ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    GOT7 | 99% PERCENT | #YUGBAM #JARK #BNIOR (END)

    ลำดับตอนที่ #21 : PERCENT: 19% (END)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 5.59K
      45
      14 ก.ย. 58




    PERCENT 19




     

     

    แบมแบมหันซ้ายทีขวาทีเพื่อดูว่าทรงผมตัวเองเรียบร้อยรึยัง วันนี้เป็นวันครบรอบและต้อนรับน้องใหม่ของมิททีเพื่อเข้าสู้ชั้นเรียนและการฝึกภาคสนามที่จะเริ่มขึ้นในอาทิตย์หน้า แบมแบมตื่นเต้นนิดหน่อยกับงานเลี้ยงที่ดูจะหรูหราเพราะเขาได้ยินจากฮยองวอนว่าพวกมิททีจัดงานอะไรถึงจะอยู่ข้างในแต่มันก็จะมีรสนิยมแต่สนุกสุดเหวี่ยง

     

    ตอนแรกแบมแบมกังวลมากเรื่องที่เขาไม่มีชุดสำหรับงานเลี้ยงฉลองนี้และไม่กล้าปรึกษากับใคร จนกระทั่งเจอกล่องใหญ่สีขาววางอยู่บนเตียงมันคล้ายๆกับกล่องที่ยูคยอมยกมาจากร้านของมินโฮพอเปิดดูข้างในถึงรู้ว่ามันเป็นสูทสีดำที่มีเสื้อเชิ้ตข้างในสีขาวเหมือนชุดทั่วๆไปแต่มันก็ดูดีและมีราคามากจนน่าตกใจ เพราะแอบเห็นป้ายที่ถูกทิ้งไว้ในกล่องเลยทำให้ไม่กล้าใส่แต่ถ้าเอาไปคืนคงต้องโดนทำอะไรพิลึกๆอีกแน่

     

    แม้จะคิดอยู่นานว่าจะใส่มันดีหรือไม่ใส่ดีสุดท้ายก็ใส่จนได้ มันพอดีจนนึกแปลกใจว่ายูคยอมรู้ได้ไงว่าเขามีสัดส่วนเท่าไหร่

     

    “แบมแบมก็หล่อเหมือนกันนะเนี่ย” จินยองพูดแซวทันทีที่เปิดประตูเข้ามา

     

    จินยองอยู่ในชุดที่คล้ายๆกับของแบมแบมเพียงแต่บางอย่างอาจจะต่างกันเช่นหูกระต่ายที่จินยองไม่ได้มีมัน แบมแบมยิ้มรับคำชมแล้วเก้าทายทอยแก้เขิน

     

    “พี่จินยองก็ดูดีมากเลยครับ”

    จินยองหัวเราะ

    “ปากหวานนะเรา” จินยองบีบแก้มยุ้ยๆแล้วหัวเราะเสียงดัง

     

    จินยองสำรวจความเรียบร้อยให้แบมแบมหลังจากแค่คิดจะแวะเข้ามาดูเฉยๆ เขาจ้องมองเด็กหนุ่มที่โตขึ้นจากหลายเดือนก่อนเหมือนกับคนละคน แบมแบมคนนั้นมีแววตาแห่งความกลัวซ่อนอยู่จนปิดไม่มิด ดูอ่อนแอและบอบบางเกินไป แต่กลับแบมแบมคนนี้เหมือนว่าในแววตาที่สะท้อนใบหน้าเขาอยู่มันเต็มไปด้วยความมั่นใจและพลังบางอย่างที่ทำมองแล้วรู้สึกถึงภายนอกจะดูบอบบางแต่ภายในดูแข็งแกร่ง

     

    ประตูไม้ถูกเปิดออกเบาๆ ฮยองวอนโผล่หัวเข้ามาแล้วยิ้มให้ทั้งคู่ที่ยืนอยู่หน้ากระจก เขาเอ่ยปากชมทั้งจินยองและแบมแบมจนจินยองต้องยกมือปฏิเสธเป็นพัลวันว่าไม่จริง ฮยองวอนชูนิ้วโป้งให้แบมแบมผ่านกระจกบานใหญ่

     

    “ไปกันเถอะ”

     

    มาร์คกับแจ็คสันยืนจูบดูดดื่มกันตรงบันไดจนสามคนที่กำลังเดินลงมาตกใจแล้วจินยองก็ตะโกนเสียงดังลั่นจนทั้งคู่ผละออกจากกัน แจ็คสันหัวเราะแล้วดึงเอวคอดเข้ามากอดก่อนจะแสดงความรักด้วยการหอมแก้มแดงนั่นอีกที

     

    แบมแบมอมยิ้มกับภาพที่เห็นแม้จะตกใจนิดหน่อยที่รู้ว่าตอนนี้แจ็คสันกลายเป็นมิททีไปแล้ว เหมือนที่เขารู้สึกไปเองว่าตอนนี้จินยองมีอะไรปิดบังเพราะแบมแบมเข้าใกล้เขามักจะได้กลิ่นเหมือนป่าทึบๆอับๆทุกครั้งหลังจากจีมินตายจนกระทั่งจินยองหายไปรักษาตัวพอกลับมาพบกันอีกครั้งเขารู้สึกว่ามีอะไรในตัวของรุ่นพี่คนนี้ที่ไม่เหมือนเดิมแต่ก็ไม่กล้าพูดกับใคร

     

    เพราะวันนี้มีงานฉลองประตูทางเข้าใหญ่ที่ปกติจะปิดอยู่ตลอดมันเปิดให้รถได้เข้ามาจอดเพื่อส่งคนที่มาร่วมงานทุกคนอย่างสะดวกสบาย ซึ่งมันเป็นทางที่ค่อนข้างแปลกใหม่สำหรับแบมแบมนั่นอาจเป็นเพราะเขาไม่เคยจะเดินที่นี่ทั่วเลยสักครั้งยกเว้นที่รู้ว่ามันมีหอคอยสูงอยู่ที่ใกล้ๆหอนาฬิกาที่เขาถูกเยรินพาไป

     

    รถสีดำสนิทจอดก่อนที่ทั้งหกคนจะลงจากรถหลังจากไปแวะรับชยอนูมาก่อนจะมาที่นี่ วันนี้นอกจากจะมีมิทที ซอร์ ยังมีพ่อมดแม่มดที่ถูกเชิญมางานแต่ส่วนมากจะเป็นหนุ่มสาวหรือนักเรียนซะมากกว่า

     

    นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มจ้องมองไปรอบๆตั้งแต่บันไดทางขึ้นที่ถูกปูพรมสีแดงเลือดนกอย่างดีแถมยังมีคนคอยตอนรับอยู่ข้างนอก ข้างในก็มีพวกโซนต่างๆมันเหมือนห้องกว้างๆที่คนเข้ามาอยู่รวมกัน อาหารมีทั้งของมิททีและพวกเหล่าองครักษ์ พ่อมดแม่มด

     

    บางกลุ่มกำลังกอดคอกันเต้นรำเพลงคลาสสิคที่กำลังดังอยู่ตอนนี้ แบมแบมคิดว่ามันก็ดูหรูอยู่หรอกแต่ที่ฮยองวอนพูดว่ามันโคตรสนุกเห็นจะโกหก

     

    แบมแบมกวาดตามองไปทั่วงานเพื่อมองหาบางคนแต่ก็ไร้วี่แวว ดวงตากลมโตจ้องมองไปเรื่อยๆก่อนจะสะดุดตากับบางคนที่กำลังยืนล้วงกระเป๋ากางเกงอยู่ในมุมมืดๆของงาน ชุดสูทสีดำที่มีเชิ้ตข้างในคล้ายกับของเขาทำให้อีกคนดูดีมาก แบมแบมจ้องร่างสูงที่ยืนจิบไวน์ชั้นดีอยู่คนเดียวก่อนสายตาคมนั่นจะหันมาสบตากับเขาพอดี

     

    ยูคยอมยกยิ้มแล้วหมุนแก้วไวน์เบาๆก่อนจะชูมันขึ้นแล้วกระดกมันจนหมด เขาเดินมาหาแบมแบมอยู่อยู่ตรงโซนเครื่องดื่ม เพราะเป็นยูคยอมทุกสายตาในงานถึงได้จ้องเขาราวกับหลงใหลคลั่งไคล้ ยูคยอมหน้าตาดีและอาจจะเป็นคนสืบทอดตำแหน่งรองจากมินจุน สาวๆหลายคนหมายปองเขาดูได้จากตอนนี้ที่มิททีสาวหรือพวกองครักษ์มองยูคยอมตาเป็นมัน แต่ยูคยอมไม่เคยจริงจังกับพวกมิททีอย่างมากก็แค่เซ็กซ์แต่พวกนั้นก็พอใจแล้วที่ได้นอนด้วย

     

    “ชุดพอดีใช่ไหม” ปากพูดแต่มือใหญ่ดึงรั้งเอวเล็กเข้ามาใกล้จนแบมแบมเกือบจะประคองแก้วน้ำหวานในมือไม่อยู่ เขาเพียงแค่พยักหน้าแล้วหลุบตาต่ำเพื่อหลีกเลี่ยงสายตาของยูคยอมตอนนี้

    “คุณรู้ได้ไงว่าผมสัดส่วนเท่าไหร่”

    “ฉันรู้เกี่ยวกับนายทุกเรื่อง โดยเฉพาะทุกซอกทุกมุมในตัวนายฉันก็รู้หมดแหละน่า” ยูคยอมกระซิบที่ข้างหูแผ่วเบาแต่มันกลับทำให้แบมแบมขนลุกชัน

     

    ยูคยอมปล่อยแบมแบมให้เป็นอิสระเพราะจริงๆเขาแค่อยากจะแกล้งร่างเล็กตรงหน้าเล่นก็เท่านั้น จริงๆเขาแอบเห็นชยอนูที่กำลังเดินมาแอบชะงักแล้วหมุนตัวกลับไปด้วยมันทำให้ยูคยอมรู้สึกเหมือนเป็นผู้ชนะ เขาไม่สนใจพวกสาวๆในงานแม้วันนี้พวกเธอจะสวยยิ่งกว่านางแบบวิคตอเรียบางคน ชุดระยิบระยับนั่นมองว่าสวยก็คงสวยแต่สำหรับยูคยอมมันน่ารำคาญตาชะมัด

     

    แต่คนตรงหน้าเขาวันนี้นี่สิ แปลกตากับเครื่องหน้าที่ถูกตกแต่งด้วยเครื่องสำอางจนมันดูน่าสนใจ เมื่อกี้เขาเห็นตั้งแต่แบมแบมเดินเข้ามาเห็นพวกผู้ชายหลายคนก็มองและสนใจอีกคนออกนอกหน้าไม่น้อยเหมือนกัน แต่ก็ต้องยอมรับว่าวันนี้อีกคนดูดีจริงๆ

     

    “แล้วมิทรีไม่มาหรอครับ” แบมแบมถามเพราะเขาคิดว่างานสำคัญขนาดนี้แต่ไม่เห็นมินจุนอยู่ในงาน ไม่มีนิชคุณด้วย

    “คงไปทำอะไรที่สำคัญกว่างานนี้” ยูคยอมตอบ

     

    ยูคยอมแวะไปหาพ่อของตัวเองตั้งแต่ก่อนมาที่นี่ ทุกปีมิทรีจะให้คนอื่นมาพูดเปิดงานและตัวเองก็จะเก็บตัวอยู่ในปราสาทของตัวเองเพราะมินจุนไม่ชอบงานฉลอง มินจุนให้เหตุผลกับยูคยอมด้วยคำพูดเดิมๆเสมอว่าเขาฉลองมาทั้งชีวิตและไม่อยากจะฉลองอีกแล้ว

     

    มีความสงสัยเกิดขึ้นมากมายภายในใจของยูคยอม เขาคิดว่าพ่อตัวเองชอบทำตัวเหมือนตาแก่ที่รอวันเกษียณทั้งที่จริงพ่อเขายังดูหนุ่มมากกว่าจะมาทำตัวเป็นตาแก่อยู่ในปราสาทเงียบๆคนเดียว แต่ทุกอย่างก็ถูกลบล้างเมื่อเขาโตขึ้นเรื่อยๆ งานเลี้ยงที่ไร้ซึ่งคนเต้นรำ ผู้หญิงที่รักกับชุดที่เธอสวมใส่งดงามยิ่งกว่าหญิงคนใด ทุกอย่างจากพ่อเขาไปแบบไม่หวนคืนมา

     

    คืนนี้ตอนที่เขาแวะไปหามิทรีอีกคนเหมือนกำลังเตรียมตัวไปไหน มินจุนกำลังพูดอะไรบางอย่างด้วยสีหน้าเคร่งเครียดกับนิชคุณและแทคยอนก่อนจะได้ยินมาว่าคืนนี้พ่อของเขาจะไปตามหาหลุมฝังศพของหวังเฟยก่อนที่อะไรๆจะเลวร้ายมากกว่านี้

     

    “ไงน้องชาย” มาร์คบีบไหล่ของยูคยอมแล้วเอ่ยทัก

    “ไงครับคุณพี่ชายแล้วก็พี่เขย” เป็นการตอบกลับที่ทำให้มาร์คชะงักแล้วก็หันไปตีแขนของแจ็คสันแก้เขิน

     

    แบมแบมยืนฟังพี่น้องหยอกเย้ากันจนยิ้มและหัวเราะตาม เขายอมรับเลยว่าชอบความสัมพันธ์ของมาร์คกับยูคยอมมาก ถึงยูคยอมจะดูดุๆและรั้นตามใจตัวแต่ยูคยอมกลับรักมาร์คมากๆขัดกับลุค เหมือนที่มาร์คเป็นพี่ที่ดีของยูคยอมมาตลอดเหมือนจะเป็นพ่อคนที่สองเลยก็ว่าได้

     

    เขาหัวเราะกับมุกตลกๆของมาร์คก่อนที่คิ้วเรียวจะขมวดเข้าหากันจนยุ่ง จมูกของแบมแบมกำลังทำหน้าเป็นเรดาร์รับกลิ่นเมิร์ค กลิ่นครั้งนี้มันแรงเหมือนว่ามีมากกว่าหนึ่งในบริเวณใกล้ๆแต่มันก็จางๆ แบมแบมกวาดสายตามองไปรอบๆจนคนที่ยืนคุยกันต้องหันมาถามด้วยความประหลาดใจ

     

    “มีอะไรรึเปล่า”

     

    แบมแบมส่ายหน้าแล้วยิ้ม ในใจคิดว่ามันแปลกๆแต่ข้างนอกก็มีพวกองครักษ์เฝ้าอยู่ไม่น่าจะเป็นไปได้ที่พวกเมิร์คจะบุกเข้ามา ที่นี่ป้องกันแน่นหนามากกว่าที่คิด แบมแบมส่ายหัวเบาๆแล้วให้เหตุผลกับตัวเองว่าเขาคงจะกังวลมากเกินไป

     

    เพลงที่กำลังชวนง่วงนอนถูกเปลี่ยนเป็นเพลงเร็วจนพวกหนุ่มสาวที่ยืนอยู่เต้นกันเหมือนอยู่ในคลับ แบมแบมไม่ได้สนใจจะเต้นเหมือนที่ฮยองวอนกำลังเต้นอยู่อย่างสนุกสนาม ยูคยอมเองก็ไม่ได้สนใจมันเขายังยืนคุยอยู่กับมาร์คไม่เลิก

     

    ความน่าเบื่อของงานลดน้อยลดหน่อยหลังจากเพลงถูกเปลี่ยน มีหลายคนที่เต้นเก่งจนแบมแบมต้องปรบมือให้เบาๆ

     

    “แบมแบมไม่สนใจจะไปเต้นหรอ” แจ็คสันเอ่ยถามหลังจากเห็นเด็กตรงหน้ายืนมองคนอื่นเต้นมาเกือบสามเพลงแล้ว

    “ผมเต้นไม่เป็นแต่ชอบดูคนอื่นเต้นนะสนุกดี” แบมแบมบอกแล้วยิ้มให้ “พี่ก็จะเป็นนักเรียนใหม่ของที่นี่ใข่ไหมครับ”

    แจ็คสันพยักหน้า

    “แน่นอน มันน่าสนุกดีนะว่าไหม”

     

    หลังจากแจ็คสันกลายเป็นมิททีเพราะเหตุการณ์นั้น แบมแบมสังเกตเห็นว่าแจ็คสันดูดีมากกว่าตอนเป็นมนุษย์ เขานึกถึงคำพูดของจินยองที่บอกว่าพวกแวมไพร์จะดูน่าหลงใหลโดยเฉพาะกับแวมไพร์หนุ่มๆ เหมือนกับว่ามีอะไรมาสะกด แจ็คสันกำลังเป็นแบบนั้นเพราะดูดีขึ้นมาก มากขนาดที่ว่าแบมแบมเห็นพวกสาวๆที่อยู่ใกล้ๆมองแจ็คสันแล้วยิ้มหวานเยิ้ม

     

    พรึบ!

     

    จู่ๆไฟก็ดับเสียงเพลงที่ดังตอนนี้ก็ดับไปด้วยทำให้ทั้งงานเงียบสนิทก่อนจะตามด้วยเสียงจ้อกแจ้กจอแจจากพวกที่กำลังตกใจ

     

    “เกิดอะไรขึ้น” มาร์คพึมพำก่อนจะรู้สึกแปลกๆเมื่อเห็นอะไรบางอย่างโผล่ขึ้นมาในความคิดของเขา

    “พวกเมิร์ค” แบมแบมพูดเสียงเบาแต่ทั้งสามคนได้ยินชัดเจน “ผมได้กลิ่นพวกนั้น”

     

    ตึง! พรึบ!

     

    เสียงเหมือนอะไรบางอย่างตกหล่นกระทบพื้นก่อนไฟจะสว่างขึ้นมา

    กรี๊ด!!!

     

    ร่างขององครักษ์สามคนที่ถูกกัดไปทั่วร่างจนดูไม่ได้ หลายคนในงานตกใจจนกรู่กันเข้ามาเพื่อหลบเลี่ยงบริเวณที่มีศพ เลือดไหลทะลักออกจากร่างที่ถูกกัดจนนองเต็มพื้น

     

    องครักษ์คนอื่นๆรีบวิ่งออกไปดูข้างนอกรวมถึงทั้งสี่คนที่ยืนคุยกันก็ด้วย แบมแบมวิ่งรั้งท้ายเขากวาดสายตามองหาฮยองวอนกับชยอนูก่อนจะเห็นว่าสองคนนั้นกำลังฝ่าฝูงชนออกมาเมื่อก่อน ข้างนอกมีองครักษ์ที่ถูกฆ่านอนเป็นศพอยู่ที่ทางเข้า บันไดทางขึ้น

     

    แบมแบมพยายามดมกลิ่นที่สัมผัสได้ ก่อนจะหันไปมองโถงทางเดินที่ทอดยาวออกไปมีเพียงแค่ตึกห้องสมุดมากั้น

     

    “พวกนั้นอยู่ข้างหน้าตรงลานน้ำพุ” แบมแบมบอก

     

    ทุกคนกรูกันไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วแต่มาร์คก็สั่งให้บางคนอยู่ทางนี้คอยช่วยเหลือพวกมิททีที่ยังไม่เก่งเรื่องการต่อสู้ข้างในมีอีกเป็นร้อยๆคน

     

    เสียงต่อสู้ที่ดังมากจากลานน้ำพุทำก่อนจะมีร่างของซอร์ลอยมาก่อนพวกเขาจะถึง เสียงหัวเราะใหญ่ๆทำให้ทุกคนเดาได้เลยว่าเป็นใครถ้าไม่ใช่จีโซล

     

    “มากันเร็วดีแต่ก็ไม่เร็วกว่าพวกฉันที่กินมื้อค่ำจนอิ่ม” จีโซลพูดแล้วหัวเราะอย่างสะใจ

     

    มาร์คจ้องมองด้วยอารมณ์ที่เริ่มไม่มั่นคง จีโซล แจบอม ยองแจ ก่อนนัยน์ตาสวยจะเบิกตากว้างเพราะร่างที่ล่องลอยอยู่ในอากาศมันเป็นคนที่มาร์คคิดว่าจะไม่ได้เจออีกแล้ว ฮอยองจี

     

    เธอยิ้มแบบที่ชอบยิ้ม ไม่สิ...ครั้งนี้เธอยิ้มแบบที่ร้ายมากจนมาร์คจะเดินไปกระชากหัวแล้วตบเธอแต่ก็รู้ว่าเขาทำไม่ได้ ยองจีเป็นแค่วิญญาณไม่สามารถฆ่าเหมือนตอนเป็นมนุษย์ได้โดยการใช้ลิ่มหรืออุปกรณ์ใดๆเพราะเธอตายแล้ว ถ้าให้เขาเดาจีโซลคงไปเอาเธอมาจากนรก

     

    “มาร์ค” แจ็คสันจับมือเรียวแล้วเรียกเสียงเบา

    “นังนั่นฆ่าพ่อแม่นายใช่ไหมแจ็คสัน” มาร์คถาม

    “นายรู้”

    “พ่อแม่นายไม่มีรอยกัดสักที่เหมือนนาย ทำไมไม่บอกฉันล่ะแจ็คสันว่าเป็นมัน”

    “เพราะฉันอยากจะฆ่าเธอเอง”

     

    แจ็คสันพูดจบเป็นมาร์คที่พุ่งตัวเข้าหาวิญญาณของยองจีแต่เขาทะลุผ่านเงาดำนั่นไป เสียงหัวเราะแหลมๆทำให้มาร์คกัดฟันกรอดด้วยความโมโห

     

    หลังจากมาร์ควิ่งเข้าใส่ยองจีเหมือนทุกคนก็กรูเข้าหากัน ยูคยอมต่อสู้กับจีโซลในขณะที่ฮยองวอนต้องสู้กับยองแจ

     

    “นายมาสู้กับฉันสิเจบี” จู่ๆจินยองก็โผล่มาแล้วขวางหน้าแจบอมที่กำลังพุ่งตรงเข้าไปหาแบมแบม

    “อย่ามาขวางฉันจินยอง!” แจบอมตะโกนเสียงเหี้ยม

    “ฆ่าฉันสิเจบีแล้วฉันจะไม่ยืนขวางนาย”

     

    จินยองใช้เท้าถีบเข้าที่ท้องของแจบอมอย่างแรงจนร่างของแจบอมเซไปข้างหลัง เพราะตอนนี้จินยองเป็นเมิร์คพลังที่มีจึงมากกว่าตอนเป็นแค่ซอร์ จินยองยกยิ้มแล้วพุ่งเข้าหาแต่แจบอมจับข้อขาของจินยองเอาไว้ก่อนจะเหวี่ยงร่างผอมนั่นไปกระทบกับกำแพง

     

    แบมแบมมองจินยองด้วยความตกใจแล้วรีบเข้าไปดู เขาสบตาของจินยองก่อนจะผงะถอยหลังเมื่อดวงตาของจินยองเปลี่ยนเป็นสีม่วง

     

    “ใช่ ฉันเป็นเมิร์คแล้ว” จินยองพูดกับแบมแบมแล้วพุ่งเข้าใส่แจบอมทันที

     

    แบมแบมกำลังจะตามไปช่วยจินยองแต่ถูกจีโซลล็อคคอเอาไว้ จีโซลหัวเราะเมื่อเห็นยูคยอมหยุดชะงัก ปลายมีดวนไปวนมาตรงตำแหน่งหัวใจของแบมแบม จนยูคยอมไม่กล้าจะขยับเข้าไปใกล้ เขายืนนิ่งแล้วสบตาสวยคู่นั้นที่เปลี่ยนไป ดวงตาแบมแบมกำลังกลายเป็นสีแดงจากนั้นแบมแบมก็จับมือของจีโซลบิดก่อนจะปล่อยหมัดเข้าที่ข้างแก้มอย่างแรง

     

    “เจ๋ง” ยูคยอมยักคิ้วแล้วชูนิ้วโป้งให้แบมแบม

     

    จีโซลคำรามอย่างโมโหและพยายามจะพุ่งใส่แบมแบมแต่เป็นยูคยอมที่วิ่งเข้ามาแล้วใช้เท้าเตะเข้าที่สีข้างของจีโซล ยูคยอมควบคุมน้ำจากลานน้ำพุก่อนมันจพุ่งเข้าไปจีโซลจนเหมือนร่างนั่นถูกโอบอุ้มด้วยน้ำ

     

    “ว้าว โคตรเจ๋ง” ชยอนูที่ช่วยฮยองวอนสู้เอ่ยปากชมเพราะเขาไม่ค่อยเห็นอะไรแบบนี้ยกเว้นตอนที่ฮยองวอนใช้เวทไฟ

     

    น้ำที่ถูกควบคุมกระจายลงเต็มพื้นเมื่อเจอกับพลังเวทของจีโซล ไฟที่ออกมาจากมือพุ่งไปที่ตัวยูคยอมมันเฉี่ยวหัวเขาไปนิดๆจนผมบ้างส่วนไหม้จนหงิกงอ ยูคยอมควบคุมน้ำอีกครั้งเมื่อเขาเห็นไฟกำลังจะถูกส่งมาอีกน้ำช่วยดับไฟจนดับมอด

     

    “แจ็คสันระวัง!” มาร์คตะโกนเสียงดังเมื่อเห็นยองจีกำลังพุ่งเข้ามา

     

    ฉึก!

     

    มีดในมือของยองจีปักเข้าที่ท้องของแจ็คสันจนเลือดไหลออกมา แจ็คสันจับแผลของตัวเองเพราะมันเจ็บจี๊ดจนหน้าตาเหยเกปวดร้ายเพราะความเจ็บ แต่เขาก็หลบมีดครั้งที่สองทันเพราะแจ็คสันเป็นมิททีและแผลมันจะสมานเข้าหากันไม่ยาก

     

    มาร์คโมโหมากกว่าเดิมมากกว่าวันนั้นร่างของเขากลายเป็นควันสีดำแต่ตอนนี้มันกลายเป็นรูปร่างเหมือนรูปร่างของยมทูต มาร์คหัวเราะเสียงดังเขาพุ่งเข้าหายองจีแล้วบีบคอเธอด้วยเงา มันเหมือนการต่อสู้ของเงาเพราะจับต้องไม่ได้ ยองจีทุรนทุรายและกรีดร้องด้วยความเจ็บ มาร์คบีบแรงขึ้นเรื่อยๆ

     

    “ไม่ยอมตายแบบดีๆงั้นก็อย่าได้เกิดอีกเลย”

     

    วิญญาณของยองจีกรีดร้องจากนั้นก็สลายกลายเป็นควันสีดำแล้วก็หายไปกับตาของแจ็คสันและมาร์ค มาร์คในร่างของยมทูตเปลี่ยนเขาหาจีโซลแทนเพราะยูคยอมเริ่มสู้บางอย่างที่อยู่ในตัวของจีโซลไม่ไหว จีโซลมีกลิ่นของฮีเดียสมาร์ครับรู้มันได้เพราะมันเป็นวิญญาณของความเกลียดชังจากนรก แต่นอกจากจีโซลยังมีอีกคนในนี้ที่เป็น

     

    ไม่ยองแจก็แจบอมใครสักคน

     

    ร่างของจีโซลกำลังเปลี่ยนไป ความเกลียดที่ครอบงำจิตใจของเขาทำให้เขากลายเป็นฮีเดียสมันเป็นเงาที่เหมือนกับอีกาคล้ายกับเยรินแต่ใหญ่กว่าและน่ากลัว เหมือนหลุดออกมาจากหนังแฟนตาซีไม่มีผิดเพี้ยน ยูคยอมกระโดดหลบกรงเล็บแต่มันก็ยังเกี่ยวหลังของเขาจนเลือดไหล

     

    มาร์คควบคุมกลุ่มควันดำให้ชอนไชไปตามร่างน่าเกลียดของจีโซล เขาพยายามควบคุมมันแต่มาร์คใช้พลังมากเกินไปทำให้อ่อนแรงบวกกับมาร์คไม่ใช่ยมทูตเต็มตัว เลือดไหลออกมาจากปากของมาร์คมันมากพอที่จะทำให้แจ็คสันตะโกนบอกให้มาร์คหยุด แต่มาร์คเป็นคนหัวดื้อมากกว่าที่จะฟังใคร

     

    เป็นยูคยอมที่เริ่มใช้พลัง เขามีเวททั้งสี่อยู่ในตัว ดิน น้ำ ลม ไฟ และมันกำลังก่อตัวขึ้น หิมะที่ตกรอบๆกลายเป็นน้ำและไฟก็ออกมาจากมือของยูคยอม ลมพัดไปมายิ่งกระพือไฟให้ลุกไหม้กว่าเดิม ยูคยอมรวบรวมมันก่อนจะปล่อยพลังเวททั้งหมดไปที่จีโซล

     

    พลังของยูคยอมยิ่งกว่าที่เคยเห็นดูได้จากรอยร้าวตรงลานนำพุที่แยกออกจากกันจนเห็นได้ชัด มันเหมือนแผ่นดินแยก ร่างของจีโซลกลับกลายเป็นเหมือนมนุษย์แต่รอยแผลจากพลังของยูคยอมปรากฏไปทั่วตัวเหมือนที่ยูคยอมมีบาดแผลเต็มไปหมด

     

    จีโซลกำลังอ่อนแรงและยูคยอมต้องการกำจัดตอนนี้ก่อนอีกคนจะเริ่มกลับมาแข็งแกร่งและกลายเป็นฮีเดียสเหมือนเดิม

     

    “ที่เหลือขอให้ฉันทำเอง” เสียงของผู้หญิงที่ทำให้ยูคยอม แบมแบม และทุกคนหันไปมอง

    “เจีย”

     

    เธอสวยกว่าทุกครั้งที่แบมแบมเห็น ชุดสีแดงที่เธอใส่กับทรงผมที่ถูกจัดแต่งมาอย่างดี เครื่องหน้าที่แต่งแต้มจนดูเซ็กซี่ทุกอย่างดูเข้ากัน

     

    “นายสู้กับมันได้ไอ้หนูแต่นายทำลายมันไม่ได้ ฝากบอกพ่อนายด้วยอย่าทำตัวเป็นตาแก่ให้มากนัก”

     

    พูดจบเจียก็กระโดดเข้าหาจีโซลพร้อมกับกระชากสร้อยข้อมือของตัวเองออก ร่างในชุดแดงเลือดนกกลายเป็นแค่ควันดำก่อนจะครอบคลุมไปทั่วคนตัวของจีโซลจากนั้นทุกอย่างก็หายไปราวกับว่ามันไม่เคยเกิดขึ้น

     

    สร้อยข้อมือของเจียทำให้เธอฟื้นจากความตายมานานนับร้อยๆปี มันเป็นพลังของความมืดที่หิวโหยการปลอดปล่อยเพื่อจะกลืนกินความมืดมิดทั้งหมด และเจียเลือกที่สละชีวิตตัวเองเพื่อทำให้จีโซลสลายไปพร้อมกับตัวเอง

     

    ร่างของมาร์คล้มลงตามแรงโน้มถ่วง ไม่มีควันดำออกมาจากตัวมาร์คแล้วและเขาเหมือนรู้สึกตัวเบาหวิว มาร์คทรมานเหมือนข้างในถูกกัดกินและบิดเร้า แจ็คสันประคองร่างผอมไว้

     

    “ร่างอีกร่างของฉันมันไปแล้วแจ็คสัน”

     

    ใช่มาร์คหมายถึงร่างที่เป็นอีกครึ่งของมาร์คมันไปกับเจียด้วยถูกกลืนกินไปด้วย

     

    แบมแบมเห็นว่ามาร์คไม่ได้เป็นอะไรมากก็พ่นลมหายใจออกมาก่อนที่จะรีบไปช่วยจินยองที่กำลังสู้กับแจบอม สภาพของจินยองดูไม่ได้แย่แต่ยังไงก็ไม่น่าจะชนะแจบอมได้ดูจากหลายๆอย่าง แจบอมกัดเข้าที่ต้นแขนของจินยองจนเหวอะหวะแต่จินยองก็ยังสู้

     

    “แฮ่กๆ” จินยองหอบหายใจ

    “หยุดซะก่อนที่ฉันจะ...ไม่ยองแจ!” แจบอมตะโกนเสียงดัง

     

    ยองแจที่จับฮยองวอนเหวี่ยงไปอีกทางพุ่งมาที่จินยองพร้อมกับลิ่มเงินของจินยองที่ทำตกเอาไว้ แบมแบมกับยูคยอมพยายามจะเข้ามาขวางแต่ไม่ทัน

     

    ฉึก!

     

    ลิ่มเงินแทงทะลุเข้าจากข้างหลังตรงตำแหน่งหัวใจมาจนข้างหน้า ทุกอย่างดูรวดเร็วจนไม่มีใครคาดคิดว่ามันจะเกิด ยองแจหัวเราะก่อนจะโดนยูคยอมถีบเข้าที่กลางลำตัวจนกระเด็นไปไกล ยองแจกลายร่างเป็นอีกาตัวสีดำก่อนจะบินหนีไป

     

    จินยองยิ้มให้แจบอมที่กำลังวิ่งมา รอยยิ้มนั้นเหมือนเยาะเย้ยแจบอมไม่มีผิด แจบอมไม่ได้จับต้องแม้กระทั่งร่างของจินยองที่กำลังหมดลมหายใจเพราะยูคยอมไม่ยอมให้แจบอมจับต้องจินยอง เลือดมากมายไหลออกมาจากตัวของจินยองแต่เขาก็ยังคงยิ้ม

     

    “ล ลาก่อน...เจบี” 


     




     

     

    เมื่อหลายวันก่อนแจบอมแอบยืนมองภาพความเศร้าโศกอยู่ไกลๆเพราะเขาคงไม่อนุญาตให้เข้าไป โลงศพไม้สีน้ำตาลเข้มกำลังถูกฝังลงไป ดอกไม้สีขาวที่ถูกประดับอยู่ข้างบนคือรูปของคนที่แจบอมเคยสร้างบาดแผลมากมายเอาไว้ คนที่แจบอมคิดเอาไว้ว่าสักวันหนึ่งเขาจะกลับมารักกันได้เหมือนเดิมถ้าเขาชนะสงคราม

     

    ทุกอย่างมันผิด

     

    รอยยิ้มของจินยองยังคงติดตาของเขา คำเอ่ยลาที่เหมือนกับว่าต้องการให้มันฝังอยู่ในใจเขาตลอดไปมันยังคงดังก้องในหู ภาพของจินยองที่ตายต่อหน้าต่อตาทำให้แจบอมเริ่มรู้สึกตัว หลายวันที่ผ่านไปหลังจากวันนั้นเขาถูกปล่อยตัวออกมาโดยไม่ถูกฆ่าหรือทำร้ายเพราะมันเป็นเจตนารมณ์สุดท้ายที่จินยองเคยขอร้องมาร์คเอาไว้ว่าอย่าฆ่าแจบอมไม่ว่าจะยังไงก็ตาม

     

    ตอนแรกแจบอมไม่เข้าใจว่าทำไมพวกมิททีถึงไม่ฆ่าเขาให้ตายๆไปซะ แต่ตอนนี้เริ่มเข้าใจว่าทำไมจินยองถึงขอร้องแบบนั้น

     

    จินยองแค่อยากให้เขาเจ็บปวดจากการสูญเสียดูบ้าง

     

    แจบอมไม่เคยเข้าใจการสูญเสียที่มันทำให้เขาเสียใจยกเว้นตอนที่แม่ตาย เขาไม่เคยสนด้วยซ้ำว่าทำร้ายคนที่จินยองรักไปกี่คนเพราะเขาไม่คิดว่าจะต้องมาเจอกับตัวเอง กับคนที่บอกว่าไม่รักและไม่รู้สึกอะไรด้วยแล้ว คนที่เขาทำลายทุกๆอย่างในชีวิตจนพังลง แจบอมถึงได้รู้ว่าเขาโง่เขลาเกินไปมันมากกว่าความเขลาใดๆในโลก

     

    มีหลายคนพยายามเตือนเขาทั้งตัวจินยองเองและแทคยอนก็พูดหลายรอบว่าสุดท้ายมันอาจจะเป็นตัวเขาที่ต้องสูญเสีย  มีบางครั้งที่แจบอมเคยคิดเอาไว้ว่าถ้าต้องแพ้มันก็แค่แพ้แล้วเริ่มใหม่ แต่ที่ไม่เคยนึกคือจินยองต้องมาตาย

     

    หิมะสีขาวหมุนวนและตกหล่นลงมาราวกับจะเยาะเย้ยเขา แจบอมนั่งมองแผ่นหินอ่อนสีเทาที่ถูกสลักชื่อของจินยองเอาไว้ นั่นมันย้ำเตือนเขาซ้ำๆว่าจินยองไม่มีวันกลับมาแล้วไม่ว่าเขาจะสำนึกผิดขนาดไหนก็ตาม ต่อให้เขาขอโทษเป็นพันๆครั้งจินยองก็ยังต้องตายอยู่ดี

     

    “ฉันเตือนนายแล้ว” เสียงถอนหายใจตามมาติดๆก่อนจะทิ้งตัวนั่งลงบนต้นไม้ใกล้ๆกับแจบอม

     

    แทคยอนตบบ่าของแจบอมเบาๆ เขาเคยเตือนแจบอมหลายครั้งจนคิดว่าแจบอมอาจจะคิดได้ก่อนที่อะไรๆมันจะสายเกินไป ถ้าสงครามเกิดแน่นอนว่าต้องมีคนตายแต่คนเราจะเสียใจและร้องไห้ให้กับสงครามก็ตอนที่คนของตัวเองตาย เราจะไม่มีวันเข้าใจถ้าเราไม่เคยเจอกับตัว แทคยอนแค่หวังว่าตอนนี้แจบอมคงเข้าใจมัน ชีวิตทุกชีวิตไม่ใช่ผักปลาที่จะฆ่าก็ฆ่าง่ายๆเพียงเพราะเขาไม่ใช่คนที่เราใส่ใจ

     

    “ผมไม่เคยหวังให้คนที่มีชื่ออยู่บนนั้นเป็นจินยอง” แจบอมพูดเสียงสั่น

    “แต่มันก็ไม่สมควรเป็นใครทั้งนั้นที่นายเกลียดเขา” แทคยอนบอกตามที่คิด

    “ผมไม่เคยสนใจว่าใครจะเป็นอะไรแม้แต่ตอนนั้นผมก็ไม่สนด้วยซ้ำว่าจินยองจะเป็นยังไงกับการกระทำของผม ตอนที่เขาขอร้องให้ผมล้มเลิกและเขาจะให้อภัยผมกับสิ่งที่ผมทำ พี่เชื่อไหมว่าผมยังคิดมันไม่ได้เลย” คำบอกเล่าของแจบอมมันเหมือนคำสารภาพที่ไร้ความหมาย

    “ฉันบอกนายแล้วแจบอมถ้านายเกลียด ความเกลียดจะทำให้นายมองไม่เห็นสิ่งที่นายควรจะทำตั้งแต่แรก”

     

    แจบอมพยักหน้าแล้วเม้มปากสีซีดของตัวเองพลางมองที่สุสาน ไม่มีเวลาให้เขาได้แก่ตัวแม้บอกลาก็ไม่มี ทุกอย่างถ้าเป็นสิ่งที่จินยองรู้แต่แรกแจบอมคงคิดว่าจินยองคงอยากให้เขาเจ็บปวดเหมือนที่ตัวเองเคยเจ็บปวด ทุกอย่างเหมือนกันจนแจบอมยากจะเข้าใจว่าจินยองผ่านเวลาเหล่านั้นซ้ำๆมาได้ยังไง จินยองต้องเข้มแข็งขนาดไหน

     

    ภาพตรงหน้ากำลังพร่าเลือนเพราะถูกบดบังด้วยน้ำตาสุดท้ายแจบอมก็กลั้นมันไม่อยู่ มีเพียงแค่เสียงสะอื้นกับคำปลอบโยนของแทคยอนเท่าในนั้นในเวลานี้ ไม่มีคนที่เขาใจแจบอมอีกต่อไปแล้ว

     

    “ผมแค่อยากให้จินยองฟื้นขึ้นมาผมรักเขามากกว่าที่เขาคิด ต่อให้แลกด้วยอะไรก็ตาม” แจบอมพูด

    แทคยอนถอนหายใจแล้วบีบไหล่ของแจบอมเบาๆ

    “นายฝืนมันไม่ได้หรอกเจบี ปล่อยให้มันเป็นไปตามที่ต้องเป็นเถอะ ให้นายคิดซะว่านี่คือบทเรียนและสิ่งที่จะเตือนสตินายไปตลอดชีวิตของนายว่าอย่าให้ความเกลียดมาทำให้เราลืมที่จะใส่ใจคนที่เรารัก ปล่อยจินยองไปซะเพราะในชาตินี้จินยองคงเจ็บเกินกว่าที่จะฟื้นขึ้นมาเพื่อฟังคำขอโทษของนาย” แทคยอนพูดความจริงทั้งหมดเพราะต่อให้จินยองฟื้นขึ้นมาจริงๆ กับเรื่องราวขนาดนั้นไม่มีทางไหนที่แทคยอนคิดว่าจินยองจะหายเจ็บปวดได้เลยยกเว้นว่าตายจากไป

     

    ยิ่งแทคยอนพูดมันก็ยิ่งตอกย้ำให้แจบอมรู้ว่าตลอดเวลาเขาทำอะไรไว้ ลึกๆเขาก็ยังอยากจะแก้แค้นมิททีให้ตายไปให้หมดแต่จะมีประโยชน์อะไรอีกในตอนนี้ถ้าเขาไม่มีใครข้างๆสักคน

     

    เราพยายามโกหกตัวเองว่าเราไม่เจ็บปวดเพราะเราไม่อยากเจ็บปวด เราจะทำทุกอย่างที่ทำให้เจ็บปวดน้อยที่สุดไม่ว่าจะอะไรก็ตาม ความคิดของเราจะฆ่าเราให้ตายจะจ้วงแทงเราจะพูดตะโกนใส่เราซ้ำๆจนเราไม่กล้าจะเริ่มใหม่ เราจะใช้เวลาทั้งหมดจมอยู่กับความผิดพลาด

     

    เพราะอะไรรู้ไหม...

    เพราะเราไม่กล้าที่จะยอมรับความจริง

     

    “ยอมรับซะเถอะว่าจินยองตายแล้ว”

     

    แจบอมรู้แล้วในตอนนี้ว่า”ความสูญเสีย”เจ็บปวดเสมอ

     

     
     

     

     
     

    แจ็คสันยกกระเป๋าเดินทางสองใบใส่หลังรถรับส่งของโรงเรียนก่อนจะเดินเข้าไปหามาร์คที่ยืนคุยอยู่กับน้องชายตัวเองและคนอื่นๆ มือใหญ่เกี่ยวเอวคอดเอาไว้แล้วเอาหน้าเกยกับไหล่บางของมาร์คเพื่อมองหน้าทุกคน

     

    “จะไปจริงๆหรอครับพี่มาร์ค” แบมแบมจับมือเรียวเขย่าเหมือนลูกหมาที่กำลังอ้อน

    “ไปแค่สิบปียี่สิบปีเองนะ” มาร์คตอบตลกๆแต่เขาพูดจริง

     

    หลังจากผ่านเหตุการณ์บ้าๆนั่นที่ทำให้จินยองต้องตายมันทำให้มาร์คเสียศูนย์ไปพักใหญ่ เขาพยายามจะไม่คิดถึงจินยองแต่มันก็ยังคิดเพราะโตมาด้วยกัน มาร์คเห็นจินยองตั้งแต่ยังเด็กมากถึงเขาจะโตก่อนจินยองเป็นร้อยปีแต่ก็เหมือนเพื่อนตายของกันและกัน สุดท้ายมาร์คเลยเลือกที่จะจากที่นี่ไป

     

    “แค่อเมริกาเองถ้าแบมคิดถึงเดี๋ยวให้ฮยองวอนพาไปไง” แจ็คสันตอบ

    “โถ่ ผมมีเงินที่ไหนกันล่ะ” แบมแบมเบะปากแล้วทำหน้าเหมือนจะร้องไห้

     

    มาร์คเอื้อมมือไปลูบหัวของน้องชายอีกคนอย่างแบมแบมแล้วหัวเราะออกมา เขากับแจ็คสันตัดสินใจจะไปอยู่อเมริกาจนกว่าอยากจะกลับมาที่นี่อีกครั้ง อาจจะสิบปี ยี่สิบปี สามสิบปี เวลาคงช่วยให้ทุกอย่างดีขึ้นรวมถึงทุกอย่างที่นี่ด้วย แจ็คสันเองก็มีเรื่องที่อยากจะเริ่มต้นใหม่เหมือนกัน

     

    เขาขอให้ฮยองวอนจัดการทุกอย่างให้เพราะฮยองวอนอยู่อเมริกามานานและฮยองวอนยังหาบ้านพักให้เขาได้แถวๆลอสแอนเจลิส ที่จริงฮยองวอนก็ต้องกลับอเมริกาเหมือนกันแต่เพราะตอนนี้เหมือนอีกคนจะติดใจที่นี่เลยตกลงที่จะอำนวยความสะดวกให้มาร์คแลกกับการขอร้องพ่อแม่ให้เขาอยู่ที่นี่ต่อซึ่งมาร์คก็ตกลง

     

    “อย่าลืมติดต่อมาบ้างนะครับ” แบมแบมบอกมาร์คที่นั่งอยู่ในรถ

     

    ยูคยอมมองพี่ชายที่กำลังจะไปอยู่อีกฝั่งของโลก มันไม่ใช่เรื่องยากที่จะตามไปแต่เพราะเขาอยู่กับมาร์คมาเป็นร้อยปีมันก็ทำให้ใจหายเหมือนกันที่มาร์คจะไป มาร์คสบตายูคยอมก่อนจะยิ้มแล้วยักคิ้วให้

     

    “ฝากดูแลแบมแบมด้วยนะ” มาร์คบอกก่อนที่รถจะค่อยๆเคลื่อนตัวออกไปจนลับตา

     

    มือสองมือกำลังกุมกันแน่น แจ็คสันเองก็ใจหายไม่น้อยหลังจากเข้าปิดตายบ้านของตัวแต่ไม่ได้ประกาศขายตามที่ถูกแนะนำ มันเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยความรักของพ่อแม่และเรื่องราวมากมายที่เกิดขึ้นจนเขาเติบโต มีบางครั้งที่แจ็คสันยังคงแอบร้องไห้เพราะคิดถึงพ่อแม่ เขายังจำทุกๆอย่างได้และมันเป็นความทรงจำที่มีค่าที่สุดเกินกว่าจะลืม

     

    หัวของมาร์คกำลังพิงอยู่ที่ไหล่ของแจ็คสันและมีมืออีกข้างลูบมันเบาๆ แจ็คสันคิดว่ามาร์คคือสิ่งที่ทำให้เขาผ่านทุกช่วงเวลาที่เศร้าที่สุดมาได้ มาร์คคือคนที่ยอมรับในทุกการผิดพลาดของเขาและต่อให้เขาเป็นมนุษย์ที่ปกป้องมาร์คไม่ได้หรือตอนนี้เป็นแวมไพร์ที่ทำอะไรได้เหมือนมาร์ค แจ็คสันก็ยังรับรู้ว่ามาร์คยังรักตัวเขาเองในทุกๆด้านที่เป็น เขาเองก็เหมือนกัน

     

    “รักนายจัง” จู่ๆมาร์คก็พูดขึ้นมาดื้อๆแล้วหัวเราะเหมือนอารมณ์ดี

    แจ็คสันเลิกคิ้วขึ้นอย่างสงสัย

    “กินอะไรมาผิดสำแดงหรือเปล่าเนี่ยมาร์ค”

    “ทำไมล่ะ ฉันพูดตรงๆตลอดอยู่แล้วไม่ชินรึไง” มาร์คบอกก่อนจะยันตัวเองให้นั่งพิงเบาะดีๆ

    แจ็คสันกระชับมือให้แน่นขึ้นกว่าเดิม

    “เพราะแบบนี้ฉันถึงรักนายไง”

     

    มาร์คยิ้มจนตาหยีเมื่อได้ยินแจ็คสันพูดแบบนั้น มาร์คมั่นใจมากว่าแจ็คสันจะรักเขาไปตลอดถึงเขาจะเอาแต่ใจและชอบโหดกับแจ็คสันประจำ

     

    “นายต้องรักฉันจนกว่าฉันจะตายรู้ไหม” มาร์คบอกแล้วหันไปดึงใบหูของแจ็คสันเล่น “เพราะถ้าฉันตายแล้วตอนนั้นนายถึงจะมีสิทธิ์ลืมฉันหรือคบคนใหม่”

    “ไม่เอาน่ามาร์ค เราจะต้องอยู่ด้วยกันตลอดไปสิ”

    มาร์คส่ายหน้าจนผมสีอ่อนพลิ้วไหว

    “ฉันจะไม่พูดคำว่าตลอดไปอีกแล้ว แต่แจ็คสันฟังเอาไว้นะนายจะมีฉันเสมอตราบใดที่ฉันยังอยู่บนโลกนี้ฉันจะรักนาย”

     

    คำพูดของมาร์คทำให้แจ็คสันหน้าแดงแล้วหลังจากนั้นแจ็คสันก็ถูกมาร์คล้อเรื่องนี้ตั้งแต่บนรถ สนามบิน ยันไปถึงอเมริกามาร์คก็ยังไม่เลิก

     

    “พร้อมที่จะเริ่มต้นใหม่รึยังแจ็คสัน” มาร์คมองไปที่ภาพเบื้องหน้าแล้วถามคนข้างๆ

    “พร้อมแล้วครับ” แจ็คสันตอบแล้วกระชับมือที่กุมไว้ก่อนจะเดินตามมาร์คไปติดๆ

     

    แจ็คสันคิดไว้แล้วว่าต่อจากนี้เขาจะดูแลมาร์คให้ดีที่สุด ตอบแทนความรักของมาร์คที่มอบให้กับเขา จากนี้ชีวิตของแจ็คสันหวังจะเริ่มต้นใหม่กับคนรักคนเก่าอย่างมีความสุขที่สุด

     

    “ลุยกันเลย!

     


     

     




     

     

     

    ดอกกุหลาบสีแดงกับคัตเตอร์สีขาวถูกวางลงบนหลุมศพของจีมินและจินยอง แบมแบมยิ้มให้กับทั้งสองคนที่อยู่ติดกันพลางถอนหายใจออกมา เขาคิดถึงทั้งสองคนมากและวันนี้ก็ผ่านไปหนึ่งปีแล้วที่จีมินจากไปและใกล้จะครบหนึ่งปีที่จินยองจากไปเหมือนกัน แบมแบมเพิ่งได้ถ่ายรูปกันเพื่อนร่วมชั้นเสร็จแล้วจากนั้นก็แวะไปร้านดอกไม้ที่มาเปิดใกล้ๆโรงเรียนก่อนจะตรงมาที่นี่ทันที

     

    วันนี้หิมะเริ่มจะตกหนักกว่าเมื่อวันก่อนๆจนทำให้รอบๆเต็มไปด้วยหิมะ รอยรองเท้าผ้าใบยังฝังอยู่บนหิมะจนเป็นทางแต่ความหนาวเหน็บก็ทำอะไรแบมแบมไม่ได้เพราะตอนนี้เขาไม่ใช่มนุษย์อีกแล้ว

     

    มันเกิดขึ้นเมื่อห้าเดินก่อนตอนที่เขาเดินทางไปส่งวอนพิลกับไบรอันที่สนามบินพร้อมยูคยอม เขาถูกรถชนตอนขากลับขณะที่แวะข้ามฝั่งไปซื้อของใช้ในเมืองก่อนจะถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล แบมแบมหลับไปเกือบสามวันก่อนจะฟื้นขึ้นมาแล้วรู้สึกไม่ปกติ ไม่รู้สึกว่าตัวเองเป็นมนุษย์แถมเขายังทำให้พวกหมอแตกตื่นที่สามารถเดินได้หลังจากโคม่าอยู่สามวัน

     

    หลังจากกลับมาที่มิททีก็ไปที่โรงพยาบาลของพวกแวมไพร์และตรวจดูทุกอย่างอีกครั้งตามคำแนะนำของนิชคุณ ผลออกมาคือเขาคือมิททีเต็มตัวไปแล้ว

     

    “ตอนนี้ฉันกลายเป็นมิททีแล้วนะแต่ว่าเธอคงรู้แล้วเพราะเธอดูฉันจากข้างบนฟ้านั่นใข่ไหมจีมิน” แบมแบมพูดแล้วยิ้มกว้าง

    “แถมเจ้าซื่อบื้อนี่ยังเป็นแฟนฉันแล้วด้วย” ยูคยอมที่เพิ่งมาถึงโอบไหล่เล็กยักคิ้วให้เล็กน้อยแล้วหันไปมองป้ายหลุมศพสีเทาอ่อน “ทำไมมาไม่เรียกฉันเลยมัวให้ฉันไปถ่ายรูปกับพวกผู้หญิงที่ห้องอยู่ได้ ให้ตายสิตัวพวกเธอฉุนเป็นบ้า” ยูคยอมบ่น

    “ก็ต่อไปพวกเธอก็จะไม่ได้เห็นคุณแล้วนี่” แบมแบมตอบแล้วหัวเราะเมื่อยูคยอมทำหน้าเหมือนว่าคำตอบนั่นช่างน่าเบื่อ

     

    แปดเดือนก่อนหลังจากมาร์คไปอเมริกาและทุกคนต่างแยกย้ายไป แบมแบมกลับไปเรียนที่เซนต์ดิมิทรีตอนเปิดเทอมหลังจากนั้นหนึ่งเดือน เพื่อนๆหลายคนถามหาจีมินตั้งแต่เปิดเทอมจนอาจารย์ต้องบอกว่าเธอย้ายไปเรียนต่างประเทศ ส่วนยูคยอมก็ไม่ค่อยมาเรียนตามปกติสักเท่าไหร่แต่โชคดีชยอนูย้ายเข้ามาเรียนเกรดสิบสองตอนที่แบมแบมกำลังขึ้นเกรดสิบสองพอดี ถึงจะอายุห่างกันแต่ชยอนูเรียนช้าทำให้ตอนนี้ชยอนูคือคนที่นั่งข้างๆเขาแทนจีมิน

     

    ชยอนูเรียนเก่งมากนั่นคือสิ่งที่แบมแบมรู้หลังจากได้เรียนด้วยกัน บ่อยครั้งที่ชยอนูมักจะชวนเขาไปทำการบ้านที่ร้านนิชคุณและแบมแบมก็ไปช่วยนิชคุณบ่อยๆจนโดนแซวประจำว่าตัวติดกับชยอนูเหมือนเป็นแฟนกัน ขนาดพวกมิททีกับพวกพ่อมดบางคนยังลือกันว่าเขาสองคนคบกัน

     

    เรื่องมันเริ่มจากตรงนั้น

     

    ข่าวลือว่าแบมแบมกับชยอนูคบกันมันกลายเป็นวงกว้างทั้งในโลกมนุษย์และแวมไพร์ เวลาที่พวกเขาไปไหนมาไหนด้วยกันสองคนก็จะโดนแซวจากคนนู้นคนนี้ แรกๆแบมแบมก็ปฏิเสธแต่หลังๆก็คิดว่าเดี๋ยวคนก็เลิกลือกันไปเองแต่นั่นเป็นความคิดที่โง่มาก ข่าวลือยิ่งเหมือนว่าจริงเข้าไปอีกเมื่อเขาไม่ปฏิเสธ

     

    จนวันหนึ่งแบมแบมกำลังไปหาชยอนูที่ลานน้ำพุเพื่อชวนไปฝึกแต่ว่าดันเจออะไรที่ทำให้แปลกใจนิดหน่อย เพราะเขาเห็นชยอนูกำลังจูบกับฮยองวอน ถึงได้รู้ว่าความจริงสองคนนั้น เอิ่มอาจจะใจตรงกัน

     

    แบมแบมกลับหอทันทีเพราะไม่อยากถูกจับได้และทำลายบรรยากาศสีชมพูของสองคนนั้น ไม่รู้ทำไมเขาโล่งใจที่ชยอนูไม่ได้คิดกับตัวเองเกินเลยกว่าพี่น้อง มันเหมือนปลดแอกอะไรสักอย่างภายในใจจนต้องร้องวู้ออกมาตอนเดินกลับหอ

     

    “ฉันเคยบอกนายว่าอย่าอยู่ใกล้ชยอนูนายเลยคบกับมัน!” ยูคยอมตะคอกเสียงดังแล้วดันตัวแบมแบมชิดกำแพง

     

    ดวงตาคมนั่นเหมือนทั้งโกรธและผิดหวังตอนที่มองมาที่แบมแบม จากนั้นปากหยักก็ประกบจูบริมฝีปากอิ่ม บดขยี้ ฟัดจูบ จนได้รสเฝื่อนๆของเลือดมันทั้งขมปร่าและกลิ่นของนิโคตินคลุ้งไปทั่วโพรงปากเล็ก แบมแบมแทบจะตายตอนที่ยูคยอมไม่ยอมปลดปล่อยให้เขาเป็นอิสระ กว่าจะรู้ตัวก็ตอนที่แผ่นหลังราบไปกับเตียงนอน

     

    เสื้อผ้าถูกปลดเปลื้องออกจนเปลือยเปล่าทั้งท่อนบนและท่อนล่างเหลือแค่อันเดอร์แวร์ตัวจิ๋วทั้งๆที่ปากยังคงจูบกัน มือเล็กถอดเสื้อยูคยอมออกแล้วโยนมันทิ้งพร้อมทั้งปลดเข็มขัดและรูดซิบกางเกงหนังสีดำ

     

    “ผมไม่ได้คบกับพี่ชยอนูและผมจะทำให้คุณรู้ว่าคุณน่ะมันโง่กว่าที่คิด” พูดจบแบมแบมก็สลับตัวขึ้นมานั่งบนตักยูคยอม ปากเล็กจูบลงที่ข้างแก้มสากของยูคยอมไล้ลงมาจนถึงซอกคอก่อนจะดูดเม้มมันจนเป็นรอยแดงไปทั่วคอ 



     

    CUT


     

    ดวงตาสีเข้มมองแบมแบมที่กำลังยิ้มแต่ดวงตากลมโตกำลังปรือเพราะสิ้นฤทธิ์จากการรสรักที่เขาปรนเปรอจนทิ้งร่องรอยไว้ทั่วร่างกาย

     

    “ผมชอบคุณ” เสียงแผ่วเบาออกมาจากปากอิ่มที่บวมเจ่อ คนที่กำลังจะหลับคาดหวังกับคำตอบของยูคยอมด้วยการฝืนมองร่างสูงที่กำลังก้มต่ำลงมา

    “ฉันก็เหมือนกัน” เขากระซิบข้างหูของคนใต้ร่างแผ่วเบา

     

     

    หลังจากวันนั้นทั้งสองคนไม่ได้พูดอะไรอีกแต่แค่แบมแบมสบตาที่กำลังจ้องมองมาเขาก็รู้คำตอบ ยูคยอมไม่เคยบอกว่าเขาเป็นคนรักเหมือนที่แบมแบมเองก็ไม่ได้คิดว่าการที่คนอื่นรู้ว่าเขากับยูคยอมเป็นมากกว่าคนรู้จักมันจะทำให้ทุกอย่างมีความหมาย แบมแบมพอใจกับการเป็นแบบนี้ ความสัมพันธ์ที่ไม่มีชื่อเรียกแต่ทว่ามันให้ความสุข

     

    ยูคยอมนั่งอยู่บนป้ายสุสานของใครสักคนที่ตายแล้วและเขาก็ไม่ได้สนใจจะรู้จักเจ้าของชื่อที่เป็นร่างฝังอยู่ในดินด้วยซ้ำ ส่วนตรงหน้าคือแบมแบมที่กำลังมองมาที่เขา ยูคยอมรู้สึกแปลกๆที่เมื่อก่อนตรงที่แบมแบมนั่งเคยเป็นที่ของมาร์ค เพราะมาร์คชอบมาตามเขาที่นี่ประจำและก็จะนั่งคุยกันจนบางทีก็สว่าง

     

    “ผมจะถามคุณนานแล้ว” แบมแบมพูดแล้วถกแขนเสื้อเชิ้ตขึ้น “ความหมายของรอยสักนี่คืออะไรหรอครับ”

     

    รอยสักรูปนกที่แบมแบมไปสักมาวันนั้นและหลังจากนั้นเขาก็ไปสักที่หลังมาอีกเป็นรูปขนนก ยูคยอมชอบลูบมันเวลาที่เขามีเซ็กซ์กันยูคยอมจะจูบมันเบาๆและพูดว่ามันสวยและเหมาะกับเขา

     

    “ฉันแค่อยากให้นายรู้ว่า นายควรทำตัวอิสระให้เหมือนนกที่กำลังบินอย่าไปขังตัวเองจากสิ่งที่นายเป็นตอนนี้ก็แค่นั้น” ยูคยอมตอบ

    “แล้วที่คุณบอกว่าเพิ่งไปสักมาเพิ่มล่ะ คุณไปสักรูปอะไรมา”

    ยูคยอมหัวเราะเบาๆ

    “มาดูสิที่หลังหูฉัน”

     

    แบมแบมลุกขึ้นแล้วเดินไปใกล้ๆยูคยอมและมองดูรอยสักข้างหลังใบหูของยูคยอมด้วยความสงสัย ก่อนจะยิ้มกว้างออกมาเมื่อเห็นมันชัดๆ

     

    BAM’S

     

     










    (End)


     




     





    talk;
    ยังมีสเปเชียลยองแจนะคะ แต่จบแล้วทุกคู่ในนี้ ไม่รวมตอนพิเศษในเล่ม ขอบคุณที่อ่านค่ะ :))
    เปิดจองและปิดโอนหนังสือถึง21กันยายน 2558 ใครอยากได้ยังสั่งได้นะคะ (คลิก) ไม่มีรีปริ้นท์นะคะฟิคเรื่องนี้

    ขอบคุณที่ติดตามค่ะ แท็ก #ฟิคยบ99

     


    © GRAYSCALE
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×