ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Black N Blue (Yuri)

    ลำดับตอนที่ #4 : Black N Blue❖Everything started from 'force' 4

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.95K
      77
      7 ก.พ. 63

    คำเตือน :: บางช่วงบางตอนมีความรุนแรง เนื้อหาไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาหลักของตัวเกมแต่อย่างใด ฉากที่มีเนื้อหาเรท R จะไม่อัพลงเด็กดี โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน


    Song :: Three Days Grace - Fallen Angel


    EPISODE04

    Alternative Universe 01Everything started from 'force'


    "ข้าแนะนำว่าท่านต้องรีบทำให้นางตั้งครรภ์เสียเดี๋ยวนี้ ไม่เช่นนั้น ทารกที่ต้องถูกฆ่าจะไม่ได้มีเพียงหนึ่ง"

    "ข้าทราบดีถึงความจริงข้อนั้น มะกังก้า" อิลูเมียรำพึงรำพันกับตัวเอง เธอเงยหน้ามองหมอยาที่เดินเข้ามาใกล้ เขายื่นยาเม็ดหนึ่งให้เธอ

    "ยาเม็ดนี้จักฟื้นฟูพลังของท่านที่หายไป หากไม่จำเป็นได้โปรดอย่าใช้พลังเกินขีดจำกัดเลย นายหญิง"

    เธอไม่ได้ตอบรับอะไรกลับไป แค่ใส่ยาเม็ดนั้นเข้ามาในปากแล้วกลืนลงคอโดยไม่ได้กินน้ำตาม เมื่อเสร็จสิ้นสิ่งที่ต้องทำที่นี่เธอเลยเดินออกมา คิดอยู่ว่าจะแวะไปหานาตาเลียเพื่อเล่นละครสักฉากดีไหม แต่คิดอีกทีก็พบว่าเธอไม่ไปดีกว่ามาก

    อิลูเมียไม่อยากให้นาตาเลียผิดหวังเหมือนที่วีร่าผิดหวังในตัวเธอมาแล้ว

    เพราะแบบนั้นเธอเลยกลับขึ้นไปยังพระราชวังโอลิมปัส ที่นี่เงียบกริบเหมือนไม่มีใครอยู่ แต่ใช้เวลาไม่นานเธอก็เห็นอันนา

    หญิงสาวร่างสูงโปร่ง ผมสีเงิน นัยน์ตาสีน้ำเงินเข้ม กำลังยืนอยู่ในสวนสวรรค์และมองลงไปบนโลกเบื้องล่าง นางสวมชุดเกราะท่อนบน แต่ท่อนล่างกลับเป็นกระโปรงสั้นวาบหวิวเพื่อให้เหมาะแก่การล่าสัตว์ นางชูธนูขึ้นขณะเล็งตรงไปที่อะไรบางอย่าง

    สัญชาตญาณของเทพีแห่งจันทราไวเสมอ นางหันมามองเธอทันทีที่รู้สึกตัว

    "ท่านอิลูเมีย" นางคำนับเธอ

    "ราชาแห่งทวยเทพไม่อยู่หรือ" เธอกล่าวถาม

    "ไม่อยู่เพคะ คาดว่าคงมิกลับมาเร็วๆ นี้" อันนากระซิบเพื่อให้เราได้ยินกันเพียงสองคน เธอไม่แปลกใจ เขาคงไปติดสตรีนางอื่นอยู่เป็นแน่ แต่เธอไม่ได้คิดเสียเวลาตามหวงตามหึงเหมือนเมื่อหลายร้อยปีก่อนอีกแล้ว

    "หากเป็นเช่นนั้น ข้าขอตัว" เธอกล่าว แต่กลับโดนรั้งเอาไว้

    "เดี๋ยวเพคะ ท่านอิลูเมีย" อันนาเรียกเธอ

    "..." เธอมองใบหน้าสวยสง่าแต่ก็ดูดุดันของนางอย่างสงสัย

    "ท่านจะกลับไปหาราชินีแห่งนรกอเวจีหรือ"

    "เจ้าก็ทราบดีอยู่แล้ว นางคือภารกิจของเรา จะไม่กลับไปหาได้อย่างไร" เธอกล่าวตอบราวกับมันเป็นอะไรสักอย่างที่ไร้สาระมาก

    "แต่ท่านหายไปอยู่ที่นั่นเป็นวัน" อันนาย่นคิ้ว "เหมือนเวลาที่ท่านราชาหายไปหาอิสตรีไม่มีผิด"

    "มันก็ไม่ได้แปลกอะไร" อิลูเมียกล่าวตามความจริง เธอสับสนในตัวเองจนต้องเอ่ยในสิ่งที่คิดอยู่กับนาง "แต่หากข้าแปลกไปอย่างที่เจ้าว่าจริงๆ เจ้าจะยืนอยู่เคียงข้างข้าหรือไม่ อันนา"

    "ท่านหมายความว่า..." นางเบิกตากว้าง แสดงความตกใจออกมาอย่างเปิดเผย

    "เมื่อสามปีก่อนเจ้าก็อยู่กับข้า" เธอเอ่ยช้าๆ "ตอนที่ข้าสนทนากับพระเจ้า"

    อันนามีสีหน้าสับสนไม่แพ้กัน ใช้เวลาสักพักกว่าที่นางจะพยักหน้า

    "ข้าจะยืนอยู่เคียงข้างท่าน ไม่ต้องกังวล ราชินีอิลูเมีย"

    เธอคลี่รอยยิ้มขึ้นมาบนริมฝีปาก บอกลาอันนาแล้วกลับมายังมหาวิหารของตัวเอง เธอมองไปรอบบริเวณก่อนเปิดทางเข้าของมิติ เมื่อเดินเข้าไปมันก็ปิดโดยอัตโนมัติ

    สิ่งแรกที่เธอเห็นหลังจากเดินเข้ามาคือวีร่า แน่นอนว่าหญิงสาวคือสิ่งมีชีวิตเดียวที่นี่ เธอมองร่างกายบอบช้ำและจู่ๆ ก็อยากกระทำชำเรานางให้สาแก่ใจ

    จมูกของเธอได้กลิ่นยั่วยวนนั่นอีกแล้ว เธอจะเป็นบ้าตายให้ได้

    อิลูเมียตั้งสติ สิ่งแรกที่เธอทำคือสร้างชุดของวีร่าขึ้นมาใหม่จากพลังเวท เธอนำมันไปสวมใส่ให้ราชินีแห่งนรกอเวจี หากไม่ทำแบบนี้เดี๋ยวนางต้องนอนทนเป็นหุ่นให้เธอที่ควบคุมตัวเองไม่ค่อยได้ย่ำยีเล่นอีก

    เธอปลดโซ่ตรวนของวีร่าออก แล้วเปลี่ยนท่านอนให้นางใหม่ กลายเป็นท่านอนที่มันสบายกว่าเดิม

    ยังไงซะนางก็ต้องอุ้มท้องลูกของเธอ เธอควรเทคแคร์หน่อยก็ดี

    อิลูเมียขึ้นไปคร่อมบนร่างกายของวีร่า มือเธอกดลงบนลำคอเรียวระหงส์ ก่อนใช้ปลายนิ้วโป้งสอดเข้าไปในโพรงปากเล็กเพื่อให้มันเผยอออกเล็กน้อย เธออ้าปากปล่อยแสงละอองสีทองให้ไหลเข้าไปในลำคอของนาง

    พลังเทพส่งผลอย่างรวดเร็วเมื่อปะทะกับพลังปีศาจในร่างของวีร่า

    เธอลงมาจากเตียง มองดูนางที่กำลังดีดดิ้นไปมาราวกับน้ำร้อนลวก

    นางกรีดร้อง ลืมตาโพลงขึ้นมามองหน้าเธอ โลหิตสีแดงไหลออกมาจากดวงตาคู่นั้นที่ดูโกรธแค้นเธออย่างถึงที่สุด

    จนกระทั่งเริ่มไอออกมาเป็นเลือด เธอถึงขยับเข้าไปกอดนางไว้ ใช้สองแขนล็อคตัวนางเพื่อไม่ให้ทั้งห้องเละจากพลังปีศาจ

    นางส่งเสียงครางแผ่วๆ ออกมาเนื่องจากความเจ็บปวดที่ได้รับ นางเลื่อนมือขึ้นทาบหน้าท้องของตัวเอง เธอเลยใช้มือกุมมือนั้นไว้

    เพราะกอดอยู่เธอถึงได้ยินเสียงหัวใจนางเต้นรัวจากโลหิตที่สูบฉีดไปทั่วร่างกาย

    เพราะกอดอยู่จึงสัมผัสได้ถึงความเจ็บปวดมหาศาลที่นางได้รับอยู่ไปด้วย

    วินาทีหนึ่งที่อิลูเมียกลัวว่าร่างเล็กจะแหลกสลายหายไป...

    เธอเลยกอดวีร่าไว้ทั้งคืน ถึงนางจะสลบไปแล้วก็ตาม


    วีร่าตื่นขึ้นมาหลังจากรู้สึกว่าหลับไปนานมาก เธอยกมือขึ้นแตะใบหน้าของตัวเองก่อนพบว่าไม่มีคราบเลือดใดๆ ทั้งนั้น ร่างกายเธอสะอาดเอี่ยม ไม่มีโซ่ตรวนพันธนาการเธอไว้อีกแล้ว ราวกับเรื่องทุกอย่างเป็นเพียงความฝันหากไม่นับอิลูเมียที่นอนหลับสนิทอยู่ข้างกายเธอ

    ราชินีแห่งสรวงสวรรค์หายใจเข้าออกเป็นจังหวะเนิบนาบ มือของนางทาบลงที่หน้าท้องของเธอ ทำให้เธอสังเกตเห็นหน้าท้องของตัวเองที่นูนขึ้นมาเล็กน้อย

    ไม่ใช่ความฝัน แต่เธออยากให้มันเป็น...

    วีร่าปาดน้ำตาที่ไหลออกมา เธอขยับออกจากอิลูเมีย ใช้มือลูบหน้าท้องตัวเองและสัมผัสบางสิ่งที่อยู่ในนั้นด้วยหัวใจ สิ่งที่คิดวนเวียนอยู่ในหัวตอนนี้คือเธอมีวิธีไหนบ้างที่หากทำแล้วเธอจะไม่เสียลูกไป

    ปีศาจมักท้องและคลอดเร็วกว่ามนุษย์ เธอต้องอุ้มท้องเพียงแค่สามเดือนเท่านั้น...

    แต่หากต้องติดอยู่ที่นี่ตลอดสามเดือน แล้ววีร่าจะปกป้องลูกเธอยังไง

    หรือเธอควรเสี่ยงฆ่าอิลูเมียทิ้งตอนนี้เลย?

    วีร่าปฏิเสธความคิดนั้นอย่างรวดเร็ว เทพตายอย่างถาวรไม่ได้ มากที่สุดก็เป็นการทำให้หลับใหลไปชั่วระยะหนึ่งเพื่อรวบรวมกำลังขึ้นมาใหม่

    ซึ่งหากเธอออกไปจากที่นี่ไม่ได้ถ้าไม่มีอิลูเมีย ทุกอย่างก็จบ

    เธอเริ่มฟื้นความทรงจำก่อนหน้านี้ได้...นางเป็นคนทำให้เธอท้อง

    เธอไม่อยากสงสัยว่านางทำได้ยังไง

    เพราะฉะนั้นที่อยู่ในท้องเธอตอนนี้คือลูกครึ่งเทพที่มีพลังมหาศาล

    ตามหลักแล้วลูกครึ่งเทพนั้นไม่ได้ถือกำเนิดขึ้นบ่อยๆ เพราะพวกเทพส่วนมากไม่ชอบการลงมาเกลือกกลั้วกับพวกปีศาจเยี่ยงเธอ ทำให้หากลูกของเธอลืมตาดูโลก จะไม่ได้มีแค่พวกเทพที่หมายปองเอาชีวิต

    เธอจะไม่ยอมให้ใครทำร้ายลูกอย่างเด็ดขาด

    "ตื่นแล้วเหรอ" เสียงของอิลูเมียปลุกเธอขึ้นจากภวังค์

    "..." เธอเมินเฉย เกลียดนางมากมายเหลือเกิน

    "เจ้าหลับไปหกวัน" คำพูดของอิลูเมียทำให้วีร่าเหลือบมองแปลกใจ เธอสลบนานขนาดนั้นได้อย่างไร แล้วทำไม... "ข้าเป็นคนดูแลเจ้าเอง"

    เธอเลยแอบสำรวจนาง พบว่านอกจากนางจะดูเหนื่อยมากแล้วยังดูพักผ่อนไม่เพียงพออีกต่างหาก หากสถานการณ์ระหว่างเราปกติ วีร่าควรกล่าวขอบคุณ แต่เธอเพิกเฉยเพราะความโกรธ

    "เจ้าสมควรทำ" เธอหันหน้าหนี

    หมับ!

    มือของอิลูเมียเลื้อยมากอดเอว ทำให้เธอสะดุ้งเฮือกอย่างแรง

    "ข้ารู้" นางซุกใบหน้าเข้ากับแผ่นหลังเธอ

    วีร่าขนลุกวาบไปทั้งร่างกาย เหมือนเห็นอีกมุมหนึ่งของนาง

    นางอารมณ์ไหนถึงมาทำแบบนี้ใส่เธอ

    "เจ้าไม่ต้องมาแตะตัวข้า" เธอพยายามสะบัดตัวนางออก แต่นางไม่ปล่อยเลย ยิ่งเมื่อเธอสะบัดมากขึ้นเรื่อยๆ นางก็ยิ่งกอดเธอแน่นราวกับว่าไม่ยอมพรากจากเธอไปไหน สุดท้ายเธออดไม่ได้ต้องเรียกชื่ออีกฝ่ายดังลั่น "อิลูเมีย!"

    "หืม" นางคงขมวดคิ้วอยู่ "เหตุใดแตะไม่ได้"

    "เพราะข้าไม่ให้แตะ" วีร่าจิกเล็บลงบนฝ่ามือ หากอิลูเมียยังทำตัวมึนอยู่อีกแม้แต่วินาทีเดียวเธอจะข่วนหน้าสวยๆ ของนางให้เป็นรอยซะ

    "ได้" ผิดคาด... นี่มันยิ่งกว่ามึนเสียอีก นางไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลยเหรอไง "แต่เจ้าก็ไม่ควรดื้อรั้นลุกขึ้นนั่งหรือเดินมากๆ เข้าใจรึเปล่า"

    อิลูเมียดึงเธอให้กลับมานอนอย่างนุ่มนวล ไม่ได้ใช้กำลังกระโชกโฮกฮากเหมือนทุกครั้ง ราวกับว่าเมื่อเธอท้องสถานการณ์รอบข้างก็เปลี่ยนไปหมด ตอนนี้ห้องก็ไม่ได้มืดสนิทในยามกลางคืนอีกต่อไปแล้ว บนเพดานมีโคมไฟระย้าแขวนอยู่

    เมื่อถูกปลดพันธนาการออกไป วีร่าก็เริ่มสัมผัสได้ว่าทั้งหมดที่นี่ถูกสร้างขึ้นจากเวทมนตร์ แสดงว่าที่แห่งนี้อาจไม่มีอยู่จริง คนนอกไม่สามารถจับต้องได้ และเข้ามาไม่ได้เหมือนกัน

    คนที่สร้างเป็นอิลูเมียไม่ผิดแน่ แต่การสร้างสิ่งพวกนี้ต้องใช้พลังมหาศาลในการคงสภาพพวกมันเอาไว้

    "เจ้าทำดีเพราะลูก" เธอสูดลมหายใจแล้วก็ถามเมื่ออิลูเมียวางมือลงบนหน้าท้องเธออีกครั้ง

    นัยน์ตาสีฟ้าล้ำลึกถูกเลื่อนขึ้นสบตากับเธอ วีร่ารู้สึกว่ามันมีความหมายมากกว่าทุกครั้ง และด้ายแดงที่ผูกมัดอยู่ที่นิ้วก้อยของเธอก็เรืองแสงสีแดงจนดูชัดเจนขึ้น

    "ลูกของเรา" อิลูเมียกล่าวเรียบๆ

    "นางไม่ใช่ลูกของเจ้า" ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเธอเอาอะไรไปมั่นใจว่าเด็กในท้องเธอเป็นเด็กผู้หญิง แต่วีร่าก็พูดออกไปชัดเจนแล้วว่า 'นาง' และอิลูเมียก็กระตุกยิ้ม

    "เข้าใจไม่ผิดหรอก ทารกเพศหญิง" นางกระซิบเสียงเย้าใกล้หูราวกำลังจงใจกวนประสาทเธอ

    "อย่ามาใกล้ตัวข้า" เธอกดเสียงจนดูเหี้ยม แต่นางคงเห็นว่ามันเป็นเสียงนกเสียงกากระมัง เลยไม่ได้ใส่ใจเลยแม้แต่นิดเดียว เธอเลยเปลี่ยนเรื่องเพราะเหนื่อยใจ "เหตุใดเจ้าถึงทราบเล่าว่าเป็นทารกเพศหญิง"

    "ข้ามีความสามารถเฉพาะตัว" อิลูเมียเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบามาก

    "เป็นความสามารถที่ทำให้ข้าตั้งครรภ์ได้ด้วยน่ะหรือ"

    "ใช่ เป็นความสามารถเดียวกัน"

    เราเงียบกันทั้งคู่หลังอิลูเมียยืนยันคำถามของเธอ วีร่าเม้มริมฝีปากจนเป็นเส้นตรง ทำไมเธอไม่เห็นรู้เลยว่านางมีความสามารถแบบไหน หรือนางจงใจปกปิดมันไว้ งั้นก็ไม่แตกต่างกับเธอเลยที่พยายามปกปิดความสามารถตัวเอง

    ซึ่งนางก็บังอาจมาสู่รู้ความลับเธอจนได้ เรื่องที่เธอตั้งครรภ์เองได้

    แต่นางกลับ...ทำให้สตรีตั้งครรภ์ได้

    แน่นอนว่าหากเรื่องพรรค์นี้รั่วไหลไปถึงหูของคนอื่น ราชินีแห่งสรวงสวรรค์อาจไม่ได้ดูน่าเลื่อมใสอีกต่อไป หลายๆ คนคาดหวังให้อิลูเมียเป็นราชินีที่น่าภาคภูมิใจในระยะหลัง เป็นบุคคลที่ทรงพลังอำนาจและเต็มเปี่ยมไปด้วยความน่าเคารพ

    การที่อิลูเมียลดตัวลงมาอยู่กับเธออาจทำให้บางคนหมดศรัทธา

    แต่นางดูไม่แคร์

    "ปีศาจเวลาตั้งครรภ์ช่างอ่อนแอยิ่งนัก" เหมือนอิลูเมียรำพันกับนางเอง แต่นิ้วมือซุกซนกำลังไล้อยู่บนเส้นผมของเธอ

    "..." วีร่านอนตัวแข็งทื่อ

    "เพราะฉะนั้นเจ้าควรทำตัวเจ้าให้แข็งแรงเข้าไว้"

    "เพื่อลูกอีกอย่างนั้นรึ" เธอขยับออกห่างอิลูเมีย แต่นางเหนี่ยวรั้งเธอไว้เต็มที่

    "เปล่า เพื่อตัวของเจ้าเอง" เสียงของนางดูงัวเงียขึ้น ราวกับนางกำลังต้องการการพักผ่อน และยิ่งนางใกล้เข้าสู่ห้วงนิทรามากเท่าไหร่ นางก็ยิ่งกระชับวงแขนของตัวเองที่กอดเธออยู่แน่นขึ้น เหมือนกับกลัวเธอหายไปจากตรงนี้

    "..." วีร่ารู้สึกอึดอัด...

    "และเพื่อเราสองคน"

    แต่คำพูดต่อมาของอิลูเมียทำให้หัวใจเธอกระตุกวูบอย่างน่ากลัว

    ยังไม่ทันได้เคลียร์ว่าคำพูดนั้นหมายความอย่างไร นางก็ชิงหลับไปก่อน แถมยังหลับลึกมากเสียด้วย

    วีร่าสำรวจใบหน้ายามหลับใหลของนาง ทำใจกล้ายื่นปลายนิ้วไปแตะลงบนผิวนุ่มนวลที่ถูกดูแลอย่างดี บังคับให้ไล้ไปตามริมฝีปากอวบอิ่ม ลากไปตามความโด่งของจมูกหรือเรียวคิ้วที่โก่งราวกับคันศรก็มิปาน นางงดงามปานรูปแกะสลักหินอ่อนที่ถูกสร้างขึ้นอย่างปราณีต งดงามยิ่งกว่าเทพีแห่งความรัก

    เธอดึงมือของตัวเองกลับมา พยายามห้ามไม่ให้ความสั่นไหวกับความโกรธตีกัน

    "ต่อให้นางเป็นลูกของเรา ข้าก็ไม่มีวันให้เจ้าแตะนาง อิลูเมีย"

    หลังจากนั้น เพราะไม่สามารถลุกจากเตียงได้เนื่องจากโดนกอดอยู่ ทำให้เธอหลับตามนางไปอย่างรวดเร็ว


    สามวันต่อมา

    "ให้ตายเถอะ เจ้าอย่ามายุ่มย่ามกับข้านักได้ไหม" วีร่าครางอย่างรำคาญใจ เพราะกำลังก้าวลงไปนั่งในบ่อน้ำพุแต่ก็โดนอิลูเมียโอบเอวไว้

    ช่วงสองสามวันนี้นางประคบประหงมเธอเหลือเกิน ไม่ทำอะไรเลยนอกจากขลุกอยู่กับเธอ เมื่อก่อนนางออกจากที่นี่ทุกวันแต่ไม่ใช่ตอนนี้ ทำเอาเธอหนักใจ บางคราก็อยากใช้เวลาคิดทบทวนอะไรคนเดียว

    นางทำให้เธอไม่มีเวลาส่วนตัว

    และตอนนี้เธอกำลังจะอาบน้ำ แต่นางดันตามมาเหมือนจะอาบให้

    "นั่ง" อิลูเมียไม่ได้ตอบอะไรเธอ แค่สั่งให้เธอนั่งลงในบ่อน้ำเท่านั้น

    นางไม่ได้อาบน้ำด้วย ทำเพียงนั่งมองเธออยู่บนบกที่สูงกว่าเพียงเล็กน้อย

    "ข้าก็อายเป็น จะดีมากหากเจ้าออกไปรอในห้อง" เธอชี้กลับเข้าไปด้านใน รำคาญจนแทบตบใครสักคนได้ และคนคนนั้นต้องเป็นอิลูเมีย

    "เห็นจนชินแล้ว" นางเปรยอย่างลอยหน้าลอยตา

    เห็นจนชินแล้วเหรอ...

    วีร่าแทบปรี๊ดแตกกับคำพูดนั้น แต่เพราะการโมโหง่าย รำคาญบ่อยอาจไม่ดีกับลูกในท้องนัก เธอเลยควบคุมตัวเองให้ใจเย็นโดยการไถลตัวลงไปกึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่ในน้ำจนมันสามารถปกปิดตั้งแต่ช่วงขาลากยาวมาถึงหน้าอก สิ่งที่อิลูเมียเห็นตอนนี้มีแค่ใบหน้ากับบริเวณกระดูกไหปลาร้าเท่านั้น

    "งอนเป็นเด็ก" อิลูเมียเลื่อนตัวมานั่งซ้อนอยู่ด้านหลังก่อนก้มลงมากระซิบ

    "ข้ารำคาญเจ้าต่างหาก!" เธอสวนกลับไป ไม่แน่ใจว่าอิลูเมียไปเอาความสามารถที่ทำให้เธอโมโหทุกประโยคได้แบบนี้มาจากไหน

    "ปากร้าย" นางกล่าวต่ออย่างไม่สะทกสะท้าน

    วีร่าเขยิบถอยห่างอิลูเมีย จงใจไปนั่งอยู่กลางบ่อน้ำพุ แค้นใจที่คำพูดของเธอไม่เข้าหูนางเลยแม้แต่คำเดียว และเพราะอารมณ์อ่อนไหวตามประสาคนตั้งครรภ์หรืออย่างไรก็ไม่ทราบ เมื่อเห็นว่านางยังนั่งนิ่งสนิทเธอเลยปล่อยโฮออกมา

    อิลูเมียขยับจนได้เมื่อเห็นน้ำตาของเธอ นางปลดชุดตัวเองออกแล้วลงมานั่งในน้ำกับเธอ วงแขนอบอุ่นโอบกอดร่างเธอเอาไว้

    ทุกครั้งที่วีร่าร้องไห้ อิลูเมียมักกอดเธอเสมอ และสิ่งที่แปลกก็คือเธอจะหยุดร้องไห้เมื่อโดนนางกอด

    "ข้าทราบว่าเจ้าตั้งครรภ์และอารมณ์แปรปรวน" นางกล่าวแล้วยกร่างของเธอให้ขึ้นมานั่งพิงตัวนางและนางเองก็พิงขอบบ่อน้ำพุไปด้วย เธออึดอัดในตอนแรก แต่ก็ไม่ปฏิเสธว่ามันรู้สึกสบาย "น่ารักดี"

    อิลูเมียพาดมือผ่านใต้หน้าอก เป็นการโอบโดยไม่สัมผัสหน้าท้องที่เริ่มโตขึ้นมาทุกวันของเธอ

    วีร่าเหนื่อยง่าย เธอเหนื่อยกับการเปลี่ยนอารมณ์ไปมา รำคาญอยู่ แล้วก็มาโกรธ สักพักเปลี่ยนเป็นร้องไห้ ตอนนี้ก็เหนื่อยใจเลยไม่ปฏิเสธอะไรทั้งสิ้น

    อยากจะลูบ จะคลำ จะอุ้ม จะยกไปไหนก็ตามสบาย

    "อยากอาบน้ำให้ก็อาบ" เธอพูดกับอิลูเมีย "ยอมแพ้แล้ว จะทำอะไรก็ทำ"

    นางไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่อาบน้ำให้เธอ เสกชุดให้เธอใส่ด้วยเวทมนตร์และอุ้มเธอกลับไปนอนบนเตียงเพื่อพักผ่อน นางอาจจะรู้ก็ได้ว่าเธอเริ่มง่วง

    เมื่อตาใกล้จะปิดลง สิ่งสุดท้ายที่วีร่ารู้สึกคือริมฝีปากอวบอิ่มที่กดย้ำลงมาบนหน้าผากของเธออย่างแผ่วเบา


    อิลูเมียเดินออกมาจากมิติแห่งนั้นหลังจากมั่นใจว่าวีร่าหลับสนิทไปแล้ว

    ที่จริงคิดมาสักพักแล้วว่าควรออกมาจัดการปัญหาภายนอกบ้าง แต่เพิ่งสบโอกาสได้ออกมาเนื่องจากวีร่าที่ตั้งครรภ์ดูน่าเป็นห่วงมาก

    แต่ตอนนี้นางคงหลับไปนานหน่อยเพราะไม่ได้นอนตั้งแต่เมื่อคืน มัวแต่งอแงให้เธอเอาหนังสือมาให้อ่านเพราะอยากให้ลูกโตไปแล้วรักการศึกษาเรียนรู้

    วีร่าแคร์ลูกในท้องมาก ทำไมเธอจะไม่ทราบ

    ตอนนี้เธอก็แคร์ทั้งสองมากเหมือนกัน

    เธอกลับมาอยู่ในบ้านพักของมะกังก้าอีกครั้งเพื่อเอายา กลับพบว่าหมอยาไม่อยู่ที่นี่อย่างที่คิด เธอขมวดคิ้วแล้วกวาดตามองไปรอบๆ ไม่มีร่องรอยความเสียหาย และยาที่เธอจำเป็นต้องกินก็วางอยู่บนถาดรองบนโต๊ะ

    อิลูเมียไม่รอช้าที่จะหยิบมันมากินเพื่อฟื้นฟูพลังที่เธอเสียไป

    วินาทีหนึ่งที่เธอสัมผัสได้ว่ามีใครบางคนแอบมองอยู่

    เธอไม่สนใจว่าคนในหมู่บ้านนี้จะเป็นยังไง ตัดสินใจเดินออกมาหน้าบ้านมะกังก้าแล้วเปลี่ยนร่างกลับเป็นร่างที่แท้จริง หน้ากากขนนกสีขาวถูกสวมใส่อีกครั้ง

    "ไม่ว่าเจ้าเป็นผู้ใด ยิ่งใหญ่มาจากไหน ขอให้ปรากฎตัวออกมาเพื่อทำความเคารพข้า" อิลูเมียพูดด้วยน้ำเสียงทรงพลัง เธอกวาดตามองไปรอบๆ พลังที่เริ่มแผ่ขยายตัวไปไกลของเธอทำให้สัตว์น้อยสัตว์ใหญ่แตกตื่น


    เมื่อตัวข้าเหยียบย่างบนภูมิภพ

    ปราพกก่อตัวขึ้นเพื่อสรรเสริญ

    ชลาศัยไหลผ่านเมื่อก้าวเดิน

    ผู้ใดเมินจักสิ้นใจในวาโย


    หลังจากบทร่ายเวทโบราณถูกกล่าวออกไป ร่างของบุคคลที่ซ่อนเร้นแอบมองอยู่เมื่อสักครู่ก็ปรากฎตัวขึ้นมาและคุกเข่าต่อหน้าเธอ

    อิลูเมียมองสำรวจหญิงสาวตรงหน้า ที่เธอจงใจใช้เวทมนตร์บังคับตัวนางให้เดินออกมา มันเป็นเวทต้องห้ามของเธอเอง ซึ่งหากเธอปรากฏร่างที่แท้จริงเมื่อใดจะใช้เวทบทนี้ได้ มันทำให้คนที่เธอเจาะจงใช้เวทด้วยปรากฏตัวออกมาและนั่งลงเพื่อเคารพเธออย่างเช่นตอนนี้ หากผู้ใดหลุดจากมนตร์บทนี้ไปได้ ผู้นั้นต้องตาย

    หญิงสาวตรงหน้ามีเส้นผมสีบลอนด์เข้ม นัยน์ตาคมกริบดุดัน เรียวปากบางเฉียบ ร่างกายผอมเพรียวแต่ก็ดูมีกล้ามเนื้อถูกปกปิดด้วยชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวกับกางเกงแนบเนื้อสีดำสนิท และนางใส่รองเท้าเดินป่าที่คงบ่งบอกอะไรสักอย่างได้

    "พวกนักฆ่าเช่นเจ้า เหตุใดจึงต้องมาซุ่มดูข้า!" อิลูเมียตวาดเสียงดังจนแผ่นดินสั่นสะเทือน

    "..." ไม่มีเสียงตอบรับจากหญิงสาวคนนั้น

    แต่มีเทพสององค์หย่อนตัวลงด้านหลังเธออย่างตื่นตระหนก ทั้งสองมีสีหน้าไม่สู้ดีนักเมื่อเห็นเธอในร่างที่แท้จริง อันนาใช้ปลายนิ้วแตะแผ่นหลังเธอเพื่อบอกให้ใจเย็น

    ขณะเดียวกันพี่ชายฝาแฝดอย่างยอร์นเองก็ยืนนิ่งเพื่อดูสถานการณ์

    "มีเหตุใดหรือ ท่านอิลูเมีย" เทพแห่งดวงอาทิตย์กับเทพีแห่งจันทราถามขึ้นอย่างพร้อมเพรียงกัน

    อิลูเมียสูดลมหายใจ เพิ่งรู้ว่าเธอคงใส่พลังมากเกินไปจนเทพทั้งสองที่อยู่บนยอดเขาโอลิมปัสต้องลงมาดูด้วยตนเอง หากมันวุ่นวายมากกว่านี้ต้องมีพวกอื่นตามมาด้วยแน่ เธอเลยกลับไปยังร่างมนุษย์เหมือนเดิม

    "เจ้าชื่ออะไร" เธอตรัสถามหญิงสาวที่ยังคงนั่งคุกเข่าอยู่

    "บัต..." เสียงแหบพร่าไร้ชีวิตเอ่ย

    "..." อย่าบอกนะว่า...

    "บัตเตอร์ฟลาย"

    อิลูเมียย่นคิ้ว เธอเคยได้ยินชื่อบัตเตอร์ฟลายมาก่อนเพราะเตียวเสี้ยนเคยมาเล่าให้ฟังอยู่ช่วงหนึ่งว่าไปผูกมิตรกับนักฆ่าที่ชื่อบัตเตอร์ฟลายไว้ แต่เธอไม่อยากใส่ใจเลยปล่อยให้นาตาเลียจัดการเรื่องนั้นเอาเอง

    ตอนนี้บัตเตอร์ฟลายจับตาดูเธออยู่ แต่ไม่มีวันเป็นคำสั่งเตียวเสี้ยน

    เตียวเสี้ยนไม่มีทางตลบหลังผู้เป็นพระคุณอย่างเธอได้

    นาตาเลียเหรอ?

    "มะกังก้าอยู่ไหน" เธอถาม

    "ตอนนี้...เขารับใช้ท่านนาตาย่าอยู่" บัตเตอร์ฟลายพูดเสียงเบาจนแทบไม่ได้ยิน แต่อิลูเมียขมวดคิ้วทันทีที่ได้ยินประโยคนั้น นาตาย่าเดาออกเหรอว่าเธอจำเป็นต้องใช้ยาที่มะกังก้าทำให้เพื่อฟื้นฟูพลังของตัวเอง

    อิลูเมียเหมือนได้ยินราชินีเผ่าพันธุ์โบราณพูดด้วยน้ำเสียงกราดเกรี้ยวอยู่ข้างหูเธอ

    '...วีร่าอยู่ที่ไหน'

    เธอสะบัดศีรษะเพื่อไม่ให้ตัวเองคิดไร้สาระ

    ตอนนี้เธอโดนตัดพลังแล้ว ซึ่งอย่างน้อยที่สุดเธอก็รู้แล้วว่านาตาเลียทราบว่าวีร่าอยู่กับเธอ แต่ยังไม่รู้ว่าวีร่าอยู่ที่ไหน

    "ไปซะ" เธอไล่บัตเตอร์ฟลายแล้วหันหลังเดินออกมา

    "ท่านอิลูเมีย!" อันนาเรียกเธอไว้ ทำให้เธอชะงักฝีเท้า เกือบลืมไปแล้วว่าอันนากับยอร์นยังไม่ไปไหน "มีเรื่องอันใดเกิดขึ้นรึเปล่า"

    อันนาย่นคิ้วอย่างวิตกกังวล

    "อย่ากังวลเลย ไม่มีอะไรหรอก" เธอสูดลมหายใจแล้วฝืนยิ้ม ทั้งที่ปัญหาทั้งหมดทิ้งตัวอยู่บนบ่าจนหนักอึ้ง "ฝากรายงานราชาทวยเทพด้วยว่า ตอนนี้ราชินีแห่งนรกอเวจีตั้งครรภ์อ่อนๆ แล้ว"

    "ท่าน..." อันนาดูสับสน ยอร์นยืนนิ่ง

    "..." เธอใช้สายตาปรามอันนา

    "เข้าใจแล้ว โปรดระมัดระวังตัวด้วย ท่านอิลูเมีย"

    อันนากับยอร์นจากไปแล้ว อิลูเมียมองแผ่นหลังทั้งสองจนหายลับ แล้วเปลี่ยนเป้าหมายของตัวเอง จากตอนแรกจะรีบกลับไปหาวีร่า เธอมีธุระที่อื่นแทรกเข้ามา

    อิลูเมียมายังหมู่บ้านโบราณแห่งหนึ่ง เธอเดินเข้าไปโดยไม่สนใจสายตาของเหล่านักฆ่าที่กำลังฝึกซ้อมอยู่ เมื่อไปถึงบ้านหลังหนึ่งที่ใหญ่โตพอสมควรก็มีคนผู้หนึ่งออกมารับหน้า

    "ข้าไม่นึกเลยว่าท่านจะมา องค์ราชินี" ชายสูงวัยรูปร่างสมส่วนคุกเข่าเคารพเธอ

    อิลูเมียไม่สนใจเขา เธอถามหาใครคนหนึ่ง

    "ไอริ นางอยู่ไหน" ทันทีที่ชื่อนั้นหลุดออกจากริมฝีปากเธอ ชายสูงวัยหน้าซีดเผือดจนแทบไร้สีเลือด เขาพยายามอ้อนวอนขอให้เธอเปลี่ยนใจ แต่เธอไม่มีวันเปลี่ยนใจเด็ดขาด

    เพราะเธอรู้ว่ามีเพียงไอริที่สามารถทำภารกิจนี้ได้

    หญิงสาวคนหนึ่งหย่อนตัวลงด้านหลังเธอ ใบหน้าภายใต้หน้ากากกับนัยน์ตาเย็นชามองเธอ ปีกมังกรที่แผ่นหลังโดดเด่นจนเห็นได้ชัด

    หมู่บ้านแห่งนี้บูชาเทพมังกร เป็นผู้พิทักษ์และนักฆ่าสำหรับใครที่มารุกราน และไอริคือหญิงสาวเพียงหนึ่งเดียวที่เป็นลูกครึ่งมังกรในหมู่บ้านแห่งนี้ นางเก่งกาจยากจะหาใครทัดเทียม เก่งกาจจนหมู่บ้านต้องซ่อนตัวนางไว้เพื่อไม่ให้เป็นภัยคุกคามแก่บุคคลอื่น แต่การมีตัวตนของนางไม่พ้นสายตาอิลูเมีย

    อิลูเมียเคยมาที่นี่เพื่อสานสัมพันธ์อันดีกับไอริตั้งแต่เมื่อเจ็ดปีก่อน

    เสียงเย็นเยือกหลุดออกมาจากริมฝีปากที่ถูกปิดซ่อนโดยหน้ากาก

    "ท่านประสงค์ให้ข้าทำสิ่งใด องค์ราชินี"


    ** ภูมิภพ อ่านว่า ภูมิ-ภพ ไม่ใช่ ภู-มิ-ภพ







    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×