ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [SJ:KIHAE] :: Heartquake ภารกิจเขย่าหัวใจนายตัวร้ายให้ลงล๊อค

    ลำดับตอนที่ #16 : [SF:HBD HANKYUNG] :: Eclipse (100%)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.67K
      7
      16 เม.ย. 54

          






     
    ผมจะเป็นนางฟ้าที่คอยดูแลคุณ
    ถึงแม้ว่า...คุณจะมีนางฟ้าให้คุณคอยดูแลอยู่แล้วก็ตาม

     








    15 เม.ย x1

    ยุนโฮขอคุณพ่ออกไปอยู่คนเดียว แถมยังเอามอ'ไซต์ไปอีก คนเล็กโวยวายงอแงใหญ่

    ไหงยุนโฮทำงี้อ่ะ!

    จะไปอ้อนคิบอมให้ไปขอคุณพ่อซื้อมอ'ไซต์(ก็คุณพ่อไม่ยอมซื้อให้เรากับคนเล็กนี่!...โกรธมากเลยขอบอก!)

    ให้บีบน้ำตาก็ยอมอ่ะ!

    วันนี้มีเด็กแลกเปลี่ยนพูดภาษาประหลาดทำน้ำหกใส่ด้วย เซ็งมาก!

    แต่จะว่าไป...ก็ยิ้มน่ารักดีนี่นา ^^

     


    21 เม.ย x1

    คิบอมแกล้ง! จะฟ้องคุณพ่อ! คนเล็กก็แกล้ง! จะฟ้องคุณพ่อเหมือนกัน!

    เจอเด็กพูดภาษาประหลาดอีกแล้ว พูดกันไม่รู้เรื่องสักที= =

    แย่จัง

     


    12 พ.ค x1

    รู้แล้ว!...เด็กพูดภาษาประหลาดเป็นคนจีน แต่ก็ยังพูดไม่รู้เรื่องอยู่ดีนั่นล่ะ

    จะไปถามฮีชอลพรุ่งนี้!

     


    13 พ.ค x1

    Nǐ jiào shénme míngzì? = นายชื่ออะไร

    (มั้งนะ...กลัวฮีชอลหลอกจัง- -")

    จะไปถามพรุ่งนี้ คิคิ

     


    31 ก.ค x1

    หานเกิง

    ฮันคยองดีกว่าเนอะ ^^

     


    19 ก.ย x1

    โดนฮันคยองจับมือข้ามถนนวันนี้ คิบอมด่าใหญ่ว่าซื่อบื้อ= =...จะไปฟ้องคุณพ่อ!

    แต่ว่า...เขินจังนะ ///^^///

     

    25 ก.ย x1

    ยุนโฮเห็นคุณคนสวยดีกว่าน้อง...โกรธมาก! จะฟ้องคุณพ่อ!

    แต่วันนี้ฮันคยองยิ้มให้อีกแล้ว ยังไม่กล้าเข้าไปพูดด้วยเลย

    ทำไงดี T_T

     

    7 ส.ค x1

    ฮันคยองชมว่าน่ารัก จะมัดผมแบบนี้ไปเรียนทุกวันเลย! ^^

     


    25 ธ.ค x1

    ฮันคยองขอฮีชอลเป็นแฟน...เป็นของขวัญวันคริสมาสต์ที่เลวร้ายมาก!

     


    14 ก.พ x2

    ร้องไห้...เมื่อไรยุนโฮ คิบอม กับคนเล็กจะขึ้นมากอดอีก

     


    15 ก.พ x2

    ยังร้องไห้อยู่...อยากให้คนเล็กกอดแน่นกว่านี้จัง แต่คนเล็กหลับไปแล้ว ไม่อยากปลุกเลย

     


    9 มี.ค x2

    ฮันคยองทะเลาะกับฮีชอล...ฮยอกแจร้องไห้...ยุนโฮกอด

     


    18 เม.ย x2

    ฮีชอลเถียงกับฮันคยอง...ฮยอกแจร้องไห้...คิบอมกอด

     


    2 พ.ค x2

    ฮันคยองกับฮีชอลดีกันเหมือนเดิม...ฮยอกแจร้องไห้...คนเล็กกอด

     


    30 ก.ย x2

    คนเล็กย้ายออกไปอยู่กับไอ้เด็กถ่อย...ใจร้าย! จะไปร้องไห้ให้คุณพ่อไม่อนุญาต!

    ฮีชอลไปเมืองนอก...ฮันคยองซึมมาก...ฮยอกแจร้องไห้

    ไม่เข้าใจเลย...ทำไมต้องเป็นลีฮยอกแจที่ร้องไห้ตลอดเลย

     


    27 พ.ย x2

    หิมะแรกของปี

    ฮีชอลยังไม่กลับ...ขออย่าให้กลับมาตลอดไป

    จะให้ตกนรกก็ยอม จะให้โดนฮันคยองเกลียดก็ยอม

    แค่อย่าเพิ่งกลับมาก็พอ

             ก็ตอนนี้น่ะ...มีความสุขมากเลย


    .......................................................................................... 




    "มัดผมอีกละ มัดมาปีกว่าแล้ว เปลี่ยนทรงบ้างเหอะ ไม่เบื่อบ้างรึไง เห็นคนเล็กแกล้งดึงจนเบื่อแล้วว่ะ"

    พี่ชายคนที่สองประจำบ้านตระกูลปาร์คค่อนคอดเจ้าจจุกผมเล็กๆนั่นบนศีรษะของน้องชายตัวเล็กที่เจ้าตัวบรรจงมัดมันมาเรียนได้ทุกวี่ทุกวันไม่มีเบื่อพลางละมือข้างหนึ่งออกมาจากพวงมาลัยรถไปดึงเจ้าจุกผมที่ว่านั่นเล่นจนฮยอกแจร้องแง้วออกมาและปัดมือของเขาออกใหญ่ให้วุ่นวาย

     

    "ยุ่งนา! ฉันไม่ได้มัดมาให้คิบอมมองสักหน่อย"

     

    ก็ไม่ได้อยากมองนักหรอก แต่ต้องเห็นหน้ากันทุกวันนี่หว่า

     

    คิบอมไม่ได้พูดประโยคนั้นออกไปและทำเพียงแค่ไหวไหล่อย่างไม่แหยแสเท่านั้น...เวลามาเรียนตอนเช้าสงบลงเยอะเลยหลังจากไอ้คนเล็กย้ายออกไปเป็นลูกแมวให้ไอ้เด็กนิสัยถ่อยที่มีรถขับโคตรหรูนั่น เขาสบายหูขึ้นเยอะเลย รถก็โล่งขึ้นด้วย และเมื่อรวมกับยุนโฮที่ย้ายออกไปเมื่อปีก่อน ตอนนี้เขาก็เลยแชร์รถใช้กับแค่ฮยอกแจอยู่สองคนเท่านั้นเอง ฮยอกแจน้องชายคนที่สาม(นับจากปีเกิดน่ะนะ อันที่จริงพวกเขาก็อายุ(ก่อนใกล้ตาย)เท่ากันหมดนั่นล่ะ)ของเขาบ่นพึมพำหงุงหงิงไปเรื่อยเปื่อย...คงบ่นที่โดนคุณพ่อดุเรื่องไปทำผมแดงมานั่นล่ะเขาว่า ก็มันน่าดุน้อยเสียเมื่อไรล่ะ...มีอย่างที่ไหน ไปหาเรื่องทำให้ตัวเองซีดหนักกว่าเก่าแบบนี้น่ะ!

     

    "คิบอมจอด!...ฉันจะลงตรงนี้!"

    ร้องบอกออกมาได้ไม่ทันสิ้นคำดี ร่างเล็กๆก็เปิดประตูรถกระโดดลงไปวิ่งถลาอยู่บนพื้นถนนเสียแล้ว และคิบอมก็ไม่คิดหันไปสนใจหรอกนะว่าหมอนั่นจะลงถึงพื้นโดยสวัสดิภาพรึเปล่า เขาแค่ชำเลืองหางตามองว่าเจ้าหมอนั่นปิดประตูรถสนิทมั้ยก็เท่านั้น ซึ่งเมื่อเห็นว่ามันปิดสนิทดีแล้ว เขาก็เร่งเครื่องจากไป ปล่อยให้เจ้าน้องชายตัวเล็กของตนไปผจญกับลมหนาวและเกร็ดหิมะของเช้าวันอังคารเพียงลำพัง ฮยอกแจกระชับกระเป๋าเป้ของตนพลางวิ่งเหยาะๆตรงไปหาใครบางคนที่กำลังปั่นจักรยานอยู่บนทางจักรยานด้วยท่าทางไม่แหยแสต่อสายลมเย็นๆของฤดูหนาวเลยสักนิด

     

    "ฮันคยอง!"

    เจ้าของชื่อหันมาตามเสียงเรียกอย่างว่าง่าย และเมื่อเขาเห็นว่าใครเป็นคนเรียก ชายหนุ่มชาวจีนก็ยอมที่จะหยุดจักรยานคอยให้อีกฝ่ายวิ่งเข้ามากระโดดขึ้นนั่งซ้อนท้ายที่เบาะหลัง

     

    "แอบมาดักรึเปล่าเนี่ย เดี๋ยวนี้เจอฮยอกแจตอนมาเรียนทุกทีเลย"

     

    "คิๆ...ความลับ!"

    คนตัวเล็กที่ถูกห่อหุ้มด้วยเสื้อหนาวสีเหลืองตัวหนาซึ่งตรงฮู้ดยังมีขนเฟอร์สีขาวติดประดับหัวเราะคิกคักออกมาพร้อมกับวาดแขนโอบกอดเอวของคนที่เริ่มออกแรงถีบจักรยานต่อไป ฮยอกแจยิ้มกว้าง ซุกหน้าหลบลมหนาวอยู่กับแผ่นหลังอุ่นของสารถีชาวต่างชาติที่หัวเราะเสียงดังให้กับคำตอบของเขา

     

    "ฮันคยองปั่นจักรยานมาเรียนแบบนี้ไม่หนาวหรอ"

     

    "ฮยอกแจหนาวหรอครับ"

     

    "เราเปล่าพูดแบบนั้นสักหน่อย"

     

    "ฮีชอลเพิ่งโทรมาบอกเมื่อคืนว่าตอนนี้ที่ไทยร้อนมากเลย"

    รอยยิ้มสดใสของคนที่นั่งซ้อนอยู่ข้างหลังพลันหุบฉับลงมาในทันทีเมื่อได้ยินชื่อของใครบางคนหลุดออกมาจากริมฝีปากของคนที่เขารักมากกว่าใคร ฮยอกแจกระชับอ้อมแขนของตนให้แน่นขึ้น...อยากจะให้อีกฝ่ายสัมผัสหัวใจของตัวเองได้มากขึ้น แต่มันไม่มีทางเป็นไปได้ ฮยอกแจรู้...หากยังมีใครคนนั้นอยู่ หัวใจของฮันคยองจะไม่มีทางรู้สึกถึงเขา...เหมือนที่ฮยอกแจไม่เคยรู้สึกถึงใคร

     

    มันก็เป็นเหตุผลเหมือนๆกันนั่นล่ะ

     

    ก็รักไปแล้วหมดหัวใจ .. แล้วจะให้รู้สึกถึงคนอื่นได้อย่างไร

     

    "อืม"

     

    "ตลกดีนะครับ...เฮ้อออ...คิดถึงฮีชอลจังน้าาา"

     

    "อืม"

     

    รู้แล้วล่ะ...รู้แล้ว

     

    แต่ขอลีฮยอกแจมีความสุขต่ออีกนิดไม่ได้รึไงกัน

     

    .....................................................

     

    "นี่ฮันคยอง"

     

    "..."

     

    "ฮันคยอง!"

     

    "..."

     

    "หานเกิงงงง!!"

     

    "คระ...ครับๆ! มีอะไรครับฮยอกแจ"

    คนเหม่อลอยสะดุ้งเฮือกขึ้นมาสุดตัวพร้อมกับปิดหนังสือที่ตัวเองกำลังอ่านอยู่ลงดังฉับ...ไม่ได้อ่านอยู่หรอก ก็หนังสือเปิดกางอยู่แต่ตาไม่ได้อยู่ที่หนังสือด้วยซ้ำ! คนเหม่อลอนเงยหน้าขึ้นมาสบตากับเขาที่ยืนเรียกอยู่ตรงหน้าด้วยรอยยิ้มแหยๆ ฮยอกแจนิ่วหน้านิดให้กับไอ้รอยยิ้มซื่อๆที่ถูกส่งมาให้นั่น หากแต่เขาก็ทำเป็นเหมือนไม่ได้คิดอะไรด้วยการเอื้อมมือไปผลักหัวคนจีนช่างเหม่อไปเบาๆเสียหนึ่งทีพร้อมด้วยรอยยิ้มสดใสบนเรียวปาก

     

    "เหม่ออะไรอยู่หรอ"

    ฮันคยองหัวเราะแห้งๆออกมาด้วยท่าทีเขินๆพิกล คนตัวสูงยกมือขึ้นลูบท้ายทอยด้วยท่าทางเก้อๆอันเป็นอากัปรประจำที่เจ้าตัวมักจะทำเสมอยามเก้อเขิน...และมันก็มีไม่กี่อย่างหรอกที่ทำให้ฮันคยองเขินได้น่ะ

     

    "คิดถึง...อ่า...ฮีชอลน่ะครับ"

     

    ไม่น่าถามเลยจริงๆ

     

    ฮยอกแจพยายามจะรั้งรอยยิ้มของตนเอาไว้บนใบหน้าเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายจับพิรุธได้ว่าเขากำลังรู้สึกอย่างไร แค่คนที่ทำเป็นเพียงแค่ร้องไห้ก็บังคับตัวเองได้ยากนัก...เพราะไม่ว่าทางใด เพราะไม่ว่ารู้สึกอย่างไร ลีฮยอกแจคนนี้ก็ต้องไปจบอยู่ที่การร้องไห้อยู่ดี แต่ก็นั่นล่ะ...การอยู่บนโลกมากกว่าร้อยปีก็ทำให้เขาเก็บอาการได้เก่งขึ้น...ยื้อเวลาร้องไห้ออกไปให้นานกว่าเดิม เขาดีดนิ้วเข้าให้ที่หน้าผากของคนจีนช่างเหม่อไปหนึ่งทีพร้อมกับโค้งตัวเท้าเอวลงไปแยกเขี้ยวใส่ตาของอีกฝ่าย

     

    "น้ำเน่า!"

     

    "ก็จริงนี่นา ฮยอกแจไม่เคยคิดถึงใครหรอครับ"

     

    ก็เขาทางมองเห็นความรักของเขาได้ตลอดเวลาอยู่แล้ว

     

    จะเอาเวลาที่ไหนไปให้คิดถึงกันล่ะ

     

    "ไม่เคย"

     

    "โห้ยยย!...ฮยอกแจไม่โรแมนติกเอาซะเลย ไม่น่าไม่มีแฟนสักที"

     

    "ฮันคยอง!"

     

    "ฮ่าๆๆ...ไม่แกล้งแล้วครับ ไม่แกล้งแล้ว ฮยอกแจมาหาผมถึงนี่มีธุระอะไรรึเปล่าครับ"

    ฮันคยองหัวเราะออกมาที่สามารถทำให้เขาหัวเสียได้(เขาว่าหมอนี่ต้องแอบเอาไปคิดนับแต้มแน่ๆ)ก่อนจะถามถึงสาเหตุของการปรากฏตัวของเขา ฮยอกแจยกมือขึ้นกอดอก ทำปากเชิดขึ้นนิดเป็นเชิงคล้ายจะบอกคนช่างแกล้งว่าเขาไม่ชอบนะ ซึ่งก็นั่นล่ะ...ไอ้คนช่างแกล้งก็ยังหัวเราะให้กับท่าทางแบบนั้นของเขาอยู่ดี

     

    "เห็นหายไปนาน เลยมาดูว่าทานข้าวกลางวันรึยัง แล้วก็ยังจริงๆด้วย...ฉันเดาถูกใช่มั้ยล่ะ"

     

    "ก็ผมต้องรอให้ฮีชอลโทรมาก่อนนี่ครับ"

     

    วันนี้ฮยอกแจได้ยินชื่อของคิมฮีชอลจากปากของคนที่เขารักกี่ครั้งแล้วนะ

     

    "นายจะกินข้าวแล้วเกี่ยวอะไรกับฮีชอลด้วยล่ะ"

     

    "ผมแค่อยากจะรู้ว่าเขากินข้าวรึยัง จะได้ไม่เป็นห่วง กินข้าวตอนไม่สบายใจมันไม่อร่อยเท่าไรหรอกนะครับ ฮยอกแจไม่เขาใจหรอก"

     

    ทำไมจะไม่เข้าใจล่ะ

     

    แล้วที่ฮยอกแจทำอยู่นี่...ไม่เหมือนกันหรอกหรอ

     

    ไม่ใช่'รัก'เหมือนกันหรอกหรอ

     

    ............................................................

     

     

    2 ธ.ค x2

    กำลังคิดว่าหิมะจะหนาวได้มากขนาดไหนตอนร้องไห้

    คงต้องหนาวสุดๆไปเลยล่ะ

     

     





    "คุณพ่อให้มาตามนายกลับบ้านฮยอกแจ"

     

    "ยังไม่กลับหรอก"

    คนดื้อรั้นตอบกลับมาเบาๆโดยไม่ยอมหันไปสบตากับคนมาตามที่ปรากฏกายยืนอยู่ข้างกายเลยสักนิด ร่างบอบบางที่นั่งนิ่งอยู่บนรั้วกั้นดาดฟ้าของตึกสูงยื่นมือออกไปรับเกล็ดหิมะที่ร่วงหล่นลงมาจากฟ้าก่อนริมฝีปากบางสีซีดจะคลี่รอยยิ้มออกมานิดๆอย่างหาความหมายไม่ได้ ฮยอกแจแกว่งขาที่ห้อยอยู่ที่ด้านนอกกำแพงไปมา

     

    "คิบอมอ่า"

     

    "อย่าดื้อนักเลยฮยอกแจ"

    พี่ชายคนรองว่าด้วยน้ำเสียงอ่อนใจพลางทรุดตัวลงนั่งเคียงข้าง ฮยอกแจหัวเราะคิกออกมาเบาๆ แต่คิบอมรู้...ฮยอกแจคนดีไม่ได้กำลังรู้สึกอย่างที่เจ้าตัวอยากจะให้เขาเห็นเป็นแน่ เขาตวัดสายตาไปมองยังตึกสูงที่ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามนิด...ตรงตำแหน่งประตูระเบียงที่เขาเองยังจำได้ขึ้นใจ ไฟด้านในยังเปิดอยู่เช่นเดียวกับม่านที่เจ้าของห้องยังไม่ได้กระชากปิด มันจึงทำให้เขาเห็นคนที่กำลังนอนยิ้มคุยโทรศัพท์อยู่บนเตียงด้านในได้ชัดนัก

     

    "ฉันไม่ได้ดื้อเหมือนคนเล็กสักหน่อย"

     

    แต่ก็ดื้อเหมือนกันนั่นล่ะ

     

    คิบอมเอามาต่อในใจพร้อมกับวาดมือโอบไหล่ของน้องชายคนโตเอาไว้ พอยุนโฮย้ายออกไป อะไรๆก็ดูเหมือนจะตกมาอยู่กับเขาไปเสียหมด แย่ชะมัดเลย! เขาโยกเอนร่างเล็กที่ตัวเย็นเฉียบไปหมดเพราะเกล็ดหิมะไปมาเบาๆ

     

    "นายจะอะไรนักหนากับหมอนั่นนะฮยอกแจ เลิกเหอะ ตอนนี้คุณพ่อเป็นห่วงนายยิ่งกว่าคนเล็กอีกนะรู้มั้ย"

     

    "ก็คนเล็กมีไอ้เด็กถ่อยดูแลแล้วนี่"

     

    "เหอะ!...แล้วฉันกับคุณพ่อไม่ได้ดูแลนายอยู่รึไงเจ้าตัวเล็ก ทำมาเป็นพูด"

    ฮยอกแจหัวเราะออกมาอีกพลางเอนหัวลงมาพิงกับตัวของเขาเอาไว้ ถูปลายจมูกไปมาอยู่ที่อกเสื้อคล้ายกำลังสร้างไออุ่นให้กับตัวเอง แต่ฮยอกแจไม่ต้องการความอบอุ่นจากเชาหรอก เขารู้...มีแค่ผู้ชายคนนั้นเท่านั้นที่เป็นทุกอย่างในการกระทำของลีฮยอกแจ

     

    "ฉันถึงรักคิบอมกับคุณพ่อไง...รักยุนโฮกับคนเล็กด้วย"

     

    "แล้วผู้ชายคนนั้น?"

     

    "..."

     

    บางครั้งคิบอมก็รู้ตัวว่าตัวเองพูดไม่ค่อยคิดเท่าไร

     

    "ไม่ต้องตอบก็ได้นะ"

     

    "รักสิ...รักมากเหมือนกัน"

    ฮยอกแจเงยหน้าขึ้นมายิ้มให้เขาจนตาหยี...เพราะแบบนี้ไงล่ะ การรับมือกับลีฮยอกแจเป็นสิ่งที่เขาเพียรพยายามหลีกเลี่ยงเสมอ คนจ้าวอารมณ์ อาละวาดง่ายอย่างคนเล็กเขายังพอหาวิธีจัดการได้ แต่คนที่ชอบทำตัวเหมือนไม่เป็นอะไรแบบนี้น่ะ เขาไม่รู้ว่าตัวเองควรจะต้องทำยังไง คิบอมถอนหายใจและใช้มือข้างที่วางพาดอยู่บนไหล่บางขยับไปดึงจุกผมเล็กๆที่วันนี้เจ้าตัวมัดไว้ที่ด้านข้างเบาๆ

     

    "จะร้องก็ร้องสิ ฉันไม่ได้ห้ามเสียหน่อย"

     

    "..."

     

    "นี่!...ถ้ายังยิ้มอยู่แบบนี้ฉันกลับแล้วนะ"

     

    "คิบอมอ่า!"

    เสียงของฮยอกแจไม่ได้ดังขนาดนั้นหรอก แต่เป็นเพราะความเงียบในคืนอันดึกสงัดใกล้วันใหม่อยู่รอมร่อและหูที่ดีเป็นพิเศษของเขากระมัง เขาถึงได้รู้สึกว่ามันดังมากเหลือเกิน เจ้าตัวเล็กประจำบ้านผวาเข้ามากอดเอวของเขาเอาไว้แน่นก่อนจะปล่อยโฮออกมาเสียงดังลั่นพร้อมกับสะอื้นจนตัวโยนไปหมด

     

    "คิบอม...ฮึก...คิบอม"

     

    "จะเรียกทะ...คุณพ่อ"

    ร่างสูงโปร่งหากทว่าผอมบางที่ปรากฏขึ้นที่ข้างกายของเขาทำให้เขาชะงักประโยคของตัวเองไป คุณพ่อคลี่ยิ้ม สะกิดไหล่ของเขาเบาๆคล้ายอยากจะขอให้เขาลุกออกไปก่อน คิบอมกระซิบบอกสิ่งที่เกิดขึ้นกับน้องชายก่อนจะลุกขึ้นกระโดดลงจากรั้งกั้นและเดินห่างออกไป ปล่อยให้คนที่มีฐานะเป็นพ่อเลี้ยงของตนได้ทรุดตัวนั่งลงแทนที่ ฮยอกแจเงยหน้าขึ้นมองหน้าคนมาใหม่นิดก่อนจะเบ้หน้าหนักกว่าเก่าเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายเป็นใครและกำลังมีรอยยิ้มอ่อนโยนมากขนาดไหน คนตัวเล็กซุกตัวเข้าหาพร้อมกับตวัดแขนโอบกอดเอวบางของคุณพ่อเลี้ยงตาสวยเอาไว้แน่น

     

    "คุณพ่ออ่า!"

     

    "ฮยอกแจเด็กดี ร้องไห้อีกแล้วหรอ ร้องไห้มากน้ำหมดตัวไม่รู้ด้วยน้าา"

     

    "ไม่จริง...ฮึก...สักหน่อย"

     

    "จริงสิ พ่อเป็นหมอนะ ไม่เชื่อกันได้ไง"

     

    "..."

     

    "นี่ฮยอกแจเด็กดี"

    ฮยอกแจเด็กดีไม่เอ่ยตอบรับเสียงเรียกนั้น และทำเพียงซุกตัวเข้าหาคนข้างกายมากขึ้นราวกับไม่อยากจะได้ยินถ้อยคำใดๆมากไปกว่านั้น...ฮยอกแจไม่อยากฟังคำพูดซ้ำซากพวกนั้นให้ตัวเองเจ็บปวด...ให้ตัวเองเลิกหวัง เพราะเขาทำแบบนั้นไม่ได้...บอกให้ตัวเองเลิกรักไม่ได้

     

    "พ่อไม่ว่าหรอกนะถ้าฮยอกแจจะอยู่ตรงนี้ตลอดทุกคืน"

     

    "ฮยอกแจไม่อยากฟังแล้วคุณพ่อ"

     

    "พ่อรู้...แต่ถ้าหารนั่งอยู่ตรงนี้ทันทำให้ฮยอกแจร้องไห้ ฮยอกแจก็ควรจะพอสักที"

     

    "ฮยอกแจบอกว่าไม่อยากฟัง!"

    คนดื้อเงียบสะบัดตัวออกมาจากอ้อมกอดอุ่นของคุณพ่อตัวบางด่ินจะผละตัวลุกยืนขึ้นบนขอบกำแพง เดินทรงตัวไปตามกำแพงเตี้ยๆนั่นห่างออกมาจากคนที่ห่วงใยเขาทั้งสองคน จองซูถอนหายใจออกมาเบาๆพลางหมุนตัวเอาขากลับเข้ามาด้านในตัวตึกก่อนจะลุกขึ้นเดินไปหาลูกชายบุญธรรมคนที่สองของตน...เลือกที่จะถอยออกมายืนเฝ้ามองห่างๆเหมือนอย่างเคย

     

    "เจ้านั่งคงไม่ได้คิดทำอะไรไม่ดีอยู่หรอกนะครับคุณพ่อ"

     

    "ไม่หรอก ฮยอกแจเป็นเด็กดี เขาไม่เหมือนคนเล็ก"

    คิบอมเบ้ปากนิดให้กับคำเปรียบเทียบของคุณพ่อตาหวานของตน แน่สิ...ถ้าเอาไปเทียบกับคนที่ทั้งดื้อด้านและยังพูดจริงทำจริงอย่างคนเล็ก ไม่ว่าใครที่ไหนก็เป็นเด็กดีทั้งนั้นนั่นล่ะ! ฮยอกแจเดินทรงตัวไปได้เพียงไม่กี่ก้าวก็หยุดและหันหลับไปมองคนที่เป็นความรักของเขาที่อยู่ห่างออกไปไกลมากเหลือเกินอีกครั้ง ฮันคยองยังคงนอนคุยโทรศัพท์อยู่บนเตียงทั้งๆที่นี่มันก็ตีสองกว่าเข้าไปแล้ว

     

    มือเล็กล้วงหยิบโทรศัพท์มือถือของตนออกมาจากกระเป๋ากางเกง ปลายนิ้วลังเลอยู่บนปุ่มหมายเลขเล็กน้อยก่อนสุดท้ายจะขยับกดหมายเลจที่เขาจำได้ขึ้นใตทั้งๆที่เคยกดโทรหาเพียงไม่กี่ครั้ง...ยิ่งสัญญาณรอสายดังนานมากเท่าไร ยิ่งคนผู้ซึ่งเป็นปลายสายลังเลที่จะรับโทรศัพท์จากเขามากเท่าน หัวใจที่เลิกขยับไหวมานานแล้วของเขาก็หนักอึ้งมากขึ้นเรื่อยๆ

     

    "ว่าไงฮยอกแจ!"

     

    "ฮัน..."

    เสียงหวานเอื้อนเอ่ยเรีกชื่อของคนปลายสายออกมาเบาๆพร้อมด้วดยรอยยิ้มจางๆบนเรียวปาก ฮยอกแจกดโทรศัพท์มือถือแนบเข้ากับใบหูมากขึ้น ในขณะที่ดวงตากลับจับจ้องไปที่ร่างของชายหนุ่มที่อยู่ปลายสายซึ่งกำลังมีรอยยิ้มกว้างค้างอยู่บนใบหน้า...รอยยิ้มแบบนั้นไม่มีความหมายอะไรหรอก ฮยอกแจรู้ดี ฮันคยองก็ชอบยิ้มแบบนั้นไปเรื่อยเปื่อยตลอดนั่นล่ะ

     

    "ยังไม่นอนอีกหรอครับฮยอกแจ ดึกแล้วนะ"

     

    "แล้วทำไมนายยังไม่นอนอีกล่ะ"

     

    "คุยกับฮีชอลอยู่น่ะครับ"

     

    "..."

     

    "ฮยอกแจมีธุระอะไรรึเปล่าครับ ฮีชอลถือสายรออยู่น่ะ ผมไม่อยากให้เขาคอย"

     

    "อ่า...ถ้างั้นค่อยคุยกันพรุ่งนี้ก็ได้ ค่าโทรต่างประเทศมันแพงนี่เนอะ ขอโทษที่รบกวนนะฮันคยอง"

    ฮยอกแจพูดออกไปเร็วปรื๋อกลั้วด้วยเสียงหัวเราะแห้งๆ ก่อนจะตัดสายทิ้งอย่างรวดเร็วโดยไม่ปล่อยให้อีกฝ่ายได้มีโอกาสเอ่ยถามอะไรมากไปกว่านี้ เขาเห็นฮันคยองดึงโทรศัพท์มือถือออกมาจ้องมองชั่วครู่เหมือนจะแปลกใจที่เขาชิงตัดสายไปเสียเฉยๆก่อนสุดท้ายแล้วเจ้าตัวจำทำเพียงแค่ไหวไหล่และกดโอนสายกลับไปยังคู่สนทนาเดิม

     

    แล้วจะให้ฮยอกแจทำยังไง

     

    ในเมื่อทำอะไร...มันก็ไม่เคยเป็นผลสักที

     

    มันก็ยังมีเพียงฮยอกแจคนเดียวที่ร้องไห้เท่านั้นเอง"

     

    "คุณพ่ออ่าา"

     

    "ฮยอกแจเด็กดี"

    ไม่ต้องร้องเรียกให้ดังนัก ร่างบอบบางของปาร์คจองซูก็เดินเข้าไปหาคนร้องเรียก คุณพ่อเลี้ยงตาหวานอุ้มลูกชายคนที่สามของตนลงมาจากกำแพงอย่างง่ายดายก่อนจะหมุนตัวให้หันมาหาและกอดกระชับเอาไว้แนบอกแน่ กดใบหน้าหวานใสอันเหยเกและเปรอะเปื่อนไปด้วยน้ำตาเข้ากับอกเสื้อของตน จองซูโยกเอนร่างผอมบางที่สั่นไปหมดทั้งร่างไปมาเบาๆ

     

    "ฮยอกแจรู้มั้ย..."

     

    "ฮึก..."

     

    "อะไรบางอย่างที่ต่อให้พยายามเท่าไรก็ไม่เป็นผล บางครั้ง...ดื้อรั้นต่อไปก็เหนื่อยเปล่าและไร้ค่า"

     

    "..."

     

    "บางครั้ง...เราก็ต้องยอมแพ้และปล่อยมันไปดีกว่า"

     

    ..............................................................

     

    12 ธ.ค x2

    กำลังเลิกพยายาม

    กำลังเลิกรัก

    กำลังเลิกจำ

    กำลังเลิกร้องไห้

    แต่ทำไมกันนะ...การเลิกหายใจยังทำง่ายกว่าเลย

     

     

     

     

    "ฮีชอล?!"

     

    "ทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะฮยอกแจ แปลกใจที่เห็นฉันขนาดนั้นเลยหรอ"

    ฮยอกแจรีบเปลี่ยนสีหน้าของตนให้กลับมาเป็นรอยยิ้มพลางส่ายหน้าปฏิเสธคำถามของเพื่อนร่วมคณะคนสวยที่จู่ๆก็โผล่กลับมาที่เกาหลีก่อนกำหนดหลายอาทิตย์ เขาหาเสียงของตัวเองไม่เจอ...ลำคอแสบเคืองไปหมด และดวงตาก็กำลังพร่ามัว แต่เขายังฝืนยิ้มได้อยู่...ยังไหวอยู่

     

    "แล้ว...ฮันคยองรู้รึงยัง"

     

    "กำลังจะไปเซอร์ไพรส์อยู่นี่ล่ะ อย่าไปบอกมันนะฮยอกแจ ฉันไปล่ะ...คิๆ"

    คนสวยหัวเราะเสียงใสส่งท้ายก่อนจะหมุนตัววิ่งขึ้นบันได้ไป ปล่อยให้เขายืนค้างอยู่ที่เดิมอย่างไม่รู้จะทำยังไง...ตอนนี้ต้องยิ้มรึเปล่านะ หรือว่าควรจะหัวเราะดี นึกไม่ออกเลย...ไม่รู้เลยจริงๆ"

     

     

     

     

     

     

    "ฮีชอลอ่าา!!...อย่าแกล้งสิ ถนนมันลื่นนะ"

    ดวงตาเรียวรีของคนที่ยืนอยู่บนขอบกำแพงกั้นดาดฟ้าของตึกคณะวิทยาศาสตร์มองตามชายหนุ่มสองคนที่กำลังแกล้งกันไปมาอยู่บนจักรยานแน่นิ่ง พวกเขาหยอกล้อ พวกเขาหัวเราะ และหูที่ดีเกินมนุษย์ปกติก็ทำให้เขาได้ยินเสียงเหล่านั้นชัดเจนนักทั้งๆที่ยืนสูงขึ้นมาเกือบสิบชั้นแบบนี้

     

    "ฮยอกแจ"

    เสียงทุ้มโทนเบสของพี่ชายคนโตดังขึ้นก่อนอ้อมแขนแข็งแรงจะอุ้มเขาลงมาจากกำแพงอย่างง่ายดาย ยุนโฮหมุนตัวเขาให้หันไปหา...ไม่พูดอะไรออกมาแม้สักคำ และทำเพียงกดจูบลงเบาๆที่หน้าผากของเขาแล้วจึงรวบตัวเขาเข้าไปกอดแนบกายแน่น...แน่นมากเสียงจนเสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นจมหายเข้าไปในอกและไม่มีใครได้ยิน

     

    "วันนี้คนเล็กกับคิบอมไม่ว่าง ฉันกอดนายเองนะ"

     

     

     

     

     

     

    20 ธ.ค x2

    หากพระจันทร์โดนบัง...มันจะเกิดความมืดเพียงชั่วขณะ

    แต่ในชั่วขณะนั้น...บางที่ก็หวังไม่ได้ใช่รึเปล่าว่ามันจะเป็นตลอดไป

    เพราะบางที...คนๆนั้นก็จะยังคงเฝ้ารอคอยให้ดวงจันทร์พ้นจากเงามืดชั่วขณะนั้นอยู่ดี

     



    ....................................................................






    อย่าสับสนมึนงงและสงสัยว่าทำไมจบแบบนี้นะ= = เพราะสำหรับไรเตอร์ ไรเตอร์ว่าเรื่องนี้ค่อนข้างมีจุดจบที่ชัดเจนตั้งแต่ต้นอยู่แล้วน่ะค่ะ เมื่อฮยอกแจพูดที่หลังว่ารัก มันก็ย่อมเป็นธรรมดาที่ว่าจะผิดหวังนะคะ ถ้าใครจับฟีลลิ่งตรงนี้ได้ก็น่าจะเดาตอนจบได้ตั้งแต่เอาไดอารี่มาลงแล้วล่ะเนอะ เพราะในเมื่อฮันร้กฮีชอล(ซึ่งก็ดูเหมือนจะรักฮันเหมือนกัน) ตอนจบจะให้ฮันมาลงเอยกับฮยอกมันก็ไม่ใช่ใช่มั้ยล่ะ(ถ้าเปนอย่างนั้นแม่ยกของคิมฮีก็จะของขึ้น และป๋าก็จะต้องโดนด่าอีก...สรุปแล้ว ป๋าก็จะต้องโดนด่าไม่ทางใดก็ทางหนึ่งอยู่ดี เวรกำของคนจีนจริงๆ= =)


    ตอนนี้eclipseยังไง(รู้สึกเหมือนเป็นหน้าที่ที่ต้องมาอธิบายทุกตอนเลย) ตอนนี้น่าจะเป็นตอนที่ชัดเจนที่สุดแล้วจากทั้งสี่ตอนนะไรเตอร์ว่า เพราะว่าพล๊อตคล้ายๆหนังเลย แต่จะค่อนไปทางนิวมูนซะมากกว่า เพราะฟิคของเราไม่ได้อยู่กันครบสามคนเหมือนในหนังเนอะ ในหนังมันเป็นตอนที่เบลล่าต้องเลือกใช่มั้ยล่ะว่าจะเอาเจค๊อบหรือเอ็ดเวิร์ด ซึ่งในที่นี้จะเปรียบฮันเปนเบลล่าค่ะ มีคนสองคนมาติดพันด้วยไรงี้ จบด้วยประการเช่นนี้แล


    นั่งไล่ๆอ่านคอมเม้นต์มา มีหลายคนไม่รู้ด้วยว่าคุณคนเล็กที่ฮยอกพูดถึงในไดอารี่เป้นใคร ส่วนตัวอยากจะบอกว่าไรเตอร์ชอบคำๆนี้มากกกก มันฟังดูเหมือนเด็กเอาแต่ใจที่มีแต่คนโอ๋ดีน่ะค่ะ^^ แน่ใจว่าหลายคนอาจจะรู้ว่าเปนคำที่ใช้หมายถึงใคร แต่ถ้าใครไม่รู้ก็แนะนำให้วกกลับขึ้นไปอ่านเอสเอ็ฟวันเกิดของคยูค่ะ แล้วก็จะรู้เองว่าคุณคนเล็กกับไอ้เด็กถ่อยที่ฮยอกพูดถึงหมายถึงใคร^^


    เนื่องจากลงพาร์ทนี้เป็นพาร์ทสุดท้าย ก็เลยอยากจะถามว่า

    คุณคิดว่าคุณหมอปาร์คจองซูเรื่องนี้ เมะ หรือ เคะ คะ?

    ไรเตอร์มีคำตอบของไรเตอร์อยู่แล้วน้าาาา(ยิ้มหวานแล้วจากไป^______^)

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×