ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [End] เมื่อสิ้นกำแพงชิน่า - Attack on Titan [Yuri] [Mikannie]

    ลำดับตอนที่ #4 : ตอนที่ 4 ความมืด

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.81K
      143
      27 เม.ย. 57

    ตอนที่ 4 ความมืด

    ชื่อของฉันคือแอนนี่ เลออนฮาร์ท ฉันเป็นนักเรียนทหารฝึกหัดรุ่นที่ 104 ทหารหน่วยสารวัตร ไททันหญิง...นักรบของนครแห่งขุนเขา...มันก็แล้วแต่จะเรียก ฉัน ไรเนอร์ เบลทรูทและแม้แต่ยูมิล...เราคือปรปักษ์...เราคือศัตรูตามธรรมชาติของมนุษย์ มันอาจจะเป็นอย่างนั้นจริงๆ หรือก็เพียงแค่เราถูกเลี้ยงมาให้เชื่ออย่างนั้น

    ทุกคนรู้จักฉันในชื่อของนักเรียนที่เก่งที่สุดในด้านการต่อสู้มือเปล่า ก็แค่ในตอนเริ่มต้น ก่อนที่ชื่อของฉันจะเปลี่ยนเป็นชื่อของไททันหญิง ไส้ศึกผู้ทรยศ ช่วงเวลาหนึ่งที่ฉันได้อยู่กินอย่างพวกมนุษย์ในกำแพง ฉันเคยเผลอคิดว่าฉันเป็นหนึ่งในพวกเขา...แต่ทุกๆคืน ฉันจะฝัน เห็นการฝึกซ้อมอย่างหนักที่พ่อของฉันบังคับให้ทำ มันคอยเตือนฉันอยู่ทุกค่ำคืนว่าฉันมาทำอะไรในกำแพง หลังจากนั้นฉันก็เลิกคิดจะเป็นพวกของมนุษย์ บางครั้งไรเนอร์ก็สนุกกับมัน พูดคุยกับฉันกับเบลทรูทเหมือนเราไม่ใช่...เหมือนไม่เคยเกิดมาเป็นนักรบ

    ต่อสู้โดยไร้ความหวาดกลัว...

    ฆ่าโดยไร้ความปราณี...

    ทำลายทุกสิ่งที่มนุษย์สร้างไว้โดยไม่สนใจถึงผลที่ตามมา...

    เพียงแค่ทำตามคำสั่งเท่านั้น ทำเพื่อที่ว่า...ในวันพรุ่งนี้ เราจะยังไม่ถูกฆ่าโดยนักรบด้วยกัน

    ฉันเกือบทำได้แล้ว พ่อสอนฉันมาอย่างดี เขาสอนทุกอย่างที่เชื่อว่าฉันจำเป็นต้องใช้ แม้ว่านั่นหมายถึงการต่อสู้เท่านั้น ฉันฆ่าได้ ทำลายได้ แต่คำสอนแรกของพ่อ...ฉันกลับทำไม่ได้ ฉันสู้ได้...แต่ไม่ใช่โดยไร้ความหวาดกลัว นี่อาจเป็นสิ่งที่มีเพียงฉันเท่านั้นที่รู้ ฉันไม่เคยบอกใครและไม่เคยคิดจะทำ

    ฉันกลัวความมืด...

    อาจเพราะต้องฝันร้ายทุกค่ำคืน อาจเพราะการฝึกของพ่อที่ครั้งหนึ่งทิ้งฉันไว้คนเดียวกลางป่าเขายามราตรี ฉันต้องออกจากป่าให้ได้ด้วยตัวเอง แม้จะเจอทั้งหมาป่าและเสือโคร่ง

    “ลูกทำได้ไหมแอนนี่ พ่อขอแค่นี้ สิ่งที่พ่อขอ...แม้ว่ามันจะทำให้โลกทั้งใบเป็นศัตรูกับลูก...แต่ว่าลูกทำเรื่องนี้ให้พ่อได้ไหม” คำพูดของพ่อยังคงฝังอยู่ในฝันร้ายทุกค่ำคืน แม้ว่าเรื่องที่เลวร้ายจะจบลงแล้วก็ตาม ราวกับสิ่งที่พ่อขอไม่ใช่แค่ที่ฉันจำได้ มันมีอะไรอีก...อะไรบางอย่างที่เธอลืมมันไป

    ฉันสะบัดหัวไล่ความคิดที่มัวแต่หมกมุ่นอยู่กับอดีต มันจบไปแล้ว ฉันพยายามจะเชื่ออย่างนั้น... เหมือนฉันกำลังลืมอะไรไปสักอย่าง? มิคาสะ! แค่เชือกไม่มีทางมัดเธออยู่หรอก!

    ฉันเดินกลับลงไปชั้นใต้ดินพร้อมกับโซ่และกุญแจมือ อย่าได้ถามว่าไปเอามาจากไหนเพราะฉันก็ไม่รู้ พวกทหารหน่วยสารวัตรใส่ให้ฉันหลังจากที่ฉันออกมาจากผลึก หึ! คิดบ้าอะไรถึงเอากุญแจมือกระจ้อยร่อยนี่มาสวมให้ไททันหญิงกัน

    ฉันเปิดประตูออก เห็นมิคาสะไม่อยู่ตรงที่เดิมที่ฉันโยนเธอไว้ เธอกลับไปอยู่อีกฟากของห้องซึ่งเป็นส่วนที่ใช้เก็บฟืนในหน้าหนาว เธอไปทำอะไรตรงนั้นกัน มิคาสะยืนจ้องฉันด้วยดวงตาสีดำสนิท

    น่ากลัว...

    ฉันไม่ชอบมิคาสะ ตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้เจอแล้ว เธอมีผมสีดำสนิทเช่นเดียวกับดวงตาคู่นั้น สีดำเหมือนกับความมืดมิดยามราตรี ฉันไม่ชอบความมืด ฉันกลัวมัน ฉันกลัวความมืด ฉันกลัวมิคาสะ...

    ต่อสู้โดยไร้ความหวาดกลัว... พูดก็ง่ายสิ

    กึด! เสียงเชือกขาดผึงเหมือนเป็นสัญญาณระฆังเริ่มชก ฉันกลับมาสนใจคู่ต่อสู้อีกครั้ง เป็นอย่างที่คิด มิคาสะหลุดจากพันธนาการแล้ว อาวุธในมือของเธอคือขวานเก่าที่แทบจะหมดคม แต่ไม่ว่าอะไรอยู่ในมือของมิคาสะก็อันตรายทั้งนั้น

    “ดื้อจริงๆเลยนะ” ฉันบอก

    ฉันกลัวมิคาสะ...ความรู้สึกนั้นไม่สามารถเปลี่ยนได้ แต่ก็มีความรู้สึกอื่นที่เลือนรางปรากฏขึ้นคู่กันเสมอ... อยากเอาชนะ! ยิ่งนิสัยอย่างเธอแล้ว...มิคาสะ ฉันล่ะอยากเห็นสักครั้งว่าเธอทำเพื่อตัวเองเป็นไหม ดิ้นรนร้องขอชีวิตตัวเอง ไม่ใช่ไอ้เจ้าบ้ากล้าตายอย่างเอเลน ทำไมเธอต้องตามก้นคนแบบนั้นอยู่ตลอดเวลาด้วย

    “เธอฆ่าเอเลน...ฉันก็จะฆ่าเธอ” นั่นไง เพิ่งคิดอยู่แหม็บๆ นึกคิดอะไรก็นึกถึงเอเลนไปหมด ชีวิตของคนอื่นเคยอยู่ในสายตาของเธอบ้างรึเปล่านะ หรือ...แม้แต่ชีวิตของเธอเอง

    มาลองดูกัน

    ฉันเหวี่ยงโซ่เป็นวงที่ข้างลำตัว ที่จริงฉันไม่ชอบอาวุธ แต่ถ้าให้เลือกล่ะก็ ฉันชอบอาวุธแบบนี้มากกว่าดาบ อาวุธที่อีกฝ่ายป้องกันไม่ได้ ทำได้เพียงหนี...หัวซุกหัวซุนเหมือนกับหนู

    ขวับ! มิคาสะเหวี่ยงขวานใส่ด้วยความโมโห มันไม่ได้แม่นเลยสักนิด ฉันก้าวถอยครึ่งก้าว ขวานก็พลาดเป้าไปง่ายๆ มิคาสะเหวี่ยงมาอีก ดูเหมือนเธอไม่เคยใช้ขวานมาก่อน ฉันก็เหวี่ยงโซ่ใส่ พันด้ามขวานและสะบัดไปไกลๆ

    ง่ายเกินไปรึเปล่านะ?

    “อั่ก!  โอย...จุกเป็นบ้า หมัดต่ำกระแทกหน้าท้องของฉันจังๆ และฮุกซ้ายก็ตามมาติด ฉันถอยหลังแต่กลับชนเข้ากับผนังห้องโดยไม่ทันระวัง ผัวะ!

    “ฝีมือของเธอหายไปไหนหมดล่ะแอนนี่” มิคาสะถาม “แสดงออกมาสิ ก่อนที่จะไม่มีโอกาส”

    “นึกว่าอยากจะฆ่าให้เร็วที่สุดซะอีก” ฉันพูดบ้าอะไรเนี่ย ฉันยังคงตีหน้าตายตอบมิคาสะไป ไม่แน่อีกสองสามนาทีฉันอาจจะตายจริงๆอย่างหน้าก็ได้ ฉันพยายามใช้โซ่เป็นอาวุธ แต่มิคาสะก็เยื้อแย่งไปด้วยแรงมหาศาล

    เอาแรงมาจากไหนมากมายก็ไม่รู้

    “เปล่า” มิคาสะตอบ “ฉันจะฆ่าเธอให้ทรมานที่สุด...เพราะงั้นก็สู้เลย ดิ้นรนวิ่งหนี ไม่ว่าเธอจะไปไหน ฉันก็จะตามไปลากคอเธอมาขึ้นเขียงได้อยู่ดี”

    ผัวะ! ฉันหันหน้าไปทางซ้ายตามแรงหมัดเพื่อลดแรงกระแทก พรุ่งนี้หน้าช้ำแหงๆ... ทำไมฉันถึงได้มั่นใจว่าจะรอดนักนะ ฉันจ้องหน้ามิคาสะอีกครั้ง คราวนี้โดนฮุกขวา ผัวะ!

    “ถุย!” ฉันถุยเลือดในปากทิ้ง รสชาติเหมือนสนิมเหล็ก

    “ไม่สู้แล้วรึไง” มิคาสะคว้าคางฉันไว้ นิ้วมือบีบแก้มจนเจ็บ

    “เจ็บ... ” ฉันหลุดปากไป มิคาสะเลิกคิ้วข้างหนึ่งขึ้น

    “อ๋อเหรอ” พลั่ก! พลั่ก! ฉันพยายามยกมือกันเข่าที่กระแทกเข้าท้อง แต่มันแทบไม่ได้ช่วยอะไร มือที่บีบคาฉันไม้ยังไม่ปล่อย ฉันพยายามแยกมือข้างนั้นออกไป แต่แรงของมิคาสะมีแรงเยอะกว่า แน่สิ ตัวก็โต ที่ท้องใต้เสื้อนี่...มีซิกแพ็คมีกล้ามเนื้อเป็นมัดๆล่ะมั้ง

    ผัวะ! ฉันแกล้งสลบไปหลังจากที่มิคาสะชกใส่หน้าอีกครั้ง ฉันล้มลงไปนอนกับพื้น มิคาสะใช้เท้าเขี่ยดูก่อนจะนั่งยองๆลงมาข้างๆ ในจังหวะนั้นฉันจับเธอคว่ำได้เลยด้วยซ้ำ... นี่ฉันรออะไรอยู่นะ

    แปะๆ มิคาสะเอาหลังมือตบแก้มฉันเบาๆ ฉันยังคงทำเป็นสลบต่อไป มิคาสะก็ไม่แตะตัวฉันอีก เงียบไปนานจนอยากลืมตาดูแต่ก็กลัวจะเจออีกฝ่ายนั่งจ้องอยู่...อยากลืมตา...อยากหนีจากความมืดใต้เปลือกตานี้ ทำไมฉันยอมทนขนาดนี้นะ...สนุกเหรอ...ตอนนี้ฉันเผลอยิ้มรึเปล่า ฉันสนุกอยู่จริงๆ ทั้งหลอกล่อให้มัจจุราชเข้ามารอวิญญาณใกล้ๆ ทั้งทำให้มนุษย์ที่ฉันกลัวที่สุดโมโหจนสติแตก สนุกเป็นบ้า สนุกจนอยากหัวเราะ แต่ตอนนี้คงไม่ใช่เวลา

    ฟู่! “เฮือก!” ซวยละ ให้โดนชกโดนเตะยังไงก็ไม่ยอมขยับ แต่เมื่อกี้มันอะไรน่ะ...เหมือนมีลมร้อนๆเป่าหู

    “ว่าแล้วเชียว” มิคาสะ...ทำไมอยู่ใกล้ขนาดนี้เนี่ย?! ฉันทำหน้ายังไงนะตอนนี้ เธออยู่ใกล้จนเหมือนดวงตาสีดำคู่นั้นจะกลืนฉันเข้าไปทั้งตัว เหมือนกับความมืด!

    น่ากลัว!

    ฉันถีบใส่มิคาสะเข้าเต็มแรงจนอีกฝ่ายหงายท้อง แต่ก็ลุกกลับมาได้ทันที ฉันรีบลุก แต่ก็ทรุดทันทีเพราะเจ็บท้อง โธ่เว้ย! มาล้มอีกรอบก็ตายกันพอดี มิคาสะเดินเข้ามาช้าๆ ฉันก็เตะตัดขาใส่ทั้งที่ยังลุกไม่ขึ้น อีกฝ่ายเพียงแค่กระโดดและกระทืบลงบนข้อเท้าฉันเต็มแรง

    “อ๊าา!!” เจ็บ!

    ปึก... เสียงฝีเท้าหนักๆเหยียบย่างอยู่ที่ชั้นบน ขณะที่มิคาสะง้างเท้าและเตะอัดฉันซ้ำแล้วซ้ำเล่า

    “ไรเนอร์!!!” ฉันพยายามร้องเรียกออกไป ดูเหมือนอีกฝ่ายจะได้ยินแล้ว มิคาสะหยุดเตะไปเสียอย่างนั้น ฉันเงยหน้าขึ้นมองก็เห็นมิคาสะเดินไปดักรออยู่ที่ประตู ในมือเธอถือมีดพก...ของฉันนี่! เอาไปตั้งแต่เมื่อไหร่? “เดี๋ยวไรเนอร์!

    แอ๊ดด..ด... ไม่ทันแล้ว ฉึก!

    “เฮ้ย!” ไรเนอร์รับมีดด้วยมือเพราะไม่ทันตั้งตัวทำให้มีกแทงใส่กลางฝ่ามือ แต่อีกมือของเขาว่างอยู่ หมัดหนักๆก็พุ่งเข้าใส่ใบหน้าของมิคาสะ เธอยกมือขึ้นกันไว้และจับไรเนอร์ทุ่มลงมาที่พื้นห้องใต้ดิน ไรเนอร์ลุกขึ้นทันที ขณะที่มิคาสะกระโจนเข้าใส่ หมับ!

    เบลทรูทเข้ามาล็อกแขนมิคาสะจากด้านหลัง แต่เขาโง่รึไงที่ทำแบบนั้น พลั่ก! มิคาสะกระแทกศอกใส่เบลทรูทเต็มแรงก่อนจะเตะตรงเข้าหว่างขา...ท่าจะเจ็บ เบลทรูทลงไปนอนกุมกล่องดวงใจอยู่ที่พื้น และมิคาสะก็วิ่งออกไป

    “มิคาสะ! หยุดนะ” ฉันตะเกียกตะกายลุกขึ้นจนได้ วิ่งผ่านไรเนอร์และเบลทรูทไปอย่างรวดเร็ว แต่ยังไม่เร็วพอจะจับมิคาสะไว้ เธอคว้าดาบสองเล่มของฉันที่เสียบอุปกรณ์เคลื่อนที่สามมิติวางไว้ข้างผนัง คมดาบหันมาทางฉัน ไรเนอร์ลุกตามขึ้นมาและเบลทรูทก็เช่นกัน แม้เขาจะยังกุมกล่องดวงใจไว้เหมือนเดิม

    ฉันคว้าดาบมาจากเบลทรูท ดีที่เขายังไม่ถอดอุปกรณ์เคลื่อนที่สามมิติออก และดูอาการตอนนี้...ฉันไม่คิดว่าเขาพร้อมจะสู้ มิคาสะตั้งดาบเตรียมฟัน ...มาเลย...ครั้งนี้ฉันเอาจริงแล้ว...

    ไรเนอร์ยินดีถอยให้ เขาไม่ได้พกดาบมาด้วย ขวานทื่อๆก็ไม่ได้ช่วยเท่าไหร่เมื่อเจอกับดาบคมกริบ เขาลากเบลทรูทกลับลงไปอยู่ตรงบันไดห้องใต้ดินเพื่อไม่ให้เกะกะ

    เช้ง! คมดาบปะทะคมดาบ ดวงตาสีดำจ้องมาอย่างอาฆาตแค้น มิคาสะเกลียดฉัน ...ฉันไม่สน! เช้ง!

    มิคาสะแทงตรงเล็งลำตัว มันไม่ใช่วิชาที่พวกครูฝึกจะสอนให้ใช้ฆ่าไททัน เธอไปเอาวิชาแปลกประหลาดพวกนี้มาจากไหนกัน...แต่ช่างมันเถอะ  ฉันตวัดดาบเป็นวงปัดดาบของมิคาสะออกไปให้พ้นทาง อีกข้างฟันลำคอ

    เคร้ง! มิคาสะยกดาบขึ้นกัน

    “ออมมือทำไม” มิคาสะถาม แทงดาบสวนกลับมา ฉันหลบ แต่คมดาบเฉือนต้นแขนไป เลือดสายหนึ่งไหลอาบลงมาตามต้นแขน แสบชะมัด ฉันฟันดาบกลับ ฉันไม่ได้ออมมือสักหน่อย ฉันใช่นักดาบเสียที่ไหน! “ช้า”

    โลกทั้งใบหมุนขณะที่ฉันล้มกระแทกพื้น มิคาสะเตะตัดขาจนฉันหงายท้อง คมดาบจ่อมาที่ลำคอเรียกเลือดให้ไหลออกมาตามแผลถูกบาดที่เริ่มลึกขึ้นเรื่อยๆ

    “เอาสิ มัวรออะไร” ฉันบอก กลัวจนตัวสั่นแต่ก็สนุกทุกครั้งที่ได้กวนโมโหคนอย่างมิคาสะ เอาสิ! ฆ่าฉันเลย อย่างที่ฉันทำกับเอเลน ไม่มีใครอยู่ยงคงกระพัน ตอนนี้ฉันทำหน้ายังไงให้มิคาสะเห็นนะ หน้านิ่งตายด้าน? ยิ้มหัวเราะบ้าคลั่งอย่างที่เคยทำก่อนความจะแตกเรื่องไททันหญิง? หรือกำลังหวาดกลัว...

    ความตายจะเป็นยังไงนะ...มันจะมืดขนาดไหน ฉันหนีความมืดไม่ได้จริงๆสินะ

    “ฉัน – บอก – แล้ว – ไง” มิคาสะพูดเน้นทีละคำ “ฉันจะฆ่าเธอ...ให้ตายทรมานที่สุด”

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×