หน้าที่ 1 , 2
 
ชื่อเรื่อง :  The Rebirth of Light and Darkness
ใครแต่ง : Kaiserin
25 มิ.ย. 63
80 %
34 Votes  
#1 REVIEW
 
เห็นด้วย
53
จาก 56 คน 
 
 
สนุกจังเลย ^O^

(แจ้งลบ)
  
เขียนเมื่อ 12 ต.ค. 53
พล้อตเรื่่องน่าสนใจมาก สู้ๆนะเหมียวน้อย
บรรยายฉาก พรรณนาสภาพอากาศ บรรยากาศ เสื้อผ้า หน้าตา เพิ่มเติมอีกหน่อยนะ
สร้างความอลังการกว่านี้อีกนิืด
เพราะเรื่องมันดูธรรมดาไปหน่อย
ความอลังการณ์ก็สร้างง่ายนิดเดียว เเค่บรรยายฉาก พวกนี้มากขึ้น

ส่วนตรงที่เป็นความคิด ก็ให้ทำตัวเอียงด้วย
ภาษาก็ดีขึ้นมากนะ ติดตรงใช้คำฟุ่มเฟือยไปบ้าง

พี่ชอบพล้อตนี้นะจ๊ะ ^O^
     
 
ชื่อเรื่อง :  สาปสโนไวท์
ใครแต่ง : LuckySeventh
19 เม.ย. 67
80 %
315 Votes  
#2 REVIEW
 
เห็นด้วย
50
จาก 52 คน 
 
 
พลิกปมสุดยอดดดดดดดดด

(แจ้งลบ)
  
เขียนเมื่อ 6 ส.ค. 53
หลังจากเเวะมาอ่านตลอดเวลา เม้่นบ้างไม่เม้นบ้าง
วันนี้คงต้องฝากคำชมไว้เเล้วล่ะ1

ชอบนิยายเรื่องนี้มากเลยค่ะ
สำนวนภาษาอ่านง่าย
เเละมีเสน่ห์
มีความน่าสงสัยอยู่ในทุกตัวอักษร
พลิกปมได้สุดยอด
มีการวางเเผนนิยายมาอย่างดี
มีการออกแบบตัวละครได้มีมิติมาก
ทำการบ้านมาดีสุึึดๆ
ยอเยี่ยมสมเป็นนักเขียนมืออาชีพเลยค่ะ
>O<


ยกนิ้วครับ
     
 
ชื่อเรื่อง :  สัตยาภพ[สนพ.อรุณ]
ใครแต่ง : ~ น้ำฟ้า ~
12 ธ.ค. 54
100 %
6 Votes  
#3 REVIEW
 
เห็นด้วย
33
จาก 33 คน 
 
 
อยากอ่านหนังสือเล่มนี้ค่าาาา

(แจ้งลบ)
  
เขียนเมื่อ 1 พ.ค. 53
ข้าน้อยมิได้เป็นนักเขียนที่ดี เเละมิได้เป้นนักวิจารณ์ทีี่ดี (เพิ่งรู้ว่าวิจารณ์ใช้ ณ การันต์ ก็ตอนนี้)

เเต่ขอวิจารณ์ในฐานะนักอ่านนะคะ

เริ่มจากสไตล์ของเรื่องก่อนเลยนะคะ

โดยส่วนตัวเเล้วชอบนิยายเเนวกลับชาติมาเกิด (มากๆๆๆๆๆๆ)

เพราะว่าไม่ย้อนยุคจนเกินไป เเละไม่ทันสมัยจนเกินไป เป็นการผสมผสานอดีตกับปัจจุบัน สอดแทรกความรู้ได้อย่างมีชั้นเชิง

การเ้ขียนนิยายเเนวนี้มีความยากอยู่ที่การเล่าเรื่อง เพราะจะเล่าเรื่องอย่างไรไม่ให้สับสน เล่าอย่างไรให้ปะติดปะต่อระหว่างภพอดีตเเละปัจุบัน

ถ้าเปรียบกับภาพวาด ก็เหมือนภาพวาดที่มีสองเรื่องซ้อนทับกัน เเต่จะวาดอย่างไรให้สมดุล เเละเนียนตา ต้องใช้ศิลปะเเละความตั้งใจอย่างยิ่ง

ขอยกนิ้วให้ผู้เขียนสัตยาภพเลยค่ะ ที่ดำเนินเรื่องได้ดีมาก ไม่มีการสับสน ไม่มีการสะดุด อ่านเเล้วไหลรื่นไปตามตัวอักษรเลยทีเดียว เเละสร้างปมได้ชัดเจน พร้อมทั้งคลาบปมได้อย่างสมเหตุสมผล

เเละอีกความท้าทางของการเขียนนิยายเเนวนี้ก็คือ "รู้จริงหรือเปล่า?"

สัตยาภพให้คำตอบผู้อ่านว่า ผู้เขียนรู้จริง สืบหาข้อมูลจริง เเละสามารถนำความจริงมาผสานกับจินตนาการที่สร้างให้เหมือนจริง (จนคนอ่านนึกว่าเจ้าศรีธรรมาเเละเจ้าจันทร์มีตัวตนจริงในประวัติืศาสตร์)

การใช้ภาษา ก็เรียบง่าย ไม่หวือหวา ไม่ฟุ่มเฟือย อ่านง่ายเป็นที่สุด เเละขอยกนิ้วชมการเขียนบทสนทนาภาษาพื้นเมืองค่ะ ไม่แปร่ง (เขียนแบบนี้หรือเปล่า?)
เเละก็ไม่พื้นเมืองจ๋าเกินไป จนคนภาคอื่นอ่านไม่ออก

ชมต่อๆ ข้าน้อยชอบบทอัศจรรย์ของเรื่องนี้มาก อารมณ์เหมือนอ่านวรรณคดีเลยค่ะ ที่ไปบรรยายปรากฏการณ์ธรรมชาติเเทน

แต่ ในฐานะคนอ่าน
ข้าน้อยเห็นว่าบรรยากาศโดยรวมยังไม่เเสดงความเป็นล้านนามากพอ เหมือนบรรยากาศจะะออกเเนวจักรๆวงศ์ๆเสียมากกว่า ยังไม่ได้กลิ่นอายของล้านนาท่าไหร่ ยังเห็นภาพไม่ค่อยชัดนะคะ ทั้งที่พักอาศัย ที่นอนหมอนมุ้ง ศิลปะ ธรรมชาติ สถาปัตยกรรม
แหะๆ
อีกนิดนะคะ ข้าน้อยรู้สึกว่าความรักของเสมากับระมิงค์ยังไม่เเจ่มชัด จนถึงตอนนี้ข้าน้อยยังไม่เเน่ใจเลยว่าระมิงค์รักเสมาบ้างหรือเปล่า ความสัมพันธ์ของทั้งสองยังไม่จุใจข้าน้อยเลย 555+ (ชอบเสมาเป็นการส่วนตัว)

เเละก่อนสุดท้ายนี้ ขอชมต่อ ข้าน้อยชอบบรรยากาศความรู้สึกของเรื่องนี้มากค่ะ ที่เเสดงถึงความรุ่งโรจน์เเละการล่มสลายของเวียงกุมกาม ขนลุกมากมายเลยตอนที่ระมิงค์พูดถึงเรื่องนี้ ทำให้เเอบน้ำตาซึมเล้กน้อย T_T ใครจะไปรู้ล่ะคะว่าเมืองที่ยิ่งใหญ่จะต้องล่มสลายกลายเป็นเเค่เมืองใต้บาดาลที่ถูกลืม

สุดท้ายนี้
รอซื้อหนังสืออยู่นะคะ
อิอิ


     
 
10 ส.ค. 54
100 %
4 Votes  
#4 REVIEW
 
เห็นด้วย
29
จาก 29 คน 
 
 
เป็นนิยายที่มีเสน่ห์มากกกกกกกกกกกกก

(แจ้งลบ)
  
เขียนเมื่อ 6 ส.ค. 53
พี่มนขาาาาา
หนูชอบนิยายของพี่จัง
อ่านเเล้วมีความสุข
ภาษาหรูหราสวยงาม เเต่ไม่สับสนงุนงงเเละไม่ยากเกินไป
บรรยายอารมณ์ความรู้สึกได้งดงามมาก
เหมือนอ่านวรรณคดีพื้นบ้านโบราณเลยค่ะ
เเละก็มีการวางปมของเรื่องเเบบที่ผู้อ่านไม่มีวันคาดถึง
เดาทางไม่ได้เลย
ช่างเป้นเรื่องที่สื่อถึงความเชื่อ สงคราม อุบายศึก เเละวัฒนธรรมทางการคิดได้ยอดเยี่ยมจริงๆค่ะ
     
 
2 มี.ค. 64
0 %
0 Votes  
#5 REVIEW
 
เห็นด้วย
29
จาก 30 คน 
 
 
Secret !! บริษัทรับวิจารณ์บทความ

(แจ้งลบ)
  
เขียนเมื่อ 11 ต.ค. 53
ชื่อบทความ : ศาสตราแห่งความหวัง

ชื่อนักวิจารณ์ :กุหลาบน้ำเงิน

ลิ้งค์หรือแบนเนอร์บทความที่วิจารณ์ : http://writer.dek-d.com/dake/story/view.php?id=491532

โครงเรื่อง [9/10] : นิยายเรื่องนี้รับการตอบรับดีมากในระดับหนึ่ง เพราะมีโครงเรื่องกระชัีบ มีจุดหมายปลายทางที่มาที่ไปเเน่ชัด เเปลกเเตกต่าง มีจินตนาการ จึงดึงดูดผู้อ่านได้ดี ให้คะเเนนโครงเรื่องเยอะนะคะเพราะว่าน่าสนใจมาก ชวนติดตามตลอด สำหรับคอนิยายเเฟนตาซี พลาดไม่ได้เลย การมีปมที่เเน่ชัด ตัวละครมีจุดหมายเป็นของตัวเอง เเละมีอุปสรรคมาขัดขวาง ทำให้ผู้อ่านลุ้นไปกับตัวละคร นอกจากนี้ขอชมที่ผู้เขียนเเสดงที่มาที่ไปของปมเรื่องได้ชัดเจนเเละน่าสนใจ เเทบไม่มีอะไรที่ต้องวิพากษ์วิจารณ์มากสำหรับโครงเรื่องโดยรวม

เเต่สิ่งที่เเนะนำเพิ่มเติม คือ ผู้เขียนไม่ควรสร้างความบังเอิญเพื่อช่วยเหลือตัวละครมากเกินไป ไม่ว่าจะเป็นฝีมือ อาวุธ คู่หู ควรจะเพิ่มความยากลำบากเเละอุปสรคเข้ามา เพื่อให้คนอ่านไม่รู้สึกว่ามันง่ายเกินไป

เช่น ตอนที่ตัวละครนางเอกได้ภูติเป็นผู้ช่วย ถือว่าได้มาง่ายเกินไปสำหรับนิยายเเฟนตาซี น่าจะเพิ่มอุปสรรคให้มากกว่านี้ ให้สมกับการได้คู่หู

ตัวละคร [8/10] : ตัวละครเเต่ละตัวมีสีสันที่น่ารักมากเลยนะคะ ต่างมีเป้าหมายเเละบุคลิกเเน่ชัด มีการพัฒนาตัวละครตลอดเรื่อง เปิดตัวละครด้วยวิธีการที่น่าสนใจ เช่น เปิดตัวละครหญิงพร้อมปมอดีตที่ลืมเลืิอน เปิดตัวละครชายด้วยภาระหน้าที่ยิ่งใหญ่ที่เขาต้องเเบกรัก เมื่อตัวละครมีปม มีภารกิจ จะทำให้ผู้อ่านสนใจติดตาม เอาใจช่วย

เเละการที่ผู้เขียนผูกปมความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครเอกทั้งสองได้อย่างสวยงาม ในตอนที่พระเอกเห็นนางเอกครั้งเเรกเเล้วเเล้วเรียกชื่อเธอออกมา ทำให้เราสนใจอยากรู้ว่าตัวละครสองตัวนี้ต้องมีความสัมพันธ์อะไรสักอย่างที่เป็นปม น่าค้นหาเเน่นอน ขอชื่นชมจากใจจริงนะคะ

คำเเนะนำเพื่อพัฒนาเล็กน้อยที่อยากฝาก คือ ตัวละครของผู้เขียนยังห่างจากผู้อ่านมากเกินไป ดูพวกเขาเหินห่าง เป็นผู้ยิ่งใหญ่ ทำให้ผู้ชมไม่เกิดอารมณ์ความรู้สึกร่วมไปกับตัวละคร ไม่ได้เเชร์ความรู้สึกกับตัวละครเลย เพราะผู้เขียนเขียนเเค่ว่า ตัวละคร \"คิด\" อย่างไร เเต่ไม่เคยเขียนว่า ตัวละคร \"รู้ึสึก\" อย่างไร

การสร้างตัวละครที่ดี ผู้เขียนต้องทำให้เกิดความรู้สึกสงสารเห็นใจ หรือรู้สึกเหมือนเป็นตัวผู้ชมเอง

เเต่ผู้อ่านไม่พบความรู้สึกร่วมเหล่านั้นเลย รู้เเค่ว่าร่วมสะใจไปกับทั้งคู่มากกว่า โดยลืมจุดสำคัญคือ \"จุดหมายเเละปมอดีตของคนทั้งคู่\" ทั้งที่เเก่นสำคัญส่วนหนึ่งอยู่ที่สิ่งเหล่านี้

เเก้ไขโดยบรยายความรู้สึกเพิ่ม สร้างความขัดเเย้งภายในตัวเองของตัวละครให้มากขึ้น ให้ผู้อ่านได้ซึมซับอารมณืของตัวละครเช่น ความรัก ความเจ็บปวด ความเหงา ภาระอันหนักอึ้ง หรือชีวิตที่ไม่ได้มีความสุขนักเมื่อต้องฆ่าคน หรือความว้าเหว่ภายใต้หน้ากากเย็นชา เป็นต้น สิ่งเหล่านี้จะช่วยเชื่อมโยงตัวละครถึงความเป็นคนได้มากขึ้น เเละจะเข้าถึงจิตใจผู้อ่านมากขึ้น

นอกจากนี้ ผู้เขียนไม่ได้เเสดงความมุ่งมาดปรารถนาของเจ้าชายอย่างเเรงกล้าพอ ไม่เเสดงว่าเจ้าชายต้องการทำตามคำทำนายเเค่ไหน ทำให้ตัวเจ้าชายดูขาดมิติไป

เเละตัวละครพี่ชายทั้งสอง เหมือนกันเกินไป จนเเทบจะเป็นคนเดียวกัน ซึ่งทางที่ดี ผู้เขียนควรเพิ่มบุคลิกเฉพาะตัวให้มากขึ้นกว่านี้

ฉาก สถานที่ เวลา [8/10] : ผู้เขียนเเสดงได้ดีเเละมีจินตนาการ เเต่ละฉากมีที่มาที่ไป เเละทำให้ผู้ชมสนุกไปกับโลกจินตนาการของผู้เขียน ไม่ว่าจะเป็นดินเเดนของมนุษย์ ภูติ หรือปีศาจ หรือกระทั่งเกาะที่ไม่มีใครอยากไป

สิ่งที่อยากเเนะนำ เช่น ขณะนี้ เรื่องกำลังอยู่ในดินเเดนของภูติอยู่ แต่ผู้เขียนยังเเสดงความเเตกต่างของดินเเดนเเห่งภูติ จากดินเเดนทั่วไปไม่ชัดเจนนัก อาจเป็นเพราะผู้เขียนละเว้นที่จะบรรยาย ไม่พรรณนาให้มากความ อาจเป็นจุดดีที่ทำให้คนอ่านไม่เบื่อ เเต่ว่ามันกลับทำให้ไม่เห็นภาพ เเละรู้สึกว่าตัวละครลอยโดดอยู่ในความว่างเปล่า มากกว่าในโลกจินตนาการ จึงขอเเนะนำให้บรรยายเเละพรรณนาฉากให้มากกว่านี้นะคะ ^^

การดำเนินเนื้อเรื่องและมุมมองการเล่าเรื่อง [8/10] : ดำเนินเรื่องทำได้ดี เเละกระชับฉับไวไม่เยิ่นเย้อ เเละน่าอ่าน

เว้นเเต่ช่วงท้ายๆที่รู้สึกว่าจะตัวละครติดเเหง็กอยู่ในป่านานไปหน่อย เเละเยิ่นเย้อมากไปหน่อย

เเนะนำว่าผู้เขียนควรจะสร้างอุปสรรคเเบบเป็นขั้นบันได จากอุปสรรคง่ายไปยาก จากอันตรายที่มองเห็นไปอันตรายที่น่มองไม่เห็น ดีกว่าอุปสรรคที่มาเมื่อไหร่ก็ได้ตามใจผู้เขียน เพราะ อย่างหลังจะทำให้ผู้อ่านรู้สึกสะเปะสะปะ เหมือนเป็นการเดินทางที่ไร้จุดหมาย

คำเเนะนำเพิ่มเติม คือ การดำเนินเรื่องส่วนใหญ่อยู่ที่ตัวละครนางเอก เเต่ผู้อ่านกลับรู้สึกเหินห่างกับตัวละครเอกอย่างมาก อาจเพราะผู้เขียนเเทบไม่เปิดความรู้สึกของตัวละครให้ผู้อ่านรู้จักเลย เเนะนำว่าให้พรรณนาความรู้สึกของตัวละครให้มากขึ้น

ความสมเหตุสมผล [8/10] : เรื่องดำเนินไปช่วงหนึ่งเเล้วเเต่ยังไม่จบ จึงยังกล่าวไม่ได้ว่าสมเหตุสมผลดีพอหรือไม่ ผู้อ่านจึงขอเเนะนำเฉพาะจุดที่เห็นว่ายังไม่สมเหตุสมผล

จุดหนึ่งคือ ผู้เขียนไม่ได้บอกเเต่ต้นว่าทำไมนางเอกต้องปลอมตัวเป็นผู้ชาย ไม่มีเหตุผลสนับสนุนเพียงพอแต่เเรก เเต่ค่อยมาอธิบายในฉากหลังๆ ซึ่งจริงๆเเล้ว นางเอกเป็นตัวละครที่ใกล้ชิดผู้ชมมากที่สุด จึงควรบอกผู้ชมเเต่เเรกว่าทำไม มีเหตุผลอะไร ต้องใช้หน้ากากเพื่ออะไร ต้องปิดบังตัวเองเป็นชายเพื่ออะไร?

ความไม่สมเหตุสมผลอีกจุดหนึ่งคือ ผู้เขียนได้เขียนไว้บรรทัดหนึ่ง ในตอนที่คณะเดินทางจะไปค้นหาของที่ป่าเเห่งกาลเวลา พระเอกบอกว่า มีทหารไปค้นหาเเล้ว พบว่าของที่จะหาอยู่ที่นั่น

นี่คือส่วนที่ผู้อ่านสงสัยมาก เพราะดินเเดนภูตินั้นน่ากลัว เต็มไปด้วยอันตราย เเต่ทำไมทหารซึ่งเป็นมนุษย์จึงเข้าไปค้นหาได้ เเละเมื่อรู้เเล้วว่าอยู่ที่ไหน ทำำไมไม่เอามาเลยตั้งเเต่เเรก จะต้องให้เจ้าชายตามมาอีกทำไม ผู้เขียนไม่ได้อธิบายไว้ เเนะนำให้ผู้เขียนช่วยอธิบายเพิ่มเติม

บทสนทนา [8/10] : บทสนทนาเป็นธรรมชาติ เเละเข้าใจง่ายดีค่ะ สอดเเทรกมุขตลกได้อย่างน่ารัก ช่วยพัฒนาเรื่อง เเละบอกบุคลิกของตัวละครได้ดีมากค่ะ เเต่ว่ามีผิดไวยากรณ์เป็นส่วนมาก จึงตัดคะเเนนไป เช่น

การใช้ภาษาพูด ในการเขียนนิยาย เเม้จะเป็นบทสนทนาก็ไม่ควรใช้ภาษาพูด ควรใช้ภาษาสนทนาค่อนข้างทางการ

ฟะ ไม่ควรใช้ ใช้ วะ เเทน

น้องสุดเลิฟ ไม่ควรใช้ ใช้ น้องสุดที่รัก เเทน

ซะด้วย ไม่ควรใช้ ใช้ เสียด้วย เเทน

ละกัน ให้ใช้ เเล้วกัน

ยังไง ให้ใช้ อย่างไร

มีประสงค์ ให้ใช้ ประสงค์ (เพราะประสงค์เป็นกริยาอยู่เเล้ว)

มีการเว้นวรรคผิด เช่น

ใช่เเต่ก็ดี ควรเว้นวรรคว่า ...ใช่ เเต่ก็ดี

ได้น้องจะอยู่ ควรเว้นวรรคว่า... ได้ น้องจะอยู่

มีการเรียงไวยากรณ์ผิด เป็นไวยากรณ์ต่างประเทศ เช่น

เรากำลังจะไปใจกลางป่าไม่ใช่ ควรใช้เป็น เรากำลังจะไปใจกลางป่าใช่ไหม?

สรุปก็คือ ผู้เขียนใช้ภาษาพูดที่ใช้ในชีวิตประจำวันมากเกินไป เเก้ไขโดยการอ่านทวน เเละปรับสำนวน อย่าใช้คำเเสลง อย่าใช้ประโยควัยรุ่นมากเกินไป

ภาษาสำนวน

- การบรรยาย [14/20] : ที่ให้น้อยเพราะว่าผู้เขียนเเทบไม่บรรยายหรือพรรณนาเลย ส่วนมากจะใช้ความคิดของตัวละครบอกเล่ามากกว่า เเละนอกจากนี้ยังใช้การบรรยายที่ฟุ่มเฟือย ไม่จำเป็น ใช้คำขยายเกินจำเป็น เช่น

ดวงตาสีฟ้าของคนเป็นพี่ชาย ใช้เเค่ ดวงตาสีฟ้าของพี่ชาย

คนผู้เป็นนักฆ่า คนผู้เป็นพี่ คนเป็นน้อง... ไม่จำเป็น ให้ใช้เเค่ นักฆ่า พี่ น้อง ไปเลย

ร่างของมือสังหาร ร่างของเธอ ร่างของพี่ชายทั้งสอง... ไม่จำเป็น ให้ใช้ประธานไปเลย

ผู้เขียนใช้ไวยากรณ์ต่างประเทศ Passive Voice ซึ่งไม่ึควรใช้ในภาษาไทย ไวยากรณ์ไทยคือ

ประธาน + (ส่วนขยายประธาน) + กริยา + (ส่วนขยายกริยา) + กรรม + (ส่วนขยายกรรม) + กรรมรอง + (ส่วนขยายกรรมรอง)

พยายามเรียงลำดับให้ได้ตามนี้ เเละเลือกใช้คำเชื่อมให้น้อยที่สุด ที่สำคัญ หลีกเลี่ยงการขยายที่ไม่จำเป็น พยายามทำประโยคให้กะชับที่สุด
เช่น

เสียงเรียบเอ่ย ให้ใช้ เขาเอ่ยเสียงเรียบ (ประธานคือ เขา กริยาคือ เอ่ย คำขยายกริืยาคือ เสียงเรียบ)

ใบหน้าของเธอถูกปิดด้วยหน้ากาก เป็น Passive Voice ให้ใช้ เธอปิดหน้ากากบนใบหน้า (ประธานคือ เธอ กริยาคือ ปิด กรรมคือ หน้ากาก กรรมรองคือ บนใบหน้า)

ผู้เขียนเรียงไวยากรณ์ผิดมากมาย ใช้ประโยคกำกวม ซับซ้อน สับสน เช่น

พร้อมกับเจ้าตัวที่ทิ้งหน้ากากสีขาวลงบนตัวของผู้ที่กลายเป็นศพ... ให้เปลี่ยนเป็น เธอทิ้งหน้ากากสีขาวลงงบนศพ

เด็กหนุ่มก็ยังไงเยือกเย็นอยู่เสมอ... ประโยคนี้ ผู้เขียนเขียนกำกวมจนไม่สามารถสื่อความหมายได้ หรือผู้เขียนอาจต้องการเขียนว่า เด็กหนุ่มยังเยือกเย็นเสมอ

หันไปมองก่อนมือจะค่อยๆถอดหน้ากากออก... ให้เปลี่ยนเป็น เธอหันไปมอง..(อะไร).? ก่อนจะถอดหน้ากากออก

ในเมื่อเวลาหาข้อมูล ...ให้ผู้เขียนเลือกว่าต้องการความหมายใด ระหว่าง ... ในเวลาหาข้อมูล? หรือ... เมื่อหาข้อมูล?

ไม่ควรใช้วงเล็บ ให้ใช้การบรรยายเพิ่มเติมเเทน

ในระหว่างบรรยาย ควรใช้ภาษาที่สละสลวย เเต่หากต้องการสอดเเทรกความคิดที่เป็นภาษาพูดในการบรรยาย เช่น (เขาเป็นอะไรของเขานะ!) ควรปรับตัวหนังสือให้เป็นตัวเอียง

- คำผิด คำซ้ำ การหลากคำ [7/10] : มีคำซ้ำมาก เช่น เสียงเย็นพูดอย่างใจเย็น ให้เปลี่ยนเป็น เขาพูดอย่างใจเย็น

เเละมีคำผิดมาก เช่น ให้ตาสิ!(ใ้ตายสิ) รายระเอียด(รายละเอียด) บางอ๋อ(บางอ้อ) ช้างจัง (ช้าจัง)

สิ่งสำคัญของนิยายคือเรื่องภาษาที่อยากให้ผู้เขียนสละเวลาอ่าน เเละตรวจสอบ เพื่อให้ผู้อ่านเห็นความรักในงานเขียน ความตั้งใจที่เเท้จริงของผู้เขียน มากกว่าการปล่อยปละละเลยให้มีคำผิด เเละสำนวนกำกวมไร้ความหมาย ซึ่งจะเเสดงให้เห็นถึงความไม่ตั้งใจของผู้เขียน

ผู้เขียนควรอ่านทวนอย่างน้อยหนึ่งรอบ หลังจากเขียนจบ เพื่อเเก้ปัญหานี้ เเละพยายามตัดภาษาให้สั้นที่สุด กระชับที่สุด อย่างใช้คำเยิ่นเย้อ อย่าใช้คำซ้ำมากไป อย่าใช้ภาษาพูด อย่าใช้ภาษาวัยรุ่น อย่าใช้ภาษาสมัยใหม่ เพิ่มความสละสลวยทางภาษา นี่คือสิ่งที่ผู้อ่านต้องการเเนะนำ

ความน่าติดตาม [8/10] :สำหรับนิยายเรื่องนี้ให้คามน่าติดตามมาก เพราะว่าชวนให้ผู้อ่านลุ้นได้ตลอด มีเหตุการณ์น่าตื่นเต้่นกิดขึ้นตลอด

สิ่งที่อยากเเนะนำมากๆมีเพียงเรื่องของภาษาเเละตัวละครเท่านั้น นอกนั้นผู้เขียนทำได้ดีมากทีเดียว การมีความคิดสร้างสรรค์นั้นสำคัญ เเละผู้เขียนเเสดงให้เห็นว่า ผู้เขียนมีจินตนาการที่ยอดเยี่ยมมาก ส่วนเรือ่งภาษานั้นสามารถปรับปรุงได้ง่าย เพียงรักการอ่านให้มากขึ้น อ่านนิยายของนักเขียนมืออาชีพ ฝึกฝนไวยากรณ์ของภาษาไทยอันเป้นภาษาที่มีกฏเกณฑ์เเน่ชัดมา เเละควรใช้ให้ถูกต้อง อ่านทวนเเละปรับเเก้เป็นประจำสม่ำเสมอ มองงานของตนเองด้วยสายตาของบรรณนาธิการที่ชอบจับผิด เชื่อว่าผู้เขียนทำได้อยู่เเล้ว เพราะผู้เขียนมีความสามารถในการพล็อตเรื่องเป็นทุนสำคัญอยู่เเ้ล้ว ขอเป็นกำลังใจให้ผู้เขียนสู้ตอ่ไปนะคะ เเละขอให้ได้ตีพิมพ์ไวๆ


สรุปคะแนน
คะแนนรวมเต็มร้อย ได้
78/100

     
 
ใครแต่ง : StampSonice
20 ธ.ค. 54
80 %
9 Votes  
#6 REVIEW
 
เห็นด้วย
26
จาก 27 คน 
 
 
เป็นนิยายที่มีเสน่ห์ล้นเหลือ กรี๊ดๆๆๆๆ

(แจ้งลบ)
  
เขียนเมื่อ 6 ส.ค. 53
หลังจากอ่านงานของคุณเชอร์เเตมป์มาได้เกือบจบช่วงเเรกของรัตติกาลไร้ดาว
ขอ ฝากคำวิจารณ์ในฐานะนักอ่านนะเจ้าคะ

ข้าน้อยชอบนิยายเรื่องนี้มาก เเละสัมผัสได้ในทุกตัวอักษรถึงความพยายาม เเละความรักที่ผู้เขียนทุ่มเทให้กับงานเขียนนี้

ข้าน้อยดีใจมากที่ยังมีคนรักในความงดงามของภาษา เเบบไม่เเคร์สื่อ
เป็นภาษาที่มีเอกลักษณ์จริงๆ เเละข้าน้อยไม่สะดุดเเม้สักคำ สวยงามทุกท่วงท่า
ขอกราบเป็นอาจารย์จริงๆ

นิยายเรื่องนี้มีเสน่ห์ในตัวเอง มีความเป็นธรรมชาติ เป็นความหรูหราอย่างเรียบง่าย
ถ้าเปรียบเเล้ว นิยายเรื่องนี้เหมือนดอกกุหลาบสีเเดงที่งามหมดจด...
เหมือนเพชรที่ข้าน้อยค้นพบ!!
ทว่า....เเม้ดอกกุหลาบจะสวย เเต่เเจกัน ใบ โต๊ะ ที่รองเเจกันก็ควรสวยตามไปด้วย เพชรนั้นหากวางบนเรือนทองด่างดำ ก็อาจกลายเป็นเพชรปลอมไป
ข้าน้อยกำลังหมายถึง เรื่องที่อยากสับเละเทะดังต่อไปนี้

ฮ่าๆ อย่าตกใจไป ข้าน้อยล้อเล่น
นิยายของท่านคือเพชรที่มีเรือนทองสวยงาม เเต่ประกายไม่เจิดจรัสพอ ต้องเจียระไนอีกนิด
(เเล้วจะพูดเป็นปรัชญาทำไม ฟ๊าาาาาา >O< หงุดหงิดตัวเอง)<
เอาใหม่ๆๆๆๆ (ปรับโหมดจริงจัง)
- ข้าน้อยยังเห็นฉากของเรื่องไม่ชัด หรือถึงขั้นไม่เห็นฉากเลย ที่ข้าน้อยจินตนาการฉากได้ เกิดจากประสบการณ์เดิมของข้าน้อย เเต่ข้าน้อยก็อยากเห็นฉากที่เเจ่มชัดจากประสบการณ์ของท่านเช่นกัน
- มันเหมือนความหรูหราที่ยังไม่หรูหราเเท้ เหมือนท่านต้องการสื่อความงามอันเลิศเลอ เเต่ผลที่นักอ่านมองเห็นกลับไม่อลังการงานสร้างพอ

เช่น ความงามของเซรีส ข้าน้อยรู้ว่านางงามมาก เเต่ในสายตาข้าน้อย ความงามของนางเหมือนดอกกุหลาบสีเเดงหมดจด เเต่ดูดาดๆ ไม่โดดเด่น (เเต่ความหล่อของจอมมาร ข้าน้อยเห็นภาพนะเจ้าคะ อันนี้ก็ขอกราบเป็นอาจารย์ )
นั่นเพราะการพรรณา จำเป็นต้องมีวรรคทอง
เช่น จอมมารของท่าน มีวรรคทองที่ หล่อยิ่งกว่าผู้ชายในเทียเมสรวมกัน
เเต่ข้าน้อยยังไม่เห็นวรรคทองที่ชัดเจนของเซริสเลย จึงยังไม่อาจยกย่องความงามของนางได้

- ตัวประกอบของท่านยังไม่ชัดเจนพอ ไม่มีมิติ ยังเหมือนตุ๊กตากระดาษ เหมือนดาวที่อับเเสง ข้าน้อยอยากให้ท่านให้ความสำคัญกับพวกเขาให้มากหน่อย เขาป้นเหมือนดอกยิปโซที่ขับความเด่นให้ช่อกุหลาบ

- พล็อตของท่านยังหลวมไปในสายตาข้าน้อย ตรงส่วนความสมเหตุสมผล ในด้านเเรงจูงใจ กับปฏิกิริยาตอบสนองเมื่อพบเจอการกระทำหนึ่ง ซึ่งความจริงมันอาจสมเหตุสมผล เเต่ท่านลืมอธิบายไป

นี่คือสิ่งที่ข้าน้อยอยากติชม เพราะรู้ว่าท่านรักเรื่องนี้มาก

เเต่มันก็เป็นเพียงคำวิจารณ์ในสายตานักอ่านคนหนึ่งเท่านั้น
ซึ่งยังมีนักอ่านอีกหลายท่านที่ความเห็นเเตกต่างจากนี้

รักนิยายของท่านเช่นกัน

ความจริงวิจารณ์มากกว่านี้ เเต่มันตัดไปเยอะเลย ข้าน้อยต้องนั่งพิมใหม่ จำไมไ่ด้เเล้ว เเงๆๆๆๆ
     
 
ใครแต่ง : Mul2asaki
24 พ.ค. 61
80 %
28 Votes  
#7 REVIEW
 
เห็นด้วย
21
จาก 21 คน 
 
 
Secret !! บริษัทรับวิจารณ์บทความ

(แจ้งลบ)
  
เขียนเมื่อ 11 ต.ค. 53


ชื่อบทความ : Astrorian Estra : ผนึกร่างรัตติกาล

ชื่อนักวิจารณ์ :กุหลาบน้ำเงิน

ลิ้งค์หรือแบนเนอร์บทความที่วิจารณ์ :http://writer.dek-d.com/dek-d/writer/view.php?id=614610

โครงเรื่อง [9/10] : สำหรับนิยายเรื่องนี้ ต้องชมผู้เขียนว่าผู้เขียนคงวางเเผนมาอย่างดี คงวาดแผนที่อาณาจักรในจินตนาการไว้เเล้วใช่ไหมคะ สามารถสรรสร้างอาณาจักรในจินตนาการได้สมบูรณ์เเบบเเละยิ่งใหญ่จริงๆ ตัวละครเเต่ละตัวก็มีเสน่ห์ดีมาก เรื่องราวมีปมของเรื่องชัดเจน เเละมีความขัดเเย้งชัดเจน

เเต่ปัญหาเล็กน้อยจะอยู่ที่การดำเนินเรื่องเสียมากกว่า รวมถึงจุดมายของเรื่อ ว่าเรื่องมีจุดหมายที่ต้องการดำเนินไปทางใดกันเเน่ ตกลงต้องการนกำจัดหรือปกป้องผู้มีผนึก การไม่ชัดเจนเรื่องนี้ จะทำให้เรื่องดูเลื่อนลอยบนะคะ

ตัวละคร [7/10] : ตัวละครมีเสน่ห์มากเลยค่ะ >O< นิยายเรื่องนี้มีตัวละครค่อนข้างมาก เเต่ก็ถือว่าไม่มากนักถ้าเทียบกับนิยายเเฟนตาซีหลายๆเรื่อง ผู้วิจารณ์่สามารถอ่านเเละจดจำคาเเรกเตอร์ได้ เพราะภาพเเนะนำตัวละคร

แต่หากไม่มีภาพเเนะนำนำเหล่านั้น เเน่นอนว่าผู้วิจารณ์คงจำไม่ได้เเน่ นั่นเพราะผู้เขียนเขียนให้ในหนึ่งฉากมีตัวละครมากเกินไป ตัวละครปรากฏตัวมากเกินในบทเเรกๆ ซึ่งการมีตัวละครเยอะนั้นไม่ใช่ปัญหา เเต่การเเนะนำตัวละครเ็ป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญอย่างยิ่ง

วิธีเเนะนำตัวละครมากๆไม่ให้คนอ่านงง มีดังนี้

1. เสียสละเวลาเเละหน้ากระดาษเพื่อเเนะนำตัวละครทีละตัว ทีละตอน (เลือกเฉพาะตัวที่สำคัญๆ) ให้ผู้อ่านได้รู้จักความเป็นมา ความเป็นไป ตำเเหน่ง อดีต ภูมิหลัง ของพวกเขา โดยใช้เทคนิคเปิดตัวละครเเต่ละตัวอย่างยิ่งใหญ่ วิธีการนี้จะช่วยให้ตัวละครของผู้เขียนโดดเด่นเเละมีเอกลักษณ์ขึ้นมาทันใด ซึ่งดีกว่าจับพวกเขายัดรถม้ามารวมๆกันเเล้วนั่งมาพร้อมกัน

2. ในช่วงที่ตัวละครสร้างความสัมพันธ์ ให้ผู้เขียนใส่บุคลิกพิเศษเฉพาะตัวของตัวละครเเต่ละตัวให้มากขึ้นด้วยการบรรยายรูปร่าง ท่ายืน วิธีการพูดจา สีหน้า บุคลิกเล็กๆน้อยๆของตัวละครก็สามารถบ่งบอกนิสัยเฉพาะตัวได้

3. ในช่วงบทสนทนา พยายามใส่คำพูดที่เเสดงนิสัยของตัวละครให้มากกว่านี้ บทสนทนามิได้มีประโยชน์เเค่เพื่อดำเนินเรื่อง หรือบอกความคิดเห็นของตัวละครเท่านั้น เเต่บทสนทนามีส่วนช่วยเเสดงอุปนิสัยตัวละครด้วย

4. ตัดตัวละครที่ไม่มีประโยชน์ต่อการดำเนินเรื่องออก ตัวละครใดที่มีเเนวโน้มบุคลิกนิสัย เเละความเห็นเหมือนกัน ให้เหมารวมว่าเป็นตัวละครเดียวกัน ตัวละครใดที่ถึงไม่มีก็ไม่ได้ทำให้เรื่อยเสียอรรถรส ก็ตัดออกได้

5. ให้ตัวละครเเต่ละตัวมีความคิดเป็นของตัวเอง โดยความคิดนั้นต้องมาจากอุปนิสัยของตัวละครด้วย อย่าให้ตัวละครมีความคิดไปในเเนวทางเดียวกัน เพราะตัวละครที่มีความคิดเหมือนกัน คือตัวละครเดียวกัน

6. พยายามอย่าใส่ตัวละครในฉากเดียวกันมากเกินไป หากจำเป็นก็ให้บ่งบอกเเต่ตอนเเรกว่ามีตัวละครกี่ตัวเเละชื่ออะไรอยู่ในฉากนั้น เพื่อผู้อ่านจะได้เตรียมจินตนาการได้ทัน

7. พยายามเพิ่มความรู้สึกของตัวละครให้มาก บรรยายอารมณ์ความรู้สึกของเขาให้มากขึ้น เพื่อที่ผู้อ่านจะได้เข้าถึงตัวละคร เมื่อผู้อ่านเข้าถึงตัวละคร ก็จะรู้ึสึกสนิทสนมกับตัวละคร เเละเมื่อนั้นผู้อ่านก็จะจำพวกเขาได้

สำหรับตัวละครหญิงในเรื่อง (ซึ่งมีน้อยมาก) ไม่เป็นปัญหาต่อความจำของผู้อ่าน เพราะมีน้อยมาก เเละผู้เขียนก็เขียนบุคลิกของตัวละครหญิงได้ดี สามารถทำให้ผู้ชมเห็นใจ เเละเอาใจช่วยเธอ

ฉาก สถานที่ เวลา [8/10] : ผู้เขียนบรรยายได้เห็นภาพ เเละเข้าใจทะลุปรุโปร่ง บางตอนเเอบมีรูปภาพประกอบด้วย ก็ช่วยจินตนาการใด้มาก ชอบที่ผู้เขียนสร้างดินเเดนในจินตนาการได้ดีทีเดียว เเละขอให้พัฒนาความสามารถนี้ต่อไปนะคะ ^^

การดำเนินเนื้อเรื่องและมุมมองการเล่าเรื่อง [8/10] : การดำเนินเรื่องเป็นไปอ่านเรียบง่าย ไม่งงไม่สับสน ผู้อ่านเข้าใจดี เเละยังมีการตัดกับความโรเเมนติกบ้าง ฮาขับขัน ตื่นเต้นตกใจบ้าง ซึ่เงป็นเสน่ห์ของเรื่องที่น่ารัก

แต่ขอเเนะนำเพิ่มเติมว่าบางฉากก็ยืดยาวเเละเยิ่นเย้อเกินไป ซึ่งบางครั้งไม่จำเป็นเลย ขอเเนะนำให้เลือกเฉพาะฉากที่สำคัญต่อการดำเนินเรื่องจริงๆ เช่น ถ้าไม่มีฉากนั้น เรื่องจะไม่สามารถดำเนินไปได้ เป็นต้น

ความสมเหตุสมผล [8/10] : เรื่องยังไม่ค่อยสมเหตุสมผล ตรงที่ทำไมต้องมีคนมาปกป้องนางเอก ทั้งที่รอบตัวนางเอกก็มีคนเก่งๆมากมาย

นอกจากนี้เเม้ผู้วิจารณ์จะพยายามอ่านอย่างละเอียดเเล้ว เเต่ก็ยังสงสัยว่าทำไมนางเอกต้องทำตัวเป็นคนใช้ นางเอกอยากทำเอง หรือคนรอบข้างอยากให้ทำ เพราะบางตอนก็เหมือนนางเอกเต็มใจ เเต่บางตอนก็เหมือนนางเอกน้อยใจ (เช่นตอนที่พูดกับพระเอกประมาณว่า...ถึงยังไงฉันก็เหมือนคนใช้อยู่เเล้วนี่) สรุปเเล้วนางเอกใช้ชีวิตอย่างไรกันเเน่

ตกลงคนรอบตัวนางเอกคิดอย่างไรกับนางเอกกันเเน่ บางครั้งก็เหมือนรัก เเต่เหตุใดต้องทำตัวเหินห่างนางเอก?

ตกลงนางเอกรู้จักตัวเองดีเเค่ไหน รู้หรือเปล่าว่าตนเองมีผนึกปีศาจ เพราะผู้เขียนไม่ได้บอกว่านางเอกรู้หรือไม่รู้ว่าตัวเองเป็นใครมาเเต่เเรก เเต่มาบอกเอาตอนกลางๆเรื่องว่านางเอกคิดว่าตัวเองเป็นเเค่เจ้าหญิงตกยาก เนะนำให้ผู้เขียนเริ่มบรรยายตั้งเเต่เเรกๆดีกว่า มาบรรยายกลางเรื่อง

ตกลงทุกคนอยากให้นางเอกอยู่รอดหรืออยากกำจัดนางเอกกันเเน่

ตกลงเป้าหมายของนางเอกคืออะไรกันเเน่ ดูเหมือนชีวิตเธอเลื่อนลอยเเละยังไม่มีจุดหมายเเน่ชัด ทำให้ไม่สามารถมาเสริมความสมเหตุสมผลของเรื่องได้ว่าทำไมต้องมีอัศวิน เเละเจ้าชายมาคุเ้มครองเธอมากมายขนาดนี้ แนะนำให้ผู้เขียนอธิบายเพิ่มเติม

บทสนทนา [8/10] : บทสนทนาเป็นธรรมชาติ เเละช่วยเเสดงความคิดความต้องการอุปนิสัยเเละความรู้สึกของตัวละครได้ดี โดยเฉพาะตัวละครพระเอกซึ่งเป้นคยปากไม่ตรงกับใจ เเละตัวละครนางเอกซึ่งเป็นคนขี้อาย รวมถึงตัวละครอื่นๆอีกหลายๆตัว

ภาษาสำนวน

- การบรรยาย [16/20] : ผู้เขียนใช้ภาษาที่ดีในระดับหนึ่งอยู่ก่อนเเล้ว ชอบตรงที่ผู้เขียนมีการบรรยายเเยก เช่น หากบรรยายความคิดก็จะทำตัวเอียง ขอชื่อชมเทคนิคนี้ ที่ทำให้ผู้อ่านเข้าใจมากขึ้น

เเต่ที่อยากเเนะนำเพิ่มเติมคือ มีการใช้ภาษาต่างประเทศ ผิดไวยากรณ์ภาษาไทยบ้าง มีประโยคที่ยาวเกินไป

ขอเเนะนำให้ผู้เขียนอย่าเขียนให้หนึ่งประโยคยาวเกิน 1 บรรทัด เเละอย่ามีคำว่า ที่ ซึ่ง อัน ในประโยค มากกว่า 2 จุดเป็นอันขาด พยายามขยายประโยคให้น้อยที่สุด ทำประโยคให้กระชับที่สุด

- คำผิด คำซ้ำ การหลากคำ [7/10] : มีคำผิดในช่วงสี่ห้าตอนเเรกจำนวนมาก ส่วนมากจะผิดพวก ร. เเละ ล. ซึ่งมีนักวิจารณ์ท่านหนึ่งได้เเนะนำไปแเเล้ว จึงไม่ขอพูดซ้ำอีก ภาษาสำนวนส่วนอื่นถือว่าดีเเล้ว

ความน่าติดตาม [7/10] : เนื้อเรื่องดำเนินมาอย่างน่ารัก ชวนอ่านได้เรื่อยๆ น่าติดตามความรักของพระเอกเเละนางเอก เเต่ปัญหาอาจเป็นเพราะการดำเนินเรื่องที่เรียบๆเรื่อยๆเกินไป มีเหตุกรณ์ต่างๆเกิดขึ้นไปวันๆ เเละเหตุการณ์บางอย่างก็ไม่ได้ช่วยพัฒนาเรื่อราว เนื้อเรื่องยังไม่มีจุดหมายเเน่ชัดว่าตกลงทุกคนต้องการอะไรกันเเน่ ทำให้ผู้อ่านยังไม่ค่อยอยากลุ้นติดตามเท่าไหร่

เเนะนำให้ผู้เขียนเพิ่มเติมจุดหมายของเรื่อง จุดหมายของเรื่องไม่ใช่เเค่การคุ้มครองเข้าหญิง เเต่ต้องตอบให้ได้ว่า คุ้มครองอย่างไร? เพื่ออะไร? เพราะอะไร? เเละถ้าไม่คุ้ทครอง จะเกิดอะไรขึ้น

สรุปคะแนน

โดยรวมเเล้วชอบเรื่องนี้นะคะ เป็นนิยายที่น่ารัก ชอบนิสัยของพระเอกที่ปากไม่ตรงกับใจ เเละนิสัยของนางเอกที่ดูเอียงอายน่ารัก เเต่ก็เปิ่นเล็กน้อย ขอเป็นกำลังใจให้ผู้เขียนเขียนตอ่ไปจนจบ เเละพัฒนาปรับเเก้เรื่อยๆ ก็จะดีขึ้นเองค่า

คะแนนรวมเต็มร้อย ได้
78/100
     
 
ใครแต่ง : l.forever [2]
18 ก.ค. 66
80 %
7 Votes  
#9 REVIEW
 
เห็นด้วย
17
จาก 17 คน 
 
 
The Secret บริษัทรับวิจารณ์นิยาย

(แจ้งลบ)
  
เขียนเมื่อ 5 ต.ค. 53
ชื่อบทความ : Zero.คู่นี้ไม่มีหวาน

ชื่อนักวิจารณ์ : กุหลาบน้ำเงิน

ลิ้งค์หรือแบนเนอร์บทความที่วิจารณ์ : http://writer.dek-d.com/dek-d/writer/view.php?id=615115

โครงเรื่อง : ยังไม่สามารถบอกอะไรได้มากเพราะโครงเรื่องยังพัฒนาไม่ถึงขั้นขยายปม เเต่เป็นช่วงผูกปม ซึ่งช่วงนี้สำคัญมากเพราะเป็นจุดดึงดูดนักอ่าน

นิยายเรื่องนี้ดำเนินเรื่องกระชับ ฉับไว ซึ่งเป็นข้อดี ทำให้ไม่เบื่อ เเต่บางครั้งการตัดฉากเอาดื้อๆ เปลี่ยนฉากไวเกินไปโดยไม่บอกกล่าว จะทำให้นักอ่านเหนื่อยหน่าย

เรื่องนี้สร้างปมได้โดดเด่น ทำให้คนอ่านสงสัยว่าตะวละครโซดาคิดอะไรอกันเเน่ เเละสงสัยว่าตัวละครเบสมีอะไรเป็นภูมิหลัง สิ่งเหล่านี้เป้นเสน่ห์ที่ดี ผู้เขียนจึงควรดึงจุดนี้เป็นจุดขายมากวก่าการใช้ฉากพร่ำเพรื่อ เช่น ฉากไปเจอคนรักนอกใจถึงเกาหลี...ซึ่งไม่จำเป็นเลย เพราะไม่ได้มีเหตุการณ์อะไรพัฒนาต่อที่เกาหลีเลยนอกจากเเค่ไปเจอคนรักนอกใจ เหมือนกับการทำละคร หากคุณลงทุนยกกองไปต่างประเทศ นั่นหมายความว่าต้องมีเหตุการณ์สำคัญจริงๆ! ถ้าจะไปเกาหลีจริง ก็เเนะนำให้เพิ่มฉากสานสัมพันธ์ระหว่างตัวเปรี้ยวเเละตัวเบส เป็นต้น



ตัวละคร : เปรี้ยว มีนิสัยเอาเเต่ใจตัวเอง เเละเปรี้ยวฉูดฉาด เเต่ผู้เขียนยังเขียนไม่ถึงนิสัยที่เเท้จริง คือยังไม่เอาเเต่ใจพอ ยังไม่ร้ายพอ เเก้ไขได้โดยการเพิ่มบรรยายลักษณะท่าทาง ความคิด เเละจิตใจของเปรี้ยวมากขึ้น เเทนการใช้อิโมติค่อน

นอกจากนี้พบว่าเปรี้ยวอายุไม่ตรงกับนิสัย ทั้งที่ได้เป็นถึงอาจารย์! เเต่กลับทำตัวเหมือนเด็กมหาวิทยาลัย ไม่มีวุฒิภาวะทางอารมณ์พอ แก้ไขได้โดยการเพิ่มนิสัยอีกด้านของเปรี้ยวเข้่าไป ให้เป็นคนจริงจัง เเม้ภายนอกจะเอาเเต่ใจ

โซดา เหมือนจะเป็นตัวละครที่มีมิติตัวหนึ่ง เเต่ข้าน้อยยังกล่าวอะไรได้ไม่มาก เพราะยังไม่ได้คุ้นเคยกับตัวละครนี้พอ ที่เเนะนำได้ คือ อยากให้ไรท์เตอร์เพิ่มบรรยายหน้าตา บุคลิกท่าทาง จะดีมาก

เบส เป็นตัวละครที่เหมือนจะมีปมเป็นภูมิหลังในจิตใจทำให้ดูมีเสน่ห์ขึ้น เป็นคนอบอุ่น เป็นพี่ที่รักน้อง ได้พร้อมๆกับเป็นคนขี้โวยวาย

คำเเนะนำสำหรับในการดำเนินเรื่องต่อไป ต้องฝากไรท์เตอร์ให้วางตัวละครให้ดีว่าต้องการให้ตัวละครมีหน้าตาเเบบไหน นิสัยเเท้จริงคืออะไร นิสัยที่เเสดงออกมาภายนอกคืออะไร

ฉาก สถานที่ เวลา : การตัดฉากรวดเร็วทำให้อ่านเพลินดี รื่นไหล ผู้เขียนหลีกเลี่ยงที่จะบรรยายฉาก เเต่ก็ยังทำให้อ่านได้

ทว่าข้าน้อยสะดุดเเละเสียอารมณ์มากตอนไปเกาหลี ซึ่งเป็นการใช้ฉากสิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ ลงทุนไม่คุ้มค่า เก้ไขโดยการเพิ่มเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับฉากนั้นอีก

ไรท์เตอร์ควรคำนึงว่าฉากมีความสำคัญในการเสริมบุคลิกตัวละคร เช่น ตอนบทนำ น่าจะบรรยายความโอ่อ่าของสถานที่ให้สมกับความโด่งดังของนางเอก บรรยายบ้านที่นางเอกอยู่ เพื่อจะได้รู้ว่าทำไมนางเอกถึงเอาเเต่ใจตัวเองนัก รวยหรือไง? บรรยายเกาหลีให้คุ้มกับที่ลงทุนไปถ่ายทำถึงต่างประเทศหน่อย ฯลฯ

การดำเนินเนื้อเรื่องและมุมมองการเล่าเรื่อง : ใช้บุรุษที่ 1 มีประโยชน์คือทำให้ผู้อ่านอินไปกับตัวละครเอกได้ง่ายขึ้น ได้เห็นเหตุการณ์ผ่านมุมมองของตัวละคร เเละยิ่งเข้าถึงอารมณ์ตัวละคร

เเต่ว่าไรท์เตอร์พลาดอย่างเเรงคือหลีกเลี่ยงทีจะบรรยายอารมณ์ของนางเอกให้ ถึงใจ ซ้ำยังมีเเต่อิโมติค่อน ใส่มุขมากไป ทำให้งงว่านางเอกคิดยังไงกันเเน่ อยากให้ไรท์เตอร์บรรยายความรู้สึกของนางเอก เเละมุมมองของนางเอกให้มากกว่านี้ ดีกว่าการใส่มุขตลกติงต๊องพร่ำเพริ่อ

ความสมเหตุสมผล : ควรปรับปรุงโดยด่วน คือ ข้าน้อยพบว่าเรื่องดำเนินด้วยความบังเอิญมากเกินไป ซึ่งเป็นจุดด้อยข้อสำคัญของนิยาย เช่น บังเอิญว่านางเอกได้มาเกาหลี บังเอิญว่าเเฟนนางเอกก็มาเกาหลีเหมือนกัน บังเอิญว่าทั้งสองดันมาเกาหลีวันเดียวกันอีก บังเอิญว่านางเอกโดนคู่กัดด่าผิดคน บังเอิญว่าคู่กัดก็มาเกาหลีอีก บังเอิญว่าคู่กัดดันเป็นพระเอกเหมือนกัน บังเอิญว่านางเอกได้ไปสอนมหาวิทยาลัย บังเอิญว่าคู่กัดก็ได้ไปสอนมหาวิทยาลัยห้องเดียวกัน เเละบังเอิญอีกว่าแฟนนางเอกก็ได้ไปสอนมหาวิทยาลัยเดียวกันอีก!

การบังเอิญเหล่านี้มีมากเกินไป หลักการเขียนนิยาย ควรให้เรื่องดำเนินเเบบลูกโซ่ คือ เพราะเหตุการณ์นี้เกิด เหตุการณ์นี้จึงเกิด จะทำให้เกิดความสมเหตุสมผล เเละหากต้องการใช้ความบังเอิญ ตามหลักที่ยอมรับในสากลคือ ความบังเอิญ มีได้ 2 กรณีคือ

1 เพื่อสร้างปัญหาเเละผูกปมเเรกของนิยายเท่านั้น (ซึ่งนี่ก็เป็นหลักการทำภาพยนต์เช่นกัน) นั่นหมายถึง หากไม่มีความบังเอิญนี้ ปัญหานี้จะไม่มีวันเกิดเด็ดขาด

2 เพื่อทำให้สถานการณ์ที่กำลังดีกลับเเย่ลงไปอีก

เเละอีกข้อก็คือ การเป็นอาจารย์ในมหาวิทยาลัยนั้นไมใช่เรื่องง่าย ผู้เขียนจึงควรมีหลักฐานย้ำความสำคัญของนางเอก เบส เเละโซดาให้มากกว่านี้ว่าอะไรที่ทำให้พวกเขาได้มาสอนพร้อมๆกัน

บทสนทนา : บทสนทนาน่ารักดีค่ะ รื่นไหลดี เเต่ว่ายังไม่ตรงกับนิสัยของตัวละครพอ บางทีการเเทรกมุขตลก จะทำให้บุคลิกตัวละครเขวไป เเนะนำว่าอย่าใส่พร่ำเพรื่อ เว้นเเต่จะสร้างตัวประกอบเพื่อเล่นตลกโดยเฉพาะ ก็จะไม่ว่ากัน

ภาษาสำนวน

- การบรรยาย : บรรยายน้อยมาก น่าจะเพิ่มการบรรยายมากกว่านี้

- คำผิด คำซ้ำ การหลากคำ : มีมากเกินไป ไรท์ตเรอ์ควรรีบตรวจทานโดยด่วน เช่น เบก ควรใช้ เบรค, นิ๊ด ควรใช้ นิด, หนิ ควรใช้ นี่, นั้นไง ควรใช้ นั่นไง, อ้ำอึง ควรใช้ อ้ำอึ้ง, เนือด ควรใช้ เนือย , เด๋ว ควรใช้ เดี๋ยว ฯลฯ
ทั้งนี้ทั้งนั้น พบว่ามีการใช้ภาษาวิบัติเพื่อเสียงในบทสนทนา เเนะนำว่าไม่ควรใช้ เช่น ตรงหน๊ายยยย ควรฝช้ ตรงไหน เเล้วบรรยายเพิ่มว่าตัวเองถามด้วยเสียงสูงเป็นต้น
นั่นเพราะการวิบัติเพื่อเสียง ที่เหมาะสมมีกรณีเดียวคือ \"สร้างเอฟเฟค\" เช่นเสียงเบรค เสียงเปิดประตู

นอกจากนี้ยังใช้ประโยคคำซ้อนมากเกินไป เเนะนำว่าอย่าใช้ประโยคที่มีคว่า ที่ ซึ่ง อัน บ่อยๆ

ความน่าติดตาม : น่าติดตามดีมากค่ะ ที่ติไปมาก ไม่ใช่ว่าไม่ดีนะคะ เเต่มันเป็นรายละเอียดปลีกย่อยมากกว่า เพราะเนื้อเรื่องโดยมากก็ชวนติดตามตลอดค่า น่าอ่านมาก สู้ๆนะคะ


สรุปคะแนน

สรุปว่าบทความนี้เต็มสิบให้ ...

[7/10]
     
 
ใครแต่ง : sleepz_bear
26 เม.ย. 54
80 %
14 Votes  
#10 REVIEW
 
เห็นด้วย
17
จาก 17 คน 
 
 
Secret !! บริษัทรับวิจารณ์บทความ

(แจ้งลบ)
  
เขียนเมื่อ 17 ต.ค. 53
ชื่อบทความ : The Anticlockwise เทรธีอาร์ คำทำนายแห่งกาลเวลา

ชื่อนักวิจารณ์ : กุหลาบน้ำเงิน

ลิ้งค์หรือแบนเนอร์บทความที่วิจารณ์ : http://writer.dek-d.com/dek-d/writer/view.php?id=523384

โครงเรื่อง [8/10] : โครงเีรื่องกล่าวถึงเด็กสาวที่ย้อนเวลาเพื่อมาเเก้ไขอดีตที่ผิดพลาดของตนเอง ถือว่าน่าสนใจเเละเเปลกใหม่มากเลยนะคะ

ก่อนอื่นต้องขออธิบายแนวทางการพิจารณาโครงเรื่องจากลักษณะโครงเรื่องที่ถูกต้อง ซึ่งควรมีส่วนประกอบเรียงลำดับดังนี้
1. องค์ที่1
- แนะนำตัวละคร
- เเนะนำความสัมพันธ์ของตัวละคร
- สร้างจุดพลิกผัน (สร้างปัญหา)
องค์ที่ 2
- เริ่มต้นดำเนินเรื่อง (แก้ปัญหา)
- สร้างความตึงเครียด (ปัญหามีทีท่าเลวร้ายขึ้นเรื่อยๆ เเละยากจะเเก้ไข รุนเเรงจนถึงจุดเเตกหัก)
องค์ที่ 3 ไคลเเมกซ์เเละแอนตี้ไคลเเมกซ์

นิยายเรื่องนี้ดำเนินมาถึงองค์ที่ 2 เเล้ว ต้องชมว่า ผู้เขียนวางองค์ที่ 1 ได้ดีมาก เเนะนำตัวละครเเละความสัมพันธ์ของตัวละครได้ชัดเจน เเต่ยังไม่จัดว่าดีเยี่ยม (ซึ่งเราจะพูดถึงในช่วงตัวละคร)

ผุ้เขียนจบองค์ที่ 1 ด้วยการ สร้างจุดพลิกผันได้ดี โดยเฉลยกับผู้อ่านว่านางเอกจะต้องเดินทางไปแก้ไขอดีต จุดนี้นี่เองที่ทำให้คนอ่านสนใจติดตาม เพราะต้องการรู้เรื่องราวการผจญภัยของนางเอก ผู้อ่านจะเริ่มคาดหวังว่่าเกิดเหตุการณ์เลวร้ายอะไรในอดีต

ที่ต้องหักคะเเนนไป นั่นเพราะในช่วงองค์ที่ 2 ผู้เขียนทำได้้ไม่ดีนัก ดูเหมือนนางเอกไม่ได้เดินหน้าเเก้ไขปัญหาอะไรเลย ซ้ำยังสร้างปัญหาให้ตัวเอง จุดหมายของนางเอกเลื่อนลอย เเละไม่พยายามบากบั่่นทำภารกิจที่ควรจะทำ ทำให้โครงเรื่องที่ควรจะเเข็งเเรงกลับอ่อนเเอ เเละเต็มไปด้วยน้ำมากกว่าเนื้อ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในองค์ที่ 2 เเทบไม่มีอะไรที่เกี่ยวข้องกับจุดหมายของนางเอกเลย นอกจากการเเข่งขัน ซึ่งเหมือนจะเป็นการสร้างเรื่องให้เยิ่นเย้อมากกว่า

แต่ถ้าผู้เขียนสร้างเหตุการณ์การเเข่งขันขึ้นโดยเจตนาเพื่อเเนะนำตัวละครใหม่อีกรอบก็ไม่เป็นไร หยวนๆไปได้

อย่างไรก็ตาม เเม้การเเข่งขันจะมีไว้เพื่อเเนะนำตัวละครใหม่อีกรอบ เเต่ผู้เขียนต้องไม่ลืมว่าเรื่องดำเนินมาถึงองค์ที่ 2 เเล้ว ควรมีเหตุการณ์ที่นำไปสู่การเเก้ไขปัญหาได้เเล้ว ควรทำให้ผู้อ่านมองเห็นเส้นสายปลายทางที่จะไปสักที เเต่นี่ผู้อ่านกลับมองไม่เห็นเส้นสายปลายทางอะไรเลย

ขอเเนะนำใหู้ผู้เขียนสร้างเเข่งขันประลองนี้ ด้วยจุดประสงค์เพื่อพาผู้อ่านไปสู่ความตึงเครียด หรือ การปมเหตุการณ์ที่ซับซ้อนขึ้น มิใช่เพื่อเเเนะนำตัวละครอย่างเดียว ไม่เช่นนั้นผู้อ่านจะรู้สึกเลื่อนลอย ซึ่งหากผู้เขียนทำได้ดังที่แนะนำ โครงเรื่องของผู้เขียนก็จะเเข็งเเรงขึ้น

ตัวละคร [8/10] : ตัวละครของผู้เขียนมีเอกลักษณ์ชัดเจน มีสีหน้าท่าทางบุคลิกเเน่นอน เเต่จุดบกพร่องอยู่ที่ "ความเป็นตัวละคร" ซึ่งควรมีองค์ประกอบดังนี้

1. มีปมขัดเเย้ง มีปัญหากับตัวเอง หรือกับผู้อื่น หรือกับสถานการณ์ใดๆ
2. มีจุดมุ่งหมาย
3. พยายามไปถึงจุดมุ่งหมายในข้อที่ 2

ถ้าวิจารณ์ตัวละครนางเอก เธอมีปมขัดเเย้งกับสถานการณ์นั่นก็คือ ปัญหาในอดีตของเธอ ทำให้เธอมีจุดมุ่งหมายที่จะต้องไปเเก้ไขปัญหานั้น

เเต่ทว่า เธอกลับไม่พยายามไปถึงจุดมุ่งหมายนั้นเลย เเละเหมือนว่าจะลืมจุดหมายของตัวเองไปเเล้ว นักเขียนที่ดีจะไม่ทิ้งจุดหมายของตัวละคร ควรย้ำเตือนความทรงจำบ่อยๆ ว่าตัวละครมีจุดหมายที่ต้องเเก้ไข

รวมถึงตัวละครอื่นในเรื่อง ก็ไม่มีจุดหมายของตัวเอง ทุกตัวออกโรงมาเพื่อฆ่าเวลาเท่านั้น หรือออกมาเพื่อเติมเต็มเหตุการณ์ให้ดูมีตัวละครมากๆ ผู้เขียนต้องเขียนให้ได้ว่า สร้างตัวละครนี้มาเพื่ออะไร พวกเขามีจุดหมายอะไร เเละพวกเขาจะบรรลุจุดหมายนั้นอย่างไร ถ้าตราบใดที่ยังตอบคำถามหลักนี้ไม่ได้ เท่ากับตัวละครนั้นยังไม่มีชีวิตจริง

ฉาก สถานที่ เวลา [8/10] : ผู้เขียนบรรยายได้ดีว่าฉากไหนคืออดีต ฉากไหนคือปัจจุบัน ด้วยการใช้ประโยคสนทนา เเละอุปกรณ์ประกอบฉากเข้าช่วย โดยไม่จำเป็นต้องบอกวันเดือนปี ถือว่าทำได้ดีเเล้วค่ะ

แต่จุดบกพร่องหลักๆที่อยากให้เเก้ไขนั่นก็คือ ในหนึ่งฉาก ผู้เขียนบรรยายน้อยมาก มักใช้บทสนทนาหรือเสียงเอฟเฟคเสียมากกว่า บางทีก็มีสิ่งโน้นสิ่งนี้ปรากฎมาในฉากดื้อๆโดยไม่มีที่มาที่ไป

ขอเเนะนำให้ผู้เขียนบรรยายเพิ่มว่าในแต่ละฉากมีอุปกรณ์ประกอบฉากอะไรบ้าง มีตัวละครใดอยู่ในฉากบ้าง อารมณ์ของฉากเป็นอย่างไร เพื่อให้ผู้อ่านได้มองเห็นภาพชัดเจนขึ้น

การดำเนินเนื้อเรื่องและมุมมองการเล่าเรื่อง [8/10] : การดำเนินเรืองของผู้เขียนยังเลื่อนลอบ ดูมีแต่น้ำ เเต่ไม่มีเนื้อ ไม่มีจุดหมายปลายทาง ออกทะเล ออกนอกเรื่อง วุ่นวาย เพราะผู้อ่านอ่านมา 15 ตอน ยังไม่สามารถเชื่อมโยงได้ว่าอะไรคือปัญหาืที่นางเอกต้องเเก้ไข ไม่มีอะไรที่เชื่อมโยงกับสงครามในอดีตเลย นอกจากการเเข่งขันที่ยิ่งทำให้เรื่องเยิ่นเย้อ

นอกจากนี้ การดำเนินเรื่องในบทที่ 1 ในส่วนที่นางเอกฝันเห็นอดีต ผู้อ่านอ่านเเล้วติดขัดอย่างมาก เพราะผู้เขียนบรรยายความฝันโดยใช้มุมมองเเบบ "การตัดต่อภาพเคลื่อนไหว" โดยบรรยายว่า
"ภาพนั้นเลือนหาย เเละเเทนที่ด้วยภาพหนึ่งอย่างรวดเร็ว" หรือ
"วินาทีต่อมา ภาพก็ถูกตัดไป" หรือ
"เเละภาพนั้นก็ถูกตัด อีกภาพหนึ่งเข้ามาเเทนที่ เป็นภาพของ ...."

ขอเเนะนำผู้เขียนว่าการเขียนนิยายกับการเขียนบทภาพเคลื่อนไหวนั้นต่างกัน เเละไม่ควรนำมาใช้่ร่วมกัน เพราะการเขียนบทภาพเคลือไหว ผู้ชมสามารถมองเห็นทั้งภาพเเละเสียง จึงไม่่ต้องบรรยายมาก เเต่ในนิยาย ผู้อ่านต้องจินตนาการเองผู้เขียนควรบรรยายสถานการณ์จนเห็นภาพ มิใช่บรรยายว่าภาพไหนถุกตัดฉับเเบบไหน หรือเเต่ะละภาพกินเวลากี่วินาที เเละไม่ควรใช้บทสนทนาเล่าเรื่องเพียงอย่างเดียว การขึ้นต้นเรื่องด้วยบทสนทนาไม่ใช่สิ่งที่ควรทำ

ตัวอย่างการเเก้ไข เช่น (จากบทที่ 1 ช่วงภาพความฝัน)

คล้ายว่าเห็นภาพหนึ่งปรากฏขึ้นในความทรงจำของเทรเธียร์ เหตุการณ์เหล่านั้นเลือนราง ว้าวุ่น เเละสับสน จนเธอปวดหัวอย่า่งเเรง

เหงื่อเริ่มซึมขึ้นตามไรหน้าผากของเธอ เทรเธียร์ยกมือขึ้นกุมศีรษะ พยายามขับไล่ภาพเหล่านั้นออกจากความคิดของเธอ

'อะไรคือเหตุที่ทำให้พวกท่านขัดเเย้งกับข้า!'

พลันเีสียงทรงอำนาจของสตรีนางหนึ่งก็ดังเข้ามาในห้วงสำนึกของเทรเธียร์ เทรเธียร์มองเห็นเเล้ว นางช่างดูสง่างาม ท่วงท่าของนางน่าเกรงขามราวกับนางพญา นางนั่งอยู่ตรงหัวโต๊ะ ท่ามกลางชุมนุมของกลุ่มคนใบหน้าเคร่งเครียดมากมาย เทรเธียร์สัมผัสได้ว่าบรรยากาศเหล่านั้นช่างอึมครึมยิ่งนัก

เเล้วชายชราผู้หนึ่งที่อยู่ตรมข้ามนางก็เอ่ยขึ้น ด้วยน้ำเสีียงขรึม

"จากข่าวคราวที่ข้าทราบมา พวกท่านไม่ซื่อตรงต่อเรา"

ฉับพลัน! ทุกอย่างก็เลือนหายไป ราวกับม่านหมอกขมุกขมัวมาบดบังไว้ จนเทรเธียร์ไม่อาจมองเห็นสิ่งใดได้อีกนอกจากสีเทาหม่น อาการปวดหัวกำเริบขึ้นเรื่อยๆ เธอรู้สึกอึดอัดและกดดันเหลือเกิน ราวกับมีใครพยายามฉีกทึ้งความทรงจำของเธอ เทรเธียร์พยายมฝืนลืมตาขึ้น เเล้วเธอก็ต้องประหลาดใจกับภาพที่เห็น

เธอเห็นสตรีผู้สง่างามนางเดิมกำลังยืนอยู่ในห้องโถงกว้างใหญ่ มีใครคนหนึ่งหมอบราบคาบอยู่ข้างหลังนาง ดวงหน้างามของนางเต็มไปด้วยความตกใจเเละตึงเครียด คล้ายว่าผู้ที่หมอบอยู่ไ้ด้นำข่าวร้ายมากล่าวกับนาง

"สงครามกำลังจะเกิดงั้นหรือ!?"

สรุปได้ว่า ผู้เขียนควรจะบรรยายให้ละเอียดมากกว่าบรรยายห้วนๆว่าภาพไหนเกิดขึ้น ตัวละครยืนยังไง สีหน้าเเบบไหน เเล้วภาพนั้นถูกตัดอย่างไร ผู้เขียนควรใส่อารมณ์ลงไปในการบรรยายด้วย เพื่อสร้างจินตนาการให้ผู้อ่าน

ความสมเหตุสมผล [8/10] : เนื่องจากเรื่องยังไม่จบ จึงไม่สามารถบอกความสมเหตุสมผลโดยรวมได้ จุดบกพร่องที่ควรเเก้ไขได้เเก่
ในอารัมภบทกล่าวถึงสงครามใหญ่ซึ่งกินเวลา 2 เดือน
ถ้าเป็นสงครามใหญ่ เวลาเเค่ 2 เดือนคงไม่พอ น่าจะกินเวลาสัก 10 ปีด้วยซ้ำ
สงครามเปอร์เซียกับสปาตาร์ใช้เวลาเกือบ 10 ปี สงครามทรอย ใช้เวลา 20 ปี สงครามครูเสดยังมีมาจนถึงปัจจุปัน
2 เืดือนไม่พอเเน่นอนสำหรับสงครามใหญ่

เเละจุดบกพร่องอื่นๆ คือ เรื่องนี้มักดำเนินเรื่องด้วยความบังเอิญเเละดวงมากเกินไป ซึ่งถือว่าเป็นการมักง่ายในการเขียนนิยาย การบังเอิญเเละดวงควรเกิดขึ้นมาด้วยสองกรณีเท่านั้นคือ
1. เป็นเเก่นหลักของเรื่อง ถ้าไม่มีความบังเิอิญนั้น เรื่องจะไ่ม่เกิดขึ้น
2. เป็นสิ่งที่ทำให้เรื่องยิ่งเลวร้าวลงเรื่อยๆ

เเต่ดูเหมือนว่านางเอกจะเต็มไปด้วยเรื่องของดวงเเละโชคชะตาความบังเอิญมากกว่า จึงอยากให้ผู้เขียนปรับปรุงส่วนนี้ เพื่อความสมจริงของเรื่อง

บทสนทนา [7/10] : บทสนทนาบางส่วนบอกความเป็นตัวละคร ความคิดนิสัย ยุคสมัยได้ดี เเต่บทสนทนาส่วนมากยังบกพร่อง เพราะเป็นบทสนทนาในนิยายรักอิโมติค่อนมากกว่าบทสนทนาในนิยายเเฟนตาซี

บทสนทนาในนิยายรักอิโมติค่อนจะนิยมใช้บทสนทนาวัยรุ่น ไม่ถูกไวยากรณ์ ไม่เคร่งครัดเรื่องภาษา เช่น ใช้ภาษาวิบัติเพื่อเสียง ใช้สัญลักษณ์เพื่อบอกอารมณ์โดยละที่จะบรรยาย

เเต่ในนิยายเเฟนตาซี ไม่ควรปิดกั้นจินตนาการู้อ่านด้วยสัญลักษณ์ เเละไม่ควรใช้บทสนทนาเล่าเรื่อง ควรบรรยายบทสนทนาให้แจ่มแจ้งเพื่อให้ผู้อ่านมองเห็นภาพชัดเจน เพื่ออวดจินตนาการของผู้เขียน

จุดที่ควรเเก้ไขคือ

1. ลดระดับภาษาปาก ภาษาเเสลง ภาษาวิบัติ ภาษาวัยรุ่น เเละใช้ภาษาที่ถูกต้องมากกว่านี้เพื่อยกระดัีบนิยายให้มีความเป็นเเฟนตาซีมากขึ้น เช่น

"วุ้ย"
"ฟะ"
"ว้อยยยย"
"อะนะ"
"อะเด๊ะ"
"เฟ้ยยย"
"ดิ"
"ใช่ซี้"

หากผู้เขียนต้องการอ้างว่าวิบัติเพื่อเสียง หรือเพื่อทำให้บทสนทนามีชีวิตชีวา เเนะนำว่าไม่ควรทำ เพราะไม่ใช่นิยายรักอิโมติค่อน นิยายเเฟนตาซีเป็นนิยายที่โชว์จินตนาการของผู้เขียน โชว์ความสามารถในการถ่ายทอดจินตนาการ ผู้เขียนควรบรรยายมากกว่าใช้อิโมติค่อน เช่น หล่อนพูดพลางทำน้ำเสียงประชดประชัน เขาโวยวายเสียงลั่นอย่างหงุดหงิด เป็นต้น

2. ไม่ควรใช้ไวยากรณ์มักง่ายเเบบภาษาวัยรุ่น เช่น

'ไอ้สีเงินๆ...' ควรใช้ "สีเงินที่เห็นนั้น..."
"เมื่อกี๊" ควรใช้ "เมือสักครู่"
"เสียซะเอง" ควรใช้ "เสียเอง"
"ซวยล่ะว๊า" ควรใช้ "เย่เเล้วสิ!"
"เอาจิงดิ" ควรใช้ "จะเอาจริงหรือ?"
"ยังกับถูกขัง" ควรใช้ "รู้สึกราวกับถูกขัง"
"ซีเรียส" ควรใช้ "เครียด"
"โอเค" ควรใช้ "ตกลง"

3. หลายครั้งผู้เขียนใช้สัญลักษณ์ !? มากไป เเล้วละไว้ในฐานที่เขาใจ โดยไม่บรรยายเพิ่มเติม ผู้เขียนไม่ควรใช้สัญลักษณ์เหล่านั้นเพียงเพื่อบอกอารมณ์ เเต่ควรบรรยายเพิ่ม เช่น
"ตาเธอเข้มขึ้นได้ไง!?"
ควรเเก้เป็น
"สีตาเธอเข้มขึ้นได้ยังไง!?" เขาถามอย่างสงสัยระคนตกใจ

ภาษาสำนวน

- การบรรยาย [14/20] :
1 ผู้เขียนไ่ม่ค่อยบรรยาย เเต่ใช้เสียงเอฟเฟคเสียมากกว่าไม่สมควรทำ เช่น

โป๊ะ
โอ๊ย
ฉึก
ฉับ

หลายคร้งผู้เขียนใช้เสียงเอฟเฟ็คเเต่ไม่บอกที่มาของเสีย ผู้เขียนควรบอกว่าเสียงนั้นคือเสียงอะไร ดังมาเพราะอะไร อย่างไรก็ตาม ไม่ควรใช้เสียงเอฟเฟ็คด้วยซ้ำ ผู้เขียนควรจะโชว์ฝีมือในการบรรยายมากว่า

2. ผู้เขียนควรบรรยายฉากเพิ่ม

3. ความคิดในใจ ควรจะมีเครืองหมาย '.......' หรือทำตัวเอียง

4. ผู้เขียนควรบรรยายลักษณะบุคลิกท่าทางการยืน ท่าทางเล็กๆน้อยๆที่บ่งบอกความเป็นตัวละครมากขึ้น

5. ผู้เขียนไม่ควรใชประโยค Passive voice เพราะไม่ใช่ไวยากรณ์ไทย ไวยากรณ์ไทยควรเป็น ประธาน+กริยา+กรรม

ตัวอย่างการเเก้ไข

- มือเล็กๆถูกยกขึ้นมาลูบบริเวณหน้าท้องเบาๆ ควรเเก้เป็น เธอยกมือเล็กๆขึ้นมาลูบท้องตัวเองเบาๆ

- สัมผัสเบาๆืี้ทำให้เจ้าของร่างถึงกับปั้นหน้าไม่ถูก (นี่ไม่ใช่ประโยค เเต่เป็นวลี ) ควรเเก้เป็น สัมผัสเบาๆทำให้เธอเจ็บปวดถึงกับปั้นหน้าไม่ถูก

6. ผู้เขียนใช้ไทยคำอังกฤษคำ ไม่เหมาะสม เช่น

ตัวเธอเวอร์ชั่นผู้ใหญ่
โอเค
ซีเรียส

7. มีบางประโยคที่ผู้อ่านไม่เข้าใจความหมาย ซึ่งน่าจะเกิดจากการผิดไวยากรณ์ เช่น

ทำเธอถอย เหมือนเดิมไม่มีผิดเพี้ยนสิน่า

- คำผิด คำซ้ำ การหลากคำ [7/10] : ส่วนมากไม่มีคำผิด เเต่เกิดจากการที่ผู้เขียนตั้งใจเขียนให้ผิด เป็นการวิบัตเพื่อเสียง สร้างอารมณ๊์นิยายวัยรุ่น มากกว่า ซึ่งไม่แนะนำให้ใช้

ความน่าติดตาม [7/10] :
1. ใน 10 บรรทัดเเรกในอารัมภบท ยังไม่ดึงดูด ดูวกไปวนมา เหมือนยืดยาวไป
เเนะนำให้รวบเป็นประโยคสั้นๆเลยดีกว่า เช่น

ธรรมะย่อมชนะอธรรม...

น่าขำสิ้นดี ใครหนอช่างคิดประโยคลวงโลกนี้ขึ้นมา
ในช่วงเวลาอันยาวนานของประวัติศาตร์มนุษย์ชาติ กาลเวลาได้พิสูจน์เเล้วว่า...ผู้ที่เเข็งเเกร่งกว่าเท่านั้น...ที่จะเป็นฝ่ายชนะ!

และเเน่นอน..ชัยชนะนั้น หาใช่ชัยชนะตลอดไปไม่ เช่นเดียวกัน ผู้ปราชัย ย่อมไม่ยอมปราชัยตลอดไปเเน่

สงครามไม่มีวันจบสิ้น!

จาำกตำนานเมื่อ 102 ปีที่ผ่านมา ..............

2. เรื่องขาดเสน่ห์ ขาดกลิ่นอายเอกลักษณ์ของตัวเอง ขาดความเป็นเเฟนตาซี เพราะผู้เขียนละที่จะบรรยายจินตนาการของผู้เขียนให้ผู้อ่านมองเห็น

3. การดำเนินเรื่องธรรมดาไป อาจเป็นเพราะมีตัวละครที่มากเกินไป ดำเนินเรื่องบนความวุ่นวายเเละการเถียงกันมากเกินไป

4. เรื่องไม่มีจุดหมายปลายทางเเน่ชัด ตัวละครไม่พยายามไปถึงจุดหมายนั้น ผู้อ่านจึงไม่รู้ว่าต้องเชียร์ใคร หรือติดตามชีวิตใคร จึงทำให้เรื่องไม่น่าติดตามเท่าที่ควร

อย่างไรก็ตามเรื่่องมีความน่ารักตรงอารมณ์ขันของเรื่อง เเละเอกลักษณ์ของตัวละคร โครงเรื่องยังน่าสนใจอยู่ หากผู้เขียนให้ความสำคัญกับโครงเรื่องให้มากกว่านี้ เเละสร้างจุดหมายปลายทางของเรื่องให้เด่นชัดกว่านี้

หวังว่าการวิจารณ์หนึ่งหมื่นหนึ่งพันอักขระนี้คงจะมีประโยชน์เเ่ก่ผู้เขียน

สรุปคะแนน
คะแนนรวมเต็มร้อย ได้
75/100
     
 
หน้าที่ 1 , 2