ดีจ้าๆ เอิ๊กๆ ในที่สุด ก็มาถึงเค้กก้อนสุดท้ายในวันเกิดของเราซะที ...คิดถึงแล้วยังเหนื่อยไม่หาย แต่ก็สนุกมากๆเลยล่ะ ทำเค้กตั้งแต่ 6 โมงเช้าถึง 2 ทุ่ม =>
เค้กก้อนนี้ เค้าเรียกว่า "Jeanne's Banana Foster Cake" ดูรูปอาจจะดูดีมากๆ แต่ของจริงๆเนี่ย -*- ...ถึงดูไม่ค่อยดี แต่ก็อร่อยล่ะน่า
ตัวเค้กเป็นเค้กกล้วยหอมนมสดจ้า ตอนอบเสร็จนิ่มมากๆ แต่เราก็ดั๊น เอาไปเข้าตู้เย็น เพราะว่าจะใช้วัดถัดมา กลัวเค้กมันเสีย มารู้ทีหลังว่าเค้กกล้วยหอมน่ะ เค้าไม่ต้องเข้าตู้เย็นกันก็ได้ เค้กมันเลยแน่นๆ แข็งๆไปหน่อยเลย ...เศร้า แต่สุดท้ายแล้ว พอราดวิปครีมกะแต่งหน้ามันเสร็จ ก็ต้องเข้าตู้เย็นอยู่ดี เพราะว่าเราจะเอามากินวันถัดมาอีก (รวมเป็น 2 วันหลังจากทำเสร็จ) อันนี้ต้องเข้าจริงๆ เพราะไม่งั้นวิปครีมมันจะละลายน่ะ ....ยังไงก็ตาม ชอบตอนที่เพิ่งราดวิปครีมมากสุดเลย สำหรับคนที่อยากลองทำ แนะนำว่าให้แต่งหน้าเค้กตอนที่จะกินจริงๆ จะได้ไม่ต้องเข้าตู้เย็นนะจ๊ะ
สูตรนี้หนิงเอามาจากหนังสือ All about cake เล่ม Pure Butter อีกแล้วว ...โหยย ทำจะหมดเล่มอยู่แล้วมั้งเนี่ย สนใจก็ไปหาดูกันได้นะจ๊ะ (เชิญชวนหน่อย เดี๋ยวพี่คนเขียนเค้าจะโกรธ เอาสูตรมาแปะฟรีๆแบบนี้)
ส่วนประกอบ
เนยจืด 1 ถ้วยตวง ( 1 ก้อน 227 กรัม)
น้ำตาลทรายป่น 1 1/4 ถ้วยตวง
** ในหนังสือไม่ยอมบอกว่าให้ใส่น้ำตาลทรายแดงเท่าไหร่ หนิงเลยใส่ไป 1/2 ถ้วยล่ะ เพราะตรงวิธีทำเค้าบอกว่าให้ใส่ด้วยน่ะ
ไข่ไก่(เบอร์ 1) 2 ฟอง
กลิ่นวานิลลา 11/2 ช้อนชา
แป้งเค้ก 10 ออนซ์ (283 กรัม)
เบคกิ้งโซดา 3/4 ช้อนชา
ผงฟู 1 1/2 ช้อนชา
เกลือ 1/2 ช้อนชา
กล้วยหอม (บดละเอียด) 2 ลูก
นมจืด 3/4 ถ้วยตวง
น้ำมะนาว 1 ช้อนชา
พิมพ์ที่ใช้ : พิมพ์เค้กกลมขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 8 นิ้ว ทาเนยบางๆ ปูกระดาษรองก้นพิมพ์ ร่อนแป้งบางๆให้ทั่วพิมพ์
วิธีทำ
1. นำส่วนประกอบทั้งหมดมาพักไว้ที่อุณหภูมิห้องไม่น้อยกว่า 1 ชั่วโมง
2. ตั้งอุณหภูมิเตาอบรอไว้ที่ 180 องศาเซลเซียส
3. เตรียมพิมพ์ตามวิธีที่บอกไว้ข้างต้น
4. ร่อนแป้งเค้ก เบคกิ้งโซดา ผงฟู และเกลือด้วยกัน พักไว้
5. ในภาชนะผสม ตีเนยเร็วๆกับน้ำตาลทราย และน้ำตาลทรายแดงจนเนยนุ่มฟู ประมาณ 8-10 นาที ระหว่างการตีเนยและน้ำตาล ควรหยุดเพื่อปาดส่วนผสมบ้าง เพื่อให้เนยตีกับน้ำตาลอย่างทั่วถึง
6. บดกล้วยผสมกับนมเข้าด้วยกัน เติมน้ำมะนาวลงไปคนพอให้เข้ากัน พักไว้เพื่อเตรียมใส่สลับกับแป้ง
7. ตีไข่กับวานิลลาด้วยส้อมให้เข้ากันเป็นเนื้อเดียว ตักใส่ในส่วนผสมของเนยและน้ำตาลที่ตีไว้ทีละช้อนจนหมดไปประมาณครึ่งหนึ่ง หยุดตีเพื่อปาดส่วนผสมด้านข้างลงมา แล้วจึงเริ่มตีต่อไป พร้อมกับเติมไข่ลงไปทีละช้อนจนหมด ปาดส่วนผสมด้านข้างให้เข้ากัน
8. แบ่งของแห้งในใจเป็นสามส่วน และแบ่งนมกล้วยเป็นอีกสองส่วนในใจ เติมของแห้งส่วนแรกลงไปคนเบาๆ หรือตะล่อมให้พอเข้ากัน เติมนมกล้วยส่วนแรกลงไป คนเบาๆตามด้วยของแห้งส่วนที่สอง พร้อมกับคนเบาๆ แล้วตามด้วยนมกล้วยส่วนสุดท้ายคนให้พอเข้ากัน จึงเติมแป้งส่วนสุดท้ายลงไปตะล่อมให้ส่วนผสมเนียนเป็นเนื้อเดียว
9. ตักส่วนผสมลงในพิมพ์ที่เตรียมไว้ โดยกะให้แบทเทอร์เต็ม 2/3 ของความสูงพิมพ์
10. เคาะพิมพ์เบาๆ สัก 2 ครั้ง เพื่อไล่โพรงอากาศขนาดใหญ่ที่เกิดจากการใส่แบทเทอร์ไม่ทั่วพิมพ์
11. นำเข้าเตาอบที่อุ่นไว้ที่อุณหภูมิ 180 C อบเป็นเวลา 50-60 นาที หรือจนสุก โดยดูจากขนมที่ดึงตัวออกจากขอบพิมพ์
12. นำพิมพ์ขนมออกมาวางไว้บนตะแกรงเพื่อระบายความร้อน รอให้เย็นสนิทแล้วจึงคว่ำขนมออกจากพิมพ์ ขนมควรจะหลุดออกมาอย่างง่ายดาย
Banana Foster
ส่วนประกอบ
เนยจืด 1/4 ถ้วยตวง (56 กรัม)
น้ำตาลทรายแดง 1/4 ถ้วยตวง
ครีมสด 1/3 ถ้วยตวง
เกลือประมาณปลายก้อย
กล้วยหอม 2-3 ลูก (ตัดให้มีขนาดเหมาะกับเค้กและผ่าตามยาว คลุกน้ำมะนาวเล็กน้อย)
บรั่นดี 1 ช้อนโต๊ะ (อันนี้หนิงไม่ได้ใส่แหละ ที่บ้านไม่มีน่ะ)
วิธีทำ
1. ละลายเนยในกระทะ เติมน้ำตาลทรายแดงลงไปเคี่ยวกับเนยจนกลายเป็นคาราเมล เติมครีมสดลงไป คนให้เข้ากัน
2. เติมเกลือลงไปเล็กน้อย
3. นำกล้วยลงคลุกกับคาราเมลในกระทะให้ทั่ว เติมบรั่นดีลงไปแล้ว Flambe เล็กน้อยให้บรั่นดีระเหยไป
4. ตักขึ้นพักให้เย็น เสิร์ฟพร้อมเค้กกล้วยหอมนมสด
เป็นไงบ้าง เห็นสูตรยาวๆ จริงๆทำไม่ยากนะจ๊ะ คล้ายๆเค้กกล้วยหอมทั่วไปแหละ หรือถ้าใครมีสูตรเค้กกล้วยหอมในดวงใจอยู่แล้ว ก็แค่เอา banana foster ไปราดก็พอแล้วจ้า
ความคิดเห็น
มาเยี่ยมตามคำชวนแล้วนะ น่ากินมากมายอ่ะ แล้วจาแวะมาบ่อยๆนะ
น่ากินมากเลยจ๊ะ ต้องอร่อยแน่ๆ
น่าอิจฉาจังเลยเราไม่มีความสามารถด้านทำขนมสักนิด
ถ้าจะให้ดี ทำแล้วส่งมาให้เรากินละกันนะ จะได้ติชมถูก ^_^
ว๊าววว น่ากินจังเลยยยย ((เราเองก็ชอบกินเค้กกล้วยหอมด้วย แหะๆ))
อยากชิมจังเลยค่ะ ^_^
ชอบคาราเมลอ่ะ >[]<~~~~ หวานหอมม ปุเลี่ยนๆ แต่ก็อร่อย ~
น่ากินจังเลย อ่ะ
อยากกินมากมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก....
หนิงว่าไม่หวานไปหรอกค่ะ ตอนอบเสร็จ นุ่มมากๆ แต่หนิงว่ายังไงก็สู้ของพี่ก้อย jekyll and hide ไม่ได้ ...ไม่รู้ว่าคุณก้อยเล่นพันทิพป่าวคะ แต่สนใจจริงจังขนาดนี้ไม่น่าพลาด...หนิงใช้ชื่อว่า crispylover เหมือนกันน่ะค่ะ
เพิ่งเล่นพันทิพค่ะ แต่ไม่เคยโพสต์ซักที ได้แต่แอบอ่าน :) ก้อยใช้ชื่อว่า bake-aholic ค่ะ ถ้ามีหลังไมค์จากชื่อนี้ไปก็อย่าต๊กกะใจนะคะ ลองทำสูตรของพี่ก้อย jekyll and hide แล้วค่ะ ขอหนับหนุนว่าอร่อย ๆ จริง ๆ ค่ะ
ว้าว!!! น่ากินมากเลยอ่ะ พี่หนิงส่งมาให้น้องสาวคนนี้ทานบ้างได้ไหมเอ่ย
คือว่ากลัวทำมาเองแล้วไม่อร่อย พี่น่าจาเปิดร้านขนมเลยดีไหม น้องจาได้ไปอุดหนุนพี่บ่อยๆเลย
อยากกินๆ
อยากกินๆ ทำเองแล้วเมือ่ไรจาอร่อยบ้างเนี่ย
หม่าม๊าดูเวลาที่จะเรียนให้แล้ว หลือแค่จะเอาคอร์สไหนอ่า อิอิ
น่ารักมากกกกกกกก..
คริ คิ น้ำลายหกใส่คอมเลย อ่ะคุณหนิง
เข้ามา Diary คุณหนิงบ่อย ๆ น้ำหนักเพิ่มเลยง่า
หน้าตา ชวนเหวยมากค่า มองมุมไหนก็น่ากิน ฝีมือถ่ายรูปของพี่ก็สวยมากเลยค่ะ
บอกได้คำเดียวว่า หิว อ่ะ