คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #21 : PERCENT: 19% (END)
PERCENT 19
แบมแบมหันซ้ายทีขวาทีเพื่อดูว่าทรงผมตัวเองเรียบร้อยรึยัง วันนี้เป็นวันครบรอบและต้อนรับน้องใหม่ของมิททีเพื่อเข้าสู้ชั้นเรียนและการฝึกภาคสนามที่จะเริ่มขึ้นในอาทิตย์หน้า แบมแบมตื่นเต้นนิดหน่อยกับงานเลี้ยงที่ดูจะหรูหราเพราะเขาได้ยินจากฮยองวอนว่าพวกมิททีจัดงานอะไรถึงจะอยู่ข้างในแต่มันก็จะมีรสนิยมแต่สนุกสุดเหวี่ยง
ตอนแรกแบมแบมกังวลมากเรื่องที่เขาไม่มีชุดสำหรับงานเลี้ยงฉลองนี้และไม่กล้าปรึกษากับใคร จนกระทั่งเจอกล่องใหญ่สีขาววางอยู่บนเตียงมันคล้ายๆกับกล่องที่ยูคยอมยกมาจากร้านของมินโฮพอเปิดดูข้างในถึงรู้ว่ามันเป็นสูทสีดำที่มีเสื้อเชิ้ตข้างในสีขาวเหมือนชุดทั่วๆไปแต่มันก็ดูดีและมีราคามากจนน่าตกใจ เพราะแอบเห็นป้ายที่ถูกทิ้งไว้ในกล่องเลยทำให้ไม่กล้าใส่แต่ถ้าเอาไปคืนคงต้องโดนทำอะไรพิลึกๆอีกแน่
แม้จะคิดอยู่นานว่าจะใส่มันดีหรือไม่ใส่ดีสุดท้ายก็ใส่จนได้ มันพอดีจนนึกแปลกใจว่ายูคยอมรู้ได้ไงว่าเขามีสัดส่วนเท่าไหร่
“แบมแบมก็หล่อเหมือนกันนะเนี่ย” จินยองพูดแซวทันทีที่เปิดประตูเข้ามา
จินยองอยู่ในชุดที่คล้ายๆกับของแบมแบมเพียงแต่บางอย่างอาจจะต่างกันเช่นหูกระต่ายที่จินยองไม่ได้มีมัน แบมแบมยิ้มรับคำชมแล้วเก้าทายทอยแก้เขิน
“พี่จินยองก็ดูดีมากเลยครับ”
จินยองหัวเราะ
“ปากหวานนะเรา” จินยองบีบแก้มยุ้ยๆแล้วหัวเราะเสียงดัง
จินยองสำรวจความเรียบร้อยให้แบมแบมหลังจากแค่คิดจะแวะเข้ามาดูเฉยๆ เขาจ้องมองเด็กหนุ่มที่โตขึ้นจากหลายเดือนก่อนเหมือนกับคนละคน แบมแบมคนนั้นมีแววตาแห่งความกลัวซ่อนอยู่จนปิดไม่มิด ดูอ่อนแอและบอบบางเกินไป แต่กลับแบมแบมคนนี้เหมือนว่าในแววตาที่สะท้อนใบหน้าเขาอยู่มันเต็มไปด้วยความมั่นใจและพลังบางอย่างที่ทำมองแล้วรู้สึกถึงภายนอกจะดูบอบบางแต่ภายในดูแข็งแกร่ง
ประตูไม้ถูกเปิดออกเบาๆ ฮยองวอนโผล่หัวเข้ามาแล้วยิ้มให้ทั้งคู่ที่ยืนอยู่หน้ากระจก เขาเอ่ยปากชมทั้งจินยองและแบมแบมจนจินยองต้องยกมือปฏิเสธเป็นพัลวันว่าไม่จริง ฮยองวอนชูนิ้วโป้งให้แบมแบมผ่านกระจกบานใหญ่
“ไปกันเถอะ”
มาร์คกับแจ็คสันยืนจูบดูดดื่มกันตรงบันไดจนสามคนที่กำลังเดินลงมาตกใจแล้วจินยองก็ตะโกนเสียงดังลั่นจนทั้งคู่ผละออกจากกัน แจ็คสันหัวเราะแล้วดึงเอวคอดเข้ามากอดก่อนจะแสดงความรักด้วยการหอมแก้มแดงนั่นอีกที
แบมแบมอมยิ้มกับภาพที่เห็นแม้จะตกใจนิดหน่อยที่รู้ว่าตอนนี้แจ็คสันกลายเป็นมิททีไปแล้ว เหมือนที่เขารู้สึกไปเองว่าตอนนี้จินยองมีอะไรปิดบังเพราะแบมแบมเข้าใกล้เขามักจะได้กลิ่นเหมือนป่าทึบๆอับๆทุกครั้งหลังจากจีมินตายจนกระทั่งจินยองหายไปรักษาตัวพอกลับมาพบกันอีกครั้งเขารู้สึกว่ามีอะไรในตัวของรุ่นพี่คนนี้ที่ไม่เหมือนเดิมแต่ก็ไม่กล้าพูดกับใคร
เพราะวันนี้มีงานฉลองประตูทางเข้าใหญ่ที่ปกติจะปิดอยู่ตลอดมันเปิดให้รถได้เข้ามาจอดเพื่อส่งคนที่มาร่วมงานทุกคนอย่างสะดวกสบาย ซึ่งมันเป็นทางที่ค่อนข้างแปลกใหม่สำหรับแบมแบมนั่นอาจเป็นเพราะเขาไม่เคยจะเดินที่นี่ทั่วเลยสักครั้งยกเว้นที่รู้ว่ามันมีหอคอยสูงอยู่ที่ใกล้ๆหอนาฬิกาที่เขาถูกเยรินพาไป
รถสีดำสนิทจอดก่อนที่ทั้งหกคนจะลงจากรถหลังจากไปแวะรับชยอนูมาก่อนจะมาที่นี่ วันนี้นอกจากจะมีมิทที ซอร์ ยังมีพ่อมดแม่มดที่ถูกเชิญมางานแต่ส่วนมากจะเป็นหนุ่มสาวหรือนักเรียนซะมากกว่า
นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มจ้องมองไปรอบๆตั้งแต่บันไดทางขึ้นที่ถูกปูพรมสีแดงเลือดนกอย่างดีแถมยังมีคนคอยตอนรับอยู่ข้างนอก ข้างในก็มีพวกโซนต่างๆมันเหมือนห้องกว้างๆที่คนเข้ามาอยู่รวมกัน อาหารมีทั้งของมิททีและพวกเหล่าองครักษ์ พ่อมดแม่มด
บางกลุ่มกำลังกอดคอกันเต้นรำเพลงคลาสสิคที่กำลังดังอยู่ตอนนี้ แบมแบมคิดว่ามันก็ดูหรูอยู่หรอกแต่ที่ฮยองวอนพูดว่ามันโคตรสนุกเห็นจะโกหก
แบมแบมกวาดตามองไปทั่วงานเพื่อมองหาบางคนแต่ก็ไร้วี่แวว ดวงตากลมโตจ้องมองไปเรื่อยๆก่อนจะสะดุดตากับบางคนที่กำลังยืนล้วงกระเป๋ากางเกงอยู่ในมุมมืดๆของงาน ชุดสูทสีดำที่มีเชิ้ตข้างในคล้ายกับของเขาทำให้อีกคนดูดีมาก แบมแบมจ้องร่างสูงที่ยืนจิบไวน์ชั้นดีอยู่คนเดียวก่อนสายตาคมนั่นจะหันมาสบตากับเขาพอดี
ยูคยอมยกยิ้มแล้วหมุนแก้วไวน์เบาๆก่อนจะชูมันขึ้นแล้วกระดกมันจนหมด เขาเดินมาหาแบมแบมอยู่อยู่ตรงโซนเครื่องดื่ม เพราะเป็นยูคยอมทุกสายตาในงานถึงได้จ้องเขาราวกับหลงใหลคลั่งไคล้ ยูคยอมหน้าตาดีและอาจจะเป็นคนสืบทอดตำแหน่งรองจากมินจุน สาวๆหลายคนหมายปองเขาดูได้จากตอนนี้ที่มิททีสาวหรือพวกองครักษ์มองยูคยอมตาเป็นมัน แต่ยูคยอมไม่เคยจริงจังกับพวกมิททีอย่างมากก็แค่เซ็กซ์แต่พวกนั้นก็พอใจแล้วที่ได้นอนด้วย
“ชุดพอดีใช่ไหม” ปากพูดแต่มือใหญ่ดึงรั้งเอวเล็กเข้ามาใกล้จนแบมแบมเกือบจะประคองแก้วน้ำหวานในมือไม่อยู่ เขาเพียงแค่พยักหน้าแล้วหลุบตาต่ำเพื่อหลีกเลี่ยงสายตาของยูคยอมตอนนี้
“คุณรู้ได้ไงว่าผมสัดส่วนเท่าไหร่”
“ฉันรู้เกี่ยวกับนายทุกเรื่อง โดยเฉพาะทุกซอกทุกมุมในตัวนายฉันก็รู้หมดแหละน่า” ยูคยอมกระซิบที่ข้างหูแผ่วเบาแต่มันกลับทำให้แบมแบมขนลุกชัน
ยูคยอมปล่อยแบมแบมให้เป็นอิสระเพราะจริงๆเขาแค่อยากจะแกล้งร่างเล็กตรงหน้าเล่นก็เท่านั้น จริงๆเขาแอบเห็นชยอนูที่กำลังเดินมาแอบชะงักแล้วหมุนตัวกลับไปด้วยมันทำให้ยูคยอมรู้สึกเหมือนเป็นผู้ชนะ เขาไม่สนใจพวกสาวๆในงานแม้วันนี้พวกเธอจะสวยยิ่งกว่านางแบบวิคตอเรียบางคน ชุดระยิบระยับนั่นมองว่าสวยก็คงสวยแต่สำหรับยูคยอมมันน่ารำคาญตาชะมัด
แต่คนตรงหน้าเขาวันนี้นี่สิ แปลกตากับเครื่องหน้าที่ถูกตกแต่งด้วยเครื่องสำอางจนมันดูน่าสนใจ เมื่อกี้เขาเห็นตั้งแต่แบมแบมเดินเข้ามาเห็นพวกผู้ชายหลายคนก็มองและสนใจอีกคนออกนอกหน้าไม่น้อยเหมือนกัน แต่ก็ต้องยอมรับว่าวันนี้อีกคนดูดีจริงๆ
“แล้วมิทรีไม่มาหรอครับ” แบมแบมถามเพราะเขาคิดว่างานสำคัญขนาดนี้แต่ไม่เห็นมินจุนอยู่ในงาน ไม่มีนิชคุณด้วย
“คงไปทำอะไรที่สำคัญกว่างานนี้” ยูคยอมตอบ
ยูคยอมแวะไปหาพ่อของตัวเองตั้งแต่ก่อนมาที่นี่ ทุกปีมิทรีจะให้คนอื่นมาพูดเปิดงานและตัวเองก็จะเก็บตัวอยู่ในปราสาทของตัวเองเพราะมินจุนไม่ชอบงานฉลอง มินจุนให้เหตุผลกับยูคยอมด้วยคำพูดเดิมๆเสมอว่าเขาฉลองมาทั้งชีวิตและไม่อยากจะฉลองอีกแล้ว
มีความสงสัยเกิดขึ้นมากมายภายในใจของยูคยอม เขาคิดว่าพ่อตัวเองชอบทำตัวเหมือนตาแก่ที่รอวันเกษียณทั้งที่จริงพ่อเขายังดูหนุ่มมากกว่าจะมาทำตัวเป็นตาแก่อยู่ในปราสาทเงียบๆคนเดียว แต่ทุกอย่างก็ถูกลบล้างเมื่อเขาโตขึ้นเรื่อยๆ งานเลี้ยงที่ไร้ซึ่งคนเต้นรำ ผู้หญิงที่รักกับชุดที่เธอสวมใส่งดงามยิ่งกว่าหญิงคนใด ทุกอย่างจากพ่อเขาไปแบบไม่หวนคืนมา
คืนนี้ตอนที่เขาแวะไปหามิทรีอีกคนเหมือนกำลังเตรียมตัวไปไหน มินจุนกำลังพูดอะไรบางอย่างด้วยสีหน้าเคร่งเครียดกับนิชคุณและแทคยอนก่อนจะได้ยินมาว่าคืนนี้พ่อของเขาจะไปตามหาหลุมฝังศพของหวังเฟยก่อนที่อะไรๆจะเลวร้ายมากกว่านี้
“ไงน้องชาย” มาร์คบีบไหล่ของยูคยอมแล้วเอ่ยทัก
“ไงครับคุณพี่ชายแล้วก็พี่เขย” เป็นการตอบกลับที่ทำให้มาร์คชะงักแล้วก็หันไปตีแขนของแจ็คสันแก้เขิน
แบมแบมยืนฟังพี่น้องหยอกเย้ากันจนยิ้มและหัวเราะตาม เขายอมรับเลยว่าชอบความสัมพันธ์ของมาร์คกับยูคยอมมาก ถึงยูคยอมจะดูดุๆและรั้นตามใจตัวแต่ยูคยอมกลับรักมาร์คมากๆขัดกับลุค เหมือนที่มาร์คเป็นพี่ที่ดีของยูคยอมมาตลอดเหมือนจะเป็นพ่อคนที่สองเลยก็ว่าได้
เขาหัวเราะกับมุกตลกๆของมาร์คก่อนที่คิ้วเรียวจะขมวดเข้าหากันจนยุ่ง จมูกของแบมแบมกำลังทำหน้าเป็นเรดาร์รับกลิ่นเมิร์ค กลิ่นครั้งนี้มันแรงเหมือนว่ามีมากกว่าหนึ่งในบริเวณใกล้ๆแต่มันก็จางๆ แบมแบมกวาดสายตามองไปรอบๆจนคนที่ยืนคุยกันต้องหันมาถามด้วยความประหลาดใจ
“มีอะไรรึเปล่า”
แบมแบมส่ายหน้าแล้วยิ้ม ในใจคิดว่ามันแปลกๆแต่ข้างนอกก็มีพวกองครักษ์เฝ้าอยู่ไม่น่าจะเป็นไปได้ที่พวกเมิร์คจะบุกเข้ามา ที่นี่ป้องกันแน่นหนามากกว่าที่คิด แบมแบมส่ายหัวเบาๆแล้วให้เหตุผลกับตัวเองว่าเขาคงจะกังวลมากเกินไป
เพลงที่กำลังชวนง่วงนอนถูกเปลี่ยนเป็นเพลงเร็วจนพวกหนุ่มสาวที่ยืนอยู่เต้นกันเหมือนอยู่ในคลับ แบมแบมไม่ได้สนใจจะเต้นเหมือนที่ฮยองวอนกำลังเต้นอยู่อย่างสนุกสนาม ยูคยอมเองก็ไม่ได้สนใจมันเขายังยืนคุยอยู่กับมาร์คไม่เลิก
ความน่าเบื่อของงานลดน้อยลดหน่อยหลังจากเพลงถูกเปลี่ยน มีหลายคนที่เต้นเก่งจนแบมแบมต้องปรบมือให้เบาๆ
“แบมแบมไม่สนใจจะไปเต้นหรอ” แจ็คสันเอ่ยถามหลังจากเห็นเด็กตรงหน้ายืนมองคนอื่นเต้นมาเกือบสามเพลงแล้ว
“ผมเต้นไม่เป็นแต่ชอบดูคนอื่นเต้นนะสนุกดี” แบมแบมบอกแล้วยิ้มให้ “พี่ก็จะเป็นนักเรียนใหม่ของที่นี่ใข่ไหมครับ”
แจ็คสันพยักหน้า
“แน่นอน มันน่าสนุกดีนะว่าไหม”
หลังจากแจ็คสันกลายเป็นมิททีเพราะเหตุการณ์นั้น แบมแบมสังเกตเห็นว่าแจ็คสันดูดีมากกว่าตอนเป็นมนุษย์ เขานึกถึงคำพูดของจินยองที่บอกว่าพวกแวมไพร์จะดูน่าหลงใหลโดยเฉพาะกับแวมไพร์หนุ่มๆ เหมือนกับว่ามีอะไรมาสะกด แจ็คสันกำลังเป็นแบบนั้นเพราะดูดีขึ้นมาก มากขนาดที่ว่าแบมแบมเห็นพวกสาวๆที่อยู่ใกล้ๆมองแจ็คสันแล้วยิ้มหวานเยิ้ม
พรึบ!
จู่ๆไฟก็ดับเสียงเพลงที่ดังตอนนี้ก็ดับไปด้วยทำให้ทั้งงานเงียบสนิทก่อนจะตามด้วยเสียงจ้อกแจ้กจอแจจากพวกที่กำลังตกใจ
“เกิดอะไรขึ้น” มาร์คพึมพำก่อนจะรู้สึกแปลกๆเมื่อเห็นอะไรบางอย่างโผล่ขึ้นมาในความคิดของเขา
“พวกเมิร์ค” แบมแบมพูดเสียงเบาแต่ทั้งสามคนได้ยินชัดเจน “ผมได้กลิ่นพวกนั้น”
ตึง! พรึบ!
เสียงเหมือนอะไรบางอย่างตกหล่นกระทบพื้นก่อนไฟจะสว่างขึ้นมา
กรี๊ด!!!
ร่างขององครักษ์สามคนที่ถูกกัดไปทั่วร่างจนดูไม่ได้ หลายคนในงานตกใจจนกรู่กันเข้ามาเพื่อหลบเลี่ยงบริเวณที่มีศพ เลือดไหลทะลักออกจากร่างที่ถูกกัดจนนองเต็มพื้น
องครักษ์คนอื่นๆรีบวิ่งออกไปดูข้างนอกรวมถึงทั้งสี่คนที่ยืนคุยกันก็ด้วย แบมแบมวิ่งรั้งท้ายเขากวาดสายตามองหาฮยองวอนกับชยอนูก่อนจะเห็นว่าสองคนนั้นกำลังฝ่าฝูงชนออกมาเมื่อก่อน ข้างนอกมีองครักษ์ที่ถูกฆ่านอนเป็นศพอยู่ที่ทางเข้า บันไดทางขึ้น
แบมแบมพยายามดมกลิ่นที่สัมผัสได้ ก่อนจะหันไปมองโถงทางเดินที่ทอดยาวออกไปมีเพียงแค่ตึกห้องสมุดมากั้น
“พวกนั้นอยู่ข้างหน้าตรงลานน้ำพุ” แบมแบมบอก
ทุกคนกรูกันไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วแต่มาร์คก็สั่งให้บางคนอยู่ทางนี้คอยช่วยเหลือพวกมิททีที่ยังไม่เก่งเรื่องการต่อสู้ข้างในมีอีกเป็นร้อยๆคน
เสียงต่อสู้ที่ดังมากจากลานน้ำพุทำก่อนจะมีร่างของซอร์ลอยมาก่อนพวกเขาจะถึง เสียงหัวเราะใหญ่ๆทำให้ทุกคนเดาได้เลยว่าเป็นใครถ้าไม่ใช่จีโซล
“มากันเร็วดีแต่ก็ไม่เร็วกว่าพวกฉันที่กินมื้อค่ำจนอิ่ม” จีโซลพูดแล้วหัวเราะอย่างสะใจ
มาร์คจ้องมองด้วยอารมณ์ที่เริ่มไม่มั่นคง จีโซล แจบอม ยองแจ ก่อนนัยน์ตาสวยจะเบิกตากว้างเพราะร่างที่ล่องลอยอยู่ในอากาศมันเป็นคนที่มาร์คคิดว่าจะไม่ได้เจออีกแล้ว ฮอยองจี…
เธอยิ้มแบบที่ชอบยิ้ม ไม่สิ...ครั้งนี้เธอยิ้มแบบที่ร้ายมากจนมาร์คจะเดินไปกระชากหัวแล้วตบเธอแต่ก็รู้ว่าเขาทำไม่ได้ ยองจีเป็นแค่วิญญาณไม่สามารถฆ่าเหมือนตอนเป็นมนุษย์ได้โดยการใช้ลิ่มหรืออุปกรณ์ใดๆเพราะเธอตายแล้ว ถ้าให้เขาเดาจีโซลคงไปเอาเธอมาจากนรก
“มาร์ค” แจ็คสันจับมือเรียวแล้วเรียกเสียงเบา
“นังนั่นฆ่าพ่อแม่นายใช่ไหมแจ็คสัน” มาร์คถาม
“นายรู้”
“พ่อแม่นายไม่มีรอยกัดสักที่เหมือนนาย ทำไมไม่บอกฉันล่ะแจ็คสันว่าเป็นมัน”
“เพราะฉันอยากจะฆ่าเธอเอง”
แจ็คสันพูดจบเป็นมาร์คที่พุ่งตัวเข้าหาวิญญาณของยองจีแต่เขาทะลุผ่านเงาดำนั่นไป เสียงหัวเราะแหลมๆทำให้มาร์คกัดฟันกรอดด้วยความโมโห
หลังจากมาร์ควิ่งเข้าใส่ยองจีเหมือนทุกคนก็กรูเข้าหากัน ยูคยอมต่อสู้กับจีโซลในขณะที่ฮยองวอนต้องสู้กับยองแจ
“นายมาสู้กับฉันสิเจบี” จู่ๆจินยองก็โผล่มาแล้วขวางหน้าแจบอมที่กำลังพุ่งตรงเข้าไปหาแบมแบม
“อย่ามาขวางฉันจินยอง!” แจบอมตะโกนเสียงเหี้ยม
“ฆ่าฉันสิเจบีแล้วฉันจะไม่ยืนขวางนาย”
จินยองใช้เท้าถีบเข้าที่ท้องของแจบอมอย่างแรงจนร่างของแจบอมเซไปข้างหลัง เพราะตอนนี้จินยองเป็นเมิร์คพลังที่มีจึงมากกว่าตอนเป็นแค่ซอร์ จินยองยกยิ้มแล้วพุ่งเข้าหาแต่แจบอมจับข้อขาของจินยองเอาไว้ก่อนจะเหวี่ยงร่างผอมนั่นไปกระทบกับกำแพง
แบมแบมมองจินยองด้วยความตกใจแล้วรีบเข้าไปดู เขาสบตาของจินยองก่อนจะผงะถอยหลังเมื่อดวงตาของจินยองเปลี่ยนเป็นสีม่วง
“ใช่ ฉันเป็นเมิร์คแล้ว” จินยองพูดกับแบมแบมแล้วพุ่งเข้าใส่แจบอมทันที
แบมแบมกำลังจะตามไปช่วยจินยองแต่ถูกจีโซลล็อคคอเอาไว้ จีโซลหัวเราะเมื่อเห็นยูคยอมหยุดชะงัก ปลายมีดวนไปวนมาตรงตำแหน่งหัวใจของแบมแบม จนยูคยอมไม่กล้าจะขยับเข้าไปใกล้ เขายืนนิ่งแล้วสบตาสวยคู่นั้นที่เปลี่ยนไป ดวงตาแบมแบมกำลังกลายเป็นสีแดงจากนั้นแบมแบมก็จับมือของจีโซลบิดก่อนจะปล่อยหมัดเข้าที่ข้างแก้มอย่างแรง
“เจ๋ง” ยูคยอมยักคิ้วแล้วชูนิ้วโป้งให้แบมแบม
จีโซลคำรามอย่างโมโหและพยายามจะพุ่งใส่แบมแบมแต่เป็นยูคยอมที่วิ่งเข้ามาแล้วใช้เท้าเตะเข้าที่สีข้างของจีโซล ยูคยอมควบคุมน้ำจากลานน้ำพุก่อนมันจพุ่งเข้าไปจีโซลจนเหมือนร่างนั่นถูกโอบอุ้มด้วยน้ำ
“ว้าว โคตรเจ๋ง” ชยอนูที่ช่วยฮยองวอนสู้เอ่ยปากชมเพราะเขาไม่ค่อยเห็นอะไรแบบนี้ยกเว้นตอนที่ฮยองวอนใช้เวทไฟ
น้ำที่ถูกควบคุมกระจายลงเต็มพื้นเมื่อเจอกับพลังเวทของจีโซล ไฟที่ออกมาจากมือพุ่งไปที่ตัวยูคยอมมันเฉี่ยวหัวเขาไปนิดๆจนผมบ้างส่วนไหม้จนหงิกงอ ยูคยอมควบคุมน้ำอีกครั้งเมื่อเขาเห็นไฟกำลังจะถูกส่งมาอีกน้ำช่วยดับไฟจนดับมอด
“แจ็คสันระวัง!” มาร์คตะโกนเสียงดังเมื่อเห็นยองจีกำลังพุ่งเข้ามา
ฉึก!
มีดในมือของยองจีปักเข้าที่ท้องของแจ็คสันจนเลือดไหลออกมา แจ็คสันจับแผลของตัวเองเพราะมันเจ็บจี๊ดจนหน้าตาเหยเกปวดร้ายเพราะความเจ็บ แต่เขาก็หลบมีดครั้งที่สองทันเพราะแจ็คสันเป็นมิททีและแผลมันจะสมานเข้าหากันไม่ยาก
มาร์คโมโหมากกว่าเดิมมากกว่าวันนั้นร่างของเขากลายเป็นควันสีดำแต่ตอนนี้มันกลายเป็นรูปร่างเหมือนรูปร่างของยมทูต มาร์คหัวเราะเสียงดังเขาพุ่งเข้าหายองจีแล้วบีบคอเธอด้วยเงา มันเหมือนการต่อสู้ของเงาเพราะจับต้องไม่ได้ ยองจีทุรนทุรายและกรีดร้องด้วยความเจ็บ มาร์คบีบแรงขึ้นเรื่อยๆ
“ไม่ยอมตายแบบดีๆงั้นก็อย่าได้เกิดอีกเลย”
วิญญาณของยองจีกรีดร้องจากนั้นก็สลายกลายเป็นควันสีดำแล้วก็หายไปกับตาของแจ็คสันและมาร์ค มาร์คในร่างของยมทูตเปลี่ยนเขาหาจีโซลแทนเพราะยูคยอมเริ่มสู้บางอย่างที่อยู่ในตัวของจีโซลไม่ไหว จีโซลมีกลิ่นของฮีเดียสมาร์ครับรู้มันได้เพราะมันเป็นวิญญาณของความเกลียดชังจากนรก แต่นอกจากจีโซลยังมีอีกคนในนี้ที่เป็น
ไม่ยองแจก็แจบอมใครสักคน
ร่างของจีโซลกำลังเปลี่ยนไป ความเกลียดที่ครอบงำจิตใจของเขาทำให้เขากลายเป็นฮีเดียสมันเป็นเงาที่เหมือนกับอีกาคล้ายกับเยรินแต่ใหญ่กว่าและน่ากลัว เหมือนหลุดออกมาจากหนังแฟนตาซีไม่มีผิดเพี้ยน ยูคยอมกระโดดหลบกรงเล็บแต่มันก็ยังเกี่ยวหลังของเขาจนเลือดไหล
มาร์คควบคุมกลุ่มควันดำให้ชอนไชไปตามร่างน่าเกลียดของจีโซล เขาพยายามควบคุมมันแต่มาร์คใช้พลังมากเกินไปทำให้อ่อนแรงบวกกับมาร์คไม่ใช่ยมทูตเต็มตัว เลือดไหลออกมาจากปากของมาร์คมันมากพอที่จะทำให้แจ็คสันตะโกนบอกให้มาร์คหยุด แต่มาร์คเป็นคนหัวดื้อมากกว่าที่จะฟังใคร
เป็นยูคยอมที่เริ่มใช้พลัง เขามีเวททั้งสี่อยู่ในตัว ดิน น้ำ ลม ไฟ และมันกำลังก่อตัวขึ้น หิมะที่ตกรอบๆกลายเป็นน้ำและไฟก็ออกมาจากมือของยูคยอม ลมพัดไปมายิ่งกระพือไฟให้ลุกไหม้กว่าเดิม ยูคยอมรวบรวมมันก่อนจะปล่อยพลังเวททั้งหมดไปที่จีโซล
พลังของยูคยอมยิ่งกว่าที่เคยเห็นดูได้จากรอยร้าวตรงลานนำพุที่แยกออกจากกันจนเห็นได้ชัด มันเหมือนแผ่นดินแยก ร่างของจีโซลกลับกลายเป็นเหมือนมนุษย์แต่รอยแผลจากพลังของยูคยอมปรากฏไปทั่วตัวเหมือนที่ยูคยอมมีบาดแผลเต็มไปหมด
จีโซลกำลังอ่อนแรงและยูคยอมต้องการกำจัดตอนนี้ก่อนอีกคนจะเริ่มกลับมาแข็งแกร่งและกลายเป็นฮีเดียสเหมือนเดิม
“ที่เหลือขอให้ฉันทำเอง” เสียงของผู้หญิงที่ทำให้ยูคยอม แบมแบม และทุกคนหันไปมอง
“เจีย”
เธอสวยกว่าทุกครั้งที่แบมแบมเห็น ชุดสีแดงที่เธอใส่กับทรงผมที่ถูกจัดแต่งมาอย่างดี เครื่องหน้าที่แต่งแต้มจนดูเซ็กซี่ทุกอย่างดูเข้ากัน
“นายสู้กับมันได้ไอ้หนูแต่นายทำลายมันไม่ได้ ฝากบอกพ่อนายด้วยอย่าทำตัวเป็นตาแก่ให้มากนัก”
พูดจบเจียก็กระโดดเข้าหาจีโซลพร้อมกับกระชากสร้อยข้อมือของตัวเองออก ร่างในชุดแดงเลือดนกกลายเป็นแค่ควันดำก่อนจะครอบคลุมไปทั่วคนตัวของจีโซลจากนั้นทุกอย่างก็หายไปราวกับว่ามันไม่เคยเกิดขึ้น
สร้อยข้อมือของเจียทำให้เธอฟื้นจากความตายมานานนับร้อยๆปี มันเป็นพลังของความมืดที่หิวโหยการปลอดปล่อยเพื่อจะกลืนกินความมืดมิดทั้งหมด และเจียเลือกที่สละชีวิตตัวเองเพื่อทำให้จีโซลสลายไปพร้อมกับตัวเอง
ร่างของมาร์คล้มลงตามแรงโน้มถ่วง ไม่มีควันดำออกมาจากตัวมาร์คแล้วและเขาเหมือนรู้สึกตัวเบาหวิว มาร์คทรมานเหมือนข้างในถูกกัดกินและบิดเร้า แจ็คสันประคองร่างผอมไว้
“ร่างอีกร่างของฉันมันไปแล้วแจ็คสัน”
ใช่มาร์คหมายถึงร่างที่เป็นอีกครึ่งของมาร์คมันไปกับเจียด้วยถูกกลืนกินไปด้วย
แบมแบมเห็นว่ามาร์คไม่ได้เป็นอะไรมากก็พ่นลมหายใจออกมาก่อนที่จะรีบไปช่วยจินยองที่กำลังสู้กับแจบอม สภาพของจินยองดูไม่ได้แย่แต่ยังไงก็ไม่น่าจะชนะแจบอมได้ดูจากหลายๆอย่าง แจบอมกัดเข้าที่ต้นแขนของจินยองจนเหวอะหวะแต่จินยองก็ยังสู้
“แฮ่กๆ” จินยองหอบหายใจ
“หยุดซะก่อนที่ฉันจะ...ไม่ยองแจ!” แจบอมตะโกนเสียงดัง
ยองแจที่จับฮยองวอนเหวี่ยงไปอีกทางพุ่งมาที่จินยองพร้อมกับลิ่มเงินของจินยองที่ทำตกเอาไว้ แบมแบมกับยูคยอมพยายามจะเข้ามาขวางแต่ไม่ทัน
ฉึก!
ลิ่มเงินแทงทะลุเข้าจากข้างหลังตรงตำแหน่งหัวใจมาจนข้างหน้า ทุกอย่างดูรวดเร็วจนไม่มีใครคาดคิดว่ามันจะเกิด ยองแจหัวเราะก่อนจะโดนยูคยอมถีบเข้าที่กลางลำตัวจนกระเด็นไปไกล ยองแจกลายร่างเป็นอีกาตัวสีดำก่อนจะบินหนีไป
จินยองยิ้มให้แจบอมที่กำลังวิ่งมา รอยยิ้มนั้นเหมือนเยาะเย้ยแจบอมไม่มีผิด แจบอมไม่ได้จับต้องแม้กระทั่งร่างของจินยองที่กำลังหมดลมหายใจเพราะยูคยอมไม่ยอมให้แจบอมจับต้องจินยอง เลือดมากมายไหลออกมาจากตัวของจินยองแต่เขาก็ยังคงยิ้ม
“ล ลาก่อน...เจบี”
เมื่อหลายวันก่อนแจบอมแอบยืนมองภาพความเศร้าโศกอยู่ไกลๆเพราะเขาคงไม่อนุญาตให้เข้าไป โลงศพไม้สีน้ำตาลเข้มกำลังถูกฝังลงไป ดอกไม้สีขาวที่ถูกประดับอยู่ข้างบนคือรูปของคนที่แจบอมเคยสร้างบาดแผลมากมายเอาไว้ คนที่แจบอมคิดเอาไว้ว่าสักวันหนึ่งเขาจะกลับมารักกันได้เหมือนเดิมถ้าเขาชนะสงคราม
ทุกอย่างมันผิด
รอยยิ้มของจินยองยังคงติดตาของเขา คำเอ่ยลาที่เหมือนกับว่าต้องการให้มันฝังอยู่ในใจเขาตลอดไปมันยังคงดังก้องในหู ภาพของจินยองที่ตายต่อหน้าต่อตาทำให้แจบอมเริ่มรู้สึกตัว หลายวันที่ผ่านไปหลังจากวันนั้นเขาถูกปล่อยตัวออกมาโดยไม่ถูกฆ่าหรือทำร้ายเพราะมันเป็นเจตนารมณ์สุดท้ายที่จินยองเคยขอร้องมาร์คเอาไว้ว่าอย่าฆ่าแจบอมไม่ว่าจะยังไงก็ตาม
ตอนแรกแจบอมไม่เข้าใจว่าทำไมพวกมิททีถึงไม่ฆ่าเขาให้ตายๆไปซะ แต่ตอนนี้เริ่มเข้าใจว่าทำไมจินยองถึงขอร้องแบบนั้น
จินยองแค่อยากให้เขาเจ็บปวดจากการสูญเสียดูบ้าง
แจบอมไม่เคยเข้าใจการสูญเสียที่มันทำให้เขาเสียใจยกเว้นตอนที่แม่ตาย เขาไม่เคยสนด้วยซ้ำว่าทำร้ายคนที่จินยองรักไปกี่คนเพราะเขาไม่คิดว่าจะต้องมาเจอกับตัวเอง กับคนที่บอกว่าไม่รักและไม่รู้สึกอะไรด้วยแล้ว คนที่เขาทำลายทุกๆอย่างในชีวิตจนพังลง แจบอมถึงได้รู้ว่าเขาโง่เขลาเกินไปมันมากกว่าความเขลาใดๆในโลก
มีหลายคนพยายามเตือนเขาทั้งตัวจินยองเองและแทคยอนก็พูดหลายรอบว่าสุดท้ายมันอาจจะเป็นตัวเขาที่ต้องสูญเสีย มีบางครั้งที่แจบอมเคยคิดเอาไว้ว่าถ้าต้องแพ้มันก็แค่แพ้แล้วเริ่มใหม่ แต่ที่ไม่เคยนึกคือจินยองต้องมาตาย
หิมะสีขาวหมุนวนและตกหล่นลงมาราวกับจะเยาะเย้ยเขา แจบอมนั่งมองแผ่นหินอ่อนสีเทาที่ถูกสลักชื่อของจินยองเอาไว้ นั่นมันย้ำเตือนเขาซ้ำๆว่าจินยองไม่มีวันกลับมาแล้วไม่ว่าเขาจะสำนึกผิดขนาดไหนก็ตาม ต่อให้เขาขอโทษเป็นพันๆครั้งจินยองก็ยังต้องตายอยู่ดี
“ฉันเตือนนายแล้ว” เสียงถอนหายใจตามมาติดๆก่อนจะทิ้งตัวนั่งลงบนต้นไม้ใกล้ๆกับแจบอม
แทคยอนตบบ่าของแจบอมเบาๆ เขาเคยเตือนแจบอมหลายครั้งจนคิดว่าแจบอมอาจจะคิดได้ก่อนที่อะไรๆมันจะสายเกินไป ถ้าสงครามเกิดแน่นอนว่าต้องมีคนตายแต่คนเราจะเสียใจและร้องไห้ให้กับสงครามก็ตอนที่คนของตัวเองตาย เราจะไม่มีวันเข้าใจถ้าเราไม่เคยเจอกับตัว แทคยอนแค่หวังว่าตอนนี้แจบอมคงเข้าใจมัน ชีวิตทุกชีวิตไม่ใช่ผักปลาที่จะฆ่าก็ฆ่าง่ายๆเพียงเพราะเขาไม่ใช่คนที่เราใส่ใจ
“ผมไม่เคยหวังให้คนที่มีชื่ออยู่บนนั้นเป็นจินยอง” แจบอมพูดเสียงสั่น
“แต่มันก็ไม่สมควรเป็นใครทั้งนั้นที่นายเกลียดเขา” แทคยอนบอกตามที่คิด
“ผมไม่เคยสนใจว่าใครจะเป็นอะไรแม้แต่ตอนนั้นผมก็ไม่สนด้วยซ้ำว่าจินยองจะเป็นยังไงกับการกระทำของผม ตอนที่เขาขอร้องให้ผมล้มเลิกและเขาจะให้อภัยผมกับสิ่งที่ผมทำ พี่เชื่อไหมว่าผมยังคิดมันไม่ได้เลย” คำบอกเล่าของแจบอมมันเหมือนคำสารภาพที่ไร้ความหมาย
“ฉันบอกนายแล้วแจบอมถ้านายเกลียด ความเกลียดจะทำให้นายมองไม่เห็นสิ่งที่นายควรจะทำตั้งแต่แรก”
แจบอมพยักหน้าแล้วเม้มปากสีซีดของตัวเองพลางมองที่สุสาน ไม่มีเวลาให้เขาได้แก่ตัวแม้บอกลาก็ไม่มี ทุกอย่างถ้าเป็นสิ่งที่จินยองรู้แต่แรกแจบอมคงคิดว่าจินยองคงอยากให้เขาเจ็บปวดเหมือนที่ตัวเองเคยเจ็บปวด ทุกอย่างเหมือนกันจนแจบอมยากจะเข้าใจว่าจินยองผ่านเวลาเหล่านั้นซ้ำๆมาได้ยังไง จินยองต้องเข้มแข็งขนาดไหน
ภาพตรงหน้ากำลังพร่าเลือนเพราะถูกบดบังด้วยน้ำตาสุดท้ายแจบอมก็กลั้นมันไม่อยู่ มีเพียงแค่เสียงสะอื้นกับคำปลอบโยนของแทคยอนเท่าในนั้นในเวลานี้ ไม่มีคนที่เขาใจแจบอมอีกต่อไปแล้ว
“ผมแค่อยากให้จินยองฟื้นขึ้นมาผมรักเขามากกว่าที่เขาคิด ต่อให้แลกด้วยอะไรก็ตาม” แจบอมพูด
แทคยอนถอนหายใจแล้วบีบไหล่ของแจบอมเบาๆ
“นายฝืนมันไม่ได้หรอกเจบี ปล่อยให้มันเป็นไปตามที่ต้องเป็นเถอะ ให้นายคิดซะว่านี่คือบทเรียนและสิ่งที่จะเตือนสตินายไปตลอดชีวิตของนายว่าอย่าให้ความเกลียดมาทำให้เราลืมที่จะใส่ใจคนที่เรารัก ปล่อยจินยองไปซะเพราะในชาตินี้จินยองคงเจ็บเกินกว่าที่จะฟื้นขึ้นมาเพื่อฟังคำขอโทษของนาย” แทคยอนพูดความจริงทั้งหมดเพราะต่อให้จินยองฟื้นขึ้นมาจริงๆ กับเรื่องราวขนาดนั้นไม่มีทางไหนที่แทคยอนคิดว่าจินยองจะหายเจ็บปวดได้เลยยกเว้นว่าตายจากไป
ยิ่งแทคยอนพูดมันก็ยิ่งตอกย้ำให้แจบอมรู้ว่าตลอดเวลาเขาทำอะไรไว้ ลึกๆเขาก็ยังอยากจะแก้แค้นมิททีให้ตายไปให้หมดแต่จะมีประโยชน์อะไรอีกในตอนนี้ถ้าเขาไม่มีใครข้างๆสักคน
เราพยายามโกหกตัวเองว่าเราไม่เจ็บปวดเพราะเราไม่อยากเจ็บปวด เราจะทำทุกอย่างที่ทำให้เจ็บปวดน้อยที่สุดไม่ว่าจะอะไรก็ตาม ความคิดของเราจะฆ่าเราให้ตายจะจ้วงแทงเราจะพูดตะโกนใส่เราซ้ำๆจนเราไม่กล้าจะเริ่มใหม่ เราจะใช้เวลาทั้งหมดจมอยู่กับความผิดพลาด
เพราะอะไรรู้ไหม...
เพราะเราไม่กล้าที่จะยอมรับความจริง
“ยอมรับซะเถอะว่าจินยองตายแล้ว”
แจบอมรู้แล้วในตอนนี้ว่า”ความสูญเสีย”เจ็บปวดเสมอ
แจ็คสันยกกระเป๋าเดินทางสองใบใส่หลังรถรับส่งของโรงเรียนก่อนจะเดินเข้าไปหามาร์คที่ยืนคุยอยู่กับน้องชายตัวเองและคนอื่นๆ มือใหญ่เกี่ยวเอวคอดเอาไว้แล้วเอาหน้าเกยกับไหล่บางของมาร์คเพื่อมองหน้าทุกคน
“จะไปจริงๆหรอครับพี่มาร์ค” แบมแบมจับมือเรียวเขย่าเหมือนลูกหมาที่กำลังอ้อน
“ไปแค่สิบปียี่สิบปีเองนะ” มาร์คตอบตลกๆแต่เขาพูดจริง
หลังจากผ่านเหตุการณ์บ้าๆนั่นที่ทำให้จินยองต้องตายมันทำให้มาร์คเสียศูนย์ไปพักใหญ่ เขาพยายามจะไม่คิดถึงจินยองแต่มันก็ยังคิดเพราะโตมาด้วยกัน มาร์คเห็นจินยองตั้งแต่ยังเด็กมากถึงเขาจะโตก่อนจินยองเป็นร้อยปีแต่ก็เหมือนเพื่อนตายของกันและกัน สุดท้ายมาร์คเลยเลือกที่จะจากที่นี่ไป
“แค่อเมริกาเองถ้าแบมคิดถึงเดี๋ยวให้ฮยองวอนพาไปไง” แจ็คสันตอบ
“โถ่ ผมมีเงินที่ไหนกันล่ะ” แบมแบมเบะปากแล้วทำหน้าเหมือนจะร้องไห้
มาร์คเอื้อมมือไปลูบหัวของน้องชายอีกคนอย่างแบมแบมแล้วหัวเราะออกมา เขากับแจ็คสันตัดสินใจจะไปอยู่อเมริกาจนกว่าอยากจะกลับมาที่นี่อีกครั้ง อาจจะสิบปี ยี่สิบปี สามสิบปี เวลาคงช่วยให้ทุกอย่างดีขึ้นรวมถึงทุกอย่างที่นี่ด้วย แจ็คสันเองก็มีเรื่องที่อยากจะเริ่มต้นใหม่เหมือนกัน
เขาขอให้ฮยองวอนจัดการทุกอย่างให้เพราะฮยองวอนอยู่อเมริกามานานและฮยองวอนยังหาบ้านพักให้เขาได้แถวๆลอสแอนเจลิส ที่จริงฮยองวอนก็ต้องกลับอเมริกาเหมือนกันแต่เพราะตอนนี้เหมือนอีกคนจะติดใจที่นี่เลยตกลงที่จะอำนวยความสะดวกให้มาร์คแลกกับการขอร้องพ่อแม่ให้เขาอยู่ที่นี่ต่อซึ่งมาร์คก็ตกลง
“อย่าลืมติดต่อมาบ้างนะครับ” แบมแบมบอกมาร์คที่นั่งอยู่ในรถ
ยูคยอมมองพี่ชายที่กำลังจะไปอยู่อีกฝั่งของโลก มันไม่ใช่เรื่องยากที่จะตามไปแต่เพราะเขาอยู่กับมาร์คมาเป็นร้อยปีมันก็ทำให้ใจหายเหมือนกันที่มาร์คจะไป มาร์คสบตายูคยอมก่อนจะยิ้มแล้วยักคิ้วให้
“ฝากดูแลแบมแบมด้วยนะ” มาร์คบอกก่อนที่รถจะค่อยๆเคลื่อนตัวออกไปจนลับตา
มือสองมือกำลังกุมกันแน่น แจ็คสันเองก็ใจหายไม่น้อยหลังจากเข้าปิดตายบ้านของตัวแต่ไม่ได้ประกาศขายตามที่ถูกแนะนำ มันเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยความรักของพ่อแม่และเรื่องราวมากมายที่เกิดขึ้นจนเขาเติบโต มีบางครั้งที่แจ็คสันยังคงแอบร้องไห้เพราะคิดถึงพ่อแม่ เขายังจำทุกๆอย่างได้และมันเป็นความทรงจำที่มีค่าที่สุดเกินกว่าจะลืม
หัวของมาร์คกำลังพิงอยู่ที่ไหล่ของแจ็คสันและมีมืออีกข้างลูบมันเบาๆ แจ็คสันคิดว่ามาร์คคือสิ่งที่ทำให้เขาผ่านทุกช่วงเวลาที่เศร้าที่สุดมาได้ มาร์คคือคนที่ยอมรับในทุกการผิดพลาดของเขาและต่อให้เขาเป็นมนุษย์ที่ปกป้องมาร์คไม่ได้หรือตอนนี้เป็นแวมไพร์ที่ทำอะไรได้เหมือนมาร์ค แจ็คสันก็ยังรับรู้ว่ามาร์คยังรักตัวเขาเองในทุกๆด้านที่เป็น เขาเองก็เหมือนกัน
“รักนายจัง” จู่ๆมาร์คก็พูดขึ้นมาดื้อๆแล้วหัวเราะเหมือนอารมณ์ดี
แจ็คสันเลิกคิ้วขึ้นอย่างสงสัย
“กินอะไรมาผิดสำแดงหรือเปล่าเนี่ยมาร์ค”
“ทำไมล่ะ ฉันพูดตรงๆตลอดอยู่แล้วไม่ชินรึไง” มาร์คบอกก่อนจะยันตัวเองให้นั่งพิงเบาะดีๆ
แจ็คสันกระชับมือให้แน่นขึ้นกว่าเดิม
“เพราะแบบนี้ฉันถึงรักนายไง”
มาร์คยิ้มจนตาหยีเมื่อได้ยินแจ็คสันพูดแบบนั้น มาร์คมั่นใจมากว่าแจ็คสันจะรักเขาไปตลอดถึงเขาจะเอาแต่ใจและชอบโหดกับแจ็คสันประจำ
“นายต้องรักฉันจนกว่าฉันจะตายรู้ไหม” มาร์คบอกแล้วหันไปดึงใบหูของแจ็คสันเล่น “เพราะถ้าฉันตายแล้วตอนนั้นนายถึงจะมีสิทธิ์ลืมฉันหรือคบคนใหม่”
“ไม่เอาน่ามาร์ค เราจะต้องอยู่ด้วยกันตลอดไปสิ”
มาร์คส่ายหน้าจนผมสีอ่อนพลิ้วไหว
“ฉันจะไม่พูดคำว่าตลอดไปอีกแล้ว แต่แจ็คสันฟังเอาไว้นะนายจะมีฉันเสมอตราบใดที่ฉันยังอยู่บนโลกนี้ฉันจะรักนาย”
คำพูดของมาร์คทำให้แจ็คสันหน้าแดงแล้วหลังจากนั้นแจ็คสันก็ถูกมาร์คล้อเรื่องนี้ตั้งแต่บนรถ สนามบิน ยันไปถึงอเมริกามาร์คก็ยังไม่เลิก
“พร้อมที่จะเริ่มต้นใหม่รึยังแจ็คสัน” มาร์คมองไปที่ภาพเบื้องหน้าแล้วถามคนข้างๆ
“พร้อมแล้วครับ” แจ็คสันตอบแล้วกระชับมือที่กุมไว้ก่อนจะเดินตามมาร์คไปติดๆ
แจ็คสันคิดไว้แล้วว่าต่อจากนี้เขาจะดูแลมาร์คให้ดีที่สุด ตอบแทนความรักของมาร์คที่มอบให้กับเขา จากนี้ชีวิตของแจ็คสันหวังจะเริ่มต้นใหม่กับคนรักคนเก่าอย่างมีความสุขที่สุด
“ลุยกันเลย!”
ดอกกุหลาบสีแดงกับคัตเตอร์สีขาวถูกวางลงบนหลุมศพของจีมินและจินยอง แบมแบมยิ้มให้กับทั้งสองคนที่อยู่ติดกันพลางถอนหายใจออกมา เขาคิดถึงทั้งสองคนมากและวันนี้ก็ผ่านไปหนึ่งปีแล้วที่จีมินจากไปและใกล้จะครบหนึ่งปีที่จินยองจากไปเหมือนกัน แบมแบมเพิ่งได้ถ่ายรูปกันเพื่อนร่วมชั้นเสร็จแล้วจากนั้นก็แวะไปร้านดอกไม้ที่มาเปิดใกล้ๆโรงเรียนก่อนจะตรงมาที่นี่ทันที
วันนี้หิมะเริ่มจะตกหนักกว่าเมื่อวันก่อนๆจนทำให้รอบๆเต็มไปด้วยหิมะ รอยรองเท้าผ้าใบยังฝังอยู่บนหิมะจนเป็นทางแต่ความหนาวเหน็บก็ทำอะไรแบมแบมไม่ได้เพราะตอนนี้เขาไม่ใช่มนุษย์อีกแล้ว
มันเกิดขึ้นเมื่อห้าเดินก่อนตอนที่เขาเดินทางไปส่งวอนพิลกับไบรอันที่สนามบินพร้อมยูคยอม เขาถูกรถชนตอนขากลับขณะที่แวะข้ามฝั่งไปซื้อของใช้ในเมืองก่อนจะถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล แบมแบมหลับไปเกือบสามวันก่อนจะฟื้นขึ้นมาแล้วรู้สึกไม่ปกติ ไม่รู้สึกว่าตัวเองเป็นมนุษย์แถมเขายังทำให้พวกหมอแตกตื่นที่สามารถเดินได้หลังจากโคม่าอยู่สามวัน
หลังจากกลับมาที่มิททีก็ไปที่โรงพยาบาลของพวกแวมไพร์และตรวจดูทุกอย่างอีกครั้งตามคำแนะนำของนิชคุณ ผลออกมาคือเขาคือมิททีเต็มตัวไปแล้ว
“ตอนนี้ฉันกลายเป็นมิททีแล้วนะแต่ว่าเธอคงรู้แล้วเพราะเธอดูฉันจากข้างบนฟ้านั่นใข่ไหมจีมิน” แบมแบมพูดแล้วยิ้มกว้าง
“แถมเจ้าซื่อบื้อนี่ยังเป็นแฟนฉันแล้วด้วย” ยูคยอมที่เพิ่งมาถึงโอบไหล่เล็กยักคิ้วให้เล็กน้อยแล้วหันไปมองป้ายหลุมศพสีเทาอ่อน “ทำไมมาไม่เรียกฉันเลยมัวให้ฉันไปถ่ายรูปกับพวกผู้หญิงที่ห้องอยู่ได้ ให้ตายสิตัวพวกเธอฉุนเป็นบ้า” ยูคยอมบ่น
“ก็ต่อไปพวกเธอก็จะไม่ได้เห็นคุณแล้วนี่” แบมแบมตอบแล้วหัวเราะเมื่อยูคยอมทำหน้าเหมือนว่าคำตอบนั่นช่างน่าเบื่อ
แปดเดือนก่อนหลังจากมาร์คไปอเมริกาและทุกคนต่างแยกย้ายไป แบมแบมกลับไปเรียนที่เซนต์ดิมิทรีตอนเปิดเทอมหลังจากนั้นหนึ่งเดือน เพื่อนๆหลายคนถามหาจีมินตั้งแต่เปิดเทอมจนอาจารย์ต้องบอกว่าเธอย้ายไปเรียนต่างประเทศ ส่วนยูคยอมก็ไม่ค่อยมาเรียนตามปกติสักเท่าไหร่แต่โชคดีชยอนูย้ายเข้ามาเรียนเกรดสิบสองตอนที่แบมแบมกำลังขึ้นเกรดสิบสองพอดี ถึงจะอายุห่างกันแต่ชยอนูเรียนช้าทำให้ตอนนี้ชยอนูคือคนที่นั่งข้างๆเขาแทนจีมิน
ชยอนูเรียนเก่งมากนั่นคือสิ่งที่แบมแบมรู้หลังจากได้เรียนด้วยกัน บ่อยครั้งที่ชยอนูมักจะชวนเขาไปทำการบ้านที่ร้านนิชคุณและแบมแบมก็ไปช่วยนิชคุณบ่อยๆจนโดนแซวประจำว่าตัวติดกับชยอนูเหมือนเป็นแฟนกัน ขนาดพวกมิททีกับพวกพ่อมดบางคนยังลือกันว่าเขาสองคนคบกัน
เรื่องมันเริ่มจากตรงนั้น
ข่าวลือว่าแบมแบมกับชยอนูคบกันมันกลายเป็นวงกว้างทั้งในโลกมนุษย์และแวมไพร์ เวลาที่พวกเขาไปไหนมาไหนด้วยกันสองคนก็จะโดนแซวจากคนนู้นคนนี้ แรกๆแบมแบมก็ปฏิเสธแต่หลังๆก็คิดว่าเดี๋ยวคนก็เลิกลือกันไปเองแต่นั่นเป็นความคิดที่โง่มาก ข่าวลือยิ่งเหมือนว่าจริงเข้าไปอีกเมื่อเขาไม่ปฏิเสธ
จนวันหนึ่งแบมแบมกำลังไปหาชยอนูที่ลานน้ำพุเพื่อชวนไปฝึกแต่ว่าดันเจออะไรที่ทำให้แปลกใจนิดหน่อย เพราะเขาเห็นชยอนูกำลังจูบกับฮยองวอน ถึงได้รู้ว่าความจริงสองคนนั้น เอิ่ม…อาจจะใจตรงกัน
แบมแบมกลับหอทันทีเพราะไม่อยากถูกจับได้และทำลายบรรยากาศสีชมพูของสองคนนั้น ไม่รู้ทำไมเขาโล่งใจที่ชยอนูไม่ได้คิดกับตัวเองเกินเลยกว่าพี่น้อง มันเหมือนปลดแอกอะไรสักอย่างภายในใจจนต้องร้องวู้ออกมาตอนเดินกลับหอ
“ฉันเคยบอกนายว่าอย่าอยู่ใกล้ชยอนูนายเลยคบกับมัน!” ยูคยอมตะคอกเสียงดังแล้วดันตัวแบมแบมชิดกำแพง
ดวงตาคมนั่นเหมือนทั้งโกรธและผิดหวังตอนที่มองมาที่แบมแบม จากนั้นปากหยักก็ประกบจูบริมฝีปากอิ่ม บดขยี้ ฟัดจูบ จนได้รสเฝื่อนๆของเลือดมันทั้งขมปร่าและกลิ่นของนิโคตินคลุ้งไปทั่วโพรงปากเล็ก แบมแบมแทบจะตายตอนที่ยูคยอมไม่ยอมปลดปล่อยให้เขาเป็นอิสระ กว่าจะรู้ตัวก็ตอนที่แผ่นหลังราบไปกับเตียงนอน
เสื้อผ้าถูกปลดเปลื้องออกจนเปลือยเปล่าทั้งท่อนบนและท่อนล่างเหลือแค่อันเดอร์แวร์ตัวจิ๋วทั้งๆที่ปากยังคงจูบกัน มือเล็กถอดเสื้อยูคยอมออกแล้วโยนมันทิ้งพร้อมทั้งปลดเข็มขัดและรูดซิบกางเกงหนังสีดำ
“ผมไม่ได้คบกับพี่ชยอนูและผมจะทำให้คุณรู้ว่าคุณน่ะมันโง่กว่าที่คิด” พูดจบแบมแบมก็สลับตัวขึ้นมานั่งบนตักยูคยอม ปากเล็กจูบลงที่ข้างแก้มสากของยูคยอมไล้ลงมาจนถึงซอกคอก่อนจะดูดเม้มมันจนเป็นรอยแดงไปทั่วคอ
CUT
ดวงตาสีเข้มมองแบมแบมที่กำลังยิ้มแต่ดวงตากลมโตกำลังปรือเพราะสิ้นฤทธิ์จากการรสรักที่เขาปรนเปรอจนทิ้งร่องรอยไว้ทั่วร่างกาย
“ผมชอบคุณ” เสียงแผ่วเบาออกมาจากปากอิ่มที่บวมเจ่อ คนที่กำลังจะหลับคาดหวังกับคำตอบของยูคยอมด้วยการฝืนมองร่างสูงที่กำลังก้มต่ำลงมา
“ฉันก็เหมือนกัน” เขากระซิบข้างหูของคนใต้ร่างแผ่วเบา
หลังจากวันนั้นทั้งสองคนไม่ได้พูดอะไรอีกแต่แค่แบมแบมสบตาที่กำลังจ้องมองมาเขาก็รู้คำตอบ ยูคยอมไม่เคยบอกว่าเขาเป็นคนรักเหมือนที่แบมแบมเองก็ไม่ได้คิดว่าการที่คนอื่นรู้ว่าเขากับยูคยอมเป็นมากกว่าคนรู้จักมันจะทำให้ทุกอย่างมีความหมาย แบมแบมพอใจกับการเป็นแบบนี้ ความสัมพันธ์ที่ไม่มีชื่อเรียกแต่ทว่ามันให้ความสุข
ยูคยอมนั่งอยู่บนป้ายสุสานของใครสักคนที่ตายแล้วและเขาก็ไม่ได้สนใจจะรู้จักเจ้าของชื่อที่เป็นร่างฝังอยู่ในดินด้วยซ้ำ ส่วนตรงหน้าคือแบมแบมที่กำลังมองมาที่เขา ยูคยอมรู้สึกแปลกๆที่เมื่อก่อนตรงที่แบมแบมนั่งเคยเป็นที่ของมาร์ค เพราะมาร์คชอบมาตามเขาที่นี่ประจำและก็จะนั่งคุยกันจนบางทีก็สว่าง
“ผมจะถามคุณนานแล้ว” แบมแบมพูดแล้วถกแขนเสื้อเชิ้ตขึ้น “ความหมายของรอยสักนี่คืออะไรหรอครับ”
รอยสักรูปนกที่แบมแบมไปสักมาวันนั้นและหลังจากนั้นเขาก็ไปสักที่หลังมาอีกเป็นรูปขนนก ยูคยอมชอบลูบมันเวลาที่เขามีเซ็กซ์กันยูคยอมจะจูบมันเบาๆและพูดว่ามันสวยและเหมาะกับเขา
“ฉันแค่อยากให้นายรู้ว่า นายควรทำตัวอิสระให้เหมือนนกที่กำลังบินอย่าไปขังตัวเองจากสิ่งที่นายเป็นตอนนี้ก็แค่นั้น” ยูคยอมตอบ
“แล้วที่คุณบอกว่าเพิ่งไปสักมาเพิ่มล่ะ คุณไปสักรูปอะไรมา”
ยูคยอมหัวเราะเบาๆ
“มาดูสิที่หลังหูฉัน”
แบมแบมลุกขึ้นแล้วเดินไปใกล้ๆยูคยอมและมองดูรอยสักข้างหลังใบหูของยูคยอมด้วยความสงสัย ก่อนจะยิ้มกว้างออกมาเมื่อเห็นมันชัดๆ
BAM’S
(End)
talk;
ยังมีสเปเชียลยองแจนะคะ แต่จบแล้วทุกคู่ในนี้ ไม่รวมตอนพิเศษในเล่ม ขอบคุณที่อ่านค่ะ :))
เปิดจองและปิดโอนหนังสือถึง21กันยายน 2558 ใครอยากได้ยังสั่งได้นะคะ (คลิก) ไม่มีรีปริ้นท์นะคะฟิคเรื่องนี้
ขอบคุณที่ติดตามค่ะ แท็ก #ฟิคยบ99
ความคิดเห็น