ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [SJ:KIHAE] :: Heartquake ภารกิจเขย่าหัวใจนายตัวร้ายให้ลงล๊อค

    ลำดับตอนที่ #34 : 29.5th Mission :: ก็เพราะชอบน่ะสิ!

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.08K
      10
      30 ต.ค. 53

    "โอ๊ยๆ!...เบาๆสิครับทงเฮ ผมเจ็บนะ!...โอ๊ย!!"

    ยัยปลาทองซาดิสม์ใจร้ายที่เอาสายสะพายของกระเป๋ามารั้งคอของเขาและลากให้เดินตามไปอย่างทารุณกรรมเป็นที่สุดหยุดชะงักการก้าวเดินของตัวเองไปนิดเพื่อหันมาตบผลั่วะเข้าให้กลางกบาลของเขาเป็นครั้งที่สองของวันโทษฐานที่เขาแหกปากเสียงดังมากเกินไปก่อนเจ้าตัวจะหันกลับไปตั้งหน้าตั้งตาเดินต่อไป และแหงล่ะ...ใช้สายกระเป๋าลากคอเขาให้เดินตามไปด้วยท่าทางไม่เดือดร้อนอะไรสักนิดว่าเขาอาจจะขาดอากาศหายใจเมื่อไรก็ได้...แต่เด็กเสดเดือดร้อนนะ!

     

    (เลิกพูดถึงไอ้เพื่อนเลวสองคนนั้นได้เลย สามีโผล่มาทีไร เอาแค่เงาหัวก็ได้ ไอ้สองคนนั้นเป็นได้วิ่งเปิดเปิงหนีหายไปทุกที...ให้มันได้อย่างนี้สิไอ้พวกกากเอ๊ยยย!) คิบอมใช้สองมือจับสายกระเป๋าที่พันคอเขาอยู่เอาไว้เพื่อไม่ให้มันรัดคอของเขาแน่นมากเกินไป(ตายทุเรศอย่างนี้เขาไม่ยอมหรอกนะ! มันต้องตายคาอกขาวๆของสามี(?)คนสวยต่างหากถึงจะสมเกียรติน่ะ!)

     

    "ทงเฮครับ!!"

     

    "ทำไมต้องร้องเสียงดังหนวกหูด้วยคิมคิบอม!!"

     

    มึงเสียงดังกว่ากูอีกไอ้ปลาทอง!

     

    ทงเฮหยุดจังหวะการก้าวเดินพร้อมกับหันมาแว้ดใส่เขา และเขาก็อาศัยจังหวะนั้นเอาสายกระเป๋าออกจากลำคอของตัวเองอย่างรวดเร็ว ยัยปลาทองทำตาตาโตนิดที่เห็นเขาหลุดออกมาจากอุปกรณ์ลงทัณฑ์(?)ได้รวดเร็วขนาดนั้น แต่เจ้าตัวก็คงจะเบื่อที่จะลงโทษเขาแบบนั้นแล้วล่ะถึงได้โยนกระเป๋ามาให้เขาถือเฉยเลย

     

    "ทำไมต้องทำเจ็บๆแบบนี้ด้วยล่ะครับ ผมเจ็บเหมือนกันนะ"

    ดวงตาคู่โตของคนตรงหน้าเสเบือนหลบตาเขานิดคล้ายจะสำนึกผิดที่ได้ฝากรอยแดงจางๆเอาไว้บนลำคอของเขา(ถ้าเป็นรอยดูดนี่เขาจะไม่บ่นสักแอะเลยนะขอบอก!) แต่มันก็แค่คล้ายๆนั่นล่ะ เพราะอีกไม่กี่วินาทีต่อมา ใบหน้าหวานๆนั่นจะเปลี่ยนกลับมาทำสีหน้าบึ้งตึงใส่เขาเหมือนเดิม

     

    "มันก็เรื่องของนายสิ ฉันไม่เจ็บนี่!"

     

    ยัยปลาทองเห็นแก่ตัว!!

     

    "พูดแบบนั้นนิสัยไม่ดีเลยนะครับ ทงเฮโกรธผมก็บอกผมสิ ทำแบบนี้คนอื่นเค้าเจ็บตัวนะครับ"

    สามีคนสวยหน้าสลดไปนิดเมื่อโดนเขาอบรมเรื่องนิสัยไม่ดีเข้าให้ ก่อนจู่ๆก็กลับมาทำหน้าบึ้งใส่เขาอีกรอบเหมือนจะเพิ่งนึกได้ว่าตัวเองต่างหากที่กำลังไม่พอใจอยู่ และมันก็เหมือนภาพช้าเลยล่ะที่เขาเห็นมือเล็กๆข้างนั้นเงื้อขึ้นตั้งท่าจะตบลงมาที่กลางกบาลของเขาเป็นครั้งที่สาม(ถ้ารวมกระเป๋าด้วย)ของวัน คิบอมคว้าข้อมือเล็กๆข้างนั้นเอาไว้ได้กลางอากาศพร้อมกับใช้แขนอีกข้างรวบเอวคอดบางของคนที่ชอบตบตีเขาอยู่เรื่อยเข้ามาแนบกายอย่างรวดเร็ว

     

    "ตีผมบ่อยๆผมทำรายงานภาษาอังกฤษให้ทงเฮผิดเยอะไม่รู้ด้วยนะครับ"

    ริมฝีปากแดงสดคู่นั้นเม้มเข้าหากันทันทีที่สิ้นคำของเขา...ขัดใจมึงล่ะสิไอ้ปลาทอง! แก้มเนียนของทงเฮที่เขาเห็นมันลางๆอยู่ใต้แสงไฟนีออนสลัวๆขึ้นสีแดงจางๆอย่างน่าชังจนเขาต้องอมยิ้มออกมาอย่างเอ็นดู

     

    "แล้วทีนี้ให้ผมอธิบายได้รึบยังล่ะครับ"

     

    "อธิบายอะไร ใครอยากฟังกัน!"

    ยัยผู้ร้ายปากแข็งคนสวยตวัดเสียงใส่เขาพร้อมกับเชิดหน้าหนีไปทางอื่น และแน่ล่ะ...ยิ่งหันหน้าหนี คิบอมก็ยิ่งเห็นแก้มแดงๆได้ชัดขึ้นจนเขาอดไม่ได้ที่จะฝั่งจมูกลงไปหนักๆอย่างหมั่นเขี้ยวปนหมั่นไส้

     

    "ที่ผมโกหกว่าติดธุระไงครับ"

     

    "แล้วทำไมต้องโกหกด้วยล่ะ!"

             

    ไหนบอกไม่อยากฟังไงไอ้ปลาทองหัววุ้นปากแข็ง!

     

    "แล้วไอ้เด็กคนนั้นอีกอ่ะ!"

     

    "ครับ?"

     

    "นายมันไม่ได้ความเลยคิมคิบอม!!"

     

    "หึงผมอีกแล้วหรอครับ"

    รอยยิ้มล้อๆบนเรียวปากของเขาทำเอาทงเฮชะงักไปนิด...แก้มแดงแปร๊ดขึ้นมาชัดตาเลยล่ะ และแหงล่ะ...เห็นแก้มแดงๆทีไรคิบอมเป็นต้องฟัดลงไปหนักๆให้หายหมั่นเขี้ยวทุกที คนตัวเล็กดิ้นอึกอัก พยายามหาทางรอดพ้นออกมาจากการแนบเนื้อแบบนี้ หากแต่ยิ่งดิ้น คิบอมก็ยิ่งรัดร่างนุ่มนิ่มเข้าแนบตัวมากขึ้น เขาตวัดข้อมือเล็กที่เขาจับค้างอยู่กลางอากาศไปไพล่กดอยู่ที่แผ่นหลังบางเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายได้ดิ้นรนอะไรมากนัก(ดิ้นมากเดี๋ยว'ตื่น'แล้วจะแย่ ก็บอกแล้วนี่ว่าเด็กเสดไม่ชอบที่สาธารณะน่ะ)

     

    "จียงไม่ได้เป็นอะไรกับผมสักหน่อย ไม่เห็นต้องหึงเลยนี่ครับ"

               

    "ก็..."

     

    "ก็...?"

     

    "ก็นายเป็นแฟนฉันนะ ต้องกอดฉันคนเดียวสิ...ไปกอดคนอื่นได้ไงอ่ะ!!"

     

    แหม...แล้วแบบนี้ภรรยาจะไม่หลงคุณสามียังไงไหวล่ะครับ

     

     

    .....................................................................

     

    ยุนโฮถอนหายใจออกมาเบาๆพลางกระชับสายกระเป๋าสะพายใบใหญ่เข้าแนบหัวไหล่มากขึ้นและก้าวเดินต่อไปท่ามกลางความมืดสลัวของริมถนนในมหาลัย ปกติแล้วการเดินจากสนามกีฬาไปที่หน้าประตูมหาลัยเพื่อออกไปยังป้ายรถเมล์เนี่ย มันก็ไม่ใช่เรื่องหนักหนาสาหัสสากรรจ์สำหรับเขาเท่าไรนักหรอกนะ หากแต่วันนี้คิมจุนซูคงจะใช้งานเขาหนักเกินไป(?)จริงๆนั่นล่ะ เขาถึงรู้สึกเหมือนโลกหมุนช้าลงแบบนี้น่ะ

     

    "รู้งี้ขอให้แม่ขับรถมารับก็ดีอ่ะ"

    พ่อนหนุ่มหุ่นนายแบบบ่นพึมพำกับตัวเองหงุงหงิงก่อนสายตาจะเหลือบไปเห็นใครบางคนที่เดินอยู่ที่ริมถนนอีกฝั่งหนึ่งเช้า แหงล่ะ...แค่เห็นปากก็รู้แล้วว่าใคร

     

    สงสัยคงชอบอยู่คนเดียวมืดๆจริงๆแน่เลย

     

    "แจจุงครับ!"

    เจ้าของชื่อที่กำลังเดินสวนเขากลับไปที่สนามกีฬาหันขวับมาตามเสียงเรียกจากอีกฝากถนนก่อนใบหน้าหวานที่แลดูเร่งรีบเมื่อครู่จะเปลี่ยนมาเป็นบึ้งตึงทันทีที่เห็นว่าใครเป็นคนร้องเรียก อาเสี่ยคนสวยเชิดหน้าขึ้นด้วยท่าทางหยิ่งๆก่อนจะสะบัดตัวก้มหน้าก้มตาเดินต่อไปเฉยโดยไม่สนใจจะเอ่ยทักเขาตอบเลยสักนิด เดือดร้อนพ่อคนช่างใส่ใจอีกนั่นล่ะที่ต้องวิ่งตามไป...มาเดินคนเดียวมืดๆแบบนี้เดี๋ยวก็ได้โดนคนงานฉุดเข้าพงหญ้าข้างทางจนได้อ่ะะ

     

    "จะไปไหนหรอครับแจจุง"

     

    "เรื่องของฉัน!"

     

    "ผมบอกแล้วไงว่าอย่าอยู่คนเดียวมืดๆอ่ะ เดี๋ยวก็ผีหลอกหรอก"

     

    "ฉันจะโดนผีหลอกแล้วมันเกี่ยวอะไรกับนายล่ะชองยุนโฮ!"

    แจจุงหันมาแว้ดใส่ก่อนจะตั้งหน้าตั้งตาเดินต่อไปจนเขาต้องเอื้อมมือไปรั้งจับข้อมือเล็กๆข้างหนึ่งเอาไว้เพื่อให้อีกฝ่ายหันมาคุยกันดีๆเสียที

     

    "ผมเป็นห่วงคุณนะ พูดดีๆให้สมกับที่คนอื่นเค้าเป็นห่วงไม่ได้รึไงล่ะครับ"

     

    "ฉันไม่ได้ขอให้นายเป็นห่วงฉันนี่ชองยุนโฮ"

               

    "รถอยู่ไหนล่ะครับ ที่เดิมรึเปล่า ผมจะเดินไปส่ง"

    ยุนโฮตัดบทการโต้เถียงลงดื้อๆด้วยการเอ่ยถามหารถคันสวยของอีกฝ่ายแทนที....ถ้าเป็นปกติเขาคงจะล้อจนอีกฝ่ายเต้นเร้าๆนั่นล่ะ แต่วันนี้เขาเหนื่อยเกินกว่าที่จะต่อปากต่อคำเสียแล้ว เขาเห็นอาเสี่ยยู่ปากเข้าหากันนิดคล้ายจะขัดใจที่เขาไม่ได้มีอารมร์ร่วม(?)ในการโต้เถียงด้วย...ก็น่ารักพอตัวอยู่นะ

     

    "ไม่ได้เอามา วันนี้กลับกันจุนซู"

    ไม่น่าล่ะ วันนี้ถึงได้พาตัวเองกับน้องชางมินมาสถิตย์อยู่ที่สนามกีฬาตั้งแต่หัววัน ยุนโฮเก็บข้อสมมติฐานของตัวเองเอาไว้ในใจเงียบๆก่อนจะหันไปคลี่รอยยิ้มอ่อนใจให้กับคนที่ยังทำท่าฟึดฟัดใส่เขาไม่เลิกรา...ทำหน้ามุ่ยแบบนั้นไม่เหนื่อยบ้างเลยรึไงนะ

     

    "แล้วน้องชางมินล่ะครับ เห็นนั่งอยู่ด้วยกันนี่"

     

    "เพิ่งไปส่งขึ้นรถเมล์เมื่อกี้"

    แจจุงตอบเขากลับมาเสียงห้วนโดยไม่อธิบายต่อว่าทำไมน้องชางมินคนน่ารักของเขา(?)ถึงต้องขึ้นรถเมล์กลับไปก่อนทั้งๆที่มานั่งอยู่ที่ข้างสนามคอยปรนิบัติพัดวี(?)อาเสี่ยอยู่เสียนานสองนาน แต่เขาก็ได้แต่เก็บความสงสัยนั้นเอาไว้ในใจอีกเหมือนเดิมนั่นล่ะ

     

    "ผมเห็นจุนซูยะ..."

    พูดยังไม่ทันจบประโยค รถคันสวยคันหนึ่งก็ขับเข้ามาจอดอยู่ตรงหน้าพวกเขา และที่กำลังเลื่อนกระจกฝั่งด้านข้างคนขับลงก็คือคิมจุนซูผู้ซึ่งหันมาทำสีหน้าแปลกใจใส่เขานิดเมื่อเห็นว่าเขากำลังยื้อยุดฉุดแขน(?)เพื่อนของตนอยู่ในที่มืดๆเพียงลำพัง

     

    "ยังไม่กลับอีกหรอยุนโฮ"

     

    "ก็กำลังจะกลับนี่ล่ะ"

     

    "งั้นกลับด้วยกันสิ ให้ไอ้ปาร์คไปส่ง พวกนายขึ้นรถสิ เดี๋ยวประตูฝั่งนี้ของมหาลัยจะปิดซะก่อน"

    ผู้จัดการทีมฟุตบอลคนสวยว่าพลางกวักมือเร่งพวกเขาให้รีบขึ้นรถแล้วจึงเลื่อนกระจกขึ้นปิดตามเดิม แจจุงหันมาแยกเขี้ยวใส่เขานิดก่อนจะสะบัดข้อมือออกมาจากการเกาะกุมของเขาและเปิดประตูเข้าไปนั่งที่เบาะหลังของรถ ส่วนพ่อหนุ่มหุ่นนายแบบก็ได้แต่ไหวไหล่อย่างไม่เข้าใจว่าทำไมอาเสี่ยคนสวยถึงชอบทำตัวหงุดหงิดใส่เขาอยู่เรื่อยพลางสอดตัวตามอีกฝ่ายเข้าไปนั่งในรถเงียบๆ เขาก้มหัวทักทายคนขับรถ(ที่ปรากฏว่าเป็นเพื่อน(?)ของจุนซูที่ชื่อปาร์คยูชอนคนนั้น)เล็กน้อยเป็นเชิงขอบคุณที่ยอมให้เขาติดรถไปด้วยพลางขยับกระเป๋าใส่อุปกรณ์กีฬาของตนขึ้นมากอดเอาไว้

     

    พวกเขานั่งกันไปเงียบๆท่ามกลางเสียงดนตรีคลอเบาๆที่คนขับรถ(?)เปิดเอาไว้ก่อนไม่นานคนที่วันนี้วิ่งไปมาทั่วสนามบอลไม่หยุดจะผล็อยหลับไปทั้งๆที่ยังกอดกระเป๋าใส่เสื้อผ้าของตนเอาไว้อยู่แบบนั้น

     

    "ยุนโฮเชื่อนะแกรู้มั้ย ที่แกให้ฉันไปหลอกเขาว่าน้องชางมินเป็นเด็กเสี่ยน่ะ"

    จุนซูที่เหลือบมองกระจกมองหลังอยู่พูดขึ้นมายิ้มๆโดยมีเสียงหัวเราะคึกๆของยูชอนดังขึ้นมาประกอบคำพูดเบาๆ แจจุงย่นจมูกนิด บ่นพึมพำกับตัวเองเป็นเชิงก็ช่วยไม่ได้ แล้วก็ต้องสะดุ้งขึ้นมาหน่อยเมื่อศีรษะของคนที่เผลอหลับไป(ทั้งๆที่ยังไม่ได้บอกทางกลับบ้านให้คนไปส่งเลย)เอนซบลงมาบนไหล่ของตน คนที่แอบมองอยู่ที่เบาะหน้าอมยิ้มหนักกว่าเก่าเมื่อเห็นเพื่อนรักของตนไม่ร้องโวยวายอะไรออกมาอย่างที่ควรจะเป็น เขาหันไปเพิ่มเสียงของเพลงให้ดังขึ้นกว่าเดิมนิด

     

    "ก็บอกแล้ว...หมอนี่มันชอบนายนะแจจุง แค่ยังไม่รู้ตัวน่ะ"

     

    ...................................................................

     

    "เพื่อนของคยูฮยอนนี่ตลกดีนะ"

     

    "ไอ้พวกนั้นอ่านะ?!"

     

    "อื้ม!"

    เมื่อติวเตอร์คนน่ารักของเขายังยืนยันคำเดิมว่าไอ้คิบอมกับไอ้ยุนโฮตลกดี เขาก็ได้แต่พยักหน้าเออออตามไปด้วยอย่างไม่คิดที่จะใส่ไข่(?)เพิ่มเติมใดๆลงไปให้เพื่อนฟังดูดีขึ้น(หรืออาจจะแย่ลงก็ไม่รู้) เขาเอื้อมมือไปจับมือนิ่มของคนที่เดินอยู่ข้างกายมาเกาะกุมเอาไว้ราวกับกลัวว่าอีกฝ่ายจะหายไปไหน....ใครจะว่าโจวคยูฮยอนโรคจิตก็ช่าง แต่เขาแค่คิดว่าลีซองมินดูบริสุทธิ์เกินไปจนน่ากลัวจะถูกความมืดกลืนหายไปเมื่อไรก็ได้หากเขาละสายตาออกมาแม้เพียงเสี้ยววินาที

     

    แค่เดือนกว่าที่รู้จักกัน...ลีซองมืนทำให้เขาเป็นเอามากขนาดนี้ได้ยังไงนะ

     

    แย่ชะมัดเลย!

     

    "แล้ววันนี้เจ้าไก่ไปไหนแล้วล่ะ ไม่ยักกะเห็นตามนายมาด้วย"

    พ่อคนเสียงดีเลือกที่จะเปลี่ยนประเด็นโดยยกเรื่องของเจ้าลูกไก่ปากแดงที่ชอบทำตัวติดกับซองมินยิ่งกว่าเงาขึ้นมา ซองมินหัวเราะคิกคักออกมานิดเมื่อพูดถึงเพื่อนพลางกระชับมือของเขาให้แน่นขึ้น(เขารู้สึกแบบนั้นอ่านะ)

     

    "ฮยอกแจป่วยตั้งแต่เมื่อคืนแล้วล่ะ หมอนั่นโทรมาบอกเราเมื่อคืน เสียงงี้หง่อยเชียว เราเอาไปบอกพี่ฮันแล้วล่ะ...คิๆ"

    พูดจบ คนที่ดูเหมือนจะมีแผนอยู่ในหัวก็หัวเราะคิกคักออกมาอยู่คนเดียวด้วยท่าทางน่ารักจนคยูฮยอนอดไม่ได้ที่จะเอื้อมมือไปบิดแก้มนุ่มๆนั่นเสียหนึ่งทีอย่างหมั่นไส้ ทีพูดถึงเจ้าไก่ปากแดงนั่นทำมาเป็นหัวเราะ...เชอะ!...งอนโคตรเลยว่ะ!

     

    "อื้อออ!...คยูฮยอนอ่าาา!!"

    กระต่ายตากลมเจ้าแผนการครางอื้อออกมาด้วยท่าทางน่าเอ็นดูพร้อมกับตวัดตาค้อนเขาขวับ แหงล่ะ...มันช่างน่าชังจนเขาหมั่นไส้และหลุดหัวเราะออกมา หมดอารมณ์จะงอนเอาเสียดื้อๆ

     

    "น่ารักจังนะลีซองมิน"

    เสียงทุ้มต่ำที่เขาหลงใหลพึมพำออกมาแบบนั้น ซองมินได้ยิน และเขาก็ได้แต่เก็บเอามันมาดีใจกับตัวเองคนเดียวอยู่ในใจ ริมฝีปากบางสีสดแอบลอบขยับรอยยิ้มขึ้นมานิดพร้อมกับมือที่เปลี่ยนมาเป็นแทรกนิ้วจับประสานกับมือใหญ่แสนอุ่นข้างนั้นเอาไว้เพียงหลวมๆ

     

    มันกำลังจะได้ผลใช่มั้ย

     

    ความพยายาม137วันกว่าๆของเขากำลังจะเป็นผลใช่รึเปล่า

     

    หวัง...จริงๆนะ

     

    "แล้ววันนี้อยากจะกินอะไรล่ะ ฉันเบี้ยวเรียนนาย ฉันยอมเลี้ยงเลยอ่ะ"

    เด็กดื้อที่ชวนเขาโดดสอน(?)หันมาเอ่ยถามพร้อมกับกระตุกมือของเขายิกๆเหมือนจะเร่งให้เขาตอบมาเร็วๆ ซองมินนิ่งคิดไปนิดก่อนจะมอบรอยยิ้มไปให้อีกฝ่าย และสำหรับโจวคยูฮยอนที่กำลังหลงติดอยู่ในกับดักของกระต่ายตัวน้อยอย่างหมดท่า...รอยยิ้มนั้นช่างอ่อนหวานจนทำเอาใจเขาแกว่งไปเลยล่ะ

     

    "ถ้าอยากกินที่นายทำล่ะ คยูฮยอนจะทำให้เรารึเปล่า"

     

    "หะ...หา?!...ฉันทำอาหารไม่เป็นหรอกนะ!"

    อาการร้องเสียงหลงแบบนั้นทำเอาคนอยากกินอาหารฝีมือของนักร้องมหาลัยหลุดเสียงหัวเราะคิกคักออกมาอย่างขบขัน ติวเตอร์คนสวยที่แค่เพียงคิดอยากแกล้งคนที่ชอบหาเรื่องมาให้เขาได้อายอยู่เรื่องอมยิ้มออกมานิดๆเมื่อเห็นคนตัวโตเริ่มทำหน้ามุ่ยอย่างขัดเคือง

     

    "เอาจริงๆสิ! เรื่องมากฉันไม่เลี้ยงแล้วนะ"

     

    เอาแต่ใจจริงๆเลยน้าาา

     

    "ก็ได้ๆ เราไม่แกล้งแล้วก็ได้ เอาอาหารญี่ปุ่นได้มั้ย เราอยากทานอาหารญี่ปุ่นน่ะ"

    เขาเห็นคยูฮยอนนิ่งคิดไปนิดก่อนเจ้าตัวจะพยักหน้าตอบรับออกมา หลังจากนั้นระหว่างทางที่เดินไปสถานีรถไฟใต้ดิน โจวคยูฮยอนก็ทำให้เขาหัวเราะออกมานับครั้งไม่ถ้วนด้วยเรื่องราวมากมายที่อีกฝ่ายสรรหามาเล่าให้เขาฟังไม่หยุดหย่อน...โจวคยูฮยอนช่างเป็นคนอัธยาศัยดีได้มากพอๆกับน่าค้นหานั่นล่ะ

     

    เพราะแบบนั้นรึเปล่านะเขาถึงตกหลุมรักน่ะ

     

    "นี่....เรื่องที่คยูฮยอนพูดกับน้องจียงน่ะ..."

    ซองมินตั้งใจจะพูดเรื่องที่อีกฝ่ายพูดปลอบน้องจียงเพื่อให้หยุดร้องไห้ว่ามันเจ๋งขนาดไหน และเขาก็ประทับใจมันมากขนาดไหน แต่คนที่กำลังจะโดนชมคงร้อนตัวเรื่องอื่นล่ะมั้ง เขาถึงได้เห็นแก้มขาวๆของคนตัวสูงแดงวาบขึ้นมาเสียเฉยๆ

     

    "ฉันหมายความแบบนั้นจริงๆนะ"

     

    "เอ๋?"

     

    "ก็เพราะฉันชอบนาย...นายก็ต้องเป็นแค่ของฉันคนเดียวสิ!"

     

     

    ..................................................................................

     

     

     

     

     

    มาคู่ล่ะสั้นๆ แต่หวานเจี๊ยบสะใจกันเลยทีเดียว หาได้ยากเป็นอย่างยิ่งสำหรับฟิคที่ไรเตอร์แต่งอ่านะ= = นังนู๋หมวยก็ซาดิสได้ที่ทีเดียว ชอบเล่นเจ็บๆเดี๋ยวพ่อพระเอกก็จัดเจ็บๆให้ได้ท่อรั่วอีกหรอก- -“ นายโจวคยูก็ร้อนตัวผิดเรื่อง...เป็นไงล่ะ ส่วนตายุน ดูเซื่องซึมไม่กระเตื้องไปไหนเหมือนเดิม= = คอยอีกสักพักนะยุนนะ เดี๋ยวบทนายจะเด่นกว่านี้ ตอนนี้ก็ไม่มีเนื้ออีกแล้ว แย่จัง= = เอาไปเสริมน้ำตาลในเลือดก็แล้วกันนะคะ^^ จะบอกว่าใกล้จบแล้วค่ะ(รีดเดอร์บอก อิกากกกกก อิบอมยังไม่ได้ปล้ำด๊องเลยนะ!!) มันอีกเยอะนะ แต่ในความรู้สึกของไรเตอร์คือใกล้จบแล้วอ่าค่ะ ประเด็นง่ายๆคือมีเรื่องใหม่จอรออยู่แล้วนั่นเองแล- -“(แอบกระซิบว่าไม่ใช่คิเฮด้วย)

     

    ตอนหน้า หลังจากแง้มมาเล็กๆว่านู๋ฮยอกน้อยของไรเตอร์(?)ป่วย เราก็จะตัดไปที่คู่ฮันฮยอกกันค่ะ จะดราม่าต่อเนื่องจากตอนที่แล้วรึเปล่า(?)ก็ต้องลุ้นกันต่อไปเนอะ

     

    เจอกันครั้งหน้าค่ะ วันนี้ไรเตอร์พูดไม่ค่อยรู้เรื่องเลยเนอะ ว่ามั้ย= = หวาดระแวงว่าบ้านจะน้ำท่วมก็งี้แหละ

     

    ปล. ตอนแรกว่าจะอัพแบดโรแมนซ์ให้ แต่มายอมรับแบบหน้าด้านๆเลยล่ะกัน ไรเตอร์ไม่มีฟิวส์แต่งเรื่องแบดโรแมนซ์เลยให้ตายห่าสิ= =...กราบขออภัยคนที่ติดตาม(ที่อาจจะหลงอยู่แถวนี้)มา ณ ที่นี้ด้วย เรื่องนั้นคงดองอีกยาวอ่าค่ะ= =

     

    ปลล. อันเนื่องมาจากว่าไรเตอร์ไม่สามารถล๊อคอินเข้าเมลได้ เพราะเหตุอันใดก็ไม่ทรายได้นะ ใครจะติดต่อ กรุณาแอดใหม่ค่ะ deathberry.piin@hotmail.com ชื่อเมลคล้ายอันเดิมเลยเนอะ= = ส่วนใครที่ส่งเมลเรื่องสำคัญ ไม่ว่าจะอะไรก็ตามนนะ มาให้ไรเตอร์และรอการตอบกลับอยู่(ถ้ามี) ส่งมาใหม่ที่เมลนี้นะจ้ะ^^




    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×