัว จู่ๆ ลูกหว้าก็สะดุ้งเฮือกทะลึ่งตัวขึ้นมาจนฉันตกใจตาม
เฮือก!
“ว้าย!?”
“อ๊ะ...นะ นี่เธอเองเหรอ?” ดูเหมือนว่าลูกหว้าจะมีกลิ่นอายแห่งความหวาดกลัว ก่อนที่เธอจะเห็นหน้าฉันแล้วฉาบไปด้วยรอยยิ้มแหยๆ ที่จงใจสร้างขึ้นมา
“ตายแล้ว! ลูกหว้า เธอหน้าซีดมากเลย ไม่สบายรึเปล่า!?”
“ไม่...ไม่เป็นไรหรอก ฉันสบายดี”
ลูกหว้าฝืนยิ้มทั้งๆ ที่หน้าซีดจนไม่เห็นเลือดฝาด เหงื่อซกจนน่ากลัว และที่สำคัญเนื้อตัวเธอสั่นเทิ้มเหมือนยังตกใจกลัวอะไรบางอย่างอยู่
“แน่ใจนะ? หรือว่า...” ฉันลากเสียงยาว ก่อนที่จะคว้าเก้าอี้ใกล้ๆ ตัวมานั่งลงข้างๆ เพื่อนรักก่อน “เธอยังกลัวคลิปที่เธอเปิดเจอไม่หาย?”
เฮือก!!!!
“ชะๆๆ ใช่! ฉัน...ฉันกลัวมากเลย คลิปอันนั้นฉันว่ามันน่ากลัวจริงๆ นะ เอ่อ...คือ...” ท่าทางลุกลี้ลุกลนผิดสังเกตทำเอาฉันทำหน้าตาสงสัยลูกหว้าอย่างไม่ปิดบัง เธอคงจะรับรู้ถึงสายตาอันเต็มไปด้วยคำถามของฉัน เธอถึงได้ถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วค่อยๆ พูดออกมา “ขอโทษที ฉันแค่...ยังกลัวไม่หาย ก็เลยเป็นแบบนี้”
“อืม... ฉันเข้าใจ” ฉันยิ้มหวานให้กำลังใจเพื่อน ก่อนที่จะเอามือแปะบ่าทำท่าทางปลอบใจหล่อน
ลูกหว้ามองหน้าฉันแล้วก็ยอมเผยรอยยิ้มออกมากลายๆ ว่าจะขอบใจ เธอทำท่าเหมือนอยากจะพูดอะไรบางอย่างออกมา แต่ก็ไม่พูด... ฉันต้องถามเธอกลับไป
“ลูกหว้า เธอต้องการจะบอกอะไรฉันรึเปล่า?”
“...”
“...?”
“เอ่อ...คลิปที่เราดูกันเมื่อเช้า เธอไม่สงสัยบ้างเหรอว่าทำไมคนในคลิปถึงมีชุดนักเรียนคล้ายของเรา”
“...เอ่อ...” คราวนี้เป็นฝ่ายฉันที่มีท่าทีอึกอักบ้าง ฉันลังเลที่จะพูดออกมา แต่ก็ไม่นานนักที่จะลังเลในการตอบคำถาม “เฮ้อ... เอาจริงๆ นะ ฉันคิดว่าผู้หญิงในคลิปนั้นคงจะเป็น ‘ประธานนักเรียนคนเก่า’ สินะ?”
“!!!!? นี่เธอรู้!?!?”
ลูกหว้าเบิกตาโพลงหน้าซีดจนน่ากลัว คาดว่าคงจะเป็นเพราะฉันเดาได้ถูกแผง เธอถึงได้มีสีหน้าท่าทางอย่างนี้ ฉันพยักหน้ารับ ก่อนที่จะถามความเห็นเพื่อนสนิทคนนี้ด้วยความสงสัยเต็มหัวใจ
“อืม แล้วลูกหว้าล่ะว่าไง คิดว่าใช่ไหม?”
“ใช่สิ ฉันจำได้ เอ้ย ไม่ใช่สิ เอ๊ะ จะว่าจำได้ก็ถูกแล้วนะ จะว่ายังไงดี...”
คำพูดวกไปวนวนมาของหล่อนทำให้ฉันสงสัยขึ้นเรื่อยๆ ว่าลูกหว้าไปทำอะไรมา ถึงได้พูดจาชวนงงแบบนี้ หรือว่าจะยังไม่หายกลัวจริงๆ จนกระทั่งเกิดอาการอย่างที่เห็น?
“เอ้อ! อธิบายแบบนี้ดีกว่า ฉันเคยเห็นภาพสยองๆ แบบนี้มาครั้งนึง แต่เป็นแบบภาพถ่ายนะ”
“หา!?? ที่ไหนกัน?!”
“จากเว็บไซต์เว็บหนึ่งที่ในตอนนี้ถูกบล็อกไปแล้วแหละ แต่ก็ดีแล้ว น่ากลัวจะตายไป”
“แล้วเธอรู้ได้ยังไงว่านี่เป็นประธานนักเรียนหญิงคนเก่าที่ถูกฆ่าตาย?”
“ไม่รู้เหมือนกัน ฉันแค่ ‘รู้สึกว่า’ ก็เท่านั้นเอง” ลูกหว้าเอามือลูบท้ายทอยอย่างกับกำลังนึกถ้อยคำ ในขณะที่ฉันกลับรู้สึกว่าลูกหว้ามีจุดน่าจับผิดอยู่อย่างนึง
...เธอลูบท้ายทอยตัวเองราวกับกำลังสรรหาคำโกหก...
ไม่เอาน่าน้ำอบ อย่าคิดมากสิ นี่เป็นเพื่อนรักที่แสนดีของฉันมาตั้ง 1 ปีเศษแล้วนะ
“อ๋อ ...อืม”
ฉันพยายามทำหน้าเหมือนไม่สนใจแล้วแสร้งเสหน้าไปทางอื่น ทั้งๆ ที่แอบเหลือบมองที่หาตาแล้วก็พบว่าลูกหว้ากำลังยิ้มน่ากลัวอยู่ จนฉันรู้สึกเหมือนจะใจคอไม่ดีซะเท่าไหร่
เอาเถอะน่า คิดไปเองซะมากกว่า แกหลอนแล้วแหละนะยัยน้ำอบ!
ฝ่ายพริกหวานที่เห็นแบบนั้น เขาก็ได้แต่ก้มหน้ากำหมัดแน่น ความโกรธคับแค้นแน่นอกราวกับมีใครสุมไฟให้แผดเผาเขากำลังจะตายทั้งเป็น ยังไงก็ตาม...สู้ตัวต่อตัวเขาอาจจะพ่ายแพ้
แต่ถ้าเป็นวิธีการโกงเกมให้เขาชนะล่ะก็...พริกหวานคนนี้ล่ะถนัดนัก!!!
-------------------------------------------------------------------
:>>: บทที่ 24 :<<:
คนในคลิปสยอง
“ม่ายยยยยย...พี่พริกหวานของหหหหหหหหหนู~~~ (/TOT)/”
ฉันกรีดร้องเสียงโหยหวนที่สุดในโลกหล้าเมื่ออีตาเทียนเน่าเพี้ยนๆ มาลากฉันออกจากความสุขอีกครั้ง TT_TT ฮือออออ ขอสามคำ ไป! ตาย! ซ้าาาาาา!!! >O</!!!! (หมายถึงตาเพี้ยนนี่น่ะนะ)
โอ๊ยยยยยยย อยากจะบ้า Y_Y
“โหยหวนเข้าไป ยัยบ้าผู้ชาย! -_-^!”
“ถึงฉันจะบ้า แต่ฉันก็บ้าของฉันคนเดียว ซึ่งนั่นก็คือพี่พริกหวาน! >_<! ได้ยินม้ายยยย พี่พริกหวานคนเดียวเท่าน้านนนนนน” ฉันลากเสียงตะโกนใส่หูเทียนหอมอย่างขัดใจที่สุดในปฐพี ในขณะที่เทียนหอมกลับหยุดเดินจนฉันที่เดินตามเขาอยู่ก็ถึงกับเบรกไม่ทัน จนทำให้หน้าฉันกระแทกเข้าที่แผ่นหลังของเขาอย่างจัง
ปึก!
“อ๊าก เจ็บ! TAT!” ฉันสบถพร้อมกับเอามือลูบจมูกปอยๆ แงๆๆ อีตานี่รังแกจมูกน้อยๆ ของหนู T^T
“นี่เมื่อไหร่เธอจะเลิกปลื้มพี่พริกหวานของเธอซะทีเนี่ย ฉันเบื่อและรำคาญจะแย่อยู่แล้ว” เทียนหองใช้หางตามองฉันอย่างน่าหมั่นไส้ ในขณะที่ฉันก็แหวใส่น้ำเสียงไม่พอใจ “รำคาญฉันก็ปล่อยสิยะ!”
“รำคาญไอ้รุ่นพี่พริกหวานตั้งหาก!”
กรีดร้องงงง เขาเรียกพี่ (ว่าที่สามี) ของหนูว่า ‘ไอ้’ T^T
“นายหยาบคายมากเลย -_-^! รู้ตัวไหมว่านับวันนายก็ยิ่งทำตัวเก้งก้างเกะกะสายตา ฉันว่าฉันก็อยู่ของฉันเฉยๆ และทำตัวเชยๆ ให้ไม่มีใครมาสนใจนอกจากพี่พริกหวานของฉันแล้วนะ แล้วนี่อะไร? นายยังจะตามมาตอแยกับฉันเรื่องแม่ทำไม ไม่ไปตามตอแยกับแม่ให้พ่อฉันเจื๋อนนายเลยซะเล่า!?”
“ก็เคยบอกไปแล้วนี่ว่าแม่เธอจะมีเคราะห์”
“ก็นั่นแหละ! คราวนี้ฉันอนุญาตให้นายไปหาแม่ฉันแล้วช่วยโดยตรงได้เลย! (ถ้าไม่โดนพ่อฉันฆ่านะ T^T)”
“และฉันก็เคยบอกไปแล้วนี่ว่าฉันสนใจเธอด้วย...ก็เลยจะตามตื้อเป็นพิเศษ”
วาบบบบบบ O//////O
จู่ๆ เทียนหอมก็หันมาสบตาฉัน แล้วพูดประโยคเมื่อกี๊ออกมาด้วยสายตาที่จริงใจ น่าแปลกจัง...ฉันว่าฉันต้องมีปัญหากับสายตาแน่ๆ ที่เห็นว่าเทียนเน่านี่มีริ้วแดงๆ ที่แก้มเหมือนเขินฉันด้วย อ๊ากกกกก ไม่จริง! ทำไมฉันรู้สึกว่าเขาน่ารักน่าหยิกกว่าพี่พริกหวานของฉันล่ะ อีตานี่ไปร่ำเรียนยาเสน่ห์มาจากที่ไหนรึเปล่า!? T^T ใจเต้นผิดคนแล้วว้อยยยย ไอ้หัวใจบ้า!
ขอสามคำ...หนู ใจ เต้นนนนน >O<///// (แงๆๆ ไม่จริงน่า!)
“ตื้อที่ว่าเนี่ยมันแบบไหนกันล่ะ” ฉันเมินหน้าหนี ในขณะที่เทียนหอมกลับหัวเราะคิกคักชวนหงุดหงิดใจ
“คิกๆ ...เธอหน้าแดงด้วยแหละ ยัยอบเชย ^^”
“ฉันชื่อน้ำอบ! >_<! นายชื่อเชย!!” ฉันสวนกลับไปทันควัน ในขณะที่เทียนหอมทำท่าเอามือทาบอก แล้วอ้าปากเหวอเหมือนตกใจ “โอ้ววววว เจ็บนะนั่น แต่เธอก็ชื่อสมัยน้องโบเหมือนกันนี่นา ว่าฉันคนเดียวไม่ได้หรอกนะ”
“อีตาเทียนเน่าจอมเพี้ยน!!!”
ฉันเขม่นเขาด้วยสีหน้าที่กัดฟันกรอด ในขณะที่เทียนหอมกลับอมยิ้มเหมือนเอ็นดู และก่อนที่ฉันจะนึกขึ้นได้ว่าเทียนหอมจับข้อมือฉันอยู่ ฉันถึงได้สะบัดมือออก เทียนหอมก็ยอมปล่อยอย่างง่ายดาย และเขาก็ทำท่าชูมือขึ้นเหมือนจะยอมแพ้ฉันยังไงอย่างงั้น
แต่ฉันมั่นใจว่ารอยยิ้มที่เหมือนไร้เดียงสานั่นไม่ใช่เป็นเพราะจะยอมแพ้ฉันแน่ๆ -_-^
“ไม่คุยกับนายแล้ว เสียอารมณ์!” ฉันสะบัดหน้าใส่ ในขณะที่เทียนหอมกลับพูดลอยๆ ขึ้นมา “เอ... เธอถามฉันว่าอะไรนะ? อ๋อ นึกออกแล้ว ‘ฉันตื้อแบบไหน’ สินะ?”
กึก!!!
ฝีเท้าที่กำลังจะก้าวเดินกลับหยุดชะงัก ฉันเอี่ยวตัวหันไปมองเขาด้วยแววตาที่ว่างเปล่า ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริงแล้วฉันอยากจะกระโดดเข้าไปเขย่าคอเสื้อเขาให้เลิกพูดกำกวม แบบนี้ใจจะขาดแล้ว
“นี่นายจะพูดอะไรกันแน่?”
“อยากรู้ไม่ใช่เหรอ วิธีตื้อของฉัน ^_^”
“ไม่อยากรู้แล้ว -__-* ฉันว่านายเอาเวลาที่เหลืออยู่ไปเข้าห้องเรียนแล้วสงบสติความเพี้ยนของนายให้ ดีขึ้นจะดีกว่า อย่างน้อยนายจะได้ไม่มาขัดจังหวะเวลาฉันกินข้าวหรือว่าไปทำ ‘อะไร’ กับพี่พริกหวาน 2 ต่อ 2 คิกๆๆ”
“ชิ ยัยบ้า...” ...บ่นพึมพำคนเดียว
“นายว่าอะไรนะ -*-”
“เปล๊าาาาาา ฉันแค่จะบอกว่างั้นคราวหน้าฉันจะเลี้ยงข้าวเธอเป็นการไถ่โทษ”
“ไม่ต้องการและไม่จำเป็น -_____-!!!”
“แต่ในกรณีของฉันเผอิญว่าต้องการและจำเป็นมากกกกกก” เขาลากเสียงกวนโมโห ในขณะที่ฉันกลับตีหน้านิ่งก่อนที่จะแปรเปลี่ยนเป็นยิ้มหวาน “จริงอ่ะ? ^O^”
“อุแหม่ รอยยิ้มหวานจริงอะไรจริง จริงสิครับ ^___^ เลี้ยง 2 มื้อเลยเอ้า กำไรเห็นๆ”
“มื้อเดียวก็พอ ส่วนกำไร...” ฉันก้าวเข้าไปใกล้ๆ เทียนหอมอย่างเนียนๆ ก่อนที่จะเอามือไปลูบไล้ใบหน้าเขาเบาๆ ฮุๆๆ ฉันเห็นเทียนหอมทำหน้าอึ้งเหมือนตกใจด้วยแหละ >_< แน่นอนว่าอาการแบบนี้...เขาเสร็จฉันแน่!
“ขอแค่นี้ก็พอ...” ฉันยื่นหน้าไปใกล้ๆ เขาอย่างค่อยเป็นค่อยไป ดูเหมือนว่าอีตาเพี้ยนนี่จะหลงเคลิ้มอย่างไรก็ไม่ทราบ เพราะเขายิ้มที่มุมปากแล้วพริ้มตาลงเหมือนคาดหวังให้ฉันทำอะไรกับเขา บางอย่าง ใช่...ฉันทำ
ปึ้ก!!!!
ทำ...อย่างนี้ไง! -_____-+!!
“O_O!!!! โอ้ยยยยยยยยย!!! ยัยอบเชยยยยยย นี่เธอทำอารายช้านนนน =[ ]=!!!!”
ทันทีที่เทียนหอมเผลอ ฉันก็จัดการใช้ส้นเท้าของตัวเองกระแทกใส่เท้าเขาเต็มแรง แน่นอนว่าเทียนหอมรีบลืมตาแล้วแหกปากร้องแทบจะทันที ในตอนนี้เขาก็กุมเท้าพร้อมกระโดดเหย็งๆ อยู่ หึๆๆ สมน้ำหน้า! >p<!
“นี่ไงกำไรฉัน และเป็นต้นทุนดีๆ ที่หาได้ยากของฉันอีกด้วย!”
“หนอยแน่! เธอ! ยัยงูพิษษษษ~~~ >[ ]<! ยัยแสบเอ้ยยยย!” เทียนหอมเอาแต่สบถแล้วสบถอีก ในขณะที่ฉันทำท่าแลบลิ้นและดึงหนังตาลงอย่างหมั่นไส้เขาไม่หาย ก่อนที่จะเดินจากไปโดยไม่หันไปมองเขาอีกเลย
ชิ! สมน้ำหน้า และฉันจะสะใจมากเมื่อเขาโดนคุณไสยของพ่อฉันเล่นงานไปด้วย! -____-^+!!
ฉันคิดอย่างหงุดหงิดใจ จนกระทั่งเดินไปถึงห้องเรียน ก็พบว่ากริ๊งเข้าเรียนดังขึ้นพอดิบพอดี และสิ่งที่ฉันแปลกใจไปมากกว่าเดิมก็คือลูกหว้าที่อยู่ภายในห้องเรียน แทนที่หล่อนควรจะอยู่ในห้องสมุดเสียมากกว่า น่าสงสัยยิ่งกว่าเดิมคือเธอเอาหน้าฟุบโต๊ะแล้วใช้มือทั้งสองข้างปิดหู
“ลูกหว้า...เป็นอะไรไป?” ฉันเดินเข้าไปหาหล่อนแล้วถามออกมาอย่างเป็นห่วง เมื่อฉันใช้มือแตะบ่าหมายจะจับให้เธอรู้สึกตัว จู่ๆ ลูกหว้าก็สะดุ้งเฮือกทะลึ่งตัวขึ้นมาจนฉันตกใจตาม
เฮือก!
“ว้าย!?”
“อ๊ะ...นะ นี่เธอเองเหรอ?” ดูเหมือนว่าลูกหว้าจะมีกลิ่นอายแห่งความหวาดกลัว ก่อนที่เธอจะเห็นหน้าฉันแล้วฉาบไปด้วยรอยยิ้มแหยๆ ที่จงใจสร้างขึ้นมา
“ตายแล้ว! ลูกหว้า เธอหน้าซีดมากเลย ไม่สบายรึเปล่า!?”
“ไม่...ไม่เป็นไรหรอก ฉันสบายดี”
ลูกหว้าฝืนยิ้มทั้งๆ ที่หน้าซีดจนไม่เห็นเลือดฝาด เหงื่อซกจนน่ากลัว และที่สำคัญเนื้อตัวเธอสั่นเทิ้มเหมือนยังตกใจกลัวอะไรบางอย่างอยู่
“แน่ใจนะ? หรือว่า...” ฉันลากเสียงยาว ก่อนที่จะคว้าเก้าอี้ใกล้ๆ ตัวมานั่งลงข้างๆ เพื่อนรักก่อน “เธอยังกลัวคลิปที่เธอเปิดเจอไม่หาย?”
เฮือก!!!!
“ชะๆๆ ใช่! ฉัน...ฉันกลัวมากเลย คลิปอันนั้นฉันว่ามันน่ากลัวจริงๆ นะ เอ่อ...คือ...” ท่าทางลุกลี้ลุกลนผิดสังเกตทำเอาฉันทำหน้าตาสงสัยลูกหว้าอย่างไม่ปิดบัง เธอคงจะรับรู้ถึงสายตาอันเต็มไปด้วยคำถามของฉัน เธอถึงได้ถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วค่อยๆ พูดออกมา “ขอโทษที ฉันแค่...ยังกลัวไม่หาย ก็เลยเป็นแบบนี้”
“อืม... ฉันเข้าใจ” ฉันยิ้มหวานให้กำลังใจเพื่อน ก่อนที่จะเอามือแปะบ่าทำท่าทางปลอบใจหล่อน
ลูกหว้ามองหน้าฉันแล้วก็ยอมเผยรอยยิ้มออกมากลายๆ ว่าจะขอบใจ เธอทำท่าเหมือนอยากจะพูดอะไรบางอย่างออกมา แต่ก็ไม่พูด... ฉันต้องถามเธอกลับไป
“ลูกหว้า เธอต้องการจะบอกอะไรฉันรึเปล่า?”
“...”
“...?”
“เอ่อ...คลิปที่เราดูกันเมื่อเช้า เธอไม่สงสัยบ้างเหรอว่าทำไมคนในคลิปถึงมีชุดนักเรียนคล้ายของเรา”
“...เอ่อ...” คราวนี้เป็นฝ่ายฉันที่มีท่าทีอึกอักบ้าง ฉันลังเลที่จะพูดออกมา แต่ก็ไม่นานนักที่จะลังเลในการตอบคำถาม “เฮ้อ... เอาจริงๆ นะ ฉันคิดว่าผู้หญิงในคลิปนั้นคงจะเป็น ‘ประธานนักเรียนคนเก่า’ สินะ?”
“!!!!? นี่เธอรู้!?!?”
ลูกหว้าเบิกตาโพลงหน้าซีดจนน่ากลัว คาดว่าคงจะเป็นเพราะฉันเดาได้ถูกแผง เธอถึงได้มีสีหน้าท่าทางอย่างนี้ ฉันพยักหน้ารับ ก่อนที่จะถามความเห็นเพื่อนสนิทคนนี้ด้วยความสงสัยเต็มหัวใจ
“อืม แล้วลูกหว้าล่ะว่าไง คิดว่าใช่ไหม?”
“ใช่สิ ฉันจำได้ เอ้ย ไม่ใช่สิ เอ๊ะ จะว่าจำได้ก็ถูกแล้วนะ จะว่ายังไงดี...”
คำพูดวกไปวนวนมาของหล่อนทำให้ฉันสงสัยขึ้นเรื่อยๆ ว่าลูกหว้าไปทำอะไรมา ถึงได้พูดจาชวนงงแบบนี้ หรือว่าจะยังไม่หายกลัวจริงๆ จนกระทั่งเกิดอาการอย่างที่เห็น?
“เอ้อ! อธิบายแบบนี้ดีกว่า ฉันเคยเห็นภาพสยองๆ แบบนี้มาครั้งนึง แต่เป็นแบบภาพถ่ายนะ”
“หา!?? ที่ไหนกัน?!”
“จากเว็บไซต์เว็บหนึ่งที่ในตอนนี้ถูกบล็อกไปแล้วแหละ แต่ก็ดีแล้ว น่ากลัวจะตายไป”
“แล้วเธอรู้ได้ยังไงว่านี่เป็นประธานนักเรียนหญิงคนเก่าที่ถูกฆ่าตาย?”
“ไม่รู้เหมือนกัน ฉันแค่ ‘รู้สึกว่า’ ก็เท่านั้นเอง” ลูกหว้าเอามือลูบท้ายทอยอย่างกับกำลังนึกถ้อยคำ ในขณะที่ฉันกลับรู้สึกว่าลูกหว้ามีจุดน่าจับผิดอยู่อย่างนึง
...เธอลูบท้ายทอยตัวเองราวกับกำลังสรรหาคำโกหก...
ไม่เอาน่าน้ำอบ อย่าคิดมากสิ นี่เป็นเพื่อนรักที่แสนดีของฉันมาตั้ง 1 ปีเศษแล้วนะ
“อ๋อ ...อืม”
ฉันพยายามทำหน้าเหมือนไม่สนใจแล้วแสร้งเสหน้าไปทางอื่น ทั้งๆ ที่แอบเหลือบมองที่หาตาแล้วก็พบว่าลูกหว้ากำลังยิ้มน่ากลัวอยู่ จนฉันรู้สึกเหมือนจะใจคอไม่ดีซะเท่าไหร่
เอาเถอะน่า คิดไปเองซะมากกว่า แกหลอนแล้วแหละนะยัยน้ำอบ!
::: ~~~ To be continues ~~~ :::
-------------------------------------------------------------------
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น