ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Black N Blue (Yuri)

    ลำดับตอนที่ #26 : Black N Blue❖Everything started from 'force' 25

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.02K
      51
      7 ก.พ. 63

    คำเตือน :: บางช่วงบางตอนมีความรุนแรง เนื้อหาไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาหลักของตัวเกมแต่อย่างใด ฉากที่มีเนื้อหาเรท R จะไม่อัพลงเด็กดี โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน


    Song :: ZAYN - Dusk Till Dawn


    EPISODE25

    Alternative Universe 01Everything started from 'force'


    "อันนา ที่นี่มีอันใดเกิดขึ้นรึเปล่า" ลอเรียลเพ่งสายตามองไปยังหมู่บ้านแห่งหนึ่งที่เหมือนกำลังวุ่นวายเอามากๆ

    อันนาที่กำลังจับมือเธออยู่มองตามไป ก่อนที่เราสองคนจะสังเกตเห็นเด็กสาวคนหนึ่งที่อายุประมาณสิบเจ็ดหรือสิบแปดพร้อมกัน

    นางถูกขังอยู่ในกรง ท่าทางไม่เหมือนชาวบ้านธรรมดาทั่วไป ดูสูงศักดิ์จนแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่จะถูกจับแบบนั้น

    "ลอเรียล เราไม่ต้องไปสน..."

    "เราช่วยนางได้ไหม" เธอพยายามอ้อนอันนาตาใส อะไรบางอย่างบ่งบอกว่าเธอควรช่วยเด็กสาวที่อายุเยอะกว่าเธอคนนั้นไว้ "นะ"

    อันนาทำหน้ายุ่งเหยิง ส่วนเธอแอบหัวเราะคิกคักในใจเพราะรู้ดีว่านางปฏิเสธเธอไม่ลงหรอก

    "ก็ได้ลอเรียล เดี๋ยวข้าไปคุยกับพวกชาวบ้านแล้วนำเรื่องขึ้นทูลต่อองค์ราชินีของที่นี่" นางกล่าวก่อนปล่อยมือเธอ เดินไปยังกลุ่มชาวบ้านพวกนั้น และใช้เวลาไม่นานนางก็ได้กรงขังของเด็กสาวหน้าบอกบุญไม่รับมา โดยการใช้พลังเวทยกกรงขึ้นแล้วก็ตรงมาหาเธอ วางกรงที่ขังเด็กสาวไว้ลงตรงหน้า

    "ท่านไปเถอะ เดี๋ยวข้าเฝ้าเอง ไม่มีผู้ใดมาหาเรื่องข้าหรอก" เธอพยักหน้า

    "ข้าไปเพียงครู่เดียว" อันนากำชับ พึมพำอะไรบางอย่างประมาณว่า 'ท่านอิลูเมียทราบต้องคอขาดแน่ๆ' และมันทำให้เธอหลุดขำออกมา

    "ท่านมีนามว่าอันใด?" เธอหันไปถามเด็กสาวในกรง หย่อนตัวลงนั่งบนพื้นใกล้ๆ กันโดยไม่กลัวสกปรก

    "ข้าจำเป็นต้องตอบเด็กเล็กเช่นเจ้าด้วยหรือ" นางหยิ่ง

    "ตอบมาเถอะ" ลอเรียลขมวดคิ้ว "ข้าอาจช่วยท่านได้ก็เป็นได้ หากท่านพูด"

    นางเงียบไปสักพัก ตามองเข้าไปในป่า ไกลออกไป

    "คิวบิโนะโยโกะ" เสียงหวานตอบ

    "..."

    "แล้วเจ้าอายุเท่าไหร่ มีนามว่าอันใด" แล้วนางก็ถามกลับมา

    "ข้ามีนามว่าลอเรียล" เธอตอบเสียงใส "อายุเจ็ดขวบ และไม่ใช่เทพแถวนี้ ข้ามาจากโอลิมปัส ท่านแม่ของข้าอยู่ที่นั่น"

    "โอลิมปัสหรือ" นางขมวดคิ้วแล้วทวนเบาๆ "แล้วเจ้ามาทำอันใดที่นี่"

    "มาเที่ยว" เธอตอบพลางยิ้มขวยเขิน "ข้าอยากให้ท่านอันนาพามาในที่ที่ไกลจากผู้อื่น เพราะนางมักอึดอัดเวลาอยู่กับข้า ต่อหน้าท่านแม่"

    "ฟังดูแก่แดด" คิวบิโนะโยโกะพยักหน้า

    "แล้วท่านทำสิ่งใดถึงโดนจับใส่กรงเช่นนี้เล่า" ลอเรียลถือวิสาสะยื่นปลายนิ้วไปจิ้มแก้ม แล้วก็ได้รับสาบตาขวางๆ มองกลับมา

    "ขโมยขนมปัง ข้าเพิ่งถูกขับไล่ออกจากเผ่า" นางกล่าวอย่างฉุนเฉียว

    "เพราะเหตุใด?" ลอเรียลขมวดคิ้ว

    ถึงจะไม่เข้าใจ แต่ก็เข้าใจว่ามันคือการถูกไล่ออกจากบ้าน

    "เพราะข้าแข็งแกร่งเกินกว่าที่เจ้าพวกต่ำต้อยจักรับมือไหว" นางยกมือขึ้นกอดอก ยิ้มหยัน ดูถูกทุกอย่างบนโลกใบนี้

    "แล้วเหตุใดท่านถึงมาอยู่ในกรง" เธอย้อนถามกลับไป

    "เพราะข้าหิวจนไม่มีแรงใช้พลังน่ะสิ"

    คำตอบนั้นทำให้ลอเรียลระเบิดหัวเราะออกมาอย่างสุดกลั้น เธอยกมือขึ้นจับกรงแล้วยิ้มยียวน ส่วนคิวบิโนะโยโกะใบหน้าแดงจัดด้วยความอับอาย นางกัดปากแล้วสะบัดหน้าไปทางอื่น

    "ท่านน่ารักนะ" เธอยิ้มตาหยี

    "..."

    "ข้าไม่เคยมีพี่สาวเลย"

    "เหรอ? แล้วอยากให้คนอย่างข้าเป็นพี่สาวให้เจ้าหรือไง" นางแขวะ ยังคงงอนอยู่ที่เธอหัวเราะออกมาอย่างกลั้นไม่ไหว

    "ย่อมได้ หากท่านต้องการ" เธอยิ้มกว้าง

    "..."

    "แต่เป็นความลับนะ ไม่ต้องบอกใคร เพราะเราคงไม่เจอกันบ่อยนัก กลับมาเจอกันอีกครั้งท่านคงลืมเลือนข้าไปหมดแล้ว"

    ได้ยินเสียงหัวเราะ หึ ในลำคอเบาๆ นัยน์ตาสีเทากับผมสีขาวบริสุทธิ์ขับใบหน้าให้ดูโดดเด่นในความทรงจำ

    "งั้นมาดูกัน ว่าน้องสาวอย่างเจ้าจพพาข้าออกไปจากตรงนี้ได้หรือไม่"

    "สบายมาก" เธอพยักหน้า "แต่ท่านต้องให้สัตย์สาบานกับข้าว่าจักไปขอโทษพวกชาวบ้านที่ท่านขโมยขนมปัง คนเราทำสิ่งใดไว้ก็ควรขอโทษ เข้าใจหรือไม่"

    "เข้าใจ" นางตอบรับอย่างกระแทกกระทั้น แต่เธอกลับมองว่ามันคือความเขินอายเสียมากกว่า

    "ดี ข้าจะนำท่านออกมา" ลอเรียลใช้พลังเวทเล็กๆ น้อยๆ ที่ตนเองสามารถทำได้ทำลายกุญแจของกรงขัง ก่อนยื่นมือไปให้นางจับเพื่อให้นางสามารถพยุงตัวเองออกมาได้

    "ขอบใจ ลอเรียล" คิวบิโนะโยโกะกระซิบ มือเรียวลังเลที่จะวางลงบนศีรษะของเธอ

    เพราะแบบนั้นลอเรียลเลยไถศีรษะไปกับมือนางอย่างออดอ้อน ก่อนหัวเราะเสียงใสเมื่อนางทำสีหน้าไม่ถูก แต่สุดท้ายก็ยิ้มออกมาบางๆ

    เพราะเหตุใดก็ไม่ทราบ ลอเรียลถึงหลงรักคิวบิโนะโยโกะเข้าเต็มเป้า

    แต่ไม่ใช่ความรักแบบที่เธอมีให้อันนา

    ...ไม่เหมือนเลยแม้แต่นิดเดียว

    — ลอเรียล, เจ็ดขวบ


    ลิเลียน่ากำลังฝัน ราวกับถูกมนต์สะกดไว้ว่าให้หลับ ในความฝันเธอลืมตาขึ้นมาแล้วสังเกตเห็นสตรีสองคนนั่งอยู่ด้วยกัน ตรงข้ามเธอ ทั้งสองต่างก็มีใบหน้าที่เหมือนกันราวกับฝาแฝด ต่างกันแค่สีผมและสีตาเท่านั้น

    "พวกท่านทั้งคือนิกซ์กับเฮเมร่าใช่หรือไม่" เธอกล่าวถามอย่างสำรวม เพราะท่านไวโอเล็ตเคยบอกลักษณะภายนอกทั้งสองมาคร่าวๆ และตรงกับสิ่งที่เธอเห็นตอนนี้

    "ใช่" เสียงแข็งกร้าวตอบกลับมาจากหญิงสาวผมดำ นางคงเป็นนิกซ์

    ส่วนหญิงสาวผมขาวนั่งเงียบขณะจิบน้ำชาอย่างไม่เป็นเดือดเป็นร้อน

    "มีอันใดกับข้าหรือ" เธอสูดลมหายใจลึก

    หากตามที่ท่านไวโอเล็ตเล่ามา เรื่องที่ทั้งสองสามารถเอามาพูดกับเธอได้คือเรื่องของท่านแม่ลอเรียลไม่ก็ท่านน้าลินดิส ว่ากันว่าเพราะนิกซ์และเฮเมร่าไม่สามารถมีลูกได้ นิกซ์เลยมองลอเรียลเปรียบเสมือนลูกสาวของตนเอง ในขณะที่เฮเมร่าก็มองท่านน้าลินดิสเป็นลูกเหมือนกัน

    "เจ้าต้องช่วยลอเรียล" ประโยคนั้นใช้น้ำเสียงโหดเหี้ยมและมีแต่จิตสังหารในการพูด ลิเลียน่าแทบจะตัวหลีบไปกับเก้าอี้ทีเดียว

    "เกิดสิ่งใดขึ้น" เธอกระซิบถาม

    หากนิกซ์มาเจาะจงพูดกับเธอ แทนที่จะเอาไปพูดกับองค์ราชินีอิลูเมียหรือท่านแม่อันนาแสดงว่าเรื่องนั้นต้องมีเธอเป็นต้นเหตุแน่

    "ลอเรียลไม่ได้รักเจ้า" นิกซ์เอ่ยประโยคหนึ่งที่เธอรู้อยู่แก่ใจแล้วออกมา

    "ก็...ข้ารู้แล้ว" เธอยิ้มเจื่อน โดนย้ำหลายรอบทั้งที่รู้อยู่แก่ใจแล้วก็ไม่ใช่สิ่งที่ทำใจรับได้เท่าใดนัก ในใจเธอรักท่านแม่ลอเรียลมาก นางเป็นแม่ของเธอ แม่ผู้ให้กำเนิด ทำไมเธอจะต้องไม่รักเพราะสิ่งที่นางพยายามทำกับเธอและอารัมด้วย

    "ข้าหมายถึงนางไม่ได้รักเจ้าแบบลูก" นิกซ์กรอกตาไปมา มองเธอเหมือนเป็นคนโง่ "นางรักเจ้าแบบพี่สาว"

    "พี่สาวหรือ" ลิเลียน่าขมวดคิ้ว "ข้าไม่เคยเป็นพี่สาวของนาง"

    "..."

    "ข้ากับนางเราไม่เคยรู้จักกัน"

    "ใช่เหรอ" นิกซ์ยิ้มดูแคลน นางลุกขึ้นยืนเต็มส่วนสูงก่อนยื่นปลายนิ้วชี้มาสัมผัสกับหน้าผากของเธอ ส่งเหตุการณ์บางอย่างไหลย้อนเข้ามาในหัวเธอโดยตรง เธอชะงักขณะที่ค่อยๆ ซึบซาบเรื่องราวจากภาพเหล่านั้น ก่อนที่บทสนทนาของคนสองคน หรือก็คือนิกซ์กับท่านแม่ลอเรียลกำลังคุยกันดังขึ้นในหัว

    'ท่านนิกซ์ ครานี้พี่สาวของข้ากำลังมีปัญหา'

    '...'

    'อยู่ในอีกซีกมุมหนึ่งของโลก'

    'ผู้ที่อันนามาขอให้เจ้าตั้งครรภ์นางหรือ'

    'ใช่ แต่ข้าไม่ได้อยากตั้งครรภ์นาง นางเป็นพี่สาวของข้า ข้าไม่ได้ต้องการให้นางมาเป็นลูก ข้าอยากไปช่วยนางด้วยตนเองแต่ไม่มีผู้ใดยินยอม ข้าเจ็บปวด...ที่ต้องทราบว่านางกำลังจะตาย'

    '...'

    'นางเป็นคนนอกครอบครัวที่ข้ารักอย่างแท้จริงคนแรก นางน่ารัก ท่านนิกซ์ และผู้ใดก็ตามที่ทำให้นางเจ็บมันต้องเจ็บกว่าร้อยเท่า'

    'แล้วตอนนี้เจ้าจะทำอย่างไร'

    'ไม่รู้...ข้าไม่รู้เลย'


    เธอนิ่งเงียบ ความจริงก็คือ...เธอจำเด็กผมทอง ตาสีฟ้า และท่าทางขี้อ้อนจัดคนนั้นไม่ได้แล้วด้วยซ้ำ

    "หลังจากเจ้าถูกพาตัวออกมา ลองเรียลไปที่แห่งนั้นแล้วทำลายสัญญาทาสให้เจ้า นางต่อรองกับอามาเทราสุโดยการยกเจ้าให้เพื่อให้สุริยะเทพีตายใจแล้วยอมเปิดโอกาสให้นางเข้าออกดินแดนแห่งนั้นโดยไม่ต้องขึ้นตรงต่อผู้ใด แน่นอน ว่าการเข้าไปทำลายก็เป็นการท้ารบกับอามาเทราสุโดยตรง"

    "ท่านจะบอกว่าพวกนางสู้กันหรือ" เธอถามเสียงตื่นตระหนก ทราบดีถึงขีดจำกัดพลังของสองคนนั้น "ท่านแม่บาดเจ็บมากหรือไม่"

    "มาก แต่นางก็ได้รับการรักษาเบื้องต้นไปแล้ว" นิกซ์ยกมือขึ้นกอดอก "ส่วนอามาเทราสุก็เจ็บหนักเหมือนกัน"

    "แต่ท่านยังไม่ตอบข้าเลยว่าเกิดสิ่งใดขึ้นกับท่านแม่ลอเรียล" เธอขมวดคิ้ว

    "นางโดนอิลูเมียกับอันนาขังไว้ในมิติส่วนตัว...เพื่อให้สำนึกผิดกับสิ่งที่ทำลงไปกับเจ้า แต่เจ้าลูกหลานโง่เง่าไม่ได้ทราบเลยว่าความจริงเป็นมาเช่นไร" มีเปลวเพลิงสีดำทมิฬก่อตัวขึ้นในดวงตาสีโลหิตของนิกซ์อย่างเงียบเชียบเมื่อนางกล่าวถึงเรื่องนี้ เธอคิดว่านางคงโกรธมากจริงๆ "และลอเรียลเกลียดการโดนกักขังที่สุด อีกไม่นานนางต้องอาละวาดเป็นแน่"

    "หากท่านแม่ลอเรียลอาละวาด..." เธอกลืนน้ำลายลงคอ จินตนาการในหัวน่ากลัวเกินบรรยาย

    "พังพินาศกันหมดแน่ๆ" เฮเมร่ายิ้มแย้มไร้ความวิตกกังวล

    "เจ้าหยุดยิ้มเสียทีได้ไหม" นิกซ์กรอกตาไปมา

    "ก็ลินดิสของข้าไม่ได้ลำบากอันใด ต่อให้เป็นลอเรียลที่อาละวาด นางก็มีคนรักคอยปกป้องจนไม่อาจมีแม้แต่รอยขีดข่วนอยู่ดี" เฮเมร่ายักไหล่ นัยน์ตาสีทองเย็นชาหันมามองลิเลียน่า "เจ้าควรรีบไปห้ามแม่ของเจ้า"

    "..."

    "มีแค่เจ้าคนเดียวที่ทำได้"

    "ไปซะ" นิกซ์ไล่ทางสายตา

    ลิเลียน่ากลืนน้ำลายลงคอเพราะรู้สึกลำคอแห้งผากไปหมด เธอยังเห็นว่าทั้งสองมีท่าทีเหมือนกำลังจะทะเลาะกันตอนที่เธอเลือนลางไปจากความฝันนั้น

    เธอสะดุ้งเฮือกขณะกระพริบตามองเพดานห้อง ราวกับกำลังถูกดึงวิญญาณเสียแบบนั้น หลังจากตั้งสติและควบคุมอัตราการเต้นของหัวใจไม่ให้รุนแรงเกินไปได้เธอก็เหลือบมองข้างตัวเมื่อรู้สึกถึงความหนักที่แขนขวา

    อารัมกำลังนอนหนุนแขนเธออยู่ ไม่ได้เบียดเข้ามาใกล้เกินไปนัก อาจเพราะกลัวเธอเจ็บก็ได้

    เธอพ่นลมหายใจขณะระบายรอยยิ้ม พลิกตัวหันไปเพื่อกอดน้องเอาไว้ในอ้อมแขน การอยู่ด้วยกันแบบนี้ทำให้เธอรู้สึกปลอดภัยมากกว่าสิ่งใดทั้งหมด หากไม่กลัวน้องตื่นเธอคงจับนางจูบด้วยความคิดถึงไปแล้ว

    เหมือนเธอเพิ่งไปลงนรก แล้วกลับขึ้นสวรรค์

    แม่นางฟ้าตัวน้อยของเธอ

    ลิเลียน่าแทบลืมความกังวลไปทั้งหมดตอนที่เตรียมจะหลับอีกรอบ

    แต่...

    เสียงระเบิดอะไรบางอย่างดังขึ้นจนเธอสะดุ้งเฮือก แม้แต่อารัมก็ลืมตาโพลงขึ้นมาแทบจะทันที เพราะเสียงมันดังแสบแก้วหูมากจนต้องตื่น

    ลิเลียน่าขยับตัวออกแล้วมองไปทางหน้าต่าง ใบหน้าซีดเผือด ทราบแล้วว่าเกิดสิ่งใดขึ้น เพราะทิศทางนั้นคือโอลิมปัสไม่ผิดแน่

    "อารัม เดี๋ยวพี่กลับมา น้องนอนรอไปก่อน" เธอลุกขึ้นหยิบเสื้อผ้าในตู้มาใส่โดยไม่สนใจความเจ็บปวดของตัวเอง อารัมใช้มือขยี้ตาสองสามทีก่อนจับแขนของเธอไว้แน่น นางมีสีหน้าไม่สู้ดีนัก

    "ไม่ พี่ต้องมีน้องไปด้วย ลิเลียน่า" น้ำเสียงสั่นกลัวทำให้เธอใจอ่อนยวบ

    "แต่ต้องอยู่ข้างหลังพี่ตลอด โอเค้?" เธอจุมพิตลงบนแก้มนุ่ม ก่อนฉุดให้อารัมตรงไปยังโอลิมปัสด้วยกัน

    เมื่อมาถึง ทุกสิ่งที่เธอเห็นคือความพังพินาศอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในหน้าประวัติศาสตร์ พระราชวังโอลิมปัสที่ยิ่งใหญ่พังทลายจนไม่เหลือแม้แต่ซาก โดยฝีมือของสตรีนางหนึ่งที่อยู่ในร่างเทพเจ้าและกำลังอาละวาดอย่างไร้สติ

    "ท่านแม่ลอเรียล..." อารัมตกใจกับภาพที่เห็น

    ไม่ได้มีแค่ลิเลียน่ากับอารัมที่ตรงมายังโอลิมปัสเพราะตกใจกับการระเบิดที่รุนแรง

    พวกเทพองค์อื่นต่างก็ยืนกระจายอยู่แนวรอบเป็นวงกลม ใช้พลังของพวกเขาสร้างอาณาเขตขนาดใหญ่ขึ้นมาเพื่อไม่ให้พลังที่แผ่กระจายปกคลุมรอบร่างกายของท่านแม่ลอเรียลทำให้แผ่นดินในปกครองของโอลิมปัสอันตรธานหายไป

    ในขณะที่เทพองค์อื่นรวมใจกันสร้างอาณาเขต ก็เหลือสองผู้กล้าหาญที่ยังอยู่ในอาณาเขตนั้นเพื่อเกลี่ยกล่อมท่านแม่ลอเรียล

    ท่านแม่อันนากับองค์ราชินีอิลูเมีย

    เธอไม่ได้ยินสิ่งที่ทั้งสองพยายามคุยกับท่านแม่ลอเรียล แต่...สภาพทั้งสองก็บ่งบอกอยู่แล้วว่าหยุดท่านแม่ลอเรียลไม่ได้เลย

    "ท่านพี่ เราสองคนควรเข้าไปห้าม" อารัมเขย่าแขนเธออย่างใจเสีย

    ลิเลียน่ามึนหัว ความเหนื่อยล้ายังแฝงอยู่ทุกอณูของร่างกาย

    "อย่าเลย" เสียงของท่านน้าลินดิสดังขึ้นเมื่อนางขยับตัวมายืนอยู่ข้างๆ เราตอนไหนก็ไม่ทราบได้ "เป็นอันตรายต่อพวกเจ้าเสียเปล่าๆ ท่านพี่ลอเรียลไม่ฟังผู้ใด สิ่งที่เราทำได้คือการรอให้นางสงบลงเสียก่อน"

    "..."

    "เจ้าเห็นสภาพท่านอันนาหรือไม่ หากนางไม่ได้พลังความมืดที่มือซ้ายคอยช่วยกันพลังของท่านพี่ลอเรียล นางก็คงคอขาดไปนานแล้ว"

    ลิเลียน่าเม้มริมฝีปาก "ข้าต้องเข้าไปภายใน ไม่เช่นนั้นต้องมีใครสักคนต้องตายแน่"

    "ก็ตายกันไปหลายศพแล้ว จากการระเบิดโอลิมปัสจนพังทลายภายในครั้งเดียวของนาง" ท่านน้าลินดิสกระซิบ นางดูกังวล แต่เหมือนถูกคุมเชิงไม่ให้เข้าไปช่วย ท่านน้าไม่ได้มีพลังเวทที่จะสามารถคอยช่วยเหลือผู้อื่นได้ "และข้าก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้ การจะส่งกาลีไปช่วยก็เหมือนกับการโหมความพังพินาศให้มากขึ้นไปอีก"

    กาลีที่ท่านน้าลินดิสกล่าวถึงเป็นคนรักของนาง

    เธอตัดสินใจแล้ว ครั้งนี้เธอเปลี่ยนเป็นร่างที่แท้จริง

    ร่างเทพเจ้า

    แต่เธอไม่ได้ไปเพื่อสู้ เธอไปเพื่อช่วย

    เข้าใจอย่างแท้จริงแล้วว่าเหตุใดท่านแม่ลอเรียลถึงแสดงท่าทางเช่นนั้น นางไม่เห็นด้วยเรื่องของเธอกับอารัมก็จริง แต่หากเธอกับอารัมรักกันจริง นางย่อมรับได้ แต่อีกเหตุผลหนึ่งก็คือความคิดของนางถูกตรึงให้ก่ำกึ่ง ระหว่างเธอที่เคยเป็นพี่สาวของนาง กับเธอที่เป็นลูกสาวของนาง

    'คนเราทำสิ่งใดไว้ก็ควรขอโทษ' 

    "อารัม ปล่อยพี่เถิด" ลิเลียน่าเหลือบมองอารัมที่ยึดแขนเธอไว้แน่น นัยน์ตาของน้องวูบไหว "พี่จะไปช่วยท่านแม่ และจะกลับมา ไม่ต้องห่วงไป พี่สาบาน"

    "คำสาบานของท่านไม่มีผลอะไรกับข้าหรอก ลิเลียน่า ได้โปรดอย่าเข้าไป" อารัมส่ายศีรษะ

    เธอเข้าใจเหตุผลของอารัมดี ไม่มีผู้ใดอยากเห็นคนสำคัญต้องเจ็บปวด

    "พี่ไม่ได้สาบานในฐานะพี่สาว" เธอก้มลงไปกระซิบข้างหูของนาง...

    "..."

    "พี่สาบานในฐานะคนรัก ว่าพี่จะกลับมาโดยปลอดภัย"

    อารัมเม้มริมฝีปากแน่น นางหลุบสายตามองลงไปเบื้องล่าง ก่อนที่นิ้วที่กำแขนของเธออยู่จะค่อยๆ คลายออกอย่างเชื่องช้า

    "พี่รักน้องมาก รู้ไหม" ลิเลียน่ารู้ดีว่ามันไม่ใช่เวลา เธอกระซิบคำพูดนั้นแล้วหันหลังตรงเข้าไปในอาณาเขต เทพหลายองค์ขมวดคิ้วมองเธออย่างไม่พอใจ พวกเขาคงคิดว่าเธอกำลังเอาชีวิตไปทิ้ง

    "ลิเลียน่า..." ท่านแม่อันนาเบิกตากว้าง ในสายตาเศร้าสร้อยอย่างถึงที่สุด "กลับออกไปเดี๋ยวนี้!"

    เธอส่ายศีรษะเป็นการปฏิเสธ ก่อนตรงไปท่านแม่ลอเรียล สายตาเลื่อนลอยหันมามองเธอ ตามมาด้วยคลื่นพลังรุนแรงจะตรงเข้ามากระแทก แต่เธอก็ยอมให้ตัวเองบาดเจ็บเล็กน้อยขณะเข้าไปถึงตัวของนาง

    "ท่านแม่" เธอกระซิบเรียกนาง ขณะจับแขนเรียวบางของนางเอาไว้

    "..." ไม่มีเสียงตอบรับ

    เธอตัดสินใจกลับสู่ภาพลักษณ์ของคิวบิโนะโยโกะเสี้ยววินาทีหนึ่งเพื่อดึงสติของนาง

    "ลอเรียล พี่ขอโทษ" เธอดึงนางเข้ามากอดไว้ "ขอโทษที่พี่บังคับให้ลอเรียลช่วยเหลือพี่ ขอโทษที่ต้องใช้ความรักบีบบังคับให้เจ้าไม่เหลือทางเลือกเลย"

    เกิดปฏิกิริยาต่อต้านเล็กๆ เมื่อนางพยายามทำร้ายเธอ แต่เธอเกร็งตัวไว้แล้วพูดต่อ

    "ข้าสมควรได้รับสิ่งที่เจ้าลงโทษ และได้โปรด...ให้อภัยข้าได้ไหม" ครั้งนี้เธอไม่ใช้คำว่าพี่ หรือน้องในการคุยกับนาง เธออยากให้เราคุยกันแบบไร้ซึ่งความสัมพันธ์ใดๆ และอยากให้นางปล่อยวางกับความคิดยุ่งเหยิงในหัว

    ได้ผล นางนิ่งไป ก่อนค่อยๆ เปลี่ยนตัวเองเข้าสู่ร่างมนุษย์ ลิเลียน่าเองก็ทำแบบนั้นเหมือนกัน

    ได้ยินเสียงร้องไห้สะอึกสะอื้น อ้อมแขนที่ทำร้ายเธอเมื่อครู่เปลี่ยนมากอดรัดเธอไว้แน่น เมื่อสถานการณ์เริ่มคลี่คลายเทพที่คอยสร้างอาณาเขตป้องกันไว้ก็จัดการคลายอาณาเขตออก

    เธอกอดท่านแม่ลอเรียลไว้แน่นแล้วมองสบตากับท่านแม่อันนาโดยไม่พูดอะไร

    "ตอนนี้ข้าคือลูกสาวของท่าน" เธอกระซิบข้างใบหูนาง "ไม่ใช่พี่สาวของท่าน"

    "..."

    "ท่านต้องรับให้ได้ และได้โปรด...รักข้าเหมือนเดิม"

    อ้อมกอดที่แน่นขึ้นเป็นการตอบรับได้ดีกว่าสิ่งใดๆ

    ท่านแม่อันนาเข้ามาใกล้เราแล้วรับท่านแม่ลอเรียลไปกอด

    "อย่าลืมขอโทษกับสิ่งที่ท่านและองค์ราชินีทำร่วมกัน" เธอเตือน คิดว่าท่านแม่ลอเรียลต้องโกรธท่านแม่อันนามากแน่ๆ

    ดูเป็นคู่รักที่รักกันดีแต่มีปัญหามากที่สุดในโลกจริงๆ


    "ลิเลียน่า แน่ใจหรือว่าพี่จะทำเช่นนี้"

    อารัมถามเธออย่างไม่แน่ใจนักเมื่อเราสองคนกำลังเดินเข้าไปในห้องของท่านแม่ทั้งสอง นี่ก็เกือบอาทิตย์แล้วหลังจากวันที่ท่านแม่อาละวาดวันนั้น และเพราะโอลิมปัสพังไปแล้วและกำลังสร้างขึ้นใหม่ ท่านแม่ทั้งสอง เทพบางองค์ รวมถึงองค์ราชินีอิลูเมียและท่านวีร่าจึงลงมาอยู่ที่พระราชวังของอารัม

    ท่านน้าลินดิสกับท่านกาลีกลับไปอยู่กันสองคนที่หิมพานต์

    ส่วนทูเลน เธอให้เขาไปอยู่กับมูราจ

    "แน่ใจ" เธอกระชับมือที่จับมือน้องสาวไว้แน่น "ถึงเวลาขออนุญาตอย่างถูกต้อง"

    ถึงพวกเราจะอยู่ด้วยกันที่นี่ แต่ลิเลียน่าก็ไม่เคยพลอดรักอย่างออกนอกหน้าต่อหน้าท่านแม่ทั้งสอง และถึงเวลาที่ต้องพูดตรงๆ เสียที

    แต่เมื่อผลักประตูเข้าไป ก็พบว่าไม่ได้มีแค่ท่านแม่ แต่มีท่านอิลูเมียและท่านวีร่าอยู่ด้วย

    แต่รายหลังกำลังหลับอยู่ในอ้อมกอดขององค์ราชินี

    "อยู่กันครบ" อารัมพึมพำ ใบหน้าใกล้ขาวซีด

    "ไม่ต้องกลัว" เธอปลอบใจ

    ท่านแม่ลอเรียลมองเราด้วยสายตาสงบนิ่ง มองมือที่กุมกันของเรา ก่อนระบายรอยยิ้มออกมา นางพยักหน้าโดยไม่ต้องพูดอะไรเลยด้วยซ้ำ

    ลิเลียน่ายิ้มกว้าง เธอดึงอารัมไปนั่งลงข้างองค์ราชินีและท่านวีร่า

    "ท่านแม่อนุญาตแล้วหรือ" อารัมกระซิบอย่างไม่แน่ใจนัก

    "อื้ม" เธอครางตอบเบาๆ

    ลิเลียน่าคุยกับท่านแม่ไว้แล้ว ปรับความเข้าใจกันแล้ว ต่อจากนี้ไปเธอจะไม่กลับไปที่อีกโลกหนึ่งแล้ว เธอจะอยู่ในที่ที่เธอควรอยู่ อยู่กับคนที่รักเธอ และคนที่เธอรัก

    เธอขอโทษกับทุกอย่างที่เคยทำไว้ ขอโทษอามาเทราสุที่เคยก่อกวนสวรรค์ นางไม่ได้รักเธอมานานแล้ว แต่ทุกอย่างที่นางทำเพราะความโกรธลึกๆ และนางก็กล่าวขอโทษในสิ่งที่ทำลงไปกับเธอและแม่ของเธอด้วยเช่นกัน

    เธอขอโทษเจสันและถอนหมั้น บอกว่าเธอไม่สามารถรักเขาได้

    ขอโทษมูราจที่ทำลายความหวังและความรักของเขา

    ขอโทษอารัมที่เคยทำตัวแย่ๆ ใส่

    และเธอก็ปล่อยให้ลิเลียน่าคนเก่าที่เต็มไปด้วยความไม่เข้าใจให้ตายไปกับคำขอโทษเล่านั้น

    "ข้าว่าเราควรจัดงานเลี้ยงฉลอง" องค์ราชินีอิลูเมียพูด "เนื่องในโอกาสที่คงไม่มีเรื่องวุ่นวายอันใดอีกเกิดขึ้นในอนาคต"

    "เห็นด้วย" ท่านวีร่าครางรับ

    เธอขมวดคิ้ว นึกว่านางหลับ ที่แท้นางก็แค่ปิดตาไว้เฉยๆ

    อารัมเอนตัวพิงไหล่เธอ

    "แล้วเราควรเชิญใครมาร่วมงาน" ท่านแม่อันนาขมวดคิ้ว

    "ชวนครอบครัวของไวโอเล็ตมาไง ท่านแม่ก็ชวนท่านไอริกับบัตเตอร์ฟลายมาก็ได้" ท่านแม่ลอเรียลเป็นคนตอบ "ท่านก็ชวนเผ่าภูตมาด้วยสิอันนา และเดี๋ยวไว้ข้าไปส่งข่าวให้ลินดิสกับกาลี เผื่อพวกนางอยากเชิญทาร่ากับแอสทริดมา"

    "ทาร่า" ท่านอันนากรอกสายตาไปมาแล้วถอนหายใจ "ข้าเบื่อความมึนของนาง"

    "นางก็คงเบื่อท่านเหมือนกัน" ท่านแม่ลอเรียลแซะ

    ระหว่างที่ท่านแม่ทั้งสองตีกัน หลังจากเพิ่งดีกันได้ไม่กี่วัน องค์ราชินีอิลูเมียหันมาพูดกับเรา

    "พวกเจ้าสองคนอย่ามีลูกเลย ถือว่าข้าขอ" นางกระซิบ "ข้าไม่อยากให้มันวุ่นวายกว่านี้ ถึงเวลาที่โลกนี้จะต้องสงบสุขบ้างแล้ว"

    "เรื่องนั้นอารัมขอข้าไว้แล้ว" เธอกระซิบตอบ

    และได้รับผลตอบแทนโดยการโดนศอกกระแทกน้อยๆ ที่หน้าท้อง

    ที่จริงเราก็ยังไม่เคยกันหรอก เพียงแต่เราสามารถพูดเรื่องนี้กันได้

    มันต้องใช้เวลาปรับตัวสำหรับอารัม และเธอก็ไม่อยากเร่งรัดน้องให้มากนัก

    แค่น้องรักเธอก็ถือเป็นที่สุดของความสำเร็จเธอแล้ว

    ลิเลียน่ายกแขนขึ้นโอบไหล่อารัมไว้ขณะเอียงหน้าผากไปชนกับหน้าผากของนาง ซึบซับบรรยากาศอบอุ่นที่ไม่เคยสัมผัสเอาไว้

    หวังว่าต่อจากนี้ไป จะไม่มีสิ่งใดทำลายครอบครัวของเราได้อีก







    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×