cookkoo
ดู Blog ทั้งหมด

เข้าค่าย5+นอกเรื่องอีกแล้ว

เขียนโดย cookkoo

และแล้วก็มาถึงวันสุดท้าย(อย่างน้อยมันก็รู้สึกอย่างนั้นอะ) วันพฤหัสที่ 5 กุมภาพันธ์

วันนี้เพื่อนZตั้งนาฬิกาไว้ตั้งแต่หกโมงเช้า เนื่องจากเพื่อนWอยากจะลุกขึ้นมาสระผม ปรากฏว่า พอน่าฬิกาดังป๊าบบ เพื่อนเราก็็ปิดมันทันที เหอๆๆ แจ่มมากเพื่อนเอ๊ย แล้วเราก็นอนต่อ

อ๊ะๆ อย่าหาว่ากุ๊กขี้เซานะ คือช่วงนี้กุ๊กต้องกินยาอะไรไม่รู้แล้วมันถึงจะหลับ(แต่ไม่ใช่ยานอนหลับนะ) แล้วปรากฏว่าคุณพยาบาลที่แสนดีก็ลืมเอายาให้กุ๊กซะงั้น  (ส่วนเราก็หาไม่เจอ) ทำให้เกิดอาการนอนไม่หลับพลิกไปพลิกมา นอนฟังเพื่อนZเปิดโรงสีข้าวอย่างแข็งขัน (ขยันไปม้ายย =[]=) และที่น่าประทับใจยิ่งกว่าคือ มันนอนข้างๆเราเนี่ยสิ T__,T ว้าวว

แล้วยังไม่พอ ตอนดึกๆ (ซึ่่งตอนนั้นเราก็ยังวนอนตาค้างอยู่อย่างมีความสุข)เพื่อนมันก็เอาแไปขนฟาดหมอนเราดังตั้บ เฮ้ยย แกมีความแค้นอะไรกับช้านนน =[]= เราซึ่งด้วยความบังเอิญนอนอยู่ริมหมอนด้านขวาเลยรอดจากการโดนทุบบ้องหูอย่างหวุดหวิด =__="

กลับมาเข้าเรื่องของตอนเช้ามั่ง เนื่องจากนาฬิกาถูกปิดไป กว่าเพื่อนWจะลุกก็ 7 โมงหน่อยๆแล้ว ส่วนอีกสามคนที่เหลือก็ยังอยู่ในโลกแห่งความฝันต่อปาย เหอๆๆๆ หลังจากนั้นประมาณ 7 โมงยี่สิบเพื่อนก็มาปลุกพวกเรา แล้วครูนัดกินข้าวเช้าตอนไหนนะเรอะ เจ็ดโมงยี่สิบห้า โอ้ววว แกปลุกช้าไปมั้ยเพื่อนร้าก หลังจากนั้นก้เกิดเหตุชุลมุนวุ่นวายเล็กน้อย (ไม่น้อยม้าง) แล้วพวกเราก็มานั่งกินข้าวอย่างมีความสุข

แล้วอยากบอกให้โลกรู้ว่า แม้จะอยู่ในรีสอร์ทแต่ก็ยังอยู่ในเชียงใหม่ เพื่อนๆในกลุ่มเราก็แสนน่าร้ากก เลือกนั่งที่ไหนไม่นั่ง ดั๊นมานั่งตากลม =[]= แถมพอจะกลับเข้าไปที่ก็เต็มหมดแล้วซะอีก ยอดมาก....

แล้วหลังจากนั้นครูก็ปล่อยเราฟรัยัน 11 โมง ว่างมากจริงๆ ไอ้สามคนที่ไม่ได้อาบน้ำก็ไม่คอดจะอาบเล้ย ไปรวมกลุ่มกับเพื่อนตั้งวงเล่นไพ่ แน่นอนว่าไม่มีพนัน (เพราะพวกเราจน 555+) เราเล่นไพ่จับของกันตังหาก (บางคนก็เรียกปู๊นๆ ไม่รู้มันชื่ออะไรแน่เหมือนกัน)คนแพ้ก็จะโดนสั่งไปทำโน่นทำนี่ เช่น กระโดดตบหน้าบ้านสิบที เรอใส่หน้าเพื่อนอีกคน(ใครซวยกันแน่) แล้วเพื่อนMก็ไปเข้าห้องน้ำ ไอ้เพื่อนWก็ซวย ไปดมส้วมซะสามที =[]= (พอกลับมาแล้วทำหน้าเหมือนขึ้นสวรรค์เลยว่ะ ก๊ากๆๆๆ) เต้นไก่ย่างหน้าที่พัก วิ่งร้องเพลงเด็กดอยด้วยระยะทางบ้านสามหลัง (ที่พักเราแบ่งเป็นบ้านเจ้าค่ะ) และมีแม้แต่ไปโฆษณาขายหวีให้ห้องข้าง (โดนถีบออกมาแทบจะในทันที =__,=)

พอประมาณสิบโมงพวกเราก็กลับห้องไปอาบน้ำ เก็บกระเป๋า(ค้นพบความจริงที่น่าตกใจ กล้อง 27o บาทชั้นหายปายยยยยยยยยยยยยยยยยยย) แล้วก็มานั่งดูทีวีช่องเถื่อนอย่างสบายใจเฉิบ คราวนี้เป็นMVเพลงสุดแสนจะน่าประทับใจ เฮ้ยย นี่มัน nc18 แล้วว โอ้วววววว เลือดกำเดาพุ่งกระฉูด =[]= อืมๆแล้วพวกเราทั้งสี่คนก็นั่งดูกันอย่างไม่วางตา (นิสัยโผล่ละๆ)

แล้วหลังจากนั้นก็กินข้าวเที่ยง แล้วพวกเราก็เอาหนังสือรวมรุ่น (ไม่เชิงแฮะ เขียนความประทับใจตอนไปเที่ยวเรอะ?)  ที่เขียนไปแล้วครึ่งนึงมานั่งเขียนอีก แหมม ก็คราวที่แล้วเขียนเดี่ยวๆเรียงคน คราวนี้เขียนกันเป็นก๊กใหญ่ๆมั่งดิ สนุกสนานเฮฮา ปนกันจนดูแทบไม่รู้เรื่อง ไว้คราวหน้าขอครูมาได้จะเอามาฝากๆ

แล้วเสร็จแล้วกองทัพนักเรียนก็ทยอยขึ้นรถทัวร์สี่คัน(ที่นั่งกันในวันแรก ลายนีโมน่าร้ากกก ตายล่ะ) มุ่งหน้าไปสู่คาร์ฟูลวู้ฮูๆ นั่งกันมาเป็นชาติ ในที่สุดก็ถึงซะทีเฮ้อๆๆๆ แล้วครูก็ปล่อยให้พวกเราไปซื้อเสบียงและอื่นๆอีกมากมายตามสะดวก

เราก็ไปวะร้านหนังสือ สายตาเหลือบไปเห็น...ห๊า นั่นมันหนังสือที่เราหามานาน ในกรุ่งเทพยังหาไม่ได้เลยนี่หว่า เลยซื้อกลับมาอ่าน (ซึ่งพอกลับมาถึงบ้านปั๊บ ก็พบว่าหนังสือเล่มที่มันวางแผงเรียบร้อยแล้ว T^T หลังจากรอมานานโคด) 

พอขึ้นรถไฟ รอบนี้เราแบ่งตู้ใหม่ เพราะจะมีเพื่อนที่ลงสถานีดอนเมืองด้วย พอเพื่อนกลุ่มนั้นไปแล้ว ครูก็เรียกเด็กสีส้มให้ตามครูไป ปรากฏว่า เดินๆอยู่เราก็หันซ้าย หันขวา เริ่มรู้สึกใจไม่ดี เฮ้ย...ทำไมมันมีผู้หญิงสามคนเองอะ (TOT เฉพาะเรากับเพื่อนนะ ไม่รวมครู) แล้วที่เหลือก็เป็นเพื่อนผู้ชายสีเดียวกัน เราหนั่งหน้าโบกี้ พวกมันนั่งท้าย เออ...ก็ยังดี 

นั่งไปนานๆก็เริ่มเบื่อไปรุกรานโบกี้อื่นมั่งดีกว่า (เราโบกี้สาม) ไปโบกี้สี่ปั๊บ ให้ตายยยย โบกี้นี้มีแต่พวกเถื่อนๆ T^T เรากับเพื่อนๆก็รีบเดินผ่านไปอย่างยากลำบาก (อยากร้องไห้ ทำไมเพื่อนเรามันเถื่อนงี้ว้าาา) โบกี้ต่อมา เอ้อ ค่อยยังชั่วมีแต่ผู้หญิง (ในใจเริ่มสงสัย ทำไมมีแค่พวกช้านโดนจับแยกฟระะะ) ตอนแรกก็ไปนั่งโบกี้เบอร์ห้าเนี่ยแหละ พอรถไฟจะออกก็กลับไปนั่งโบกี้เรา (ผ่านกลุ่มเถื่อนอีกครา TT___TT)

หลังจากนั้นเราก็เดินกลับไปอีกรอบ แต่โบกี้ห้สช่างน่าเบื่อ เพื่อนเราก็หายไปไหนไม่รู้ เราเลยเดินไปอีกโบกี้ผ่านตู้เสบียงไปโบกี้ถัดไป (เบอร์7 มั้ง) และที่นั่น ว้าววว เพื่อนเราทั้งน้าน เราก็เลยไปนั่งคุยๆๆๆ แต่มันแคบไปหน่อยเลยยกทัพกลับไปนั่งโบกี้เราแทน (โบกี้เราเงียบเหงา คนน้อยมาก) เราก้ไปตั้งวงคุยๆๆๆ อย่างสนุกสนาน แฮปปี้ลัลล้า มีบางครั้งที่เพื่อนผู้ถูกพาดพิงเดินผ่านมา (แต่ตอนนั้นเพื่อนเรากำลังชื่นชมธรรมชาติเลยรอดอย่างหวุดหวิด)

พอประมาณซักทุ่มสองทุ่มเพื่อนเราก็กลับไปส่วนเราก็นั่งอ่านหนังสือ แล้วก็มีฝรั่งขึ้นมากลุ่มเบ้อเริ่ม โอ้วววว ตัวพวกท่านช่างส่งกลิ่นเหม็นมาก ไม่ได้อาบน้ำกี่วันละหรือ =__="" จากนั้นเราก็เบื่อๆเลยเดินไปท้ายโบกี้ นั่งเล่นไพ่กับพวกผู้ชาย (ดีนะที่คนในโบกี้นี้ไม่เถื่อน แถมรักสงบ) เล่นไปเล่นมา ชักเบื่อ เลยเปลี่ยนมาดูดวงแทน ดูๆปดูมา เราก็ชักเซ็ง<<แม่หมอ เราก็เลยกลับเตียง นอน

ตื่นเช้ามาแต่งตัวเสร็จเพื่อนที่แสนดีก็ชวนมาเล่นไพ่อีกแล้ว พร้อมประโยคเด็ด "This is the last game of our life (นี่เป็นเกมสุดท้ายของชีวิตนะเนี่ย)" ทุกคนพร้อใจกันทำหน้า =___= มันก็เลยต่อให้ "life on the train (ชีวิตบนรถไฟไง)" เอ้อ เข้าใจนะว่าแกเก่งภาษาปต่ไม่ต้องแรดพูดภาษาอังกฤษก็ได้ เหอๆ

หลังจากเล่นเกมกันอย่างเมามัน (จาก last game>>new game of life) พวกฝรั่งตัวเหม็นขั้นรุนแรงก็ลงสามเสน พวกเราก็เริ่มเตรียมตัวเก็บของ...ซะที่ไหน นั่งเล่นไพ่กันต่อ จนรถไฟใกล้ๆจะถึงนั่นแหละ ไอ้ผู้ชายคู่เอ๋อถึงได้วิ่งกลับไปเก็บของ

และแล้ว ณ เวลา หกโมงครึ่ง ของวันศุกร์ที่ 6 พวกเราก็กลับมาถึงกรุงเทพจนได้ วู้ฮู------------------------------- 

แยกย้ายกันกลับบ้าน พร้อมกับแบกภาพความทรงจำที่น่าประทับใจกลับบ้านไปด้วย...

ปิดบันทึกของการเข้าค่าย...

*******************************
แง่มๆ ในที่สุดก็จบซักที ก็คงไม่ได้อัพไดแบบตะลุมบอนอย่างนี้อีกนานเลยมั้งเนี่ย 

ส่วนวันนี้ก็เป็นวันที่สองของการหยุดกลางเทอม กุ๊กก็เลยได้มีโอกาสแบกเอาลูกชายมานั่งพ่นสี พ่นอย่างมีความสุข พ่นไปพ่นมา จากสิบเอ็ดโมงยัน...สี่โมงเย็น หร้อมกับสีที่เลอะระเบียงบ้าน และกลิ่นทินเนอร์ฟุ้งซะ =[]=

หลังจากแก้ไปหลายที ในที่สุดลูกชายคนที่สอง สุมาอี้ ก็คลอดออดมาจนได้ =[]= ว้าวๆๆๆ
แต่เนื่องจากวันนี้เมาทินเนอร์เรียบร้อยแล้ว ทำให้ไม่มีอารมณ์มาจัดสตูดิโอถ่ายรูป(ขนาดจิ๋วสุดๆ)) เอาไว้พรุ่งนี้สุมาอี้ก็คงออกสู่สายตาชาวโลกแล้วล่ะมั้ง ก็รอกันหน่อยนะค้า ^o^/

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นที่ 1

น่าหนุกเนาะ